สะดุดรักป่วนหัวใจนายซุปเปอร์สตาร์
-
เขียนโดย yuei
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 11.52 น.
6 ตอน
3 วิจารณ์
8,423 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559 11.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) นายคนนี้กับประวัติที่ไม่ธรรมดา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ฉันรีบไปเรียนแต่ก็สายอยู่ดี เพื่อนฉันเขาเรียนไปหมดแล้วและอาจารย์ก็เริ่มสอน ฉันรีบเข้าไปนั่งข้างๆ เพื่อนสนิทของฉัน พวกเธอชื่อ** วิกิ** กับ **อันอัน** สองสาวเกาหลีตัวแม่
“เธอจะสายเอาโล้หรือไง...หลังเลิกเรียนเรามีเรื่องต้องคุยกัน น้ำริน” วิกิกับอันอันส่งสายตาหวิ่งๆ แย่แล้ว! ยายสองคนนี้ต้องถามฉันเรื่องที่ฉันหายไปไม่ไปเที่ยวสังสรรค์เฮฮากันเหมือนเคย จะทำยังไงดีเราต้องหาทางหนีจากยายสองคนนี้แล้ว ให้พวกเธอรู้เรื่องนี้ไม่ได้ ไม่งั้นแย่แน่ (อยู่ไม่เป็นสุขละเฮซองของฉัน) (_ _!)
พออาจารย์สอนเสร็จทุกคนเดินออกจากห้อง วิ่งไปที่ลิฟเข้าไปก่อนยายเพื่อนซี๊จะตามมาและปิดประตูทันที
แต่...มีมือมารสองข้างแหวกกลางประตู
“นึกว่าจะหนีพ้นเหรอ”เพื่อนทั้งสองของฉันนั้นเอง เธอเดินเข้ามาในลิฟและเริ่มตั้งคำถามทันที
“เธอหายไปไหนมาน้ำริน ตอนเลิกเรียนวิ่งหนีพวกฉันทุกที มันน่าสงสัย” วิกิ อัน...อันจ้องหน้าฉันเขม็ง
ในลิฟต์ฉันเหมือนถูกขังอยู่ในห้องมืดหน้ากลัวชะมัด
“คือว่าฉัน...ไม่สบายอยากจะพักผ่อนก็เลยกลับบ้านไปนอน” คำตอบเอาตัวรอด ไม่ได้เรื่อง
“แต่ฉันโทรไปหาพี่สาวแก เขาบอกว่าแกยังไม่กลับห้อง” อัน...อันพูดต่อ (รุมกันนี่นาอย่างนี้น้ำรินกลายเป็นน้ำรั่วแน่ๆ ความลับของฉันจะปิดอยู่ไหมเนี้ย แง้...)
“ก็...”ขอเวลาคิดก่อน
“ก็ฉันบอกให้พี่สาวบอกพวกเธออย่างนั้นเอง เพราะฉันนะรำคาญพวกแกไง คนเขาป่วยโทรมาอยู่ได้”เนียนค่ะเนียน ชักจะชำนานมากไปแล้วโกหกได้ถ้วยทอง
“อ้าว! คนเขาอุส่าเป็นห่วง รู้เงี้ยไม่โทรหาเสียก็ดี” เพื่อนฉันเชิดหน้างอนตุบป่อง
“อย่าโกรธกันสิ นา นะ ฉันไม่สบายเลยไม่อยากคุยกับใครเข้าใจนะ”
ทำหน้าหมุ่ยต่อ ง้อยากจริงเพื่อนฉัน
“แน่ใจว่ามีเรื่องแค่นี้”
“แน่ใจ” โล่งอกหายโกรธแล้ว
“ถ้าไม่มีอะไร วันนี้ไปทำอาหารกินกันที่บ้านฉันเหมือนเคย โอเค”ฉันสะดุดกึก
“แต่วันนี้ฉัน...”วิกิเริ่มชี้นิ้ว
“ไม่มีคำว่าแต่...หรือว่าเธอมีความลับซ่อนไว้จริงๆ อยากให้ฉันจับผิดต่อไหม” พูดกันถึงขั้นนี้ก็ต้องยอมละนะ แล้วที่นัดกับเฮซองจะทำไงดี แก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อนแล้วกัน
“ได้...ได้ แล้วจะทำไรกินดีละ”
“เดี๋ยวค่อยคิดไปเรียนกันก่อนดีกว่า” วิกิบอกปัดความคิดนี้ออกไป
พอพูดเสร็จลิฟต์ก็เปิดพอดีฉันกับเพื่อนเดินออกจากลิฟต์ไปเรียนอีกอาคารหนึ่ง พอเรียนเสร็จเราก็ซื้อของไปทำอาหารที่บ้านวิกิเหมือนที่เคยทำประจำเกือบทุกวัน พอถึงฉันก็เริ่มทำอาหารทันที
วิกิเป็นลูกคนที่สองของบ้านมีพี่ชายอีกคนหนึ่ง (หล่อมาก...ขอบอก) พี่เขาชื่อพี่กวี เวลาที่พี่เขาขี่ม้าทำงานในไร่ส้มเท่ห์บาดขาดใจ ฉันนะหลงรักพี่เขาตั้งแต่แรกเห็น (วิกิไม่รู้หรอกนะ อิอิ) ก็นะมันเป็นไปไม่ได้เพราะว่าพี่ชายเพื่อนคือพี่ชายเราด้วย(_ _!)ไม่สามารถสานต่อความสัมพันธ์ได้ คุณพ่อกับคุณแม่ของวิกิทำไร่ส้มที่ อ.ฝาง ฉันเคยไปเที่ยวมา สอง สามครั้ง ท่านทั้งสองใจดีมาก คุณแม่ทำอาหารอร่อยมากกุ๊กภัตตาคารยังต้องอาย และท่านยังซื้อบ้านหลังนี้ให้วิกิ กับอัน...อันอยู่ด้วยกัน
ส่วนอัน...อันเป็นลูกพี่ลูกน้องของวิกิแต่อายุเท่ากัน ฉันว่าเหมือนแฝดสยามมากกว่า คิดก็เหมือนกัน ไปไหนไปด้วยกัน แถมยังชอบซีรี่เกาหลี ไม่สิถึงขั้นบ้าเลยละ บางทีถึงกับไม่นอนนั่งดูซี่รี่เกาหลีจนถึงเช้าแล้วอาบน้ำไปเรียนเลยก็มี การันตีหมีแพนล์ดาได้ ทั้งสองอับเกทเรื่องของดาราเกาหลีว่าใครดัง ใครมาแรงในช่วงนี้ และที่สำคัญไปดูคอนเสิร์จเกือบๆ ทุกวงเกาหลีที่มาแสดงในเมืองไทย (คนรวยนะ ทำได้)
ถ้าหากให้ยายสองคนนี้รู้ว่าเฮซองอยู่ในความดูแลของฉัน เกิดเฮซองเป็นซุปเปอร์สตาร์เกาหลีจริงๆ อย่างที่ฉันคิด อาจจะมีข้อดีคือยายเพื่อนสองคนนี้ต้องรู้ว่าเฮซองเป็นใครและเฮซองจะได้กลับไปสู่โลกของเขาแต่ว่า ข้อเสียมันก็น่ากลัว ยายสองคนนี้ไม่ปล่อยให้เฮซองเป็นสุข แน่ๆ
(_ _!)
...วิกิเมื่อเจอกับเฮซอง คิมเฮซอง...มาเป็นผู้ชายของฉันเถอะนะ(เฮซองโดนข่มขืน) คิดไปนู้นฉัน…
อัน..อันเมื่อเจอกับเฮซอง...ไปอยู่กับอันอันนะ อัน...อันลักพาตัวเฮซองไปจากฉัน ฉันจะไม่ได้เจอเขาอีก… (T^T)แค่คิดก็เศร้าแล้ว
ฉันยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ ฉะนั้นอย่าบอกดีกว่า** รอจนกว่าเขาจะความจำกลับคืนมาเองดีกว่า
“น้ำริน นี่มันต้มนะไม่ใช่ผัดทำไมมันเหลือน้ำแค่นิดเดียว” ฉันตื่นจากผะวัง เมื่อวิกิเข้ามาจับที่ไหร่ฉัน
“ว้าย! ฉันมัวแต่คิดเพลินไปหน่อย” ผลังปาก
“คิดอะไร...”วิกินี่ชังสงสัยจริง.ๆ
“นี่...ฉันมีสิทธิที่จะคิดหรือว่าจะทำอะไร แกไม่ต้องเลยอยากรู้ไปหมด” ลมเสีย
“ก็เธอชอบทำให้ฉันสงสัยเธอก็รู้นิเวลาที่ฉันสงสัยนะ ฉันก็ต้องรู้ให้ได้”
“ใช่ต้องรู้ให้ได้”อัน...อันฝ่ายสนับสนุน ทั้งสองจ้องมาที่ฉัน
“เชิญไปสงสัยคนอื่นเลย ฉันเป็นคนเปิดเผยพวกเธอสงสัยผิดคนแล้วละ” ฉันยกหม้อออกจากเตา
“อย่าให้รู้แล้วกันปิดให้มิดนะ และให้รู้ไว้ว่าความลับไม่มีในโลก”วิกิพูดชัดถ่อยชัดคำ
“บอกเรามาเถอะนะว่าเธอมีแฟน ไม่ต้องแอบหรอกนะสักวันเราก็รู้อยู่ดี บอกมาเหอะนะถ้าไม่ยอมบอกฉันก็จะสืบเอาเอง” รวมพลังกันจริงๆนะ
“บอกว่าไม่มี...ไม่มีอะไรเข้าใจไหม พูดอยู่ได้จะกินไหมข้าวนะ ช่วยกันทำสิ” ฉันพูดไปเรื่องอื่น
“กินสิหิวจะตายอยู่แล้ว”
พอทำอาหารเสร็จก็เริ่มทานและคุยกันเรื่องทั่วไป ฉันมองดูนาฬิกาตอนนี้สองทุ่มแล้วฉันต้องหาทางกลับ
....โอกาสดีพี่สาวฉันโทรมา....
“รินเราจะกลับหรือยังพี่...” ไม่ทันที่พี่สาวฉันจะพูดอะไรต่อ
“เดี๋ยวกลับแล้วจะเอาไร” ฉันเดินออกจากโต๊ะอาหาร
“ไม่พี่จะออกไปข้างนอก ไปงานวันเกิดเพื่อนอีกนานกว่าจะกลับแล้วเราอย่ากลับดึกละ”
“ค่ะเดี๋ยวกลับแล้ว” ถ้าเป็นเมื่อก่อน นี่เป็นโอกาสดีมากที่จะเที่ยวแต่ตอนนี้ฉันมีเรื่องที่จะทำมากกว่านั้น ถือโอกาสนี้กลับเลยดีกว่า
พอกดวางโทรศัพท์ฉันก็เดินไปที่โต๊ะอาหาร
“ฉันกลับก่อนนะ พี่สาวโทรตามไม่รู้ว่าเรื่องไร”ฉันโชว์เบอร์พี่สาวฉันให้เพื่อนดู
“ฝากล้างจานด้วยนะจ๊ะ กลับละ” ฉันถือกระเป๋าแล้วโบกมือลา ก่อนที่ยายสองสาวพูดอะไรต่อ
“ยายรินต้องมีอะไรแน่ๆ เลยอันอัน”วิกิเริ่มนินทา (ฉันได้ยินนะ)
“ต้องรู้ให้ได้ว่ายายน้ำรินปิดอะไรพวกเรา”อันอันฝ่ายสนับสนุน
***ช่วยไปรวมพลังกันเรื่องของคนอื่นได้มั้ย ที่ไม่ใช่เรื่องของฉัน***(_ _!)(T^T)
ฉันรีบขับรถมอเตอร์ไซด์ไปหาเฮซองที่หอพัก
“เฮ เรารีบไปกันได้แล้วเดี๋ยวสาย” เขากอดอกทำหน้าหมุ่ยรออยู่บนเตียง
“ไหนบอกว่าจะมากินข้าวด้วยกัน เธอผิดนัด”เขาไม่หันทางฉันเลยท่าจะโกธรจริงแฮะ
“อย่ามางอนกันตอนนี้ไปทำงานก่อน” ฉันฉุดเขาลุกขึ้นจากเตียงและดึงแขนเขาออกจากห้องมาถึงที่ลานจอดรถ
“ฉันขับเอง” เขาอาสา
“โอเค” ดีเลยวันนี้ขี้เกลียดขับรถพอดี เอ! เขาขับเป็นหรือเปล่าเนี้ยคุณชายขนาดนั้น เขาขับช้าๆ ไม่รีบร้อนอะไรเพราะเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง ฉันนั่งห่างเขานิดๆ ก็อยากนั่งใกล้ อยู่หรอกนะ(กอดเลยมั้ย...อุ๊ๆ หญิงไทยใจเย็นๆ)(_ _!)
พอไปถึงที่ทำงานของเขาฉันโปกมือลา เขายิ้มให้ฉันแล้วเดินเข้าไปทำงานหลังจากนั้นฉันก็กลับบ้าน
นับเป็นเวลาเกือบครึ่งเดือนแล้วที่ฉันต้องทำกิจวัฒน์ประจำวัน คือหลังเลิกเรียนฉันต้องไปทำอาหารทานกันที่บ้านเพื่อนเสร็จแล้ว ก็มารับเฮซองไปทำงาน ฉันกับเฮซองสนิทกันมากชนิดที่ว่าแยกกันไม่ออก ฉันชอบมากในเวลาที่เขายิ้ม ชอบที่เขาทำหน้าทะเล้นคอยแกล้งฉันให้ฉันหัวเราะ ฉันมีความสุขมากๆ เวลาที่อยู่กับเขา ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะรู้สึกกับฉันยังไง แต่ว่าตอนนี้ฉันไม่อยากให้เขา...จากไป ไม่ว่าเขาจะจำได้หรือจำอะไรไม่ได้ก็ตาม ฉันก็อยากอยู่กับเขา ...นี่มันเรียกว่าความรักหรือเปล่า...มันจะเร็วเกินไปมั้ยที่จะรัก...
วันนี้เป็นวันเสาร์ฉันมาหาเฮซองตั้งแต่เช้ากะว่าจะชวนเขาไปเที่ยวสักวันเพราะว่าตั้งแต่เจอกันยังไม่เคยได้เที่ยวด้วยกันเลย
“ตื่นได้แล้ว..นายเฮ” ฉันปลุกสองสามครั้งกว่าเขาจะตื่น
“มีอะไรมาแต่เช้า” เขาพูดเสียงอูอี่
“วันนี้วันเสาร์ไง ฉันจะพาเธอไปเที่ยว ไปอาบน้ำได้แล้ว เร็วสิ” ฉันดึงเขาลุกจากเตียง
“จะไปไหน” เขาถาม
“ทัวร์เที่ยวทั่วเชียงใหม่ ฉันจะเป็นไกด์นำเที่ยวให้นายหนึ่งวัน”
“ใครกันแน่อยากเที่ยว” เขารู้ทัน
“แล้วจะไปมั้ยละ”
“Ok .... ไปสิ”
หลังจากที่เขาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จฉันกับเขาก็ออกเดินทาง
“ฉันหิวน้ำซื้อน้ำให้หน่อยซิ”
“ได้สิ” เขาขับรถชิดข้างทาง พอฉันลงจากรถ
“เดี๋ยวฉันมา” เขาพูดแค่นี้แล้วก็ขับรถออกไป
“เอ๊ะ!” เขาขับรถค่อนข้างเร็ว เดี๋ยว...มีรถมอเตอร์ไซด์ขับตามเขา นายนี่ชอบทำแต่เรื่องจริง ๆ ฉันรีบโบกรถตามไปทันที
“ลุงตามรถมอเตอร์ไซด์สองคันนั้นไปเลยค่ะ”
ลุงขับรถตุ๊กตุ๊กชิ่งตามไปทันที ขับรถตามไม่นานนัก เฮเลี้ยวเข้าซอยแล้วมอเตอร์ไซด์คันนั้นก็ตามไป เขารู้ว่ามีคนตามมาตั้งแต่เมื่อไร ฉันนะไม่รู้อะไรเลย (T.T)
“เลี้ยวตามไปเลยค่ะลุง” ไม่นานเฮจอดรถกะทันหัน รถมอเตอร์ไซด์ที่ตามมาเกือบจะเบรกไม่ทัน
เฮเดินเข้าไปหาผู้ชายคนนั้น กระชากคอเสื้อให้ลงจากรถมอเตอร์ไซด์แล้วเหวี่ยงเขาลงไปกองกับพื้น
“ลุงจอดก่อน เท่าไหร่อ่ะ”
ฉันจ่ายเงินให้ลุงแล้ววิ่งไปหาเฮทันที
“มันเกิดอะไรขึ้น เฮ เขาเป็นใคร” ผู้ชายคนนั้นรีบถอดหมวกกัน น็อก แล้วก็พูดอะไรซักอย่าง “เอะ! หน้าคุ้น ๆ ฉันนึกออกแล้ว...กรี๊ด..กรี๊ด... นี่เขา ใช่..ใช่ จริง ๆ เฮซอง คิมเฮซอง ตัวเป็น เป็น กรี๊ด”
ฉันผลักเฮกระเดนออกไปไกล
“เธอรู้จักมันเหรอ” เฮถาม
“เขาก้อซุปเปอร์สตาร์เกาหลี ชื่อที่ฉันตั้งให้นายก็คือชื่อของเขา ฉันขอโทษแทนเขาด้วยนะคะ”
เขาจะฟังเข้าใจมั้ยเนี้ย
“เอม ซอรี่” เขาน่า จะเข้าใจกว่า เขายิ้มให้ฉัน รอยยิ้มของเขาทำให้ฉันแทบลืมหายใจ หล่อมาก หล่อกว่าดูในทีวีเสียอีก พอฉันรู้ตัวว่าจ้องเขานานเกินไปแล้ว ฉันจึงพยุงเขายืนขึ้น
“อะไรนักหนานี้เธอถอยไป” เฮดึงฉันออกมาจาก คิมเฮซองซุปตาร์
“นายเป็นใครทำไมต้องตามฉันมาด้วย” ฉันไม่เคยเห็นเฮซองเครียดอย่างนี้มาก่อน
“เขาไม่เข้าใจที่นายพูดหลอกเฮ” เขาหันมาทำตาเขียวใส่ฉันแล้วหันกลับไปทางเดิม
“ + + + + + + + + + + + + + + + +” เฮ ถามเขาใหม่เป็นภาษาเกาหลี
“ + + + + + + + + + + + + + + + +” คิมซอง ตอบเป็นภาษาเกาหลี
“ + + + + + + + + + + + + + + + +” เฮ พูดอีก
“ + + + + + + + + + + + + + + + +” คิมเฮซอง ตอบอีกครั้ง
“นี้นายช่วยอธิบายให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม ฉันอยากรู้” ฉันโวย ก็คนมันอยากรู้นิ
“นายคิมเฮซองของเธอเขาบอกว่ารู้จักฉัน”
“นายนี้ก็ พูดอะไรก็ไม่รู้ เขาเป็นของฉันที่ไหนละ” ระหว่างที่ฉันกำลังเขินอาย เฮซองก็ทำหน้าตาเสียอารมณ์
“เขาบอกว่าเขารู้จักฉัน” เขาย้ำอีกครั้ง ฉันได้สติเมื่อเขารู้จักเฮ ก็แสดงว่า เฮเป็นคนเกาหลี แต่เฮทำไมพูดภาษาไทยได้ละ
“แล้วเขาว่ายังไงต่อ”
“เขาบอกว่าเขาเป็นเพื่อนของฉัน...แต่ฉันว่าไม่น่าเป็นไปได้ ฉันออกจะเกลียดขี้หน้ามันด้วยซ้ำ”
“เขาอาจจะพูดจริงก็ได้ อย่างน้อย ก็ดีที่มีคนรู้จักนาย บางทีเขาอาจจะทำให้นายจำอะไรที่เกี่ยวกับตัวเองขึ้นมามั่งก็ได้”
“เธอว่างั้นเหรอ แล้วจะเอาไงกับหมอนี่ดี” เขาถามฉัน
“ถามเขาก่อนว่าเขาพักอยู่ที่ไหน” เฮทำตามที่ฉันบอก
“+ + + + + + + + + + + + + + + + +” เฮถาม
“+ + + + + + + + + + + + + + ++ + +” คิมเฮซองตอบ
“เขาบอกว่าพักอยู่ที่โรงแรมควีนดากอลที่ฉันไปเล่นดนตรี เขาเห็นฉันเล่นดนตรีที่นั้น แล้วก็เลยตามฉันมา”
“ไหนๆ เราจะไปเที่ยวอยู่แล้ว นายชวนเขาไปด้วยกันสิ นายจะได้ถามเขาเรื่องในอดีตของนายด้วย”
เขาเอามือกอดอก อารมณ์เสียอีกแล้ว ฉันนะช่วยนายอยู่นะ แต่ก็มีอีกในหนึ่งก็อยากอยู่กับซุปตาร์คนโปรดของฉันนิ
“นายชวนสิ นา นะ” ฉันสะกิดเขาให้พูด
“ไหนบอกว่าจะไปเที่ยวกัน 2 คนไง”
“ถ้านายชวนเขาไปด้วยจะให้ฉันทำอะไรให้ก็ยอมละ” เขาเริ่มคิด
“แน่ใจนะ” สายตาเจ้าเล่ห์อีกแล้วไม่น่าไว้ใจเลยเฮะ
“+ + + + + + + + +” เขาพูดชวน คิมเฮซอง ซุปตาร์ คิดว่านะ
“Ok” เขาตกลงไปกับเรา
“แล้วจะไปไหนละ” เขาถามฉัน
“ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติ” แล้วเขาก็หันไปบอกกับ คิมเฮซอง
“นายช่วยถามเขาหน่อยได้มั้ย ถ้าเขารู้จักนายจริง ๆ” ฉันอยากรู้อีกแล้ว
“ถามไร”เขาถอนหายใจแรงแสดงถึงความรำคาญ
“ถามว่า นายชื่ออะไร” เขาคงกำลังคิดได้
“จริงสิ...ฉันไม่อยากให้เธอเรียกฉันชื่อนี้ มาตั้งแต่แรก”
“+ + + + + + + +” เฮถาม
“คิมจีซู” คิมเฮซองตอบ
“นายชื่อ คิมจีซู”ฉันทวน
“ฮือ! เขาว่านะ ฉันว่ามันก็คุ้น ๆ นะคงใช่”
“คิมจีซู จีซูแปลว่าอะไรล่ะ” ฉันถามต่อ
“จีซู แปลว่า น้ำที่นิ่งสงบเหยืกเย็น”
“ไม่เหมาะสมกับนายเลยแฮะ”
“เฮอะนา คิมจีซู ยังดีกว่าใช้ชื่อของคนอื่น ต่อไปนี้ฉันชื่อ คิม จี ซู”
“ไม่คุ้นเลย แต่ก็ Ok ไปได้แล้วฉันหิว แล้วบอกเขาด้วยว่าตามมา”เขาบ่นนิดหน่อย
หลังจากที่เขารู้ว่าเขาชื่อ คิม จี ซู ดูเขาเครียดมากกว่าเดิม เขาเงียบไปตลอดทาง
“นายคิดอะไรอยู่เหรอเครียดเชียว” ฉันไม่อยากอยู่ในบรรยากาศอึมครึม แบบนี้ แล้วก็เป็นห่วงเขาด้วย
“ไม่เป็นไร แค่คิดว่าทำไมเขาถึงมีนามสกุลเหมือนฉัน นายคนนี้ไม่ใช่แค่เพื่อนแน่ ๆ แต่ทำไมบอกว่าเป็นแค่เพื่อน” เขาเครียดเรื่องนี้นี่นะ คิมเฮซองเป็นคนดียะ ฉันรู้ดีเพราะฉันเป็นแฟนคลับของเขา
“เขาก็ไม่เห็นจะร้ายกาจอะไรนิ นายต่างหากที่ร้ายกับเขา” ฉันเถียงแทน
“ไม่ทันไรก็เข้าข้างแล้วนะ เมื่อกี้ทำไมไม่ไปซ่อนท้ายมันเลยละ” อารมณ์เสียอีกแล้ว
“ฉันว่านายไม่ควรชื่อ คิมจีซู เลย นายควรจะชื่อนายโวยวายมากกว่า” ฉันอารมณ์เสียมั่งเป็นไรละ
“นี่เธอทะเลาะกับฉันเพื่อหมอนั้นเหรอ” ฉันเริ่มเสียใจที่ฉันพูดกับเขาไม่ดีแล้วละสิ
“เธอจะให้ฉันเชื่อว่านายนั้นมาดี ทั้งที่มันโกหกหน้าตายว่าเป็นเพื่อนฉันนี่นะ” เขาโกรธฉันมากขนาดนี้เลยเหรอ
“นายก็ลองคบเขาเป็นเพื่อนไปก่อนไม่ได้หรือไง อย่างน้อยเขาก็เป็นคนที่รู้จักนาย” ฉันบอกเขาด้วยเหตุผล
“เงียบได้แล้วฉันต้องการสมาธิขับรถ” เขาตัดบท ไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้เลยทำไมต้องคิดมากมายอย่างนี้
พอไปถึงที่อุทยานแห่งชาติ ฉันซื้ออาหาร และเครื่องดื่ม คิมเฮซองยื่นเงินให้กับฉัน คิมจีซูปัดมือเขาออกไป แล้วพูดอะไรไม่รู้กับเขา แล้วก็ลวงกระเป๋ายื่นเงินให้กับฉันแทน คิมเฮซองค่อนข้างจะเคืองนิด ๆ แต่ คิมจีซูไม่สนใจ
“ตอนนี้มีเงินแล้วอวดเบ่งนะ” ฉันยิ้มให้ปลื้มใจนิด ๆ
“พูดมาก รีบไปสิหิวแล้ว” เขาหันหน้าหนี แล้วก็เดินนำไปก่อน
“ไปเถอะคะ คิมเฮซอง ไม่ต้องสนใจเขา” ฉันวักมือเรียกคิมเฮซองให้เดินตามมา เขายื่นมือมาช่วยฉันถือของ สมแล้วที่เป็นซุปเปอร์สตาร์คนโปรดของฉันแมน แมน เป็นสุภาพบุรุษ ไม่เหมือนกับอีตา คิมจีซู เดินตัวเปล่าไปโน้น
เส้นทางที่เราเดินไปบรรยากาศเย็นสบาย เสียงน้ำที่ไหลผ่านโคดหิน สายลมที่พัดผ่านร่างกาย เสียงนกร้อง ทุกอย่างลงตัวไปหมด เหมาะสำหรับการพักผ่อนจริง ๆ
ฉันได้แต่ยิ้มให้กับคิมเฮซอง อีตาบ้า คิมจีซู ก็เดินไปตั้งไกลจะให้มาช่วยเป็นล้ามช่วยแปลหน่อยก็ไม่ได้ ฉันได้แต่หันไปยิ้มให้กับเขาแล้วก็หันกลับมาถอนหายใจเฮือกใหญ่
“what your name” เขาถามชื่อฉัน ก็ยังดีที่ฉันยังพอฟังรู้เรื่อง (ถ้าไม่รู้ฟังไม่เข้าใจก็ไปตายซะยายน้ำริน)
“my name is น้ำริน”
“นัมริน”เขาพูด
“ โน น้ำริน” ฉันทวนชื่ออีกครั้ง
“โอ เค นัมริน”เขาพูดซ้ำอีกครั้ง
“ได้ นัมรินก็นัมริน เก๋ไปอีกแบบ” ฉันยิ้มให้เขาแล้วหันไปดูคิมจีซูเขาเดินไปโน้นไม่รอกันบ้างเลย ฉันแอบน้อยใจนิดหนึ่งที่เขาไม่สนใจ แต่ก็ชั่งเฮอะ ข้างกายฉันมีก็มีซุปตาร์สุดหล่อที่ฉันอยากพบเจอมานาน และคิดว่าจะไม่มีโอกาส เขาดูสง่า สูงมากกว่าที่ฉันคิด ทรงผมรับกับรูปหน้าอาจจะดูสั้นกว่าที่ฉันเห็นในอินเตอร์เน็ตที่คิดว่าอัพเดทแล้ว รูปร่างหน้าตาผิวพรรณไม่มีที่ติก็เขาเป็นซุปตาร์นี่นา ฉันสังเกตผู้หญิงที่เดินผ่านเขา ตาแทบจะทะล้นออกมาอยู่แล้ว รังสี หวิ่ง ๆ ของเขาทำให้ผู้หญิงน่ารักอย่างฉันยังต้องอาย อิ อิ
เขาเงยดูนกที่ส่งเสียงร้อง เสียงของมันเหมาะสมกับตัว เป็นนกขมิ้นนั้นเอง ตัวของมันใหญ่กว่านิ้วโป้งนิดเดียว ทีแรกก็มีตัวเดียวอีกไม่นานอีกตัวก็บินมามันคงเรียกหากันอยู่ ดูเขาจะชอบบรรยากาศแบบนี้เหมือนที่ฉันก็ชอบเช่นกัน ฉันกับพี่ชอบมาที่นี้บ่อย ๆ เพราะว่าอุทยานแห่งชาติที่นี้อยู่ในเมืองเชียงใหม่ ไม่คิดเลยว่าอุทยานที่สวยและมีบรรยากาศที่ดีอย่างนี่จะอยู่ในตัวเมืองได้ เขาหันหน้ามายิ้มให้ฉันบ่อย ๆ เหมือนกับจะขอบคุณที่ชวนเขามา ฉันก็ยิ้มตอบ ตอนนี้เหมือนมี คิมเฮซองกับฉันอยู่กันแค่สองคนในโลกใบนี้ แต่ฉันก็อยู่ในความฝันได้ไม่นานก็มีมารพะจน ตุบ! ฉันเดินชนกับใครสักคนหนึ่งก็มัวแต่สนใจใบหน้าอันหล่อเหลาของ คิมเฮซองอยู่นั้นสินะ แรงชนแบบไม่ธรรมดาทำให้ฉันต้องแซจะล้ม ดีที่ คิมเฮซอง และ คิมจีซู ช่วยพยุงฉันไว้ได้ และตามด้วยเสียงพูดไม่สิคำด่ามากกว่า
“นี่เธอ บื่อหรือเปล่า ซุ่มซ่ามชะมัด ฉันอุตส่าห์อารมณ์ดีแล้วนะ”
“นี่เหรออารมณ์ดี ฉันพึ่งรู้” มองหน้าหมอนี่อารมณ์เสียจริง ๆ
“+ + + + + + + + +” คิมเฮซองพูดอะไรบางอย่างดูเขาจะเป็นห่วงมองจากสายตา และท่าทางที่เขาแสดง
“นี่ คิมเฮซอง ..อ้อ..ไม่ใช่สิ คิมจีซู คิมเฮซองเขาพูดว่าอะไร” ทีแรก คิมจีซู ก็ทำหน้าหมุ่ยไม่ยอมพูด แต่แค่ฉันทำหน้าโกรธเขานิดเดียวก็ยอมพูด
“เขาบอกว่า...เธอนะซื่อบื่อไง"
“นี่นาย” ฉันซะบัดมือออกจากเขาทันที
“เดินกินลมกันอยู่ได้ รีบหน่อยสิฉันหิวแล้ว” หมับ! เขาจับมือฉันแล้วดึงฉันให้เดินไปกับเขา (ไม่สิวิ่งต่างหาก)
“ฉันก็ไม่ลืมที่จะกวักมือเรียกคิมเฮซองให้ตามมา พอถึงน้ำตกฉันมองหาที่นั่งที่อยู่ใกล้ ๆ แต่ไม่มีเลย จะมีก็อีกฝั่งนึงของน้ำตก ซึ่งต้องข้ามสะพานแขวน ฉันเคยขึ้นไปครั้งหนึ่งเหมือนฉันกำลังลอยอยู่ในอากาศ ยิ่งถึงตรงกลางฉันเกือบก้าวขาไม่ออกเพราะสะพานจะแก่วงไปมา ฉันต้องจับราวเชือกไว้แล้วค่อยเดินไปช้า ๆ กว่าจะถึงอีกฝังก็ทำเอาใจแป้วเหมือนกัน
“นั่งฝั่งโน้นดีกว่าฝั่งนี้คนเยอะ “คิมจีซูเดินข้ามสะพานไปก่อน ฉันและ คิมเฮซอง ก็เดินตามไป สะพานเริ่มแกร่งแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะอีตาบ้า คิมจีซู นั้นแหละที่เดินยังกับจิงโจ้ เขาเดินข้ามไปก่อนจนถึงฝั่ง แล้วฉันก็ตามไปเป็นคนที่สองตามมาด้วย คิมเฮซอง เป็น คนสุดท้ายฉันกับคิมจีซูหันกลับไปมอง
“ฮะ....ฮะ ไอ้บื่อ คิมเฮซอง” คิมจีซูระเบิดเสียงหัวเราะจนตัวงอ
...โอ คิมเฮซอง ซุปตาร์ของฉันยืนตัวแข็งอยู่กลางสะพานเกาะเชือกไว้แน่น
“เธอไปดูดิ--ซุปตาร์ เธอฉี่ราดแล้วมังนะ ฮะ--ฮะ"(^O^)
“หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้นะ” ฉันรีบเดินกลับไปช่วยเขาทันที
ฉันยื่นมือให้เขาจับไว้
“นายไม่ต้องกลัวนะ Don’t worry” เขาจับมือฉันไว้ แล้วเดินตามฉันมาช้า ๆ ฉันยิ้มให้เขา เขาก็ส่งยิ้มกลับมา เสียงหัวเราะของใครบางคนเงียบลง
“เป็นตุ๊ดรึไงเรื่องแค่นี้ก็กลัว”คิมจีซูจับฉันแยกจาก คิมเฮซอง ทันที
“นายนี่ไม่ใช่เด็กแล้วนะทำไมต้องจูง”
“เอ้า! ก็นายเองไม่ใช่เหรอที่บอกให้ฉันไปช่วยเขา” ฉันละไม่เข้าใจนายนี่เลยเอาใจยากชะมัด
“ฉันบอกให้ไปช่วยแต่ไม่ใช้ให้เธอไปจูงมันมา” ฉันเริ่มอารมณ์เสีย
“เขาไม่ใช่ม้านะที่ต้องจูง”
“ฉันไม่ได้หมายถึงม้า แต่หมายถึง...”(-O-)
“หยุดนะ อย่าพูดไม่สุภาพนะ งั้นฉันจะไม่พูดกับนายอีก”
คิม จีซูหยุดพูดทันทีแต่อารมณ์ยังหงุดหงิดอยู่ จ้องมอง คิมเฮซองเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อ
คิมเฮซองก็เหมือนกันได้ที ยักคิ้วยิ้มเจ้าเล่ห์ยั่วอารมณ์เขาใหญ่ เฮ้อ! สองคนนี้ถ้าจะดีกันยาก (_ _!)
ฉันหาที่นั่งที่พอเหมาะปูเสื่อแล้วนั่งจัดเตรียมอาหาร คิมจีซูนอนอยู่ข้าง ๆ ฉัน เสียงน้ำที่ไหลผ่านและลมที่พัดผ่านร่างกายเบา ๆ ทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย คิมจีซูก็คงเหมือนกัน เขานอนหลับตาสนิท ตอนนอนนายนี่น่ารักเป็นบ้าเลย คิ้วที่หนา ได้รูปจมูกโด่งเป็นสันเรียวปากชมพูจนผู้หญิงอย่างฉันยังต้องอาย (น่าจุ๊บชะมัด (-,-))
“มองมาก...ระวังนะเดี๋ยวฉันจะท้อง”
“อุ๊” เขารู้ได้ไงว่าเราแอบมอง
“ไม่ได้แอบมองสักหน่อย” นายนะไม่มีทางอยู่ในสายตาฉันหลอกยะ”
“เหรอ” เขามองฉันแบบหาความจริง ฉันรีบหันมองทางอื่น คิมเฮซองนั่งอยู่เขามองดูทิวทัศน์โดยรอบ ไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าซุปตาร์ที่ฉันชื่นชอบ และอยากจะเจอมาตลอดเขามาอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว ความฝันแน่ ๆ
“โอ๊ย!” ฉันแอบหยิกตัวเอง คิมเฮซองหันมาแล้วส่งยิ้มให้ฉันจึงรีบกวักมือเรียกเขามากินข้าว
“คิมจีซู หิวไม่ใช่เหรอตื่นสิ” เขาบิดขี้เกียจนิดนึงแล้วลุกขึ้นกินข้าวพอทานข้าวเสร็จฉันก็เก็บขยะไปทิ้งแล้วก็มานั่งที่โคดหินเล็ก ๆ ที่ริมน้ำ ฉันจุ่มเท้าลงไปน้ำเย็นสบายถ้าหากฉันยังเป็นเด็กคงจะขอพ่อกับแม่ลงเล่นน้ำไปแล้ว ตอนฉันยังเล็กในช่วงหลังสงกรานต์สักวันที่ 18, 19 เมษายน พ่อกับแม่มักจะพาฉันไปเที่ยวน้ำตกทุกปี ฉันยังจำได้ฉันลงเล่นน้ำ ตั้ง3-4 ชั่วโมง จนผิวดำไปทั้งตัวเป็นความทรงจำที่ไม่เคยลืม มัวแต่คิดเพลินฉันหันไปดู คิมจีซูและ คิมเฮซอง เขากำลังคุยกันดูเหมือนจะเครียด ๆ ไปนิดแต่ก็ยังดีกว่าทะเลาะกัน ฉะนั้นไม่เข้าไปตอนนี้ดีกว่าปล่อยให้เขาคุยกันเองบางทีอาจจะทำให้อะไร อะไรดีขึ้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ