7Swords

9.6

เขียนโดย จิ้งจอกมายา

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 23.29 น.

  31 chapter
  3 วิจารณ์
  29.40K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

29) Doctor

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 29 Doctor

 

เสียงพูดคุยดังอยู่ไกลๆ ชายหนุ่มรู้สึกตัวว่าเขานอนเหยียดยาวอยู่ ตัวเขาไม่อาจขยับเขยื้อนได้.... แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอยากจะขยับตัวเลย เปลือกตาของเขาหนักเสียยิ่งกว่าอะไรที่เขาเคยยกมาทั้งชีวิต การได้นอนอยู่บนเตียงนุ่มๆและอบอุ่นแบบนี้ ราวกับว่าอยู่บนสวรรค์ก็ไม่ปาน.....

หรือเราจะตายไปแล้ว? เอเคลเซธคิด ก่อนที่เขาจะขำตัวเองในหัว ตาย นี่เขาคิดเรื่องความตายหรือนี่?

เขาจะพลิกตัวเพื่อจะเปลี่ยนท่านอน แต่ก็รู้สึกว่าโดนล่ามไว้ตั้งแต่คอ ไหล่ แขนทั้งสอง.... ชายหนุ่มลองขยับท่อนล่างและพบว่ามันก็โดนมัดไว้เหมือนกัน

วินาทีต่อมาถึงแม้เปลือกตาจะหนักแค่ไหน แต่เขาก็ต้องลืมมันขึ้น --

เขาอยู่ในที่ๆแปลกตาที่นี่ไม่ใช่บนเรือ.... – และที่สำคัญ ใครไม่รู้สวมชุดสวมหัวสีขาวผ้าโพกศีรษะสีขาวและผ้าปิดปากสีขาว ยืนอยู่ข้างๆเตียงของเขา ก่อนที่ร่างนั้นจะชะโงกลงมามองเขา ดวงตาที่กลมโตเท่าไข่ห่าน มีผมสีดำแลบออกมาจากผ้าโพกนั้นมองเขาอย่างพิจารณา

เอเคลเซธอ้าปากจะถามว่าเธอเป็นใคร --......

พลันนั้นเขาก็พบว่าในปากของเขามีอะไรแข็งๆอยู่มันต่อยาวเข้าไปในลำคอของเขา วิ่นาทีต่อมาที่เขาตกใจ ลิ้นไก่ก็กระทบกับเหล็กยาวนั้น

“อ้วกกกกกก -- ” เอเคลเซธอาเจียนเอาลมออกมา ตัวเขาโดนมัดติดอยู่กับเตียง

“ไม่เป็นไรๆ เธอปลอดภัยแล้ว” ผู้หญิงคนนั้นบอกและพยายามจับให้เขานอนนิ่งๆ “เธอพยายามอย่ากลืนน้ำลายนะ เราแค่ทดลองป้อนอาหารผ่านท่อ เพราะตอนที่เราพบเธอน่ะ”

เอเคลเซธรู้สึกไม่สบายใจกับคำว่า ทดลอง .... แต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่า พวกเขาปลอดภัย

 

สามวันต่อมาหลังจากพักฟื้นเต็มที่เอเคลเซธก็สามารถลุกขึ้นนั่งได้และเขาต้องตกใจรูปร่างของตัวเองที่ผ่ายผอมขนาดหนัก แขนของเขาที่เคยมีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆลีบแทบจะติดกระดูก

“เอ้า..... ได้เวลาอาหารแล้ว” หญิงสาวคนเดิมเดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหาร

“ข้าวต้ม อีกแล้วเหรอ” เอเคลเซธโอดครวญ “นี่ วิกกี้ ผมผอมขนาดนี้เลยนะ ผมต้องการเนื้อหรืออะไรก็ได้ที่จะทำให้แข็งแรงเร็วๆน่ะ -- ”

“วิกิต้าย่ะ” เธอแหวก่อนจะดันข้าวต้มเละๆแสนจืดชืดประหนึ่งข้าวต้มกับน้ำเปล่ามาวางไว้ตรงหน้าเอเคลเซธ ในทีแรกชายหนุ่มก็สนใจ ข้าว หรือพืชที่นำเข้าจากเมืองจากตะวันออกอีกฟากหนึ่งของทะเล ในครั้งแรกที่กินเขารู้สึกประทับใจเพราะมันทั้งหอมและอร่อย.....

แต่เมื่อเจอมาสามวันติด เขาก็ต้องยอมรับว่า เขาเบื่อข้าวต้มแล้ว

“เลิกงอแงเป็นเด็กๆเสียทีเถอะ เอเคล” วิกิต้ากึ่งดุกึ่งขำ “เพิ่งฟื้นตัวน่ะ อาหารอ่อนๆดีที่สุด”

เอเคลเซธเลิกบ่นแล้วตักข้าวต้มกินแต่โดยดี ความแตกต่างของซุปกับข้าวต้มแทบไม่มี -- แต่ถึงกระนั้น วิกิต้าก็เคี่ยวเข็ญให้เขาเคี้ยวข้าวต้มเละๆนั้นก่อนกลืนอยู่ดี “นี่.... พวกหมอจู้จี้แบบนี้ทุกคนหรือเปล่า?” เขาเอ่ยถามขณะรับเม็ดสีต่างๆคล้ายลูกอมที่วิกิต้าเอามาให้เขา

“รีบกินยาซะ เดี๋ยวมันจะระคายกระเพาะ” เธอเตือน.... เอเคลเซธรีบกลืนเม็ดยาลงคอพร้อมกับดื่มน้ำตาม

“แล้วหมอวิกเตอร์ล่ะ?” เขาถามพลางพยายามจะลุกจากเตียงนอน ก่อนที่วิกิต้าจะผลักเขาให้นอนลงและห่มผ้าให้เขา

“ท่านพ่อไปไล่จับ พ่อของเธอนั่นแหละ” เธอพูดพลางส่ายหัว “มีอย่างที่ไหนเผลอแวบเดียววิ่งปร๋อไปร้านขายเหล้า.... เชื่อเขาเลย -- ”

เอเคลเซธหัวเราะ “ให้เขาดื่มไปเถอะ มันจะทำให้เขาหายเร็วขึ้น ผมแน่ใจ -- ”

“มันไม่ใช่เลยย่ะ -- ” เธอส่งเสียงไม่เห็นด้วย แต่ชายหนุ่มไม่คิดจะต่อล้อต่อเถียงด้วย

 

ไม่นานนัก ผู้ชายร่างท้วมก็หิ้วปีกผู้ชายที่ผิวเหี่ยวแบบคนที่เคยอ้วนท้วนสมบูรณ์แต่อยู่ๆน้ำหนักหายแบบลดฮวบเข้ามา หมอวิกเตอร์จะพาเขาไปนอนที่เตียง แต่เอริคขอให้หิ้วปีกเขามาหาเอเคลเซธแทน แม้จะไม่ค่อยเห็นด้วยแต่เขาก็ทำตาม

เมื่อเอริคนั่งลงเก้าอี้ข้างๆเขา เอเคลเซธก็ถามโดยไม่รีรอ

“มีข่าวอะไรบ้างครับพ่อ?”

“มี......” เอริคเอ่ยก่อนจะยกเหล้าขึ้นดื่มและเรอดังสนั่น “พวกดราก้อนตีเมืองเลฟท์ฮิลล์แตกแล้ว.....”

เอเคลเซธทำท่าคิด “ถ้างั้น..... เป้าหมายต่อไปของพวกไออ้อนเกทก็คงเป็นเบรฟเวอรี่การ์เดนล่ะสิ -- ”

“เปล่า..... -- ” เอริคยกเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง “พวกดราก้อนประกาศสวามิภักดิ์ต่อ องค์พระราชา” เอเคลเซธเลิกคิ้วเบิกตากว้างนี่มันแปลกเกินไปแล้ว ที่พวกดราก้อนที่มีกำลังรบพอๆกับราชาจะประกาศยอมอยู่ใต้อาณัติโดยง่ายแบบนี้ “อ้อ...... แล้วอีกข่าวก็คือ ไวท์ฟอร์ทล่มแล้ว......”

“อะไรนะ!?” ชายหนุ่มร้องอย่างตกใจ

“มีข่าวลือว่า..... อัศวินที่ใช้อำนาจวิเศษของดาบพลังสายฟ้าเป็นหัวหอกในการถล่มไวท์ฟอร์ท......”

เอเคลเซธนั่งนิ่งและและมองออกไปข้างหน้าอย่างไม่รู้ตัว ในหัวหมุนเร็วตื้อ

พวกดราก้อนที่โจมตีเมืองเลฟท์ฮิลล์เพราะหวังเอาเสบียงและทรัพท์สมบัติเพื่อใช้ในสงครามกับราชา......

พ็อตเทอร์รี่ที่ล่อให้พวกเขาออกมา……

สถานการณ์ที่เหมือนเตรียมไว้แล้วให้ไวท์ฟอร์ทถูกโจมตี......

ความไม่สมเหตุสมผลของการก่อสงครามระหว่างพันธมิตรด้วยกันเองของไวท์ฟอร์ทกับเบรฟเวอรี่การ์เดนและพ็อตเทอร์รี่……

อัศวินที่มี เซเว่นซอร์ด..... จู่โจมไวท์ฟอร์ท.....

ราวกับภาพทั้งหมดที่กระจัดกระจายกันเข้ามารวมกันเป็นภาพเดียวกัน เอเคลเซธหันไปมองพ่อเขาด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อในทฤษฎีที่เขาคิดได้

“นี่มันแค่..... การเชือดไก่ให้ลิงดู......” เอเคลเซธพูดราวกับเสียงกระซิบ “เราเป็นไก่ที่ถูกเชือดให้พวกดราก้อนดู.....”

“ว่าต่อไปซิ” เอริคเอ่ยให้เขาพูดต่อไป โดยที่หมอวิกเตอร์และวิกิต้า ยืนงงฟังพวกเขาอยู่ พวกเขาคงคาดไม่ถึงว่าคนไข้ของเขาจะไปที่ร้านเหล้าเพื่อหาข่าว

“ราชารู้ว่าพวกดราก้อนโจมตีเมืองเลฟท์ฮิลล์เพื่อจะแสดงอำนาจทางการทหารโดยพวกดราก้อนปล่อยข่าวลือว่ามีเซเว่นซอร์ดด้วยเพื่อขู่ให้ราชากลัว......

ทีนี้ราชาจึงโต้กลับด้วยการบอกว่าราชาก็มีเซเว่นซอร์ดอยู่ในมือจริงๆ โดยการส่งผู้ถือดาบนั้นไปโจมตีเมืองไวท์ฟอร์ทที่ว่ากันว่า เป็นเมืองที่โจมตีได้ยากที่สุดในประวัติศาสตร์......

เหตุผลที่องค์ราชาไม่สนใจจะคงความเป็นพันธมิตรกับเรา เพราะรู้ดีว่าถ้าพวกดราก้อนรู้ว่าราชามีดาบศักดิ์สิทธิ์ก็จะไม่กล้าทำสงครามด้วยและยอมอยู่ใต้อาณัติแทน.....

เสียไวท์ฟอร์ทที่ไม่มีความสามารถในการล่าอาณานิคม และได้พันธมิตรใหม่เป็นพวกดราก้อนที่รบเก่งที่สุด...... เพื่อประกาศถึงอำนาจของดาบที่มีอยู่และขยายอำนาจไปยังอาณาจักรที่เหลือ......”

หมอพ่อลูกอ้าปากค้าง ฟังทฤษฎีของเอเคลเซธ ด้วยคาดไม่ถึงว่าคนไข้ของพวกเขาจะกล้าเอาเรื่องใหญ่โตขนาดนี้มาพูด

“มันก็คงจะเป็นอย่างนั้นล่ะ” เอริคพูด “ไวท์ฟอร์ทก็เป็นแค่ตัวเบี้ยในตารางหมากของราชาเท่านั้นแหละ”

“แล้วเราจะทำยังไงต่อ?” กัปตันแวนเดินเข้ามาในห้อง มือข้างที่ขาดไปของเขาติดตะขอเหล็กไว้ เขาไม่ได้มีสีหน้าเสียใจเลยทั้งๆที่เพิ่งเผยตัวเองว่ากำลังแอบฟังอยู่ “พวกนั้นพูดกันว่า ลอร์ดเบโอวูล์ฟประกาศยอมแพ้และยอมถูกจับไปที่เบรฟเวอรี่การ์เดนเพื่อสอบสวนในข้อหากบฏไม่ใช่หรือไง?”

“การสอบสวนเป็นแค่หน้าฉากเท่านั้นแหละ......” เอเคลเซธเอ่ย “ตาหมากเป็นไปตามที่องค์ราชาคาดไว้..... พวกเขาได้ม้ามาอยู่ในมือแล้ว.....”

“แล้วลูกคิดว่า ราชาจะเก็บเบี้ยไว้หรือเปล่าล่ะ?”

“ถ้าพ่อหมายถึง ราชาจะฆ่าลอร์ดเบโอวูล์ฟหรือเปล่าล่ะก็......” เอเคลเซธเอ่ยเสียงสั่น “เขาทำแน่ --”

“ใช่......” เอริคพูดและยกเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง “ไวท์ฟอร์ทยังอยู่ในเงื้อมมือราชา มันไม่สำคัญเลยว่าจะให้ใครดูแลไวท์ฟอร์ท..... ใครก็ได้ที่ไม่ใช่ลอร์ดเบโอวูล์ฟ..... -- ใช่..... เขาหมดประโยชน์แล้ว......”

“ท่านพ่อ..... ” เอเคลเซธพูด เขาส่งสายตาที่คาดคั้นไปมองพ่อของเขาอย่างแน่วแน่ “อย่าบอกนะว่าที่ ลอร์ดโดรเว็ตต์...... ยอมแพ้และมอบตำแหน่งหมาป่าแห่งไวท์ฟอร์ทให้กับ -- ”

“ถ้าจะถามว่า พวกเขาคาดว่าจะมีวันนี้มาถึงมั้ย.... พ่อไม่รู้ -- ” เอริคส่ายหน้า “นั่นเป็นเรื่องของหมาป่าและจิ้งจอกรุ่นก่อน --”

“แต่ตอนนั้นพ่อเป็นจิ้งจอกฝึกหัด -- ”

“เอเคลเซธ” เอริคจับจ้องสีหน้าของลูกชาย เอเคลเซธสัมผัสได้ถึงความเข้มงวดที่เขาต้องยอมรับ

“ขอโทษครับ ท่านพ่อ -- ” ชายหนุ่มเอ่ย “ผมคงเพลียไปหน่อย......”

แล้วทั้งหมดก็ปล่อยให้เอเคลเซธได้นอนพัก และแยกย้ายกันออกมา

แต่ต่างคนก็ต่างรู้สึกกลัดกลุ้มและคับข้องใจกับเรื่องราวที่เอเคลเซธพูดออกมา ราวกับว่าพวกเขาเป็นแค่ตัวหมากที่ถูกำหนดให้เดินไปตามตาที่ถูกวางไว้แล้วอย่างชาญฉลาด ไม่ว่าพวกเขาจะดิ้นรนแค่ไหนก็ไม่อาจจะทำอะไรได้เลย

ทั้งพวกไวท์ฟอร์ท หรือพวกโจรสลัด ต่างก็ถูกราชาหลอกใช้ --

 

ผ่านไปอีกสองสามวัน อาการของเอเคลเซธดีขึ้น เขาได้รับอนุญาตให้ลุกเดินได้แล้ว และค่อยๆเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเซาท์เทิร์นต้าผ่านทั้งแวนและวิกิต้า

เอเคลเซธต้องแปลกใจมากที่รู้ว่า แวนเป็นคนที่มีเส้นสายและเป็นที่รู้จักมากมายในเซาท์เทิร์นต้าแห่งนี้

“นั่นแหละ พอพวกเขารู้ว่าเรือนั้นเป็นของ แวน เดอ มูชเชอร์ ก็รีบพาพวกเจ้ามารักษาเลย..... ปกติแล้วถ้าพวกคนที่นี่เจอพวกเจ้าในสภาพนั้นโดยไม่มีข้าล่ะก็ คงจับโยนลงทะเลแล้วยึดเรือไปเลย” แวนโม้ให้ฟังขณะใช้ปลายตะขอจิ้มสิ่งที่เขาเรียกว่าเนยแข็งชิ้นเล็กๆใส่ปากของเขา เอเคลเซธพ่นลมออกจากจมูกอย่างไม่เชื่อ “เอ้า -- ข้าน่ะ เป็นกัปตันที่บังคับกองกำลังโจรสลัดถึงสองพันคนนะ!!”

“ครับๆ....” เอเคลเซธรู้สึกว่าเขาไม่อยากกวนอารมณ์แวนตอนนี้เพราะเขาเพิ่งเอาไก่ย่างครึ่งตัวมาฝาก

เซาท์เทิร์นต้าเป็นดินแดนที่ปกครองโดยลอร์ดก็จริง แต่คนนอกฎหมายก็เยอะเสียจนเดินตามถนนอย่างเปิดเผย ไม่ว่าจะเป็นโจร ขโมย หรือโจรสลัด นับว่าหากไม่ก่อเรื่องก็ถือว่าเป็นแขกของเซาท์เทิร์นต้า

ที่น่าแปลกของความหลากหลายในทั้งวัสดุ สิ่งของและ อาหารที่มีหลากหลายวัฒนธรรมแล้ว ในจำนวนครึ่งต่อครึ่ง เป็นของปลอม หรือของเลียนแบบแทบจะทั้งนั้น วิกเตอร์หมอร่างท้วมมักจะบ่นให้เอเคลเซธฟังเรื่องที่ต้องเสียเวลานั่งคัดแยกใบยากับหญ้าธรรมดาที่คนขายโกงใส่มาเสียเกือบครึ่ง

เอเคลเซธเป็นทั้งคนไข้และลูกค้าที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของวิกเตอร์ ชายหนุ่มพบว่า วิกเตอร์ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จในการประกอบอาชีพนัก

“คนพวกนี้เขายังมีความเชื่อเก่าๆ” วิกิต้าบอกเขา เธอเปิดหน้ากากออกและเอเคลเซธก็ค้นพบว่าเธอเป็นผู้หญิงที่หน้าตาสะสวยมากคนหนึ่ง “พวกเขาไม่เชื่อว่าวิชาแพทย์นั้นสามารถช่วยต่อชีวิตคนได้ พวกเขากลัวเราและทำเหมือนเราเป็นพ่อมดหมอผี -- ”

“แล้วใครจะอยากได้เพื่อนเป็นคนที่ดึงเอาไส้คนออกมาจากท้องคนได้หน้าตาเฉยล่ะ” แวนแทรกขึ้นมา

พวกทหารไวท์ฟอร์ทที่เหลืออกแปดคนก็รอดตายอย่างปาฏิหาริย์และยังคงออกหาข้อมูลและเงินทุนเพื่อแผนการต่อไปของเอริค ซึ่งเขาเข้ามาบอกกับเอเคลเซธในวันที่เขากำลังศึกษาวิธีเย็บแผลกับวิกเตอร์อย่างสนใจ

“พ่อจะไม่กลับไปไวท์ฟอร์ทเหรอครับ?” เอเคลเซธพูดอย่างตกใจและส่งเข็มผิดขนาดให้กับวิกเตอร์

“ใช่..... พ่อรู้สึกอยากจะทำตามคำแนะนำของลอร์ดเบโอวูล์ฟ”

“ที่ว่า ให้เราเป็นหมาป่าน่ะเหรอ?” เอเคลเซธเอ่ยอย่างระแคะคะคาย “พ่อไม่ได้หมายความว่า เราจะกลับไปรวมตัวกับพวกไวท์ฟอร์ทที่เหลือแล้วเกณฑ์ไปช่วยลอร์ดเบโอวูล์ฟหรอก -- ใช่ไหม?”

“เปล่า.....” เอริคยักไหล่ “กลับไปไวท์ฟอร์ทตอนนี้ก็คงไม่ได้แล้วล่ะ......”

“แล้วเราจะทำอะไรล่ะครับ?” เอเคลเซธถามต่อโดยเอาผ้าอุดปากคนไข้ที่ร้องเสียงหลงเพราะเจ็บจากการเย็บแผล

“ก็เป็นหมาป่าน่ะสิ” เอริคเอ่ยและยื่นขวดเหล้าให้กับชายที่ถูกเย็บแผล เขายกขึ้นดื่มอึกๆราวกับต้องการลืมความเจ็บปวด เอริคเดินออกจาก ก่อนที่จะหยุดปากประตูราวกับนึกอะไรขึ้นได้ “บางทีตัวเบี้ยก็มีบทเรียนสำหรับขุนนะ?”

“เช่นอะไรครับ?” เอเคลเซธถาม

“Revenge is a dish best served cold……” แล้วเอริคก็เดินออกไปเพื่อหาเหล้าดื่ม

 

*“Revenge is a dish best served cold……” Aric’s Quote: “การล้างแค้นต้องทำให้เลือดเย็นที่สุด......”

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา