The Water's Pure Heart: ดวงใจของสายน้ำ

-

เขียนโดย Valentinlover

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 22.14 น.

  56 ตอน
  0 วิจารณ์
  52.00K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 10.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

45) จุ๊ย..วิกฤติถึงชีวิต

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

        

จุ๊ยกำลังล้างจานตอนที่ได้ยินเสียงประตูเปิด

เขาเดาว่าคงเป็นซัว

จะว่าไปเขากับซัวก็ยังไม่ได้คุยกันเรื่องที่ซัวไปลาออกจากโรงเรียนโดยพละการ

“กินข้าวรึยัง  มีเป็ดย่างนะจะกินไหม” จุ๊ยถาม

แต่ซัวไม่ตอบเดินขึ้นบันไดไป  จุ๊ยเลยสงสัย พอดีเขาล้างจานเสร็จ ก็เลยตามขึ้นไป  และก็ไปทันตรงชั้นลอย ตรงหน้าห้องนอนของป๊า

“เป็นอะไรอีกหล่ะ หรือว่าเหนื่อย”

ซัวส่ายหัวแต่ไม่ตอบ  แต่จุ๊ยสังเกตเห็นว่าเสื้อของซัวมีรอยเปื้อนก็เลยเดินเข้าใกล้ๆ  พอมองดีๆมันเป็นรอยเลือด

“นี่มันเลือดอะไรซัว” จุ๊ยถาม

“ไม่มีอะไร” ซัวตอบ แล้วรีบเดิน

แต่จุ๊ยคว้าตัวไว้ และใช้ความสูงใหญ่กว่าดึงตัวน้องชายให้หันกลับ

“เฮ้ยหน้าเอ็งไปโดนอะไรมา” จุ๊ยถามเพราะซัวมีรอยฟกช้ำที่ตาและมุมปากอย่างชัดเจน

“ไปต่อยกับใครมาไอ้ซัว”

ซัวทำผลุบตาลงต่ำ 

“บอกเฮียมาซัว” จุ๊ยคาดคั่น

“ไม่มีอะไรเฮียผมหกล้ม” ซัวหันหลังกลับ

“มึงจะปิดบังกูอีกเท่าไหร่ซัว” จุ๊ยโพล่งออกไป

ซัวหยุดเท้า

“มึง ไปลาออกจากโรงเรียนแล้วใช่ไหม  ทำไมมึงไม่บอกกู... แล้วนี่เกิดอะไรขึ้นมึงก็ยังไม่บอกกูอีก  มึงยังเห็นกูเป็นพี่มึงอีกเปล่าซัว ทำไมมึงทำกับกูแบบนี้ซัว”

แต่ซัวไม่ตอบแล้วเดินขึ้นบันไดไป

จุ๊ยใจร้อนจะตามไป  แต่ก็หยุดไว้เพราะนึกถึงคำพูดอาราอิ

ตอนนี้เขาร้อนเป็นไฟ  ถ้าไปคุยกับซัวตอนนี้ก็มีแต่จะทะเลาะกัน

 

อาราอิวางมือบนมือของจุ๊ย  อย่างแผ่วเบาตอนที่ฟังจุ๊ยเล่าจบ

“ก็ดีแล้วหล่ะ อย่างน้อยนายพยายามไม่ทำให้ทะเลาะกัน”

จุ๊ยถอนหายใจมองออกไปนอกรถ 

“แต่ ฉันก็อยากจะรู้อยู่ดีว่ามันไปต่อยกับใครมา  แต่ไหนแต่ไรไอ้ซัวมันใจปลาซิวจะตาย  นิดหน่อยก็หนี นิดหน่อยก็ถอยไม่เคยสู้ใครสักที  ตอนมันเข้าเรียนอาขีวะฉันยังห่วงมันจะโดนรังแก”

“วันนี้ซัวทำงานรึเปล่า” อาราอิถาม

“ไม่รู้สิ.. ลองโทรถามป๊าดู” จุ๊ยตอบ แต่มานึกได้ ก็สงสัย

“นายถามทำไม”

“ก็ถ้านายอยากรู้ก็ไปถามที่ร้านดูสิ  พนักงานในร้านน่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”

 

“หนู ก็ลาไปเป็นอาทิตย์ ส่วนเพื่อนอีกคนก็เข้ากะเช้าก็เลยกลับไปก่อนจะเกิดเรื่อง ที่เหลือก็พนักงานฝึกงานไม่รู้อะไรอยู่แล้ว” พนักงานสาวอธิบายหลังจากคิดเงินให้ลูกค้ารายหนึ่งเสร็จแล้ว

“แต่เดี่ยวผู้จัดการก็มาแล้ว  จะรอไหมหล่ะค่ะ”

จุ๊ยเอาโทรศัพท์มามองนาฬิกา

“ก็ได้ครับ” แล้วเขาก็หันไปสบตากับอาราอิที่พรางตัวด้วยแว่นตาดำและหมวก

 

ซัวเดินมาอย่างหมดอะไรตายอยาก  เขารู้สึกแย่มากๆ ที่หันหลังให้พี่ชายไปอย่างนั้นเมื่อคืน

ไม่ใช่ไม่อยากจะเล่า  แต่เฮียจะเข้าใจเขาง่ายๆอย่างนั้นเหรอ  แล้วเฮียจะเชื่อเหตุผลของเขาหรือเปล่าก็ยังไม่รู้

ซัวเงยหน้าขึ้นมองป้ายร้านสะดวกซื้อ...

“ไอ้ซัว” เสียงเรียกจากข้างหลัง

ทว่าซัวไม่ได้ทันได้หันไป ก็โดนไม้หวดลงไปกลางหลังจนล้มไป

ซัวตั้งหลักโดยสัญชาตฌานเอาตัวรอด รีบพลิกตัวกลับไปมอง

“ไอ้น้อย” เขาร้องออกมา

“มึงทำชีวิตกูพัง” น้อยคำรามโยนไม้ทิ้งแล้วก็ชักปืนออกมา

 

จุ๊ยมายืนอ่านนิตยสารอยู่ตรงใกล้กับประตูร้าน  แล้วเสียงวุ่นวายด้านนอกก็เรียกเขาให้หันไป

“ซัว” เสียงจุ๊ยร้องเสียงดัง แล้วถลันออกไปอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง

“เปรี้ยง” เสียงปืนแผดสนั่น

“เฮีย” ซัวร้องเสียงหลง  เพราะจุ๊ยเข้ากอดร่างเขาไว้เสียก่อนเสียงปืนจะดัง

จุ๊ยไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดในครั้งแรก  กำลังจะถามน้องชายว่าเป็นอะไรไหม  แต่พอจะอ้าปากพูด เลือดมันก็ทะลักออกมาจนเต็มปาก

แล้วความรู้สึกเจ็บแน่นก็โถมเข้ามา

"เฮีย" ซัวร้องผวากอดร่างพี่ชายไว้แน่น

 

น้อยเห็นท่าไม่ดีแต่ก็ยังจะยิงซ้ำ เขาจ่อปืนไปเลือกที่หัวของซัว

ฉับ พลัน กลับมีร่างสูงใหญ่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วกระแทกปืนในมือจนหลุดกระเด็น ด้วยการเตะ  จากนั้นก็จับล็อกแขนแล้วกระแทกหมัดใส่หน้าไปหลายครั้งจนน้อยสงบไปคามือ

“จุ๊ย”อา ราอิปล่อยร่างที่สิ้นฤทธิไปแล้ว  เข้าไปหาจุ๊ยที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของซัว  เขาถอดเสื้อตัวเองออก กดลงไปบนบาดแผลที่อยู่กลางหลัง

“รถพยาบาล เรียกรถพยาบาลที” เขาตะโกน กอดร่างของจุ๊ยไว้มือกดไว้ที่บาดแผล

"อาราอิ.." จุ๊ยเรียก

"มืดจังเลย..ฉันมองไม่เห็นแล้ว"

ใน อ้อมกอดของอาราอิแม้จุ๊ยจะรู้สึกอบอุ่น  แต่เขาก็รู้สึกง่วงเกินกว่าจะลืมตา  จากนั้นก็เขาก็ดิ่งสู่ห้วงดำมืด โดยมีเสียงอาราอิเรียกเขาซ้ำๆติดตามมาด้วย

"จุ๊ย จุ๊ยเข้มแข็งไว้นะ  หมอมาแล้ว  จุ๊ย จุ๊ย"

 

หน้าห้องพยาบาลอาราอิยืนพิงกับพนังที่ข้างประตูที่ทีมแพทย์พึงจะเข็นร่างของจุ๊ยเข้าไป

เสียงเรียกข้าวของโทรศัพท์ทำให้เขาขยับล้วงมันออกมา

“ไม่รู้เหมือนกัน  เข้าไปนานแล้ว” เขาตอบคำถามของฮ้อยที่น่ากำลังเร่งเดินทางมาโรงพยาบาล

“หมอกำลังช่วยกันเต็มที่”

ซัวที่นั่งอยู่กับตี้กับแหวนที่พึ่งมาถึงไม่นานก็ร้องไห้ออกมาอีก

จนตี้ต้องเอาตัวน้องมากอด

“ไม่เป็นไรหรอก เฮียของมึงดวงแข็ง  หมอกำลังช่วยเต็มที่แล้ว”

อาราอิกดโทรศัพท์ทิ้ง พิงตัวลงอย่างเดิมเงยหน้าขึ้นมองเพดานก่อนจะหลับตาลง

“เข้มแข็งนะจุ๊ย  เข้มแข็งเข้าไว้ อย่าทิ้งฉันไป”

 

 

ตี้สนทนากับแพทย์เจ้าของไข้เรียบร้อยก็เดินกลับเข้ามาภายในห้อง

 

อาราอินั้งอยู่ชิดเตียงโดยกุมมือจุ๊ยเอาไว้ด้วยตาก็มองที่ใบหน้าที่กำลังอยู่ในอาการสลบอยู่

 

“หมอบอกว่าผ่ากระสุนออกเรียบร้อย  กระสุนไม่แตก  ไม่โดนอวัยวะสำคัญ ถือว่าดีมาก” ตี้ตบบ่าอาราอิเบาๆ

 

 

 

ในความืดมิดนั้น  จุ๊ยรู้สึกเหมือนตัวเองยังเดินไปเรื่อยๆ  แล้วเขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นหู

 

"พี่ไตร"..

 

 

 

จุ๊ยรู้สึกคอมันแห้งจนเป็นผง  เขาจึงพยายามลืมตา  แล้วออกเสียงเรียก

 

“อาราอิ... ฉันหิวน้ำจัง”  เขาออกเสียงอย่าอยากลำบาก  ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเรียกชื่อนั้นออกไป

 

เสียงเคลื่อนไหวอย่างฉับพลัน  แล้วก็วิ่งมา  ดวงหน้าอาราอิมาอยู่ต่อหน้าจุ๊ย

 

“น้ำเหรอจุ๊ย รอเดี่ยวนะ” อาราอิรีบหันไปรินน้ำใส่แก้ว  แล้วก็หยิบหลอดที่เตรียมเอาดึงน้ำมาครึ่งหลอด

 

“ค่อยๆนะ” อาราอิกล่าวมือหนึ่งช้อนหัวจุ๊ยขึ้น แล้วค่อยๆหยดน้ำใส่ปากจุ๊ยที่ละหยดจนหมด  แล้วก็หันไปทำซ้ำอีกครั้ง

 

“เป็นไงดีขึ้นไหม” เขาถาม

 

จุ๊ยมองไปรอบๆ

 

“โรงพยาบาลเหรอ.. “ จุ๊ยถาม

 

“ใช่สิ  นายสลบไปวันกับคืนเลยนะ” อาราอิตอบ

 

จุ๊ยค่อยๆลำดับเหตุการณ์

 

“แล้วซัวหละ” จุ๊ยถาม

 

“ไม่เป็นไร พึ่งกลับไปเมื่อกี้นี้เอง  เดี่ยวฉันโทรตามให้นะ” อาราอิกล่าว

 

แต่จุ๊ยกลับจับมือเขาไว้

 

“ไม่ต้องหรอก เดี่ยวค่อยคุยกันก็ได้”

 

แล้วจุ๊ยก็เงียบไป เขามองเพดานนิ่ง

 

“อาราอิ  ฉันฝันเห็นพี่ไตรด้วยหล่ะ”

 

อาราอิวางโทรศัพท์ที่หยิบออกมาวางไว้บนโต๊ะ

 

“พี่ไตรถามว่าฉันเป็นยังไงบ้าง  คิดถึงพี่เขาบ้างไหม” จุ๊ยไอออกมา อาราอิเลยเอาน้ำให้ดื่ม

 

“แล้วนายตอบว่ายังไง” อาราอิถาม

 

“ก็บอกว่าสบายดี  แล้วพี่เขาก็บอกว่า ให้ฉันกลับไปได้แล้ว  นายกำลังรอฉันอยู่” แล้วจุ๊ยก็หันมา

 

“พี่เขาบอกว่านายเป็นห่วงฉันมากเลย  ให้ฉันรีบกลับ นายจะรอนาน”

 

อาราอิจึงลุกไปยืนชิดเตียง

 

“ฉันก็ห่วงนายจริงๆนี่น่า... ฉันกลัวมากเลยนะตอนที่นายโดนยิง  นายชอบทำให้ฉันเป็นห่วงอยู่เรื่อยเลย” อาราอิเอามือจับแก้มจุ๊ย

 

จุ๊ยยิ้มจางๆ  แล้วเขาก็จับมืออาราอิไว้

 

“ฉันก็กลัวอาราอิ... กลัวว่าจะตาย  แล้วฉันจะไม่ได้เห็นายอีกเลย”

 

 

 

เรื่อง ของซัวก็คือซัวตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนอาชีวะเพราะไม่ต้องการเรียนหนังสือ อีกแล้ว  เขาคิดว่าหัวอย่างเขาเรียนไปก็เปล่าประโยชน์  เขาก็เลยตัดสินใจออกมาทำงาน เพื่อจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์จะได้หาลู่ทางทำการค้าเอง ทดแทนธุรกิจของป๊าที่เริ่มมาถึงทางตัน

 

 ส่วน เรื่องของน้อย  ก็คือน้อยเป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาก่อน  และมาทำงานด้วยกัน  แต่น้อยแอบขโมยสินค้าในร้านออกไปบ่อยๆ แถมยังเป็นสายให้โจรเข้าปล้นร้านเมื่อหลายวันก่อน ซึ่งซัวไม่ได้ไปทำงานพอดี  ซัวรู้เรื่องก็เลยไปแจ้งกับผู้จัดการ  ทำให้ผู้จัดการไล่น้อยออก แถมจะเรียกตำรวจมาจับ  น้อยจะหลบหนีซัวก็พยายามขัดขวางแต่ก็ไม่สำเร็จ

 

แล้วน้อยก็ย้อนกลับมาพร้อมอาวุธเพิ่อจะล้างแค้นซัว  ก็เลยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

 

“ผมขอโทษเฮีย เพราะผมแท้ๆ เฮียถึงได้เจ็บตัว” ซัวก้มหน้าลง

 

จุ๊ยถอนหายใจ ตอนนี้เขากำลังนอนกึ่งนั่ง  จึงสามารถจับหัวของน้องชายได้ถนัด

 

“มึงไม่เป็นไรกูก็ดีใจมากแล้ว”

 

ซัวก็เลยโผเข้ากอดจุ๊ย  แต่จุ๊ยร้อง

 

“เจ็บๆ อย่าพึ่งกอด”

 

ซัวตกใจรีบถอยออกมา

 

เฮียตี้เดินมาข้างๆซัวเอามือวางบนไหล่ของเขา

 

“เอาหล่ะ  ในเมื่อมันไม่ได้ร้ายแรงอะไรแล้ว ก็ถือว่าโอเค”

 

อาราอิหันไปมองไฮ้จุ๊งที่นั้งไขว้ห้างมองลูกชาย  ปกติไฮ้จุ๊งจะไม่ค่อยแสดงอารมณ์  แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ายิ้มออกมา

 

แต่จู่ประตูก็เปิดพรวดออกมา

 

“จุ๊ยเป็นยังไงบ้าง” พ๊งหัวเดินฉับๆมาจับแขนจุ๊ย แล้วก็พิจารณาตัวจุ๊ย

 

“ป๊าพึ่งกลับจากประขุม รู้ก็รีบมาเลย”

 

จุ๊ยมองหน้าไฮ้จุ๊งก่อนจะตอบ

 

“ไม่เป็นไรแล้วครับ”

 

พ๊งหัวพยักหน้าอย่างคลายใจ แต่ไม่วายหันไปเล่นงานไฮ้จุ๊ง

 

“ลื้อดูแลลูกยังไงให้มันไปโดนยิง เป็นพ่อภาษาอะไร”

 

ไฮ้จุ๊งหัวเราะหึๆ

 

“อั๊วก็เลี้ยงให้มันได้พจญภัยบ้าง  เป็นผู้ชายก็ต้องโลดโผนบ้างเป็นธรรมดา”

 

“เฮ้ยลื้อพูดไม่ถูก  นี่มันเสี่ยงตายแล้วไม่ใช่โลดโผน  เกิดลูกของอั๊วตาย  อั๊วจะเอาเรื่องลื้อ”

 

“อ้าว ก็ลื้อไม่มาดูแลมันเอง  อั๊วก็ดูแลไปตามกำลังอั๊ว ลื้อจะมาบ่นอะไร”

 

จุ๊ยทำหน้าแหย่ๆตอนมองสองบิดาเถียงกันไปเถียงกันมา

 

ส่วนตี้กับซัวก็ถอยออกมานั่งที่โซฟากับอาราอิ

 

“ป๊า กับ ป๊าเลิกทะเลาะได้แล้วครับ นี่มันโรงพยาบาล” จุ๊ยกล่าวออกมาในที่สุด

 

 

 

เพราะจุ๊ยบาดเจ็บกะทันหันทำให้งานที่รับไว้แล้วต้องยกเลิกไป  หนึ่งในงานนั้นก็คืองานวันเกิดของสรรค์

 

แต่อ้อดก็ยังได้รับเชิญให้ไปงาน  ฮ้อยก็ไม่ว่างเขาเลยต้องไปคนเดียว

 

แม้ กระนั้น เพื่อนของสรรค์ที่เป็นสาวประเภทสองบ้าง และเกย์บ้าง ชายแท้หญิงแท้บ้างก็ดูเป็นมิตรดี  ดังนั้นเขาจึงเพลิดเพลินไปกับงานพอสมควร

 

จนกระทั้งงานเลิก  อ๊อดก็รู้ว่าหัวมึนตึงๆ  แต่ไม่ถึงขนาดเมา 

 

สรรค์ อาสามาส่งที่บ้าน  แต่พอไปถึงครึ่งทาง  ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนที่ล่วงหน้ามาในเส้นทางเดียวกันว่ามีด่านตรวจแอลกอ ลฮอลล์ อยู่ข้างหน้า

 

สรรค์ก็เลยต้องจอดรถ

 

“ไม่เป็นไรผมกลับแท็กซี่ก็ได้” อ๊อดบอก

 

สรรค์หันมามองหน้า ก่อนจะยิ้มจางๆ  บีบไปบนไหล่ของอ๊อด

 

“หรือว่าอ๊อดจะไปที่อื่นก่อนไหม รอให้เลิกด่านหรือไม่รอพี่แอลกอลฮอลล์ลดก่อน”

 

สัมผัสของสรรค์สร้างความตื่นตัวให้อ๊อด  เขาจะขยับเบี่ยงแต่มือของสรรค์ปล่อยก่อน  ทว่ากลับมาบนตักของอ๊อด

 

“พี่ชอบอ๊อดมากเลยนะ  ตั้งแต่ได้เห็นรูปในเฟสบุ๊ค”

 

อ๊อดหันมาสบตาด้วย  แววตาของสรรค์จ้องลึกในตาของอ๊อด

 

มือของสรรค์สัมผัสอย่างแผ่วๆ  แต่สร้างความเสียวซ่าน แล้วกืเลื่อนไปบนเป้ากางเกง  สัมผัสนั้นยิ่งสร้างความตื่นเต้นให้อ๊อด เขาถึงก้บสะท้านกาย

 

“ไปต่อที่ห้องพี่ไหม” สรรค์กล่าวแล้วขยับมาจูบข้างหู อ้อยอิงที่ติ่งหูของอ๊อดหลับตาลงครางฮืมออกมา

 

 

 

บ้าน ของสรรค์เป็นห้องชุดสุดหรูบนคอมโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยา  พอเข้าไปในห้อง  สรรค์ไม่ได้เปิดไฟด้วยซ้ำไป  แต่ดึงตัวอ๊อดมาแล้วระดมจูบไล่บนซอกคออย่างเร้าร้อน

 

เขาดันให้อ๊อดพิงกับประตูห้อง

 

มือข้างหนึ่งจับล้วงเข้าไปในเสื้อแล้วไล่นิ้วบนยอดอกของอ๊อด  อีกมือลูบบนเป้ากางเกงที่คับแน่นเต็มที่

 

จุบต่ำลงเรื่อยๆ  มือสองข้างก็ช่วยกันปลดกางเกงยีนต์ของอ๊ฮดเพื่อปลดปล่อย

 

อ๊อดเกร็งตัวอย่างเต็มที่เมื่อถูกสัมผัสที่จุดสำคัญ

 

เขาครางออกมามือทั้งบีบหัวไหล่ของพี่สรรค์  เขาส่งเสียงครางสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของพี่สรรค์

 

เหมือนบทเพลงชื่อดัง Need You Tonight ของ  INXS จังหวะสม่ำเสมอ  และราบรื่น  ทว่าเร้าใจด้วยจังหวะด้วยกลอง และเบสสะเทือนกระตุ้นอารมณ์

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา