แสบนักไม่ให้รักยังไงไหว

-

เขียนโดย ป้านิล

วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.02 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,110 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558 15.08 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ตอนที่ 4 สู้ตายแบบธารใส

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 4

สู้ตายแบบธารใส

          หลังจากผู้ร้ายโคตรหล่อที่ขโมยหัวใจของเธอไป เดินออกจากห้องด้วยความโมโหไปแล้ว ธารใสก็ลุกขึ้นสำรวจไปรอบๆ ห้องที่มองเห็นได้เพียงลางๆ สายตาคู่สวยก็พบเจอแต่เครื่องมือทำความสะอาดบ้านเท่านั้น นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรซักอย่าง ไม่รู้มีไฟหรือเปล่า เมื่อกี้ก็ลืมถามเอาความกับพี่หล่อ ตาคู่สวยพยายามมองลอดรอยแตกของฝาไม้ แต่ก็ไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความสลัวค่อนข้างมืด หญิงสาวพยายามครุ่นคิดอย่างหนักว่าเธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนชื่อพิลึกกึกกือที่พี่หล่อคนนั้นพูดใส่ร้ายได้อย่างไร หรือจะเป็นคนที่เข้ามาติดพัน เพราะบางคนเธอไม่ได้รู้จักชื่อ และก็ขี้เกียจจะถามเพราะไม่ได้สนใจ

          หรือว่า....แล้วมันหรืออะไรล่ะ คิดไม่ออกโว้ย สรุปแล้ว พี่หล่อจับตัวเธอมาผิดจริงๆ นั่นแหละ แต่จะสาเหตุอะไร มันเริ่มผิดจากตรงไหนอันนี้เธอเองก็ไม่รู้ แต่ช่างเถอะ ตอนนี้มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ก็แกอยากเสียบกุญแจคาไว้ให้พี่หล่อเข้าไปง่ายๆ ทำไมล่ะไอ้ลูกหนู หรือมันจะเป็นพรหมลิขิตที่ทำให้เธอได้มาเจอเขา ต้องใช่แน่ๆ ก็เราอุตส่าห์นอนคิดนอนฝัน ร่ำร้องอยากจะได้ผัวหล่อโคตรๆ เซอร์ๆ แสบๆ แล้วก็ดุๆ ไม่ใช่หรือไง ดีเหมือนกันจะได้หาโอกาสแทะโลมพี่หล่อไปด้วย ธารใสคิดปลอบใจตัวเองไปสารพัดเพื่อลดความกังวล(ซึ่งไม่แน่ใจว่าตอนนี้ไอ้ความกังวลที่ว่ามันมีบ้างซักนิดหรือเปล่า) ก็มันไม่มีอะไรจะทำให้มันดีกว่านี้แล้วนี่

          ร่างสวยทรุดนั่งกับพื้นเพราะเดินวนจนเมื่อย แถมตอนนี้ ในห้องที่เธออยู่ก็มืดจนมองอะไรไม่เห็นซะแล้ว หาทางหนีก็ไม่รู้จะหนีอย่างไร ห้องนี้ดันไม่มีหน้าต่างซักบาน แล้วคิดดูสิถ้าหนีออกไปสภาพแบบนี้ ก็เท่ากับหนีเสือปะจระเข้ พอดีพอร้ายดันไปเจอจระเข้หน้าตาหน้าเกลียดหื่นกระหายแล้วก็ยิ่งแย่ไปกันใหญ่ อยู่กับเสือหล่อๆ คนเดียวก็ยังพอรับมือไหว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็อยากจะใส่เสื้อผ้าให้มันดีกว่านี้ก่อน จะได้อุ่นใจบ้าง อุตส่าห์รักษาความสาวมาตั้งยี่สิบเอ็ดปี เพื่อที่จะมาเจอหนุ่มโคตรหล่อคนนี้เข้า แต่เรื่องอะไรล่ะที่จะยอมยกให้เขาง่ายๆ แต่จะว่าไปมันคงจะไม่มีทาง เพราะดูท่าทางแล้วเขาก็ไม่ได้ปลื้มอะไรเธอเลยซักนิด แถมยังรังเกียจอีกต่างหาก แต่จะว่าเขาก็ไม่ได้ในเมื่อเขาเข้าใจผิด อันนี้ลูกหนูยกโทษให้นะพี่หล่อ

          เอ๊ะ! แล้วพี่หล่อเขาจะมีเมียหรือยัง หรือจะมีแล้ว ตายแล้วไอ้ลูกหนู คิดจะงาบเขาทั้งที่ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรซักอย่าง อันดับแรกเราต้องสืบให้ได้ก่อนว่าเขามีเมียแล้วหรือยัง สองถ้าเขามีแล้วเราต้องหาทางหนีไปจากที่นี่ให้ได้ เพราะขืนอยู่ต่อไปได้มีการแย่งผัวชาวบ้านเขาแน่ ก็ยกใจให้เขาไปจนหมดซะขนาดนั้นแล้ว ถึงแม่จะปากคอเลาะร้ายแต่ก็สอนให้เธอรู้จักระวังรักษาตัวเป็นอย่างดี และที่แม่เกลียดที่สุดก็คือการแย่งผัวชาวบ้าน ดังนั้นแม่ถึงได้อยู่เป็นโสดมาจนป่านนี้ เพราะแม่บอกว่าแม่รักพ่อที่สุด อีกอย่างผู้ชายสมัยนี้หาที่โสดจริงๆ ยาก มีแต่จะมาหลอกเท่านั้น อีกอย่างมันก็แน่อยู่แล้วที่ว่าสวยเลือกได้ขนาดนี้ หาผู้ชายดีๆ ได้อีกถมเถ แต่สาธุ๊ ขอให้พี่หล่อยังไม่มีเมียทีเท้อ

          หลังจากที่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยวุ่นวายอยู่คนเดียวเป็นเวลานาน ตาคู่สวยก็เริ่มปรือเพราะง่วงนอน ร่างเล็กขดงอเป็นกุ้งเพราะความเย็นของอากาศแล้วหลับเป็นตาย โดยลืมไปว่าตัวเองกำลังถูกจับมาเป็นจำเลยรักซะสนิท

         

          อหังการ์เปิดประตูเข้ามาในเวลาสามทุ่ม หลังจากที่ไปรื้อชุดเก่าๆ ที่มารดาจะเอาไปบริจาค มาให้แม่วันทองตัวดีสวมใส่ เพื่อป้องกันร่างกายที่สวยแค่เปลือกนอก ให้รอดพ้นจากสายตาของบรรดาลูกน้องหนุ่มๆ ทั้งหลาย ก็แม่สวยแสบนี่สวยน้อยเสียเมื่อไร ถ้าหากไม่ใช่ผู้หญิงมักง่าย ใช้ร่างกายเปลืองไว้หลอกผู้ชายเล่น และที่สำคัญยังทำร้ายน้องชายเขาจนปางตาย อหังการ์ก็ยังไม่แน่ใจว่าตัวเขาเองจะทนทานต่อเสน่ห์ของเธอไหวหรือเปล่า เจอผู้หญิงสวยมาก็มากแต่ไม่มีใครดึงดูดใจของเขาได้เท่าแม่สวยแสบคนนี้เลย

          อหังการ์ใช้ไฟฉายส่องกราดหาร่างสวย จนแสงจากดวงไฟไปกระทบกับร่างเล็กที่นอนขดเป็นกุ้งเพราะความหนาว ปากได้รูปยิ้มเหยียด ขนาดถูกผู้ชายจับตัวมาแบบนี้ แม่ตัวดียังไม่มีความสะทกสะท้านหวาดกลัว ถ้าเป็นสาวบริสุทธิ์จริงๆ คงไม่มานอนหลับอุตุให้ท่าเขาแบบนี้หรอก มือใหญ่เอื้อมไปเปิดสวิทซ์ไฟที่ติดอยู่ด้านบนประตูจนแสงสีเหลืองนวลสว่างไปทั่วห้อง

          “นี่ ตื่นได้แล้ว” อหังการ์ใช้มือสะกิดต้นแขนนวล

          “อื้อ! อย่ากวนได้ไหม ไอ้ภพ ไอ้นุ ฉันจะนอน พวกแกอยากจะทำอะไรก็ทำไป แต่ตอนนี้ห้ามกวน ฉันไม่มีอารมณ์” ธารใสที่กำลังหลับสบายฝันว่าถูกเพื่อนปลุกให้ลุกขึ้นมานั่งดูหนังที่พวกมันเพิ่งซื้อมา ก็ยกมือขึ้นปัดมือที่กำลังสะกิดเพราะความเคยชิน เพราะเวลาตัวเองเข้าไปนอนรอเพื่อนทั้งสามที่ห้องก็ปล่อยตัวตามสบายแบบนี้ แต่คนที่ได้ยินกลับคิดไปอีกทาง ว่าผู้หญิงคนนี้ช่างสกปรกสิ้นดี ปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนไม่สนใจ ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายไม่ว่าจะเป็นคนไหนก็รับได้หมด

          “นี่เธอ ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้ แหกตาดูซะบ้างว่าใคร ฉันไม่ใช่ผัวคนใดคนหนึ่งของเธอนะ” อหังการ์ตวาดเสียงดัง จนร่างสวยถึงกับสะดุ้งลุกขึ้นพรวดพราด

          “อ้าว! พี่เองเหรอ” ตาคู่สวยที่กำลังงัวเงียเบิกกว้าง ถึงจะคิดเรื่อยเปื่อยไปบ้าๆ สารพัดตามเรื่องตามราว แต่ก็ใช่ว่าเธออยากจะเสียความบริสุทธิ์ตอนนี้ซะหน่อย คนอย่างไอ้ลูกหนูไม่ชอบให้ใครมาปล้ำ เพราะเธอต้องเป็นคนปล้ำก่อนเท่านั้น เพราะถือคติว่าใครลงมือก่อนคนนั้นได้เปรียบ แต่ก่อนที่จะได้คิดอะไรเลอะเทอะเลยเถิดมากกว่านั้น เสียงตวาดของผู้ร้ายโคตรหล่อก็ดังขึ้นซะก่อน

          “แล้วเธอนึกว่าเป็นใครล่ะ คิดว่าคู่ขามันจะมาช่วยหรือไง” อหังการ์จับร่างสวยเขย่าจนหัวสั่นหัวคลอน จนคนสวยชักโมโห เป็นไงเป็นกันล่ะงานนี้ ถึงจะหล่อขนาดไหน แต่บังอาจมาทำรุนแรงกับคนสวยแบบนี้ให้อภัยไม่ได้

          “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ คนบ้า เป็นผู้ชายภาษาอะไร หาความเป็นสุภาพบุรุษไม่ได้เลย”

          “สุภาพบุรุษงั้นเหรอ ผู้หญิงแพศยาอย่างเธอนี่ มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะแสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วย เหมือนอย่างน้องชายฉันไงล่ะ ที่ต้องเจ็บเกือบตายเพราะผู้หญิงไร้ค่าอย่างเธอ” หน็อยแน่! ตาบ้า คำก็แพศยา สองคำก็ไร้ค่า คอยดูนะซักวันจะทำให้มาสยบคาอกผู้หญิงแพศยาไร้ค่าเลยคอยดู เอาวะเป็นไงเป็นกัน ไม่หนงไม่หนีมันแล้ว ถ้าไม่ได้ผู้ชายโคตรหล่อตรงหน้ามาทำผัวไอ้ลูกหนูไม่ถอย อยากท้าทายดีนักใช่ไหม แม่จะสู้ไม่ถอยล่ะทีนี้

          “ทำไม พูดแทงใจดำแค่นี้ ถึงกับเถียงไม่ออกเลยเหรอ” อหังการ์ยิ้มเหยียด เมื่อเห็นปากจิ้มลิ้มที่กำลังเม้มสนิท กับดวงตากลมโตที่จ้องมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ

          “แล้วซักวันพี่จะเสียใจที่พูดกับลูกหนูแบบนี้ อย่าเผลอมาซบอกผู้หญิงแพศยาเข้าล่ะ” หญิงสาวเถียงคำไม่ตกฟาก ดวงตากลมโตสีดำสนิทจ้องตอบอย่างไม่มีลดละ

          “ไม่มีวันนั้นแน่นอน อย่าละเมอ เห็นถุงที่วางอยู่ตรงนั้นไหม มันเป็นขนมกับนมให้เธอกินซะ เพราะฉันอยากจะทรมานเธอไปนานๆ ส่วนอีกถุงเป็นเสื้อผ้าใส่ด้วยล่ะ เพราะฉันไม่อยากเห็นรูปร่างสกปรกของเธอ” อหังการ์พูดจบก็ผลักร่างสวยเต็มแรงจนหงายหลัง ชุดคลุมถลกขึ้นมาจนเห็นโคนขา มือบางจึงรีบตะครุบปิดทันที

          “เชอะ! ไอ้ของบูดเน่าพรรค์นั้นน่ะ ฉันไม่อยากจะมองหรอก เสียสายตาชะมัด เห็นแล้วจะอ๊วก สงสัยคืนนี้คงหลับไม่ลง” อหังการ์พูดจบก็ปิดประตูกระแทกดังสนั่นหวั่นไหวทิ้งให้หญิงสาวได้แต่กัดฟันกรอด ใจดวงน้อยฮึดสู้ขึ้นมาทันทีทันใด ก็มันน่าโมโหไหมล่ะ เกิดมาไม่เคยมีใครดูถูกแบบนี้มาก่อน จะไถ่ถามซักคำว่าเธอเป็นใคร แล้วทำผิดจริงหรือเปล่าก็ไม่มี เอาแต่ตะคอกดูถูก ผู้ชายบ้าๆ ๆ ปากร้ายที่สุด คอยดูนะแม่จะเอาคืนให้เข็ด จะทำให้รักให้หลงหัวปักหัวปำจนไม่มีเวลาไปมองใคร โทษฐานที่บังอาจมาทำให้คนสวยเจ็บใจแถมยังต้องเจ็บตัวอีก

          หลังจากที่ได้ระบายอารมณ์และความขุ่นข้องหมองใจพร้อมทั้งกินนมสองกล่องและขนมจนหมดเพราะหิว ตาคู่สวยก็เหลือบไปมองเสื้อผ้าที่คนรูปหล่อแต่ใจร้ายแถมยังบ้าที่สุดโยนให้ มือสวยจึงเอื้อมไปหยิบถุงเสื้อผ้าที่กองไว้ขึ้นมาดู

          “ผ้าถุงจะให้ใส่ผ้าถุงเนี่ยนะ พี่หล่อนี่ดูละครมากเกินไปหรือเปล่าวะ ไหนว่าไม่อยากให้อ่อยไง ได้ในเมื่อต้องการนัก เดี๋ยวพรุ่งนี้ไอ้ลูกหนูจัดให้” เสียงหวานบ่นพึมพำ ค้อนประหลับประเหลือกฝากลมไปให้คนใจร้ายแต่หล่อร้ายกาจเผื่อเขาจะได้ยิน มือสวยพลิกดูเสื้อผ้าต่อไป แล้วก็ต้องอุทานลั่น

          “เสื้อคอกระเช้า บ้าหรือเปล่าเนี่ย ชุดที่ให้ใส่นี่มันโป้ทั้งนั้นนะโว้ย” ปากบางบ่นขมุบขมิบ มันจะไม่โป๊หรอกถ้าให้คนอื่นใส่ แต่ขืนเธอใส่ไป มันได้โป๊แน่ๆ เกิดมายังไม่เคยใส่ผ้าถุงเลยซักครั้งให้ตายเถอะ แถมกางเกงขาสั้นก็ไม่มีให้ใส่ด้านในอีก มันยังไงกันเนี่ยอยากจะบ้าตาย แล้วดูสิมีแต่ผ้าถุงสามผืน กับเสื้อคอกระเช้าสีม่วงกับสีเขียวอีกสองตัว ที่สำคัญเสื้อชั้นในไม่มี ดีจริงๆ เลยนะพี่หล่อ คอยดูเถอะ พรุ่งนี้ได้บ้านแตก

 

          “นี่แม่วันทอง ตื่นซะทีสิ” อหังการ์ที่เปิดประตูเข้ามาในเวลาเจ็ดโมงเช้า เมื่อเห็นแม่ตัวแสบยังหลับอุตุถึงกับโมโหแผดเสียงลั่น

          “จะเสียงดังทำไม หูไม่ได้หนวกซักหน่อย” ธารใสลุกขึ้นมาด้วยหน้าตาบูดบึ้ง ก็เมื่อคืนน่ะสิ กว่าจะได้หลับได้นอนก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนหลับไม่ลง(เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองถูกจับตัวมา) ทั้งเรื่องทางบ้าน ถ้าแม่รู้ว่าลูกสาวหายไปแล้วจะทำอย่างไร ไหนจะไอ้เพื่อนสามตัวนั่นอีก กว่าจะได้นอนก็เกือบเช้าแล้วยังจะมาปลุกเสียงอยู่ได้

          “ลืมแล้วหรือไงว่าเธอน่ะมันเป็นได้แค่เชลย ห้ามเถียง” ตาคู่สวยค้อนขวับ ดู๊ดู เถียงแค่นี้ก็ไม่ได้ คนบ้า เผด็จการที่สุด

          “ไม่ต้องมามองฉันแบบนั้น ห้ามนินทาด้วยสายตาเข้าใจไหม” ธารใสจ้องตาคมดุไม่กระพริบ ก่อนจะรีบเบือนหนีเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาหาด้วยท่าทางโกรธจัด

          “ลุกขึ้น แล้วอย่าบังอาจมาเมินหน้าและทำดัดจริตใส่ฉัน” ชายหนุ่มไม่เพียงแต่พูดเท่านั้น มือใหญ่ยังกระชากไหล่เล็กกลมกลึงติดมือขึ้นมาด้วย หญิงสาวถึงกับเดือดปุดๆ แต่ก็พยายามระงับเต็มที่

          “ออกมานี่ ฉันจะให้เธอทำความสะอาดบ้าน” มือใหญ่แข็งกระด้างจับต้นแขนกลมกลึงกระชากจนร่างสวยปลิวไปตามแรง แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาโกรธ ต้องหาข้อมูลเบื้องต้นก่อน ตากลมโตกวาดมองไปทั่วบริเวณห้องที่เธอถูกขัง ห้องนี้เป็นห้องขนาดเล็กใช้สำหรับเก็บของ ตอนนี้ร่างสูงของเขากำลังพาเธอเดินออกมายังระเบียงหน้าบ้านที่สร้างยื่นออกไปจากตัวบ้าน พร้อมทั้งมุงหลังคาเสร็จสรรพและตามชายคาก็มีกระถางกล้วยไม้แขวนไว้อยู่รายรอบ มีบันไดอยู่ตรงกลางระเบียงสำหรับเดินลงไปด้านล่างที่มีทั้งหมดห้าขั้น น่านเอาให้ละเอียด เรือนหลังนี้เป็นไม้ทั้งหลัง น่ารักเหมือนบ้านในฝัน รอบๆ ตัวบ้านมีดอกไม้ปลูกอยู่เต็มไปหมด มันคงจะน่ารักและดีกว่านี้ถ้าตาคู่สวยของเธอจะไม่เจอเข้ากับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ล้อมรอบจนสุดลูกหูลูกตา กับต้นอะไรต่อมิอะไรรกครึ้มเต็มไปหมด บรรยากาศด้านนอกดูแล้วเหมือนพวกหนังสยองขวัญที่ไอ้พวกเพื่อนสามตัวของเธอชอบดู นึกแล้วก็หวาดๆ ว่าคนหล่อเหลาข้างกายเธอนี้จะเป็นพวกจิตวิปริตฆ่าหั่นศพ หรือไม่ก็พวกโรคจิตที่ชอบถือเลื่อยไฟฟ้าไล่ฆ่าคนหรือเปล่านะ

          “มองอะไร ฮ้า!” อหังการ์ตะคอกเสียงดัง เมื่อเห็นตาคู่สวยที่กำลังเหลือบมองมาทางเขาด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก

          “แล้วก็ดูสิ นุ่งชุดบ้าบออะไรของเธอ ใส่มาทำไมไอ้เสื้อคลุมเนี่ย ถอดออก” เสียงตะคอกสั่งสนั่นหวั่นไหว จนธารใสนึกเป็นห่วงกลัวว่าคนรูปหล่อจะเจ็บคอเอา แถมมือใหญ่ของเขายังกระชากเสื้อคลุมสีชมพูหวานลายเต่าตัวน้อยที่เธออุตส่าห์ไปเลือกซื้อออกจากตัว แล้วยังฉีกมันด้วยมือเปล่าๆ จนมันเละไม่มีชิ้นดี พี่ลูกหนูขอโทษด้วยนะน้องเต่า โธ่! พี่รูปหล่อนี่ก็ช่างกระไร เสียงดังอยู่ได้ โมโหแบบนี้บ่อยๆ เดี๋ยวก็ได้หัวใจวายตายก่อนจะได้เป็นผัวไอ้ลูกหนูหรอก

          “ไปทำงานได้แล้ว หัดทำงานซะบ้าง จะได้รู้จักความเหน็ดเหนื่อยว่ามันเป็นยังไง เงินทองแต่ละบาทกว่าจะหาได้มันลำบากขนาดไหน ไม่ใช่รักสบายเอาแต่นอนอ้าซ่าแบบมือขอเขาใช้อย่างเดียว” อหังการ์พูดจบประโยคก็ผลักร่างสวยจนหัวแทบคะมำ หญิงสาวถึงกับกัดฟันกรอดๆ กับประโยคเจ็บแสบของเขา เสื้อชั้นในก็ไม่มีใส่ อุตส่าห์เอาผ้าคลุมอาบน้ำมาสวมทับเพราะกลัวเขาจะหาว่าอ่อย ดีล่ะต้องการนักใช่ไหม ทีนี้ล่ะแม่จะอ่อยให้ดู ล้างตาไว้คอยได้เลย

          ธารใสมองคนรูปหล่อที่พอพูดจบก็เดินปึงปังลงส้นหนักๆ ไปนั่งตรงเก้าอี้หวายที่จัดเป็นชุดน่ารัก มีเก้าอี้หวายสี่ตัว สานเป็นเกลียวสวยมีเบาะรองนั่งสีชมพู กับโต๊ะหวายทรงกลมที่ตรงกลางมีถ้วยกาแฟที่มีควันลอยขึ้นส่งกลิ่นหอมฟุ้ง แต่พอนั่งปุ๊บ ตาคมกริบก็เหลือบมาทางเธออีกแล้ว

          “ยืนทำบื้ออะไรอยู่ได้ บอกให้ทำงานไง” ธารใสตวัดตามองด้วยความหมั่นไส้

          “รู้แล้วว่าให้ทำงาน แต่ให้ทำอะไรล่ะพี่ ลูกหนูจะได้ทำถูก” อหังการ์ชะงักกึกกับถ้อยคำอันแสนยอกย้อนนั้น

          “งั้นเริ่มตรงนี้ก่อน กวาดบ้าน ถูบ้านให้สะอาด เอาตรงระเบียงนี่แหละ” นิ้วใหญ่ชี้สั่ง หญิงสาวจึงเดินเข้าไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดและแอบกระซิบขอบคุณในใจ ที่อุตส่าห์ช่วยนอนเป็นเพื่อนเธอเมื่อคืนออกมา จัดการปัดกวาดระเบียงจนสะอาดเอี่ยม พร้อมกับเอาไม้ถูพื้นขึ้นมาซักบิดน้ำจนแห้งแล้วถูพื้นอย่างตั้งอกตั้งใจ โธ่เอ๊ย! เรื่องแค่นี้เอง ทำมาตั้งแต่เด็กจนโตทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ อหังการ์หันมองด้วยความประหลาดใจแกมไม่พอใจ เขากะจะให้แม่ตัวดีทำงานหนักๆ ให้รู้จักสำนึกผิด เขาก็คิดว่าเจ้าหล่อนจะทำอะไรไม่เป็นซักอย่าง แต่นี่ดูสิเช็ดสะอาดเอี่ยมอ่องซะขนาดนี้ แบบนี้มันก็ไม่สะใจน่ะสิ

          “นี่แม่วันทอง เรือนหลังนี้ห้ามใช้ไม้ถูพื้น ต้องใช้มือถูเท่านั้น นั่งลงไปถูเดี๋ยวนี้เลย นี่ตรงที่ฉันเหยียบนี่ก็ยังไม่ได้ถู ไม่เห็นจะสะอาดซักนิด” อหังการ์พูดพร้อมกับชี้นิ้วสั่ง ธารใสถึงกับมองหน้ามุ่ย พยายามอย่างยิ่งที่จะหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้เขา เพราะกลัวหน้าอกหน้าใจขาวผ่องจะออกมายั่วให้เขาเห็น แต่ในเมื่อคนรูปหล่อต้องการอันนี้ก็ช่วยไม่ได้ เพราะแม่จะโชว์ให้ดูเดี๋ยวนี้แหละ อย่ากลับคำเผลอมาซบมันเข้าล่ะ มือเล็กบิดผ้าขี้ริ้วที่ซักในน้ำจนสะอาดบิดพอหมาด เดินไปเช็ดพื้นตรงตำแหน่งที่เขานั่งอยู่ จนคนที่กำลังจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์อย่างสบายอารมณ์ ถึงกับสำลักกาแฟพรวดน้ำหูน้ำตาไหล เมื่อหันไปมองแม่ตัวแสบที่กำลังนั่งก้มถูพื้นอย่างตั้งอกตั้งใจ และก็รู้สึกว่าจะตั้งอกตั้งใจเกินไปหน่อยเพราะก้มเกินพอดี จนคอเสื้อหย่อนลงจนเห็นหน้าอกอวบสวยขาวนวลเนียนปรากฏแก่สายตาแบบจะๆ แล้วตาคมก็ยังมองทะลุไปถึงสะดือเล็กน่ารักนั่นด้วย ชายหนุ่มโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจับไหล่กลมกลึงกระชากร่างสวยเข้าหาตัวเองจนใกล้ พร้อมตะคอกเสียงดังจนธารใสต้องเบือนหน้าหนีเพราะแสบแก้วหู      

“มานี่เลย เธอนี่มันแสบจริงๆ เลยนะ ทำไมถึงไม่ใส่เสื้อชั้นใน คิดว่าอ่อยแบบนี้แล้วฉันจะหลงกลเธอหรือไง ไม่ต้องลงทุนให้มันเสียเวลาหรอก เพราะไม่มีวันนั้นแน่นอน” พอจบประโยคนั้นตากลมโตก็ถลึงใส่เขา

          “แล้วมันมีให้ลูกหนูใส่หรือเปล่าล่ะพี่หล่อ ตัวเองเป็นคนพาเขามาแบบนี้แท้ๆ แล้วยังจะมาว่าคนอื่นเขาอ่อยอีก” อหังการ์มองปากเล็กจิ้มลิ้มที่กำลังเถียงเขาฉอดๆ แล้วอยากจะบดขยี้มันให้เละคาปากนัก ผู้หญิงอะไรอย่างนี้ แสบเหลือทน โดนขนาดนี้แล้วยังไม่รู้สึก

          “จำใส่สมองสวยๆ แต่แสนจะสกปรกของเธอไว้นะ ว่าฉันชื่อเชิดและอย่าบังอาจมาเถียงฉันอีก” ธารใสมองตาคมกริบที่กำลังจ้องเธอจนแทบจะมอดไหม้แล้วก็ได้แต่เซ็ง นี่ถ้าตาพี่แกเป็นมีดมีหวังผิวขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะของไอ้ลูกหนูถูกบาดเป็นแผลเหวอะหวะไปทั้งตัวหมดสวยกันล่ะคราวนี้ แม่จะไปฟ้องศาลโลกให้รับเลี้ยงตลอดชีวิตเลยคอยดู

          “ได้ยินที่ฉันพูดไหม” ธารใสหันหน้าหนีกับคำตะคอกที่ดังสนั่นหวั่นไหวนั้น สงสัยชาติที่แล้วพี่หล่อแกคงจะทำบุญด้วยลำโพง เสียงถึงได้ดังขนาดนี้ เชอะ! คนอะไรชื่อเชิด เชิดอะไรล่ะ แต่ก็เหมาะสมดี พวกคอตั้งดีแต่เชิดคอสั่ง น่าจะเปลี่ยนเป็นยโสโอหังซะมากกว่า

          “ได้ยินแล้วพี่เชิด และลูกหนูก็ขอบอกพี่เชิดไว้ด้วย ว่าลูกหนูชื่อธารใสไม่ใช่วันทอง” อหังการ์ถึงกับควันออกหูเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากปากคู่สวย ผู้หญิงอะไรเหลือเกินจริงๆ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครเถียงเขาคำไม่ตกฟากแบบนี้ ยายแสบนี่ไม่ได้กลัวเขาซักนิดเลยใช่ไหม ปากได้รูปฉกวูบไปยังปากแดงจิ้มลิ้มอย่างรวดเร็ว บดเบียดจุมพิตเพื่อต้องการลงโทษ จนหญิงสาวเจ็บระบมไปหมด พอสมใจก็ผลักร่างสวยของเธอกระแทกกับพื้นจนร่างอรชรล้มนอนหงายหลัง ผ้าถุงถลกขึ้นจนเห็นชั้นใน ส่วนด้านบนเสื้อก็เปิดขึ้นทำให้เห็นหน้าท้องขาวนวลเนียนเกือบถึงหน้าอก

          “นาย นายครับ นายเชิดอยู่ก่อครับ” สำเนียงที่เป็นภาษาคำเมืองชัดถ้อยชัดคำทำให้ธารใสขมวดคิ้ว แต่ก่อนที่จะทันได้คิดอะไร มือใหญ่ของคนรูปหล่อแต่ใจร้ายก็กระชากตัวเธอขึ้นมาแล้วดันให้ไปอยู่ด้านหลังของเขา

          “มีอะไรไอ้ปาม” อหังการ์ถามลูกน้องหนุ่มวัยยี่สิบหกปี ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา แต่ตามองเลยไปข้างหลังด้วยความไม่พอใจ ว่าแต่เมื่อกี้มันคงไม่เห็นแม่ตัวดีตอนกำลังโป๊หรอกนะ

          “หูแตกหรือไอ้ปาม ไม่ได้ยินที่ฉันถามหรือไง” ปาณัสม์ที่กำลังมองหญิงสาวตัวน้อยแสนสวยขาวผ่องไปทั้งตัวที่ยืนอยู่ด้านหลังเจ้านายหนุ่มถึงกับสะดุ้งตกใจกับเสียงตวาดนั้น รีบก้มหน้าหลบตาพร้อมกับตอบออกไปอย่างหวาดๆ

          “คือว่าคุณเกดมาหานายครับ” ธารใสมองหนุ่มตรงหน้าแล้วก็รู้สึกเห็นใจ ไม่รู้ทำเวรทำกรรมอะไรไว้นักหนาถึงได้มีเจ้านายขี้โมโหและปากร้ายแบบนี้

          “มาทำไม ของเราก็จะส่งให้วันนี้อยู่แล้วนี่”

          “เห็นคุณเกดบอกว่าอยากมาดูของด้วยตัวเองครับ”

          “ยุ่งฉิบหาย เดี๋ยวฉันตามไป อ้อ! อีกอย่างนะไอ้ปาม เวลาฉันไม่อยู่แกอย่าเสือกมาที่เรือนหลังนี้อีก เข้าใจไหม”

          “เข้าใจครับ”

          “เข้าใจก็ไปได้แล้ว” อหังการ์ตวาดไล่เสียงดัง จนคนถูกตวาดรีบลนลานเดินกลับไปทางเก่า

          “มองอะไรของเธอ ฮ้า! ห้ามอ่อยลูกน้องฉันเด็ดขาด ไม่งั้นจะโดนยิ่งกว่าเมื่อกี้อีก” ธารใสที่กำลังชะเง้อคอมองตามหลังชายหนุ่มน่าสงสาร เพื่อสังเกตว่าเขาเดินไปทางไหนเพื่อหาทางหนีทีไล่ถึงกับรีบหดคอ สงสารหูตัวเองชะมัด กลัวว่ามันจะหนวกเอาซักวัน คนอะไรหน้าตาก็หล่อเหลาจนใจละลายกลายเป็นดวงเดียวกับเขาไปแล้ว แต่นิสัยแย่จัดจนใช้ไม่ได้ ปากเสีย ปากจัด เสียงดัง ขี้โมโห แถมยังจูบไม่เป็นสับปะรดอีก อุตส่าห์ฝันหวานว่าจูบแรกกับคนที่รักคงจะหวานปานน้ำผึ้ง แต่เมื่อกี้ที่ได้เจอมันบอระเพ็ดชัดๆ ทั้งเจ็บทั้งขมจนปากระบมไปหมด

          “เข้าไปทำความสะอาดข้างในให้สะอาดด้วย ถ้าเธออยากจะนอนที่นอนดีๆ ห้องใหญ่ของฉัน กวาดพื้นอย่างเดียวห้ามแตะต้องอย่างอื่น ติดกับห้องเก็บของน่ะของเธอ และอย่าพยายามหนีเด็ดขาด ที่นี่มีแต่คนงานพม่ากลัดมันเต็มไปหมด แต่ถ้าเธอชอบฉันก็ไม่ว่า เผื่อจะติดใจ แต่ฉันขอบอกก่อนนะว่าพวกมันไม่มีเงินจ่าย” ธารใสไม่พูดได้แต่ส่งค้อนให้เฉยๆ แล้วรีบเดินเข้าไปข้างใน แต่ยังไปไม่ถึงไหนก็ได้ยินเจ้านายหัวใจเรียกไว้ซะก่อน

          “นี่ เดี๋ยวฉันจะไปซื้อเสื้อชั้นในให้ เธอใส่ไซด์อะไร” คนถามถามเหมือนเรื่องธรรมดา แต่คนถูกถามหน้าร้อนจนแทบแตก บ้าที่สุด จู่ๆ ก็มาถามขนาดหน้าอกกันง่ายๆ แบบนี้นะเหรอ เก่งนักไม่ใช่หรือไง วันก่อนก็เห็น เมื่อกี้ก็เห็นแล้วนี่ กะขนาดเอาเองสิ ฮีโธ่! ไม่แน่จริงนี่หว่า

          “ไม่ตอบแบบนี้แปลว่าไม่ใส่ใช่ไหม แบบนี้ก็ดีนะ ให้มันห้อยโทงเทงจนถึงเข่าเลย จะได้ไม่มีใครสนใจ”

          “เอาจ๊ะ พี่เชิด ลูกหนูใส่ซีเจ็ดสิบค่ะ” ธารใสรีบระล่ำระลักบอกเพราะกลัวคนรูปหล่อจะเปลี่ยนใจ ไม่ได้กลัวว่ามันจะห้อยโทงเทงเหมือนเขาว่าหรอก แต่กลัวว่ามันจะสะดุดตาคนมาเห็นแล้วจะยิ่งไม่ปลอดภัยไปกันใหญ่ เพราะเธอไม่ได้อยากโชว์ให้ใครเห็นนอกจากเขาคนเดียว ก็ขนาดใส่เสื้อผ้าจนมิดชิดอย่างชุดโรงงานยังกลายเป็นขวัญใจของพวกหนุ่มๆ ไม่เว้นแม้แต่ผัวชาวบ้าน จนต้องโดนไล่ออกจากงานข้อหาทำให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะความสวย แล้วขืนไม่ใส่ขึ้นมา พวกหนุ่มๆ คงได้พากันมารุมตอมเหมือนผึ้งดอมดมน้ำหวานแล้วจะแย่ เพราะตั้งใจไว้ว่าไม่ได้อยากอ่อยใครให้เสียเวลา นอกจากผู้ชายรูปหล่อแต่ใจร้ายที่กำลังเดินลับหายไปเพียงคนนี้คนเดียวเท่านั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา