Destiny of Time โชคชะตาแห่งกาลเวลา
เขียนโดย Huzure
วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.55 น.
แก้ไขเมื่อ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558 15.15 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) พันธะสัญญา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ(XXX ??.??)
............
ความรู้สึกอันเคว้งคว้างนี่มัน...
ที่นี่... คงจะเป็นโลกหลังความตายสินะ
ร่างกายฉันเหมือนกำลังนอนล่องลอยไปในโลกหลังความตายอันมืดมิด เป็นความรู้สึกที่ไม่มีทางหาเจอในโลกเป็น
โลกที่มืดมิดแห่งนี้ไม่มีอะไรอยู่เลยนอกจากตัวเรา ไม่มีทั้งรูป รส กลิ่น เสียง...ตาสองข้างของเราล้วนเห็นแต่สีดำสนิทเพียงอย่างเดียว
ก็ที่นี่เป็นโลกหลังความตายนี่นา จะให้มีอะไรได้ยังไงล่ะ
“สุดท้ายแล้ว... ฉันก็เปลี่ยนชะตาชีวิตตัวเองไม่ได้”
“เป็นแบบนี้... ดีแล้วใช่ไหม... ยัยนรินทร์”
...แสงสีขาว...
นั่นแสงอะไรน่ะ... โลกหลังความตายมีเรื่องอะไรแปลกๆแบบนี้ด้วยหรอเนี่ย
แสงที่เป็นจุดเล็กๆนั่น เหมือนจะอยู่ไกลจากจุดที่ฉันล่องลอยอยู่มาก
“...มา...สิ...”
เอ๊ะ... เสียงอะไรอยู่ในหัวฉัน...
“มาทางนี้สิ...”
เสียงนั่นมัน หรือว่าจะมาจากแสงตรงนั้น
ฉันได้ยินเสียงใครบางคนเรียกฉัน ไม่ใช่... มันเป็นความรู้สึกว่าเรากำลังโดนเรียก ไม่ใช่เสียงจากแสงนั่น ไม่ใช่เสียงจากในหัวของเรา แต่เป็นสิ่งที่เราตีความออกมาเป็นแบบนั้น
ในโลกที่ไม่มีพื้น ทุกอย่างมืดมิดแบบนี้ ฉันพยายามจะมุ่งหน้าไปทางที่แสงส่องสว่างอยู่
ร่างกายฉันค่อยๆล่องลอยเบาๆ มันกำลังพาฉันไปถึงจุดที่แสงนั่นอยู่
“แสงนี่มัน... เล็กแค่นี้เองหรอ?”
ฉันประหลาดใจที่เหมือนตัวฉันล่องลอยมาได้ไม่ไกลมาก ฉันนึกว่าแสงที่สว่างนั่นจะอยู่ไกลกว่านี้ซะอีก
......ห๊ะ...
ฉันหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เหมือนทั้งจิตใจและร่างกายฉันกำลังสั่งการตัวเองอยู่
มันเป็นสิ่งที่ฉันรู้สึกได้ทันที ต่อให้รู้สึกตัว แต่ก็หยุดสิ่งที่ฉันคิดจะทำไม่ได้
......
มือขวาของเรา... กำลังเอื้อมไปสัมผัสกับแสงสีขาวที่เป็นดั่งหลอดไฟกลมๆกระจิ๊ดริด
............
**ชู่มมมม**
แสงที่แสบตานี่มันอะไรกัน...
............
............
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากหลับตาไปพักหนึ่งเพราะแสงที่ส่องสว่างจากแสงไฟก้อนจิ๋วเมื่อตะกี๊
“น...นี่มัน......”
ตัวของเราที่ลอยอยู่นิ่งไปเลย... ฉันอึ้งกับสิ่งที่กำลังเห็นอยู่นี่มากจนตาแทบไม่ได้กระพริบเลย
หน้าปัดนาฬิกายักษ์ที่ดูบิดเบี้ยวไม่เหมือนตัวเลขนาฬิกาทั่วๆไปในโลกเป็นที่ฉันอยู่ มันตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าฉัน
และโลกสีดำที่อยู่รายล้อมฉันเมื่อกี๊ ฉันได้กลิ่นอายของความบิดเบี้ยวที่เกิดขึ้นในนี้ สีมันดูคล้ายคลึงกับสีในโลกประหลาดที่ตาซ้ายของเราเห็นเลย
ช่างดูเป็นภาพคุ้นเคยที่ไม่อยากเห็นเท่าไรเลย โลกรอบตัวที่ดูยุ่งเหยิงประกอบด้วยสีขาว ดำ น้ำเงิน ต่างกันตรงที่นี่ไม่มีสิ่งของที่อยู่ในโลกเป็น
สิ่งที่ต่างอย่างเด่นชัดเลย คือมีเข็มนาฬิกานับสิบ หรืออาจจะยุ่งเหยิงจนนับได้เป็นร้อยๆอันอยู่ล้อมรอบตัวฉันในโลกใบนี้
ฉันพยายามกวาดสายตาไปรอบๆ ก็ยังคงตะลึงกับเรื่องเกินจริงแบบนี้อยู่...
ห่ะ... มือ...?
ในตอนนั้นมีแขนของคนๆ หนึ่งมากอดคอฉันตอนที่หันหลังให้นาฬิกาเรือนยักษ์นั่น
“ฉันรอเธอมาตลอดเลยนะ”
“รอว่าสักวัน เธอจะปลดปล่อยฉันให้เป็นอิสระ”
“จนในที่สุด... วันนี้ก็มาถึงจนได้”
ฉันรู้สึกถึงความไม่เป็นมิตรจากเสียงที่อยู่ข้างหลังได้ ฉันเลยรีบสะบัดแขนที่เธอโอบไหล่ฉันอยู่ออกไป
“ธ...เธอ...”
ทันทีที่ฉันหันหน้ากลับไป... ผู้หญิงที่โอบไหล่ฉันไว้เมื่อกี๊นี้ คือ
ตัวฉันเอง......
“ป...เป็นไปไม่ได้”
“เป็นไปได้สิ”
“เธอเป็นผู้สร้างฉันขึ้นมาเอง”
“เธอสร้างตัวตนนี้ขึ้นมา และจับขังไว้ในโลกแห่งความมืดมิดนี้มาโดยตลอด”
“ฉันไม่ใช่อะไรเลย นอกจากตัวตนของเธอที่ล้ำเส้นเข้าไปในโลกอีกใบ”
“ฉันจึง... รอให้เธอมารับฉันไงล่ะ...”
ตัวตนที่อ้างว่าเป็นสิ่งที่ฉันสร้างขึ้นมา ค่อยๆเขยิบมาอยู่ใกล้ฉันมากขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าของเธอเหมือนกับฉันทุกอย่างไม่มีผิดเพี้ยน มือทั้งสองข้างของเธอ... กำลังจับแก้มของฉัน
“เธอในตอนนี้น่ะ...ถูกแบ่งด้วยโลกสองใบอยู่”
“เพราะเธอได้ล้ำเส้นเข้าไปในโลกแห่งความว่างเปล่าใบนั้น ในขณะที่เธอยังใช้พลังได้ไม่เต็มที่ เธอจึงสร้างฉันขึ้นมาจากการเชื่อมต่ออันไม่สมบูรณ์แบบนั่น”
“ฉันสร้างเธอขึ้นมางั้นเหรอ?”
“ถ้าฉันสร้างเธอที่เป็นตัวตนของฉันในโลกประหลาดนั่นขึ้นมา งั้นตัวตนของเธอตอนนี้อยู่ที่ไหนกันแน่ และที่นี่ไม่ใช่โลกหลังความตายใช่ไหม?”
เธอปล่อยมือจากแก้มของฉัน ก่อนที่จะกลับไปยืนเหมือนปกติ
เธอหงายมือขวาขึ้นมา และสิ่งที่โผล่ขึ้นมาบนมือนั้นทันที
“นาฬิกาพก...ของฉัน”
............
“ฉันยังไม่อยากตายนะ...”
“เอ๊ะ...?”
“ฉันบอกแล้วว่าฉันคือสิ่งที่ตัวเธอสร้างขึ้นมา เป็นตัวตนที่ถูกทิ้งอยู่ในโลกแห่งความว่างเปล่า”
“ไม่ว่าจะผ่านไปยังไง ฉันก็ได้แต่เฝ้าดูตัวฉันไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง”
“แม้แต่ตอนที่กำลังจะตาย ก็ยังไม่รู้สึกถึงพลังของตัวเองที่มี”
ไม่ผิดแน่ พวกเราสองคนคือ... คนเดียวกัน
ต่างกันแค่ฉันคือจิตที่ยังอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ส่วนเธอคือจิตที่ถูกสร้างขึ้นและโดนทิ้งอยู่ในโลกแห่งความว่างเปล่าโดยที่ฉันไม่มีทางรับรู้
นาฬิกานี่... คือตัวการที่ทำให้ฉันเชื่อมต่อกับโลกประหลาดนั่นงั้นหรอ?
ถ้าสิ่งที่ไอ้แว่นนั่นพูดไว้เป็นความจริง นาฬิกานี่คือสิ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตของเราไปตลอดกาล
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆล่ะก็...
แต่ว่า......
“นรินทร์!!”
ฉันตะโกนขึ้นมาทันที และมองไปที่ร่างที่ฉันสร้างขึ้นมาในโลกใบนี้ จิตใจที่ถูกเชื่อมโยงเข้ามาที่นี่
ฉันพุ่งเข้ากอดเธอทันที ถึงมันจะรู้สึกแปลกๆที่นี่เป็นการกอดกับจิตใจของตัวเองที่ถูกแบ่งออกมาก็เถอะ
“ฉันเอง... ก็ไม่อยากตาย...”
“กลับมาเถอะ...”
ตัวฉันที่กอดร่างของตัวเองอยู่นั้น รู้สึกได้ถึงรอยยิ้มของเธอทันที
“อื้ม...”
ร่างกายของเธอ ค่อยๆหายไปอย่างช้าๆ... จนเหลือเพียงแต่นาฬิกาพกเรือนนั้นที่ฉันหยิบเอาไว้
“เธอ... ยอมรับแล้วสินะ?”
เสียง... คงต้องเรียกว่าความคิดที่เข้ามาในหัวมากกว่า
ฉันเผชิญหน้ากับนาฬิกาเรือนยักษ์นั่นอีกครั้ง
สิ่งที่ฉันรู้สึกได้ทันที คือนี่ไม่ใช่เรื่องเกินจริงหรือเรื่องที่ฉันคิดว่าเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว ทั้งตัวตนของฉันที่ถูกสร้างขึ้นมาในโลกอีกใบ ทั้งโลกที่บิดเบี้ยวนี่ด้วย
“อื้ม”
ฉันก้มหน้าลงไปตอบนาฬิกาที่ฉันถืออยู่ ที่ๆฉันอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่ทั้งโลกหลังความตายหรือว่าโลกแห่งความว่างเปล่า
แต่เป็นสิ่งที่เหมือนกับมิติเวลาภายในนาฬิกาเรือนนี้ ดูท่าว่าชีวิตฉันจะต้องมีอะไรเปลี่ยนไปแล้วล่ะ
หน้าปัดนาฬิกาและโลกที่บิดเบี้ยวรอบๆตัวฉันเริ่มมีปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไป
ความคิดที่ฉันรับรู้ได้ ณ ตอนนั้นก็เข้ามาในหัวเรื่อยๆ
“การที่เจ้ายอมรับตัวตนของโลกแห่งความว่างเปล่าได้ นั่นคือเจ้าเลือกที่จะแบกรับการดูแลมิติแห่งเวลาในฐานะตัวแทนที่แท้จริง”
“ตัวตนของเจ้าที่ทอดทิ้งไว้ที่โลกใบนั้น บัดนี้ก็ได้ผสานกับตัวตนที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียว”
“ผู้ที่ก้าวข้ามทั้งสองโลก ไม่ว่าจะเป็นโลกแห่งความจริงแห่งใด หรือต่อให้เป็นโลกแห่งความว่างเปล่าอันไม่รู้จบ”
“เจ้าได้ตื่นขึ้นมาเป็นหนึ่งในตัวแทนผู้รักษาสมดุลเวลาเรียบร้อยแล้ว”
“การเชื่อมต่อเสร็จสมบูรณ์”
“พันธะสัญญา... เสร็จสิ้น”
ความรู้สึกที่เหมือนเสียงดังในหัวเหมือนจะหยุดเพียงแค่นี้ ในตอนนั้นฉันหลับตารับฟังสิ่งที่ฉันจะได้ยินมาอย่างเดียวตลอด ถึงในใจจะยังคิดเพียงแค่ว่าไม่อยากตายก็เถอะ
มิติที่บิดเบี้ยวภายในนาฬิกาพกนั่น... กำลังปิดตัวลง... เข็มนาฬิกามากมายโดยรอบกำลังหายไป
และสุดท้ายแล้ว ตัวฉันเองก็...
............
............
(ดาดฟ้า 14.41)
............
............
“ชิ”
เรากะสังหารยัยนั่นด้วยการยิงนัดนี้
แต่ตอนนี้ดูท่าจะไม่ใช่ง่ายๆซะแล้ว
............
กระสุนนัดที่เล็งมาที่หัวฉัน...
หยุดนิ่ง และก็หายไปไปในที่สุด
ฉันยังรู้สึกแปลกๆอยู่ เหมือนมีพลังงานบางอย่างที่ไหลวนเวียนอยู่ในตัวฉัน พลังที่ถูกส่งมาจากนาฬิกาพกเปื้อนเลือดที่อยู่บนมือของเจ้านั่น
รวมถึงเรื่องที่ฉันควรจะตายไปจริงๆ แต่ก็ยังรอดจนถึงตอนนี้ได้ แถมแผลที่โดนยิงมากลับเจ็บน้อยลง
“เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!?”
“เธอไม่น่าจะใช้พลังได้อย่างสมบูรณ์นี่นา... และสื่อนำเวลาก็ยังอยู่ตรงนี้ด้วย!”
เรื่องของกาลเวลาต่างๆ ถึงจะยังไม่เข้าใจทั้งหมด แต่บางอย่างที่ฉันเจอมาทำให้พอทำให้ฉันรู้ว่าต้องทำยังไงต่อไป
เจ้านั่นยังเล็งปืนมาที่ทางฉันอยู่ สีหน้าดูตึงเครียดมากขึ้นกว่าเดิม
และรู้สึกว่ากำลังมีคนเดินขึ้นมา น่าจะเป็นเพราะเสียงปืนเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนี้
ฉันหลับตาไปชั่วขณะ ก่อนที่จะมีโลกประหลาดที่ฉันเห็นเกิดขึ้น โดยมีจุดศูนย์กลางจากกลางดาดฟ้า
ทั้งอาจารย์และนักเรียนที่เดินขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงปืนเหมือนจะแปลกใจว่าไม่เห็นใครเลย นั่นเป็นสิ่งที่ฉันในตอนนี้ไม่รับรู้อีกแล้ว
เพราะโลกที่ฉันอยู่มันคือโลกที่ตาซ้ายของฉันมองเห็นในตอนแรก
แต่คราวนี้ฉันเห็นมันด้วยตาทั้งสองข้างทันทีที่ลืมตาขึ้นมา
เจ้านั่นเหมือนจะไม่ค่อยสบอารมณ์หลังจากที่สถานการณ์บางอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่มันคิด
“ย้ายมิติชั่วคราวงั้นหรอ”
“เธอดูจะ... ใช้พลังคล่องตั้งแต่ครั้งแรกที่หัดใช้เลยนะ”
ไอ้แว่นนั่นดูจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นอย่างดี
เหล็กที่ฉันใช้ตอนแรกไม่ได้กระเด็นไปไกลมาก มันอยู่ใกล้ๆกับจุดที่ฉันยืนอยู่พอดีก็เลยก้มไปหยิบขึ้นมาอีกรอบ
“...ฉันไม่สนฐานะตัวแทนแห่งอะไรบ้าบอที่นายพูดมาหรอกนะนะ”
“แค่สิ่งที่ฉันเจอมาวันนี้ และตั้งแต่สองสัปดาห์ก่อนก็แย่พอแล้ว”
ใช่แล้วล่ะ ฉันพอจะนึกเรื่องเมื่อสองสัปดาห์ก่อนได้แล้ว
“แต่สำหรับตอนนี้... มีสิ่งหนึ่งที่ฉันต้องทำให้ได้”
............
“คือฉันจะซัดหน้านายให้หักไปพร้อมกับแว่นไงล่ะ!!”
การต่อสู้ ดำเนินขึ้นอีกครั้ง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ