แสบนักไม่ให้รักยังไงไหว
-
เขียนโดย ป้านิล
วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.02 น.
5 ตอน
0 วิจารณ์
8,222 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558 15.08 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ตอนที่ 5 สืบข้อมูล
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสวัสดีค่ะนักอ่านที่น่ารักทุกท่าน
นักเขียนหน้าใหม่นามนิลลจันทร์ ขอฝากเนื้อฝากตัว และฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ด้วยนะค่ะ หากใครชื่นชอบนิยายเรื่องนี้เข้าไปทวงถามตามจี้ตอนต่อไปที่ https://web.facebook.com/นิยาย-นิลลจันทร์-นิลดารา-ป้านิล-397085033792182/?ref=hl และที่นี้ https://web.facebook.com/neenlajun ได้เลยค่ะ
นิลลจันทร์
ตอนที่ 5
สืบข้อมูล
ธารใสกวาดสายตาสำรวจเรือนหลังเล็กอีกครั้ง เรือนไม้หลังนี้มีทั้งหมดสามห้องเรียงกัน เป็นห้องเก็บของขนาดเล็กที่เธอใช้นอนเมื่อคืน และมีห้องครัวที่สร้างยื่นออกไปอยู่ติดกับห้องเก็บของทางด้านขวามือ ส่วนทางด้านซ้ายมือติดกับห้องเก็บของเป็นห้องนอน เอาวะไอ้ลูกหนูสำรวจแค่นี้ก่อนเถอะ หิวไส้จะขาดอยู่แล้ว กองทัพต้องเดินด้วยท้องหาอะไรกินก่อนดีกว่า เท้าเล็กจึงเดินเข้าไปในห้องครัว หันซ้ายหันขวา มีหม้อหุงข้าวแต่ยังไม่ได้หุง ขืนรอหุงข้าวเป็นลมพอดี เมื่อกี้ใช้แรงอ่อยพี่หล่อไปตั้งมาก หาอย่างอื่นกินก่อนดีกว่า
“นี่ไงทำยำวุ้นเส้นกินดีกว่า” ธารใสเหลือบไปเห็นวุ้นเส้นบนชั้นอยู่หลายห่อจึงหยิบห่อเล็กมาห่อหนึ่ง เดินไปเปิดดูของสดในตู้เย็น แล้วก็ค้นกุกกัก ซักพักก็ได้ของทุกอย่างมาครบ ว่าแต่พี่หล่อนี่ก็รู้จักทำกับข้าวเหมือนกันหรือนี่ ใช้ได้ แสดงว่าวันข้างหน้าจะเป็นสามีที่ดีได้ แล้วธารใสก็จัดแจงลวกวุ้นเส้นจนเหนียวนุ่ม แล้วก็ยำออกมาได้หน้าตาน่าทานและรสชาติก็น่าชิมเป็นที่สุด
หลังจากที่วุ้นเส้นโชคร้ายห่อนั้นเข้าไปอยู่ในท้องแล้ว หญิงสาวก็เริ่มสำรวจต่อ เท้าเล็กเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเองก่อน พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นเตียงนอนขนาดกลางตั้งอยู่ข้างผนัง คลุมด้วยผ้าคลุมเตียงสีขาวและมีห้องน้ำขนาดเล็กอยู่เยื้องปลายเตียงไปทางด้านขวา ผนังอีกด้านมีตู้เสื้อผ้าขนาดกลางตั้งอยู่
หลังจากปัดกวาดทำความสะอาดห้องเสร็จ หญิงสาวก็ดึงผ้าคลุมเตียงสีขาวออก มือเล็กลูบไล้ไปบนผ้าปูที่นอนสีเขียวอ่อนลายดอกไม้เล็กๆ ด้วยความพึงพอใจ สวยดีเหมือนกันแฮะ ทุกทีนอนแต่ที่นอนปิกนิก แถมห้องนี้ยังใหญ่กว่าห้องเช่าของเธอที่อยู่กับแม่ซะอีก จัดการทำความสะอาดห้องเสร็จก็เดินเข้าไปเปิดดูห้องนอนขนาดใหญ่ของคนรูปหล่อจอมเผด็จการ
ห้องนอนของเขามีเตียงขนาดใหญ่ตั้งอยู่มุมห้องด้านซ้ายมือ ที่ธารใสหมายมั่นว่าอีกไม่นานเกินรอเขาจะไม่ได้นอนคนเดียวแน่นอนเพราะจะมีเธอมานอนเป็นเพื่อนด้วยเตียงใหญ่ขนาดนี้ สงสัยพี่เชิดจะซื้อไว้รอลูกหนูมานอนด้วยแหงม’ แล้วมุมห้องด้านขวาก็มีห้องน้ำขนาดใหญ่ ธารใสจึงรีบเปิดเข้าไปดูด้านใน
‘มีอ่างอาบน้ำด้วยดีจัง โฟมล้างหน้า แชมพู สบู่ ยาสีฟัน อาฟเตอร์เชฟอันนี้ไม่รู้จัก เอาไว้ทำอะไรนะ แต่ช่างเหอะ เข้ามาสำรวจนี่สนใจเจ้าของห้องอย่างเดียว ของอย่างอื่นไม่สน ก็มันไม่น่าสนใจเท่าเจ้าของห้องนี่หว่า ห้องน้ำยังสะอาดอยู่คงไม่ต้องล้างหรอก แต่ถ้าเป็นคนรูปหล่อละก็ เดี๋ยวตอนเย็นไอ้ลูกหนูจะเข้ามาช่วยอาบน้ำให้เอง’
หลังจากสำรวจห้องน้ำจนพอใจ คนสวยก็เดินมาดูที่โต๊ะทำงานของเขา ที่เป็นโต๊ะทำงานขนาดเล็ก มีคอมพิวเตอร์แบบพกพาวางอยู่ด้วย หญิงสาวเดินเข้าไปดูตรงโต๊ะทำงานที่เห็นมีรูปของเขาในสมัยเป็นนักศึกษาใส่กรอบตั้งอยู่
‘โห! พี่เชิดนี่หล่อโคตรๆ มาตั้งแต่หนุ่มๆ แล้ว แต่ตอนนี้ยิ่งหล่อเร้าใจไปกันใหญ่ เฮ้อ! จะทำยังดีน้าถึงจะได้เขามาเป็นหมอนข้างแนบกายตลอดชีวิตเนี่ย ใช่ก่อนอื่นเราต้องหาข้อมูลก่อนดีกว่า คิดจะปล้นสวาทเขาน่ะ ยังไม่รู้จักเขาซักอย่างเลย อยากรู้จริงๆ ว่าเขาเป็นใคร มีลูกมีเมียแล้วหรือยัง
เอ๊ะ! นี่รูปตอนรับปริญญานี่ มีชื่ออยู่ด้วย โอ้โหเฮะ! ดูชื่อพี่แกสิ ‘นายอหังการ์ สิทธินันท์’ วุ้ยทำไมชื่อเหมาะสมกับตัวขนาดนี้ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นใครมีชื่อและนิสัยเหมาะเหม็งขนาดนี้มาก่อนเลย ให้ตายสิ แต่ไอ้นามสกุลนี้ซักวันไอ้ลูกหนูจะเอามาต่อท้ายชื่อตัวเองแน่นอน’
แล้วตาคู่สวยก็เหลือบไปเห็นอัลบั้มรูปขนาดใหญ่อยู่อัลบั้มหนึ่งวางอยู่ชั้นวางของด้านล่างของโต๊ะ มือเล็กจึงหยิบขึ้นมาดูด้วยความอยากรู้เต็มที่โดยไม่มีลังเลซักนิด ในนั้นมีรูปถ่ายของเขาตั้งแต่สมัยเด็กจนถึงปัจจุบัน
‘เฮ้ย! สาวสวยที่หอมแก้มพี่เชิดนี่เป็นใครนะ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอเป็นใคร แต่บังอาจมาหอมแก้มเป้าหมายของไอ้ลูกหนูแบบนี้อภัยให้ไม่ได้ หรือจะเป็นเมียพี่เชิดวะ ตายแล้ว แบบนี้ก็แย่สิ มีเมียแล้วแบบนี้รับไม่ได้ ไม่อยากจะเปิดดูหน้าต่อไปให้ช้ำใจเลย เอาวางไว้ก่อนดีกว่า ไอ้ลูกหนูเอ๊ย แกควรจะหาทางหนีดีกว่า พี่หล่อแกมีเมียแล้วนี่ สถานที่นี้ก็ไม่น่าสนใจอีกต่อไป’ ขณะที่กำลังคิดอะไรเลอะเทอะอยู่นั้น จู่ๆ อัลบั้มรูปที่เธอวางเอาไว้หมิ่นเหม่ก็หล่นใส่เท้าเล็กจนหญิงสาวต้องร้องลั่นด้วยความเจ็บ
“โอ๊ย!” ธารใสนั่งกุมหลังเท้าด้านขวาที่ถูกของแข็งหล่นกระแทกจนเลือดซิบ หันไปมองสิ่งที่ประทุษร้ายร่างกายเธอ ก็พบว่าเป็นอัลบั้มเจ้าปัญหาที่ทำหัวใจของเธอชอกช้ำเมื่อกี้นั่นแหละ และตอนนี้กำลังแผ่หลา
‘ต๊าย! มีเมียแล้วยังมีลูกอีกเหรอเนี่ย ตายแล้วอุตส่าห์ยกใจให้จนหมด แบบนี้ฆ่ากันตายซะยังดีกว่า หัวใจสลายซ้ำสอง หนีอย่างเดียว ฮือ! ชีวิตนี้มันจะมีอะไรซวยกว่านี้อีกไหมเนี่ย ถูกไล่ออกไร้งานทำ กระเป๋าเงินหาย ถูกจับมาผิดตัว แล้วยังดันหลงรักผู้ร้ายรูปหล่อเข้าอีก สุดท้ายความหวังที่จะงาบเขาก็ต้องมลายกลายเป็นหมัน เมื่อพี่หล่อดันมีเมียแถมมีลูกแล้วด้วยตั้งสองคน ดูสิเขาต้องเกิดมาเป็นเนื้อคู่กันแน่ๆ หน้าตาถึงได้เหมือนกันซะขนาดนั้น โฮ! ไอ้ลูกหนูอยากตาย ไม่ดงไม่ดูมันแล้วไอ้อัลบั้มเฮงซวย ทำให้ชอกช้ำใจยังไม่พอ ยังจะมาทำให้เท้าเขามีแผลอีก’ ธารใสรีบเก็บอัลบั้มรูปที่สร้างความโหดร้ายให้กับความรู้สึกนั้นเพื่อจะนำไปวางไว้ที่เดิม
‘อ้าว! อะไรหล่นลงมาอีกวะ เอ๊ะ! นี่มันเมียพี่เชิดเมื่อกี้นี่นา แล้วแต่งงานกับใครวะ หรือพี่เชิดถูกเมียหักหลังหนีไปแต่งงานกับคนอื่นเลยเศร้าโศกเสียใจคิดแค้นผู้หญิงทั้งโลก ก็เลยจับผู้หญิงมาทรมานเล่นโดยมีเธอเป็นรายแรก(ก็อ่านมาจากนิยายนั่นแหละ) ตายแล้ว! แบบนี้เกิดโดนพี่แกข่มขืนขึ้นมาจะทำไงวะ ถึงอยากจะได้เขาเป็นผัวก็เถอะ แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อมนะโว้ย ไม่ได้การแล้ว เราต้องดูให้หมด จะได้รู้อะไรมากกว่านี้’ หญิงสาวจึงตัดสินใจเปิดดูรูปในอัลบั้มใหม่ ตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้าย แล้วก็พับเก็บด้วยความโล่งใจ
‘เพราะสรุปแล้วจากรูปถ่ายทั้งหลายแหล่ ผู้หญิงคนนั้นเป็นพี่สาวพี่เชิดแหงม เพราะเห็นรูปถ่ายที่ถ่ายคู่กันตั้งแต่เด็ก เมื่อกี้ความหึงหวงมันบังตา เลยไม่ได้สังเกต อภัยให้ลูกหนูแล้วกันนะพี่เชิดที่ปรักปรำไปแบบนั้น งั้นแสดงว่าผู้ร้ายสุดหล่อของเรายังไม่มีเมีย เย้! ดีใจที่สุด’
นี่ไอ้ลูกหนู ตกลงหล่อนน่ะ ไม่ได้คิดกังวลเรื่องที่ถูกจับตัวมาเลยใช่ไหม เสียงส่วนดีกระซิบถาม แต่ธารใสก็ตอบได้คำเดียวโดยไม่ลังเลว่า ไม่เลย เพราะมีเป้าหมายยิ่งใหญ่ที่จะงาบผู้ร้ายรูปหล่อนั่นเอง นั่นล่ะสำนึกส่วนร้ายที่ทำให้สำนึกส่วนดีได้แต่ปลง
หลังจากอหังการ์จัดการกับยายตัวแสบของเขาแล้ว ชายหนุ่มก็เดินมายังเรือนไม้หลังใหญ่ ที่เมื่อก่อนเคยเป็นที่ๆ ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอย่างมีความสุข แต่หลังจากที่บิดามาเสียชีวิตลง มารดาของเขาก็เอาแต่เศร้าโศกเสียใจ ไม่อยากนอนในบ้านที่มีความทรงจำอันแสนหวานกับสามี คุณนายอรพรรณมารดาของเขาเลยย้ายไปอยู่กับพี่สาวของเขาที่กรุงเทพฯ ทิ้งให้อหังการ์ต้องอยู่คนเดียวในเรือนไม้หลังมหึมาสองชั้นแทน ซึ่งเขาคิดว่ามันดูเปล่าเปลี่ยวโหวงเหวงเกินไป ชายหนุ่มจึงสั่งคนงานให้ปรับพื้นที่และสร้างเรือนไม้หลังเล็กขนาดสองห้องนอน ที่รายล้อมด้วยต้นสนขนาดใหญ่ ที่คุณปู่ของเขาผู้คลั่งไคล้กับบรรยากาศในหนังฝรั่งเรื่องหนึ่งที่มีต้นสนปลูกอยู่รายล้อมบ้าน เลยจำลองสถานที่นั้นมาไว้ จนเดี๋ยวนี้ต้นสนต้นใหญ่ขึ้นและก็สูงทึบ ทำให้เรือนของเขาดูร่มรื่น ชายหนุ่มจึงอาศัยอยู่ที่นั่น เวลามารดามาหาก็มักจะพักที่ห้องเล็กเสมอ
เรือนใหญ่นี้อยู่ห่างจากเรือนเล็กของเขาเกือบสองร้อยห้าสิบเมตร แถมระหว่างทางที่มาก็มีแต่ต้นไม้ใบหญ้าพันธุ์ประหลาดคล้ายยุคไดโนเสาร์ ที่คุณปู่ของเขาชื่นชอบ ปลูกไว้จนเต็มไปหมด เขาเลยไม่กลัวว่าแม่ตัวแสบจะกล้าหนีออกมาได้ โดยที่อหังการ์ไม่ได้รู้เลยว่า แม่ตัวแสบของเขาในขณะนี้ไม่ได้มีความคิดที่จะหนีเขาเลยแม้แต่น้อย และถ้าเขาล่วงรู้ความคิดของเธอในขณะนี้ได้ เขาคงจะรีบปล่อยเธอไป ก่อนที่ยายตัวร้ายจะเข้ามากอบกุมหัวใจของเขาไว้จนหมด จนไม่เหลือให้เขาได้เป็นอิสระเลยแม้แต่ห้องเดียว
อหังการ์ล้วงกุญแจที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ เปิดประตูรถกระบะสีดำสี่ประตูขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับ แล้วรีบขับตรงไปที่สำนักงานภายในไร่ ที่มีทั้งพนักงานบัญชีและเจ้าหน้าที่การเงินควบคุมอยู่ ไร่ของเขาปลูกพืชผลทางการเกษตรหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพืชผัก เช่น บวบ มะเขือเทศ มันฝรั่ง พริกหวาน คะน้า มันฝรั่ง และอีกหลายอย่างทั้งของไทยและต่างประเทศ รวมทั้งสับปะรดนางแล และผลไม้อีกหลายอย่าง แต่จะเน้นพืชผักซะมากกว่าบนพื้นที่พันกว่าไร่ สุดลูกหูลูกตา ไร่ของเขาอยู่ห่างจากภูเขาไม่ถึงสองกิโลเมตร ดังนั้นรอบๆ และตลอดสองข้างทางที่จะเข้าไร่จึงมีแต่ต้นไม้ใหญ่ปกคลุมไปทั่ว แต่ก็เอื้ออำนวยต่อผลผลิตของไร่เขาที่พืชผลต้องการความชุ่มชื่นได้เป็นอย่างดี
อหังการ์จอดรถด้านหน้าสำนักงาน ซึ่งสร้างเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวติดกระจกโดยรอบ ขนาดห้าสิบตารางวา ซึ่งด้านหลังห่างออกไปประมาณร้อยเมตร เป็นห้องพักของเหล่าคนงานที่บางคนก็เป็นชาวบ้านแถวนี้ และก็มีบางส่วนมาจากที่อื่นซึ่งพวกหลังจะพักอยู่ที่นี่ อหังการ์ให้สร้างเป็นบ้านพักแบบก่ออิฐถือปูนสองชั้น แบ่งเป็นห้องๆ ที่มีอยู่ทั้งหมดสามสิบห้องด้วยกัน เท้าใหญ่ก้าวลงจากรถเดินเข้าไปภายในสำนักงานเพื่อจะเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัว ก็พบกับหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งนั่งรออยู่ตรงที่พักสำหรับรับรองแขกอยู่ก่อนแล้ว
“สวัสดีค่ะคุณเชิด”
“สวัสดีครับคุณเกด” การะเกดลุกขึ้นเดินเข้ามาเกาะแขนเขาแน่น อหังการ์ถึงกับแอบถอนใจด้วยความเหนื่อยหน่าย หญิงสาวเป็นเจ้าของแผงผักขนาดใหญ่อยู่ในตลาดของส่วนอำเภอ เข้ามาติดพันเขาได้หลายปีแล้ว แต่อหังการ์ก็ไม่ยอมเล่นด้วย ก็เจ้าหล่อนน่ะ หูตาแพรวพราวเป็นที่สุด มีอยู่หลายครั้งที่เขาไปส่งของแทนลูกน้อง แล้วบังเอิญไปเห็นเจ้าหล่อนมักจะจีบปากจีบคอคุยกับชายหนุ่มมากหน้าหลายตาจนอหังการ์จำแทบไม่หวาดไม่ไหว และก็ชอบทำกับหนุ่มพวกนั้นแบบที่ทำกับเขานี่แหละ ถึงจะขาวสวยแบบพอได้ แต่นิสัยแบบนี้ เขาก็กลืนไม่ลง แต่เขาก็ไม่อยากใส่ใจนัก ในเมื่อเธอเป็นลูกค้าที่ดี จ่ายเงินตรงตามเวลา ไม่มีการต่อรองแบบไร้เหตุผล ซึ่งอันนี้เขาพอทนได้ ยังไงก็ผู้ชายไม่เสียหายอะไรอยู่แล้วนี่ แล้วแวบหนึ่งในความคิด ใบหน้าสวยจัดกับตัวนุ่มนิ่มหอมกรุ่นของแม่ตัวแสบก็ลอยมาในห้วงคำนึง จนชายหนุ่มถึงกับโกรธกับความคิดถึงของตัวเอง นี่แม่วันทองเอาอะไรเคลือบริมฝีปากไว้หรือเปล่าวะ เขาถึงได้รู้สึกว่ามันหวานๆ พิกล สงสัยคราวหลังต้องหาวิธีลงโทษใหม่ ไม่งั้นอาจจะหลงเสน่ห์แม่วันทองเข้าซักวัน แล้วก็ต้องมานั่งชอกช้ำหัวอกเหมือนน้องชายของเขา
“คุณเชิดคะ เป็นอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าหรอกครับ ผมแค่กำลังคิดน่ะครับ ผมจำได้ว่าเมื่อวานผมโทร.บอกคุณเกดไปแล้วนี่ ว่าไร่ของเราจะเอาของไปส่งวันนี้ แล้วคุณเกดจะมาทำไมให้เหนื่อย ผมไม่อยากให้คุณเหนื่อยน่ะ”
“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ คุณเชิด เกดอยากมาดูสินค้าด้วยตัวเองและก็คิดถึงคุณด้วย”
“งั้นเราไปดูของกันเลยดีกว่า” อหังการ์ตัดบท ทำเหมือนไม่ได้ยินคำว่าคิดถึงของการะเกด ซึ่งหญิงสาวก็ได้แต่ขัดใจ ก็คนที่มาติดพันเธอน่ะ มีหนุ่มมากหน้าหลายตา แต่ละคนก็พร้อมจะยอมให้เธอทั้งนั้น ยกเว้นหนุ่มหล่อคนนี้นี่แหละที่ใจแข็ง ไม่ยอมโอนอ่อนกับเธอซักครั้ง ทำให้การะเกดฮึดสู้ ก็คนที่เข้ามาจีบเธอ หล่อรวยสู้อหังการ์ไม่ได้ซักคน แค่เห็นหน้าอกที่เป็นผิวสีแทนเกลี้ยงเกลากับกล้ามเป็นมัดๆ ของเขา ที่เวลายกของเจ้าตัวมักจะชอบถอดเสื้อ การะเกดก็ยังฝันไปไกล แล้วถ้าหากได้เป็นภรรยาของเขา ลีลาบนเตียงก็คงจะน่าดู
ภาพที่การะเกดเกาะแขนอหังการ์แจ เวลาที่หญิงสาวมาที่ไร่แห่งนี้ เป็นภาพชินตาของคนงานทุกคนภายในไร่มาหลายปีแล้ว เพราะเจ้านายหนุ่มของทุกคนนั้นหล่อเหลาร้ายกาจ แถมยังปากกับใจตรงกันเป็นที่สุด เข้าขั้นร้ายกาจบาดความรู้สึกคนได้ยิน แต่กลับกลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวไป ที่สาวๆ คนไหนก็หลงใหลใฝ่ฝันถึง เพราะใช่จะมีแต่การะเกดเท่านั้น แต่รวมถึงผู้หญิงอื่นๆ อีกหลายคน ทั้งที่อหังการ์ก็ไม่ค่อยจะออกไปไหนแท้ๆ แต่ความหล่อเหลาของเขากลับเลื่องลือกระฉ่อน จนสาวๆ ต้องพากันมาเยือนถึงไร่เลยเชียว
“แม่ๆ แม่ว่านายเชิดนี่จะลงเอยกับคุณเกดไหม” เอื้องฟ้าหญิงสาวร่างสูง วัยยี่สิบสี่ปี จบปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจเอกการตลาด มีหน้าที่ประสานงานและหาลูกค้า ลูกสาวของนางบัวแก้ว แม่บ้านเก่าแก่ของอหังการ์เอ่ยถามมารดา
“ทำไมล่ะเอื้อง อยากจะรู้เรื่องของนายไปทำไม”
“อ้าว! ก็ตอนนี้น่ะสิแม่ เอื้องกำลังพนันกับพี่เจตน์ ว่าใครกันแน่ที่จะได้เป็นนายหญิงของไร่ ระหว่างคุณเกด คุณแขหรือว่าคุณแพรวหรืออาจจะเป็นคุณนุช” คำพูดของลูกสาวทำให้นางบัวแก้วถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายแทนเจ้านายหนุ่ม ที่ความหล่อเหลาบาดตากลายเป็นที่ต้องตาของสาวๆ ทั้งที่เจ้านายของเธอด่าเปิดเปิงไปตั้งหลายครั้งหลายคราว แต่สาวเจ้าพวกนั้นก็ไม่เคยจะลดราวาศอก กลับรุกหนักยิ่งกว่าเดิมอีก ทั้งที่เจ้านายของเธอก็แสนจะปากร้าย แต่กลับกลายเป็นเสน่ห์อันชวนหลงใหลไปซะนี่
“พวกเอ็งสองคนนี่มันยังไงกันนะ ไอ้ที่จะห่วงนายเรื่องสาวๆ แต่ดันเอาเรื่องกลุ้มอกกลุ้มใจของนายมาพนันกันซะนี่” นางบัวแก้วต่อว่าลูกสาว
“โธ่! ก็ของแบบนี้มันน่าสนุกนี่แม่ เอื้องอยากจะรู้จริงๆ ว่าใครจะกุมหัวใจนายเชิดของเราไว้ได้ นี่ถ้าหากไม่เห็นกันมาแต่เด็กนะ เอื้องคนหนึ่งล่ะ ที่จะลงสนามแข่งกับเขา” เอื้องฟ้าทำตาชวนฝันยั่วเย้าผู้เป็นมารดา ซึ่งเธอรู้ดีว่าสิ่งที่พูดมานั้นไม่มีวันเป็นไปได้แน่นอน ก็ตั้งแต่เกิดมาจนโตเป็นสาวขนาดนี้ เธอก็รู้จักมักคุ้นกับอหังการ์ดีที่สุดจนสนิทใจและยกให้เขาเป็นพี่ชายไปแล้ว อีกอย่างปากร้ายอย่างเจ้านายหนุ่มของเธอ เอื้องฟ้าคงไม่เอามาทำพันธุ์ให้ปวดหัวแน่ๆ ถึงจะรูปหล่อแค่ไหน แต่ปากร้าย ปากจัด ขี้โมโหและเอาแต่ใจตัวเองแบบที่หาใครเสมอเหมือนได้ยาก เธอก็ไม่อยากจะทนเพราะคงทนไม่ได้แน่นอน หญิงสาวจึงอยากจะรู้นักว่าคนที่จะกุมหัวใจเจ้านายเธอไว้ได้ และทนนิสัยอันร้ายกาจของเขาได้นั้น จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหน
“นี่เอื้อง อย่าบอกนะว่าเกิดชอบนายขึ้นมา น้ำหน้าอย่างเราน่ะ เอานายไม่อยู่หรอก”
“ของแบบนี้มันก็ไม่แน่นะแม่ เกิดนายชอบเอื้องขึ้นมาจริงๆ นายอาจจะเปลี่ยนนิสัยใหม่ก็ได้นะแม่”
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะเอื้อง เดี๋ยวขี้กลากได้กินหัวหรอก ห้ามคิดอะไรกับนายแบบนั้นเด็ดขาด เพราะคนที่จะน้ำตาเช็ดหัวเข่าน่ะมันจะเป็นเอ็ง อย่างนายนะเหรอจะมาสนใจอะไรเอ็งได้” พอมารดาพูดจบเอื้องฟ้าก็หัวเราะคิกคัก
“แม่ก็ เอื้องพูดเล่นแค่นี้ แม่ก็คิดเป็นจริงเป็นจังไปได้ อย่างนายเชิดน่ะ เอื้องรักไม่ลงหรอก ปากจัดจะตาย แค่คิดก็สยอง คนที่จะเป็นเมียนายน่ะต้องแสบพอกันถึงจะเอาอยู่ อย่างเอื้องจะไปเถียงสู้นายทันเหรอ แค่อ้าปากจะพูด นายก็คงด่าไปแล้วเรียบร้อย มีแต่จะถูกนายด่านอนกินน้ำตาทุกวันน่ะสิ”
“เฮ้อ! ค่อยยังชั่วหน่อย แม่คิดว่าเอ็งอยากจะเป็นเมียนายซะอีก แล้วจากที่ดูน่ะ เอ็งว่าใครจะเหมาะสมกับนายล่ะ” นางบัวแก้วเองก็อยากรู้เหมือนกัน
“เอื้องว่ายังไม่มีใครเข้าข่ายทำให้นายสนใจซักคนเลยนะแม่ ดูก็รู้ว่านายน่ะ ไม่ชอบผู้หญิงเจ้ามารยา แล้วดูแต่ละคนสิไม่เข้าข่ายที่จะทำให้นายสนใจได้เลย”
“แม่ก็ว่าแบบเอ็งนั่นแหละ ยังนึกไม่ออกเลยนะ ว่าเมียนายจะมีหน้าตายังไง นิสัยแบบไหน ความจริงนายก็อายุปูนนี้ น่าจะหาเมียซักคนได้แล้ว”
“แต่ถ้าเอื้องเป็นนายนะแม่ เอื้องขออยู่เป็นโสดดีกว่า แต่ละคนเอื้องว่านิสัยใช้ไม่ได้เลย”
“แม่ก็คิดเหมือนเอ็งนั่นแหละ”
อหังการ์ก้มมองคนที่กำลังทำตัวเป็นปลิงเกาะแขนเขาด้วยความรู้สึกเซ็งจัด ทำไมผู้หญิงสมัยนี้ถึงได้เป็นแบบนี้นะ พวกปากว่าตาขยิบ ปากอย่างใจอย่าง สวยแต่เปลือกนอกแต่ข้างในเน่าเฟะ พอนึกถึงตรงนี้ ภาพขาวเนียนผุดผาดกับกลิ่นกายหอมๆ ก็ลอยเข้ามาในห้วงคำนึงของอหังการ์อีกครั้ง จนชายหนุ่มต้องสะบัดศีรษะอย่างแรง เพื่อไล่ภาพยวนตานั้นออกไป จะทำอย่างไรกับแม่ตัวแสบดีนะ แค่วันเดียวเท่านั้นยังเป็นได้ขนาดนี้ขืนอยู่ใกล้กันแบบนี้มากๆ อาจจะพลาดท่าเสียทีให้แม่ตัวดีเข้าซักวัน หรือจะโอนให้ไอ้เจตน์ดี ยิ่งไม่ได้ใหญ่ เกิดแม่นั่นไปให้ท่าไอ้เจตน์เหมือนที่ให้ท่าเราก็เสร็จกัน โอ๊ย! ปวดหัวฉิบ ยายตัวร้ายนั่นต้องเล่นคุณไสยใส่เสน่ห์ยาแฝดกับเขาแน่ๆ
“คุณเชิดเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ดูท่าทางไม่ค่อยสบาย ให้เกดพาไปพักดีไหม” การะเกดเหลือบตามองหนุ่มหล่อร้ายเจ้าของแขนแกร่งที่เธอกำลังกอดอยู่ ที่สะบัดศีรษะไปมา แถมหน้าตาหล่อเหลาที่บางคราวก็แดงบางทีก็เขียวสลับกันไปมาก็อดถามไม่ได้
“ผมไม่เป็นอะไรหรอกคุณเกด เอาแบบนี้ดีกว่า แทนที่คุณเกดจะมัวมายืนกอดผมอยู่แบบนี้ คุณเกดเดินไปดูมันฝรั่งที่คนงานของผมกำลังแพ็คลงกล่องจะดีกว่า ว่าคุณภาพตรงตามที่คุณเกดต้องการหรือเปล่า” อหังการ์พูดจบก็แกะมือที่กำลังเกาะแขนเขาออก แล้วเดินดุ่มไปยังคนงานที่กำลังคัดมันฝรั่งลงกล่องแทน อาการนั้นทำให้การะเกดถึงกับค้อน แต่เพราะเขาเป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือ เธอถึงอยากได้เขาไปแนบกายนัก ผู้ชายดิบๆ ห่ามๆ แบบนี้เซ็กซี่เป็นบ้า
“มันฝรั่งได้ครบหรือยังไอ้ปาม” อหังการ์เดินเข้าไปถามลูกน้องด้วยอารมณ์หงุดหงิด ที่ไม่รู้ว่าหงุดหงิดใครระหว่างแม่สาวจอมตื้อหรือว่าตัวเอง
“เหลืออีกสิบกล่องก็จะครบตามจำนวนที่คุณเกดสั่งแล้วครับนาย ส่วนกะหล่ำและพริกหวานผมให้คนยกขึ้นรถหมดแล้วครับ” ปาณัสม์รายงาน ชายหนุ่มจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ สาขาภาควิชาการเกษตร ซึ่งอหังการ์เจ้านายของเขาเป็นคนส่งเสียให้เรียน เพื่อที่จะได้มาช่วยกันพัฒนาไร่
“คุณเกดครับ ตอนนี้ของก็จัดเกือบเสร็จแล้ว ผมว่าคุณเกดขึ้นรถไปรอที่ตลาดดีกว่า” อหังการ์ก้มลงบอกหญิงสาวที่หลังจากเขาสลัดหลุดไปหนหนึ่งแล้ว เจ้าหล่อนก็เข้ามาเกาะแขนเขาอีกจนได้
“แต่เกดอยากไปกับคุณเชิดนี่คะ เกดจะให้คนขับรถของเกดไปก่อน นะคะให้เกดนั่งรถไปกับคุณด้วย”
“งั้นก็ได้ครับ ไอ้เจตน์แกพาคุณเกดนั่งรถไปกับแกด้วยนะ คุณเกดเขาอยากคุมของเอง” อหังการ์พูดจบก็แกะมือปลาหมึกนั่นออกอีกครั้งทันที จนการะเกดแทบจะกรี๊ดลั่นกับการปฏิเสธแบบไม่ไว้หน้าของเขา คอยดูเถอะนะ ซักวันเธอจะทำให้ผู้ชายคนนี้มาสยบแทบเท้าเธอให้ได้ หญิงสาวเข่นเขี้ยวในใจ แต่คำพูดที่พูดออกมากลับไปคนละทาง
“แล้ววันนี้คุณเชิดไม่ไปส่งของให้เกดหรือคะ”
“ผมจะไปเฉพาะเวลาคนงานขาดเท่านั้น ถ้าต้องไปส่งของเองตลอดแล้ว ผมจะเสียเงินจ้างคนไว้ทำไม” อหังการ์พูดแบบไม่ยี่หระ ชักหมดความอดทนอดกลั้นขึ้นเรื่อยๆ เพราะผลผลิตของไร่เขาทุกวันนี้ก็ไม่พอส่งให้ลูกค้าอยู่แล้ว ถ้าหากจะหมดลูกค้าไปซักคนเขาก็ไม่กระเทือนหรอก และทั้งหมดนี่มันก็เพราะเธอคนเดียวนะยายตัวแสบ ที่ทำให้ฉันรู้สึกหงุดหงิดอารมณ์เสีย พาลเกลียดผู้หญิงไปทั้งโลกแบบนี้
“เกดขอโทษนะคะคุณเชิด ยกโทษให้เกดนะคะ เอาเป็นว่าเดี๋ยวเกดจะให้ลูกน้องขับไปรอที่ตลาดเลยแล้วกันค่ะ เอาไว้ถ้าคุณเชิดว่างก็ไปหาเกดที่ร้านบ้างนะคะ” คำออดอ้อนของการะเกดทำให้อหังการ์กรอกตาขึ้นฟ้าอย่างเซ็งสุดชีวิต เจตน์มองอาการของเจ้านายด้วยความเห็นใจและอิจฉาในคราวเดียวกัน ทำไมน้า เขาถึงไม่หล่อเหลาร้ายกาจแบบนายบ้าง จะได้มีสาวๆ ตรึม และสาบานได้เลยว่าไอ้เจตน์จะไม่ปล่อยให้หลุดรอดไปได้แม้แต่คนเดียว
นักเขียนหน้าใหม่นามนิลลจันทร์ ขอฝากเนื้อฝากตัว และฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ด้วยนะค่ะ หากใครชื่นชอบนิยายเรื่องนี้เข้าไปทวงถามตามจี้ตอนต่อไปที่ https://web.facebook.com/นิยาย-นิลลจันทร์-นิลดารา-ป้านิล-397085033792182/?ref=hl และที่นี้ https://web.facebook.com/neenlajun ได้เลยค่ะ
นิลลจันทร์
ตอนที่ 5
สืบข้อมูล
ธารใสกวาดสายตาสำรวจเรือนหลังเล็กอีกครั้ง เรือนไม้หลังนี้มีทั้งหมดสามห้องเรียงกัน เป็นห้องเก็บของขนาดเล็กที่เธอใช้นอนเมื่อคืน และมีห้องครัวที่สร้างยื่นออกไปอยู่ติดกับห้องเก็บของทางด้านขวามือ ส่วนทางด้านซ้ายมือติดกับห้องเก็บของเป็นห้องนอน เอาวะไอ้ลูกหนูสำรวจแค่นี้ก่อนเถอะ หิวไส้จะขาดอยู่แล้ว กองทัพต้องเดินด้วยท้องหาอะไรกินก่อนดีกว่า เท้าเล็กจึงเดินเข้าไปในห้องครัว หันซ้ายหันขวา มีหม้อหุงข้าวแต่ยังไม่ได้หุง ขืนรอหุงข้าวเป็นลมพอดี เมื่อกี้ใช้แรงอ่อยพี่หล่อไปตั้งมาก หาอย่างอื่นกินก่อนดีกว่า
“นี่ไงทำยำวุ้นเส้นกินดีกว่า” ธารใสเหลือบไปเห็นวุ้นเส้นบนชั้นอยู่หลายห่อจึงหยิบห่อเล็กมาห่อหนึ่ง เดินไปเปิดดูของสดในตู้เย็น แล้วก็ค้นกุกกัก ซักพักก็ได้ของทุกอย่างมาครบ ว่าแต่พี่หล่อนี่ก็รู้จักทำกับข้าวเหมือนกันหรือนี่ ใช้ได้ แสดงว่าวันข้างหน้าจะเป็นสามีที่ดีได้ แล้วธารใสก็จัดแจงลวกวุ้นเส้นจนเหนียวนุ่ม แล้วก็ยำออกมาได้หน้าตาน่าทานและรสชาติก็น่าชิมเป็นที่สุด
หลังจากที่วุ้นเส้นโชคร้ายห่อนั้นเข้าไปอยู่ในท้องแล้ว หญิงสาวก็เริ่มสำรวจต่อ เท้าเล็กเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเองก่อน พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นเตียงนอนขนาดกลางตั้งอยู่ข้างผนัง คลุมด้วยผ้าคลุมเตียงสีขาวและมีห้องน้ำขนาดเล็กอยู่เยื้องปลายเตียงไปทางด้านขวา ผนังอีกด้านมีตู้เสื้อผ้าขนาดกลางตั้งอยู่
หลังจากปัดกวาดทำความสะอาดห้องเสร็จ หญิงสาวก็ดึงผ้าคลุมเตียงสีขาวออก มือเล็กลูบไล้ไปบนผ้าปูที่นอนสีเขียวอ่อนลายดอกไม้เล็กๆ ด้วยความพึงพอใจ สวยดีเหมือนกันแฮะ ทุกทีนอนแต่ที่นอนปิกนิก แถมห้องนี้ยังใหญ่กว่าห้องเช่าของเธอที่อยู่กับแม่ซะอีก จัดการทำความสะอาดห้องเสร็จก็เดินเข้าไปเปิดดูห้องนอนขนาดใหญ่ของคนรูปหล่อจอมเผด็จการ
ห้องนอนของเขามีเตียงขนาดใหญ่ตั้งอยู่มุมห้องด้านซ้ายมือ ที่ธารใสหมายมั่นว่าอีกไม่นานเกินรอเขาจะไม่ได้นอนคนเดียวแน่นอนเพราะจะมีเธอมานอนเป็นเพื่อนด้วยเตียงใหญ่ขนาดนี้ สงสัยพี่เชิดจะซื้อไว้รอลูกหนูมานอนด้วยแหงม’ แล้วมุมห้องด้านขวาก็มีห้องน้ำขนาดใหญ่ ธารใสจึงรีบเปิดเข้าไปดูด้านใน
‘มีอ่างอาบน้ำด้วยดีจัง โฟมล้างหน้า แชมพู สบู่ ยาสีฟัน อาฟเตอร์เชฟอันนี้ไม่รู้จัก เอาไว้ทำอะไรนะ แต่ช่างเหอะ เข้ามาสำรวจนี่สนใจเจ้าของห้องอย่างเดียว ของอย่างอื่นไม่สน ก็มันไม่น่าสนใจเท่าเจ้าของห้องนี่หว่า ห้องน้ำยังสะอาดอยู่คงไม่ต้องล้างหรอก แต่ถ้าเป็นคนรูปหล่อละก็ เดี๋ยวตอนเย็นไอ้ลูกหนูจะเข้ามาช่วยอาบน้ำให้เอง’
หลังจากสำรวจห้องน้ำจนพอใจ คนสวยก็เดินมาดูที่โต๊ะทำงานของเขา ที่เป็นโต๊ะทำงานขนาดเล็ก มีคอมพิวเตอร์แบบพกพาวางอยู่ด้วย หญิงสาวเดินเข้าไปดูตรงโต๊ะทำงานที่เห็นมีรูปของเขาในสมัยเป็นนักศึกษาใส่กรอบตั้งอยู่
‘โห! พี่เชิดนี่หล่อโคตรๆ มาตั้งแต่หนุ่มๆ แล้ว แต่ตอนนี้ยิ่งหล่อเร้าใจไปกันใหญ่ เฮ้อ! จะทำยังดีน้าถึงจะได้เขามาเป็นหมอนข้างแนบกายตลอดชีวิตเนี่ย ใช่ก่อนอื่นเราต้องหาข้อมูลก่อนดีกว่า คิดจะปล้นสวาทเขาน่ะ ยังไม่รู้จักเขาซักอย่างเลย อยากรู้จริงๆ ว่าเขาเป็นใคร มีลูกมีเมียแล้วหรือยัง
เอ๊ะ! นี่รูปตอนรับปริญญานี่ มีชื่ออยู่ด้วย โอ้โหเฮะ! ดูชื่อพี่แกสิ ‘นายอหังการ์ สิทธินันท์’ วุ้ยทำไมชื่อเหมาะสมกับตัวขนาดนี้ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นใครมีชื่อและนิสัยเหมาะเหม็งขนาดนี้มาก่อนเลย ให้ตายสิ แต่ไอ้นามสกุลนี้ซักวันไอ้ลูกหนูจะเอามาต่อท้ายชื่อตัวเองแน่นอน’
แล้วตาคู่สวยก็เหลือบไปเห็นอัลบั้มรูปขนาดใหญ่อยู่อัลบั้มหนึ่งวางอยู่ชั้นวางของด้านล่างของโต๊ะ มือเล็กจึงหยิบขึ้นมาดูด้วยความอยากรู้เต็มที่โดยไม่มีลังเลซักนิด ในนั้นมีรูปถ่ายของเขาตั้งแต่สมัยเด็กจนถึงปัจจุบัน
‘เฮ้ย! สาวสวยที่หอมแก้มพี่เชิดนี่เป็นใครนะ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอเป็นใคร แต่บังอาจมาหอมแก้มเป้าหมายของไอ้ลูกหนูแบบนี้อภัยให้ไม่ได้ หรือจะเป็นเมียพี่เชิดวะ ตายแล้ว แบบนี้ก็แย่สิ มีเมียแล้วแบบนี้รับไม่ได้ ไม่อยากจะเปิดดูหน้าต่อไปให้ช้ำใจเลย เอาวางไว้ก่อนดีกว่า ไอ้ลูกหนูเอ๊ย แกควรจะหาทางหนีดีกว่า พี่หล่อแกมีเมียแล้วนี่ สถานที่นี้ก็ไม่น่าสนใจอีกต่อไป’ ขณะที่กำลังคิดอะไรเลอะเทอะอยู่นั้น จู่ๆ อัลบั้มรูปที่เธอวางเอาไว้หมิ่นเหม่ก็หล่นใส่เท้าเล็กจนหญิงสาวต้องร้องลั่นด้วยความเจ็บ
“โอ๊ย!” ธารใสนั่งกุมหลังเท้าด้านขวาที่ถูกของแข็งหล่นกระแทกจนเลือดซิบ หันไปมองสิ่งที่ประทุษร้ายร่างกายเธอ ก็พบว่าเป็นอัลบั้มเจ้าปัญหาที่ทำหัวใจของเธอชอกช้ำเมื่อกี้นั่นแหละ และตอนนี้กำลังแผ่หลา
‘ต๊าย! มีเมียแล้วยังมีลูกอีกเหรอเนี่ย ตายแล้วอุตส่าห์ยกใจให้จนหมด แบบนี้ฆ่ากันตายซะยังดีกว่า หัวใจสลายซ้ำสอง หนีอย่างเดียว ฮือ! ชีวิตนี้มันจะมีอะไรซวยกว่านี้อีกไหมเนี่ย ถูกไล่ออกไร้งานทำ กระเป๋าเงินหาย ถูกจับมาผิดตัว แล้วยังดันหลงรักผู้ร้ายรูปหล่อเข้าอีก สุดท้ายความหวังที่จะงาบเขาก็ต้องมลายกลายเป็นหมัน เมื่อพี่หล่อดันมีเมียแถมมีลูกแล้วด้วยตั้งสองคน ดูสิเขาต้องเกิดมาเป็นเนื้อคู่กันแน่ๆ หน้าตาถึงได้เหมือนกันซะขนาดนั้น โฮ! ไอ้ลูกหนูอยากตาย ไม่ดงไม่ดูมันแล้วไอ้อัลบั้มเฮงซวย ทำให้ชอกช้ำใจยังไม่พอ ยังจะมาทำให้เท้าเขามีแผลอีก’ ธารใสรีบเก็บอัลบั้มรูปที่สร้างความโหดร้ายให้กับความรู้สึกนั้นเพื่อจะนำไปวางไว้ที่เดิม
‘อ้าว! อะไรหล่นลงมาอีกวะ เอ๊ะ! นี่มันเมียพี่เชิดเมื่อกี้นี่นา แล้วแต่งงานกับใครวะ หรือพี่เชิดถูกเมียหักหลังหนีไปแต่งงานกับคนอื่นเลยเศร้าโศกเสียใจคิดแค้นผู้หญิงทั้งโลก ก็เลยจับผู้หญิงมาทรมานเล่นโดยมีเธอเป็นรายแรก(ก็อ่านมาจากนิยายนั่นแหละ) ตายแล้ว! แบบนี้เกิดโดนพี่แกข่มขืนขึ้นมาจะทำไงวะ ถึงอยากจะได้เขาเป็นผัวก็เถอะ แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อมนะโว้ย ไม่ได้การแล้ว เราต้องดูให้หมด จะได้รู้อะไรมากกว่านี้’ หญิงสาวจึงตัดสินใจเปิดดูรูปในอัลบั้มใหม่ ตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้าย แล้วก็พับเก็บด้วยความโล่งใจ
‘เพราะสรุปแล้วจากรูปถ่ายทั้งหลายแหล่ ผู้หญิงคนนั้นเป็นพี่สาวพี่เชิดแหงม เพราะเห็นรูปถ่ายที่ถ่ายคู่กันตั้งแต่เด็ก เมื่อกี้ความหึงหวงมันบังตา เลยไม่ได้สังเกต อภัยให้ลูกหนูแล้วกันนะพี่เชิดที่ปรักปรำไปแบบนั้น งั้นแสดงว่าผู้ร้ายสุดหล่อของเรายังไม่มีเมีย เย้! ดีใจที่สุด’
นี่ไอ้ลูกหนู ตกลงหล่อนน่ะ ไม่ได้คิดกังวลเรื่องที่ถูกจับตัวมาเลยใช่ไหม เสียงส่วนดีกระซิบถาม แต่ธารใสก็ตอบได้คำเดียวโดยไม่ลังเลว่า ไม่เลย เพราะมีเป้าหมายยิ่งใหญ่ที่จะงาบผู้ร้ายรูปหล่อนั่นเอง นั่นล่ะสำนึกส่วนร้ายที่ทำให้สำนึกส่วนดีได้แต่ปลง
หลังจากอหังการ์จัดการกับยายตัวแสบของเขาแล้ว ชายหนุ่มก็เดินมายังเรือนไม้หลังใหญ่ ที่เมื่อก่อนเคยเป็นที่ๆ ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอย่างมีความสุข แต่หลังจากที่บิดามาเสียชีวิตลง มารดาของเขาก็เอาแต่เศร้าโศกเสียใจ ไม่อยากนอนในบ้านที่มีความทรงจำอันแสนหวานกับสามี คุณนายอรพรรณมารดาของเขาเลยย้ายไปอยู่กับพี่สาวของเขาที่กรุงเทพฯ ทิ้งให้อหังการ์ต้องอยู่คนเดียวในเรือนไม้หลังมหึมาสองชั้นแทน ซึ่งเขาคิดว่ามันดูเปล่าเปลี่ยวโหวงเหวงเกินไป ชายหนุ่มจึงสั่งคนงานให้ปรับพื้นที่และสร้างเรือนไม้หลังเล็กขนาดสองห้องนอน ที่รายล้อมด้วยต้นสนขนาดใหญ่ ที่คุณปู่ของเขาผู้คลั่งไคล้กับบรรยากาศในหนังฝรั่งเรื่องหนึ่งที่มีต้นสนปลูกอยู่รายล้อมบ้าน เลยจำลองสถานที่นั้นมาไว้ จนเดี๋ยวนี้ต้นสนต้นใหญ่ขึ้นและก็สูงทึบ ทำให้เรือนของเขาดูร่มรื่น ชายหนุ่มจึงอาศัยอยู่ที่นั่น เวลามารดามาหาก็มักจะพักที่ห้องเล็กเสมอ
เรือนใหญ่นี้อยู่ห่างจากเรือนเล็กของเขาเกือบสองร้อยห้าสิบเมตร แถมระหว่างทางที่มาก็มีแต่ต้นไม้ใบหญ้าพันธุ์ประหลาดคล้ายยุคไดโนเสาร์ ที่คุณปู่ของเขาชื่นชอบ ปลูกไว้จนเต็มไปหมด เขาเลยไม่กลัวว่าแม่ตัวแสบจะกล้าหนีออกมาได้ โดยที่อหังการ์ไม่ได้รู้เลยว่า แม่ตัวแสบของเขาในขณะนี้ไม่ได้มีความคิดที่จะหนีเขาเลยแม้แต่น้อย และถ้าเขาล่วงรู้ความคิดของเธอในขณะนี้ได้ เขาคงจะรีบปล่อยเธอไป ก่อนที่ยายตัวร้ายจะเข้ามากอบกุมหัวใจของเขาไว้จนหมด จนไม่เหลือให้เขาได้เป็นอิสระเลยแม้แต่ห้องเดียว
อหังการ์ล้วงกุญแจที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ เปิดประตูรถกระบะสีดำสี่ประตูขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับ แล้วรีบขับตรงไปที่สำนักงานภายในไร่ ที่มีทั้งพนักงานบัญชีและเจ้าหน้าที่การเงินควบคุมอยู่ ไร่ของเขาปลูกพืชผลทางการเกษตรหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพืชผัก เช่น บวบ มะเขือเทศ มันฝรั่ง พริกหวาน คะน้า มันฝรั่ง และอีกหลายอย่างทั้งของไทยและต่างประเทศ รวมทั้งสับปะรดนางแล และผลไม้อีกหลายอย่าง แต่จะเน้นพืชผักซะมากกว่าบนพื้นที่พันกว่าไร่ สุดลูกหูลูกตา ไร่ของเขาอยู่ห่างจากภูเขาไม่ถึงสองกิโลเมตร ดังนั้นรอบๆ และตลอดสองข้างทางที่จะเข้าไร่จึงมีแต่ต้นไม้ใหญ่ปกคลุมไปทั่ว แต่ก็เอื้ออำนวยต่อผลผลิตของไร่เขาที่พืชผลต้องการความชุ่มชื่นได้เป็นอย่างดี
อหังการ์จอดรถด้านหน้าสำนักงาน ซึ่งสร้างเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวติดกระจกโดยรอบ ขนาดห้าสิบตารางวา ซึ่งด้านหลังห่างออกไปประมาณร้อยเมตร เป็นห้องพักของเหล่าคนงานที่บางคนก็เป็นชาวบ้านแถวนี้ และก็มีบางส่วนมาจากที่อื่นซึ่งพวกหลังจะพักอยู่ที่นี่ อหังการ์ให้สร้างเป็นบ้านพักแบบก่ออิฐถือปูนสองชั้น แบ่งเป็นห้องๆ ที่มีอยู่ทั้งหมดสามสิบห้องด้วยกัน เท้าใหญ่ก้าวลงจากรถเดินเข้าไปภายในสำนักงานเพื่อจะเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัว ก็พบกับหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งนั่งรออยู่ตรงที่พักสำหรับรับรองแขกอยู่ก่อนแล้ว
“สวัสดีค่ะคุณเชิด”
“สวัสดีครับคุณเกด” การะเกดลุกขึ้นเดินเข้ามาเกาะแขนเขาแน่น อหังการ์ถึงกับแอบถอนใจด้วยความเหนื่อยหน่าย หญิงสาวเป็นเจ้าของแผงผักขนาดใหญ่อยู่ในตลาดของส่วนอำเภอ เข้ามาติดพันเขาได้หลายปีแล้ว แต่อหังการ์ก็ไม่ยอมเล่นด้วย ก็เจ้าหล่อนน่ะ หูตาแพรวพราวเป็นที่สุด มีอยู่หลายครั้งที่เขาไปส่งของแทนลูกน้อง แล้วบังเอิญไปเห็นเจ้าหล่อนมักจะจีบปากจีบคอคุยกับชายหนุ่มมากหน้าหลายตาจนอหังการ์จำแทบไม่หวาดไม่ไหว และก็ชอบทำกับหนุ่มพวกนั้นแบบที่ทำกับเขานี่แหละ ถึงจะขาวสวยแบบพอได้ แต่นิสัยแบบนี้ เขาก็กลืนไม่ลง แต่เขาก็ไม่อยากใส่ใจนัก ในเมื่อเธอเป็นลูกค้าที่ดี จ่ายเงินตรงตามเวลา ไม่มีการต่อรองแบบไร้เหตุผล ซึ่งอันนี้เขาพอทนได้ ยังไงก็ผู้ชายไม่เสียหายอะไรอยู่แล้วนี่ แล้วแวบหนึ่งในความคิด ใบหน้าสวยจัดกับตัวนุ่มนิ่มหอมกรุ่นของแม่ตัวแสบก็ลอยมาในห้วงคำนึง จนชายหนุ่มถึงกับโกรธกับความคิดถึงของตัวเอง นี่แม่วันทองเอาอะไรเคลือบริมฝีปากไว้หรือเปล่าวะ เขาถึงได้รู้สึกว่ามันหวานๆ พิกล สงสัยคราวหลังต้องหาวิธีลงโทษใหม่ ไม่งั้นอาจจะหลงเสน่ห์แม่วันทองเข้าซักวัน แล้วก็ต้องมานั่งชอกช้ำหัวอกเหมือนน้องชายของเขา
“คุณเชิดคะ เป็นอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าหรอกครับ ผมแค่กำลังคิดน่ะครับ ผมจำได้ว่าเมื่อวานผมโทร.บอกคุณเกดไปแล้วนี่ ว่าไร่ของเราจะเอาของไปส่งวันนี้ แล้วคุณเกดจะมาทำไมให้เหนื่อย ผมไม่อยากให้คุณเหนื่อยน่ะ”
“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ คุณเชิด เกดอยากมาดูสินค้าด้วยตัวเองและก็คิดถึงคุณด้วย”
“งั้นเราไปดูของกันเลยดีกว่า” อหังการ์ตัดบท ทำเหมือนไม่ได้ยินคำว่าคิดถึงของการะเกด ซึ่งหญิงสาวก็ได้แต่ขัดใจ ก็คนที่มาติดพันเธอน่ะ มีหนุ่มมากหน้าหลายตา แต่ละคนก็พร้อมจะยอมให้เธอทั้งนั้น ยกเว้นหนุ่มหล่อคนนี้นี่แหละที่ใจแข็ง ไม่ยอมโอนอ่อนกับเธอซักครั้ง ทำให้การะเกดฮึดสู้ ก็คนที่เข้ามาจีบเธอ หล่อรวยสู้อหังการ์ไม่ได้ซักคน แค่เห็นหน้าอกที่เป็นผิวสีแทนเกลี้ยงเกลากับกล้ามเป็นมัดๆ ของเขา ที่เวลายกของเจ้าตัวมักจะชอบถอดเสื้อ การะเกดก็ยังฝันไปไกล แล้วถ้าหากได้เป็นภรรยาของเขา ลีลาบนเตียงก็คงจะน่าดู
ภาพที่การะเกดเกาะแขนอหังการ์แจ เวลาที่หญิงสาวมาที่ไร่แห่งนี้ เป็นภาพชินตาของคนงานทุกคนภายในไร่มาหลายปีแล้ว เพราะเจ้านายหนุ่มของทุกคนนั้นหล่อเหลาร้ายกาจ แถมยังปากกับใจตรงกันเป็นที่สุด เข้าขั้นร้ายกาจบาดความรู้สึกคนได้ยิน แต่กลับกลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวไป ที่สาวๆ คนไหนก็หลงใหลใฝ่ฝันถึง เพราะใช่จะมีแต่การะเกดเท่านั้น แต่รวมถึงผู้หญิงอื่นๆ อีกหลายคน ทั้งที่อหังการ์ก็ไม่ค่อยจะออกไปไหนแท้ๆ แต่ความหล่อเหลาของเขากลับเลื่องลือกระฉ่อน จนสาวๆ ต้องพากันมาเยือนถึงไร่เลยเชียว
“แม่ๆ แม่ว่านายเชิดนี่จะลงเอยกับคุณเกดไหม” เอื้องฟ้าหญิงสาวร่างสูง วัยยี่สิบสี่ปี จบปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจเอกการตลาด มีหน้าที่ประสานงานและหาลูกค้า ลูกสาวของนางบัวแก้ว แม่บ้านเก่าแก่ของอหังการ์เอ่ยถามมารดา
“ทำไมล่ะเอื้อง อยากจะรู้เรื่องของนายไปทำไม”
“อ้าว! ก็ตอนนี้น่ะสิแม่ เอื้องกำลังพนันกับพี่เจตน์ ว่าใครกันแน่ที่จะได้เป็นนายหญิงของไร่ ระหว่างคุณเกด คุณแขหรือว่าคุณแพรวหรืออาจจะเป็นคุณนุช” คำพูดของลูกสาวทำให้นางบัวแก้วถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายแทนเจ้านายหนุ่ม ที่ความหล่อเหลาบาดตากลายเป็นที่ต้องตาของสาวๆ ทั้งที่เจ้านายของเธอด่าเปิดเปิงไปตั้งหลายครั้งหลายคราว แต่สาวเจ้าพวกนั้นก็ไม่เคยจะลดราวาศอก กลับรุกหนักยิ่งกว่าเดิมอีก ทั้งที่เจ้านายของเธอก็แสนจะปากร้าย แต่กลับกลายเป็นเสน่ห์อันชวนหลงใหลไปซะนี่
“พวกเอ็งสองคนนี่มันยังไงกันนะ ไอ้ที่จะห่วงนายเรื่องสาวๆ แต่ดันเอาเรื่องกลุ้มอกกลุ้มใจของนายมาพนันกันซะนี่” นางบัวแก้วต่อว่าลูกสาว
“โธ่! ก็ของแบบนี้มันน่าสนุกนี่แม่ เอื้องอยากจะรู้จริงๆ ว่าใครจะกุมหัวใจนายเชิดของเราไว้ได้ นี่ถ้าหากไม่เห็นกันมาแต่เด็กนะ เอื้องคนหนึ่งล่ะ ที่จะลงสนามแข่งกับเขา” เอื้องฟ้าทำตาชวนฝันยั่วเย้าผู้เป็นมารดา ซึ่งเธอรู้ดีว่าสิ่งที่พูดมานั้นไม่มีวันเป็นไปได้แน่นอน ก็ตั้งแต่เกิดมาจนโตเป็นสาวขนาดนี้ เธอก็รู้จักมักคุ้นกับอหังการ์ดีที่สุดจนสนิทใจและยกให้เขาเป็นพี่ชายไปแล้ว อีกอย่างปากร้ายอย่างเจ้านายหนุ่มของเธอ เอื้องฟ้าคงไม่เอามาทำพันธุ์ให้ปวดหัวแน่ๆ ถึงจะรูปหล่อแค่ไหน แต่ปากร้าย ปากจัด ขี้โมโหและเอาแต่ใจตัวเองแบบที่หาใครเสมอเหมือนได้ยาก เธอก็ไม่อยากจะทนเพราะคงทนไม่ได้แน่นอน หญิงสาวจึงอยากจะรู้นักว่าคนที่จะกุมหัวใจเจ้านายเธอไว้ได้ และทนนิสัยอันร้ายกาจของเขาได้นั้น จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหน
“นี่เอื้อง อย่าบอกนะว่าเกิดชอบนายขึ้นมา น้ำหน้าอย่างเราน่ะ เอานายไม่อยู่หรอก”
“ของแบบนี้มันก็ไม่แน่นะแม่ เกิดนายชอบเอื้องขึ้นมาจริงๆ นายอาจจะเปลี่ยนนิสัยใหม่ก็ได้นะแม่”
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะเอื้อง เดี๋ยวขี้กลากได้กินหัวหรอก ห้ามคิดอะไรกับนายแบบนั้นเด็ดขาด เพราะคนที่จะน้ำตาเช็ดหัวเข่าน่ะมันจะเป็นเอ็ง อย่างนายนะเหรอจะมาสนใจอะไรเอ็งได้” พอมารดาพูดจบเอื้องฟ้าก็หัวเราะคิกคัก
“แม่ก็ เอื้องพูดเล่นแค่นี้ แม่ก็คิดเป็นจริงเป็นจังไปได้ อย่างนายเชิดน่ะ เอื้องรักไม่ลงหรอก ปากจัดจะตาย แค่คิดก็สยอง คนที่จะเป็นเมียนายน่ะต้องแสบพอกันถึงจะเอาอยู่ อย่างเอื้องจะไปเถียงสู้นายทันเหรอ แค่อ้าปากจะพูด นายก็คงด่าไปแล้วเรียบร้อย มีแต่จะถูกนายด่านอนกินน้ำตาทุกวันน่ะสิ”
“เฮ้อ! ค่อยยังชั่วหน่อย แม่คิดว่าเอ็งอยากจะเป็นเมียนายซะอีก แล้วจากที่ดูน่ะ เอ็งว่าใครจะเหมาะสมกับนายล่ะ” นางบัวแก้วเองก็อยากรู้เหมือนกัน
“เอื้องว่ายังไม่มีใครเข้าข่ายทำให้นายสนใจซักคนเลยนะแม่ ดูก็รู้ว่านายน่ะ ไม่ชอบผู้หญิงเจ้ามารยา แล้วดูแต่ละคนสิไม่เข้าข่ายที่จะทำให้นายสนใจได้เลย”
“แม่ก็ว่าแบบเอ็งนั่นแหละ ยังนึกไม่ออกเลยนะ ว่าเมียนายจะมีหน้าตายังไง นิสัยแบบไหน ความจริงนายก็อายุปูนนี้ น่าจะหาเมียซักคนได้แล้ว”
“แต่ถ้าเอื้องเป็นนายนะแม่ เอื้องขออยู่เป็นโสดดีกว่า แต่ละคนเอื้องว่านิสัยใช้ไม่ได้เลย”
“แม่ก็คิดเหมือนเอ็งนั่นแหละ”
อหังการ์ก้มมองคนที่กำลังทำตัวเป็นปลิงเกาะแขนเขาด้วยความรู้สึกเซ็งจัด ทำไมผู้หญิงสมัยนี้ถึงได้เป็นแบบนี้นะ พวกปากว่าตาขยิบ ปากอย่างใจอย่าง สวยแต่เปลือกนอกแต่ข้างในเน่าเฟะ พอนึกถึงตรงนี้ ภาพขาวเนียนผุดผาดกับกลิ่นกายหอมๆ ก็ลอยเข้ามาในห้วงคำนึงของอหังการ์อีกครั้ง จนชายหนุ่มต้องสะบัดศีรษะอย่างแรง เพื่อไล่ภาพยวนตานั้นออกไป จะทำอย่างไรกับแม่ตัวแสบดีนะ แค่วันเดียวเท่านั้นยังเป็นได้ขนาดนี้ขืนอยู่ใกล้กันแบบนี้มากๆ อาจจะพลาดท่าเสียทีให้แม่ตัวดีเข้าซักวัน หรือจะโอนให้ไอ้เจตน์ดี ยิ่งไม่ได้ใหญ่ เกิดแม่นั่นไปให้ท่าไอ้เจตน์เหมือนที่ให้ท่าเราก็เสร็จกัน โอ๊ย! ปวดหัวฉิบ ยายตัวร้ายนั่นต้องเล่นคุณไสยใส่เสน่ห์ยาแฝดกับเขาแน่ๆ
“คุณเชิดเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ดูท่าทางไม่ค่อยสบาย ให้เกดพาไปพักดีไหม” การะเกดเหลือบตามองหนุ่มหล่อร้ายเจ้าของแขนแกร่งที่เธอกำลังกอดอยู่ ที่สะบัดศีรษะไปมา แถมหน้าตาหล่อเหลาที่บางคราวก็แดงบางทีก็เขียวสลับกันไปมาก็อดถามไม่ได้
“ผมไม่เป็นอะไรหรอกคุณเกด เอาแบบนี้ดีกว่า แทนที่คุณเกดจะมัวมายืนกอดผมอยู่แบบนี้ คุณเกดเดินไปดูมันฝรั่งที่คนงานของผมกำลังแพ็คลงกล่องจะดีกว่า ว่าคุณภาพตรงตามที่คุณเกดต้องการหรือเปล่า” อหังการ์พูดจบก็แกะมือที่กำลังเกาะแขนเขาออก แล้วเดินดุ่มไปยังคนงานที่กำลังคัดมันฝรั่งลงกล่องแทน อาการนั้นทำให้การะเกดถึงกับค้อน แต่เพราะเขาเป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือ เธอถึงอยากได้เขาไปแนบกายนัก ผู้ชายดิบๆ ห่ามๆ แบบนี้เซ็กซี่เป็นบ้า
“มันฝรั่งได้ครบหรือยังไอ้ปาม” อหังการ์เดินเข้าไปถามลูกน้องด้วยอารมณ์หงุดหงิด ที่ไม่รู้ว่าหงุดหงิดใครระหว่างแม่สาวจอมตื้อหรือว่าตัวเอง
“เหลืออีกสิบกล่องก็จะครบตามจำนวนที่คุณเกดสั่งแล้วครับนาย ส่วนกะหล่ำและพริกหวานผมให้คนยกขึ้นรถหมดแล้วครับ” ปาณัสม์รายงาน ชายหนุ่มจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ สาขาภาควิชาการเกษตร ซึ่งอหังการ์เจ้านายของเขาเป็นคนส่งเสียให้เรียน เพื่อที่จะได้มาช่วยกันพัฒนาไร่
“คุณเกดครับ ตอนนี้ของก็จัดเกือบเสร็จแล้ว ผมว่าคุณเกดขึ้นรถไปรอที่ตลาดดีกว่า” อหังการ์ก้มลงบอกหญิงสาวที่หลังจากเขาสลัดหลุดไปหนหนึ่งแล้ว เจ้าหล่อนก็เข้ามาเกาะแขนเขาอีกจนได้
“แต่เกดอยากไปกับคุณเชิดนี่คะ เกดจะให้คนขับรถของเกดไปก่อน นะคะให้เกดนั่งรถไปกับคุณด้วย”
“งั้นก็ได้ครับ ไอ้เจตน์แกพาคุณเกดนั่งรถไปกับแกด้วยนะ คุณเกดเขาอยากคุมของเอง” อหังการ์พูดจบก็แกะมือปลาหมึกนั่นออกอีกครั้งทันที จนการะเกดแทบจะกรี๊ดลั่นกับการปฏิเสธแบบไม่ไว้หน้าของเขา คอยดูเถอะนะ ซักวันเธอจะทำให้ผู้ชายคนนี้มาสยบแทบเท้าเธอให้ได้ หญิงสาวเข่นเขี้ยวในใจ แต่คำพูดที่พูดออกมากลับไปคนละทาง
“แล้ววันนี้คุณเชิดไม่ไปส่งของให้เกดหรือคะ”
“ผมจะไปเฉพาะเวลาคนงานขาดเท่านั้น ถ้าต้องไปส่งของเองตลอดแล้ว ผมจะเสียเงินจ้างคนไว้ทำไม” อหังการ์พูดแบบไม่ยี่หระ ชักหมดความอดทนอดกลั้นขึ้นเรื่อยๆ เพราะผลผลิตของไร่เขาทุกวันนี้ก็ไม่พอส่งให้ลูกค้าอยู่แล้ว ถ้าหากจะหมดลูกค้าไปซักคนเขาก็ไม่กระเทือนหรอก และทั้งหมดนี่มันก็เพราะเธอคนเดียวนะยายตัวแสบ ที่ทำให้ฉันรู้สึกหงุดหงิดอารมณ์เสีย พาลเกลียดผู้หญิงไปทั้งโลกแบบนี้
“เกดขอโทษนะคะคุณเชิด ยกโทษให้เกดนะคะ เอาเป็นว่าเดี๋ยวเกดจะให้ลูกน้องขับไปรอที่ตลาดเลยแล้วกันค่ะ เอาไว้ถ้าคุณเชิดว่างก็ไปหาเกดที่ร้านบ้างนะคะ” คำออดอ้อนของการะเกดทำให้อหังการ์กรอกตาขึ้นฟ้าอย่างเซ็งสุดชีวิต เจตน์มองอาการของเจ้านายด้วยความเห็นใจและอิจฉาในคราวเดียวกัน ทำไมน้า เขาถึงไม่หล่อเหลาร้ายกาจแบบนายบ้าง จะได้มีสาวๆ ตรึม และสาบานได้เลยว่าไอ้เจตน์จะไม่ปล่อยให้หลุดรอดไปได้แม้แต่คนเดียว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ