Soul and Head เเด่สมองสู่วิญญาณ (Y)
8.9
1) one question
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ One Question
เดรวาน กำลังเดินเบียดกับผู้คน สีท้องฟ้าเป็นสีเทาและมองเห็นควันไฟมาไกลๆ
สงครามระหว่างศาสนาและวิทยาศาสตร์ เริ่มขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อนเมื่อวิธวัฒนาการของมนุษย์เกิดขึ้นเหนือขีดจำกัดการพยายามไขความลับของธรรมชาติ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย พวกเรามีความอยากรู้ไม่จบไม่สิ้น ค้นพบสิ่งใหม่ๆและใช้มัน เดินไปข้างหน้าแต่ธรรมชาติก็เริ่มถอยหลังลง ท้ายที่สุดก็เกิดความแตกแยกของผู้คนสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งต้องการจะอยู่เหนือกฎเกณฑ์ของโชคชะตา และ อีกฝ่ายต้องการให้มันหวนคืนกลับเดิม ไม่มีสงครามไหนรุนแรงเท่าสงครามของความเชื่อ เพราะไม่มีใครถูกและไม่มีใครผิด ฝ่ายหนึ่งก็มีเหตุผล และ อีกฝ่ายก็มีเหตุผลเช่นกัน
มันจึงกลายเป็นสงครามที่กินเวลาและชีวิตมาเนิ่นนาน
สำหรับเดรวานเขาไม่ได้อยู่ฝ่ายไหนทั้งสิ้น และคิดที่จะถอยให้ห่าง
ที่นี้คือสถานีรถไฟกิลเบิร์ส ที่ๆเขากับเลนส์จะต่อรถไฟออกจากเมืองไปทางตอนใต้ของประเทศ แถวนั้นคงปลอดภัยพอให้เขาตั้งตัวสักพัก ชายหนุ่มยืนตัวลีบอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนที่จะออกจากรัฐเช่นเดียวกัน เดรวานเป็นคนต้วผอมและสูง ดวงตาคล้ำเหมือนคนอดนอน และปากแตกเหมือนคนขาดน้ำเขาพึ่งรู้สึกตัวว่าผิวแห้งและเริ่มมีกลินตัว
เดรวานกัดปากแตกๆของตน เขาไม่ได้ชกมก แต่ต้องเป็นเรื่องตอนเช้าแน่ๆ ที่ทำให้เขายังไม่ทันได้แตะน้ำสักหยด
ในเช้าที่มีเสียงปืนปลุกเช่นทุกๆวัน มีกลิ่นเลือดและควันไฟต้อนรับเช่นทุกเช้า และมีน้ำตากล่าวสวัสดี เขาตื่นขึ้นมา รู้สึกเวียนหัวเหมือนโลกหมุนเป็นวงกลม หาวกว้างๆสองสามที ก่อนจะตกใจเล็กน้อย เมื่อพบว่าตัวเองไม่ได้นอนที่เตียง ชายหนุ่มกวาดตามองรอบๆเมื่อได้สติ
ตรงหน้าคือโต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์ชนิดล้าหลังเปิดหน้าจอค้างไว้และไม่เห็นคีร์บอด มีแต่กระดาษกระจัดกระจายไปทั่ว เขาใช้มือกวาดกระดาษพวกนั้นเบื่อกับความมักง่ายของตัวเองก่อนจะยิ้มกว้าง คีร์บอดไม่ได้หายไปไหนแค่โดนกระดาษบังอยู่เท่านั้น ดีแล้วเขาจะได้ไม่ต้องซื้อใหม่ มันคงหายากมากในสมัยนี้ เดรวานบิดขี้เกียจยืดเส้นยืนสาย ปวดไปทั้งหลัง ถึงเตียงเก่าๆที่นอนทุกคืนจะไม่ได้ดีกว่าโต๊ะแต่ก็ไม่ทำให้เสียสุขภาพ ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ล้อหมุนโทรมๆ เคินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่หมกไว้กับเสื้อผ้าเป็นกอง ระหว่างทางก็เผลอเหยียบถุงขนม ที่จำไม่ได้แล้วว่าซื้อมาเมื่อไหร่ กระป๋องเบียร์ทำให้เกือบล้มหน้าคว่ำและเกือบลื่นกับเปือกกล้วย เขาเชื่อแล้วว่าตัวเองนะชกมกพอๆกับหนูเหมือนที่เลนส์ว่าไว้ไม่มีผิด
พอคิดถึงเลนส์เขาก็ไม่ได้เจอหน้าหมอนั่นมานานแล้วสิ เจอกันครั้งสุดท้ายน่าจะเจอที่แล็บก่อนเจ้าตัวจะไปทำงาน เลนส์เป็นผู้ชายตัวใหญ่และดูสุขภาพดีผิวสีน้ำผึ้งและตาสีฟ้า เขาเคยถามเลนส์ว่าเป็นคนที่ไหนและชายหนุ่มก็ตอบว่า
เป็นคนยุโรปใต้ ทำให้เดรวานที่ไม่เคยเห็นคนยุโรปผิวสีมาก่อนก็ตาวาวทันที เนื่องจากส่วนตัวชอบยุโรปใต้อยู่แล้ว ทำให้เขาปลื้มเพื่อนคนนี้ใหญ่ ถึงขั้นโดนเพื่อนร่วมทีมแซวว่าจะขอแต่งงานเลยไหม ชายหนุ่มก็แค่หัวเราะดังๆเป็นคำตอบ เลนส์เป็นทหาร ชายหนุ่มดูดีมากในชุดเครื่องแบบสาวๆยังเหลียวหลังมามอง ผิดกับเขาที่เป็นเพียงนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานอยู่ในแล็บ วันๆเอาแต่นั่งทดลองท่องสูตรเคมีและลุ้นกับผลการทำงาน ไม่มีสาวๆที่ไหนเขาชอบผู้ชายที่หัวหงอกทั้งหัวหรอก คิดแล้วก็เครียด
เดรวานตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าตัวเองในกระจก นี้คนใช่ไหม เงาสะท้อนให้เห็นชายหนุ่มตาคล้ำดูน่ากลัว แก้มตอบเหมือนคนไม่ได้กินข้าว แล้วก็ยิ่งตกใจเมื่อพบว่ามือตัวเองเหี่ยวเมื่อคนขาดน้ำ
เดรวานแกไปทำอะไรมา!!
หรือว่าเขาเครียดกับผลทดลองเมื่อสองวันที่แล้วมากไป ให้ตายสิ!!ใช้มือเหี่ยวๆลูบหน้าตัวเอง หมดกันความหล่ออันน้อยนิดของเขาหายหมดแล้ว คิดแล้วผมคงหงอกหมดหัวแน่ๆ ถ้าอาบน้ำเสร็จเมื่อไหร่ล่ะก็เขาจะรีบไปหาอะไรยัดเข้ากระเพราะอย่างไวเลย!! ในขณะที่มือเหี่ยวๆกำลังจะล้างหน้านั้น เสียงเหมือนคนพังประตูเข้ามาก็ทำให้เขาตกใจ เดรวานขมุ่นคิ้ว เมื่อวานจำได้ว่าให้ค่าเช่าไปแล้วต้องการอะไรอีก
“เดรวาน!!แกอยู่ไหน!” ชายหนุ่มเลิกสนใจอ่างน้ำตรงหน้าเมื่อได้ยินเสียงตวาด
เสียงโทนนี้เขาจำได้ต้องเป็นเลนส์แน่ๆ!!
ว่าแต่กลุ่มก่อการร้ายแถวโรงงานนิวเคลียร์มันปราบง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ เดรวานไม่มั่นใจที่จะออกไปนอกห้องน้ำตอนนี้ ถึงแม้อยากเจอเจ้าของตาสีฟ้าใจจะขาดแต่ก็ห่วงความปลอดภัยตัวเอง เขาไม่มีการติดต่อกับเลนส์เลยตั้งแต่ที่เข้าไปรบ มันอาจจะเป็นเลนส์ตัวปลอมก็ได้ ชายหนุ่มคว้าแปรงขัดส้วมสีฟ้ามาเป็นอาวุธ ตีทีเดียวอาจเพิ่มดราเมจคูณสอง เดรวานกลั้นหายใจลึกก่อนจะเอาหูแนบประตูได้ยินเสียงโครมครามเหมือนคนรื้อของ ขโมยแน่ๆ!!
เดี๋ยวนี้ใจกล้ามาตั้งแต่กลางวันแสกๆเลยรึ จะได้เห็นดีกันไอ้โจรขี้ลอกเสียง!!
เขาเปิดประตูออกไป วิ่งเต็มฝีเท้าพุ่งไปหาเป้าหมายในเสื้อคลุมสีดำตัวยาวที่กำลังรื้อของบนโต๊ะ ทำงาน เงื้อแปรงขัดส้วมจะฝากลงเต็มหัว แต่มันช่างช้านักเมื่อโดนตัวปลอมปัดทิ้งภายในเสี้ยววินาที
“แกเล่นบ้าอะไรของแก ไอ้หนูโสโครก!!”
มีคนบนโลกนี้ไม่ถึงสามคนที่เรียกเขาว่าหนูโสโครก และหนึ่งในนั้นคือเลนส์
แต่….ทำไหม ไม่เหมือนเดิม
“เลนส์….แกไปโดนอะไรมา!!!” ชายหนุ่มตัวผอมกระชากคอเสื้ออีกคน จ้องคนตรงหน้าด้วยแววตาวาววับ
เลนส์หนุ่มสุขภาพดีผิวสีน้ำผึ้ง ดวงตาสีฟ้าสดใสกับรอยยิ้มน่ารักหายไป…
เหลือแค่ดวงตาสีฟ้าหมองข้างหนึ่งเสี้ยวหน้าของมนุษย์ แขนซ้ายและขาส่วนบน ส่วนตรงอื่นๆนั้นกลับแทนที่ด้วย
เครื่องจักร…..
เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับเพื่อนเขา ไม่ต้องบอกก็รู้การเชื่อมชีวิตกับเครื่องจักรนั้นเป็นวิทยาการณ์ทางการแพทย์ขั้นสูง ไม่เคยมีใครทดลองผ่านมากกว่าสามคน แต่ส่วนมากก็ขาเทียมให้กับสัตว์หรือใช้ช่วยคนตาบอดให้มองเห็นสีขาวดำ ใครมันอัจฉริยะขนาดนี้!! จะรีบบินไปกราบเป็นศิษย์เลย!!
“เรื่องมันยาว” เขาตอบ ค่อยๆแกะมือที่กำคอเสื้อเขาไว้
มือนั้นคลายออกแล้วสวมกอดแทน ทำให้เจ้าของตาสีฟ้าถึงกับทำอะไรไม่ถูกอยู่ๆมีผู้ชายตัวเท่าควายมากอดมันไม่ซึ้งหรอก แต่สำหรับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานมันก็คงต้องซึ้งบ้าง เอามือข้างกลตบหลังมันเบาๆ(แต่กระดูกแทบหัก)เป็นการปลอบ เดรวานคลายกอดก่อนจ้องหน้าหาเรื่อง
“ตอนนี้ แกต้องทำตามที่ฉันบอกให้ว่อง” เลนส์กล่าวไม่สนใจเจ้าของห้องที่จ้องราวกับเขาเป็นตัวประหลาด
“ทำไหม?มีเรื่องบ้าอะไรเกิดขึ้นอีก” เดรวานกอดอก ท่าทางอย่างนั้นเรียกรอยยิ้มให้เลนส์ทุกที เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าพอทำท่าอย่างนี้ มันส่งให้ร่างสูงๆนั้นดูฉลาดและหล่อมากเลยทีเดียว แต่นี้ไม่ใช่เวลาล้อเล่นมีเรื่องใหญ่รอเขาอยู่
“เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังเรื่อง—“ ยังไม่ทันพูดจบประโยคก็โดนแทรกขึ้นด้วยร่างสูงตรงหน้า
“เรื่องมันยาวเข้าใจล่ะ ต้องให้ฉันทำอะไร” กึ่งเครื่องจักรยกยิ้ม ต้องให้มันได้อย่างนี้สิ ไม่งอแงไม่เข้าท่าแต่ดูโง่ขึ้นนะ
“เอาของที่จำเป็น ถ้าฉันยังไม่เห็นแกมีเป้ในมือในสามนาที ฉันจะเผาห้องนี้แล้วให้ทั้งตัวมีชุดนี้แค่ชุดเดียว!!”
อารมณ์ร้าย…เดรวานคิดในใจ ก่อนจะเดินไปทางห้องนอน เอาเป้คู่ใจที่ไม่ได้ใช้มาเป็นปีมาปัดฝุ่น ก่อนจะเลือกกางเกงในที่ไม่ใส่สามสี่ตัวและใส่แล้วอีกเป็นสิบ กางเกงและเสื้อ ที่คิดว่าดีที่สุด แล้วก็ชุดกาวน์ตัวเก่ง ก่อนที่เขาจะได้คว้าผ้าเช็ดตัวไปล้างหน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้านั้น เขาก็ได้ยินเสียงตึงตังข้างนอกเสียก่อน ให้ตายสิ! ข้าวของมันแพงนะหัดถนอมไว้หน่อยจะตายรึไง
ว่าแล้วก็คิดจะออกไปด่าคนข้างนอกให้เจ็บๆแสบๆกับนิสัยไร้มารยาทต่างจากภูมิลำเนาบ้านเกิดที่เขาชอบ
ก็เห็นเลนส์กำลังเก็บหนังสือสามเล่มลงในกระเป่าหนังใบหนึ่งตั้งค่ารหัสบ้างอย่างบนกระเป๋า ได้ยินเสียงดังคลิ๊กจากกระเป๋านั้น แล้วเขาก็ดึงตัวเสียบข้อมูลจากคอมพิวเตอร์รุ่นเดอะหาว(ที่ไม่รู้เสียบได้ไง) มาใส่ในกล่องเล็กๆคล้ายกล่องแหวนแต่พอมันปิดกลับไม่เห็นมีรอยเปิดเหมือนกับเป็นลูกคิวบิกสีขาวขุ่น ก่อนจะใส่มันในกระเป๋าหนังอีกฝั่งหนึ่งแล้วลงรหัสอีกครั้ง อะไรมันจะซับซ้อนขนาดนั้น
“ขอฉันอาบน้ำก่อนได้ไหม” เดรวานเอ่ย แล้วพึ่งมานึกได้ว่าทำไหมต้องขอด้วย ในเมื่อเขาเป็นเจ้าของห้อ เลนส์เหลือบมองเขาก่อนจะเง่ยหน้ามองนาฬิกาแขวนผนังที่โทรมแต่เดินไม่เคยพลาด ครึ่งกลส่ายหน้อย“ไม่ทันถึงนายจะอาบน้ำเร็วแค่ไหน” เลนส์เดินตรงมาหาร่างผอม ก่อนส่งกระเป๋าหนังให้
เดรวานมองมัน ก่อนจะต้องตาโตนิดๆเมื่อกระเป๋าหนังขนาดใหญ่เมื่อกี้ย่อตัวเองเป็นแค่ซิมส์เล็กๆเปราะบาง
“ถอดเสื้อ”
หะ……ว่าไงนะ!!!
เดรวานตาโตกว่าเดิม “อะไรทำไมต้องถอด!”เขากล่าวเอามือบังตัวเองไว้ จ้องชายหนุ่มผิวสีตรงหน้าอย่างระแวง
“อย่าเล่นตัวเดรวาน นี้เรื่องใหญ่เร็วๆ!” เลนส์ฉุนเฉียวกับผู้ชายตรงหน้า
เห็นกันมาตั้งนานนมแล้วจะกลัวอะไรนักหนา เขากลัวเหลือเกินว่าจะไม่ทันเวลาเพราะเจ้าตัวเล่นตัวเกินพอดี
เมื่อเห็นคนตรงหน้ากอดอกส่งสายตามาก็เลยต้องขัดไม้แข็ง “จะถอดเอง หรืออยากเดินตัวเปล่าออกจากที่นี้!!”
เมื่อเห็นเขาขู่ เจ้าหนูมอมแมมก็ยอมถอดเสื้อเหวี่ยงทิ้งทันที
“เอาไงต่อ” ทำท่าฉลาด เมื่อกี้ยังกับไอ้โง่จะเสียตัว
เลนส์นำซิมส์ที่เหมือนความลับนานาชาติแตะลงบนอกข้างซ้ายของหนูท่อ แอบเห็นว่าเดรวานก็มองมือเขาอยู่ ดูนิ่งๆ อย่างนี้สิดูฉลาดดี เขาปล่อยมือ ซิมส์นั้นออกรากดำก่อนจะเจาะฝังตัวเข้าไปในอกของคนตัวผอม
เดรวานนิ่วหน้า เจ็บไม่ใช่เล็กหรอก แต่เลนส์ยอมรับหมอนี้อึดพอที่จะไม่ทำตัวเป็นภาระ เขาเงยหน้าดูนาฬิกาอีกที
อีกสามสิบนาที…ยังพอให้เขามีเวลาทำลายหลักฐาน
ก่อนจะเหลือบมองไปที่เพื่อนตกใจนิดๆเมื่อเห็นไอ้คนที่อึดทำหน้าซีดนั่งกับพื้น มันยังไม่ได้กินอะไรนี้ลืมไป
“ไปกินยาซะ เอาของพยาบาลไปด้วย พวกแปรงสีฟันก็เอาไปแกคงไม่โง่ใช่ไหม”
เดรวานพยักหน้า ก่อนจะลุกไปที่กล่องพยายามหยิบของในนั้นใส่เป้ไม่ลืมกินยาเม็ดหนึ่ง ตรงไปที่ห้องน้ำหยิบแปรงสีฟัน ยาสีฟัน มีดโกน และของจำเป็นรวมถึงมีดพก ยังไม่วายแอบเอาสารเคมีที่แอบคิดค้นใส่กระเป๋าด้วย ขวดที่เขาใช้บรรจุยาทนทานพอที่จะไม่แตกระหว่างทาง พอเก็บของเรียบร้อยแล้ว เขาก็เห็นเลนส์ในห้องครัว
ชายหนุ่มก้มเงยๆทำอะไรสักอย่าง
“ทำบ้าอะไรของแก”
“ทำร้ายหลักฐาน”
“นายกำลังจะเผาที่นี้!!” เดรวานตวาด เขาชักจะงงกับเรื่องนี้จู่ๆเลนส์ที่หายตัวไปมาสั่งให้เขาไปเก็บของ ใส่อะไรไม่รู้เข้ามาในตัวเขา แถมจะเผาที่ๆเขาซุกหัวนอนปลายเท้ามาเป็นปีนี้นะ
“นี้มันเรื่องบ้าอะไร!!แกหายหัวเป็นชาติกลับมาก็เปลี่ยนไป สั่งฉันให้เก็บของแล้วยังจะฝังอะไรบ้าๆในอกฉันอีก ยังไม่พอแกยังจะเผาที่อยู่ฉัน ประสาทรึไง!!”
แล้วไม่นาน หมักหนักๆก็ต่อยเข้าเต็มหน้าเขา รู้สึกว่าล้มไปคะมำกลับพื้น
“นึกว่าฉลาดจะคิดออกตั้งแต่แรก!! ฉันน่าจะจำได้ว่าเดรวานไอ้อัจฉริยะที่ฉันรู้จักโดนดูดสมองไปหมดแล้ว เหลือก็แต่กะโหลกกับก้อนเนื้องอกก็เท่านั้น ถ้านายจะสังเกตให้เหมือนเขานิดหนึ่งจะเห็นว่าเขาเขียนเล่าแก มาหมดทุกอย่างโดยที่ฉันแทบไม่ต้องบอกแกเลย!! ไอ้ตาบอดเอ๋ย!! กระดาษบนนั้นไงไอ้ทึม “
เลนส์ชี้ไปที่โต๊ะทำงานที่มีกระดาษกองมากมายสุ่มอยู่
แล้วเดรวานก็ต่อยเขากลับไป
“แกนั้นแหละทึม ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าอะไรเกิดขึ้น ฉันควรจะเชื่อสิ่งที่ฉันเขียนในขณะที่ไม่รู้แม้กระทั่งว่านั้นใช่ลายมือจริงๆ หรือปลอมแปลงห่ะ!ไม่รู้และจำไม่ได้ ใช่สิฉันไม่มีความจำของยอดอัจฉริยะเหลือแล้วนิ !!”
เดรวานหน้าแดงด้วยความโมโห หมายความว่าไงเขาไม่รู้แต่เขาจะต้องหา หาว่าตัวเขามันเป็นยังไงกันแน่
จะเริ่มนับศูนย์ใหม่ตั้งแต่ต้น
เลนส์จ้องเขา ไม่วางตาก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น
“ฉันถามนายหนึ่งข้อ ถ้านายยังเป็นเดรวานจริงๆ ตอบมา ทำไหมฉันต้องเผาทีนี้ ตอบภายในเวลาสองนาที ไม่งั้นฉันจะกระส้วกซิมส์ออกมาแล้วใส่ไว้ในตัวฉันเอง พร้อมปล่อยแกตายเอาไง!!”
มันเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ต้องใช้สมอง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
จบกันไปแล้วเน้อหนึ่งตอนแรกของกาทำเอากาเครียดเลย
เรื่องนี้มีพล็อตเรื่องมานานนมแล้วคะ ตอนแรกไม่วายหรอก หลังๆมันเริ่มกู่ตัวเองไม่กลับจิ้นเลนส์กับเดรวาน
ไปเต็มๆเลยโดนดราเมจเพื่อนรักฮาร์ดคอ
เดรวานเนี่ยที่จริงหล่อนะคะ หล่อแบบนิ่งๆมาดเสื้อกาวน์ไง รอเฮียไปเพิ่มหุ่นแปป แล้วคุณจะได้เห็นความจริม
ส่วนเลนส์ก็อย่างที่คุณเห็นกันอยู่
ที่จริงเลนส์มันใจดีจะตาย ทำไหมเฮียเปลี่ยนไป๋เยี่ยงนี้
ตอนแรกไม่มีกำลังจะเขียนคะเพราะติด ด่าไม่ออก บอกแต่รัก บักกบกับอิเขตอยู่
แต่พอมันไร้สาระห่าเหวไป กาว่ามันไม่ใช่แนวกาอ่ะ แต่งไปแล้วก็อ่านได้
ยอมรับว่าไปติดนิยายคุณกี้เรือง goat howling ทำเอากาเนี่ยเอื่อนความใสๆไปเลย
มันต้องเป็นผู้ใหญ่หน่อยสิเจ๊!!บรรยากาศห้อมล้อมสงคราม อนาคต แฟนตาชี รัก วายโอ มันใช่!!!
………………….คำถาม ตอบด้วยน่า………………………….
คุณจะเลือกอยู่ข้างในระหว่าง วิทยาศาสตร์ กับ ไสยศาตร์
ตอนนี้ยังตอบกันไม่ได้จะเปลี่ยนเมื่อไหร่ก็ได้น่ะ ตอบกันด้วยยยย
ปล #ทีมคริส #ทีมกา #ทีมเพื่อนรักฮาร์ดคอ
.
.
.
.
.
.
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
ท้ายหน่วยการเรียนรู้
Q ; คิดว่าตัวเองฉลาดแค่ไหนกันบ้างคะ
เดรวาน : ไม่รู้สิ แต่อดีตนะฉันอัจริยะ
เลนส์ : ฉลาดกว่าปัจจุบันของแกนั้นแหละ
เดรวาน : อะไรนะ!!
กา : ไม่ต้องเถียงกัน ฉันฉลาดที่สุด!! เพราะฉันเขียนพวกแกไง55555555555555555555555+
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
เดรวาน กำลังเดินเบียดกับผู้คน สีท้องฟ้าเป็นสีเทาและมองเห็นควันไฟมาไกลๆ
สงครามระหว่างศาสนาและวิทยาศาสตร์ เริ่มขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อนเมื่อวิธวัฒนาการของมนุษย์เกิดขึ้นเหนือขีดจำกัดการพยายามไขความลับของธรรมชาติ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย พวกเรามีความอยากรู้ไม่จบไม่สิ้น ค้นพบสิ่งใหม่ๆและใช้มัน เดินไปข้างหน้าแต่ธรรมชาติก็เริ่มถอยหลังลง ท้ายที่สุดก็เกิดความแตกแยกของผู้คนสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งต้องการจะอยู่เหนือกฎเกณฑ์ของโชคชะตา และ อีกฝ่ายต้องการให้มันหวนคืนกลับเดิม ไม่มีสงครามไหนรุนแรงเท่าสงครามของความเชื่อ เพราะไม่มีใครถูกและไม่มีใครผิด ฝ่ายหนึ่งก็มีเหตุผล และ อีกฝ่ายก็มีเหตุผลเช่นกัน
มันจึงกลายเป็นสงครามที่กินเวลาและชีวิตมาเนิ่นนาน
สำหรับเดรวานเขาไม่ได้อยู่ฝ่ายไหนทั้งสิ้น และคิดที่จะถอยให้ห่าง
ที่นี้คือสถานีรถไฟกิลเบิร์ส ที่ๆเขากับเลนส์จะต่อรถไฟออกจากเมืองไปทางตอนใต้ของประเทศ แถวนั้นคงปลอดภัยพอให้เขาตั้งตัวสักพัก ชายหนุ่มยืนตัวลีบอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนที่จะออกจากรัฐเช่นเดียวกัน เดรวานเป็นคนต้วผอมและสูง ดวงตาคล้ำเหมือนคนอดนอน และปากแตกเหมือนคนขาดน้ำเขาพึ่งรู้สึกตัวว่าผิวแห้งและเริ่มมีกลินตัว
เดรวานกัดปากแตกๆของตน เขาไม่ได้ชกมก แต่ต้องเป็นเรื่องตอนเช้าแน่ๆ ที่ทำให้เขายังไม่ทันได้แตะน้ำสักหยด
ในเช้าที่มีเสียงปืนปลุกเช่นทุกๆวัน มีกลิ่นเลือดและควันไฟต้อนรับเช่นทุกเช้า และมีน้ำตากล่าวสวัสดี เขาตื่นขึ้นมา รู้สึกเวียนหัวเหมือนโลกหมุนเป็นวงกลม หาวกว้างๆสองสามที ก่อนจะตกใจเล็กน้อย เมื่อพบว่าตัวเองไม่ได้นอนที่เตียง ชายหนุ่มกวาดตามองรอบๆเมื่อได้สติ
ตรงหน้าคือโต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์ชนิดล้าหลังเปิดหน้าจอค้างไว้และไม่เห็นคีร์บอด มีแต่กระดาษกระจัดกระจายไปทั่ว เขาใช้มือกวาดกระดาษพวกนั้นเบื่อกับความมักง่ายของตัวเองก่อนจะยิ้มกว้าง คีร์บอดไม่ได้หายไปไหนแค่โดนกระดาษบังอยู่เท่านั้น ดีแล้วเขาจะได้ไม่ต้องซื้อใหม่ มันคงหายากมากในสมัยนี้ เดรวานบิดขี้เกียจยืดเส้นยืนสาย ปวดไปทั้งหลัง ถึงเตียงเก่าๆที่นอนทุกคืนจะไม่ได้ดีกว่าโต๊ะแต่ก็ไม่ทำให้เสียสุขภาพ ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ล้อหมุนโทรมๆ เคินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่หมกไว้กับเสื้อผ้าเป็นกอง ระหว่างทางก็เผลอเหยียบถุงขนม ที่จำไม่ได้แล้วว่าซื้อมาเมื่อไหร่ กระป๋องเบียร์ทำให้เกือบล้มหน้าคว่ำและเกือบลื่นกับเปือกกล้วย เขาเชื่อแล้วว่าตัวเองนะชกมกพอๆกับหนูเหมือนที่เลนส์ว่าไว้ไม่มีผิด
พอคิดถึงเลนส์เขาก็ไม่ได้เจอหน้าหมอนั่นมานานแล้วสิ เจอกันครั้งสุดท้ายน่าจะเจอที่แล็บก่อนเจ้าตัวจะไปทำงาน เลนส์เป็นผู้ชายตัวใหญ่และดูสุขภาพดีผิวสีน้ำผึ้งและตาสีฟ้า เขาเคยถามเลนส์ว่าเป็นคนที่ไหนและชายหนุ่มก็ตอบว่า
เป็นคนยุโรปใต้ ทำให้เดรวานที่ไม่เคยเห็นคนยุโรปผิวสีมาก่อนก็ตาวาวทันที เนื่องจากส่วนตัวชอบยุโรปใต้อยู่แล้ว ทำให้เขาปลื้มเพื่อนคนนี้ใหญ่ ถึงขั้นโดนเพื่อนร่วมทีมแซวว่าจะขอแต่งงานเลยไหม ชายหนุ่มก็แค่หัวเราะดังๆเป็นคำตอบ เลนส์เป็นทหาร ชายหนุ่มดูดีมากในชุดเครื่องแบบสาวๆยังเหลียวหลังมามอง ผิดกับเขาที่เป็นเพียงนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานอยู่ในแล็บ วันๆเอาแต่นั่งทดลองท่องสูตรเคมีและลุ้นกับผลการทำงาน ไม่มีสาวๆที่ไหนเขาชอบผู้ชายที่หัวหงอกทั้งหัวหรอก คิดแล้วก็เครียด
เดรวานตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าตัวเองในกระจก นี้คนใช่ไหม เงาสะท้อนให้เห็นชายหนุ่มตาคล้ำดูน่ากลัว แก้มตอบเหมือนคนไม่ได้กินข้าว แล้วก็ยิ่งตกใจเมื่อพบว่ามือตัวเองเหี่ยวเมื่อคนขาดน้ำ
เดรวานแกไปทำอะไรมา!!
หรือว่าเขาเครียดกับผลทดลองเมื่อสองวันที่แล้วมากไป ให้ตายสิ!!ใช้มือเหี่ยวๆลูบหน้าตัวเอง หมดกันความหล่ออันน้อยนิดของเขาหายหมดแล้ว คิดแล้วผมคงหงอกหมดหัวแน่ๆ ถ้าอาบน้ำเสร็จเมื่อไหร่ล่ะก็เขาจะรีบไปหาอะไรยัดเข้ากระเพราะอย่างไวเลย!! ในขณะที่มือเหี่ยวๆกำลังจะล้างหน้านั้น เสียงเหมือนคนพังประตูเข้ามาก็ทำให้เขาตกใจ เดรวานขมุ่นคิ้ว เมื่อวานจำได้ว่าให้ค่าเช่าไปแล้วต้องการอะไรอีก
“เดรวาน!!แกอยู่ไหน!” ชายหนุ่มเลิกสนใจอ่างน้ำตรงหน้าเมื่อได้ยินเสียงตวาด
เสียงโทนนี้เขาจำได้ต้องเป็นเลนส์แน่ๆ!!
ว่าแต่กลุ่มก่อการร้ายแถวโรงงานนิวเคลียร์มันปราบง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ เดรวานไม่มั่นใจที่จะออกไปนอกห้องน้ำตอนนี้ ถึงแม้อยากเจอเจ้าของตาสีฟ้าใจจะขาดแต่ก็ห่วงความปลอดภัยตัวเอง เขาไม่มีการติดต่อกับเลนส์เลยตั้งแต่ที่เข้าไปรบ มันอาจจะเป็นเลนส์ตัวปลอมก็ได้ ชายหนุ่มคว้าแปรงขัดส้วมสีฟ้ามาเป็นอาวุธ ตีทีเดียวอาจเพิ่มดราเมจคูณสอง เดรวานกลั้นหายใจลึกก่อนจะเอาหูแนบประตูได้ยินเสียงโครมครามเหมือนคนรื้อของ ขโมยแน่ๆ!!
เดี๋ยวนี้ใจกล้ามาตั้งแต่กลางวันแสกๆเลยรึ จะได้เห็นดีกันไอ้โจรขี้ลอกเสียง!!
เขาเปิดประตูออกไป วิ่งเต็มฝีเท้าพุ่งไปหาเป้าหมายในเสื้อคลุมสีดำตัวยาวที่กำลังรื้อของบนโต๊ะ ทำงาน เงื้อแปรงขัดส้วมจะฝากลงเต็มหัว แต่มันช่างช้านักเมื่อโดนตัวปลอมปัดทิ้งภายในเสี้ยววินาที
“แกเล่นบ้าอะไรของแก ไอ้หนูโสโครก!!”
มีคนบนโลกนี้ไม่ถึงสามคนที่เรียกเขาว่าหนูโสโครก และหนึ่งในนั้นคือเลนส์
แต่….ทำไหม ไม่เหมือนเดิม
“เลนส์….แกไปโดนอะไรมา!!!” ชายหนุ่มตัวผอมกระชากคอเสื้ออีกคน จ้องคนตรงหน้าด้วยแววตาวาววับ
เลนส์หนุ่มสุขภาพดีผิวสีน้ำผึ้ง ดวงตาสีฟ้าสดใสกับรอยยิ้มน่ารักหายไป…
เหลือแค่ดวงตาสีฟ้าหมองข้างหนึ่งเสี้ยวหน้าของมนุษย์ แขนซ้ายและขาส่วนบน ส่วนตรงอื่นๆนั้นกลับแทนที่ด้วย
เครื่องจักร…..
เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับเพื่อนเขา ไม่ต้องบอกก็รู้การเชื่อมชีวิตกับเครื่องจักรนั้นเป็นวิทยาการณ์ทางการแพทย์ขั้นสูง ไม่เคยมีใครทดลองผ่านมากกว่าสามคน แต่ส่วนมากก็ขาเทียมให้กับสัตว์หรือใช้ช่วยคนตาบอดให้มองเห็นสีขาวดำ ใครมันอัจฉริยะขนาดนี้!! จะรีบบินไปกราบเป็นศิษย์เลย!!
“เรื่องมันยาว” เขาตอบ ค่อยๆแกะมือที่กำคอเสื้อเขาไว้
มือนั้นคลายออกแล้วสวมกอดแทน ทำให้เจ้าของตาสีฟ้าถึงกับทำอะไรไม่ถูกอยู่ๆมีผู้ชายตัวเท่าควายมากอดมันไม่ซึ้งหรอก แต่สำหรับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานมันก็คงต้องซึ้งบ้าง เอามือข้างกลตบหลังมันเบาๆ(แต่กระดูกแทบหัก)เป็นการปลอบ เดรวานคลายกอดก่อนจ้องหน้าหาเรื่อง
“ตอนนี้ แกต้องทำตามที่ฉันบอกให้ว่อง” เลนส์กล่าวไม่สนใจเจ้าของห้องที่จ้องราวกับเขาเป็นตัวประหลาด
“ทำไหม?มีเรื่องบ้าอะไรเกิดขึ้นอีก” เดรวานกอดอก ท่าทางอย่างนั้นเรียกรอยยิ้มให้เลนส์ทุกที เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าพอทำท่าอย่างนี้ มันส่งให้ร่างสูงๆนั้นดูฉลาดและหล่อมากเลยทีเดียว แต่นี้ไม่ใช่เวลาล้อเล่นมีเรื่องใหญ่รอเขาอยู่
“เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังเรื่อง—“ ยังไม่ทันพูดจบประโยคก็โดนแทรกขึ้นด้วยร่างสูงตรงหน้า
“เรื่องมันยาวเข้าใจล่ะ ต้องให้ฉันทำอะไร” กึ่งเครื่องจักรยกยิ้ม ต้องให้มันได้อย่างนี้สิ ไม่งอแงไม่เข้าท่าแต่ดูโง่ขึ้นนะ
“เอาของที่จำเป็น ถ้าฉันยังไม่เห็นแกมีเป้ในมือในสามนาที ฉันจะเผาห้องนี้แล้วให้ทั้งตัวมีชุดนี้แค่ชุดเดียว!!”
อารมณ์ร้าย…เดรวานคิดในใจ ก่อนจะเดินไปทางห้องนอน เอาเป้คู่ใจที่ไม่ได้ใช้มาเป็นปีมาปัดฝุ่น ก่อนจะเลือกกางเกงในที่ไม่ใส่สามสี่ตัวและใส่แล้วอีกเป็นสิบ กางเกงและเสื้อ ที่คิดว่าดีที่สุด แล้วก็ชุดกาวน์ตัวเก่ง ก่อนที่เขาจะได้คว้าผ้าเช็ดตัวไปล้างหน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้านั้น เขาก็ได้ยินเสียงตึงตังข้างนอกเสียก่อน ให้ตายสิ! ข้าวของมันแพงนะหัดถนอมไว้หน่อยจะตายรึไง
ว่าแล้วก็คิดจะออกไปด่าคนข้างนอกให้เจ็บๆแสบๆกับนิสัยไร้มารยาทต่างจากภูมิลำเนาบ้านเกิดที่เขาชอบ
ก็เห็นเลนส์กำลังเก็บหนังสือสามเล่มลงในกระเป่าหนังใบหนึ่งตั้งค่ารหัสบ้างอย่างบนกระเป๋า ได้ยินเสียงดังคลิ๊กจากกระเป๋านั้น แล้วเขาก็ดึงตัวเสียบข้อมูลจากคอมพิวเตอร์รุ่นเดอะหาว(ที่ไม่รู้เสียบได้ไง) มาใส่ในกล่องเล็กๆคล้ายกล่องแหวนแต่พอมันปิดกลับไม่เห็นมีรอยเปิดเหมือนกับเป็นลูกคิวบิกสีขาวขุ่น ก่อนจะใส่มันในกระเป๋าหนังอีกฝั่งหนึ่งแล้วลงรหัสอีกครั้ง อะไรมันจะซับซ้อนขนาดนั้น
“ขอฉันอาบน้ำก่อนได้ไหม” เดรวานเอ่ย แล้วพึ่งมานึกได้ว่าทำไหมต้องขอด้วย ในเมื่อเขาเป็นเจ้าของห้อ เลนส์เหลือบมองเขาก่อนจะเง่ยหน้ามองนาฬิกาแขวนผนังที่โทรมแต่เดินไม่เคยพลาด ครึ่งกลส่ายหน้อย“ไม่ทันถึงนายจะอาบน้ำเร็วแค่ไหน” เลนส์เดินตรงมาหาร่างผอม ก่อนส่งกระเป๋าหนังให้
เดรวานมองมัน ก่อนจะต้องตาโตนิดๆเมื่อกระเป๋าหนังขนาดใหญ่เมื่อกี้ย่อตัวเองเป็นแค่ซิมส์เล็กๆเปราะบาง
“ถอดเสื้อ”
หะ……ว่าไงนะ!!!
เดรวานตาโตกว่าเดิม “อะไรทำไมต้องถอด!”เขากล่าวเอามือบังตัวเองไว้ จ้องชายหนุ่มผิวสีตรงหน้าอย่างระแวง
“อย่าเล่นตัวเดรวาน นี้เรื่องใหญ่เร็วๆ!” เลนส์ฉุนเฉียวกับผู้ชายตรงหน้า
เห็นกันมาตั้งนานนมแล้วจะกลัวอะไรนักหนา เขากลัวเหลือเกินว่าจะไม่ทันเวลาเพราะเจ้าตัวเล่นตัวเกินพอดี
เมื่อเห็นคนตรงหน้ากอดอกส่งสายตามาก็เลยต้องขัดไม้แข็ง “จะถอดเอง หรืออยากเดินตัวเปล่าออกจากที่นี้!!”
เมื่อเห็นเขาขู่ เจ้าหนูมอมแมมก็ยอมถอดเสื้อเหวี่ยงทิ้งทันที
“เอาไงต่อ” ทำท่าฉลาด เมื่อกี้ยังกับไอ้โง่จะเสียตัว
เลนส์นำซิมส์ที่เหมือนความลับนานาชาติแตะลงบนอกข้างซ้ายของหนูท่อ แอบเห็นว่าเดรวานก็มองมือเขาอยู่ ดูนิ่งๆ อย่างนี้สิดูฉลาดดี เขาปล่อยมือ ซิมส์นั้นออกรากดำก่อนจะเจาะฝังตัวเข้าไปในอกของคนตัวผอม
เดรวานนิ่วหน้า เจ็บไม่ใช่เล็กหรอก แต่เลนส์ยอมรับหมอนี้อึดพอที่จะไม่ทำตัวเป็นภาระ เขาเงยหน้าดูนาฬิกาอีกที
อีกสามสิบนาที…ยังพอให้เขามีเวลาทำลายหลักฐาน
ก่อนจะเหลือบมองไปที่เพื่อนตกใจนิดๆเมื่อเห็นไอ้คนที่อึดทำหน้าซีดนั่งกับพื้น มันยังไม่ได้กินอะไรนี้ลืมไป
“ไปกินยาซะ เอาของพยาบาลไปด้วย พวกแปรงสีฟันก็เอาไปแกคงไม่โง่ใช่ไหม”
เดรวานพยักหน้า ก่อนจะลุกไปที่กล่องพยายามหยิบของในนั้นใส่เป้ไม่ลืมกินยาเม็ดหนึ่ง ตรงไปที่ห้องน้ำหยิบแปรงสีฟัน ยาสีฟัน มีดโกน และของจำเป็นรวมถึงมีดพก ยังไม่วายแอบเอาสารเคมีที่แอบคิดค้นใส่กระเป๋าด้วย ขวดที่เขาใช้บรรจุยาทนทานพอที่จะไม่แตกระหว่างทาง พอเก็บของเรียบร้อยแล้ว เขาก็เห็นเลนส์ในห้องครัว
ชายหนุ่มก้มเงยๆทำอะไรสักอย่าง
“ทำบ้าอะไรของแก”
“ทำร้ายหลักฐาน”
“นายกำลังจะเผาที่นี้!!” เดรวานตวาด เขาชักจะงงกับเรื่องนี้จู่ๆเลนส์ที่หายตัวไปมาสั่งให้เขาไปเก็บของ ใส่อะไรไม่รู้เข้ามาในตัวเขา แถมจะเผาที่ๆเขาซุกหัวนอนปลายเท้ามาเป็นปีนี้นะ
“นี้มันเรื่องบ้าอะไร!!แกหายหัวเป็นชาติกลับมาก็เปลี่ยนไป สั่งฉันให้เก็บของแล้วยังจะฝังอะไรบ้าๆในอกฉันอีก ยังไม่พอแกยังจะเผาที่อยู่ฉัน ประสาทรึไง!!”
แล้วไม่นาน หมักหนักๆก็ต่อยเข้าเต็มหน้าเขา รู้สึกว่าล้มไปคะมำกลับพื้น
“นึกว่าฉลาดจะคิดออกตั้งแต่แรก!! ฉันน่าจะจำได้ว่าเดรวานไอ้อัจฉริยะที่ฉันรู้จักโดนดูดสมองไปหมดแล้ว เหลือก็แต่กะโหลกกับก้อนเนื้องอกก็เท่านั้น ถ้านายจะสังเกตให้เหมือนเขานิดหนึ่งจะเห็นว่าเขาเขียนเล่าแก มาหมดทุกอย่างโดยที่ฉันแทบไม่ต้องบอกแกเลย!! ไอ้ตาบอดเอ๋ย!! กระดาษบนนั้นไงไอ้ทึม “
เลนส์ชี้ไปที่โต๊ะทำงานที่มีกระดาษกองมากมายสุ่มอยู่
แล้วเดรวานก็ต่อยเขากลับไป
“แกนั้นแหละทึม ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าอะไรเกิดขึ้น ฉันควรจะเชื่อสิ่งที่ฉันเขียนในขณะที่ไม่รู้แม้กระทั่งว่านั้นใช่ลายมือจริงๆ หรือปลอมแปลงห่ะ!ไม่รู้และจำไม่ได้ ใช่สิฉันไม่มีความจำของยอดอัจฉริยะเหลือแล้วนิ !!”
เดรวานหน้าแดงด้วยความโมโห หมายความว่าไงเขาไม่รู้แต่เขาจะต้องหา หาว่าตัวเขามันเป็นยังไงกันแน่
จะเริ่มนับศูนย์ใหม่ตั้งแต่ต้น
เลนส์จ้องเขา ไม่วางตาก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น
“ฉันถามนายหนึ่งข้อ ถ้านายยังเป็นเดรวานจริงๆ ตอบมา ทำไหมฉันต้องเผาทีนี้ ตอบภายในเวลาสองนาที ไม่งั้นฉันจะกระส้วกซิมส์ออกมาแล้วใส่ไว้ในตัวฉันเอง พร้อมปล่อยแกตายเอาไง!!”
มันเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ต้องใช้สมอง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
จบกันไปแล้วเน้อหนึ่งตอนแรกของกาทำเอากาเครียดเลย
เรื่องนี้มีพล็อตเรื่องมานานนมแล้วคะ ตอนแรกไม่วายหรอก หลังๆมันเริ่มกู่ตัวเองไม่กลับจิ้นเลนส์กับเดรวาน
ไปเต็มๆเลยโดนดราเมจเพื่อนรักฮาร์ดคอ
เดรวานเนี่ยที่จริงหล่อนะคะ หล่อแบบนิ่งๆมาดเสื้อกาวน์ไง รอเฮียไปเพิ่มหุ่นแปป แล้วคุณจะได้เห็นความจริม
ส่วนเลนส์ก็อย่างที่คุณเห็นกันอยู่
ที่จริงเลนส์มันใจดีจะตาย ทำไหมเฮียเปลี่ยนไป๋เยี่ยงนี้
ตอนแรกไม่มีกำลังจะเขียนคะเพราะติด ด่าไม่ออก บอกแต่รัก บักกบกับอิเขตอยู่
แต่พอมันไร้สาระห่าเหวไป กาว่ามันไม่ใช่แนวกาอ่ะ แต่งไปแล้วก็อ่านได้
ยอมรับว่าไปติดนิยายคุณกี้เรือง goat howling ทำเอากาเนี่ยเอื่อนความใสๆไปเลย
มันต้องเป็นผู้ใหญ่หน่อยสิเจ๊!!บรรยากาศห้อมล้อมสงคราม อนาคต แฟนตาชี รัก วายโอ มันใช่!!!
………………….คำถาม ตอบด้วยน่า………………………….
คุณจะเลือกอยู่ข้างในระหว่าง วิทยาศาสตร์ กับ ไสยศาตร์
ตอนนี้ยังตอบกันไม่ได้จะเปลี่ยนเมื่อไหร่ก็ได้น่ะ ตอบกันด้วยยยย
ปล #ทีมคริส #ทีมกา #ทีมเพื่อนรักฮาร์ดคอ
.
.
.
.
.
.
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
ท้ายหน่วยการเรียนรู้
Q ; คิดว่าตัวเองฉลาดแค่ไหนกันบ้างคะ
เดรวาน : ไม่รู้สิ แต่อดีตนะฉันอัจริยะ
เลนส์ : ฉลาดกว่าปัจจุบันของแกนั้นแหละ
เดรวาน : อะไรนะ!!
กา : ไม่ต้องเถียงกัน ฉันฉลาดที่สุด!! เพราะฉันเขียนพวกแกไง55555555555555555555555+
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ