Destiny of Time โชคชะตาแห่งกาลเวลา
เขียนโดย Huzure
วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.55 น.
แก้ไขเมื่อ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558 15.15 น. โดย เจ้าของนิยาย
26) จิตใจที่ไม่ท้อถอยต่อความอ่อนแอ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ(?? 12.40)
…………
ตอนนี้ผมกำลังวิ่งอยู่ข้างนอกโรงเรียน
เพื่อหลีกเลี่ยงการสัญจรทางเท้าที่แออัด ผมจึงใช้หลังคาบ้านคนกับเสาไฟฟ้าบางต้นเป็นที่ยึดเกาะสำหรับการวิ่ง
ที่ผมสามารถทำแบบนี้ได้เพราะพลังเวลาช่วยดึงความสามารถของร่างกายที่มนุษย์ปกติไม่สามารถดึงได้ออกมา
“ฮึบ!”
แรงดีดตัวจากบ้านหลังหนึ่ง สามารถพุ่งไปยังบ้านอีกหลังที่อยู่ห่างประมาณ 10 เมตรได้สบายๆ
ผมไม่ได้พามีนมาด้วย เพราะเธอมีเรียนต่อช่วงบ่าย ถึงแม้ว่าเธอจะขอร้องเราก็เถอะ
*ย้อนไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนบนดาดฟ้า*
“คุณจะไปที่นั่นงั้นหรอ? ให้ฉันไปด้วยสิ!”
“ไม่ต้องเลย เราไม่ได้มีรสนิยมพาเด็กใจแตกหนีเรียนหรอกนะ”
*ปัจจุบัน*
พ้นจุดที่คนเดินไปมาเยอะแยะแล้ว ผมจึงลงมาวิ่งข้างล่างที่คนไม่แออัดทันที
*ตุ้บ* (เสียงลงพื้น)
(แต่ทำไมเราถึงรู้สึกมีลางสังหรณ์แปลกๆ)
(ว่ามีนวางแผนจะทำอะไรบางอย่างอยู่)
และนั่นก็อาจจะเป็นความจริงก็ได้ ในขณะที่ผมวิ่งอยู่ตอนนี้
มีนก็ยืนอยู่หน้าห้องผู้อำนวยการแล้ว
............
ในวินาทีเดียวกัน
นรินทร์กำลังนั่งอยู่บนราวสะพานตรงนั้น เฝ้ามองดูปลาที่แหวกว่ายอยู่ในสายน้ำ
ไม่มีใครสังเกตเห็นผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ เธอเลือกที่จะไม่ให้ใครเห็นตัวตนของเธอในสภาพเช่นนี้
นิ่ง... เธอยังคงนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่มีท่าทีจะขยับไปไหนราวกับตุ๊กตาที่อยู่กับที่
หรือว่าตอนนี้
เธอกำลังจะ...
*กริ๊ง กริ๊ง*
เสียงโทรศัพท์มือถือของรินทร์ดังขึ้น เป็นเบอร์แปลกหน้าที่รินทร์ไม่เคยเห็นมาก่อน
เธอตัดสายพร้อมกับเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงนั่งอยู่เหมือนเดิม
รินทร์แหงนมองท้องฟ้าที่อากาศวันนี้ค่อนข้างเย็นสบาย
“สบายจังนะ”
แม้เธอจะพูดแบบนั้น แต่ไม่ว่าจะใบหน้าหรือน้ำเสียงเธอก็ไม่ได้รู้สึกยินดีไปกับคำพูดนั้นเลย ทุกอย่างสวนทางกันไปหมด
เธอยังนั่งนิ่งแหงนมองท้องฟ้าอยู่แบบนั้น
“ญาดา......”
ในระหว่างที่รินทร์กำลังคิดอะไรอยู่ในหัว เสียงจากจุดที่ไม่ห่างกันมากก็ดังขึ้นมา
“หยุดนะ! รินทร์”
วอร์เรนเห็นรินทร์นั่งอยู่ตรงนั้น จึงรีบวิ่งเข้าไปหา
ขณะนั้นเองรินทร์ก็หันมาหาเขาด้วยใบหน้าที่มึนงง
“วอร์เรน......”
ราวสะพานที่เธอจับอยู่นั้นลื่น มือขวาของเธอจึงเผลอหลุดมือระหว่างที่นั่งอยู่ตรงนั้น
ตัวของเธอ... กำลังร่วงลงไปในคลอง......
“รินทร์!!!”
วอร์เรนตะโกนดังลั่น ข้ามเวลาเพื่อที่จะคว้ามือของรินทร์ไว้
แต่ก็ช้าเกินไป... ระยะห่างระหว่างมือของทั้งสองคนเพียงไม่กี่เซน ไม่สามารถทำให้วอร์เรนคว้าตัวเธอไว้ได้ทันเวลา
............
“รินทร์!!”
ผมตะโกนด้วยความช็อค ก่อนจะสะดุดขาตัวเองหลังจากข้ามเวลามาล้มไปชั่วขณะ
ผมรีบวิ่งไปดูตรงจุดนั้น มองลงไปบนคลองที่อยู่เบื้องล่าง
“รินทร์...! รินทร์!!”
“โธ่เว้ย!”
หายไปแล้ว... ร่างของเธอจมลงไปข้างใต้น้ำแล้ว
*ตุ้บ* (มือทุบกับราวสะพาน)
แม้จะรู้ว่านั่นเป็นสิ่งที่เธอเลือก แต่ผมก็โกรธในความคิดที่อ่อนแอของเธอ ไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้หญิงคนนั้นจะอ่อนแอมากขนาดคิดฆ่าตัวตายแบบนี้
“ยัยโง่!”
“เรื่องแบบนี้... ถึงกับต้องคิดสั้นฆ่าตัวตาย!”
“ถ้าเรา... มาให้เร็วกว่านี้ล่ะก็......”
“ยัยรินทร์คง...”
ความรู้สึกโกรธและขุ่นเคืองใจมันอัดแน่นอยู่ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่อยากยอมรับว่าผู้หญิงที่ช่วยชีวิตผมคนนี้จะอ่อนแอขนาดนี้
“ยัยบ้าเอ๊ย!”
ผมเตรียมตัวจะโดดลงไปในคลองเพื่องมหาเธอขึ้นมา
*ฟึ่บ*
จังหวะที่ผมกำลังจะลงไปข้างล่าง มีใครไม่รู้ดึงเสื้อผมจนล้มลงกับพื้น
“โอ้ย!”
“นายคิดจะทำอะไรของนายน่ะ!?”
“นายทำฉันหัวใจจะวายเลยนะ รู้ไหม!!”
เสียงนี้มัน... พอผมลืมตาขึ้นมาดู
นรินทร์... ยืนอยู่ข้างหน้าผมที่ล้มอยู่ตรงนั้น
“หะ-หา!? รินทร์? ไม่ใช่ว่าเธอโดดน้ำไปแล้วหรอ?”
“ใครกันแน่ที่คิดจะโดด มีแต่นายเท่านั้นแหละที่ทำท่าจะโดดลงไปข้างล่าง”
“อ้าว? ก็เราเห็นเธอโดดน้ำไปแบบนั้น เราเลยจะตามลงไปช่วยเธอ”
“ฉันก็ข้ามเวลาย้อนกลับมาอยู่ข้างหลังนายไง ไม่รู้ตัวเลยหรอ!?”
“เอ๊ะ?”
ข้ามเวลาย้อนกลับ... หนึ่งในสองรูปแบบที่พลังข้ามเวลาสามารถทำได้ การข้ามไปข้างหน้า กับการข้ามย้อนหลัง สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งเวลาปัจจุบันโดยไม่ได้แก้ไขเวลาของตัวเองหรือสิ่งที่ถูกทำให้ข้ามได้
ผมนั่งอึ้งไปสักพักหลังจากเธอบอกว่าเธอข้ามเวลามา เพราะผมไม่เห็นจะรู้สึกว่าเธอใช้พลังอะไรพวกนั้นเลยนี่นา
“เพราะเสียงนายทำให้ฉันตกใจมากเลยนะ”
“เกือบเผลอตกลงคลองไปซะแล้วสิ!”
“เอ่อ... เราทำให้เธอตกใจร่วงลงไป... หรอ?”
“ก็แหงสิ นายเล่นตะโกนซะเสียงดังขนาดนั้น ไม่ตกใจก็บ้าแล้ว”
ราวกับฟ้าผ่าลงกลางหัวผมครั้งที่สองจากเมื่อวาน รอยแตกบนตัวที่เพิ่มเข้ามาทำให้นี่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของผมเอง
(ใครมันจะไปคิดล่ะว่านั่งอยู่แบบนั้นจะไม่คิดฆ่าตัวตาย! เป็นใครก็ต้องคิด!)
“แล้วไอ้เรื่องที่พูดว่าฉันโง่คิดฆ่าตัวตายนี่ ฉันได้ยินเต็มสองรูหูเลยล่ะย่ะ”
แววตาขุ่นเคืองไร้ความสดใสในดวงตามองมาที่ผม
สภาพของเธอตอนนี้ผิดจากที่ผมคิดไว้... พอควรเลย
............
พวกเรายังคงยืนอยู่ตรงสะพานที่เดิม รินทร์มองออกไปข้างนอกสะพาน ส่วนผมนั้นยืนพิงสะพานแหงนมองท้องฟ้าเรื่อยเปื่อย
“สรุปแล้ว...... เธอมาทำไมที่นี่?”
“......”
“ฉันแค่... ไม่อยากอยู่ที่บ้านเงียบๆคนเดียว......”
“มันเงียบเหงามากไป...”
“เพราะงั้น เลยมาอยู่ที่นี่สินะ?”
ตั้งแต่ที่พวกเราสองคนคุยกันมา เธอไม่ได้หันหน้ามาคุยกับผมเลยแม้แต่น้อย เสียงของเธอยังคงไร้อารมณ์เหมือนกับที่ผมคิดไว้ไม่มีผิด
“มีนห่วงเธอมากเลยล่ะที่ไม่มาโรงเรียน เขาบอกว่าเธอก็เป็นเหมือนผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้มีอะไรพิเศษ”
“มันเลยทำให้เรากังวลไปด้วย ว่าเธอจะเศร้าเสียใจมากแค่ไหน”
“...... มีนพูดมาแบบนั้นสินะ ......”
“มันก็ไม่ผิดหรอก”
“ความเสียใจ... ความหวาดกลัว... ความรู้สึกที่อยากจะวิ่งหนี...”
“ตอนแรก... ฉันกะจะหนี”
“......”
“วันที่ฉันรู้ความทรงจำที่เกิดขึ้นในอดีต ฉันตั้งใจที่จะหนีจากมันอีกรอบ”
“ความเจ็บปวดแบบนั้นมันทรมาน ทรมานซะจนจิตใจฉันไม่อยากยอมรับว่านั่นคือเรื่องที่ฉันทำ”
“แต่ว่า......”
เธอหันหน้ามาหาผมในสภาพที่ยังก้มหน้าพูดอยู่
“ฉันเคยสัญญากับนาย รวมถึงสัญญาให้ตัวเองไว้แล้ว”
“ไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไง...... ฉันก็จะเผชิญหน้ากับมัน...”
“แม้แต่มีนที่เจอเรื่องเลวร้ายแบบนั้น... เธอยังคงยอมรับและเลือกที่จะผ่านมันไปได้”
“ฉันเอง... ก็อยากผ่านความรู้สึกที่น่าเจ็บปวดแบบนี้เหมือนกัน”
“แม้ว่านั่นจะเป็นเรื่องเลวร้ายที่ฉันทำกับเพื่อนของฉัน ฉันก็พร้อมจะยอมรับผลกรรมที่ต้องตามมา”
เธอเงยหน้ามาคุยกับผม แววตาของเธอมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าตอนแรก แม้ว่าใบหน้าจะยังดูเศร้าหมอง แต่เธอก็พร้อมที่จะเผขิญกับความเป็นจริงที่รออยู่ตรงหน้า
มุมใบหน้าของเธอที่ผมเห็น... ทำไมกันนะ...
“......ถึงรินทร์จะดูเป็นคนที่ห้าว หรือดูเข้มแข็งอย่างกับผู้ชาย”
“เธอก็ยังเป็น... ผู้หญิงอยู่ดีน่ะค่ะ”
คำพูดของมีนเข้ามาในหัวของผม ใบหน้าที่เริ่มมีชีวิตนั้นกลับมาอีกครั้ง ความน่ารัก... ความสวยงามในฐานะผู้หญิงของเธอ...
ช่างงดงามจริงๆ...
“น-นี่นายจะอึ้งทำไม? คิดอะไรลามกอยู่เปล่าเนี่ย”
รินทร์รีบเอามือมาปิดหน้าอกที่ไม่ค่อยจะมีของตัวเอง คงคิดว่าในหัวของผมกำลังนึกเรื่องอะไรหื่นๆอยู่แหง
“เอ่อ... เราไม่ได้สนหน้าอกเล็กๆของเธอนั่นหรอกนะ”
“ว่าไงนะ!!”
เธอโกรธเราจนรู้สึกว่าไฟลุกรอบตัวเธอเลย แต่ผมเมินเรื่องนี้ของเธอไป
“เธอเข้มแข็งกว่าที่เราหรือมีนจินตนาการไว้มาก”
ไฟโกรธของเธอดับลงทันทีหลังจากเราพูดคำนั้นออกไป
“เราเคยเชื่อว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ หากเจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายสักอย่างเกินกว่าจะรับได้ ไม่ว่าใครก็หาทางออกจากลูปปัญหาเหล่านั้นไม่ได้ทั้งนั้น”
“แต่... ทั้งเธอและมีน... พวกเธอทั้งสองคนเข้มแข็งมากจนเราอึ้งไปเลย”
“......ผู้หญิงไม่ได้จำเป็นต้องอ่อนแอเสมอไปหรอก”
“และถึงแม้พวกเขาจะอ่อนแอ... แต่ยังไงสักวัน พวกเขาก็ต้องข้ามความอ่อนแอพวกนั้นไปอยู่ดี”
“มันก็เหมือนกับท้องฟ้าน่ะ”
ผมแหงนมองท้องฟ้า ในขณะที่เธอชูมือขึ้นทำเหมือนจะหยิบก้อนเมฆเหนือหัว
“นายไม่มีทางรู้ว่าสภาพอากาศพรุ่งนี้จะเป็นยังไง ท้องฟ้าจะสดใสหรือขุ่นมัว”
“แต่สุดท้าย... พวกเราก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ท้องฟ้านี้อยู่ดี”
“ถ้าฉันไม่ใช้ชีวิตต่อไป...... นั่นคงเป็นสิ่งที่น่าเจ็บปวดยิ่งกว่าการรู้ความจริงพวกนั้นอีก”
...... เข้มแข็งจริงๆ ......
ใบหน้าเศร้าหมองที่ขัดกับแววตาอันมุ่งมั่นทรงพลังนั่น... จิตใจของเธอนั้นไม่ได้พังทลายง่ายๆ เพียงเพราะอดีตที่เจ็บปวดแบบนั้น
(ทั้งเท่... ทั้งงดงาม...)
(นี่น่ะหรอ... ตันตนที่แท้จริงของนรินทร์)
“ฉันอยากไปขอโทษเธอ...”
“หือ?”
เธอหันมาคุยกับเราตรงๆแล้วคราวนี้
“ฉันผลักเธอ... ฉันทำให้เธอต้องบาดเจ็บจนเข้าโรงพยาบาล”
“ถึงฉันจะไม่รู้เหตุผลที่ทำ......”
“แต่นั่นก็ยังเป็นความจริงที่เจ็บปวดและต้องยอมรับให้ได้อยู่ดี”
ยัยรินทร์เหมือนจะรู้อยู่เหมือนกัน ว่าความทรงจำที่เจ็บปวดนั่นมันมีบางส่วนที่ขาดหายไปบางอย่าง และนั่นคือจุดประสงค์ที่ผมมาตามหาเธอนี่ล่ะ
ผมยืนกอดอกยิ้มคุยกับเธอ
“ที่เรามาก็เพราะเรื่องนี้ล่ะ”
“หือ?”
“เราจะช่วยเอาความทรงจำของเธอกลับมาให้ครบเลย...”
“และเธอก็จะรู้เหตุผลทั้งหมดเอง!”
............
............
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ