กุหลาบเพชร
8.8
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.33 น.
36 ตอน
3 วิจารณ์
36.45K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2559 21.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) รอจนกว่า...
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเพ่ยอิงเดินเข้าไปที่แท่นบรรทม ย่อชันเข่าอยู่กับพื้นมองหน้าเฟยหลงที่ก้มหน้านิ่งสีหน้าหม่นหมองเธอเอี้ยมมือไปจับพระหัต ของฮ่องเต้หนุ่มมากุมไว้ก่อนที่จะเอ่ยปากถามสิ่งที่ข้องใจออกมา "เป็นอะไรไปหรือเพคะฝ่าบาท ตั้งแต่ออกมาจากท้องพระโรงพระองค์ก็มีพระพักตร์ไม่ดีเลย พระองค์ทรงบอกหม่อมฉันได้ไหมเพคะ" เฟยหลงเงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาวตรงหน้าเมื่อเห็นสีหน้าแววตาของอีกฝ่ายที่เป็นห่วงเขาอย่างชัดเจน ก็ต้องนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะเผยรอยยิ้มชื่นใจ ที่เพ่ยอิงแสดงความเป็นห่วงเขาเพราะมันทำให้เขารู้สึกใจชื้นขึ้นว่านางไม่รู้สึกเกลียดกลัวเขาเพราะหากเป็นเช่นนั้น นางคงไม่แสดงท่าทีเป็นห่วงเขาแบบนี้ และก็คงไม่พูดคุยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแบบนี้ด้วย
เฟยหลงดึงตัวเพ่ยอิงขึ้นมานั่งบนแท่นบรรทมด้วยกัน ก่อนจะกุมมือหญิงสาวและเอ่ยปากบอกเล่าความรู้สึกในใจของตนออกมา "ตอนอยู่ที่ท้องพระโรงข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องมาเห็นภาพไม่น่าดู ที่ข้าสั่งให้ทรมานนักโทษต่อหน้าเจ้าและทุกคนที่อยู่ที่นั่น เจ้าเกลียดกลัวข้าหรือไม่ ที่แล้วมาข้าไม่เคยใส่ใจว่าใครจะคิดกับข้าอย่างไร จะเกลียดกลัวหรือเห็นข้าเป็นทรราชหรือปีศาจข้าไม่เคยสนใจแต่ข้ากลัว...กลัวว่าเจ้าจะเกลียดข้า" กล่าวจบก็มีสีหน้าสลดหม่นหมองเหมือนเดิม เพ่ยอิงส่งยิ้มอย่างให้กำลังใจไปให้ก่อนจะปรับสีหน้าจริงจังและเอ่ยตอบ "ไม่เลยเพคะฝ่าบาท การปกครองคนมีอยู่สองแบบคือการใช้ทั้งพระเดชและบางครั้งก็ต้องใช้พระคุณตามแต่สถานการณ์ เวลาที่เราอยู่ในสถานะของเจ้านายหรือผู้บังคับบัญชา เราจำเป็นต้องเข้มงวดและคุมคนให้อยู่ และในบางครั้งเราก็ต้องยอมที่จะรับบทของปีศาจหากว่ามันจะทำให้คนที่อยู่ในปกครองของเราเคารพกลัวเกรง หม่อมฉันทราบจุดประสงค์ที่พระองค์ทรงสั่งลงโทษนักโทษรับสินบนอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าทุกคน ก็เพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู เพื่อที่จะได้เป็นการตักเตือนและข่มขวัญขุนนางกังฉินที่คิดไม่ซื่อ ให้ดูเป็นตัวอย่างว่าหากใครทำผิดแบบนี้อีกก็จะต้องถูกลงโทษอย่างทรมานก่อนตาย ขุนนางอื่นๆจะได้ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้ หม่อมฉันเข้าใจดีถึงเหตุผลที่พระองค์ทรงทำแบบนั้น จึงไม่คิดเกลียดชังพระองค์เลยสักนิดเพคะ และที่สำคัญก็ไม่กลัวด้วย ก่อนหน้าที่หม่อมฉันจะมาที่โลกนี้ หม่อมฉันเคยเป็นตำรวจ มีหน้าที่สืบสวนสอบสวน จับกุมปราบปรามโจรผู้ร้าย และคลี่คลายคดี พบเห็นศพคนตายมากมาย ทั้งอุบัติเหตุและคดีฆาตกรรมจนชิน"
"หน้าที่ของหม่อมฉันรับผิดชอบอยู่ มักพบเห็นเหตุการณ์น่ากลัว ไม่คาดฝันอยู่บ่อยครั้ง และในเมื่อหม่อมฉันต้องทำหน้าที่ตรงนั้นที่ต้องคอยดูแลความสงบสุขของประชาชนและระงับควบคุมเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรก็ต้องควบคุมมันให้ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีสติให้มากที่สุดเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆให้เรียบร้อยไปได้ด้วยดีให้ได้ หม่อมฉันยังเคยวิสามัญเอ่อ..หม่อมฉันหมายถึงการตัดสินใจ สังหารคนร้ายที่มีอาวุธฝ่าฝืนการจับกุมหรือเห็นว่าเป็นอันตรายมาแล้วก็หลายราย หลายๆครั้งก็สั่งลงโทษลูกน้องในสังกัดของตัวเองอย่างเข้มงวดโดยไม่มีการผ่อนปรน จนทำให้ภาพลักษณ์ของหม่อมฉัน ถูกขนานนามว่า 'นางฟ้าปีศาจแห่งวงการตำรวจ' แต่หม่อมฉันก็ไม่เคยใส่ใจหรอกเพคะ หม่อมฉันยอมที่จะเป็นปีศาจหากว่ามันจะเป็นการผดุงไว้ซึ่งความเป็นธรรมและกฏระเบียบ เพราะบ้านเมืองของแต่ละที่ก็ต้องมีกฏหมายข้อห้ามเพื่อควบคุมคนไม่ดีให้อยู่ในกรอบ หากใครฝ่าฝืนก็ต้องได้รับโทษ ในเมื่อทุกคนอยู่ในที่เดียวกัน และกฏเดียวกันหากไม่มีการลงโทษให้เห็น บ้านเมืองก็จะไม่มีขื่อมีแปร ไม่เป็นระเบียบ ใครอยากทำอะไรก็ทำได้ตามอำเภอใจ และหากผู้นำไม่สามารถคุมคนไว้ได้ก็จะเกิดความวุ่นวายเพคะ"
เฟยหลงดึงตัวหญิงสาวเข้ามากอดด้วยความภาคภูมิใจ นางช่างเป็นสตรีที่พิเศษสำหรับเขาเกินหญิงใดในแผ่นดิน มีจิตใจเข้มแข็ง กล้าหาญ ฉลาดและเข้าใจเหตุผลต่างๆได้เป็นอย่างดี "ข้าดีใจนักเพ่ยอิง ขอบคุณสวรรค์ที่นำเจ้ามาที่นี่ ข้าจะรอวันที่เจ้ามอบใจมอบกายและยอมเป็นฮองเฮาอยู่ข้างกายข้า เมื่อก่อน ข้าไม่เคยคาดหวังและไม่เคยใส่ใจกับเรื่องหญิงในดวงใจมาก่อน จนคิดว่าไม่มีทางจะได้พบเจอ และเลือกที่จะเมินเฉยและไปสนใจสิ่งอื่นแทน จนในเวลานี้ ข้าได้พบเจอเจ้าที่ข้าไม่เคยคิดว่าจะมีสตรีในอุดมคติของข้าอยู่บนโลกนี้จริง แม้ตอนนี้เจ้ายังไม่มีใจให้ข้าก็ไม่เป็นไร ข้าจะรอจนกว่าวันนั้นจะมาถึง"
เฟยหลงดึงตัวเพ่ยอิงขึ้นมานั่งบนแท่นบรรทมด้วยกัน ก่อนจะกุมมือหญิงสาวและเอ่ยปากบอกเล่าความรู้สึกในใจของตนออกมา "ตอนอยู่ที่ท้องพระโรงข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องมาเห็นภาพไม่น่าดู ที่ข้าสั่งให้ทรมานนักโทษต่อหน้าเจ้าและทุกคนที่อยู่ที่นั่น เจ้าเกลียดกลัวข้าหรือไม่ ที่แล้วมาข้าไม่เคยใส่ใจว่าใครจะคิดกับข้าอย่างไร จะเกลียดกลัวหรือเห็นข้าเป็นทรราชหรือปีศาจข้าไม่เคยสนใจแต่ข้ากลัว...กลัวว่าเจ้าจะเกลียดข้า" กล่าวจบก็มีสีหน้าสลดหม่นหมองเหมือนเดิม เพ่ยอิงส่งยิ้มอย่างให้กำลังใจไปให้ก่อนจะปรับสีหน้าจริงจังและเอ่ยตอบ "ไม่เลยเพคะฝ่าบาท การปกครองคนมีอยู่สองแบบคือการใช้ทั้งพระเดชและบางครั้งก็ต้องใช้พระคุณตามแต่สถานการณ์ เวลาที่เราอยู่ในสถานะของเจ้านายหรือผู้บังคับบัญชา เราจำเป็นต้องเข้มงวดและคุมคนให้อยู่ และในบางครั้งเราก็ต้องยอมที่จะรับบทของปีศาจหากว่ามันจะทำให้คนที่อยู่ในปกครองของเราเคารพกลัวเกรง หม่อมฉันทราบจุดประสงค์ที่พระองค์ทรงสั่งลงโทษนักโทษรับสินบนอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าทุกคน ก็เพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู เพื่อที่จะได้เป็นการตักเตือนและข่มขวัญขุนนางกังฉินที่คิดไม่ซื่อ ให้ดูเป็นตัวอย่างว่าหากใครทำผิดแบบนี้อีกก็จะต้องถูกลงโทษอย่างทรมานก่อนตาย ขุนนางอื่นๆจะได้ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้ หม่อมฉันเข้าใจดีถึงเหตุผลที่พระองค์ทรงทำแบบนั้น จึงไม่คิดเกลียดชังพระองค์เลยสักนิดเพคะ และที่สำคัญก็ไม่กลัวด้วย ก่อนหน้าที่หม่อมฉันจะมาที่โลกนี้ หม่อมฉันเคยเป็นตำรวจ มีหน้าที่สืบสวนสอบสวน จับกุมปราบปรามโจรผู้ร้าย และคลี่คลายคดี พบเห็นศพคนตายมากมาย ทั้งอุบัติเหตุและคดีฆาตกรรมจนชิน"
"หน้าที่ของหม่อมฉันรับผิดชอบอยู่ มักพบเห็นเหตุการณ์น่ากลัว ไม่คาดฝันอยู่บ่อยครั้ง และในเมื่อหม่อมฉันต้องทำหน้าที่ตรงนั้นที่ต้องคอยดูแลความสงบสุขของประชาชนและระงับควบคุมเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรก็ต้องควบคุมมันให้ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีสติให้มากที่สุดเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆให้เรียบร้อยไปได้ด้วยดีให้ได้ หม่อมฉันยังเคยวิสามัญเอ่อ..หม่อมฉันหมายถึงการตัดสินใจ สังหารคนร้ายที่มีอาวุธฝ่าฝืนการจับกุมหรือเห็นว่าเป็นอันตรายมาแล้วก็หลายราย หลายๆครั้งก็สั่งลงโทษลูกน้องในสังกัดของตัวเองอย่างเข้มงวดโดยไม่มีการผ่อนปรน จนทำให้ภาพลักษณ์ของหม่อมฉัน ถูกขนานนามว่า 'นางฟ้าปีศาจแห่งวงการตำรวจ' แต่หม่อมฉันก็ไม่เคยใส่ใจหรอกเพคะ หม่อมฉันยอมที่จะเป็นปีศาจหากว่ามันจะเป็นการผดุงไว้ซึ่งความเป็นธรรมและกฏระเบียบ เพราะบ้านเมืองของแต่ละที่ก็ต้องมีกฏหมายข้อห้ามเพื่อควบคุมคนไม่ดีให้อยู่ในกรอบ หากใครฝ่าฝืนก็ต้องได้รับโทษ ในเมื่อทุกคนอยู่ในที่เดียวกัน และกฏเดียวกันหากไม่มีการลงโทษให้เห็น บ้านเมืองก็จะไม่มีขื่อมีแปร ไม่เป็นระเบียบ ใครอยากทำอะไรก็ทำได้ตามอำเภอใจ และหากผู้นำไม่สามารถคุมคนไว้ได้ก็จะเกิดความวุ่นวายเพคะ"
เฟยหลงดึงตัวหญิงสาวเข้ามากอดด้วยความภาคภูมิใจ นางช่างเป็นสตรีที่พิเศษสำหรับเขาเกินหญิงใดในแผ่นดิน มีจิตใจเข้มแข็ง กล้าหาญ ฉลาดและเข้าใจเหตุผลต่างๆได้เป็นอย่างดี "ข้าดีใจนักเพ่ยอิง ขอบคุณสวรรค์ที่นำเจ้ามาที่นี่ ข้าจะรอวันที่เจ้ามอบใจมอบกายและยอมเป็นฮองเฮาอยู่ข้างกายข้า เมื่อก่อน ข้าไม่เคยคาดหวังและไม่เคยใส่ใจกับเรื่องหญิงในดวงใจมาก่อน จนคิดว่าไม่มีทางจะได้พบเจอ และเลือกที่จะเมินเฉยและไปสนใจสิ่งอื่นแทน จนในเวลานี้ ข้าได้พบเจอเจ้าที่ข้าไม่เคยคิดว่าจะมีสตรีในอุดมคติของข้าอยู่บนโลกนี้จริง แม้ตอนนี้เจ้ายังไม่มีใจให้ข้าก็ไม่เป็นไร ข้าจะรอจนกว่าวันนั้นจะมาถึง"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ