กุหลาบเพชร
8.8
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.33 น.
36 ตอน
3 วิจารณ์
36.50K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2559 21.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) รับนาง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากที่คุยกันแล้วเพ่ยอิงกับปานตะวันก็ตกลงใจร่วมกันว่า จะขอเวลาสามเดือนเพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนที่เพ่ยอิงจะปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อเข้าวังไปทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนพระองค์ของฮ่องเต้เฟยหลง โดยเพ่ยอิงขอให้เฟยหลงทำการทดสอบวิชาความรู้ของเธอ ต่อหน้าขุนนางในท้องพระโรงทุกคนโดยใช้ข้อสอบเดียวกันกับที่ใช้ออกข้อสอบการเป็นจอหงวน เพราะเพ่ยอิงต้องการเข้าทำงานในตำแหน่ง ที่ปรึกษาส่วนพระองค์ด้วยความรู้ความสามารถของเธอเองมากกว่า ที่จะอาศัยเส้นจากความโปรดปรานส่วนพระองค์ของเฟยหลง เธอต้องการพิสูจน์สติปัญญาความสามารถของเธอให้เหล่าขุนนางได้เห็นโดยทั่วกัน และที่ต้องใช้สถานะความเป็นผู้ชายเข้าไปทำงาน เพราะเธอรู้ดีว่าคนที่นี่ ผู้หญิงยังไม่ได้รับการยอมรับให้ทำงานเป็นขุนนางในวัง หากใช้ความเป็นผู้หญิงไปทำงานจะต้องถูกคัดค้าน หรือไม่ก็ต้องโดนครหาว่าที่เธอได้เป็นที่ปรึกษาส่วนพระองค์เพราะอาศัยความงามยั่วยวนฮ่องเต้ เธอจึงต้องพิสูจน์ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์ในฐานะผู้ชายเสียก่่อน และหากวันหน้าเธอมีความรู้สึกรักเฟยหลงและยอมรับตำแหน่งฮองเฮา ถึงตอนนั้นค่อยเปิดเผยฐานะที่แท้จริงว่าเธอเป็นผู้หญิง ก็จะไม่มีใครครหาอะไรได้เพราะเธอได้พิสูจน์ตัวเองว่ามี ความสามารถทำงานเป็นขุนนางในราชสำนักได้เช่นเดียวกันกับผู้ชาย
ในขณะที่ปานตะวันก็ยื่นเงื่อนไขคล้ายๆกัน โดยเธอขอใช้เวลาสามเดือนในการเรียนรู้กฏระเบียบของทหาร ฝึกการขี่ม้า ใช้อาวุธโบราณประเภทหอก ดาบ ทวน และการยิงธนูเพิ่มจากทักษะการต่อสู้เดิมที่มีอยู่ก่อนแล้ว และจะขอสมัครเข้าไปเป็นทหารในกองทัพโดยปลอมเป็นผู้ชาย และพร้อมเข้ารับการทดสอบและฝึกฝนในแบบเดียวกันกับทหารชายคนอื่นๆ โดยให้เฟยหนานเป็นผู้ควบคุมการฝึก และพิจารณาความสามารถของเธอเองว่าเธอควรจะอยู่ในตำแหน่งใดในกองทัพ โดยในระหว่างช่วงเวลาสามเดือนเพ่ยอิงได้ขอให้ เฟยหลงหาที่พักให้กับเธอและปานตะวันสำหรับใช้เป็นที่พักและฝึกฝนวิชาและแล้วเมื่อครบกำหนดสามเดือน เฟยหลงและเฟยหนานจึงมารับพวกเธอเข้าวังและกองทัพ เมื่อสองหนุ่มมาถึงก็เห็นเพ่ยอิงและปานตะวันออกมารออยู่ก่อนแล้ว วันนี้พวกนางอยู่ในชุดบุรุษที่ดูสำรวม และสง่างาม ผิวขาวนวลทำให้ดูคล้ายหนุ่มน้อยรูปงาม เพ่ยอิงบุคลิกคล้ายหนุ่มน้อยเจ้าสำอางสีหน้าแววตาที่ดูมุ่งมั่นและจริงจังทำให้ดูเป็นบัญฑิตที่น่านับถือ แต่ในสายตาของเฟยหลงแล้วแม้ว่านางจะอยู่ในชุดบุรุษ ก็ไม่ได้ทำให้ความงามของนางดูลดลงเลยแม้แต่น้อยและเมื่อได้เห็นแววตาที่มั่นใจในตนเองกับท่าทีที่สุขุมเยือกเย็นกลับยิ่งทำให้หัวใจของเฟยหลงสั่นไหว เพราะสำหรับเขาแล้วอยู่ในวังมานานพบเห็นแต่หญิงงามที่พยายามใช้ความงามยั่วยวนพยายามแต่งกายแต่งหน้าให้ งดงามมากที่สุด ชม้ายชายตา เพื่อหวังความโปรดปรานจากเขา แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกหลงใหลได้ปลื้มอะไร มากไปกว่าเห็นหญิงงามเหล่านั้นเป็นแค่เครื่องปรนเปรอความใคร่และผลิตทายาทเท่านั้น แต่ไม่ได้มีความพิศวาสหรือนึกหลงใหลรักใคร่หญิงงามเหล่านั้นเลยสักนิด
แต่สำหรับเพ่ยอิง หญิงสาวจากโลกอื่นนางนี้ ความงามของนางก็เหนือล้ำกว่าเหล่าสาวงามที่เป็นสนมของเขาทั้งหมดอย่างเทียบกันไม่ได้ แต่นางกลับไม่ได้ใช้ความงามดุจนางสวรรค์ของนาง ยั่วยวนเขาเพื่อหวังซึ่งความโปรดปรานเพื่อความสุขสบายและตำแหน่งฮองเฮา เหมือนกับบรรดานางสนมของเขา แต่กลับหวังใช้สติปัญญาความสามารถของนางเองเพื่อทำงานให้เขาอย่างบริสุทธิ์ใจ ไร้มารยาเสแสร้งใดๆ ซึ่งทำให้หัวใจของเขานั่นเป็นของนางหมดแล้วทั้งดวง สำหรับเขานางสนมเหล่านั้นมีค่าไม่ต่างจากนางโลมชั้นสูงที่มีดีแค่ความงามเอาไว้ยั่วยวนเขาเพื่อความสุขสบายและลาภยศเท่านั้น ยิ่งเป็นแบบนี้แล้ว เขาจะขอทำทุกอย่างเพื่อให้นางรักเขาและยอมเป็นฮองเฮาของเขาให้ได้
เฟยหนานจับจ้องปานตะวันไม่วางตา ในยามเป็นหญิงท่าทางของนางก็ห่ามห้าวเช่นบุรุษ ในเวลานี้พอแต่งกายเยี่ยงบุรุษก็ยิ่งทำให้นางดูเป็นหนุ่มน้อยใบหน้าคมคาย ดวงตาที่มีประกายเข้มแข็ง บุคลิกสง่าเขาหลงใหลนางที่เป็นในแบบนี้ อาจเป็นเพราะเขาคุ้นเคยกับการเป็นนักรบอยู่ในสนามรบดังนั้นจึงชื่นชอบหญิงสาวที่งดงามแข็งแกร่งในแบบนาง มากกว่าหญิงงามในวังที่อ่อนหวานนุ่มนวลที่มีอยู่ดาษดื่น สำหรับเขานางคือสาวงามที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความห้าวหาญ กล้าแกร่ง ซึ่งหาสตรีใดจะเสมอหมือน นางคือคนที่เขาเลือกแล้วให้เป็นพระชายาของเขา แต่ดูเหมือนว่าความปรารถนาของเขาจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะแววตาที่นางมองมาที่เขาไม่ได้มีความหลงใหลรักใคร่เขาเลย ทั้งที่เขาเองก็ได้ชื่อว่าเป็นบุรุษที่มีรูปสมบัติคุณสมบัติที่หญิงสาวล้วนใฝ่ฝันมากกว่าพี่ชายของเขาด้วยซ้ำ เพราะพี่ชายของเขานั้นแม้จะมีรูปงามกว่าเขาและเป็นฮ่องเต้ แต่ด้วยกิตติศัพท์ความโหดเหี้ยมเย็นชาและไร้หัวใจ ทำให้เหล่าสาวงามถอดใจ และเบนเป้าหมายมาที่เขาแทนเพราะเขาเองก็จัดว่าเป็นชายรูปงามคนหนึ่ง และมีบรรดาศักดิ์เป็นอ๋องที่ยังไม่มีพระชายา แต่เขาก็ยังไม่เคยสนใจสาวใด จนกระทั่งมาพบนางที่เขาหลงใหลตั้งแต่แรกเจอ แต่นางกลับช่างใจแข็งนัก แต่เขาจะไม่ยอมแพ้หรอกก็สหายของนางบอกเองนี่นา ว่ามีเทพบนสวรรค์ส่งพวกนางมาที่โลกนี้ ก็เพื่อให้มาเป็นคู่กับมหาบุรุษที่ยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน สหายของนางก็เป็นเป้าหมายของพี่ชายเขา แล้วทำไมเขาจะเห็นนางเป็นเป้าหมายบ้างไม่ได้ล่ะ
เดิมทีเฟยหลงและเฟยหนาน คิดจะให้พวกนางนั่งบนหลังม้าตัวเดียวกับพวกเขา โดยเพ่ยอิงนั่งม้ากับเฟยหลงและปานตะวันนั่งบนหลังม้ากับเฟยหนาน แต่กลับกลายเป็นว่าพวกนางมีม้ากันคนละตัวไว้อยู่แล้วและพวกนางก็ขี่ม้าได้โดยไม่ต้องพึ่งพวกเขา สอบถามดูพบว่าพวกนางใช้เวลาสามเดือนที่ผ่านมานี้ หาม้าที่เหมาะสมกับตัวเองและฝึกขี่ม้ากันจนคล่อง พวกเขานั้นรู้สึกทั้งดีใจและเสียใจ ดีใจที่หญิงในดวงใจของพวกเขาเก่งกาจมีความสามารถสมกับที่พวกเขาหมายตา แต่เสียใจที่พวกเขาตั้งใจแต่แรกว่าจะหาโอกาสสร้างความใกล้ชิดสนิทสนมกับพวกนาง โดยให้พวกนางนั่งบนหลังม้าตัวเดียวกับพวกเขาแต่ความตั้งใจนั้นก็ต้องเป็นหมันไป
ในขณะที่ปานตะวันก็ยื่นเงื่อนไขคล้ายๆกัน โดยเธอขอใช้เวลาสามเดือนในการเรียนรู้กฏระเบียบของทหาร ฝึกการขี่ม้า ใช้อาวุธโบราณประเภทหอก ดาบ ทวน และการยิงธนูเพิ่มจากทักษะการต่อสู้เดิมที่มีอยู่ก่อนแล้ว และจะขอสมัครเข้าไปเป็นทหารในกองทัพโดยปลอมเป็นผู้ชาย และพร้อมเข้ารับการทดสอบและฝึกฝนในแบบเดียวกันกับทหารชายคนอื่นๆ โดยให้เฟยหนานเป็นผู้ควบคุมการฝึก และพิจารณาความสามารถของเธอเองว่าเธอควรจะอยู่ในตำแหน่งใดในกองทัพ โดยในระหว่างช่วงเวลาสามเดือนเพ่ยอิงได้ขอให้ เฟยหลงหาที่พักให้กับเธอและปานตะวันสำหรับใช้เป็นที่พักและฝึกฝนวิชาและแล้วเมื่อครบกำหนดสามเดือน เฟยหลงและเฟยหนานจึงมารับพวกเธอเข้าวังและกองทัพ เมื่อสองหนุ่มมาถึงก็เห็นเพ่ยอิงและปานตะวันออกมารออยู่ก่อนแล้ว วันนี้พวกนางอยู่ในชุดบุรุษที่ดูสำรวม และสง่างาม ผิวขาวนวลทำให้ดูคล้ายหนุ่มน้อยรูปงาม เพ่ยอิงบุคลิกคล้ายหนุ่มน้อยเจ้าสำอางสีหน้าแววตาที่ดูมุ่งมั่นและจริงจังทำให้ดูเป็นบัญฑิตที่น่านับถือ แต่ในสายตาของเฟยหลงแล้วแม้ว่านางจะอยู่ในชุดบุรุษ ก็ไม่ได้ทำให้ความงามของนางดูลดลงเลยแม้แต่น้อยและเมื่อได้เห็นแววตาที่มั่นใจในตนเองกับท่าทีที่สุขุมเยือกเย็นกลับยิ่งทำให้หัวใจของเฟยหลงสั่นไหว เพราะสำหรับเขาแล้วอยู่ในวังมานานพบเห็นแต่หญิงงามที่พยายามใช้ความงามยั่วยวนพยายามแต่งกายแต่งหน้าให้ งดงามมากที่สุด ชม้ายชายตา เพื่อหวังความโปรดปรานจากเขา แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกหลงใหลได้ปลื้มอะไร มากไปกว่าเห็นหญิงงามเหล่านั้นเป็นแค่เครื่องปรนเปรอความใคร่และผลิตทายาทเท่านั้น แต่ไม่ได้มีความพิศวาสหรือนึกหลงใหลรักใคร่หญิงงามเหล่านั้นเลยสักนิด
แต่สำหรับเพ่ยอิง หญิงสาวจากโลกอื่นนางนี้ ความงามของนางก็เหนือล้ำกว่าเหล่าสาวงามที่เป็นสนมของเขาทั้งหมดอย่างเทียบกันไม่ได้ แต่นางกลับไม่ได้ใช้ความงามดุจนางสวรรค์ของนาง ยั่วยวนเขาเพื่อหวังซึ่งความโปรดปรานเพื่อความสุขสบายและตำแหน่งฮองเฮา เหมือนกับบรรดานางสนมของเขา แต่กลับหวังใช้สติปัญญาความสามารถของนางเองเพื่อทำงานให้เขาอย่างบริสุทธิ์ใจ ไร้มารยาเสแสร้งใดๆ ซึ่งทำให้หัวใจของเขานั่นเป็นของนางหมดแล้วทั้งดวง สำหรับเขานางสนมเหล่านั้นมีค่าไม่ต่างจากนางโลมชั้นสูงที่มีดีแค่ความงามเอาไว้ยั่วยวนเขาเพื่อความสุขสบายและลาภยศเท่านั้น ยิ่งเป็นแบบนี้แล้ว เขาจะขอทำทุกอย่างเพื่อให้นางรักเขาและยอมเป็นฮองเฮาของเขาให้ได้
เฟยหนานจับจ้องปานตะวันไม่วางตา ในยามเป็นหญิงท่าทางของนางก็ห่ามห้าวเช่นบุรุษ ในเวลานี้พอแต่งกายเยี่ยงบุรุษก็ยิ่งทำให้นางดูเป็นหนุ่มน้อยใบหน้าคมคาย ดวงตาที่มีประกายเข้มแข็ง บุคลิกสง่าเขาหลงใหลนางที่เป็นในแบบนี้ อาจเป็นเพราะเขาคุ้นเคยกับการเป็นนักรบอยู่ในสนามรบดังนั้นจึงชื่นชอบหญิงสาวที่งดงามแข็งแกร่งในแบบนาง มากกว่าหญิงงามในวังที่อ่อนหวานนุ่มนวลที่มีอยู่ดาษดื่น สำหรับเขานางคือสาวงามที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความห้าวหาญ กล้าแกร่ง ซึ่งหาสตรีใดจะเสมอหมือน นางคือคนที่เขาเลือกแล้วให้เป็นพระชายาของเขา แต่ดูเหมือนว่าความปรารถนาของเขาจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะแววตาที่นางมองมาที่เขาไม่ได้มีความหลงใหลรักใคร่เขาเลย ทั้งที่เขาเองก็ได้ชื่อว่าเป็นบุรุษที่มีรูปสมบัติคุณสมบัติที่หญิงสาวล้วนใฝ่ฝันมากกว่าพี่ชายของเขาด้วยซ้ำ เพราะพี่ชายของเขานั้นแม้จะมีรูปงามกว่าเขาและเป็นฮ่องเต้ แต่ด้วยกิตติศัพท์ความโหดเหี้ยมเย็นชาและไร้หัวใจ ทำให้เหล่าสาวงามถอดใจ และเบนเป้าหมายมาที่เขาแทนเพราะเขาเองก็จัดว่าเป็นชายรูปงามคนหนึ่ง และมีบรรดาศักดิ์เป็นอ๋องที่ยังไม่มีพระชายา แต่เขาก็ยังไม่เคยสนใจสาวใด จนกระทั่งมาพบนางที่เขาหลงใหลตั้งแต่แรกเจอ แต่นางกลับช่างใจแข็งนัก แต่เขาจะไม่ยอมแพ้หรอกก็สหายของนางบอกเองนี่นา ว่ามีเทพบนสวรรค์ส่งพวกนางมาที่โลกนี้ ก็เพื่อให้มาเป็นคู่กับมหาบุรุษที่ยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน สหายของนางก็เป็นเป้าหมายของพี่ชายเขา แล้วทำไมเขาจะเห็นนางเป็นเป้าหมายบ้างไม่ได้ล่ะ
เดิมทีเฟยหลงและเฟยหนาน คิดจะให้พวกนางนั่งบนหลังม้าตัวเดียวกับพวกเขา โดยเพ่ยอิงนั่งม้ากับเฟยหลงและปานตะวันนั่งบนหลังม้ากับเฟยหนาน แต่กลับกลายเป็นว่าพวกนางมีม้ากันคนละตัวไว้อยู่แล้วและพวกนางก็ขี่ม้าได้โดยไม่ต้องพึ่งพวกเขา สอบถามดูพบว่าพวกนางใช้เวลาสามเดือนที่ผ่านมานี้ หาม้าที่เหมาะสมกับตัวเองและฝึกขี่ม้ากันจนคล่อง พวกเขานั้นรู้สึกทั้งดีใจและเสียใจ ดีใจที่หญิงในดวงใจของพวกเขาเก่งกาจมีความสามารถสมกับที่พวกเขาหมายตา แต่เสียใจที่พวกเขาตั้งใจแต่แรกว่าจะหาโอกาสสร้างความใกล้ชิดสนิทสนมกับพวกนาง โดยให้พวกนางนั่งบนหลังม้าตัวเดียวกับพวกเขาแต่ความตั้งใจนั้นก็ต้องเป็นหมันไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ