จอมยักษ์แห่งพันธสัญญา

-

วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.56 น.

  3 บท
  0 วิจารณ์
  5,866 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ดาบแห่งบัญญัติทั้งสิบ(ครึ่งแรก)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

      “อย่างกับบ้านคนแคระเลยแหะ”ใช่สถานที่ที่เขาอยู่ในยามนี้นั้นช่างคล้ายกับบ้านของคนแคระเสียเหลือเกิน เขาเคยได้ยินว่าความสามารถของคนแคระในเรื่องงานช่างนั้นสูงส่งจนหาใครเปรียบไม่ได้ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะสวยขนาดนี้ แต่ยังไงนี้ก็ยังเป็นเพียงการคาดเดาของเขาเพียงเท่านั้น

            เด็กหนุ่มตัดสินใจที่จะก้าวเดินต่อไป แต่ในระหว่างที่เขากำลังจะก้าวเท้ากลับถูกธนูดอกเล็กพุ่งเฉียดหน้าของเขาไปเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น ทำเอาตัวของเขารีบหันไปมองร่างที่ตั้งใจจะฆ่าเขาในทันที“หยุดอยู่ตรงนั้นซะเจ้าผู้บุกรุก”

            ร่างของเด็กชายที่ดูๆแล้วอายุน่าจะน้อยกว่าเขากำลังยืนถือธนูคันยาวที่เห็นแล้วรู้สึกว่ามันจะเกินกำลังของเด็กคนนั้นไปเสียหน่อย“ผู้บุกรุกอย่างนั้นเหรอ?”

            เขาเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา “ผู้บุกรุก” มันใช่เขาจริงอย่างนั้นหรือเขาจำได้ว่าเขาไม่เคยไปบุกรุกบ้านใครที่ไหนเลยเพราะยังไงก็ตามที่นี้มันก็ยังอยู่ในอาณาเขตของปราสาทเขาอยู่ดี อีกอย่างเขาจะต้องเป็นคนพูดเองเสียมากกว่า ว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้บุกรุก“ข้าน่ะเหรอที่เป็นผู้บุกรุก เจ้าจะตลกไปไหนล่ะเนี่ย ที่นี้มันเป็นทางลับของปราสาทข้าอีกอย่างข้าต่างหากที่ต้องถามเจ้าว่าเจ้าเป็นใคร”

            ร่างของเด็กชายผมสีทองดวงตาสีเหลืองค่อยๆลดคันธนูของตัวเองลงอย่างช้าๆหากมองดูที่เด็กหนุ่มคนนั้นดูดีๆแล้วล่ะก็ ใบหน้าของเขาดูแล้วน่าจะไม่ใช่คนของเผ่ามนุษย์แน่ๆเพราะหูที่ยาวออกมาของเขาเป็นเครื่องบ่งบอกได้อย่างดีแถมยังทักษะการยิงธนูที่ถ้าเมื่อครู่เอาจริงเขาน่าจะตายไปครั้งหนึ่งแล้ว“เจ้าเป็นคนของเผ่าเอลฟ์อย่างนั้นเหรอ”

            “เจ้ารู้ได้อย่างไร”เขาอยากจะขำออกมาเป็นภาษาเอลฟ์ คำถามที่อีกฝ่ายถามมาก็น่าจะรู้แก่ใจดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง ก็ทั้งหูกับหน้าตาดูยังไงก็ไม่น่าจะพ้นเผ่าเอลฟ์เลยสักนิดแถมยังเชียวชาญการธนูที่มีน้อยเผ่านักที่จะเก่งขนาดนี้สงสัยอีกฝ่ายจะเป็นพวกโกหกคนไม่เก่ง จีกานโต้ ยกมือของตนขึ้นมาจับที่หูของตัวเองทำให้เด็กหนุ่มรู้ได้ทันที“ข้ายังไม่ซ้อนหู”

            เขาพยักหน้า อีกฝ่ายยังไม่ได้ซ้อนหูที่เป็นสิ่งบ่งบอกถึงเผ่าของตนเลย ถ้าไปอยู่โดยไม่ระวังตัวแบบนี้ในเผ่ามนุษย์มีหวังโดนจับตัวไปขายแล้ว ยิ่งมีสายเลือดของเทพเจ้าไหลเวียนอยู่ในตัวมันก็ยิ่งอันตรายขึ้นไปอีก“เอาเถอะ ข้าขอถามเจ้าอีกครั้งล่ะกันว่าเจ้ามาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร”

            “ข้าไม่รู้ข้าจำได้แค่ว่าท่านแม่ของข้าที่อยู่ที่บ้านบอกข้าว่า เผ่าของเราที่อยู่ที่นี้จะต้องปกป้องของบางสิ่งเอาไว้เพื่อรอใครบางคนที่เหมาะสมมารับไป”

            “แม่ของเจ้าอย่างนั้นเหรอช่วยพาข้าไปพบได้หรือไม่”จีการโต้เอ๋ยถามอีกฝ่ายขึ้นมา ตอนนี้เขาต้องการจะไปถามอีกฝ่ายเองตรงๆเลยน่าจะดีกว่าว่าเผ่าเอลฟ์ที่เป็นหนึ่งในสายเลือดของเทพเจ้าถึงมาอยู่กับเผ่ายักษ์ที่มีสายเลือดของปีศาจไหลเวียนอยู่ในตัว“ไม่มีทาง”

            “อย่าห่วงไปเลยข้าไม่ทำอะไรพวกเจ้าหรอก อีกอย่างเจ้าก็ดูดีๆสิข้ามีอาวุธกับพลังเวทย์ที่ไหนล่ะ”ทักษะที่หนึ่งของเผ่าเอลฟ์เผ่าเอลฟ์นั้นมีความสามารถในการตรวจพลังเวทย์ของอีกฝ่าย ซึ่งสิ่งที่เขาเห็นจากตัวของจีกานโต้มันก็ทำเอารู้สึกตกใจอยู่นิดหน่อยก็ในเมื่อคนตรงหน้าของเขานั้นมีพลังเวทย์อยู่เพียงแค่นิดเดียวด้วยพลังเวทย์แค่นั้นทำได้เพียงแค่จุดบอลไฟลูกเล็กๆขึ้นมาได้เท่านั้นเอง“ทำไมเจ้าถึงมีพลังเวทย์เพียงแค่นิดเดียวเอง”

            “ข้าก็ไม่ทราบเหมือนกันแต่ท่านพ่อเคยเล่าให้ฟังว่าเผ่าของข้านั้นมีคำสาปบางอยู่จึงทำให้ลูกหลานที่กำเนิดออกมามีพลังเวทย์ไม่มากนัก”มันคือความจริงเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น สิ่งที่ออกมาจากปากของจีกานโต้มันยังไม่ใช่ทั้งหมดเพราะถึงแม้ว่าเผ่าของเขาจะมีพลังเวทย์อยู่ไม่มากก็ตามแต่สิ่งที่พวกเขาได้รับแลกเปลี่ยนมานั้นมันดูจะยิ่งใหญ่ในฐานะนักรบมากกว่านักเวทย์เสียอีก“ก็ได้ข้าจะพาเจ้าไปพบกับท่านแม่ แต่ครอบครัวของพวกเราทั้งหมดอยู่ด้วยกันทั้งหมดสามคนเพราะฉะนั้นเจ้าจะต้องทำตัวให้มีมารยาท”

            “ข้ายอมรับว่าแต่เจ้าชื่ออะไร”จีกานโต้เอ๋ยถามชื่ออีกฝ่ายหากว่าทั้งสองฝ่ายยังไม่รู้จักกันล่ะก็เกรงว่าบทสนทนาของพวกเขาจะลำบากมากขึ้นไปกว่านี้“แอนโทแนลโร่ อาลอนโซ่ นั้นคือชื่อของข้า”

            “อย่างนั้นเหรอส่วนข้าชื่อ จีกานโต้ รีเซน”แอนโทแนลโร่พยักหน้าจากนั้นพวกเขาทั้งสองจึงเริ่มเดินกันต่อ แม้ทางด้านหน้าจะมืดแต่ด้วยเวทย์มนต์ของแอนโทแนลโร่ทำให้สามารถมองทางด้านหน้าได้ชัดขึ้นไปอีก จึงไม่มีปัญหาอะไรกับการเดินทางในครั้งนี้ ยิ่งพวกเขาทั้งสองเดินเข้าไปลึกมากขึ้นเท่าไหร่เส้นทางก็ดูจะคดเคี้ยวมากขึ้นเท่านั้น“ถึงแล้วล่ะนั้นแหละบ้านของข้า”

            “จืดชื่นจังนะบ้านของเจ้า”

            “คิดเหมือนกันใช่ไหม”ทั้งสองเดินตรงไปยังบ้านปูนหลังนั้นอย่างไม่ชักช้าก่อนที่แอนโทแนลโร่จะเงื้อมมือไปเปิดประตูไม้ออก“ข้ากลับมาแล้วพ่อแม่”

            “แอนโทแนลโร่เจ้ากลับมาแล้วรึ!!”เสียงตะโกนของใครบางคนทำให้จีกานโต้ที่ยืนอยู่ข้างๆกับแอนโทแนลโร่ถึงขนาดต้องยกมือของตนขึ้นมาเพื่อปิดที่หูของตัวเองแถมเสียงนั้นยังเป็นเสียงของผู้ชายอีกต่างหาก ถ้าที่คิดไว้ถูกล่ะก็อีกฝ่ายน่าจะเป็นพ่อของ

           “ตูม”……แอนโทแนลโร่ล่ะมั่งนะ ฝ่าเท้างามๆของผู้เป็นลูกประดับเสยหน้าผู้เป็นพ่อที่ดูจะตัวเล็กกว่าลูกชายตนจนหงายหลังลงไปนอน จีกานโต้ยามนี้เขาไม่มั่นใจแล้วว่าตัวของเขากำลังเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า เขาคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นพ่อของ แอนโทแนลโร่แต่สิ่งที่คิดมันคงจะผิดพลาดไปสินะ อีกฝ่ายคงจะเป็นคนรับใช้ของแอนโทแนลโล่“นี้ลูกต้อนรับพ่อเขาแบบนี้อีกแล้วเหรอ”

           จีกานโต้มองไปยังต้นเสียงที่เดินออกมาจากภายในบ้าน ร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่เรียกได้ว่า สวยสะเด็ด เด็ดปีกนางฟ้าเลยทีเดียวเหล่านางฟ้ายังต้องชิดซ้ายรูปทรงใบหน้าที่ถอดแบบคล้ายแอนโทแนลโร่กับเส้นผมสีทองแบบนี้มัน สวยพอๆกับแม่ของเขาเลยแถมยังเรียก แอนโทแนลโล่ว่าลูกอีก“คือจะเป็นอะไรไหมถ้าข้าอยากจะขอให้พวกเจ้าอย่าลืมข้าที่ยืนอยู่ตรงนี้”

           “อ่าขอโทษจีกานโต้ พ่อแม่ ข้ามีบางคนจะแนะนำให้พวกท่านรู้จัก”หญิงสาวชายหนุ่มวัยกลางคนทั้งสองมองมาที่จีกานโต้เป็นตาเดียว พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลูกชายสุดรักสุดห่วงของพวกเขาจะพาคนมาที่บ้านแถมดูๆแล้วยังจะ“นี้ลูกมีคนรักแล้วเหรอ”

           เหมือนผู้หญิงอีกต่างหาก ทำเอาใบหน้าของเด็กหนุ่มทั้งสองที่ยืนอยู่เกิดแดงขึ้นมาในทันที คนรักบ้าบออะไร พวกเขาทั้งสองเป็นผู้ชายเหมือนกันจะให้มาเป็นคนรักกันแบบนี้มันคงจะเกินไปหน่อยแล้วล่ะมั่ง“คนรักอะไรล่ะแม่คนๆนี้เขาเป็นเพื่อนของข้าที่เจออยู่ด้านนอกต่างหากล่ะใช่ไหม”

           “อะ อ่าใช่”

           “นี้เจ้าจะมากระตุกอะไรตอนนี้ช่วยข้าแก้ความเข้าใจผิดก่อนสิ”แอนโทแนลโร่ ตบะแตกขึ้นมาหลังจากที่เขาได้เห็นใบหน้าของจีกานโต้ทีอย่างนี้มาทำเป็นอายทีไอตอนที่เจอกันครั้งแรกไม่มาอายแบบนี้ล่ะฮะ“ใช่พวกข้าทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน อีกอย่างตัวของข้าก็เป็นผู้ชายอีกด้วย”

           จีกานโต้เอ๋ยแก้ตัวถ้ายังปล่อยให้คู่สองสามีภรรยาเข้าใจพวกเขาทั้งสองคนผิดอยู่แบบนี้ล่ะก็เกรงว่าทุ่งกุหลาบสี่ม่วงจะบานออกมาทั้งๆที่ไม่มีแสงอาทิตย์น่ะสิ“ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรอย่างนั้นหรือจ๊ะพ่อหนุ่ม”

           ผู้เป็นแม่ของแอนโทแนลโร่ถามขึ้นมาจีกานโต้พยักหน้าจริงสินะเขาควรจะแนะนำตัวให้อีกฝ่ายทราบเสียก่อนแม้ว่าเหตุผลที่เขามาที่นี้จะมีเพียงแค่เรื่องเดียวก็ตามที“ข้ามีนามว่า จีกานโต้ รีเซน เป็นบุตรของเผ่ายักษ์ที่เหลือรอดคนสุดท้าย”

           คู่สามีภรรยาที่ยืนมองเขาอยู่เกิดเงียบขึ้นมาทันตาเห็นหลังจากที่ได้ฟังจีกานโต้แนะนำตัวที่มันน่าตกใจมันไม่ใช่ชื่อจริงของเด็กหนุ่มแต่มันคือสกุลและเผ่าต่างหากล่ะ“เจ้านามสกุลว่ารีเซนอย่างนั้นเหรอ?”

           เด็กหนุ่มพยักหน้า“แถมยังเป็นบุตรที่เหลือรอดคนสุดท้ายของเผ่ายักษ์?”

           เขายังคงพยักหน้ายืนยันคำเดิมว่าสิ่งที่เขากล่าวมาทั้งหมดคือเรื่องจริง มีเพียงแอนโทแนลโร่เพียงคนเดียวเท่านั้นที่สังเกตความผิดปกติออกมาจากตัวของผู้เป็นพ่อและเป็นแม่ได้จึงอ้าปากถามออกไป“นี้พ่อแม่พวกท่านเป็นอะไรไป”

           แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆกลับมาหาเขาเลย ชายหนุ่มที่ตัวเตี้ยที่สุดในกลุ่มเดินตรงเข้าไปหาจีกานโต้ที่ยืนอยู่ต่อหน้าของพวกเขาทั้งสามก่อนที่จะ“นายน้อยขอรับ!!!”

           เสียงตะโกนลั่นเสียยิ่งกว่าตอนที่ลูกชายของตนกลับมาจากงานลาดตระเวรอันแสนจะทรหดทำเอา จีกานโต้และแอนโทแนลโร่ที่ยืนอยู่เฉยๆสะดุ้งเฮือกในทันที จีกานโต้ที่ถูกเรียกว่านายน้อยมองตรงไปที่หน้าของอีกฝ่ายในทันทีนี้ขาถูกเรียกว่านายน้อยเหรอ แถมยังถูกสายตาอันแสนจะน่าหวาหวั่นของแอนโทแนลโร่มองมาอีก“หมายความอย่างไงพ่อ”

          “ข้าไม่มีเวลามาอธิบายให้เจ้าฟัง ตอนนี้นายน้อยเข้าไปนั่งในบ้านก็เถอะขอรับ”ดูเหมือนตัวของเขาจะโดนดึงไปโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะนะนี้มันเกิดอะไรขึ้นทำไมเขาถึงถูกเรียกว่านายน้อยจากใครที่ไหนก็ไม่ทราบ ในปราสาทเท่าที่จำได้ไม่เคยมีคนรับใช้ต่างเผ่าเลยสักคน

          “ตอนนี้เจ้าจะอธิบายให้ข้าฟังได้รึยัง”หลังจากที่เข้ามาภายในบ้านได้สักพักหนึ่งแล้วตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกับว่าอีกฝ่ายจะเอาใจเขามากเป็นพิเศษถึงขนาดที่“นี้พวกเจ้าทำไมถึงไปนั่งบนพื้นอย่างนั้นล่ะ”

          ถึงขนาดที่ไปนั่งอยู่บนพื้นทั้งๆที่เป็นบ้านของตัวเอง“มิได้หรอกครับนายน้อยพวกข้ามียศต่ำกว่าท่านจะให้ไปนั่งอยู่ในระดับเดียวกับท่านคงมิได้”

          “ขอเวลาสักพักนะข้าไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเจ้ากำลังทำอยู่เลยสักนิด และข้าก็คิดว่าแอนโทแนลโร่ก็คิดเช่นเดียวกับข้า ทำไมเจ้าถึงเรียกข้าว่านายน้อย”ชายหนุ่มหันหน้าไปมองภรรยาของตนที่นั่งอยู่ข้างๆจะว่ายังไงดีพวกเขาควรจะบอกออกไปตรงๆสินะ“ความจริงแล้วพวกข้าถูกเผ่าพันธุ์ของตัวเองเนรเทศขอรับตอนนั้นข้ายังไม่ได้มาเจอกับภรรยาของข้าเลย แต่แล้วไม่นานนักระหว่างที่ตัวของข้าไม่มีอันจะกินก็ถูกผู้นำของตระกูล รีเซน ช่วยเหลือเอาไว้และให้ที่พักพิงแก่ข้าและทำให้ข้ามาเจอภรรยาของข้าน่ะขอรับ”

          ความจริงที่น่าตกใจระหว่างสองเด็กหนุ่ม มันเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อที่พ่อของจีกานโต้ที่ขึ้นชื่อว่าอันตรายและไม่มีเมตตาจะรับคนจากเผ่าอื่นเข้ามาอยู่ในปราสาท“ความจริงแล้วที่พวกข้ามาอยู่ที่นี้ก็ไม่ได้มาอยู่ฟรีๆหรอกนะขอรับแต่ที่นายท่านให้พวกข้ามาอยู่ที่ทางลับของปราสาทนั้นก็เพราะว่าให้มาปกป้องของบางอย่าง”

         “ของอย่างนั้นเหรอ”สองสามีภรรยาพยักหน้าของบางอย่างที่ว่าก็คือสิ่งที่เด็กหนุ่มต้องการมากที่สุดในยามนี้“ดาบแห่งบัญญัติสิบประการ”

         จีกานโต้เบิกตาโตเป็นไข่ห่านหมายความว่าอะไรทำไมดาบที่เขาตามหาถึงมาอยู่ที่นี้ แล้วที่เขาเห็นตอนเด็กๆนั้นมันคืออะไรกันแน่“นี้พวกเจ้ากำลังพูดอะไรกันอยู่ เท่าที่ข้าจำได้ดาบเล่มนั้นมันไม่ได้อยู่ที่นี้”

         “ถูกต้องขอรับมันไม่ได้อยู่ที่นี้แต่ก็แค่ตอนแรกเท่านั้น สงสัยนายน้อยคงจะจำไม่ได้สินะขอรับว่าพวกเราเคยเจอกันมาก่อนแล้วในครั้งที่นายน้อยไม่ยอมเชื่อฟังนายท่านและคุณผู้หญิงก่อนที่จะแอบลงมาที่นี้”

         ไม่ๆตอนนี้เรื่องมันชักจะสับสนแล้ว จีกานโต้จำได้ว่าเขายังไม่เคยเจอทั้งสองคนเลยแม้แต่นิดแล้วทำไมถึงพูดว่าเคยเจอกัน“ไม่ข้าจำไม่ได้ ใช่จริงอยู่ที่ข้าเคยแอบเข้ามาที่นี้แต่ข้าจำไม่เห็นได้เลยว่าเคยเจอพวกเจ้าทั้งสอง”

        “นั้นสินะถ้าจะให้ข้าเล่าก็ตอนที่นายน้อยเดินลงมาเจอดาบแห่งบัญญัติทั้งสิบท่านจำได้รึเปล่าว่าท่านทำอะไรกับมัน”จีกานโต้ลองนึกย้อนกลับไปในตอนที่เขาลงมาที่นี้เป็นครั้งแรก เขาได้สัมผัสดาบเล่มนั้นจากนั้นมันจึง“มันพูดบางอย่างออกมาแต่ข้ากลับฟังไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่นิด”

        “หลังจากนั้นข้าก็”เขาหยุดไปพักหนึ่งและพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดเพื่อที่จะเรียบเนียงมันและสื่ออกมาเป็นคำพูดแต่ก็เปล่าประโยชน์“นั้นแหละขอรับคือความทรงจำก่อนที่นายน้อยจะสลบไป จากนั้นพวกข้าจึงพาท่านขึ้นไปส่งให้กับนายท่านที่อยู่บนปราสาทข้าจำสีหน้าของท่านพ่อของท่านและนายหญิงได้ดีเลยล่ะในตอนที่ท่านบาดเจ็บหนัก”

        “แล้วตอนนั้นข้าเป็นอย่างไร”

        “ความทรงจำของท่านหายไปบางส่วนขอรับท่านลืมเรื่องที่ดาบแห่งบัญญัติสื่อสารกับท่านไปเกือบจะทั้งหมด เพราะอย่างนั้นนายท่านจึงย้ายดาบเล่มนั้นมาไว้ที่บานของข้าเพื่อไม่ให้นายน้อยต้องบาดเจ็บอีก แต่สิ่งที่ข้ายืนยันได้อย่างหนึ่งคือนิสัยของนายน้อยตอนแรกเริ่มไม่ใช่แบบนี้”จีกานโต้นั่งฟังอย่างตั้งใจมันใช่เรื่องจริงหรือสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเขาไม่แน่ใจว่าเขาควรจะเชื่อดีหรือไม่

       “ดะ เดี๋ยวๆข้าไม่แน่ใจแล้วว่าพ่อพูดอะไร พวกเราเป็นคนรับใช้ของตระกูลจีกานโต้อย่างนั้นเหรอ”

       “เจ้าลูกรักนั่งลงเดี่ยวนี้”ผู้เป็นแม่ดึงลูกชายของตนให้กลับมานั่งเช่นเดิม ไม่แปลกที่คนไม่รู้เรื่องและหัวทึบอย่างเด็กหนุ่มเผ่าเอลฟ์รู้สึกสงสัยบทสนทนาที่จะมีแต่คนที่มีหัวสมองเท่านั้นที่จะเข้าใจ“ความจริงข้าก็อยากจะเล่าให้เจ้าฟังตั้งนานแล้วล่ะนะแอนโทแนลโร่แต่ก็ไม่มีโอกาสเสียที”ผู้เป็นแม่เอ่ยออกมา

       “เพราะอย่างนั้นครั้งนี้แหละพวกข้าคงจะต้องอธิบานให้เจ้าเข้าใจอย่างแท้จริงเสียทีเจ้าลูกรักว่าหน้าที่ที่เจ้าได้รับมอบหมายแท้จริงแล้วคือสิ่งใดและนั้นมันก็คือเป้าหมายที่จะผูกติดกับตัวของเจ้าตราบเท่าที่เจ้ายังหายใจอยู่ ภาระอันอึ้ง”

       “ที่เจ้าควรจะได้รับ”

       “ฮะ?”

………………………………………………………………………………………………

 

ผมปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องภายในไปนิดหน่อยนะครับ

  

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา