The Water's Pure Heart: ดวงใจของสายน้ำ

-

เขียนโดย Valentinlover

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 22.14 น.

  56 ตอน
  0 วิจารณ์
  53.14K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 10.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

24) บอกความจริง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

         

อ๊อดวางกล่องไวโอลินลงบนโต๊ะกลางที่กลุ่มเพื่อนนั่งอยู่

“เอามาทำไม” ฮ้อยถาม มือก็พลิกนิตยสารที่ยืมเพื่อนร่วมคณะมาอ่านเล่น

“ไม่มีวิชาเรียนดนตรีไม่ใช่เหรอ”

จุ๊ยมองหน้าเพื่อน

“กูไปรับงานเขาไว้  เขาแอตFace มาแล้วก็เสนองานให้ไปเล่น” อ๊ฮดตอบแล้วนั่งลงข้างจุ๊ย

แล้วก็ทิ้งตัวนอนลงบนตักจุ๊ย

“ง่วงวะ  นอนแป่บนะ ปลุกด้วย”

จุ๊ยมองลงมาเห็นอ๊อดหลับตาจริงๆอย่างปาก

แล้วเขาก็นึกถึงวันหนึ่งที่เมื่อปีที่แล้ว  ที่อ๊อดนอนลงแบบนี้  แล้วเขาก็สังเกตเห็นเสื้อที่ปักมีอักษรที่อ่านได้ว่า

เมืองฟ้า  ยอดสิริตรา

“อ๊อด” จุ๊ยดันอ๊อดให้ลุกขึ้น  แล้วก็ดึงแขน

“มากับกูหน่อยสิ”

 

ห่างออกมาพอสมควร  จุ๊ยจ้องตาอ๊อดอย่างจริงจัง

“มึงเป็นเพื่อนกูที่สนิทมาก  ถึงไม่ได้อยู่ด้วยกันมานานแบบไอ้ฮ้อย  แต่กูก็สนิทกับมึงมาก” จุ๊ยกล่าวแล้วหยิบโทรศัพท์มือถืออกมา

“จงอธิบายภาพนี้อย่างเหมาะสม 10คะแนน”

อ๊อดอึ้งไปเมื่อได้เห็น

เป็นภาพของเขาเอง  เดินกอดคอเมืองฟ้า

“มึงสองคนสนิทกันมากขนาดจับเนื้อต้องตัวกันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

อ๊อดถอนหายใจ

“ก็ปีกว่าๆแล้ว ที่กูกับเมืองคบกัน”

แล้วอ็อดก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง

“ก็อย่างนี้ล่ะ กูก็ไม่รู้จะเริ่มต้นคุยกับพวกมึงยังไง” อ๊อดมองลงไปในสระน้ำของมหาวิทยาลัย  เห็นเต่าสองตัวโผล่ผิวน้ำมามองหาอาหาร

จุ๊ยยังไม่ได้พูดอะไร

อ๊อดจึงพูดต่อ 

“มึงรังเกียจไหมวะจุ๊ย... รังเกียจเพื่อนที่เป็นเกย์ไหมวะจุ๊ย”

ความเงียบทำให้อ๊อดอึดอัด  แต่เขาก็ยังไม่กล้าหันมามองหน้าจุ๊ย

“ไอ้สัตว์” แล้วตบป๊าบที่ไหล่อย่างแรง จนอ๊อดถลาจะลงสระ

“เฮ้ยๆ” จุ๊ยดึงไว้แขนมันไว้แถมรวบเอว

“ไอ้จุ๊ยนี่มึงเล่นเหี้ยอะไร” อ๊อดท้วง เขาใจหายวาบ

“กูว่ายน้ำไม่เป็นมึงก็รู้”

จุ๊ยหัวเราะ

“ก็มึงน่ะดูถูกกู”

อ็อดสะดุดหู

จุ๊ยจึงเอามือกอดคอไว้

“มึง จำไว้นะเฟ้ยกูไม่มีทางรังเกียจเพื่อนกู  กูรักเพื่อนกู  ไม่ว่าเพื่อนกูจะชอบแบบไหน อย่างไรมันก็คือเพื่อนกู  มึงอย่าหมิ่นน้ำใจกูอีก  ไม่งั้นกูจะให้มึงลงไปนอนในบ่อ  ให้เต่าตอดหำด้วนไปเลย” แล้วก็ทำท่าจะดันอ๊อดให้ตกสระ

“เฮ้ยๆ” อ๊อดกอดเอวจุ๊ยแน่น

“ลงไป” จุ๊ยเอาเอวกระแทกอีกที

“ไอ้เหี้ย”

“ลงไปซ้อมไว้ก่อน  เวลากูถีบจริงจะได้ไม่เขิน”

“พ่อมึงเหอะ ไอ้จุ๊ยกูกลัวจริงๆนะมึง”

“ลงไป..”

“ไอ้เหี้ยจุ๊ยกูว่ายน้ำไม่เป็น”

ตอนนั้นอ๊อดกอดจุ๊ยจนแน่น... แล้วเจ้ากรรม รถโดยสารของมหาวิทยาลัยก็วิ่งผ่านมา  คนในรถก็มองคอหัน

จุ๊ยก็คงทำได้แค่ยิ้มแห้งๆ ก่อนจะผละออกจากอ๊อด

“ไอ้สัตว์คนเข้าใจกูผิดหมด” จุ๊ยกล่าวพร้อมจัดเสื้อตัวเองให้เรียบร้อย

“มึงล่ะ สัตว์ มึงจะผลักกูตกน้ำ กูก็ต้องกอดมึงสิวะ” อ๊อดโต้

แล้วสองสหายก็กอดคอกันไปพร้อมหัวเราะแซวหยอกกันคิกคัก

“ผมให้ป๊าครับ” จุ๊ยวางซองเงินที่ได้รับมาจากการแสดงดนตรีไว้บนโต๊ะ

“เอามาให้ทำไม” ป๊าตอบ  โดยไม่มองมัน

“เอ็งมีใช้แล้วเหรอ”

“มี แล้วครับ  ผมเก็บไว้ใช้ส่วนหนึ่งแล้ว ส่วนนี้เอาไว้ให้ป๊าจ่ายค่าน้ำค่าไฟ” จุ๊ยตอบแล้วนั่งลงที่ต๊ะบัญชีเอาใบวางบิลและสมุดบัญชีและเอกสารอื่นๆมาวาง ไว้

บิดาเหลือบมามองเขา

“มัวแต่ไปตะลอนๆเล่นดนตรี  ประเดี่ยวก็เรียนตามเพื่อนไม่ทัน”

จุ๊ยเปิดสมุดบัญชี  ตีเส้นหน้า

“ไม่หรอกครับ  เพราะผมเรียนดนตรี  การเล่นคือการเรียน  ดังนั้นผมไปเล่นก็เหมือนกับไปเรียน แถมได้เงิน”

แล้วเขาก็หันไปเรียงเอกสารวางบิล

“เฮียมันมีแฟนแล้วใช่ไหม”

จุ๊ยเงยหน้ามองบิดา

“ป๊ารู้มาจากไหนครับ”

“หมวยออย  ลูกเจ๊กเอิน ที่อยู่ตลาดสดบอก  เคาบอกว่าเฮียของลื้อมีแฟนแล้วเป็นนักเรียนหมอเหมือนกัน”

จุ๊ยคิด

ออ ย... อ้อเพื่อนของหลิวที่เรียนโรงเรียนเดียวกัน  แต่ตอนนี้เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับจุ๊ย  และอยู่คณะที่ตึกเรียนใกล้กับตึกเรียนคณะของเฮียตี้  ไม่แปลกหรอกที่จะเคยเห็น  แต่เขาเองเรียนมาจนเข้าเทอมสองแล้วก็ยังไม่เคยเห็น เพราะตึกเรียนของเขาอยู่ห่างจากตึกเรียนของเฮียมาก  เจอกันเองยังนับครั้งได้

“ผมไม่ค่อยได้เจอเฮียที่ม.ครับ  เราเรียนคนละตึก  เอาไว้ผมถามให้นะครับ”

ป๊าไม่ได้ตอบในทันที เงียบไปแล้วกล่าวขึ้น

“เดี่ยวนี้มันทำอะไรไม่ค่อยเห็นหัวป๊าหรอก  บอกมันด้วย  ไม่ต้องแอบๆซ่อนๆ  พามาให้รู้จักกันก็ได้”

จุ๊ยนึกถึงคำพูดของเฮียตอนที่เขาถามเรืองนี้

“ครับแล้วผมจะบอกเฮียเอง”

ซัวกลับมาจากข้างนอกด้วยท่าทางอิดโรย

“ไปทำอะไรมา” จุ๊ยถาม

“เปล่า ก็ไปเรียน” ซัวตอบ

 จุ๊ยหันมองนาฬิกา แสดงเวลาสองทุ่มแล้ว

“เรียนจนถึงป่านนี้เลยเหรอ”

“ก็บอกว่าไปเรียนไง ฟังไม่รู้เรื่องเหรอเฮีย” ซัวตอบเสียงดัง หันมามองหน้าตาเขม็ง 

แต่เห็นตาจุ๊ยที่สบด้วยแล้วก็อ่อนลง  ก่อนเดินไปเงียบๆ

จุ๊ยก้มหน้าลงทำงานต่อไป เพื่อไม่ต้องถูกตั้งคำถามโดยป๊า  แต่ในใจยังสงสัยเรื่องแววตาคู่นั้นอยู่

 

กว่าจุ๊ยจะเคลียร์บัญชีเสร็จ ก็เกือบเที่ยงคืน  แต่จุ๊ยก็ยังอยากจะลองดูว่าน้องชายหลับหรือยัง

จึงเดินขึ้นไปที่ห้องนอนบนชั้นสี่  แต่พอดีกับซัวเดินสวนลงมา

ทั้งคู่เลยหยุดมองหน้ากันที่กลางบันได

“เฮียมีอะไรรึเปล่า”

จุ๊ยมองหน้าน้องชาย

“แล้วมึงละมีอะไรจะคุยกับเฮียไหม”

ซัวหันหนีแววตาของจุ๊ย

แต่จุ๊ยกลับดึงเขามาใกล้ๆ

“ไหน ดูสิว่าเป็นหนุ่มขึ้นไหม... ไอ้ห่า... สิวขึ้นนี่ สิวเครียดหรือสิวเงี่ยน  อย่างมึงนี่ไม่น่าจะมีสิวเงี่ยนเลยนี่หว่า  มีสาวมากดบัตรคิวรอ”

ซัวเผลอยิ้มออกมา

“อาบน้ำแล้วไปนอนไป  อย่าลืมเอาแป้งโรยไข่ด้วย  จะได้นอนสบาย” จุ๊ยขยี้หัว  แล้วกำลังจะเดินลงมา

แต่ซัวกลับดึงร่างเขามากอดจากข้างหลัง

“ผมขอโทษครับเฮีย ผมเสียงดังกับเฮีย”

จุ๊ยก็เอนหัวไปให้หัวตัวเองโดนหัวของซัว

“กู ก็ผิดที่พักนี้ไม่ค่อยได้ดุยกับมึง  ถ้ามึงอยากจะคุยกับเฮีย  ก็มาที่ห้อง  หรือไม่เดี่ยวกูไปเล่นดนตรีมา แล้วจะซื้อโทรศัพท์มาให้มึงจะได้โทรหาได้”

ซัวถอนหายใจแล้วตอบ “ผมมีแล้วเฮีย  ผมไปทำงานพิเศษได้เงินมา  ก็เลยเอาไปซื้อโทรศัพท์  รุ่นถูกๆน่ะเฮียทัชก็ไม่ค่อยไป”

จุ๊ยขานว่าอืม

“แล้วเป็นไงบ้างตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม” จุ๊ยถาม

ซัวไม่ตอบในทันที แต่แค่การกอดทีแน่นขึ้นก็ทำให้จุ๊ยรับรู้ได้

“ถ้า ผมไม่ไหว  ผมจะบอกเฮียเองเมื่อผมไม่ไหว  แต่ขอผมจัดการเองก่อนนะเฮีย  ผมอยากเก่งเหมือนเฮียที่จัดการได้ทุกเรือง  ผมอยากพึ่งตัวเองได้บ้าง”

จุ๊ยเอาหัวโขกมันสองทีเบาๆ

“หัว ขี้เลื่อยโง่ๆอย่างมึงจะทำอะไรได้  แต่ก็เอาวะ  โตแล้ว  เอาเป็นว่ากูไว้ใจมึง  ถ้ามึงอยากจะขอความช่วยเหลือ ก็อย่าลืมว่ากูยินดีจะช่วยมึงเสมอ”

“ครับเฮีย”

“ไปอาบน้ำเหอะ” จุ๊ยปลดมือแล้วหันมาขยี้หัวมันเบาๆ

“ไปทำงานร้านเซเว่นมาแหง่เลยใช่ไหม  กลิ่นนมกลิ่นไส้กรอกติดตัวมึงเต็มไปหมด เดี่ยวกูก็เผลอแดกเข้าไปหรอก ยิ่งหิวๆอยู่”

“เอาแขนไปกินก่อนไหมเฮีย...วันนี้ล้างท่อดักไขมันพอดีเลย”

“อี๊แล้วมึงมากอดกูเนี่ยนะ”

“อ้าวก็นึกว่าเฮียชอบ”

 

ซัวอาบน้ำเสร็จแล้ว  เขาก็เดินมานั่งขยี้หัวตัวเองบนเตียง

มองไปก็เห็นรูปถ่ายของเขากับเฮียจุ๊ยตอนที่เป็นเด็กที่ไปเที่ยวลาวกันแล้วยืนแฮ๊กท่ายอดมนุษย์กันหน้าประตูชัย

กี่ปีแล้วหนอ..

ตอนนั้นอาม๊ายังอยู่เลย 

พออาม๊าตายไป  ก็มีเฮียจุ๊ยนี่ล่ะเอาใจใส่ดูแลเขา  เฮียจุ๊ยเป็นทั้งเพื่อนและพี่ชาย  เป็นคนที่ซัวรักมากที่สุดในชีวิตนี้

“ผมจะพยายามครับเฮีย” เชากล่าวกับใบหน้าทะเล้นๆของพี่ชาย

 

 

จุ๊ยถอนหายใจยาวกับเรื่องที่อาจารย์บรรยายอยู่หน้าห้อง

“ไม่ยักรู้ว่าทฤษฏีมันจะยากเย็นขนาดนี้” จุ๊ยส่ายหัว

“ก็ แม่งเล่นมาตั้งแต่ห้าขวบ ไม่ยักเคยรู้ว่า...ไอ้บรรพบุรุษของเปียโนเป็นอะไร  แล้วกูก็ไม่อยากรู้ด้วย  กูก็แค่เล่นมัน  มันก็ส่งเสียงไปตามที่กูเล่น  มาเรียนแบบนี้กูก็เลยรู้เลย  วันหลังเจอเปียโนกูต้องกราบสักการะบรรพชนมันด้วยริปล่าวะ”

“เอาน่าเรียนๆไป” อ๊อดกล่าวแต่ตาก็จะหลับแล้ว

“เรียนแล้วเอามาเล่าให้กูฟังด้วย กูไปเฝ้าพระอินทร์ก่อนนะ  มีนัดเล่น Four season ให้ท่านฟัง”

ฮ้อ ยที่กำลังจดยิกๆหันมา  มันเป็นเอกลักษณ์ของฮ้อย  เพราะเขาไม่ได้มีพรสวรรค์เลิศเลออย่างจุ๊ย และไม่ได้เป็นศิลปินตัวจริงเหมือนอ๊อด  ดังนั้นการเรียนรู้ของฮ้อยจึงใช้ความขยันขันแข็งและใฝ่รู้

“แต่อาจารย์ก็บรรยายน่าเบื่อเกิน” ฮ้อยว่า

จุ๊ยถอนหายใจแล้วหันไปมองนอกห้องบรรยาย

“นายนทีธาร”

จุ๊ยสะดุ้ง

“ครับผม” เขาขานเสียงหวาน

“นอกหน้าต่างมันไม่มีสิ่งที่ออกข้อสอบหรอก  หันมามองหน้าฉันนี่  ตรงนี้มีข้อสอบ” อาจารย์สาววัยกลางคนกล่าว

“คร๊าบ... มิน่า.. อย่างกับพิณโบราณเลย” จุ๊ยตอบออกไปตามภาษาปากไว

เพื่อนหัวเราะกันครื้น

“นี่เธอว่าฉันแก่เหรอ” อาจารย์เสียงเขียว

“อ้อเปล่าครับ  ผมหมายถึงเสียงอาจารย์เหมือนฮาร์ฟไม่มีผิด  ไพเราะจับใจ”  จุ๊ยแก้คำพูด  แล้วยิ้มหวานอีก

เพื่อนโห่ฮากัน

“แล้วนั้นใคร  อธิการ ใช่ไหม”

จุ๊ยเอาศอกถองอ๊อด

“ตื่น เฮ้ยตื่น..”

แต่อ๊อดลองได้หลับ ก็คอพับไม่รู้เรื่อง

“อ้อ  มันไปเฝ้าพระอินทร์ เล่น Four season Vivaldi ให้ฟัง  อาจารย์รอหน่อยนะครับ  เดี่ยวจบมันก็ลงมาเอง” จุ๊ยกล่าวแล้วถองซอกซ้ำ

อาจารย์ส่ายหัว ก่อนจะกวักมือเรียก

“มานี่เลยทั้งคู่ มายืนตรงนี้จะได้ไม่เบื่อ  มาฟังเสียงฮาร์ฟใกล้ๆตรงนี้เลย”

“ครับ” จุ๊ยลุกขึ้นแต่ อ๊อดก็ยังไม่ตื่น

เขาเลยดันมันจนตกเก้าอี้

เพื่อนหัวเราะกันลั่นห้อง

 

“เรื่องหัวหินอาทิตย์นี้ว่าไง”

พอโดนถามจุ๊ยเลยเงยหน้า จากนิตยสารที่กำลังอ่าน

“อ้อ เออ... กูบอกพ่อกูไว้แล้วหละ  ก็คงไปน่ะ”

“ดีๆ ขาดมึงไป ก็ไม่มีตัวโจ๊กสิวะ” เจ้าของฝ่ามือที่ตบลงมาคือหน่อง เพื่อนร่วมคณะ

“กูไม่ว่างนะ” อ๊อดตอบ

“กูมีงานทั้งสองวัน”

หน่องทำหน้าเซ็ง

“ได้ไงวะ  ขาดคู่หูคู่ฮา  งานก็กร่อยไปครึ่งสิวะ”

“โอ้ย...” ฮ้อยร้อง

“แค่ไอ้จุ๊ยปล่อยหมาในปากออกมา  พวกมึงก็ฮากันท้องแข็งแล้ว”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา