[vampire]fangระวังตกหลุมรักยัยแวมไพร์
8.3
เขียนโดย kuraiyume
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 18.59 น.
3 บท
8 วิจารณ์
5,477 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2559 20.30 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) กล่องใบนั้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ''นี่เธอเคยได้ยินเรื่องแวมไพร์มั้ยอ่ะ''
''แวมไพร์ที่ชอบกินเลือดเกลียดกระเทียมไม่อยู่ในแสงแดดน่ะหรอ''
''ใช่''
เสียงพวกเมล่อนคุยกันซึ่งพวกเขาคงไม่รู้หรอกว่าฉันที่เป็นแวมไพร์นั่งอยู่ตรงนี้แถมยังได้ยินชัดสุดๆ
''ว่าแต่ยัยเบลใช่แวมไพร์รึเปล่า''
''นั่นสิเห็นอยู่แต่ที่ร่มๆมืดๆ''
พวกนั้นคุยต่อแต่ทำไมต้องมีฉันไปเกี่ยวข้องด้วย เมล่อนกับเพื่อนที่ไม่สนิทของเธอเดินมาใกล้ๆฉันพร้อมกับดึงสร้อยจากคอฉันไปดูแต่เธอก็ปล่อยสร้อยคืนเมื่อเธอเห็นว่าจี้สร้อยของฉันไม่ใช่รูปไม้กางเขนอย่างที่ยัยเมล่อนคิดแต่มันเป็นรูปโรงศพ
''แต่ยังไงฉันก็คิดว่ายัยนั่นเป็นแวมไพร์อยู่ดีนั่นแหละ''
''นั่นสิ''
ยัยเมล่อนยังคงคุยกันต่อโดยไม่สนผู้ที่โดนพูดถึงอย่างฉันเลย
12:00
ฉันถือถาดข้าวแล้วเดินไปตักอาหารตามซุ้มต่างๆแล้วรีบไปหาโต๊ะนั่งทันที
''เบล เบล มานั่งกับพวกเรามั้ย''
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดจากด้านหลังของฉัน ฉันหันกลับไปดูเจ้าของเสียง เธอคือเมอรี่เพื่อนร่วมห้องคนนึงที่ไม่เคยกลั่นแกล้งหือนินทาฉันเลยสักครั้งเธอให้คำปรึกษาฉันสำหรับทุกเรื่องสรุปว่าเมอรี่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดแล้วสำหรับฉันเธอมาขอฉันพ้อมกับเพื่อนของเธออีกสองคนคือลูกตาลกับคาร์ร่า ฉันพยักหน้าเชิงตอบรับก่อนจะเดินตามเมอรี่ไปที่โต๊ะระหว่างทางที่ฉันกำลังเดินตามไปฉันดันเซ่อไปเดินชนกับใครบางคน มันเกือบสามนาทีที่ฉันมองเขาเพราะกลิ่นเลือดหอมหวานของมนุษย์ทำให้ฉันเกือบห้ามตัวเองไม่ได้ฉันเงยหน้าขึ้นไปอีกนิดภาพฉันที่สะท้อนกับแว่นของเขามันเห็นเป็นภาพฉันซึ่งกำลังมองคอเขาอยู่ ฉันรู้ตัวอีกทีก็เกือบสายเกินไปแล้ว คนทั้งโรงอาหารมองมาที่ฉัน ฉันก้มเดินเบี่ยงไปที่โต๊ะอย่างเร็วที่สุดตามด้วยเขาที่เดินกลับไปโต๊ะตัวเองเหมือนกัน
''เบล''
''อะไร''
ฉันหันไปตอบคาร์ร่า
''รู้มั้ยเมื่อกี้เธอเดินชนเดือนโรงเรียนเลยนะ''
''จะบ้าหรอคาร์ร่าเดือนโรงเรียนต้องไปเดินตรงนู้นน''
ฉันลากเสียงยาวใส่พลางชี้ไปที่พวกคนดังๆในโรงเรียนชอบไปเดิน
''ก็นี่ตอนกลางวันเขาก็ต้องมากินข้าวสิ''
ลูกตาลพูดบ้าง เธอยื่นแขนข้างที่นาฬิกาให้ฉันดู
''ก็จริง''
''ฉันอิ่มแล้วไปก่อนนะ''
ฉันรีบวิ่งเอาถาดไปเก็บแล้วรีบไปหยิเลือดในกระเป๋านักเรียน ฉันรีบวิ่งไปห้องน้ำหญิงทันที ฉันเปิดฝาขวดแล้วรีบกินให้หมด อ้าห์...อร่อย ฉันเก็บขวดเลือดให้มิดชิดที่สุด ฉันปลดกลอนประตูห้องน้ำ ก้าวแรกที่ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำฉันก็รู้สึกเหมือนโดนตบดังเพี้ยะ!
เธอเป็นใครไม่รู้แต่ที่แน่ๆเธอตบฉันแรงมากจนแก้มเป็นรอยแดงแล้วหน้าก็หันอีกด้วยT^T ฉันเงยหน้าไปดูคนที่มันตบฉัน เชอรี่O_o
''เธอตบฉันทำไม''
''เธอมายุ่งกับชาเล็ตก่อนนิ่ ช่วยไม่ได้''
เชอรี่ตอบพลางมองฉันด้วยปลายตาแบบจิกๆและยิ้มมุมปาก
''เห็นเงียบๆฝาดเรียบนะจ๊ะ''
โมนิก้าพูดเธอเป็นเพื่อนสนิทของเมล่อนตามด้วยเสียงหัวเราะของพวกเธอส่วนฉันได้แต่เงียบคงไม่มีสิทธิ์พูด ระหว่างที่พวกเธอหัวเราะฉันก็รีบเดินออกมาจากห้องน้ำทันทีพวกนั้นได้แต่งงเลยยืนเอ๋ออยู่กว่าจะเดินตามฉันมาฉันก็เดินมาถึงโต๊ะที่เมอร์รี่ลูกตาลและคาร์ร่านั่งอยู่ ยัยเมล่อนดึงไหล่ฉันอย่างแรงจนตัวฉันหมุนไปหาเธอ
''เธอคิดจะหนีหรอ''
ฉันทำเป็นไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว
''ถ้าเธอไม่ตอบฉันจะตบ''
ยัยเชอรี่ตั้งฉากจะตบฉัน
''เธอตบฉันต่อย''
เมล่อนเงียบไปสักพัก เมอร์รี่ลูกตาลและคาร์ร่าลุกขึ้นมาจากโต๊ะ
''ลองคิดดูนะสี่ลุมสอง''
ลูกตาลพูด
เชอรี่กระทืบเท้าแล้วเดินจากไป
''ฝากไว้ก่อนเถอะ''
โมนิก้าพูด เธอเดินตามเชอรี่ไปติด
''ฉันจะขึ้นไปเรียนไปเรียนแล้วนะ''
ฉันพูดกับคาร์ร่า ลูกตาล เมอรี่แล้วเดินขึ้นไปทันที กว่าฉันจะเข้าห้องวิทย์ก็สายไปสิบห้านาที มันเหลือที่เดียวตรงที่ข้างๆชาเล็ต อันที่จริงฉันกับชาเล็ตไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันแต่วันนี้มิสซินเซียเกิดอะไรดลใจก็ไม่รู้ให้เรียนด้วยกันสองห้อง วันนี้เรียนเรื่องเสียงมันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมากสำหรับฉันเพราะพวกเราเรียนเรื่องนี้มาเป็นเวลาสามเดือนแล้วเรียนซ้ำไปซ้ำมาจนฉันอยากจะโดดเรียนอยู่แล้วเนี่ย
''นี่เธอฟังมิสซินเซียอยู่รึเปล่าเนี่ย''
ชาเล็ตหันมาถามฉัน
''ฟังสิฉันฟังอยู่''
ฉันหันไปตอบชาเล็ตแล้วหันกลับมาเหมือนเดิม มิสซินเซียหันมาเห็นพอดีจะเกิดอะไรขึ้นเนี่ย
''เบลรารินเสียงเกิดจากอะไร''
มิสซินเซียชี้นิ้วถามฉัน
''เสียงเกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุค่ะ''
ฉันยืนตอบมิสแล้วนั่งลง
มิสหันไปหาชาเล็ตบ้าง
''ชาเล็ตเสียงมีตัวกลางกี่ชนิด''
มิสถามชาเล็ต
''เสียงมีตัวกลางสามชนิดครับ''
ชาเล็ตยืนตอบแล้วนั่งลงเหหมือนฉัน มิสมองฉันกับชาเล็ตด้วยหางตาแล้วหันกลับไปสอนต่ออย่างปกติ
กริ๊งงงง
หมดเวลาซะทีทุกคนเก็บหนังสือบนโต๊ะออกจากห้องกันไปหมดแล้วเหลือแค่ฉันมิสแล้วก็ชาเล็ต มิสหันมามองฉันกับชาเล็ตอีกแล้ว
''พวกเธอควรตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้''
มิสบอก
''ค่ะ/ครับ''
ฉันกับชาเล็ตพูดพร้อมกัน ฉันเก็บของแล้วออกจากห้องวิทย์ทันทีโดยมี
เมอร์ซี่ ลูกตาลและคาร์ร่ารอฉันอยู่หน้าห้อง ฉันกับทั้งสามเดินไปเก็บของที่ล็อคเกอร์แล้วเดินเข้าห้องอังกฤษเป็นวิชาที่ห้าของวันจันทร์ วันนี้มิสชาช่าสอนเรื่องกริยาสามช่อง
''เปิดหน้าสามสิบเก้าฟังมิสแล้วอ่านตามนะ'' มิสบอก ''กริยาช่องที่หนึ่งคือคำที่เราใช้กันอยู่แล้วเป็นปัจจุบันเช่นgo buy sit กริยาช่องที่สองคืออดีตเช่นwent bought sat กรยาช่องที่สามคือคำกริยาที่ใช้ในperfect tense ทุกชนิดและ passive voice เช่น gone bought sat '' มิสอธิบาย ''เดี๋ยวมิสจะให้การบ้านนะให้นักรียนหากริยาสามช่องมาห้าคำเขียนในกระดาษรายงานพร้อมคำแปลส่งพรุ่งนี้''
กริ๊งงงงง///หมดเวลา
ออกห้องอังกฤษก็เข้าห้องภาษาไทยเรียนเรื่องโวหารหรอเพลียU_U
''เอาล่ะนักเรียนทุกคนอ่านหนังสือหน้า56-58แล้วทำแบบฝึกหัดหน้า53-55ส่งในชั่วโมง''
มิสเซลิเซียพูด ภายในชั่วโมงหรอ...อืม ฉันเอื้อมมือไปหยิบหนังสือในกระเป๋าแล้วเปิดไปที่หน้า56
3นาทีผ่านไป
อ่านเสร็จซะทีฉันบิดขี้เกียจแล้วก้มหยิบหนังสือเล่มต่อไปคือแบบฝึกหัดฉันเปิดไปหน้า53แล้วรีบทำซะให้เสร็จแต่มันดันติดที่ข้อ5ใหญ่อ่ะดิ่ ฉันหันไปสะกิดลูกตาลที่นั่งข้างซ้ายของฉัน เธอหันมาหาฉัน
''อะไรหรอ''
ลูกตาลถามฉัน
''ขอลอกข้อ5ใหญ่หน่อยสิ''
ฉันตอบเธอไปพร้อมมองไปที่หนังสือ
''ฉันยังทำข้อ3ใหญ่อยู่เลย'' ฉันเหลือบไปมองที่หนังสือตาไม่กระพริบ ''ไปขอเมอร์ซี่สิ''
เธอพูดประโยคสุดท้ายก่อนจะหันไปทำงานต่อ ฉันหันไปหาเมอร์ซี่ทางด้านขวาของฉัน ฉันสะกิดเธอไม่นานเธอก็หันมา
''ขอลอกข้อ5ใหญ่หน่อยสิ''
ฉันบอกเธอ
''อืมได้สิหยิมไปเลย''
เมอร์ซี่ตอบฉันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ฉันดึงแบบฝึกหัดเธอมาลอกได้ไม่นานฉันก็หันไปดูเมอร์ซี่อีกครั้ง ฉันเห็นเมอร์ซี่นั่งอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ใต้โต๊ะ เธอหันมาหาฉัน
''อย่าบอกใครนะ''
เมอร์ซี่บอกฉัน ฉันพยักหน้ารับแล้วหันหน้ามาทำงานต่อ
กริ๊งงงงงงงง
มิสเซลิเซียเดินออกไปจากห้อง
''เย้เลิกเรียนซะที''
เมอร์ซี่และคาร์ราพูด ถึงเมอร์ซี่จะพูดแบบนั้นแต่เธอก็สอบได้ที่1ทุกปีแตกต่างกับฉันที่สอบได้ที่10แต่ก็นะเติมศูนย์ไปตัวเดียวเอง ฉันเก็บของใส่กระเป๋ารวมถึงไดอารี่สุดที่รักของฉันด้วย ฉันรีบเก็บของด้วยความรวดเร็วแล้วรีบออกจากห้องทันที ฉันลงมาถึงชั้นล่าง ฉันก้มมองนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือตัวเองอีกครึ่งชั่วโมงก็บ่ายสี่โมงแล้วรอไปเลยดีกว่า ฉันเดินไปโรงยิมกะว่าจะไปนั่งเล่นเขียนไดอารี่ที่นั่น ฉันเลือกนั่งเก้าอี้แถวล่างสุดฉันหยิบไดอารี่มาเขียนเรื่อยเปื่อยแล้วอยู่ดีๆก็...
ตุบ!!!
ฉันรู้สึกหมดสติ ฉันลืมตาอีกทีก็นอนอยูในห้องพยาบาลฉันมองไปรอบมีคาร์ร่า เมอร์ซี่และลูกตาลนั่งอยู่บนเตียง ฉันรีบลุกขึ้นนั่งทันที...ไดอารี่...ฉันเปิดผ้าห่มหาไดอารี่แต่ก็หาไม่เจอ
''ไดอารี่ฉันอยู่ไหน...ไดอารี่ฉันอยู่ไหน'' ฉันโวยวายกลางห้องพยาบาล ''แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไง'' ฉันโวยวายต่อ
''ใจเย็นๆค่ะคุณเบลเดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟังเอง''
ลูกตาลแกล้งพูด
''งั้นรีบเล่ามาเลย''
ฉันพูด
''เธอโดนลูกบาสกระแทกหัวจากพวกที่มันเล่นบาสส่วนคนที่ปาบอลมาโดนหัวเธอคือชาเล็ตเขาเลยอุ้มเธอมาที่ห้องพยาบาลเป็นการถ่ายโทษ''
ลูกตาลเล่าให้ฟัง
''ชาเล็ตหรอ''
ฉันถามอีกทีเพื่อความแน่ใจ
''อืม''
มันเป็นคำตอบสั้นๆที่คาร์ร่าตอบแทนลูกตาล
''เดี๋ยวฉันจะกลับแล้ว''
ฉันบอกทุกคนแล้วกระโดลงมาจากเตียงคว้ากระเป๋าแล้วออกไปทันที อันที่จริงฉันยังทำใจไม่ค่อยได้เรื่องไดอารี่ ฉันเดินไปโบกแท๊กซี่หน้าโรงเรียนให้ไปส่งที่ใกล้ๆกับป่าเพราะไม่อยากให้คนขับสงสัยสักเท่าไรว่าเด็กนักเรียนมัธยมปลายจะไปเดินในป่าฉันเลยรอให้แท๊กซี่ขับออกไปไกลๆก่อนแล้วค่อยเดินเข้าป่าไปตามทางที่พ่อทำทางไว้ให้ให้ฉันเดินตามก้อนหินเข้าไปในคฤหาสน์กลางป่าลึกที่ฉันอยู่ ฉันเปิดประตูเข้าไปในคฤหาสน์ที่มีแต่แสงรำไรผ่านทางหน้าต่างที่มีม่านสีแดงสดปิดไว้จนเหลือช่องว่างที่หน้าต่างเข้ามาเล็กน้อยพอเป็นแสงรำไร ฉันมองตรงเข้าไปที่เก้าอี้ใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง ฉันเห็นเอเลนน้องของฉันนอนพาดอยู่
''ทำไมไม่ไปโรงเรียนเอเลน''
ฉันถามเอเลนเป็นประโยคแรกที่เจอเธอในวันนี้ในขณะที่มือฉันก็โยนกระเป๋าที่พาดอยู่บนไหล่ซ้ายฉันไปบนโซฟา
''ขี้เกียจอ่ะแล้วเบลรู้ได้ไงว่าฉันไม่ไปโรงเรียน'' เธอตอบฉันก่อนจะหันไปสั่งบริวารที่นั่งอยู่ด้านขวาของเธอ ''ไปเอาเลือดมา2แก้ววางไว้บนโต๊ะนะ''
ไม่นานบริวารตนนั้นก็ยกถาดสีดำสนิทที่มีแก้วเลือดวางไว้อยู่บนถาดบริวารตนนั้นนำแก้วเลือดทั้ง2แก้วไปวางไว้บนโต๊ะตามคำสั่งของเอเลนแล้วนำถาดใบนั้นไปเก็บไว้ในห้องครัวเหมือนเดิมก่อนจะไปนั่งตรงที่เดิม ฉันและเอเลนเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างหน้าโต๊ะที่มีแก้วเลือดวางอยู่ทั้งสองฝั่งโต๊ะ ฉันและเอเลนต่างหยิบแก้วเลือดตรงหน้าขึ้นมาดื่ม
''เดี๋ยวฉันต้องทำการบ้านส่งพรุ่งนี้ไปละ''
ฉันบอกเธอพร้อมกับทิ้งแก้วเลือดครึ่งแก้วไว้บนโต๊ะและปล่อยให้เอเลนนั่งอยู่กลางห้องใหญ่กับบริวารอีกสองสามคน ฉันรีบทำการบ้านวิชาภาษาอังกฤษให้เสร็จจากนั้นก็รีบเก็บหนังสือเข้ากระเป๋าให้เรียบร้อย เป็นโชคดีของฉันที่ทำการบ้านเสร็จตอนหกโมงเย็นเพราะข้างนอกบ้านไม่มีแดดแล้วไม่งั้นฉันต้องกลายเป็นผุยผงแน่ๆ ฉันหย่อนขานั่งลงบนขอบหน้าต่าง ฉันมองไปทางโรงเรียนนั่นชาเล็ตนี่เขาเพิ่งกลับหรอเนี่ยแอบตามไปดีกว่า ฉันกระโดดลงจากหน้าต่างก่อนจะวิ่งตามเขาไป เขาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง เขาหยุดนิ่งตรงนั้นสักพักก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน นี่ปกติเขากลับบ้านเย็นขนาดนี้เลยรึเปล่าเนี่ย ฉันเดินไปรอบบ้านหลังนี้จนได้ยินชายหญิงคู่หนึ่งยืนคุยกับชาเล็ตอยู่
''ชาเล็ตกลับแล้วหรอลูก''
หญิงคนนั้นพูดกับชาเล็ต
''ครับ''
ชาเล็ตตอบด้วยสีหน้าเบื่อ ชายหญิงคู่นั้นคงเป็นพ่อแม่ของชาเล็ตสินะ
''จะกินอะไรหรือเปล่าชาเล็ตได้ออกไปซื้อให้''
พ่อของชาเล็ตถามบ้าง
''ไม่เป็นไรครับผมไม่หิวผมกินมาแล้ว''
ชาเล็ตตอบ
''เป็นอะไรหรือเปล่าชาเล็ต''
แม่ของชาเล็ตถาม
''ผมเหนื่อยแค่นี้นะ'' เขาตอบแล้วคว้ากระเป๋าเป้สีดำวิ่งขึ้นข้างบนไปทันทีแต่ระหว่างที่เขาคว้ากระเป๋าเป้ เขาทำกล่องสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินทึบตกที่พื้น พ่อและแม่ของเขาหยิบมันขึ้นมาดูแต่พวกเขาก็ไม่ได้เปิดกล่องนั้นดู จู่ๆชาเล็ตก็เดินลงมาเหมือนเขาจะรู้แล้วว่าตัวเองทำของตก ''กล่องใบนั้นผมขอนะ''
ชาเล็ตบอกแม่ของเขาพลางมองไปที่กล่องใบั้นเหมือนเป็นของสำคัญกับตัวเขามาก เขาไม่รอคำตอบจากแม่ของเขา เขาดึงกล่องใบนั้นออกจากมือของแม่เขาแล้วขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง ฉันปีนต้นไม้ใหญ่ที่ใกล้ๆกับหน้าต่างบานหนึ่งจนหยุดตรงระดับเดียวกับหน้าต่างบานนั้น ชาเล็ตอยู่ในห้องนี้หรือว่าห้องนี้จะเป็นห้องนอนของชาเล็ต ชาเล็ตเดินไปเปิดไฟก่อนจะนั่งลงบนเตียง เขาเอื้อมมือไปหยิบกล้องบนโต๊ะหัวเตียงมาไว้ข้างๆ เขาเปิดกล่องสีน้ำเงินทึบก่อนจะหยิบกระดาษในกล่องนั้นขึ้นมา ฉันปีนไปทางหัวเตียงของเขาเพื่อที่จะได้เห็น
กระดาษพวกนั้นชัดๆ เดี๋ยวนะนั่นมันรูปฉันทั้งหมดเลยนิ่เป็นไปได้ไงเขามีรูปพวกนั้นได้ไง ฉันลองมองไปทางปลายเตียงของเขามีบอร์ดติดผนังห้องอยู่ทั้งหมดที่ติดบอร์ดอยู่มันเป็นรูปฉันหมดเลยกระดาษทุกแผ่นบนบอร์ดนั่นเป็นรูปฉันหมดเลยตั้งแต่เกรด8ถึงเกรดตอนนี้ เขาหยิบกล้องขึ้นมาแล้วเปิดไปที่อลัมบั้มมันก็มีแต่รูปฉัน ฉันก้มมองนาฬิกาบนข้อมือตัวเอง สามทุ่มแล้วหรอ
เนี่ยกลับดีกว่า ฉันกระโดดลงมาจากต้นไม้ก่อนจะวิ่งกลับบ้านให้เร็วที่สุด ขืนเข้าทางหน้าบ้านมีหวังโดนถามจนหูแฉะแน่ๆ ฉันเดินไปฝั่งห้องนอนฉันแล้วปีนกำแพงเข้าทางหน้าต่าง สิ่งแรกที่ฉันเห็นในห้องนอนตัวเองคือซาน่า บริวารคนสนิทของฉัน
''คุณเจมส์กับคุณเมรี่เรียกค่ะ''
ซาน่าพูด เธอลุกขึ้นออกไปจากห้องฉันอย่างรวดเร็วเหมือนกับว่าเธอรู้ว่าฉันกำลังจะไป ฉันเดินออกจากห้องตามเธอไป
''พ่อมีอะไรเบลอยากอยู่คนเดียว''
ฉันบอกพ่อหลังจากที่ซาน่าหยุดเดินตรงเก้าอี้ใหญ่กลางห้องซึ่งเป็นเก้าอี้ตัวเดียวกันกับที่เอเลนนั่งตอนเย็น
''ออกไปที่ไหนมาอีกถ้าโดนแสงแดดหรือเจอพวกโนมาเรียเดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก''
พ่อพูดด้วยสีหน้าที่ไม่มีความสุข ก็คงเป็นเพราะฉันแหละ
''เบลอยู่เกรด11แล้วนะพ่ออีกอย่างเบลออกไปตอนหกโมงเย็นไม่ใช่บ่ายสามโมงครึ่งไม่โดนแดดหรอกส่วนพวกโนมาเรียไม่ต้องกลัวหรอกนะเบลระวังตัวเองแน่ๆ''
ฉันตอบพ่อไปด้วยข้อความที่ยาวส่วนระหว่างที่ตอบฉันก็แอบเหร่ยัยเอเลนที่อยู่ในห้องครัวเพราะฉันเชื่อว่ายัยเอเลนจะต้องไปบอกพ่อแน่ๆว่าฉันออกไปข้างนอกเพราะถ้าฉันทำธุระเสร็จแล้วเธอกับฟอร์จูนก็จะเห็นฉันปีนต้นไม้ใกล้ๆบ้านเล่นทุกเย็น ยัยเอเลนเดินขึ้นไปข้างบน ฉันเดินออกจากตรงหน้าพ่อเพื่อจะเดินตามเอเลนขึ้นไปแต่พอขึ้นไปก็ไม่รู้ว่าเธอเดินเข้าไปห้องไหน ฉันเลยตัดสินใจเลิกตามยัยน้องนั่นโดยการเดินเข้าห้องตัวเองไม่นานเอเลนก็เดินเข้าห้องฉันมา เธอเข้ามาด้วยความเงียบแม้แต่เวลาเธอเปิดประตูก็ไม่มีเสียงแม้แต่นิดเดียวแต่มันจะเป็นแต่เฉพาะห้องนอนฉันห้องเดียวถ้าฉันหลับก็คงไม่รู้หรอกว่าเธอเข้ามา
''ยัยเอเลนเธอไปบอกพ่อใช่ไหม''
ฉันถามเอเลน
''เปล่าสักหน่อยฉันจะทำแบบนั้นทำไมฉันทำแล้วฉันได้อะไรหรอ''
ยัยเอเลน-*-
''ได้ความสะใจมั้ง-*-''
ฉันแกล้งตอบเอเลนเล่น
''พี่ฟอร์จูนรึเปล่า''
เอเลนถามฉัน
''ฟอร์จูนจะทำเพื่ออะไร''
ฉันถามเอเลนกลับ
''แล้วถ้าเป็นฉันฉันจะทำเพื่ออะไร''
เอเลนถามฉันกลับอีกครั้ง
''ไม่รู้''
''เจอกันตอนเช้านะพี่สาว''
''อืม''
6.45น.
ฉันตื่นมาด้วยความงัวเงียก่อนจะเดินไปอาบน้ำแล้วใส่ชุดนักเรียนสีขาวแล้วลงไปข้างล่าง ฉันเดินไปที่ห้องครัวจะได้เทเลือดดื่มสักแก้ว ฉันหันไปด้านหลังที่มีพ่อเทเลือดใส่ขวดที่จะเตรียมไปใส่ตู้
''พ่อเรื่องเมื่อวานขอโทษนะ''
ฉันบอกพ่อก่อนจะยกแก้วเลือดดื่มแล้วเอาแก้วไปล้าง
''ไม่เป็นไรหรอกพ่อไม่ได้โกรธเบลหรอก''
พ่อตอบฉัน ฉันเดินออกมาจากห้องครัวก็มียัยพี่ฟอร์จูนมาขวางเอาไว้ เธอยื่นกระเป๋านักเรียนมาให้ฉัน
''เธอลืมไว้ข้างบน''
ฟอร์จูนบอก
''ขอบคุณนะ''
ฉันกล่าวขอบคุณฟอร์จูนก่อนจะดึงกระเป๋าออกจากมือเธอแล้วรีบไปโรงเรียนให้เร็วที่สุด
18.00.น
ฉันมานั่งดักชาเล็ตข้างๆกะเป๋านักเรียนเขาที่โรงยิมซึ่งเป็นเวลาที่เขาเลิกเล่นบาสพอดี เขาเดินตรงมาที่กระเป๋าเป้สีดำของเขา เขาเปิดกระเป๋าเพื่อจะหาอะไรบางอย่าง
''นายมีรูปฉันได้ไง''
ฉันเปิดบทสนทนา
''เธอรูได้ไง''
เขาหยุดชะงักแล้วหันมาถามฉัน
''เอาเป็นว่าฉันรู้ก็พอแล้วตกลงนายมีรูปฉันได้ไง''
''ฉันแอบถ่ายเธอตั้งแต่เกรดแปด''
''นายทำแบบนั้นทำไม'' เขาไม่ตอบ เขากะตุกยิ้มเล็กก่อนจะยื่นสมุดสองเล่มมาให้ฉัน ฉันเลื่อนสมุดเล่มที่1ออกสมุดเล่มที่สองเป็นไดอารี่ของฉัน ''นี่มันไดอารี่ฉันมันไปอยู่กับนายได้ยังไง''
''มันเป็นเรื่องของเมื่อวานส่วนเล่มที่หนึ่งฉันอยากให้เธอลองเปิดดู''
ฉันเปิดสมุดเล่มที่หนึ่งดูทุกๆหน้ามีแต่รูปฉันไม่ต่างอะไรกับห้องนอนเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
''กลับบ้านกันเถอะ''
ฉันส่งสมุดคืนเขา
''แล้วจะกลับยังไงฉันไม่มีรถ''
''เดี๋ยวฉันขับไปส่ง''
''เธอขับรถเป็นด้วยหรอ''
''เดี๋ยวก็รู้^^''
ฉันเดินนำเขาไปที่รถสีขาวมุกที่จอดอยู่แถวที่สามทั้งฉันและเขาต่างเดินเข้าไปนั่งในรถพร้อมกัน ฉันเริ่มขับด้วยความเร็ว80
''เธอควรที่จะรัดเข็มขัด''
''คนที่ควรรัดคือนายไม่ใช่ฉัน''
''ฉันรัดแล้ว''
''งั้นก็ดี''
ฉันเร่งความเร็วจาก80เป็น120 ก่อนที่จะไปหยุดตรงหน้าบ้านชาเล็ต เขาเดินออกไปจากรถได้ไม่นานก็มีเสียงจากในบ้านเรียกเขาให้เข้าไปข้างใน ฉันขับไปเรื่อยๆจนไปจอดที่หน้าบ้านฉัน ฉันจอดรถ
''แวมไพร์ที่ชอบกินเลือดเกลียดกระเทียมไม่อยู่ในแสงแดดน่ะหรอ''
''ใช่''
เสียงพวกเมล่อนคุยกันซึ่งพวกเขาคงไม่รู้หรอกว่าฉันที่เป็นแวมไพร์นั่งอยู่ตรงนี้แถมยังได้ยินชัดสุดๆ
''ว่าแต่ยัยเบลใช่แวมไพร์รึเปล่า''
''นั่นสิเห็นอยู่แต่ที่ร่มๆมืดๆ''
พวกนั้นคุยต่อแต่ทำไมต้องมีฉันไปเกี่ยวข้องด้วย เมล่อนกับเพื่อนที่ไม่สนิทของเธอเดินมาใกล้ๆฉันพร้อมกับดึงสร้อยจากคอฉันไปดูแต่เธอก็ปล่อยสร้อยคืนเมื่อเธอเห็นว่าจี้สร้อยของฉันไม่ใช่รูปไม้กางเขนอย่างที่ยัยเมล่อนคิดแต่มันเป็นรูปโรงศพ
''แต่ยังไงฉันก็คิดว่ายัยนั่นเป็นแวมไพร์อยู่ดีนั่นแหละ''
''นั่นสิ''
ยัยเมล่อนยังคงคุยกันต่อโดยไม่สนผู้ที่โดนพูดถึงอย่างฉันเลย
12:00
ฉันถือถาดข้าวแล้วเดินไปตักอาหารตามซุ้มต่างๆแล้วรีบไปหาโต๊ะนั่งทันที
''เบล เบล มานั่งกับพวกเรามั้ย''
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดจากด้านหลังของฉัน ฉันหันกลับไปดูเจ้าของเสียง เธอคือเมอรี่เพื่อนร่วมห้องคนนึงที่ไม่เคยกลั่นแกล้งหือนินทาฉันเลยสักครั้งเธอให้คำปรึกษาฉันสำหรับทุกเรื่องสรุปว่าเมอรี่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดแล้วสำหรับฉันเธอมาขอฉันพ้อมกับเพื่อนของเธออีกสองคนคือลูกตาลกับคาร์ร่า ฉันพยักหน้าเชิงตอบรับก่อนจะเดินตามเมอรี่ไปที่โต๊ะระหว่างทางที่ฉันกำลังเดินตามไปฉันดันเซ่อไปเดินชนกับใครบางคน มันเกือบสามนาทีที่ฉันมองเขาเพราะกลิ่นเลือดหอมหวานของมนุษย์ทำให้ฉันเกือบห้ามตัวเองไม่ได้ฉันเงยหน้าขึ้นไปอีกนิดภาพฉันที่สะท้อนกับแว่นของเขามันเห็นเป็นภาพฉันซึ่งกำลังมองคอเขาอยู่ ฉันรู้ตัวอีกทีก็เกือบสายเกินไปแล้ว คนทั้งโรงอาหารมองมาที่ฉัน ฉันก้มเดินเบี่ยงไปที่โต๊ะอย่างเร็วที่สุดตามด้วยเขาที่เดินกลับไปโต๊ะตัวเองเหมือนกัน
''เบล''
''อะไร''
ฉันหันไปตอบคาร์ร่า
''รู้มั้ยเมื่อกี้เธอเดินชนเดือนโรงเรียนเลยนะ''
''จะบ้าหรอคาร์ร่าเดือนโรงเรียนต้องไปเดินตรงนู้นน''
ฉันลากเสียงยาวใส่พลางชี้ไปที่พวกคนดังๆในโรงเรียนชอบไปเดิน
''ก็นี่ตอนกลางวันเขาก็ต้องมากินข้าวสิ''
ลูกตาลพูดบ้าง เธอยื่นแขนข้างที่นาฬิกาให้ฉันดู
''ก็จริง''
''ฉันอิ่มแล้วไปก่อนนะ''
ฉันรีบวิ่งเอาถาดไปเก็บแล้วรีบไปหยิเลือดในกระเป๋านักเรียน ฉันรีบวิ่งไปห้องน้ำหญิงทันที ฉันเปิดฝาขวดแล้วรีบกินให้หมด อ้าห์...อร่อย ฉันเก็บขวดเลือดให้มิดชิดที่สุด ฉันปลดกลอนประตูห้องน้ำ ก้าวแรกที่ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำฉันก็รู้สึกเหมือนโดนตบดังเพี้ยะ!
เธอเป็นใครไม่รู้แต่ที่แน่ๆเธอตบฉันแรงมากจนแก้มเป็นรอยแดงแล้วหน้าก็หันอีกด้วยT^T ฉันเงยหน้าไปดูคนที่มันตบฉัน เชอรี่O_o
''เธอตบฉันทำไม''
''เธอมายุ่งกับชาเล็ตก่อนนิ่ ช่วยไม่ได้''
เชอรี่ตอบพลางมองฉันด้วยปลายตาแบบจิกๆและยิ้มมุมปาก
''เห็นเงียบๆฝาดเรียบนะจ๊ะ''
โมนิก้าพูดเธอเป็นเพื่อนสนิทของเมล่อนตามด้วยเสียงหัวเราะของพวกเธอส่วนฉันได้แต่เงียบคงไม่มีสิทธิ์พูด ระหว่างที่พวกเธอหัวเราะฉันก็รีบเดินออกมาจากห้องน้ำทันทีพวกนั้นได้แต่งงเลยยืนเอ๋ออยู่กว่าจะเดินตามฉันมาฉันก็เดินมาถึงโต๊ะที่เมอร์รี่ลูกตาลและคาร์ร่านั่งอยู่ ยัยเมล่อนดึงไหล่ฉันอย่างแรงจนตัวฉันหมุนไปหาเธอ
''เธอคิดจะหนีหรอ''
ฉันทำเป็นไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว
''ถ้าเธอไม่ตอบฉันจะตบ''
ยัยเชอรี่ตั้งฉากจะตบฉัน
''เธอตบฉันต่อย''
เมล่อนเงียบไปสักพัก เมอร์รี่ลูกตาลและคาร์ร่าลุกขึ้นมาจากโต๊ะ
''ลองคิดดูนะสี่ลุมสอง''
ลูกตาลพูด
เชอรี่กระทืบเท้าแล้วเดินจากไป
''ฝากไว้ก่อนเถอะ''
โมนิก้าพูด เธอเดินตามเชอรี่ไปติด
''ฉันจะขึ้นไปเรียนไปเรียนแล้วนะ''
ฉันพูดกับคาร์ร่า ลูกตาล เมอรี่แล้วเดินขึ้นไปทันที กว่าฉันจะเข้าห้องวิทย์ก็สายไปสิบห้านาที มันเหลือที่เดียวตรงที่ข้างๆชาเล็ต อันที่จริงฉันกับชาเล็ตไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันแต่วันนี้มิสซินเซียเกิดอะไรดลใจก็ไม่รู้ให้เรียนด้วยกันสองห้อง วันนี้เรียนเรื่องเสียงมันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมากสำหรับฉันเพราะพวกเราเรียนเรื่องนี้มาเป็นเวลาสามเดือนแล้วเรียนซ้ำไปซ้ำมาจนฉันอยากจะโดดเรียนอยู่แล้วเนี่ย
''นี่เธอฟังมิสซินเซียอยู่รึเปล่าเนี่ย''
ชาเล็ตหันมาถามฉัน
''ฟังสิฉันฟังอยู่''
ฉันหันไปตอบชาเล็ตแล้วหันกลับมาเหมือนเดิม มิสซินเซียหันมาเห็นพอดีจะเกิดอะไรขึ้นเนี่ย
''เบลรารินเสียงเกิดจากอะไร''
มิสซินเซียชี้นิ้วถามฉัน
''เสียงเกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุค่ะ''
ฉันยืนตอบมิสแล้วนั่งลง
มิสหันไปหาชาเล็ตบ้าง
''ชาเล็ตเสียงมีตัวกลางกี่ชนิด''
มิสถามชาเล็ต
''เสียงมีตัวกลางสามชนิดครับ''
ชาเล็ตยืนตอบแล้วนั่งลงเหหมือนฉัน มิสมองฉันกับชาเล็ตด้วยหางตาแล้วหันกลับไปสอนต่ออย่างปกติ
กริ๊งงงง
หมดเวลาซะทีทุกคนเก็บหนังสือบนโต๊ะออกจากห้องกันไปหมดแล้วเหลือแค่ฉันมิสแล้วก็ชาเล็ต มิสหันมามองฉันกับชาเล็ตอีกแล้ว
''พวกเธอควรตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้''
มิสบอก
''ค่ะ/ครับ''
ฉันกับชาเล็ตพูดพร้อมกัน ฉันเก็บของแล้วออกจากห้องวิทย์ทันทีโดยมี
เมอร์ซี่ ลูกตาลและคาร์ร่ารอฉันอยู่หน้าห้อง ฉันกับทั้งสามเดินไปเก็บของที่ล็อคเกอร์แล้วเดินเข้าห้องอังกฤษเป็นวิชาที่ห้าของวันจันทร์ วันนี้มิสชาช่าสอนเรื่องกริยาสามช่อง
''เปิดหน้าสามสิบเก้าฟังมิสแล้วอ่านตามนะ'' มิสบอก ''กริยาช่องที่หนึ่งคือคำที่เราใช้กันอยู่แล้วเป็นปัจจุบันเช่นgo buy sit กริยาช่องที่สองคืออดีตเช่นwent bought sat กรยาช่องที่สามคือคำกริยาที่ใช้ในperfect tense ทุกชนิดและ passive voice เช่น gone bought sat '' มิสอธิบาย ''เดี๋ยวมิสจะให้การบ้านนะให้นักรียนหากริยาสามช่องมาห้าคำเขียนในกระดาษรายงานพร้อมคำแปลส่งพรุ่งนี้''
กริ๊งงงงง///หมดเวลา
ออกห้องอังกฤษก็เข้าห้องภาษาไทยเรียนเรื่องโวหารหรอเพลียU_U
''เอาล่ะนักเรียนทุกคนอ่านหนังสือหน้า56-58แล้วทำแบบฝึกหัดหน้า53-55ส่งในชั่วโมง''
มิสเซลิเซียพูด ภายในชั่วโมงหรอ...อืม ฉันเอื้อมมือไปหยิบหนังสือในกระเป๋าแล้วเปิดไปที่หน้า56
3นาทีผ่านไป
อ่านเสร็จซะทีฉันบิดขี้เกียจแล้วก้มหยิบหนังสือเล่มต่อไปคือแบบฝึกหัดฉันเปิดไปหน้า53แล้วรีบทำซะให้เสร็จแต่มันดันติดที่ข้อ5ใหญ่อ่ะดิ่ ฉันหันไปสะกิดลูกตาลที่นั่งข้างซ้ายของฉัน เธอหันมาหาฉัน
''อะไรหรอ''
ลูกตาลถามฉัน
''ขอลอกข้อ5ใหญ่หน่อยสิ''
ฉันตอบเธอไปพร้อมมองไปที่หนังสือ
''ฉันยังทำข้อ3ใหญ่อยู่เลย'' ฉันเหลือบไปมองที่หนังสือตาไม่กระพริบ ''ไปขอเมอร์ซี่สิ''
เธอพูดประโยคสุดท้ายก่อนจะหันไปทำงานต่อ ฉันหันไปหาเมอร์ซี่ทางด้านขวาของฉัน ฉันสะกิดเธอไม่นานเธอก็หันมา
''ขอลอกข้อ5ใหญ่หน่อยสิ''
ฉันบอกเธอ
''อืมได้สิหยิมไปเลย''
เมอร์ซี่ตอบฉันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ฉันดึงแบบฝึกหัดเธอมาลอกได้ไม่นานฉันก็หันไปดูเมอร์ซี่อีกครั้ง ฉันเห็นเมอร์ซี่นั่งอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ใต้โต๊ะ เธอหันมาหาฉัน
''อย่าบอกใครนะ''
เมอร์ซี่บอกฉัน ฉันพยักหน้ารับแล้วหันหน้ามาทำงานต่อ
กริ๊งงงงงงงง
มิสเซลิเซียเดินออกไปจากห้อง
''เย้เลิกเรียนซะที''
เมอร์ซี่และคาร์ราพูด ถึงเมอร์ซี่จะพูดแบบนั้นแต่เธอก็สอบได้ที่1ทุกปีแตกต่างกับฉันที่สอบได้ที่10แต่ก็นะเติมศูนย์ไปตัวเดียวเอง ฉันเก็บของใส่กระเป๋ารวมถึงไดอารี่สุดที่รักของฉันด้วย ฉันรีบเก็บของด้วยความรวดเร็วแล้วรีบออกจากห้องทันที ฉันลงมาถึงชั้นล่าง ฉันก้มมองนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือตัวเองอีกครึ่งชั่วโมงก็บ่ายสี่โมงแล้วรอไปเลยดีกว่า ฉันเดินไปโรงยิมกะว่าจะไปนั่งเล่นเขียนไดอารี่ที่นั่น ฉันเลือกนั่งเก้าอี้แถวล่างสุดฉันหยิบไดอารี่มาเขียนเรื่อยเปื่อยแล้วอยู่ดีๆก็...
ตุบ!!!
ฉันรู้สึกหมดสติ ฉันลืมตาอีกทีก็นอนอยูในห้องพยาบาลฉันมองไปรอบมีคาร์ร่า เมอร์ซี่และลูกตาลนั่งอยู่บนเตียง ฉันรีบลุกขึ้นนั่งทันที...ไดอารี่...ฉันเปิดผ้าห่มหาไดอารี่แต่ก็หาไม่เจอ
''ไดอารี่ฉันอยู่ไหน...ไดอารี่ฉันอยู่ไหน'' ฉันโวยวายกลางห้องพยาบาล ''แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไง'' ฉันโวยวายต่อ
''ใจเย็นๆค่ะคุณเบลเดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟังเอง''
ลูกตาลแกล้งพูด
''งั้นรีบเล่ามาเลย''
ฉันพูด
''เธอโดนลูกบาสกระแทกหัวจากพวกที่มันเล่นบาสส่วนคนที่ปาบอลมาโดนหัวเธอคือชาเล็ตเขาเลยอุ้มเธอมาที่ห้องพยาบาลเป็นการถ่ายโทษ''
ลูกตาลเล่าให้ฟัง
''ชาเล็ตหรอ''
ฉันถามอีกทีเพื่อความแน่ใจ
''อืม''
มันเป็นคำตอบสั้นๆที่คาร์ร่าตอบแทนลูกตาล
''เดี๋ยวฉันจะกลับแล้ว''
ฉันบอกทุกคนแล้วกระโดลงมาจากเตียงคว้ากระเป๋าแล้วออกไปทันที อันที่จริงฉันยังทำใจไม่ค่อยได้เรื่องไดอารี่ ฉันเดินไปโบกแท๊กซี่หน้าโรงเรียนให้ไปส่งที่ใกล้ๆกับป่าเพราะไม่อยากให้คนขับสงสัยสักเท่าไรว่าเด็กนักเรียนมัธยมปลายจะไปเดินในป่าฉันเลยรอให้แท๊กซี่ขับออกไปไกลๆก่อนแล้วค่อยเดินเข้าป่าไปตามทางที่พ่อทำทางไว้ให้ให้ฉันเดินตามก้อนหินเข้าไปในคฤหาสน์กลางป่าลึกที่ฉันอยู่ ฉันเปิดประตูเข้าไปในคฤหาสน์ที่มีแต่แสงรำไรผ่านทางหน้าต่างที่มีม่านสีแดงสดปิดไว้จนเหลือช่องว่างที่หน้าต่างเข้ามาเล็กน้อยพอเป็นแสงรำไร ฉันมองตรงเข้าไปที่เก้าอี้ใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง ฉันเห็นเอเลนน้องของฉันนอนพาดอยู่
''ทำไมไม่ไปโรงเรียนเอเลน''
ฉันถามเอเลนเป็นประโยคแรกที่เจอเธอในวันนี้ในขณะที่มือฉันก็โยนกระเป๋าที่พาดอยู่บนไหล่ซ้ายฉันไปบนโซฟา
''ขี้เกียจอ่ะแล้วเบลรู้ได้ไงว่าฉันไม่ไปโรงเรียน'' เธอตอบฉันก่อนจะหันไปสั่งบริวารที่นั่งอยู่ด้านขวาของเธอ ''ไปเอาเลือดมา2แก้ววางไว้บนโต๊ะนะ''
ไม่นานบริวารตนนั้นก็ยกถาดสีดำสนิทที่มีแก้วเลือดวางไว้อยู่บนถาดบริวารตนนั้นนำแก้วเลือดทั้ง2แก้วไปวางไว้บนโต๊ะตามคำสั่งของเอเลนแล้วนำถาดใบนั้นไปเก็บไว้ในห้องครัวเหมือนเดิมก่อนจะไปนั่งตรงที่เดิม ฉันและเอเลนเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างหน้าโต๊ะที่มีแก้วเลือดวางอยู่ทั้งสองฝั่งโต๊ะ ฉันและเอเลนต่างหยิบแก้วเลือดตรงหน้าขึ้นมาดื่ม
''เดี๋ยวฉันต้องทำการบ้านส่งพรุ่งนี้ไปละ''
ฉันบอกเธอพร้อมกับทิ้งแก้วเลือดครึ่งแก้วไว้บนโต๊ะและปล่อยให้เอเลนนั่งอยู่กลางห้องใหญ่กับบริวารอีกสองสามคน ฉันรีบทำการบ้านวิชาภาษาอังกฤษให้เสร็จจากนั้นก็รีบเก็บหนังสือเข้ากระเป๋าให้เรียบร้อย เป็นโชคดีของฉันที่ทำการบ้านเสร็จตอนหกโมงเย็นเพราะข้างนอกบ้านไม่มีแดดแล้วไม่งั้นฉันต้องกลายเป็นผุยผงแน่ๆ ฉันหย่อนขานั่งลงบนขอบหน้าต่าง ฉันมองไปทางโรงเรียนนั่นชาเล็ตนี่เขาเพิ่งกลับหรอเนี่ยแอบตามไปดีกว่า ฉันกระโดดลงจากหน้าต่างก่อนจะวิ่งตามเขาไป เขาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง เขาหยุดนิ่งตรงนั้นสักพักก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน นี่ปกติเขากลับบ้านเย็นขนาดนี้เลยรึเปล่าเนี่ย ฉันเดินไปรอบบ้านหลังนี้จนได้ยินชายหญิงคู่หนึ่งยืนคุยกับชาเล็ตอยู่
''ชาเล็ตกลับแล้วหรอลูก''
หญิงคนนั้นพูดกับชาเล็ต
''ครับ''
ชาเล็ตตอบด้วยสีหน้าเบื่อ ชายหญิงคู่นั้นคงเป็นพ่อแม่ของชาเล็ตสินะ
''จะกินอะไรหรือเปล่าชาเล็ตได้ออกไปซื้อให้''
พ่อของชาเล็ตถามบ้าง
''ไม่เป็นไรครับผมไม่หิวผมกินมาแล้ว''
ชาเล็ตตอบ
''เป็นอะไรหรือเปล่าชาเล็ต''
แม่ของชาเล็ตถาม
''ผมเหนื่อยแค่นี้นะ'' เขาตอบแล้วคว้ากระเป๋าเป้สีดำวิ่งขึ้นข้างบนไปทันทีแต่ระหว่างที่เขาคว้ากระเป๋าเป้ เขาทำกล่องสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินทึบตกที่พื้น พ่อและแม่ของเขาหยิบมันขึ้นมาดูแต่พวกเขาก็ไม่ได้เปิดกล่องนั้นดู จู่ๆชาเล็ตก็เดินลงมาเหมือนเขาจะรู้แล้วว่าตัวเองทำของตก ''กล่องใบนั้นผมขอนะ''
ชาเล็ตบอกแม่ของเขาพลางมองไปที่กล่องใบั้นเหมือนเป็นของสำคัญกับตัวเขามาก เขาไม่รอคำตอบจากแม่ของเขา เขาดึงกล่องใบนั้นออกจากมือของแม่เขาแล้วขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง ฉันปีนต้นไม้ใหญ่ที่ใกล้ๆกับหน้าต่างบานหนึ่งจนหยุดตรงระดับเดียวกับหน้าต่างบานนั้น ชาเล็ตอยู่ในห้องนี้หรือว่าห้องนี้จะเป็นห้องนอนของชาเล็ต ชาเล็ตเดินไปเปิดไฟก่อนจะนั่งลงบนเตียง เขาเอื้อมมือไปหยิบกล้องบนโต๊ะหัวเตียงมาไว้ข้างๆ เขาเปิดกล่องสีน้ำเงินทึบก่อนจะหยิบกระดาษในกล่องนั้นขึ้นมา ฉันปีนไปทางหัวเตียงของเขาเพื่อที่จะได้เห็น
กระดาษพวกนั้นชัดๆ เดี๋ยวนะนั่นมันรูปฉันทั้งหมดเลยนิ่เป็นไปได้ไงเขามีรูปพวกนั้นได้ไง ฉันลองมองไปทางปลายเตียงของเขามีบอร์ดติดผนังห้องอยู่ทั้งหมดที่ติดบอร์ดอยู่มันเป็นรูปฉันหมดเลยกระดาษทุกแผ่นบนบอร์ดนั่นเป็นรูปฉันหมดเลยตั้งแต่เกรด8ถึงเกรดตอนนี้ เขาหยิบกล้องขึ้นมาแล้วเปิดไปที่อลัมบั้มมันก็มีแต่รูปฉัน ฉันก้มมองนาฬิกาบนข้อมือตัวเอง สามทุ่มแล้วหรอ
เนี่ยกลับดีกว่า ฉันกระโดดลงมาจากต้นไม้ก่อนจะวิ่งกลับบ้านให้เร็วที่สุด ขืนเข้าทางหน้าบ้านมีหวังโดนถามจนหูแฉะแน่ๆ ฉันเดินไปฝั่งห้องนอนฉันแล้วปีนกำแพงเข้าทางหน้าต่าง สิ่งแรกที่ฉันเห็นในห้องนอนตัวเองคือซาน่า บริวารคนสนิทของฉัน
''คุณเจมส์กับคุณเมรี่เรียกค่ะ''
ซาน่าพูด เธอลุกขึ้นออกไปจากห้องฉันอย่างรวดเร็วเหมือนกับว่าเธอรู้ว่าฉันกำลังจะไป ฉันเดินออกจากห้องตามเธอไป
''พ่อมีอะไรเบลอยากอยู่คนเดียว''
ฉันบอกพ่อหลังจากที่ซาน่าหยุดเดินตรงเก้าอี้ใหญ่กลางห้องซึ่งเป็นเก้าอี้ตัวเดียวกันกับที่เอเลนนั่งตอนเย็น
''ออกไปที่ไหนมาอีกถ้าโดนแสงแดดหรือเจอพวกโนมาเรียเดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก''
พ่อพูดด้วยสีหน้าที่ไม่มีความสุข ก็คงเป็นเพราะฉันแหละ
''เบลอยู่เกรด11แล้วนะพ่ออีกอย่างเบลออกไปตอนหกโมงเย็นไม่ใช่บ่ายสามโมงครึ่งไม่โดนแดดหรอกส่วนพวกโนมาเรียไม่ต้องกลัวหรอกนะเบลระวังตัวเองแน่ๆ''
ฉันตอบพ่อไปด้วยข้อความที่ยาวส่วนระหว่างที่ตอบฉันก็แอบเหร่ยัยเอเลนที่อยู่ในห้องครัวเพราะฉันเชื่อว่ายัยเอเลนจะต้องไปบอกพ่อแน่ๆว่าฉันออกไปข้างนอกเพราะถ้าฉันทำธุระเสร็จแล้วเธอกับฟอร์จูนก็จะเห็นฉันปีนต้นไม้ใกล้ๆบ้านเล่นทุกเย็น ยัยเอเลนเดินขึ้นไปข้างบน ฉันเดินออกจากตรงหน้าพ่อเพื่อจะเดินตามเอเลนขึ้นไปแต่พอขึ้นไปก็ไม่รู้ว่าเธอเดินเข้าไปห้องไหน ฉันเลยตัดสินใจเลิกตามยัยน้องนั่นโดยการเดินเข้าห้องตัวเองไม่นานเอเลนก็เดินเข้าห้องฉันมา เธอเข้ามาด้วยความเงียบแม้แต่เวลาเธอเปิดประตูก็ไม่มีเสียงแม้แต่นิดเดียวแต่มันจะเป็นแต่เฉพาะห้องนอนฉันห้องเดียวถ้าฉันหลับก็คงไม่รู้หรอกว่าเธอเข้ามา
''ยัยเอเลนเธอไปบอกพ่อใช่ไหม''
ฉันถามเอเลน
''เปล่าสักหน่อยฉันจะทำแบบนั้นทำไมฉันทำแล้วฉันได้อะไรหรอ''
ยัยเอเลน-*-
''ได้ความสะใจมั้ง-*-''
ฉันแกล้งตอบเอเลนเล่น
''พี่ฟอร์จูนรึเปล่า''
เอเลนถามฉัน
''ฟอร์จูนจะทำเพื่ออะไร''
ฉันถามเอเลนกลับ
''แล้วถ้าเป็นฉันฉันจะทำเพื่ออะไร''
เอเลนถามฉันกลับอีกครั้ง
''ไม่รู้''
''เจอกันตอนเช้านะพี่สาว''
''อืม''
6.45น.
ฉันตื่นมาด้วยความงัวเงียก่อนจะเดินไปอาบน้ำแล้วใส่ชุดนักเรียนสีขาวแล้วลงไปข้างล่าง ฉันเดินไปที่ห้องครัวจะได้เทเลือดดื่มสักแก้ว ฉันหันไปด้านหลังที่มีพ่อเทเลือดใส่ขวดที่จะเตรียมไปใส่ตู้
''พ่อเรื่องเมื่อวานขอโทษนะ''
ฉันบอกพ่อก่อนจะยกแก้วเลือดดื่มแล้วเอาแก้วไปล้าง
''ไม่เป็นไรหรอกพ่อไม่ได้โกรธเบลหรอก''
พ่อตอบฉัน ฉันเดินออกมาจากห้องครัวก็มียัยพี่ฟอร์จูนมาขวางเอาไว้ เธอยื่นกระเป๋านักเรียนมาให้ฉัน
''เธอลืมไว้ข้างบน''
ฟอร์จูนบอก
''ขอบคุณนะ''
ฉันกล่าวขอบคุณฟอร์จูนก่อนจะดึงกระเป๋าออกจากมือเธอแล้วรีบไปโรงเรียนให้เร็วที่สุด
18.00.น
ฉันมานั่งดักชาเล็ตข้างๆกะเป๋านักเรียนเขาที่โรงยิมซึ่งเป็นเวลาที่เขาเลิกเล่นบาสพอดี เขาเดินตรงมาที่กระเป๋าเป้สีดำของเขา เขาเปิดกระเป๋าเพื่อจะหาอะไรบางอย่าง
''นายมีรูปฉันได้ไง''
ฉันเปิดบทสนทนา
''เธอรูได้ไง''
เขาหยุดชะงักแล้วหันมาถามฉัน
''เอาเป็นว่าฉันรู้ก็พอแล้วตกลงนายมีรูปฉันได้ไง''
''ฉันแอบถ่ายเธอตั้งแต่เกรดแปด''
''นายทำแบบนั้นทำไม'' เขาไม่ตอบ เขากะตุกยิ้มเล็กก่อนจะยื่นสมุดสองเล่มมาให้ฉัน ฉันเลื่อนสมุดเล่มที่1ออกสมุดเล่มที่สองเป็นไดอารี่ของฉัน ''นี่มันไดอารี่ฉันมันไปอยู่กับนายได้ยังไง''
''มันเป็นเรื่องของเมื่อวานส่วนเล่มที่หนึ่งฉันอยากให้เธอลองเปิดดู''
ฉันเปิดสมุดเล่มที่หนึ่งดูทุกๆหน้ามีแต่รูปฉันไม่ต่างอะไรกับห้องนอนเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
''กลับบ้านกันเถอะ''
ฉันส่งสมุดคืนเขา
''แล้วจะกลับยังไงฉันไม่มีรถ''
''เดี๋ยวฉันขับไปส่ง''
''เธอขับรถเป็นด้วยหรอ''
''เดี๋ยวก็รู้^^''
ฉันเดินนำเขาไปที่รถสีขาวมุกที่จอดอยู่แถวที่สามทั้งฉันและเขาต่างเดินเข้าไปนั่งในรถพร้อมกัน ฉันเริ่มขับด้วยความเร็ว80
''เธอควรที่จะรัดเข็มขัด''
''คนที่ควรรัดคือนายไม่ใช่ฉัน''
''ฉันรัดแล้ว''
''งั้นก็ดี''
ฉันเร่งความเร็วจาก80เป็น120 ก่อนที่จะไปหยุดตรงหน้าบ้านชาเล็ต เขาเดินออกไปจากรถได้ไม่นานก็มีเสียงจากในบ้านเรียกเขาให้เข้าไปข้างใน ฉันขับไปเรื่อยๆจนไปจอดที่หน้าบ้านฉัน ฉันจอดรถ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ