กุหลาบเพชร
8.8
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.33 น.
36 ตอน
3 วิจารณ์
36.44K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2559 21.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
19) เค้าลางความวุ่นวาย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความและแล้วทัพข้าศึกเมืองกุ้ยโจว ก็บุกมาปะชิดเมืองในอีกสองวันแต่ด้วยอาวุธสมัยใหม่ ที่เพ่ยอิงและปานตะวันนำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นปืนสั้น ปืนยาวที่เป็นอาวุธสงครามที่สามารถสังหารศัตรูได้ในระยะไกล รวมถึงระเบิดที่ปานตะวันสอนวิธีการทำระเบิดมือชนิดขว้าง รวมถึงสอนวิธีการหลอมปืนใหญ่เอามาใช้ บวกกับแผนการรบที่ร่วมกันคิดของเฟยหลง เฟยหนาน เพ่ยอิงและปานตะวัน จึงทำให้ได้รับชัยชนะภายในเวลาอันรวดเร็ว เพียงแค่สามวันก็สามารถชนะศึกอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด นอกจากศึกในคราวนี้จะชนะเมืองกุ้ยโจวได้แล้ว โดยไม่เสียกำลังทหารเลยแม้แต่คนเดียว และจากศึกในคราวนี้ก็เป็นที่เลื่องลือทั่วไปยังเมืองอื่นๆด้วยว่า ฮ่องเต้เฟยหลง มีอาวุธสงครามที่มีแสนยานุภาพน่ากลัว ที่สามารถสังหารศัตรูได้คราวละมากๆเป็นอาวุธที่ไม่เคยมีเมืองหรือแคว้นใดใช้หรือเคยเห็นมาก่อน
เมื่อข่าวถูกแพร่สะพัดไปยังเมืองต่างๆ ที่เป็นเมืองขึ้น ต่างก็ไม่กล้าแข็งข้อหรือคิดเปิดศึกอีก จึงทำให้เรื่องจบลงไปได้ด้วยดีและจากศึกในครั้งนี้ทำให้เพ่ยอิงและปานตะวันหรือในนามใหม่หลี่หยางซิ่ว และจิวเลี่ยงได้รับความดีความชอบในฐานะผู้ร่วมรบ และนำอาวุธร้ายกาจมาเผยแพร่แก่กองทัพรวมถึงช่วยคิดแผนการในการเอาชนะศัตรู หลี่หยางซิ่วได้รับความชื่นชมยอมรับจากเหล่าขุนนาง เพราะไม่เพียงมีสติปัญญาล้ำเลิศแล้วยังมีฝีมือในการรบอีกด้วย ทั้งที่ร่างกายบอบบางและอายุยังน้อย แต่กลับเก่งทั้งบู๊ทั้งบุ๋นซึ่งหาได้ยาก ในขณะที่ปานตะวันก็ได้เลื่อนตำแหน่งจากทหารหน้าใหม่ แต่ด้วยความสามารถ ในด้านการรบและการวางแผนเหนือกว่าทหารใหม่ทุกคน จึงทำให้ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเสนาธิการทหารของเฟยหนาน
หลังจากสงครามที่วุ่นวายจบลงเพียงแค่สองวัน ในวังก็เกิดเรื่องยุ่งๆขึ้นอีกเมื่อบรรดาเหล่านางสนม ที่ตั้งแต่ที่ปรึกษาคนใหม่ของฮ่องเต้เข้ามาอยู่ในวัง ฮ่องเต้ก็ไม่ได้เสด็จไปหาบรรดานางสนมเลย ทำให้เหล่าสนมที่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นบุตรีของขุนนางในราชสำนัก ร้อนรนจนฟ้องบิดาที่เป็นขุนนางของตัวเองจนทำให้เหล่าบรรดาขุนนางเข้าเฝ้ากราบทูล ขอให้เฟยหลงไปหาบรรดาเหล่านางสนม ซึ่งเฟยหลงไม่ได้ใส่ใจกับการเรียกร้องของเหล่าขุนนางเลยแม้แต่น้อย เพราะเมื่อก่อนเดิมทีก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเหล่านางสนมของตัวเองอยู่แล้ว และยิ่งเมื่อได้พบเพ่ยอิงเฟยหลงก็ไม่่เคยไปหาสนมคนใดอีกเลยเพราะสำหรับเขาแล้ว นางเดียวที่เขาเห็นความสำคัญและมอบใจให้มีเพียงหญิงสาวจากโลกอื่นอย่างเพ่ยอิงเท่านั้น แต่ก่อนเฟยหลงแม้จะไม่ได้มีจิตรักใคร่ใยดีเหล่านางสนมคนใด แต่ก็ไปหาเหล่านางสนมเพื่อไปคลายเครียดและสืบทายาทตามหน้าที่ เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ยังได้ชื่อว่าเป็นบุรุษก็ย่อมต้องมีความใคร่ในเรื่องกามารมณ์เป็นเรืื่องธรรมดา แต่น่าแปลกที่พอได้พบกับเพ่ยอิงแม้ว่าเพ่ยอิงจะยังไม่ตกลงปลงใจยอมรับตำแหน่งฮองเฮา และถวายตัวต่อเฟยหลง แต่เฟยหลงกลับไม่ได้มีความรู้สึกอยากจะไปหาเหล่านางสนมคนใดเพื่อไประบายความใคร่ของตนเลยแม้แต่น้อย เขามีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดได้นอนร่วมเตียงเดียวกันแม้ว่าจะยังไม่มีความสัมพันธ์กัน แต่ก็ไม่ทำให้เฟยหลงรู้สึกอยากจะสนใจหญิงอื่นใด เพราะตั้งแต่พบกับเพ่ยอิงก็ทำให้เขารู้สึกว่านางสนมของตนเองไร้ค่าจนไม่มีความสนใจใดๆอีก แต่นั่นก็ทำให้เหล่านางสนมที่คาดหวังกับการได้เลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น การตั้งครรภ์และตำแหน่งฮองเฮาเป็นเดือดเป็นร้อน จนเหล่าขุนนางพากันคุกเข่ากดดันให้เฟยหลงไปหาเหล่านางสนมบ้าง โดยอ้างว่าเพื่อการสืบทายาท รวมถึงกดดันให้มีการแต่งตั้งฮองเฮาเคียงบัลลังก์ตามกฏมนเฑียรบาล เฟยหลงหัวเสียและหงุดหงิดเป็นอย่างมากที่เหล่าขุนนางวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของเขา จะลงโทษก็ไม่ได้เพราะเหล่าขุนนางไม่ได้ทำสิ่งใดผิดและเหตุผลที่กราบทูลก็สมเหตุสมผลจนทำให้รู้สึกถึงความวุ่ยวายที่ก่อตัวขึ้น
เมื่อข่าวถูกแพร่สะพัดไปยังเมืองต่างๆ ที่เป็นเมืองขึ้น ต่างก็ไม่กล้าแข็งข้อหรือคิดเปิดศึกอีก จึงทำให้เรื่องจบลงไปได้ด้วยดีและจากศึกในครั้งนี้ทำให้เพ่ยอิงและปานตะวันหรือในนามใหม่หลี่หยางซิ่ว และจิวเลี่ยงได้รับความดีความชอบในฐานะผู้ร่วมรบ และนำอาวุธร้ายกาจมาเผยแพร่แก่กองทัพรวมถึงช่วยคิดแผนการในการเอาชนะศัตรู หลี่หยางซิ่วได้รับความชื่นชมยอมรับจากเหล่าขุนนาง เพราะไม่เพียงมีสติปัญญาล้ำเลิศแล้วยังมีฝีมือในการรบอีกด้วย ทั้งที่ร่างกายบอบบางและอายุยังน้อย แต่กลับเก่งทั้งบู๊ทั้งบุ๋นซึ่งหาได้ยาก ในขณะที่ปานตะวันก็ได้เลื่อนตำแหน่งจากทหารหน้าใหม่ แต่ด้วยความสามารถ ในด้านการรบและการวางแผนเหนือกว่าทหารใหม่ทุกคน จึงทำให้ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเสนาธิการทหารของเฟยหนาน
หลังจากสงครามที่วุ่นวายจบลงเพียงแค่สองวัน ในวังก็เกิดเรื่องยุ่งๆขึ้นอีกเมื่อบรรดาเหล่านางสนม ที่ตั้งแต่ที่ปรึกษาคนใหม่ของฮ่องเต้เข้ามาอยู่ในวัง ฮ่องเต้ก็ไม่ได้เสด็จไปหาบรรดานางสนมเลย ทำให้เหล่าสนมที่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นบุตรีของขุนนางในราชสำนัก ร้อนรนจนฟ้องบิดาที่เป็นขุนนางของตัวเองจนทำให้เหล่าบรรดาขุนนางเข้าเฝ้ากราบทูล ขอให้เฟยหลงไปหาบรรดาเหล่านางสนม ซึ่งเฟยหลงไม่ได้ใส่ใจกับการเรียกร้องของเหล่าขุนนางเลยแม้แต่น้อย เพราะเมื่อก่อนเดิมทีก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเหล่านางสนมของตัวเองอยู่แล้ว และยิ่งเมื่อได้พบเพ่ยอิงเฟยหลงก็ไม่่เคยไปหาสนมคนใดอีกเลยเพราะสำหรับเขาแล้ว นางเดียวที่เขาเห็นความสำคัญและมอบใจให้มีเพียงหญิงสาวจากโลกอื่นอย่างเพ่ยอิงเท่านั้น แต่ก่อนเฟยหลงแม้จะไม่ได้มีจิตรักใคร่ใยดีเหล่านางสนมคนใด แต่ก็ไปหาเหล่านางสนมเพื่อไปคลายเครียดและสืบทายาทตามหน้าที่ เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ยังได้ชื่อว่าเป็นบุรุษก็ย่อมต้องมีความใคร่ในเรื่องกามารมณ์เป็นเรืื่องธรรมดา แต่น่าแปลกที่พอได้พบกับเพ่ยอิงแม้ว่าเพ่ยอิงจะยังไม่ตกลงปลงใจยอมรับตำแหน่งฮองเฮา และถวายตัวต่อเฟยหลง แต่เฟยหลงกลับไม่ได้มีความรู้สึกอยากจะไปหาเหล่านางสนมคนใดเพื่อไประบายความใคร่ของตนเลยแม้แต่น้อย เขามีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดได้นอนร่วมเตียงเดียวกันแม้ว่าจะยังไม่มีความสัมพันธ์กัน แต่ก็ไม่ทำให้เฟยหลงรู้สึกอยากจะสนใจหญิงอื่นใด เพราะตั้งแต่พบกับเพ่ยอิงก็ทำให้เขารู้สึกว่านางสนมของตนเองไร้ค่าจนไม่มีความสนใจใดๆอีก แต่นั่นก็ทำให้เหล่านางสนมที่คาดหวังกับการได้เลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น การตั้งครรภ์และตำแหน่งฮองเฮาเป็นเดือดเป็นร้อน จนเหล่าขุนนางพากันคุกเข่ากดดันให้เฟยหลงไปหาเหล่านางสนมบ้าง โดยอ้างว่าเพื่อการสืบทายาท รวมถึงกดดันให้มีการแต่งตั้งฮองเฮาเคียงบัลลังก์ตามกฏมนเฑียรบาล เฟยหลงหัวเสียและหงุดหงิดเป็นอย่างมากที่เหล่าขุนนางวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของเขา จะลงโทษก็ไม่ได้เพราะเหล่าขุนนางไม่ได้ทำสิ่งใดผิดและเหตุผลที่กราบทูลก็สมเหตุสมผลจนทำให้รู้สึกถึงความวุ่ยวายที่ก่อตัวขึ้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ