THE ERASE TYPE : ฝ่าพิษนรก

8.9

เขียนโดย KOWASERU

วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 16.15 น.

  3 TYPE
  11 วิจารณ์
  5,586 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558 18.10 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) คราบเลือดที่แห้งกรัง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ


TYPE

: 02 :

คราบเลือดที่แห้งกรัง

 

 

          แม็กซิมัสปล่อยให้สายน้ำเย็นไหลผ่านร่างกายไปเรื่อยๆ ไอสีขาวกระจายรอบกายซึ่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามที่แข็งแรงอย่างคนออกกำลังมากกว่าจะมาจากการเพาะกล้าม มือข้างหนึ่งซึ่งเปื้อนคราบเลือดยกเท้ากับกำแพง กลิ่นคาวที่ยังคงติดอยู่ช่างน่าคลื่นเหียนเสียจนอยากจะอาเจียนออกมา

 

          แม้ว่าอากาศจะติดลบหลายองศา แต่แม็กซิมัสก็ยังเลือกที่จะยืนนิ่งอยู่ภายใต้สายน้ำซึ่งเย็นเยียบ ปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบดับจิตใจที่กำลังร้อนรุ่ม..

 

          แม็กซิมัสกำลังตื่นเต้น

 

          ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของเขาในตอนนี้ เป็นเครื่องการันตีได้อย่างดี

          มันกำลังเต้นระรัว คล้ายคนเพิ่งออกกำลังกายมาอย่างหนัก

 

 

          ใช่แล้ว..

 

          มันคือความรู้สึกเดียวกันกับที่เขาได้เห็นการเดิมพันครั้งแรกนั้นบนสังเวียนเดือดในเขต X การเดิมพันซึ่งมีกลิ่นอายของความตายฟุ้งกระจายไปรอบบริเวณ รอบๆนั้นปรากฏศพของชายมากมายจมกองเลือดอยู่ และผู้ที่ยืนอยู่กลางวงล้อมนั้น เปรียบดั่งผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด

 

          ..ดั่งราชสีห์บนซากศพไฮยีน่า

 

 

          ภาพนั้นยังคงติดตาของแม็กซิมัส

          ผมสีขาวราวหิมะยาวประบ่าของมันชุ่มไปด้วยเลือด

          หากแต่สิ่งโสโครกนั้น ไม่อาจกลบความอำมหิตซึ่งโดดเด่นออกมาได้

 

          มันกำลังเหยียบอยู่บนหัวของชายอีกคนผู้มีร่างกายใหญ่โตกว่าหลายเท่านัก ทว่า ไอ้ร่างยักษ์กลับกำลังขอร้องอ้อนวอนทั้งน้ำตา ..ไร้ความเวทนา มีเพียงความน่าสมเพชเพียงเท่านั้น

 

          เสียงปืนดังขึ้น..

          พร้อมกันกับเสียงลมหายใจที่สิ้นสุดลง

 

          แม็กซิมัสยังคงจำมันได้ดี สิ้นเสียงสัญญาณเวลา ภาพที่ชายคนนี้ง้างขากระทืบศีรษะของคู่ต่อสู้เสียจนอวัยวะสำคัญไหลทะลักกะโหลกภายในครั้งเดียว ทุกอย่างนิ่งสงบไปเพียงชั่วครู่ ก่อนที่เสียงเฮยกย่อง ราชันย์เขต X จะดังขึ้นมาแทนที่

 

 

 

          ความแข็งแกร่งไม่อาจเกิดขึ้นได้หากยังมีความปราณี..

          แม็กซิมัสรู้ได้ทันที เมื่อได้สบตากับชายคนนั้น

 

 

          มันยิ้ม..

 

 

          "..หึ"

 

          แม็กซิมัสชกเข้าไปที่กำแพงด้วยความแรง เศษกระเบื้องแตกกระจายเป็นรอยหมัด ของเหลวสีแดงสดไหลหยดตามสายน้ำสะอาดและลงท่อไป..

 

          ชายหนุ่มมองรอยแผลที่หลังมือของตนเอง

          มันค่อยๆสมานตัวช้าๆ และเรียบเนียนในที่สุด

 

 

 

- - -

 

          หลินนั่งไกวขาอยู่บนเตียงนอนที่ยับยู่ แววตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล.. สาวน้อยคนนี้ไม่ได้ห่วงเรื่องแผลพุองน่าเกลียดบนร่างกายของตนเองหรอกนะ แต่ห่วงคนที่คอยทำให้แผลของตนทุเลาลงต่างหาก เธอไม่ใช่เจ็ดขวบ ไอ้เหตุผลไปเจอมันตกอยู่ตามทางเลยเก็บมานั่นน่ะ มันฟังไม่ขึ้น!

 

          ไหนจะไอ้ความรู้สึกของคนที่กำลังจะกลายร่างไปเป็นตะขาบนั้นเป็นยังไง เด็กสาวสัมผัสมันมาแล้วหลายต่อหลายหนอีกล่ะ..

 

          มันเจ็บปวดราวกับมีเข็มนับพันเล่มทิ่มแทงอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง ความขมในปากและเหม็นหืนน่าคลื่นเหียนกระจายคลุ้งไปทั่ว อวัยวะภายในคล้ายกับกำลังบิดเบี้ยวและผิดรูป ..เจ็บเบ้าตาทั้งสองข้างจนแทบจะทนไม่ไหว อยากจะควักมันออกมาเสียให้ห่างจากความทรมานแต่ก็ทำไม่ได้

 

          หากว่าไม่โดนมัดเอาไว้ ..ลิ้นก็คงจะถูกกัดขาด เบ้าตาทั้งสองข้างก็คงจะถูกควัก ยิ่งผิวหนังไม่ต้องพูดถึง ลอกได้คงจะลอกไปแล้วล่ะนะ..

 

          หลินแลบลิ้นออกมา ความขมในปากมันยังคงติดอยู่เลย..

          เสียงประตูห้องน้ำเปิด สาวน้อยละไปสนใจคนมาใหม่แทน

 

 

          "..พี่ชาย"

          หลินเอ่ยปากเรียกแม็กซิมัสซึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ และกำลังเช็ดหัวตัวเองอยู่ คนถูกเรียกเมื่อรู้สึกตัว ก็เดินเข้ามาหาพร้อมยิ้มให้เล็กน้อย

 

          "ฟื้นแล้วหรือไง ยัยตัวแสบ"

 

          หลินพองแก้ม "ตั้งแต่ที่พี่ชายเข้าห้องน้ำไปนั่นแหละค่ะ"

 

          "ชางมันไปไหน"

 

          "ต้มน้ำอุ่นอยู่ในครัวค่ะ"

 

          "อืม" แม็กซิมัสตอบรับสั้นๆแค่นั้น เมื่อเห็นว่าคนที่ตนห่วงนักห่วงหนาเมื่อไม่ถึงชั่วโมงที่ผ่านมานั้น กลับมาเป็นสาวน้อยที่น่ารักคนเดิม แม้จะยังมีรอยแผลพุพองปรากฏให้เห็นอยู่จางๆก็เถอะ จึงตั้งใจจะเดินไปหยิบเสื้อมาใส่ หากแต่ต้องชะงักเมื่อมือบางรั้งผ้าขนหนูที่คล้องคออยู่เอาไว้

 

          แม็กซิมัสหันมอง ในขณะที่อีกคนหลุบสายตาลงต่ำ

 

          "พี่ชาย.. ไม่บาดเจ็บอะไรใช่ไหมคะ?" หลินถามขึ้นเบาๆ

 

          "ทำไมถามอย่างนั้น?"

 

          "ก็ดีเอ็มไทป์พวกนั้น.."

 

          แม็กซิมัสหันมาหาอีกคนโดยไม่รอให้เธอพูดจบ ฝ่ามือกว้างวางทาบลงกับหัวของอีกฝ่ายแล้วขยี้เบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว จนผมสีดำเงาฟูเสียไม่เป็นทรง

 

          "พี่ชาย! มือหนักนะ!" หลินพยายามดันมือนั้นออก

 

          "อย่ามาทำตัวงี่เง่าไม่เข้าเรื่องน่า"

 

          "งี่เง่าเหรอคะ"

 

          "ใช่" แม็กซิมัสยกยิ้ม "งี่เง่า"

 

          "หยาบคายมากเลยนะ พูดกับผู้หญิงตัวเล็กๆออกมาตรงๆแบบนั้นน่ะ"

 

          "เธอไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น ทำไมฉันต้องถนอม"

 

          "เห.. กำลังจะบอกว่าหลินถึกงั้นเหรอคะ"

 

          แม็กซิมัสยิ้มให้แทนคำตอบ มันทำให้สาวน้อยปรี๊ดทันที

          ลืมเรื่องที่ต้องการจะถามก่อนหน้านั้นไปเสียสนิท

 

          "หยาบคายมาก!" หลินฟาดมือไปข้างหน้า พยายามจะต่อยเข้าที่ท้องของอีกฝ่าย แต่ก็ทำได้แค่คว้าอากาศเพียงเท่านั้น แม็กซิมัสออกแรงดันหัวสาวน้อยที่กำลังโวยวายเบาๆแล้วหัวเราะร่า

 

          "อย่าหลบสิคะ! จะตีให้ช้ำเลย!!"

 

          "ฮ่าๆๆ เด็กน้อย"

 

          "ไม่เด็กแล้ว!"

 

          "สั้นๆป้อมๆ แบบนี้เนี่ยนะ" แม็กซิมัสเลิกคิ้วมอง สาวน้อยหน้าขึ้นสีทันที

 

          "มาตฐานหรอกนะคะ!"

 

          "มันต้องร้อยเจ็ดสิบไม่ใช่เหรอ?"

 

          "ร้อยหกสิบห้าก็ได้โว้ย"

 

          "อ้อ เหรอ" แม็กซิมัสสนุกกับการหยอกล้อหลิน ไม่ว่ายังไงในสายตาเขา ก็ยังมองว่าเธอเป็นเด็กน้อยที่ต้องได้รับการปกป้องอยู่ดี แม้ว่าหลินเองจะอายุสิบเจ็ดและไม่ได้ห่างจากเขามากเท่าไหร่ก็ตามที

 

          ความไร้เดียงสานี้ ควรจะเก็บมันเอาไว้ เมื่อคราวต้องออกไปสัมผัสกับโลกภายนอก

          ..แม็กซิมัสก็ยังต้องการให้เธอเป็นหลินคนเดิม แม้ว่าความหวังนั้นมันริบหรี่มากมายก็ตาม

 

          วันข้างหน้า ตราบใดที่ยังต้องอยู่ในคุกนรก ตราบใดที่ยังต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางซากศพ

          ฆ่าผู้อื่นเพื่อเอาชีวิตรอด สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือความแข็งแกร่ง

 

          ซึ่งสิ่งนั้นมักจะแลกและมาพร้อมกับความตาย

          แม็กซิมัสไม่ต้องการอย่างนั้น ไม่อยากให้สองมือบางที่ควรจะใสสะอาดนั่นเปื้อนเลือดแม้แต่หยดเดียว

 

          ตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมา เขาทำได้.. และจะทำต่อไป

          ชายหนุ่มเผลอยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มจากใจ

 

          "ไง สิ้นฤทธิ์แล้วหรือยัง?"

          แม็กซิมัสเอ่ยถาม ละมือออกจากหัวอีกคนก่อนจะดีดหน้าผากเธอเบาๆ หลินกุมหน้าผากตรงที่โดนดีดแล้วขมวดคิ้ว มุ่ยหน้าด้วยความเจ็บ

 

          "เกลียดพี่ชายชะมัด" เธอว่าพลางหอบหายใจเหนื่อย ช้อนตามองคนกอดอกด้วยความเคือง

          "เหรอ เกลียดต่อไปสิ ฉันไม่เดือดร้อน"

          "เกลียดโว้ย ..อย่าเผลอนะ จะฟาดไม่เลี้ยง"

          "กลัวจัง"

          "พี่ชาย!"

 

          "..ฮึ"

 

          หลินเอื้อมมือหยิบหมอนฟาดอีกคนด้วยความแรง แม้ว่าแม็กซิมัสจะไม่สะทกท้านแต่ก็ยังต้องยกมือขึ้นป้องหัวอยู่ดี เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายต้องเล็งมาที่หัวเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว

 

 

          ชางที่กอดอกมองเหตุการณ์ของสองคนนั้นอยู่หน้าห้องครัวขำออกมาเบาๆ ..เฉพาะกับเวลาที่อยู่ต่อหน้าหลินสินะ แม็กซิมัสถึงจะยอมยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ความโหดร้ายที่ฆ่าคนได้อย่างไม่ต้องคิดเมื่ออยู่ต่อหน้าศัตรูนั้นมลายหายไปหมด

 

          เหลือไว้เพียงชายหนุ่มอายุยี่สิบเอ็ดปี กับเด็กสาวอายุสิบเจ็ดที่เล่นกันตามปกติของครอบครัวอบอุ่นเพียงเท่านั้น..

 

          ชางกระแอมไอเบาๆ ดีดแก้วน้ำสแตนเลสในมือให้เกิดเสียงเพื่อห้ามศึกที่กำลังจะเกิดขึ้น ก่อนเดินเข้าไปแทรกกลางระหว่างสองคนนั้น

 

          "หมดเวลาสนุกแล้วสิ"

 

          ".. พี่ชาง!"

 

          ชางยิ้ม พร้อมลูบหัวเธอเบาๆ

 

          "ข้าวต้มเสร็จแล้วนะ จะกินเลยมั้ยหลิน"

 

          "ค่ะ หิวมากเลย" หลินพยักหน้า  "อะ แต่ข้าวต้มเป็นของหลินคนเดียวนะ พี่ชายไม่เกี่ยว"

          แม็กซิมัสเลิกคิ้วมอง "นอกจากจะเตี้ยแล้วยังขี้งก"

          "ว่าไงนะคะ!" สาวน้อยเงื้อหมัดขึ้นพร้อมต่อย

 

          "พอเลยหลิน" ชางรับหมัดน้อยๆนั่นเอาไว้ ก่อนหันมาหาแม็กซิมัส "นายก็ด้วย หลินพึ่งจะฟื้นตัว ทำอะไรรุนแรงนักห้ะ"

 

          "นั่นสิคะ หยาบคายมาก ถึงว่า หาแฟนไม่ได้ซักที"

          "ฉันไม่ได้อยากจะมีหรอกนะ ของพรรค์นั้น"

          "ล้อเลียนหลินเอาไว้มากๆ ขอให้ได้ฮิปโป"

          "อยากโดนเจาะสมองสินะ.." แม็กซิมัสคิ้วกระตุก

 

          "แม็กซ์ ไม่เอาน่า หลินเจ็บอยู่นะ" ชางปรามขำๆ ให้ตายสิ อยู่ด้วยกันทีไร ตั้งท่าจะรบกันทุกที

 

          "พี่ชาง ตกลงข้าวต้มเป็นของหลินนะ"

          "อื้ม ของเรานั่นแหละ พี่กำลังจะออกไปข้างนอกพอดี"

          "ไปไหนเหรอคะ?"

 

          "นี่แหละนะ.. เด็กน้อยมักจะอยากรู้อยากเห็น"

 

          "พี่แม็กซ์!"

 

          ชางหัวเราะขึ้นมา "หลิน ช่วยไปหยิบเสื้อมาให้มันใส่ทีสิ หนาวจะตายแล้วล่ะมั้ง"

 

          "เอ๋?"

 

          ชางกระทุ้งศอกเข้าที่ข้างเอวแม็กซิมัสเบาๆเชิงส่งซิก อีกคนเมื่อเห็นดังนั้นก็รู้ได้ทันที แกล้งจามออกมาสองสามครั้งพร้อมลูบแขนทำท่าทางคล้ายว่าตัวเองหนาวมากมาย ..ทั้งที่ก่อนหน้ายืนอยู่ได้อย่างไม่สะทกสะท้าน

 

          "อะ พี่ชาย.. ! ได้ค่ะ" ด้วยความเป็นห่วง หลินรีบลุกขึ้นตรงไปยังระเบียงด้านหลังห้องทันที เมื่อทางสะดวก ชางจึงพูดขึ้นสั้นๆ เบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะจริงจัง..

 

 

          "พวกบ็อกซ์มันมาแล้ว เตรียมตัวเอาไว้ให้ดี"

          "ที่ไหน?"

          "เขต K ..สายข่าวรายงานมาว่า เป็นตัวเบ้งจากเขต X"

 

          แม็กซิมัสชะงักไปนิด ก่อนระบายรอยยิ้มออกมา

          "เอาสิ ฉันก็อยากเจอกับมันสักครั้งเหมือนกัน"

 

 

 

- - -

 

#. มาอัพแล้วครับ หลังจากที่หายไปนานหลายวัน.. [ ใครเขารอกันล่ะนั่น.. ]

ตอนนี้ แค่ทดลองการเขียนฉาก บรุ้งบริ้ง เฉยๆครับ

เป็นฉากที่ไม่ถนัดเอาซะเลย.. //ปาดเหงื่อ

เอาเถอะ.. ตอนหน้าโชกเลือดแล้วนะครับ ..สมองไหลกระจัดกระจายแน่นอน [ เวอร์ไป.. ]

ฝากติดตามด้วยนะ ^^

 

#เจอคำผิด สะกิดเบาๆ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา