Hunter of the sea หัวใจนักล่าแห่งทะเล
7.8
เขียนโดย Kanaki
วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 13.01 น.
2 chapter
1 วิจารณ์
4,298 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2558 13.07 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) Corey Rang
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความนามปากกาผมคือ “CR” ย่อมาจากชื่อจริงของผมคือ Corey Rangs (คอเรย์ แรงส์) ผมเป็นนักเขียนนวนิยายที่ตามแรงบันดาลใจ ซึ่งไม่มีเรื่องใดที่ดึงดูดผมกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเรื่องที่ถูกปกปิดไว้อีกแล้ว ผมเลยออกเดินทางตามหาแรงบันดาลใจ เรื่องที่ทุกคนสงสัย เรื่องที่ใครไม่สามารถหาข้อเท็จจริงได้และกลายเป็นข่าวลือที่ไม่มีมูลเหตุไม่มีที่มาและไม่ใช่จากประสบการณ์ตรง
จากคดีความเก่าเก็บเรื่องเมื่อ 50 ปีก่อนที่ตำรวจปิดคดีไว้เพราะหาสาเหตุอะไรไม่ได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คน จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องลื้อมันออกมาอีก ผมเลยต้องออกตามหาผู้ที่เหลือรอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้นด้วยตัวเอง
“ก๊อกๆๆ”
“ขอโทษด้วยค่า ห้องพักของเราเต็มแล้ว”
“ก๊อกๆๆ”
“นี่คุณ...!!” จดหมายที่แนบกับบานกระจกประตู ทำให้ฉันตกใจว่าในที่สุดเขาก็มาจริงๆ...
“…”
“สวัสดีค่ะคุณ Rangs เชิญเข้ามาด้านในก่อนค่ะ ฉันจะไปตามเขาให้นะคะ”
“ขอบคุณครับ”
ภายในห้องทำงานสี่เหลี่ยมกว้างขวางรกนิดหน่อยแต่ก็ดูสบายตา ทั้งห้องเต็มไปด้วยของสะสมและโมเดลเรือต่างๆ กลิ่นหอมอ่อนๆของกาแฟที่เกือบเย็นยังคละคลุ้งไปทั่วห้อง มีชายวัยกลางคน ผมสีขาวสะอาดตากำลังนั่งต่อเรือในขวดโหลบนเก้าอี้สีแดงนั่นอย่างเบามือ
“มีอะไรรึ” ชายผมขาวถามขึ้นเมื่อเห็นภรรยาของเขาเดินเข้ามาด้วยท่าทางรีบร้อน
“เขามาแล้ว มาพบคุณ”
“ไล่เขากลับไป ผมไม่ต้องการพูดอะไรกับใครทั้งนั้น”
“แต่เขามีเงินนะคุณ!”
“...” โทมัส (ชายผมขาว) ไม่ตอบอะไรซึ่งทำให้ภรรยาของเขาโกรธมาก ภรรยาของเขาหยิบไม้ที่คีบของโทมัสโยนทิ้งลงกับพื้นอย่างรุนแรง และพูดกับเขาด้วยสีหน้าจริงจัง
“คุณต้องคุยกับเขา โทมัส คุณก็รู้ว่าเศรษฐกิจของเราตอนนี้เป็นยังไง เงินของเขาจะช่วยเราได้” ภรรยาพูดกับเขาด้วยเหตุผล ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้
“ก็ได้ ผมจะพูดเท่าที่ควรพูดละกัน”
ผมนั่งรอภรรยาของคุณโทมัสอยู่ไม่นานเธอก็ออกมาพร้อมกับความหวัง เพราะผมคงได้คุยกับคุณโทมัสแน่ๆ เธอบอกกับผมแบบนั้น ผมรีบก้าวเท้าไปหาเขาอย่างไว เพราะกลัวว่าเวลาสักวินาทีที่เสียไปคงทำให้ผมสูญเสียอะไรบางอย่างที่สำคัญไปแน่ๆ
ภายในห้องสึ่เหลี่ยมเต็มไปด้วยความเงียบและความกดดัน ชายหนุ่มผู้มาใหม่ดูท่าทางรุกรี้รุกรนเหมือนรีรอที่จะปริปากถามในเรื่องที่ตนเองอยากรู้แทบไม่ไหว จนโทมัสต้องเอ่ยถามออกไป
“คุณจะคุยอะไรกับผม”
“ผมอยากรู้เรื่อง...”
“คุณรู้ไหมว่า เมนเดล เป็นนักเขียนที่เก่งกาจเอามากๆ เขาทำให้ผลงานของเขากลายเป็นที่รู้จักไปเกือบทั่วโลก และนั่นแหละที่เรียกว่า นักเขียน”
“ผมรู้ครับว่าผมไม่ใช่นักเขียนที่เก่งกาจอะไรมากมาย เป็นแค่นักเขียนที่เสาะหาเรื่องจริงที่ไม่มีใครเขาหากัน เพราะผมอยากรู้เรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ มากกว่า...และผมรู้ว่าถ้าผมแต่งมันขึ้นมาเองมันจะไม่ใช่สิ่งที่มันควรจะเป็น”
โทมัสมองคอเรย์อย่างตกตะลึงในความคิดของเขาแต่ยังคงเก็บสีหน้าเรียบเฉยไว้ภายใต้หน้ากากที่เขาไม่อยากให้ใครก็ตามถอดมันออกมา ว่าภายใต้หน้ากากใบนั้นซุกซ่อนความอ่อนไหวและหวาดกลัวไว้มากเพียงใด
“ผมไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ กลับไปสะ!” โทมัสพูดด้วยน้ำเสียงเหี้ยม
“ผมแค่อยากบอกว่าผมเดินทางมาไกลมาก เพื่อตามหาตัวคุณและนี่คือเงินค่าพัก 3 วันแลกกับการที่ผมจะได้คุยกับคุณ 1 คืน ขอร้องละครับ” แต่คอเรย์ยังไม่ลดละความพยายาม
“กลับไปและเอาเงินคุณกลับไปด้วย ออกไปสะ!” โทมัสเริ่มโกรธจัดและพูดด้วยน้ำเสียงที่ออกคำสั่งกับคอเรย์มากขึ้น นั่นทำให้เขาถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้และถอดใจในที่สุด
ผมรีบสาวเท้าออกมาจากห้องนั้นอย่างไวเพราะรู้ว่าไม่มีหวังแน่ๆ โทมัสคงไม่มีทางปริปากบอกผม แต่ภรรยาของโทมัสก็รีบวิ่งเข้ามาดึงตัวผมเอาไว้ก่อน
“คุณจะกลับไม่ได้นะ”
“แต่เขาไม่ต้องการคุยกับผม เขาไล่ผมออกมา ผมทำไม่ได้จริงๆ”
“ฉันจะไปคุยกับเขาให้ คุณยังกลับตอนนี้ไม่ได้ เรื่องในอดีตมันคอยตามหลอกหลอนเขาให้รู้สึกผิดไปชั่วชีวิต เป็นเรื่องที่แม้แต่ฉันเขาก็ไม่เคยบอก คุณเป็นคนเดียวที่ช่วยให้เขาสารภาพบาปได้ ขอร้องล่ะค่ะ”
ภรรยาของโทมัสเข้าไปเกลี้ยกล่อมเขาให้ผมอีกครั้ง คราวนี้เขาดูสงบลงนิดหน่อยแต่สีหน้าและคิ้วที่ขมวดอยู่นั่นยังคงอยู่เหมือนเดิม ความตึงเครียดเริ่มปั่นป่วนในช่องท้องของผม ความตื่นเต้นของผมยังคงมีอยู่พอๆ กับความอยากรู้ของผมที่ไม่ลดละ ในที่สุดเขาก็กำลังจะปริปากบอกเรื่องนั้นให้กับผมแล้ว...
จากคดีความเก่าเก็บเรื่องเมื่อ 50 ปีก่อนที่ตำรวจปิดคดีไว้เพราะหาสาเหตุอะไรไม่ได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คน จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องลื้อมันออกมาอีก ผมเลยต้องออกตามหาผู้ที่เหลือรอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้นด้วยตัวเอง
“ก๊อกๆๆ”
“ขอโทษด้วยค่า ห้องพักของเราเต็มแล้ว”
“ก๊อกๆๆ”
“นี่คุณ...!!” จดหมายที่แนบกับบานกระจกประตู ทำให้ฉันตกใจว่าในที่สุดเขาก็มาจริงๆ...
“…”
“สวัสดีค่ะคุณ Rangs เชิญเข้ามาด้านในก่อนค่ะ ฉันจะไปตามเขาให้นะคะ”
“ขอบคุณครับ”
ภายในห้องทำงานสี่เหลี่ยมกว้างขวางรกนิดหน่อยแต่ก็ดูสบายตา ทั้งห้องเต็มไปด้วยของสะสมและโมเดลเรือต่างๆ กลิ่นหอมอ่อนๆของกาแฟที่เกือบเย็นยังคละคลุ้งไปทั่วห้อง มีชายวัยกลางคน ผมสีขาวสะอาดตากำลังนั่งต่อเรือในขวดโหลบนเก้าอี้สีแดงนั่นอย่างเบามือ
“มีอะไรรึ” ชายผมขาวถามขึ้นเมื่อเห็นภรรยาของเขาเดินเข้ามาด้วยท่าทางรีบร้อน
“เขามาแล้ว มาพบคุณ”
“ไล่เขากลับไป ผมไม่ต้องการพูดอะไรกับใครทั้งนั้น”
“แต่เขามีเงินนะคุณ!”
“...” โทมัส (ชายผมขาว) ไม่ตอบอะไรซึ่งทำให้ภรรยาของเขาโกรธมาก ภรรยาของเขาหยิบไม้ที่คีบของโทมัสโยนทิ้งลงกับพื้นอย่างรุนแรง และพูดกับเขาด้วยสีหน้าจริงจัง
“คุณต้องคุยกับเขา โทมัส คุณก็รู้ว่าเศรษฐกิจของเราตอนนี้เป็นยังไง เงินของเขาจะช่วยเราได้” ภรรยาพูดกับเขาด้วยเหตุผล ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้
“ก็ได้ ผมจะพูดเท่าที่ควรพูดละกัน”
ผมนั่งรอภรรยาของคุณโทมัสอยู่ไม่นานเธอก็ออกมาพร้อมกับความหวัง เพราะผมคงได้คุยกับคุณโทมัสแน่ๆ เธอบอกกับผมแบบนั้น ผมรีบก้าวเท้าไปหาเขาอย่างไว เพราะกลัวว่าเวลาสักวินาทีที่เสียไปคงทำให้ผมสูญเสียอะไรบางอย่างที่สำคัญไปแน่ๆ
ภายในห้องสึ่เหลี่ยมเต็มไปด้วยความเงียบและความกดดัน ชายหนุ่มผู้มาใหม่ดูท่าทางรุกรี้รุกรนเหมือนรีรอที่จะปริปากถามในเรื่องที่ตนเองอยากรู้แทบไม่ไหว จนโทมัสต้องเอ่ยถามออกไป
“คุณจะคุยอะไรกับผม”
“ผมอยากรู้เรื่อง...”
“คุณรู้ไหมว่า เมนเดล เป็นนักเขียนที่เก่งกาจเอามากๆ เขาทำให้ผลงานของเขากลายเป็นที่รู้จักไปเกือบทั่วโลก และนั่นแหละที่เรียกว่า นักเขียน”
“ผมรู้ครับว่าผมไม่ใช่นักเขียนที่เก่งกาจอะไรมากมาย เป็นแค่นักเขียนที่เสาะหาเรื่องจริงที่ไม่มีใครเขาหากัน เพราะผมอยากรู้เรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ มากกว่า...และผมรู้ว่าถ้าผมแต่งมันขึ้นมาเองมันจะไม่ใช่สิ่งที่มันควรจะเป็น”
โทมัสมองคอเรย์อย่างตกตะลึงในความคิดของเขาแต่ยังคงเก็บสีหน้าเรียบเฉยไว้ภายใต้หน้ากากที่เขาไม่อยากให้ใครก็ตามถอดมันออกมา ว่าภายใต้หน้ากากใบนั้นซุกซ่อนความอ่อนไหวและหวาดกลัวไว้มากเพียงใด
“ผมไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ กลับไปสะ!” โทมัสพูดด้วยน้ำเสียงเหี้ยม
“ผมแค่อยากบอกว่าผมเดินทางมาไกลมาก เพื่อตามหาตัวคุณและนี่คือเงินค่าพัก 3 วันแลกกับการที่ผมจะได้คุยกับคุณ 1 คืน ขอร้องละครับ” แต่คอเรย์ยังไม่ลดละความพยายาม
“กลับไปและเอาเงินคุณกลับไปด้วย ออกไปสะ!” โทมัสเริ่มโกรธจัดและพูดด้วยน้ำเสียงที่ออกคำสั่งกับคอเรย์มากขึ้น นั่นทำให้เขาถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้และถอดใจในที่สุด
ผมรีบสาวเท้าออกมาจากห้องนั้นอย่างไวเพราะรู้ว่าไม่มีหวังแน่ๆ โทมัสคงไม่มีทางปริปากบอกผม แต่ภรรยาของโทมัสก็รีบวิ่งเข้ามาดึงตัวผมเอาไว้ก่อน
“คุณจะกลับไม่ได้นะ”
“แต่เขาไม่ต้องการคุยกับผม เขาไล่ผมออกมา ผมทำไม่ได้จริงๆ”
“ฉันจะไปคุยกับเขาให้ คุณยังกลับตอนนี้ไม่ได้ เรื่องในอดีตมันคอยตามหลอกหลอนเขาให้รู้สึกผิดไปชั่วชีวิต เป็นเรื่องที่แม้แต่ฉันเขาก็ไม่เคยบอก คุณเป็นคนเดียวที่ช่วยให้เขาสารภาพบาปได้ ขอร้องล่ะค่ะ”
ภรรยาของโทมัสเข้าไปเกลี้ยกล่อมเขาให้ผมอีกครั้ง คราวนี้เขาดูสงบลงนิดหน่อยแต่สีหน้าและคิ้วที่ขมวดอยู่นั่นยังคงอยู่เหมือนเดิม ความตึงเครียดเริ่มปั่นป่วนในช่องท้องของผม ความตื่นเต้นของผมยังคงมีอยู่พอๆ กับความอยากรู้ของผมที่ไม่ลดละ ในที่สุดเขาก็กำลังจะปริปากบอกเรื่องนั้นให้กับผมแล้ว...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ