Destiny of Time โชคชะตาแห่งกาลเวลา
6.5
เขียนโดย Huzure
วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.55 น.
40 Time
12 วิจารณ์
40.25K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558 15.15 น. โดย เจ้าของนิยาย
39) Into the Battlefield
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ(องค์กรรักษาเอกภาพเวลา 15.23)
............
Silver Lotus...
พอเขาพูดถึงชื่อนี้แล้ว ทำให้ฉันอยากรู้ความเกี่ยวข้องระหว่างองค์กรนี้กับ Silver Lotus ขึ้นมาเลย
จากที่เขาพูดมา ดูท่าองค์กรนี้กับกลุ่มนั้นจะอยู่ในฐานะศัตรูกัน
“คุณมาตันท์... คงไม่ใช่ว่าคุณจะให้เธอไปจัดการพวกเขาหรอกนะครับ?”
“อ้าว? ก็แน่นอนสิ ในเมื่อน้องสาวนายแจ้งข่าวแหล่งกบดานของสมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มนั้นได้ จะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปได้ไงล่ะ”
“จังหวะช่างเหมาะเจาะเสียจริง นายได้ลูกมือไปช่วยภารกิจนี้ด้วยนะ ไม่พอใจงั้นหรอ?”
คิชิดะเถียงอะไรต่อไม่ได้ เหมือนผู้ชายคนนี้จะมีอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจเรื่องราวต่างๆภายในสถานที่แห่งนี้
มาตันท์หยิบบุหรี่ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาสูบ ถึงจะดูเท่แต่บางทีก็ดูน่าถีบอย่างพูดไม่ถูกเหมือนกัน
*ฟู่ว*
“ถ้าพวกเธอสองคนไม่พูดอะไร ฉันจะถือว่ายอมรับภารกิจนี้นะ”
เขาเอามือซ้ายมาแตะที่จอภาพอีกครั้ง (เพราะอีกมือคีบบุหรี่อยู่)
ภาพที่แสดงออกมาบนจอให้ฉันเห็นนั้น เป็นแผนผังเมือง ณ จุดๆหนึ่งในรูปแบบโฮโลแกรม จากที่ดูเหมือนจะไม่ใช่โซนกรุงเทพฯ น่าจะอยู่แถบปริมณฑลสักที่หนึ่ง
“จุดที่น้องสาวนายยืนยันตำแหน่งคือบริเวณนี้”
สักพักก็มีเลขพิกัดระบุตำแหน่งเข้ามา มีเส้นกราฟชี้ในจอภาพ ก่อนที่แผนผังโฮโลแกรมจะถูกซูมเข้าอีกทีหนึ่ง
“โซนนี้แหละ”
ฉันพยายามสังเกตแผนผังตึกกับเมืองเพื่อดูว่าอยู่บริเวณไหน เลขพิกัดเป็นเลขพิกัดละติจูดและลองจิจูด
13°52'18.2"N 100°30'59.1"E
เลขพวกนี้เอาไว้ระบุตำแหน่งบนแผนที่ แต่จริงๆแล้วก็ถือว่าเข้าใจยากเหมือนกัน
“น่าเสียดายว่าพวกเราไม่ได้รับข่าวกรองมามากเพียงพอที่จะระบุแหล่งกบดานที่ชี้ชัดมากกว่านั้นได้”
“แต่อย่างน้อย น้องสาวนายก็ส่งข้อมูลที่สำคัญมาอยู่เหมือนกัน”
เขาใช้นิ้วกดเหมือนเป็นรหัสอะไรสักอย่างบนจอภาพ โดยภาพที่ขึ้นมานั้นบังแผนผังเมืองไปเล็กน้อย และภาพที่ปรากฏขึ้นมาใหม่บนจอ
คือสมาชิกในกลุ่ม Silver Lotus ที่เป็นรูปภาพเหมือนแอบถ่ายได้
ซึ่งคนๆนั้น...
คือคนเดียวกันกับที่เดินสวนนรินทร์และวอร์เรนที่ห้าง SJ Center เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมกับส่งยิ้มมาให้อย่างน่าประหลาด
(เอ๋)
(ผู้ชายคนนี้มัน......)
คิชิดะสงสัยว่าทำไมฉันถึงทำสีหน้ากระตุกแปลกๆ
“เป็นอะไรไปหรอครับ?”
“เ-เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร”
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงไม่บอกเขา เหมือนฉันกำลังระแวงอะไรบางอย่างอยู่
(ที่คนๆนั้นยิ้มเพราะเขาเห็นพวกเราสินะ)
มาตันท์ใช้มือซ้ายสไลด์จอภาพไปด้านหน้า ข้อมูลส่วนตัวของผู้ชายคนนั้นก็ปรากฏออกมา
*แกลลิค เกล*
*อายุ 19 ปี/ ชาวสวีเดน / เรียนที่ XXXXXXXXX / สัดส่วน 171 หนัก 68*
นอกจากนั้นก็มีผมสีชมพูยาวสลวยอย่างกับเจ้าชายถึงกลางหลัง ตาสีเหลือง
“เกลเข้ามาอาศัยในไทยได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว โดยรวมกลุ่มกับพรรคพวกอีกสองคนที่อยู่ที่นี่มาก่อนแล้ว”
“เท่าที่พวกเรารู้ เจ้านี่มักจะแวะไปตามย่านที่คนพลุกพล่านเพื่อเป้าหมายบางอย่าง”
“ถึงมันจะยังไม่ก่อเรื่องวุ่นวายอะไร แต่การที่มีกลุ่ม Silver Lotus อยู่ที่นี่ ย่อมเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่”
“เรื่องไม่ดี?”
ฉันไม่รู้ว่ากลุ่ม Silver Lotus ที่เขาพูดถึงนั้นมีจุดประสงค์อะไร นอกจากสิ่งที่สองคนนั่นเคยบอกว่าต้องการที่จะสร้างอาณาเขตอะไรของตัวเองนี่ล่ะ (ฟังจากวอร์เรนอีกที)
คิชิดะเห็นฉันสงสัยจึงอธิบายให้
“คุณนรินทร์คงไม่ทราบสินะครับ กลุ่ม Silver Lotus เป็นกลุ่มลับที่รวบรวมเหล่า Keeper เหมือนกับพวกผม แต่เป้าหมายของเขาไม่ได้เหมือนกับเราเลยน่ะครับ”
“ในหลายปีที่ผ่านมา เกิดเหตุรุนแรงหลายต่อหลายครั้งโดยไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้ในหลายประเทศ บ้างก็ว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย บ้างก็ว่าเป็นลัทธินอกรีด”
“เหตุการณ์พวกนั้นส่วนใหญ่เกิดจากฝีมือของกลุ่ม Silver Lotus ที่ตอนนี้มีสมาชิกมากกว่า 20 คน และกระจัดกระจายอยู่หลายประเทศ”
“เป้าหมายของ Silver Lotus เท่าที่พวกเราทราบคร่าวๆ คงจะเป็นการสร้างอาณาจักรของตัวเองน่ะครับ”
“อาณาจักรของตัวเอง?”
“ใช่ครับ แต่นั่นก็เป็นเพียงสิ่งที่พวกเรารู้น่ะล่ะครับ ยังขาดข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มนี้อยู่อีกมาก-”
ตอนนั้นมาตันท์ก็แทรกบทพูดขึ้นมา
“อ่อ รู้สึกหัวหน้าของกลุ่มนี้จะเป็นผู้หญิงด้วยนะ”
“ถึงจะยังไม่ชัวร์ แต่ในบางครั้งที่พวกเราปะทะกับพวก Silver Lotus บางคนจะพูดถึงหัวหน้าแสนสวยของพวกมันด้วย”
ภาพจินตนาการในหัวฉันก็ผุดขึ้นมา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฉันถึงคิดเป็นภาพอาเจ๊กล้ามโต หน้าตาน่ากลัว โพสท่าที่แสนจะคุ้นหน้าคุ้นตา สามารถหยุดผู้ชายได้ด้วยมือเปล่า
สงสัยฉันจะนอนไม่พอ---
“ยังไงซะ กลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มอันตราย และการที่พวกมันมาที่นี่เยอะขึ้น”
“อาจจะมีเหตุผลบางอย่าง...”
ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีกับการที่เขาพูดว่ามาที่นี่เยอะขึ้นเพราะเหตุผลบางอย่าง เหมือนกับว่าหลายๆเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดเพราะความบังเอิญ แต่มีอะไรบางอย่างทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
เขาใช้มือซ้ายปิดข้อมูลที่แสดงออกจนหมด ในมือขวาที่คีบบุหรี่อยู่ ไม่นานนักเขาสะบัดมือทีเดียวบุหรี่ก็หายไปทั้งมวนเลย
“ภารกิจของพวกนายก็คือ... ทำลาย Linker ของเป้าหมายซะ”
(Linker?)
“เลี่ยงการปะทะซึ่งๆหน้าให้มากที่สุด ฉันไม่อยากได้รับรายงานว่ามีคนธรรมดาได้รับบาดเจ็บ”
“ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดีเลยนะ นรินทร์”
“ถ้าอยากเอากำไลนั่นออก จงทำภารกิจนี้คู่กับคิชิดะคุงให้สำเร็จซะ”
“มันคือบททดสอบความบริสุทธิ์ของเธอ”
ไม่ค่อยสบอารมณ์เลย แถมท่าทีที่ดูความคิดของเขาถูกต้องนั่นล่ะ ทำให้ฉันยิ่งไม่ชอบขี้หน้ามากกว่าวอร์เรนเยอะเลย
............
ณ ชั้นจอดรถใต้ดินของอาคาร 15.50
ตอนนี้คิชิดะกำลังเซ็ต GPS ภายในรถกำหนดจุดหมายเป็นพื้นที่ที่มาตันท์บอกให้ไป
ฉันเองก็นั่งอยู่ตรงฝั่งที่นั่งข้างคนขับ ยกมือขวาที่มีกำไลคล้องอยู่มาดู
“เอาล่ะ เรียบร้อยแล้ว”
เขาเหมือนจะเตรียมออกรถแล้ว แต่ฉันก็พูดขัดจังหวะเขาไว้ก่อน
“ขอโทษนะคะ คุณคิชิดะ”
“......”
......
“เพราะฉัน... ทำให้คุณต้องถูกบังคับให้มาคู่กับฉันด้วยแท้ๆ”
“......”
เขาหันหน้ากลับไปมองด้านหน้าเหมือนเดิมเพื่อเตรียมออกรถ
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ จะมีคุณมาหรือไม่ ผมก็ต้องโดนสั่งให้ไปที่นั่นอยู่ดี”
“เอ๋?”
“หน้าที่ผมปกติก็มักจะถูกสั่งให้ไปนั่นไปนี่อยู่แล้ว เหมือนกับตอนที่ถูกสั่งให้คอยเฝ้าดูคุณไว้นี่แหละ”
“จะถูกสั่งไปไหนอีกก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแล้วล่ะ...”
“อา...อื้ม”
*บรืน*
......
รถขับออกมาสักระยะหนึ่งได้แล้ว จุดหมายที่ฉันไปนั้นไกลอยู่นิดหน่อย
ฉันมองไปนอกกระจกที่เห็นแต่ตึกเล็กตึกน้อยอยู่ข้างถนนเต็มไปหมด
(ป่านนี้ที่โรงเรียนจะเป็นไงบ้างนะ โทรศัพท์เราก็ดันลืมไว้ในกระเป๋าได้ซะนี่)
(มีนและคนอื่นๆคงจะเป็นห่วงเราแย่เลย)
ฉันชายตามองไปที่คิชิดะคุงที่กำลังขับรถอยู่
“เอ่อ... คุณคิชิดะคะ”
“หือ?”
“คือ...... ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยแก้ตัวให้ฉัน”
“ถ้าไม่ได้คุณช่วยอธิบายให้ผู้ชายคนนั้นฟัง ฉันคงจะแย่ไปแล้วล่ะค่ะ”
รถมาถึง 3 แยกและติดไฟแดงพอดี
“ผมก็อธิบายไปตามสิ่งที่เห็นน่ะครับ และต่อให้ผมไม่เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น”
“แต่ผมคิดว่าคุณไม่ใช่คนที่ฆ่าพวกเขาหรอก......”
“ส่วนเหตุผลน่ะหรอ...”
เขาหันหน้ามามองฉัน และพูดอย่างสุภาพหน้านิ่งๆ
“เพราะผมไม่รู้สึกถึงจิตสังหารของคุณเลยสักนิด”
“จ...จิตสังหาร?”
“ครับ”
เขาหันหน้ากลับไป
“คุณคงจะรู้จักสินะครับ ในเชิงวิชาการต่อสู้ มันคือความรู้สึกที่เราอาจสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามจากอีกฝ่าย”
“และตอนที่ผมเห็นคุณครั้งแรก ผมไม่รู้สึกว่าคุณจะเป็นภัยคุกคามสำหรับผมหรือคนอื่นๆได้เลยสักนิด”
“เพราะงั้น ผมถึงกล้าที่จะพูดออกไปแบบนั้น”
ไฟเขียว รถค่อยๆขยับแล้ว ถนนตอนนี้โล่งรถเลยขับได้เร็ว
“จริงๆแล้ว... คุณมาตันท์เขาไม่ได้เชื่อผมนักหรอกนะครับ”
“เอ๋? แต่เขาก็บอกว่าเชื่อใจคุณหนิ?”
“ไม่จริงหรอก คนขี้ระแวงแบบเขาไม่เชื่อใจใครง่ายๆ ยิ่งเป็นผมด้วยยิ่งแล้วใหญ่”
“เขาเลยส่งผมมาพร้อมกับคุณนรินทร์ แค่เขี่ยออกให้พ้นๆก็แค่นั้น”
หัวของฉันคิดเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาขึ้นมาบางอย่าง ว่าอาจไม่ลงรอยกันในเรื่องบางเรื่อง ถึงจะแปลกใจที่คนที่ดูจิตใจดีแบบคิชิดะจะยังต้องถูกระแวงก็เถอะ
“ขนาดนั้นเลยหรอคะ......”
พวกเราไม่ได้คุยอะไรกันต่อเลย จริงๆก็มีเรื่องอยากถามมากมายเหมือนกัน แต่ไว้รอถามเอาโอกาสอื่นละกัน
อีกอย่าง ตอนนี้มีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า
ก็คือภารกิจที่พวกเราสองคนต้อง(บังคับ)ทำ
รถของพวกเราก็ยังคงมุ่งหน้าต่อไปยังพิกัดนั้น
............
............
ในอีกฟากหนึ่ง
ห้องพักของโรงแรมๆหนึ่ง
ผู้ชายที่มีนามว่า แกลลิค เกล นอนอยู่บนเตียง
เมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นมา เขาก็รีบปัดโทรศัพท์ตกเตียงในทันที
*ปั้ก!*
แต่สุดท้ายเขาก็ต้องลุกขึ้นมาหยิบโทรศัพท์อยู่ดี (ไม่มีท่าทีสะลืมสะลือเลยแม้แต่น้อย)
เวลาเกลนอนอยู่ในห้อง เขาจะใส่แต่กางเกงขายาวนอน ไม่สวมท่อนบนเลย
กล้ามของเขานั้นเหมือนกับนักกีฬาไม่มีผิด
หลังจากที่เขารับโทรศัพท์ เสียงที่ออกมาจากโทรศัพท์นั้นเป็นเสียงผู้หญิงที่เกลเหมือนจะรู้จักเป็นอย่างดี
“อือ”
“อือ”
*ปี๊ป*
เกลได้แต่ตอบ อือ อือ ไม่พูดประโยคอื่นเลย และก็วางสายหลังจากต้นสายพูดอะไรบางอย่างเสร็จแล้ว
ตอนนี้เกลคว้าเสื้อออกมาตัวหนึ่งจากรอยแยกมิติจากสื่อนำเวลาของตัวเองที่อยู่ในรูปของ *หน้าปัดนาฬิกาแบบสายห้อยคอ*
“จะบ่นอะไรนักหนาว้า......”
“ไอ้เราก็ระวังตัวอยู่ทุกวี่ทุกวันอยู่แล้ว”
“ไม่สิ......”
นอกจากเสื้อที่คว้ามาคลุมแล้ว สิ่งที่เขาเรียกออกมาอีกนั้นคือ
ดาบรูปทรง Szabla (ชาร์บลา)
เขาเรียกออกมาถือไว้ที่มือขวา ส่วนมือซ้ายนั้นเขาจับเสื้อคลุมตัวเขาไว้อยู่
“ต่อให้เราประมาท”
“วันนี้พวกชั้นต่ำมันเป็นยังไง วันต่อไปมันก็ยังคงเป็นพวกชั้นต่ำไม่เจียมตัวอยู่ดี...”
เกลเตรียมพร้อมออกศึกอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
อีกไม่นาน ภัยพิบัติอาจเริ่มต้นขึ้น
............
............
............
Silver Lotus...
พอเขาพูดถึงชื่อนี้แล้ว ทำให้ฉันอยากรู้ความเกี่ยวข้องระหว่างองค์กรนี้กับ Silver Lotus ขึ้นมาเลย
จากที่เขาพูดมา ดูท่าองค์กรนี้กับกลุ่มนั้นจะอยู่ในฐานะศัตรูกัน
“คุณมาตันท์... คงไม่ใช่ว่าคุณจะให้เธอไปจัดการพวกเขาหรอกนะครับ?”
“อ้าว? ก็แน่นอนสิ ในเมื่อน้องสาวนายแจ้งข่าวแหล่งกบดานของสมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มนั้นได้ จะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปได้ไงล่ะ”
“จังหวะช่างเหมาะเจาะเสียจริง นายได้ลูกมือไปช่วยภารกิจนี้ด้วยนะ ไม่พอใจงั้นหรอ?”
คิชิดะเถียงอะไรต่อไม่ได้ เหมือนผู้ชายคนนี้จะมีอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจเรื่องราวต่างๆภายในสถานที่แห่งนี้
มาตันท์หยิบบุหรี่ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาสูบ ถึงจะดูเท่แต่บางทีก็ดูน่าถีบอย่างพูดไม่ถูกเหมือนกัน
*ฟู่ว*
“ถ้าพวกเธอสองคนไม่พูดอะไร ฉันจะถือว่ายอมรับภารกิจนี้นะ”
เขาเอามือซ้ายมาแตะที่จอภาพอีกครั้ง (เพราะอีกมือคีบบุหรี่อยู่)
ภาพที่แสดงออกมาบนจอให้ฉันเห็นนั้น เป็นแผนผังเมือง ณ จุดๆหนึ่งในรูปแบบโฮโลแกรม จากที่ดูเหมือนจะไม่ใช่โซนกรุงเทพฯ น่าจะอยู่แถบปริมณฑลสักที่หนึ่ง
“จุดที่น้องสาวนายยืนยันตำแหน่งคือบริเวณนี้”
สักพักก็มีเลขพิกัดระบุตำแหน่งเข้ามา มีเส้นกราฟชี้ในจอภาพ ก่อนที่แผนผังโฮโลแกรมจะถูกซูมเข้าอีกทีหนึ่ง
“โซนนี้แหละ”
ฉันพยายามสังเกตแผนผังตึกกับเมืองเพื่อดูว่าอยู่บริเวณไหน เลขพิกัดเป็นเลขพิกัดละติจูดและลองจิจูด
13°52'18.2"N 100°30'59.1"E
เลขพวกนี้เอาไว้ระบุตำแหน่งบนแผนที่ แต่จริงๆแล้วก็ถือว่าเข้าใจยากเหมือนกัน
“น่าเสียดายว่าพวกเราไม่ได้รับข่าวกรองมามากเพียงพอที่จะระบุแหล่งกบดานที่ชี้ชัดมากกว่านั้นได้”
“แต่อย่างน้อย น้องสาวนายก็ส่งข้อมูลที่สำคัญมาอยู่เหมือนกัน”
เขาใช้นิ้วกดเหมือนเป็นรหัสอะไรสักอย่างบนจอภาพ โดยภาพที่ขึ้นมานั้นบังแผนผังเมืองไปเล็กน้อย และภาพที่ปรากฏขึ้นมาใหม่บนจอ
คือสมาชิกในกลุ่ม Silver Lotus ที่เป็นรูปภาพเหมือนแอบถ่ายได้
ซึ่งคนๆนั้น...
คือคนเดียวกันกับที่เดินสวนนรินทร์และวอร์เรนที่ห้าง SJ Center เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมกับส่งยิ้มมาให้อย่างน่าประหลาด
(เอ๋)
(ผู้ชายคนนี้มัน......)
คิชิดะสงสัยว่าทำไมฉันถึงทำสีหน้ากระตุกแปลกๆ
“เป็นอะไรไปหรอครับ?”
“เ-เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร”
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงไม่บอกเขา เหมือนฉันกำลังระแวงอะไรบางอย่างอยู่
(ที่คนๆนั้นยิ้มเพราะเขาเห็นพวกเราสินะ)
มาตันท์ใช้มือซ้ายสไลด์จอภาพไปด้านหน้า ข้อมูลส่วนตัวของผู้ชายคนนั้นก็ปรากฏออกมา
*แกลลิค เกล*
*อายุ 19 ปี/ ชาวสวีเดน / เรียนที่ XXXXXXXXX / สัดส่วน 171 หนัก 68*
นอกจากนั้นก็มีผมสีชมพูยาวสลวยอย่างกับเจ้าชายถึงกลางหลัง ตาสีเหลือง
“เกลเข้ามาอาศัยในไทยได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว โดยรวมกลุ่มกับพรรคพวกอีกสองคนที่อยู่ที่นี่มาก่อนแล้ว”
“เท่าที่พวกเรารู้ เจ้านี่มักจะแวะไปตามย่านที่คนพลุกพล่านเพื่อเป้าหมายบางอย่าง”
“ถึงมันจะยังไม่ก่อเรื่องวุ่นวายอะไร แต่การที่มีกลุ่ม Silver Lotus อยู่ที่นี่ ย่อมเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่”
“เรื่องไม่ดี?”
ฉันไม่รู้ว่ากลุ่ม Silver Lotus ที่เขาพูดถึงนั้นมีจุดประสงค์อะไร นอกจากสิ่งที่สองคนนั่นเคยบอกว่าต้องการที่จะสร้างอาณาเขตอะไรของตัวเองนี่ล่ะ (ฟังจากวอร์เรนอีกที)
คิชิดะเห็นฉันสงสัยจึงอธิบายให้
“คุณนรินทร์คงไม่ทราบสินะครับ กลุ่ม Silver Lotus เป็นกลุ่มลับที่รวบรวมเหล่า Keeper เหมือนกับพวกผม แต่เป้าหมายของเขาไม่ได้เหมือนกับเราเลยน่ะครับ”
“ในหลายปีที่ผ่านมา เกิดเหตุรุนแรงหลายต่อหลายครั้งโดยไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้ในหลายประเทศ บ้างก็ว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย บ้างก็ว่าเป็นลัทธินอกรีด”
“เหตุการณ์พวกนั้นส่วนใหญ่เกิดจากฝีมือของกลุ่ม Silver Lotus ที่ตอนนี้มีสมาชิกมากกว่า 20 คน และกระจัดกระจายอยู่หลายประเทศ”
“เป้าหมายของ Silver Lotus เท่าที่พวกเราทราบคร่าวๆ คงจะเป็นการสร้างอาณาจักรของตัวเองน่ะครับ”
“อาณาจักรของตัวเอง?”
“ใช่ครับ แต่นั่นก็เป็นเพียงสิ่งที่พวกเรารู้น่ะล่ะครับ ยังขาดข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มนี้อยู่อีกมาก-”
ตอนนั้นมาตันท์ก็แทรกบทพูดขึ้นมา
“อ่อ รู้สึกหัวหน้าของกลุ่มนี้จะเป็นผู้หญิงด้วยนะ”
“ถึงจะยังไม่ชัวร์ แต่ในบางครั้งที่พวกเราปะทะกับพวก Silver Lotus บางคนจะพูดถึงหัวหน้าแสนสวยของพวกมันด้วย”
ภาพจินตนาการในหัวฉันก็ผุดขึ้นมา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฉันถึงคิดเป็นภาพอาเจ๊กล้ามโต หน้าตาน่ากลัว โพสท่าที่แสนจะคุ้นหน้าคุ้นตา สามารถหยุดผู้ชายได้ด้วยมือเปล่า
สงสัยฉันจะนอนไม่พอ---
“ยังไงซะ กลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มอันตราย และการที่พวกมันมาที่นี่เยอะขึ้น”
“อาจจะมีเหตุผลบางอย่าง...”
ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีกับการที่เขาพูดว่ามาที่นี่เยอะขึ้นเพราะเหตุผลบางอย่าง เหมือนกับว่าหลายๆเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดเพราะความบังเอิญ แต่มีอะไรบางอย่างทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
เขาใช้มือซ้ายปิดข้อมูลที่แสดงออกจนหมด ในมือขวาที่คีบบุหรี่อยู่ ไม่นานนักเขาสะบัดมือทีเดียวบุหรี่ก็หายไปทั้งมวนเลย
“ภารกิจของพวกนายก็คือ... ทำลาย Linker ของเป้าหมายซะ”
(Linker?)
“เลี่ยงการปะทะซึ่งๆหน้าให้มากที่สุด ฉันไม่อยากได้รับรายงานว่ามีคนธรรมดาได้รับบาดเจ็บ”
“ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดีเลยนะ นรินทร์”
“ถ้าอยากเอากำไลนั่นออก จงทำภารกิจนี้คู่กับคิชิดะคุงให้สำเร็จซะ”
“มันคือบททดสอบความบริสุทธิ์ของเธอ”
ไม่ค่อยสบอารมณ์เลย แถมท่าทีที่ดูความคิดของเขาถูกต้องนั่นล่ะ ทำให้ฉันยิ่งไม่ชอบขี้หน้ามากกว่าวอร์เรนเยอะเลย
............
ณ ชั้นจอดรถใต้ดินของอาคาร 15.50
ตอนนี้คิชิดะกำลังเซ็ต GPS ภายในรถกำหนดจุดหมายเป็นพื้นที่ที่มาตันท์บอกให้ไป
ฉันเองก็นั่งอยู่ตรงฝั่งที่นั่งข้างคนขับ ยกมือขวาที่มีกำไลคล้องอยู่มาดู
“เอาล่ะ เรียบร้อยแล้ว”
เขาเหมือนจะเตรียมออกรถแล้ว แต่ฉันก็พูดขัดจังหวะเขาไว้ก่อน
“ขอโทษนะคะ คุณคิชิดะ”
“......”
......
“เพราะฉัน... ทำให้คุณต้องถูกบังคับให้มาคู่กับฉันด้วยแท้ๆ”
“......”
เขาหันหน้ากลับไปมองด้านหน้าเหมือนเดิมเพื่อเตรียมออกรถ
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ จะมีคุณมาหรือไม่ ผมก็ต้องโดนสั่งให้ไปที่นั่นอยู่ดี”
“เอ๋?”
“หน้าที่ผมปกติก็มักจะถูกสั่งให้ไปนั่นไปนี่อยู่แล้ว เหมือนกับตอนที่ถูกสั่งให้คอยเฝ้าดูคุณไว้นี่แหละ”
“จะถูกสั่งไปไหนอีกก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแล้วล่ะ...”
“อา...อื้ม”
*บรืน*
......
รถขับออกมาสักระยะหนึ่งได้แล้ว จุดหมายที่ฉันไปนั้นไกลอยู่นิดหน่อย
ฉันมองไปนอกกระจกที่เห็นแต่ตึกเล็กตึกน้อยอยู่ข้างถนนเต็มไปหมด
(ป่านนี้ที่โรงเรียนจะเป็นไงบ้างนะ โทรศัพท์เราก็ดันลืมไว้ในกระเป๋าได้ซะนี่)
(มีนและคนอื่นๆคงจะเป็นห่วงเราแย่เลย)
ฉันชายตามองไปที่คิชิดะคุงที่กำลังขับรถอยู่
“เอ่อ... คุณคิชิดะคะ”
“หือ?”
“คือ...... ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยแก้ตัวให้ฉัน”
“ถ้าไม่ได้คุณช่วยอธิบายให้ผู้ชายคนนั้นฟัง ฉันคงจะแย่ไปแล้วล่ะค่ะ”
รถมาถึง 3 แยกและติดไฟแดงพอดี
“ผมก็อธิบายไปตามสิ่งที่เห็นน่ะครับ และต่อให้ผมไม่เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น”
“แต่ผมคิดว่าคุณไม่ใช่คนที่ฆ่าพวกเขาหรอก......”
“ส่วนเหตุผลน่ะหรอ...”
เขาหันหน้ามามองฉัน และพูดอย่างสุภาพหน้านิ่งๆ
“เพราะผมไม่รู้สึกถึงจิตสังหารของคุณเลยสักนิด”
“จ...จิตสังหาร?”
“ครับ”
เขาหันหน้ากลับไป
“คุณคงจะรู้จักสินะครับ ในเชิงวิชาการต่อสู้ มันคือความรู้สึกที่เราอาจสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามจากอีกฝ่าย”
“และตอนที่ผมเห็นคุณครั้งแรก ผมไม่รู้สึกว่าคุณจะเป็นภัยคุกคามสำหรับผมหรือคนอื่นๆได้เลยสักนิด”
“เพราะงั้น ผมถึงกล้าที่จะพูดออกไปแบบนั้น”
ไฟเขียว รถค่อยๆขยับแล้ว ถนนตอนนี้โล่งรถเลยขับได้เร็ว
“จริงๆแล้ว... คุณมาตันท์เขาไม่ได้เชื่อผมนักหรอกนะครับ”
“เอ๋? แต่เขาก็บอกว่าเชื่อใจคุณหนิ?”
“ไม่จริงหรอก คนขี้ระแวงแบบเขาไม่เชื่อใจใครง่ายๆ ยิ่งเป็นผมด้วยยิ่งแล้วใหญ่”
“เขาเลยส่งผมมาพร้อมกับคุณนรินทร์ แค่เขี่ยออกให้พ้นๆก็แค่นั้น”
หัวของฉันคิดเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาขึ้นมาบางอย่าง ว่าอาจไม่ลงรอยกันในเรื่องบางเรื่อง ถึงจะแปลกใจที่คนที่ดูจิตใจดีแบบคิชิดะจะยังต้องถูกระแวงก็เถอะ
“ขนาดนั้นเลยหรอคะ......”
พวกเราไม่ได้คุยอะไรกันต่อเลย จริงๆก็มีเรื่องอยากถามมากมายเหมือนกัน แต่ไว้รอถามเอาโอกาสอื่นละกัน
อีกอย่าง ตอนนี้มีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า
ก็คือภารกิจที่พวกเราสองคนต้อง(บังคับ)ทำ
รถของพวกเราก็ยังคงมุ่งหน้าต่อไปยังพิกัดนั้น
............
............
ในอีกฟากหนึ่ง
ห้องพักของโรงแรมๆหนึ่ง
ผู้ชายที่มีนามว่า แกลลิค เกล นอนอยู่บนเตียง
เมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นมา เขาก็รีบปัดโทรศัพท์ตกเตียงในทันที
*ปั้ก!*
แต่สุดท้ายเขาก็ต้องลุกขึ้นมาหยิบโทรศัพท์อยู่ดี (ไม่มีท่าทีสะลืมสะลือเลยแม้แต่น้อย)
เวลาเกลนอนอยู่ในห้อง เขาจะใส่แต่กางเกงขายาวนอน ไม่สวมท่อนบนเลย
กล้ามของเขานั้นเหมือนกับนักกีฬาไม่มีผิด
หลังจากที่เขารับโทรศัพท์ เสียงที่ออกมาจากโทรศัพท์นั้นเป็นเสียงผู้หญิงที่เกลเหมือนจะรู้จักเป็นอย่างดี
“อือ”
“อือ”
*ปี๊ป*
เกลได้แต่ตอบ อือ อือ ไม่พูดประโยคอื่นเลย และก็วางสายหลังจากต้นสายพูดอะไรบางอย่างเสร็จแล้ว
ตอนนี้เกลคว้าเสื้อออกมาตัวหนึ่งจากรอยแยกมิติจากสื่อนำเวลาของตัวเองที่อยู่ในรูปของ *หน้าปัดนาฬิกาแบบสายห้อยคอ*
“จะบ่นอะไรนักหนาว้า......”
“ไอ้เราก็ระวังตัวอยู่ทุกวี่ทุกวันอยู่แล้ว”
“ไม่สิ......”
นอกจากเสื้อที่คว้ามาคลุมแล้ว สิ่งที่เขาเรียกออกมาอีกนั้นคือ
ดาบรูปทรง Szabla (ชาร์บลา)
เขาเรียกออกมาถือไว้ที่มือขวา ส่วนมือซ้ายนั้นเขาจับเสื้อคลุมตัวเขาไว้อยู่
“ต่อให้เราประมาท”
“วันนี้พวกชั้นต่ำมันเป็นยังไง วันต่อไปมันก็ยังคงเป็นพวกชั้นต่ำไม่เจียมตัวอยู่ดี...”
เกลเตรียมพร้อมออกศึกอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
อีกไม่นาน ภัยพิบัติอาจเริ่มต้นขึ้น
............
............
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ