THE ERASE TYPE : ฝ่าพิษนรก

8.9

เขียนโดย KOWASERU

วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 16.15 น.

  3 TYPE
  11 วิจารณ์
  5,591 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558 18.10 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) DM TYPE?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
TYPE
: 01 :
DM TYPE.
 
 
 
          เรียวปากแตกระแหงสำรอกของเหลวสีแดงข้นหนืดออกมา กลิ่นคาวของมันกระจายคลุ้งเป็นวงกว้าง พื้นที่สมควรจะสะอาดสะอ้านกลับเจ่อนองไปด้วยเลือด ซึ่งก็ไม่ใช่ของใครอื่นเลย บนสังเวียนเดือดที่คล้ายกับนรกนี่ มีเพียงร่างชายหนุ่มสองคนยืนประจันหน้ากันเท่านั้น
 
          แม็กซิมัสมองคู่ต่อสู้ด้วยแววตาแข็งกร้าวและระมัดระวังตัว ในขณะที่อีกฝ่ายก็มองกลับมาด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน ทุกคนต่างรู้อยู่แล้ว..หากแพ้ นั่นก็หมายความว่าคนคนนั้นยอมที่จะถวายชีวิตอันมีค่าแม้บ้างทีมันจะน้อยนิดก็ตามให้นรกไป
          เสียงโห่ร้องก้องเชียร์จากนอกลูกกรงใหญ่ดังขึ้นกระทบโสตประสาท แม็กซิมัสกระชับมีดสั้นในมือแน่น มืออีกข้างยกปาดเลือดซึ่งไหลเข้าตาให้ห่างจากการบดบังทัศนียภาพ ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มพุ่งเข้าหากันอีกครั้ง..
 
 
 
          3 ชั่วโมงก่อนหน้า
 
          เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นอย่างน่าเวทนา แม็กซิมัสมองเจ้าของเสียงด้วยแววตาไร้ซึ่งความรู้สึก ก่อนจะตัดสินใจสงเคราะห์ ด้วยการเหยียบไปยังด้ามมีดซึ่งปักอยู่ข้างขมับของชายวัยกลางคน เพราะแรงส่งจากขา ทำให้มีดสั้นซึ่งเป็นดั่งมัจจุราชได้แทงทะลุกะโหลกหนานั่นไปในทันที
 
          ดั่งวิญญาณถูกกระชาก เสียงร้องสิ้นสุดลง เปิดทางให้ความเงียบเข้ากลืนกินบรรยากาศรอบตัวอีกครั้ง
 
          ฟ้าครามที่เคยสวยงามเมื่อยามเย็น บัดนี้มองไม่เห็นอะไรนอกจากสีดำสนิทซึ่งกลืนทุกอย่างให้รู้สึกได้เพียงความว่างเปล่า ถึงอย่างนั้น แม็กซิมัสก็ยังเลือกที่จะเงยมองมัน สัมผัสอะไรบางอย่างที่เรียกว่าความไม่สิ้นสุด แม้จะมีม่านบางๆมากั้นเอาไว้ก็ตาม
 
         
          “หิมะนี่.. มันแสบผิวชะมัด”
          แม็กซิมัสพึมพำขึ้นเบาๆ ก่อนลากสายตาหันกลับมาสนใจเด็กหนุ่มซึ่งนอนขดตัวด้วยความสั่นกลัวอยู่ข้างกำแพง ไม่ไกลนั้น มีหลอดยาบรรจุด้วยน้ำสีเหลืองและเขียวกระจายเต็มพื้น ชายหนุ่มเดินเข้าไปเก็บมันโดยไม่สนใจคนเป็นที่นอนสะอึกสะอื้นก่อนจะเดินออกมา
 
          “ช..ช่วย.ย..”
          “..ฆ่า”
 
          เด็กหนุ่มพยายามคลานมาจับข้อเท้าของแม็กซิมัสเอาไว้ ร่างไร้เรี่ยวแรงและโทรมไปด้วยบาดแผลช้ำม่วงช้ำเขียวพยายามอ้าปากพูดขึ้นให้เป็นคำๆ ทว่าไม่ทันไร เด็กคนนั้นก็ต้องพลิกตัวนอนหงายดีดดิ้นทุรนทุราย ..ชายหนุ่มจึงรีบถอยห่างออกมา
 
          “อั่ก! ..อ๊ากกกกกกก!! ฮึ่ก.. อ๊ากก!”
         
          เล็บที่บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นสีดำนั้นกำลังฉีกเนื้อส่วนผิวหน้าของตัวเองออกมา มันควักลูกตาของตัวเองออก ปากก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาน เพียงไม่กี่นาที จากร่างที่เคยเป็นเด็กหนุ่มตาสีมะกอกผมเหลือบทองก็กลายเป็นตัวอะไรบางอย่างซึ่งห่างไกลจากคำว่ามนุษย์!
          ผิวของมันสีดำสนิท ดวงตาโบ๋กลวง อะไรก็ไม่น่าสยดสยองเท่าริมฝีปากซึ่งฉีกกว้างถึงใบหู..
 
 
          “ตัวน่ารำคาญ..”
 
          แม็กซิมัสพูดขึ้นเบาๆ เขาหยิบมีดสั้นซึ่งเหน็บไว้ด้านหลังขึ้นมาตั้งท่ารับการโจมตี ตัวน่ารำคาญที่ว่ายันตัวเองลุกขึ้นจากพื้น มันสะบัดหัวไปมาเล็กน้อย ด้วยการยืนสี่ขาทำให้ท่าทางของมันคล้ายสัตว์ป่า มันทำจมูกฟุดฟิดราวกับกำลังจับทิศทางของเหยื่อ
 
          ทว่า แม็กซิมัสไม่ใช่เหยื่อ เมื่อร่างอมนุษย์นั่นพุงเข้ามา ชายหนุ่มเงื้อมีดขึ้นสูงแล้วปักฉึกเข้าที่ข้างขมับของมันได้อย่างทันท่วงที!
          ร่างนั้นนอนแน่นิ่งกับพื้น..
 
 
          รอบตัวกลับมาสงบเงียบอีกครั้ง..
 
          กลิ่นคาวเลือดกระจายเป็นวงกว้างแบบนี้ ไม่วายคงจะเรียกตัวน่ารำคาญพวกนั้นให้เข้ามารุมตอม ..แม็กซิมัสมองร่างไร้วิญญาณที่แปรเปลี่ยนเป็นร่างเด็กน้อยผิวขาวนัยน์ตาโบ๋กลวงด้วยสายตาว่างเปล่าก่อนเดินจากออกมา
           ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่เขา.. ซึ่งเป็นผู้ช่วยชีวิต และช่วงชิงชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกัน ..จะเรียกว่าช่วงชิงก็ไม่ถูกไปเสียทีเดียว ชายหนุ่มไม่เคยคิดต้องการชีวิตที่ไร้ค่าแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ ไม่กี่หมื่นตารางกิโลเมตรซึ่งเทียบเท่ากับหนึ่งประเทศแบบนี้ เขาไม่เคยคิดอยากจะตื่นขึ้นมาเหยียบมันเลย
 
          ในวันนั้น.. แม็กซิมัสยังคงจำมันได้ดี วันที่เขาอายุสิบห้า เป็นวันที่ถูกลักพาตัวมาและฉีดสารกระตุ้นอะไรบางอย่าง ความร้อนที่ระอุขึ้นเรื่อยๆภายในแทบจะแผดเผาอวัยวะทุกส่วนให้หลอมละลาย แน่นอนว่ามันต้องทรมานเสียจนทนไม่ไหว ไม่ต่างอะไรกับการอยู่ในนรก ..เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่า ตัวเองนั้นได้อยู่ในนรกจริงๆเสียแล้ว
 
          นรก ที่มีมนุษย์หลายพันคนถูกจับขังให้ฆ่ากันเองเพื่อแย่งชิงตัวยาสำคัญ DM TYPE ตัวยาสีเหลืองซึ่งจะยับยั้งการกลายร่างเป็น ตะขาบ ..อดีตมนุษย์ไร้ซึ่งความคิดและชีวิตจิตใจ ผิวหนังจะแปรเปลี่ยนเป็นสีดำเนื่องจากตัวยาที่ถูกฉีดมานั้นบังคับและกระตุ้นการทำงานภายในให้ผิดเพี้ยน และเมื่อตัวยาได้กัดกินสู่สมอง สติสัมปชัญญะของคนคนนั้นก็จะถูกดูดออกไป พวกมันจะคิดถึงแต่งานอดิเรกที่แสนวิปริต ซึ่งก็คือการฉีกเนื้อมนุษย์ออกเป็นชิ้นๆด้วยความสนุกสนาน
 
          และคุกอาชยากรเปรียบเสมือนห่วงโซ่อาหารขนาดย่อมๆ ผู้ที่แข็งแรงย่อมต้องกินผู้ที่อ่อนแอกว่า สถานที่แห่งนี้จึงเปรียบเสมือนการสร้างอาชยากรด้วยอมนุษย์อย่างไม่ต้องสงสัย แล้วมันจะทำไปเพื่ออะไร สถานที่ใหญ่เทียบเท่าหนึ่งประเทศแบบนี้ ไม่มีมนุษย์ภายนอกคนไหนรับรู้ได้เลยเหรอ นั่นคือสิ่งที่แม็กซิมัสเฝ้าถามตัวเองมาโดยตลอด
 
 
          เพราะอะไรกัน?
         
 
 
           - - -
 
          แม็กซิมัสเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูเหล็ก ที่แห่งนี้เคยเป็นอพาร์ทเม้นต์เก่ามาก่อนอย่างแน่นอนและมันได้ถูกปล่อยทิ้งร้างเอาไว้ ชายหนุ่มบิดลูกบิดประตูแล้วเดินเข้าไปยังห้องสี่เหลี่ยมซึ่งมีขนาดไม่เท่าไหร่นั้น
 
          ขายาวก้าวไปหยุดอยู่ตรงเตียง.. สายตานิ่งเรียบนั้นทอดมองร่างของเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งนอนตะแคง เธออยู่ในชุดสีขาวยาวที่สะอาด ทว่า..มือทั้งสองข้างถูกมัดไขว้ไว้ด้านหลังด้วยเชือดเส้นหนา ขาก็ไม่ได้ต่างกัน ปากของเธอนั้นก็ถูกผ้าสะอาดคาดเอาไว้
 
          สายตาของแม็กซิมัสที่มองเธอนั้นแสดงความเจ็บปวดออกมาอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นแผลพุพองช้ำม่วงช้ำเขียวที่ผุดขึ้นตามตัว ผิวที่ควรจะขาวใสตามประสาเด็กสาว บางส่วนแปรเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ บางส่วนก็มีสีช้ำอมเทา.. ไม่ต้องเดาเลยว่า หากเจ้าตัวตื่นมาพบกับตัวเองในรูปแบบนี้ สภาพจิตใจของเธอเองจะเป็นยังไง
 
 
          แค่เธอต้องมาอยู่ในนรกแบบนี้.. มันก็นรกพอแล้วแท้ๆ..
         
          “กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
 
          เสียงทุ้มดังขึ้นเบื้องหลัง คนถูกทักหันไปมองต้นเสียงก็พบชายหนุ่มอายุไล่เลี่ยกันยืนกอดอกพิงกำแพงอยู่
 
          “ไม่นาน” แม็กซิมัสตอบกลับสั้นๆ ก่อนโยนกระเป๋าหนังสีดำให้อย่างไม่คิดจะรักษา
          “เห้ยๆ ระวังหน่อยสิวะ”
 
          ชาง รีบเข้ามารับกระเป๋าหนังสีดำนั่นทันที สิ่งที่อยู่ภายในนั้นค่อนข้างมีค่าสำหรับเขา เมื่อชายหนุ่มเปิดกระเป๋าดู ก็พบว่ามันคือดีเอ็มไทป์ สารยับยั้งการติดเชื้อในกระแสเลือดไม่ให้กลายพันธุ์ไปเป็นตะขาบ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันสิบเอ็ดหลอด สีเหลืองสามหลอด และสีเขียวอีกแปดหลอด
          นัยน์ตาสีมะกอกเบิกกว้างขึ้นอย่างนึกทึ่ง
 
          “สิบเอ็ดหลอด นี่นายไปได้มันมาจากไหนเยอะแยะนักวะ?”
 
          “ลูกฟลุ๊คน่ะ” แม็กซิมัสตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะนั่งลงตรงข้างเด็กสาวผิวขาวผมยาวสลวยที่นอนหลับไม่ได้สติ ทว่าสีหน้าของเธอกลับแสดงอาการเจ็บปวดออกมาแม้ในยามหลับ ชายหนุ่มลูบแก้มของเธอเบาๆอย่างทะนุถนอมราวกับว่า เธอนั้น เป็นแก้วสลักที่พร้อมจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ
 
          ชางมองเพื่อนตัวเองอย่างไม่เชื่อ เขารู้อยู่แล้วว่าแม็กซิมัสก็แค่โกหกบอกปัดไปเท่านั้น คราบเลือดซึ่งเลอะอยู่ตามชายเสื้อและผ้าพันคอเป็นหลักฐานชั้นดีว่าเพื่อนคนนี้ไปเจอกับอะไรมา ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดจะเซ้าซี้อะไรให้มากความ
 
          ชางเดินไปที่มุมห้อง ซึ่งมีตู้กระจกเปิดอยู่ เขาวางดีเอ็มไทป์ทั้งสิบเอ็ดหลอดนั่นลงในตู้ด้วยความระมัดระวัง ก่อนเดินกลับมาทิ้งตัวนั่งที่โซฟาตรงข้ามเตียง
 
          ชายหนุ่มเปิดประเด็นขึ้นมา
 
 
          “อาการของหลินแย่ลงมาก ลำพังแค่ยาที่นายหามาได้นี่ คงจะไม่พอ”
          ชางพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด มองเพื่อนซึ่งลูบแก้มน้องสาวของตัวเองแล้วก้มหน้าลงพื้น ประสานมือกับหน้าตักก่อนจะเผลอบีบเบาๆ
          “เมื่อก่อน หลินต้องใช้ดีเอ็มไทป์ทุกๆสามวัน แต่ระยะหลังๆนี่ เธอต้องการมันแทบจะทุกๆสามชั่วโมง”
          “นายเห็นแผลนั่นมั้ย ก่อนที่นายจะมา ฉันได้เอาสีเขียวของฉันให้หลินถึงสามหลอด แผลพวกนั้นก็ยังไม่หายไป ทำได้แค่ทุเลาลงเท่านั้น ไหนจะอาการคลั่งทุกๆครั้งที่ขาดยานั่นอีก บอกตามตรงนะ ถ้าฉันไม่มัดเธอไว้ ป่านนี้คงจ้วงลูกตาออกไปกินเรียบร้อยแล้ว..”
          “..ตอนนี้ยาของเราก็เหลือแค่สิบเอ็ดหลอดที่นายหามาใหม่”
 
          “นายต้องการมันอีกเท่าไหร่” แม็กซิมัสถามเสียงเรียบ ชางเมื่อได้ยินคำถามนั้นก็กลืนน้ำลายลงคอ ก่อนตอบ..
 
          “ฉันต้องการอาร์บีไทป์”
 
          เกิดความเงียบระหว่างสองคน แม็กซิมัสไม่ตอบกลับอะไร ใครต่อใครก็รู้ดีว่า RB TYPE นั้นหายากแค่ไหน ในหนึ่งปีพวกแร้งจะแจกจ่ายลงมาซักกี่หลอดเชียว..
 
          เพราะอาร์บีไทป์ คือไทป์ที่สามารถเปลี่ยนจากตะขาบให้กลายเป็นมนุษย์ปรกติได้ภายในหลอดเดียว การแก่งแย่งจึงเกิดขึ้นพร้อมๆกับความสนุกของพวกเบื้องบน เมื่อถึงเวลานั้น บ็อกซ์ จะเปิดการเดิมพัน และสิ่งที่คนคนนั้นจะเอามาเดิมพันก็คือ.. ชีวิต
         
          “หามันได้จากที่ไหน” แม็กซิมัสถามเสียงแผ่วพลางเกลี่ยแก้มใสเบาๆ เขาใช้นิ้วโป้งปาดคราบน้ำตาที่แห้งไปแล้วออกให้สาวน้อยตรงหน้า
 
          “แหล่งข่าวบอกมาว่า พวกบ็อกซ์กำลังกระจายอาร์บีไทป์ในทุกๆเขต เขตละสามหลอด แต่พวกมันกลับไม่บอกคุณสมบัติผู้ใช้เนี่ยสิ..”
 
          “ฉันจะไปเอามันมา”
 
          “ใจเย็นๆก่อนพี่ชาย ต้องให้ฉันเตือนนายเรื่องความเสี่ยงอีกกี่ครั้งกันห้ะ?” ชางว่า “นายก็รู้ว่าอาร์บีไทป์ไม่ได้มีแค่ชนิดเดียว และพวกมันก็เล่นไม่บอกคุณสมบัติตัวยา แล้วแบบนี้ นายคิดว่ามีโอกาสกี่เปอร์เซ็นต์กันที่ไทป์ของมันจะเข้ากับไทป์ของหลิน?”
          “ถ้าหากตัวยาไม่สัมพันธ์กันกับผู้ใช้ สารบางอย่างจะไปกระตุ้นการทำงานภายในให้ร้อนระอุ พิษตะขาบในอาร์บีไทป์ก็จะแทรกซึมผ่านเส้นเลือดและทำปฏิกิริยาต่อต้านจน ..บึ้ม ระเบิดร่างคนคนนั้นแหลกระเอียดไม่ต่างกับโจ๊กที่นายกิน”
 
          “แล้วนายจะให้ฉันทำยังไง?” แม็กซิมัสลุกขึ้น หันไปเผชิญหน้ากับอีกคน “จะต้องให้น้องสาวของนายกลายเป็นตะขาบไปก่อนหรือไง!”
          “...” ชางนิ่ง ไม่พูดอะไร
          “ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายคิดยังไง แต่ฉันทนอยู่เฉยๆไม่ได้และถ้านายอยากจะช่วยน้องสาวของตัวเอง ก็อย่ามาขวางทางฉัน”
         
          ประโยคหลังนั้นแม็กซิมัสพูดเสียงเหี้ยม สายตาที่แม้ว่าตอนนี้มันจะเต็มไปด้วยความปวดร้าว ทว่ามันก็ยังฉายแววความแข็งแกร่ง.. นับตั้งแต่วันนั้นที่เขาอายุสิบห้า จนตอนนี้ก็ผ่านมาหกปี สองมือได้เปื้อนเลือดจนไม่อาจล้างออกด้วยน้ำธรรมดา เส้นทางที่เดินมา ก็ยากจะกลับไป
 
          ชางรู้ดี แม้ว่าจะไม่ใช่เพื่อนสมัยเด็ก และเป็นคนที่พึ่งจะมาเจอกันในคุกนรกแห่งนี้ก็ตาม แต่ระยะเวลาตลอดสี่ปีมันก็พิสูจน์แล้วว่าแม็กซิมัสไม่ใช่คนที่ใครก็ตามจะมาเคี้ยวเอาง่ายๆ
 
          และก็คงเป็นเพราะเหตุผลนี้.. ไม่ว่าแม็กซิมัสจะต้องตวัดคมมีดปักสมองพวกตะขาบตายไปเท่าไหร่ ตัวเขาก็ไม่เคยบาดเจ็บกลับมาแม้แต่รอยขีดข่วน มันเป็นเครื่องการันตรีได้เลยว่าชายคนนี้แข็งแกร่งจริงๆ..
          ไม่ว่าจะเป็นสายตา จิตใจ และฝีมือ
         
 
          “ให้ตายสิวะ แกนี่มันดื้อด้านหัวชนฝาจริงๆ” ชางยกสองมือขึ้นเชิงยอมแพ้ พร้อมกับส่ายหัวเอือมกับความไม่ฟังใครของเพื่อนตนเบาๆ “ถ้านายไป ฉันก็จะไปด้วย”
          “อะไรนะ?”
          “ถ้านายอยู่ ฉันก็จะอยู่”
          “...”
          “แม็กซ์ นายคงไม่ใจร้าย หนีไปตายเอาความสบายบนสวรรค์ แล้วทิ้งให้ฉันกับหลินต้องกลายเป็นตะขาบอยู่ในนรกบนดินหรอกนะ ใช่มั้ย?”
          “...”
 
          แม็กซิมัสนิ่งไปนิด มันกดดันไม่น้อยเหมือนกันนะ ที่ต้องมารับผิดชอบชีวิตใครถึงสองชีวิตแบบนี้ ถึงอย่างนั้น.. หากวันนั้นเขาไม่ได้เจอกับชาง เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายดังเช่นเขา ในวันนี้ ก็อาจจะไม่ได้มายืนปั้นหน้าเครียดอยู่ก็เป็นได้
 
          “ว่ายังไงล่ะ?”
 
          “อืม” แม็กซิมัสตอบรับสั้นๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่หลินรู้สึกตัว
          สาวน้อยไอโขลกจนตัวโยน ชางแทบจะถลาเข้ามาประคองร่างน้องสาวตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง ชายหนุ่มรีบแก้มัดมือและเท้าพร้อมเอาผ้าที่คาดปากออกด้วยอย่างไว แม็กซิมัสที่ทำท่าจะเข้าไปช่วยดูอาการกลับต้องชะงัก เมื่อเพื่อนรักพูดดักทางเอาไว้ก่อน
 
          “ฉันคิดว่านะ นายควรไปล้างตัวก่อนดีกว่า เหม็นเลือดจะตายชัก ฉันไม่อยากให้น้องสาวตัวเองขวัญผวาไปมากกว่านี้หรอกนะ”
 
          แม็กซิมัสตอบรับสั้นๆเช่นเดิม ก่อนถอดเสื้อที่เปื้อนเลือดโยนมันทิ้งไว้ข้างๆประตู แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
         
          “..หิวน้ำมั้ยหลิน”
          สาวน้อยส่ายหน้าเบาๆ “..พี่ชาย”
 
 
          - - -
 
          ตอนแรกว่าจะแค่สองสามหน้าเวิร์ด           ที่ไหนได้.. ล่อไปเก้าหน้า
          พิมพ์เพลินไปหน่อยแฮะ..
          อินโทรอยู่หน้าบทนำนะครับ แนะนำคลิกไปอ่านก่อนเนอะ
          ฝากนิยายด้วยนะครับ
 
* เจอคำผิด สะกิดเบาเบา..

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา