Destiny of Time โชคชะตาแห่งกาลเวลา

6.5

เขียนโดย Huzure

วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.55 น.

  40 Time
  12 วิจารณ์
  40.86K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558 15.15 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

24) ความเป็นจริงที่โหดร้าย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

(?? 8.11)

............

“นี่ มีนไม่ต้องพามาส่งก็ได้ เกรงใจน่ะ”

ฉันบอกมีนระหว่างทางที่เธอขี่มอเตอร์ไซค์พาฉันไปส่งที่ๆหนึ่ง

“ไม่เป็นไรหรอก วันนี้แม่ฉันหยุด ฉันเลยใช้มอเตอร์ไซค์ได้น่ะ”

“ไม่ใช่เรื่องนั้น ฉันหมายถึง... เธอไม่จำเป็นต้องมาลำบากเรื่องของฉันก็ได้”

“ไม่ได้หรอกรินทร์”

ไฟแดงพอดี ฉันรู้สึกเกรงใจเธอจริงๆที่ต้องให้ลำบากมาส่งขนาดนี้

“รินทร์ช่วยชีวิตฉันไว้ทั้งที ฉันก็ควรจะทำอะไรตอบแทนบ้าง”

“พวกเราจะนำความทรงจำของรินทร์กลับมาให้ได้เลย!”

“แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว โลกแห่งเวลานี่น่าตื่นเต้นจริงๆ”

ไหงถึงได้กระตือรือร้นมากขนาดนี้กันล่ะเนี่ย หรือเพราะเธอชอบเรื่องลี้ลับมาตั้งแต่เด็กเลยเป็นแบบนี้ เล่นซะฉันทำตัวไม่ถูกเลย

ส่วนเหตุผลที่เป็นแบบนี้น่ะหรอ

*ไม่กี่นาทีก่อน*

“งั้นไหนๆวันนี้ก็ว่างแล้ว พวกเรามาทำความปรารถนาข้อแรกของรินทร์ให้เป็นจริงกันเถอะ!”

“เอ๊ะ?”

จู่ๆแววตาของมีนก็ดูมีไฟขึ้นมา เธอดูจะกระตือรือร้นเป็นพิเศษเลย

(จะพูดไงดี สองวันมานี่มีแต่เรื่องปวดหัว วันนี้ก็ยังจะไม่ได้พักอีกหรอเนี่ย)

“เอ่อ... มีน......”

“โทรหาวอร์เรนดูสิ ฉันว่าเขาต้องเต็มใจช่วยพวกเราแน่”

แววตาเป็นประกายบวกกับรอยยิ้มอันสดใสแบบนี้......

“เอ่อ... เดี๋ยวจะลองโทรดูละกันนะ”

*เห้อ* (แอบถอนหายใจ)

ฉันหยิบมือถือที่เมมเบอร์ของอีตานั่นไว้ก่อนจะกดโทรออก

............

............

เสียงที่ออกมาจากโทรศัพท์ตอนนั้นทำให้ฉันหน้าซีดด้วยความหงุดหงิดไปเลย ในขณะที่มีนมองฉันด้วยความสงสัย

“เป็นไงบ้างรินทร์ ติดต่อได้ไหม?”

คอของฉันค่อยๆหันมาหามีนอย่างเกร็งๆ

“มันบอกว่า หมายเลขที่ท่านเรียก ยังไม่เปิดใช้บริการ”

“เอ๋?”

*ตัดกลับมาปัจจุบัน*

ตอนนี้ฉันก็ยังคงซ้อนมอเตอร์ไซค์ของมีนเพื่อไปที่โรงเรียน

(หัวยังไม่ทันแห้งเลย ดีนะที่เร่งเวลาให้มันพอแห้งไวกว่าเดิมได้)

ใช่แล้วล่ะ ถ้าติดต่ออีตานั่นไม่ได้ พวกเราก็วางแผนที่จะไปหาข้อมูลของคนที่ชื่อญาดาที่ยังหลงเหลืออยู่ในความทรงจำของฉันด้วยตัวเอง

(เป็นตัวแทนผู้เชื่อมต่อเวลาภาษาอะไรถึงได้ให้เบอร์ผิดมาแบบนี้เนี่ย!)

ช่วงเวลาบางอย่างก็อาจจะเป็นมุมบอดของพลัง

หากอยู่ไกลไปก็ยากที่จะรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงรอบข้างได้

ฝั่งตรงข้ามของถนนที่ฉันกับมีนอยู่... มีอีตานั่นเดินสวนไปอีกทาง

............

(โรงเรียนมาเจสติกวิทยา 8.20)

มีนขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดตรงโซนสำหรับจอดจักรยานและจักรยานยนต์

ระหว่างที่มีนกำลังจอดรถให้เรียบร้อย ฉันที่ลงจากรถมาสักพักแล้วก็อดสงสัยเรื่องบางอย่างไม่ได้จนเธอมองมา

“คิดอะไรอยู่หรอรินทร์?”

“......ฉันยังกลัวอยู่น่ะ......”

“กลัวว่าถ้ารู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองสัปดาห์ก่อน รู้เรื่องเกี่ยวกับญาดา”

“ฉันกลัวว่าฉันจะยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้”

“แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว... ฉัน......”

มีนยื่นมือมาจับมือของฉันไว้ เธอพยายามปลอบใจฉัน

“ไม่ต้องกลัวนะรินทร์”

“ฉันรู้ว่ารินทร์ไม่อยากเจ็บปวดจากความทรงจำที่เธอพยายามตามหา”

“แต่ยังไงความจริงก็ยังเป็นความจริง พวกเราหนีมันไม่พ้นหรอก”

มีนพยายามพูดเตือนสติฉัน แต่ในใจฉันก็ยังรู้สึกว่าเธอเองก็พยายามปลอบใจตัวเองอยู่เหมือนกัน

เรื่องที่มีนเจอมันเลวร้ายมากจริงๆ แม้มันจะต่างกับเรื่องที่ตัวฉันถูกไล่ฆ่า

แต่แววตาที่สดใสอ่อนโยน รอยยิ้มที่กลบเกลื่อนความเจ็บปวดในใจของเธอแบบนี้น่ะมัน...

ฉันหลับตาพยายามตั้งสติและทำใจให้สงบ

“ขอบคุณนะมีน”

“เธอช่วยได้มากเลยล่ะ”

“...อื้อ!”

ถ้าไม่มีมีน ฉันคงไม่กล้าเผชิญหน้าความจริงที่อยู่ตรงหน้าแบบนี้แน่

พวกเราไปตั้งใจไปที่ห้องทะเบียนศึกษา เพราะห้องนี้เป็นห้องที่เก็บฐานข้อมูลของนักเรียนทุกคนเอาไว้

ปัญหาแรกที่ฉันจะต้องเจอคืออาคารเรียนมันต้องล็อคไว้แน่นอน

(ประตูตึกเรียนคงต้องล็อคไว้แน่ ถ้าแบบนั้นจะกระโดดขึ้นชั้นสองเลยได้ไหมนะ)

(ไม่สิ เราไม่รู้ระดับพละกำลังของเราเลยว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง)

(และมีนเองก็มาด้วยแบบนี้จะโดดขึ้นไปมันก็-)

“รินทร์!”

มีนตะโกนเรียนฉันที่มัวแต่ยืนคิด ในขณะที่เธอยืนอยู่ตรงหน้าประตูตึกเรียน

“ประตูมันไม่ได้ล็อคน่ะ!”

“ว่าไงนะ?”

ฉันรีบวิ่งไปหาเธอเพื่อดูว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆแน่หรอ

“......ไม่ได้ล็อคจริงด้วย!”

“เป็นไปได้ยังไงกัน?”

(กุญแจถูกไขออกหมด คนที่ทำแบบนี้ได้มีเพียงแค่ภารโรงและผู้อำนวยการของโรงเรียนนี้)

(แต่ถ้าไม่ใช่ทั้งสองคนนั่นแล้ว......)

“ขโมยงั้นหรอ!?”

“ไม่ใช่หรอก กุญแจหายไปทั้งยวงแบบนี้”

“พวกโจรทั่วไปเต็มที่ถ้าไม่เอาของทุบก็สะเดาะกุญแจเอา”

“อีกอย่าง... ผู้อำนวยการเป็นคนเปิดประตูนี่เอง”

“เอ๋?”

แปลกใจล่ะสินะ สีหน้าของมีนทำหน้าสงสัยซะขนาดนั้น

แต่ก่อนที่เธอจะถาม เหมือนเธอจะฉุกคิดเรื่องความสามารถของเวลาที่ฉันเคยพูดให้ฟังพอดี ทำให้เธอไม่คิดที่จะถามอะไรต่อ

............

(ภายในอาคารเรียน)

ตามทางเดินไม่มีอะไรผิดปกติ ความสามารถในการอ่านเวลามันก็มีข้อจำกัดตรงที่ไม่สามารถแทรกแซงเวลาของสิ่งอื่นได้มากเกินไป

หากทำแบบนั้นแล้ว จะยิ่งทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนล้าอย่างรวดเร็ว

พวกเราเดินเข้ามาในอาคารเรียนตั้งใจจะไปห้องทะเบียน แต่ตอนนี้กลับต้องคอยระวังว่าผู้อำนวยการจะรู้ว่าพวกเรามาที่นี่รึเปล่า

มีนเองทำท่าเหมือนจะกลัว แต่ก็ยังยิ้มออกมา

ฉันเห็นมีนที่พยายามยิ้มสู้แบบนั้นก็ต้องข่มความกลัวของตัวเองไว้เหมือนกัน

(เธอเข้มแข็งขึ้นมากจริงๆ)

ย่อง...ย่อง... พวกเราพยายามย่องเพื่อไม่ให้ผอ. รู้ตัว จนตอนนี้ถึงห้องทะเบียนแล้ว

ประตูห้องมันล็อคอยู่ ฉันเลยใช้พลังย้อนเวลา เพื่อย้อนเวลาของกุญแจให้อยู่ในสภาพที่ปลดล็อค

“โหว!”

หน้ามีนตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นพลังแบบนี้ชัดๆ

*แกร๊ก*

ปลดล็อคสำเร็จล่ะ!

ห้องทะเบียนตอนนี้ปิดไฟมืดเพราะอยู่มุมอับแสง

“ห้องมืดตื๋อเชียว”

“ห-หวังว่าคงไม่มีตัวอะไรโผล่ออกมานะ”

จริงสิ... รู้สึกมีนจะเป็นโรคกลัวความมืด ยิ่งถ้าอยู่คนเดียวจะยิ่งกลัวมาก

“ไม่เป็นไรหรอก... มานี่มา”

ฉันจับมือเธอไว้เพื่อไม่ให้เธอกลัว ก่อนจะเดินไปเปิดสวิตซ์ไฟตรงโต๊ะคอมเพื่อเตรียมหาข้อมูลของคนๆนั้น

ญาดา

......

ในขณะที่มีนกำลังค้นเอกสารในห้องนั้น ฉันก็กำลังหาข้อมูลเท่าที่เป็นไปได้ในคอมพิวเตอร์

(แย่ชะมัด คอมเครื่องนี้ไม่มีใครใช้ในช่วงนี้เลย)

(กะว่าจะอ่านเวลาและใช้รหัสพวกนั้นแล้วแท้ๆ)

ดูท่าฉันจะต้องเปลี่ยนไปใช้คอมอีกเครื่องซะละมั้ง

“นี่รินทร์”

“หือ? มีอะไรหรอมีน?”

มีนที่กำลังหาแฟ้มเอกสารที่น่าจะเก็บข้อมูลของเธอคนนั้นก็ทักเรียกฉันขึ้นมา

“ทำไม... ทุกคนถึงไม่รู้จักญาดา?”

“มันไม่น่าเป็นไปได้... ถ้าญาดาเป็นคนรุ่นเดียวกับพวกเราอย่างที่รินทร์พอจำได้”

“แต่ทำไมถึงไม่มีใครรู้จักเธอเลยล่ะ?”

นั่นคือสิ่งที่ฉันสงสัยมาตลอดเหมือนกัน ราวกับว่าไม่เคยมีใครรู้จักผู้หญิงคนนี้ในโรงเรียนนี้มาก่อนเลย มีนเองก็ไม่รู้จักเธอคนนั้น

“เรื่องนั้นน่ะ......”

“อ๊ะ!”

จู่ๆมีนก็ส่งเสียงตกใจอะไรออกมาหลังจากเปิดแฟ้มเอกสารชุดนั้นเข้า

“รินทร์! มาดูนี่สิ!”

“มีอะไรงั้นหรอ!?”

ฉันรีบลุกไปมีน เพื่อดูว่าเธอเจออะไรกันแน่

*แฟ้มเอกสาร ม.5/2*

*นางสาวญาดา น้ำมุณี*

*ที่อยู่ XXXXXXXXX*

*ส่วนสูง XX น้ำหนัก XX*

“ญา......ดา......”

*วืด*

“อั้ก!”

อาการปวดหัวของฉันกำเริบอีกแล้ว ยิ่งพยายามรับรู้เรื่องนี้เท่าไร ภาพพวกนั้นยิ่งตามมาหลอกหลอนและทำให้ฉันทรุดลงมากเท่านั้น

“รินทร์เป็นไรไป?”

“ไม่มีไร... ไม่มีไร......”

(ข้อมูลแค่นี้ไม่น่าเพียงพอสำหรับการนำความทรงจำของฉันกลับคืนมาแน่ อาจจะต้องไปหาที่บ้านของญาดา เผื่อว่าจะรู้อะไรมากขึ้นกว่านี้)

ในตอนนั้นมีนเหมือนจะเห็นว่ามีเอกสารอย่างอื่นอยู่หน้าถัดไปด้วย มีนเลยเปิดหน้าถัดไปต่อทันที

!!!!!

ตาของเธอค้างทันทีหลังจากเห็นเอกสารใบนั้น

“มีน......”

ฉันเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาถ้าต้องรับรู้สิ่งที่จะเจอต่อไป เพราะจากสีหน้าของมีนราวกับว่ามันเป็นเรื่องใหญ่สุดๆเลย

แต่... ฉันเลือกแล้วว่าจะไม่หนี แม้ว่ามันจะเป็นความจริงที่โหดร้าย ฉันก็จะไม่หนี

*ทางด้านวอร์เรนที่ยืนอยู่หน้าบ้านรินทร์*

.........

“ยัยนั่นไม่อยู่งั้นหรอ...”

“แต่มันอาจจะดีแล้วล่ะ...”

“อดีตที่ทรมานจิตใจแบบนั้น...... ลืมไปซะได้ก็ดี”

............

*ตัดกลับมาทางนรินทร์*

(เฮือก)

ความรู้สึกที่ราวกับมีอะไรทิ่มแทงอกแบบนี้มัน... รายละเอียดที่ฉันกำลังอ่านอยู่ตอนนี้คือ

*เอกสารพักการเรียนไม่มีกำหนด*

*สาเหตุเนื่องจาก: เกิดอุบัติเหตุจนสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง*

"สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง..."

“นี่มัน......”

ภาพพวกนั้นก็เข้ามาในหัวอีกครั้ง

ภาพคนที่ซุบซิบนินทา ภาพฉันผลักใครกระเด็นไป ผู้หญิงที่จมกองเลือด รถบรรทุกคันใหญ่ แยกนั่น

ความทรงจำของฉันเริ่มปะติดปะต่อกัน...

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ...

*สาวผมสั้นที่ยิ้มให้เราคนนั้น... ญาดา*

*ฉัน... เป็นคนผลักเขาจนล้มหัวกระแทกโดนฟุตบาท มีเลือดไหลออกมา...*

............

ความรู้สึกแบบนี้มัน ไม่จริงน่า... เรื่องแบบนี้น่ะ!

“อ๊ากกกก!!!”

“รินทร์!!?”

“ไม่! ไม่! มันไม่เป็นความจริง! ไม่ใช่!!”

ภาพพวกนั้นมันยังคงหลอกหลอนฉัน

“มันต้องไม่ใช่เรื่องจริง!!”

ฉันวิ่งหนีออกมาจากห้องด้วยความหวาดกลัวจากความทรงจำที่ได้กลับมาโดยที่ไม่สนมีนที่กำลังตะโกนเรียกฉันเลยแม้แต่น้อย

ร่างกายทุกส่วนของฉันล้วนแต่สั่น ไม่เว้นแม้แต่ดวงตาที่สั่นระริกด้วยความหวาดกลัว

(ความจริงแบบนี้มัน... โหดร้ายเกินไปแล้ว!)

ฉันวิ่งออกมาเรื่อยๆ จนไปชนกับคนๆหนึ่งเข้าระหว่างทาง

“โอ๊ย!”

ฉันล้มลงกับพื้น โดยที่ร่างยังคงสั่นลุกมาไม่ขึ้น

“เธอมาทำอะไรที่โรงเรียนนี่?”

สติของฉันยังคงไม่กลับมาเท่าไร แต่ก็พยายามที่จะคุยกับคนที่ฉันวิ่งชนเมื่อกี๊...

“ผอ.”

ผู้อำนวยการถือแฟ้มเอกสารบางอย่างอยู่ในมือกำลังยืนอยู่ข้างหน้าฉัน

“ฉัน...เอ่อ... คือฉัน... ลืมของน่ะค่ะ! แต่ตอนนี้เจอแล้ว”

“ฉันขอตัวก่อนนะคะ!”

“เดี๋ยว!”

ผู้อำนวยการสั่งให้ฉันที่พยายามวิ่งหนีหยุด

เขาที่ยืนอยู่ข้างหลังฉัน แววตาของเขาถูกครอบงำด้วยความโกรธแค้นบางอย่าง

“เธอคือนรินทร์ เพื่อนของญาดาใช่ไหม?”

...ตัวของฉันหยุดนิ่งทันทีที่เขาเรียกชื่อฉัน...

ร่างของฉันแข็งทื่อด้วยความกลัวและความช็อคจากคำพูดของผู้อำนวยการ

“จริงๆวันนี้ฉันลืมเอกสารก็เลยกลับมาเอา”

“แต่ไม่คิดเลยว่าจะเจอเพื่อนแย่ๆของลูกสาวฉันมาป้วนเปี้ยนให้ฉันเห็นหน้าอีก”

“เธอไม่คิดจะแวะเวียนไปเยี่ยมลูกสาวฉันเลยใช่ไหม?”

“ล...ลูกสาว!?”

การรับรู้ความจริงอีกข้อว่าผู้อำนวยการคนนี้เป็นพ่อของญาดายิ่งทำให้ฉันตะลึงยิ่งกว่าเดิม

“ทำไม... พูดอย่างกับว่าจำอะไรไม่ได้อย่างนั้น”

“ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนอย่างเธอจะทำหน้าระรื่นในวันที่เพื่อนคนสำคัญนอนอยู่โรงพยาบาล”

“ไ-ไม่ใช่นะคะ... ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น-”

“งั้นทำไมถึงหายไปล่ะ!!”

“เห๊ะ!?”

ผอ. กำลังกำมือที่จับเอกสารแน่นด้วยความโกรธ

“ไม่ใช่แค่เธอ... แต่ทุกๆคน ล้วนหายไปหมด! พวกเธอยังเห็นญาดาเป็นเพื่อนหรือเปล่า!!?”

“คุณมานพ......”

“ชิ...... เธอเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพ่อคนเป็นแม่ที่ต้องแบกรับความรู้สึกอันเจ็บปวดแบบนี้ไว้ไหม! ไม่มีใครคิดจะไปหาญาดาเลยแม้แต่คนเดียว!”

“ปาฏิหาริย์งั้นหรอ...... แค่เรื่องธรรมดาอย่างการให้กำลังใจยังไม่มีเลย!”

“แล้วจะให้หวังปาฏิหาริย์อีก!!”

“นรินทร์...”

“เธอรู้ไหมว่าการที่ลูกสาวของใครสักคนต้องถูกเพื่อนทุกคนทิ้งแบบนี้”

“มันเจ็บปวดที่สุด”

“โดยเฉพาะเธอที่เป็นเพื่อนคนสำคัญของลูกสาวฉัน!!”

เขาชี้นิ้วมาที่ฉันที่ยังคงสั่นด้วยความกลัว ภาพญาดาที่นอนจมกองเลือดตรงนั้นกำลังหลอกหลอนฉันอยู่ตลอดเวลา

“นับแต่วันนี้อย่าได้คิดว่าตัวเองเป็นเพื่อนกับญาดาเด็ดขาด”

“คนอย่างเธอเป็นได้แค่ผู้หญิงไร้หัวใจเท่านั้น”

............

ฉันได้แต่แอบมองรินทร์ที่ยืนนิ่งอย่างกับคนไร้สติอยู่ตรงนั้น ในขณะที่ผอ. ก็เบือนหน้าหนีรินทร์เดินลงบันไดไป

(ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผอ. จะเป็นพ่อของญาดา ก็ว่านามสกุลคุ้นๆ)

ฉันวิ่งไปหารินทร์ที่ยังคงยืนนิ่งอยู่

“รินทร์”

*ติ๊ก...*

หยดน้ำตา... รินทร์กำลังร้องไห้......

ขาของเธอสั่นจนถึงกับทรุดลงไปบนพื้น

“ญาดา... ญาดา...”

“ฉัน... ฉันขอโทษ”

“ฉันขอโทษ!!!”

“ฮือ—!!!”

น้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด คำขอโทษที่พูดครั้งแล้วครั้งเล่าของรินทร์ที่มีต่อญาดา...

ฉันเลือกที่จะไม่เข้าไปปลอบใจเธอ เพราะสภาพจิตใจเธอตอนนี้บอบช้ำเกินกว่าที่ฉันจะเข้าไปแก้ไขอะไรได้...

อาจจะต้องปล่อยให้เป็น... เวลาช่วยเยียวยาจิตใจของเธอ...

............

............

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา