hospital โรงพยาบาลป่วนจิต
-
เขียนโดย กบหัวเหม่ง
วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 10.19 น.
3 ตอน
2 วิจารณ์
5,547 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 12.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ " เมล เสร็จรึยัง แม่จะสายแล้วนะ " เสียงตะโกนของคนเป็นแม่ที่บอกให้ฉันเร็วๆเพราะกำลังจะสาย
" ใกล้แล้วค่ะแม่ " ฉันตะโกนบอกแม่ในขณะที่มือก็ยุ่งอยู่กับการเกล้าผมขึ้นเพื่อไม่ให้มันรุงรังเกินไป
บนรถ
" แม่บอกแล้วใช่มั้ยให้เร็วๆ มั่วแต่แต่งตัวอยู่ได้ " แม่บ่นฉันมาตลอดทางตั้งแต่ออกจากบ้านมา จนตอนนี้ก็มาถึงจุดหมายปลายทางแล้วเป็นโรงพยาบาลจิตเวชชื่อดังแห่งหนึ่ง แถวบ้านฉัน ไม่ต้องสงสัยนะค่ะคุณผู้อ่านทุกท่าน ใช่ค่ะ แม่ฉันทำงานที่นี่ และวันนี้ก็มีการจัดงานเลี้ยงต้อนรับ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนใหม่ที่มาแทนคนเก่า เห็นว่ายังหนุ่มอยู่เลยแต่ฉันก็ยังไม่เคยเห็นหรอก ว่าแล้วก็รีบเดินตามแม่เข้าไปในงาน
เฮ้อออ !!!! ฉันถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายหลังจากปลีกตัวออกมาจากงานมานั่งอยู่ในสวนของโรงพยาบาลพร้อมกับน้ำผลไม้ในมือหนึ่งแก้ว
" น่าเบื่อชะมัดเลย " มีแต่ผู้ใหญ่ทั้งนั้น ไม่รู้แม่จะลากฉันมาทำไม
" นั้นสิ น่าเบื่อเนอะ "
" อืมใช่ "
แต่ เอ๊ะ!!! นี่ฉันคุยกับใครกันเนี่ย ฉันหันซ้ายหันขวาแต่รอบตัวก็ว่างเปล่าและคิดว่าตัวเองคงโดนดีเข้าแล้ว จึงรีบลุกจากที่นั่งเพื่อจะเดินออกไปจากที่นี่แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะเห็นความผิดปกติของม้านั่งที่ตั้งอยู่ตรงข้าม
" นั้นมันอะไร ขาคนงั้นหรอ " หลังจากยืนจ้องอยู่นานฉันก็พูดขึ้นมา
" ใครอยู่ตรงนั้น ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ " ไม่นานร่างที่นอนอยู่ตรงมานั่งฝั่งตรงข้ามก็เริ่มขยับเปลี่ยนเป็นท่านั่งพร้อมมองมาทางฉัน แสงไปสลัวทำให้ฉันเห็นว่าบุคคลปริศนาเป็นผู้ชายถึงไฟจะไม่สว่างฉันก็พอมองเห็น ผมสีดำสนิท นัยตาสีดำ จมูกที่โด่งธรรมชาติ ริมฝีปากเรียวบาง ผิวที่ดูขาวเนียนสุดๆ เมื่อรวมกันแล้วมันเพอร์เฟ็คมาก ฉันยืนค้างอยู้กลางอากาศ หล่อมาก ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันนะ
" นี่ป้าเป็นใคร มารบกวนเวลานอนของผม "
" ว่าไงนะ นายเรียกฉันว่าป้าหรอ " คำพูดของผู้ชายที่ฉันพึ่งหลงใหลเมื่อกี้มันต่างกับรูปลักษณ์ภายนอกอย่างสิ้นเชิง
" เสียมารยาทที่สุดใครป้ากันฮ่ะ "
" ใครกันแน่ที่เสียมารยาทมารบกวนเวลานอนของคนอื่นเค้านะ " หมอนั้นตอบหน้าตาย
" ที่นี่มันที่นอนหรือไง ที่นี่มันโรงพยาบาลจิตเวชนะย่ะ " ฉันเถียงคำไม่ตกฟาก
ในที่สุดหมอนั้นก็ลุกขึ้นยืนเผยให้เห็นถึงส่วนสูงและรูปร่างที่งดงามนั้น ทำบุญด้วยอะไรนะถึงได้สมบูรณ์แบบขนาดนี้เนี่ย เอ๊ะ!!! นี่ใช่เวลามาเพ้อมั้ย หมอนั้นเดินตรงเข้ามาหาฉันช้าๆแล้วมาหยุดตรงหน้าฉัน
" นายเป็นใคร " ฉันเงยหน้าขึ้นไปสบตากับคนตรงหน้า พร้อมถามด้วยความสงสัย
" นั้นสิ ผมเป็นใครกันนะ ป้า..." หมอนั้นตอบด้วยคำถามกวนโอ้ยสุดๆ พร้อมกับยิ้มมุมปากเล็กน้อย
" นี่นายกวนประสาทฉันหรอ " ฉันวีนแตกเพราะคำตอบสุดกวนกับไอ่สรรพนามที่ใช่เรียกฉันนั้นอีก
" ฉันจะถามอีกครั้ง นายเป็นใคร เข้ามาที่นี่ได้ยังไง " หมอนั่นไม่ตอบแต่กลับก้มหน้าลงมาช้าๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
" นะ นะ นี่ นายจะทำอะไร "หมอนั่นไม่ตอบแต่กลับก้มลงมาเรื่อยๆ ฉันถอยหลังนี้แล้วหลับตาปี๋
ซู้ดดด !!!! เอ๊ะ ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมาเพื่ออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และพบว่าน้ำผลไม้ในมือที่ถือไว้มันหมดเกลี้ยงราวกับระเหยไปกับอากาศ พร้อมกันรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ถอยไปยืนอยู่ห่างฉันนิดหน่อย
" นี่นาย " ฉันชี้หน้าเตรียมจะด่าแต่ก็ต้องหยุดเพราะหมอนี่พูดขัดขึ้นมาก่อน
" ก็ป้านั้นแหละ ชวนผมพูด ผมก็เลยคอแห้ง " หน้าตาของหมอนั้นมันกวนโอ้ยสุดๆเห็นแล้วหงุดหงิด ขอถอนคำพูดที่ชมไปเมื่อกี้ นายนี่มันปีศาจในร่างเทวดาชัดๆ
" ขอบคุณสำหรับน้ำผลไม้นะครับ " พูดจบหมอนั้นก็หันหลังเดินจากไป
" นี่เดี๋ยวก่อน นายเป็นใคร มาคุยกันให้รู้เรื่องเลยนะ " ฉันตะโกนตามหลังของหมอนั้นไป แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้สนใจและเดินหายไปในความมืด โดยไม่แม้แต่จะหันกลับมา
" ไอ่ บ้า เอ้ย @#$%@$#@$ " ฉันปาแก้วน้ำลงถังขยะพร้อมสบถคำหยาบอีกมากมาย คิดแล้วก็โมโหไม่หาย ป้างั้นหรอฉันดูแก่ตรงไหนไม่ทราบ อย่าให้เจออีกนะ นายตาย
.............................................
แสงแดดยามเช้าที่ส่องเข้ามาในห้องนอนผ่านหน้าต่างบ้านเล็ก มันแยงตาจนทำให้ฉันตื่น วันนี้อากาศแจ่มใสจังแหะน่าจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นนะ ว่าแล้วฉันก็ลุกจากเตียงไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำทันที วันนี้ฉันต้องเข้าไปโรงพยาบาลกับแม่ปิดเทอมทีไรฉันก็ไปที่นั้นเป็นประจำแหละ อยู่บ้านก็เบื่อ
ก็อก ก็อก ก็อก !!!
" เมลเสร็จรึยัง "
" เสร็จแล้วค่ะแม่ " ฉันเดินไปหยิบโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ใส่ในกระเป๋าสะพายแล้วเดินออกจากห้องไป
ณ โรงพยาบาล
" เมื่อวานหายไปไหนมา แม่จะแนะนำให้รู้จักกับท่าน ผอ. ซักหน่อย " แม่พูดขึ้นระหว่างเดินไปที่ห้องทำงาน
" ก็ในงานมันน่าเบื่อนี่ค่ะเลยออกไปเล่น แล้วทำไมต้องแนะนำหนู้ด้วยล่ะค่ะ " ฉันตอบแม่แล้วทำหน้ามุ่ย
" ก็ ผอ. เค้าอยากให้ช่วยดูแลลูกชายเค้าที่ย้ายมาอยู่กับเค้าที่นี่ให้หน่อยนะสิ แม่ก็เลยบอกไปว่าเมลจะเป็นคนดูแลให้เองนะ " แม่ฉันอธิบายยาว แต่
" แต่แม่ค่ะ แม่ยังไม่ได้ถามความสมัครใจหนูเลยนะ ให้หนู้ไปเลี้ยงเด็กเนี่ยนะ ไม่เอาอ่ะ " ฉันตอบทันทีพร้อมบ่นอู้อี้
" แต่แม่รับปาก ผอ. ไปแล้วนี่ ช่วยแม่หน่อยแล้วกันนะ " แม่พูดด้วยน้ำเสียงเชิงขอร้องสุดๆ มาไม้นี้อีกแล้ว แม่เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่อยากให้ฉันช่วยอะไร แล้วฉันก็ต้องยอมทุกทีสิหน่า
" ก็ได้ๆ แต่ถ้าไม่ไหว หนูจะไม่ทนนะ " ฉันตอบแม่แบบเซ็งๆ
และแล้วฉันก็มายืนอยู่หน้าห้อง ท่าน ผอ. พร้อมกับแม่ ก็อก ก็อก ก็อก !!!!
" ใครครับ " เสียงคนที่อยู่ข้างในห้องถาม
" ฉันเองค่ะ สุธิชา พาเมลมาทำความรู้จักค่ะ "
" เชิญครับ "
ฉันเดินเข้ามาข้างในพร้อมกับแม่ สมกับเป็นห้องทำงานของคนที่ใหญ่ที่สุดในโรงพยาบาลจริงๆมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ตู้เย็น แอร์ ทีวี หรือแม้แต่ห้องน้ำส่วนตัว และสายตาก็มาหยุดอยู่ที่ ผู้ชายวัยกลางคนกำลังนั่งทำงานอยู่ตรงโต๊ะกลางห้อง เค้าเงยหน้าขึ้นมามอง หน้าตาสุขุมแต่ลอยยิ้มกับออ่อนโยน
" สวัสดีค่ะท่านผู้อำนวยการ หนู เมลค่ะ " ฉันยกมือไหว้คนตรงหน้าและแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มที่สดใส
" หน้าตาน่ารักจริงๆครับ " ท่าน ผอ. หันไปพูดกับแม่ฉัน
" เรียกลุงว่า ลุงปราน ก็ได้นะ หนูเมล " ท่านผูอำนวยการ เอ้ย ลุงปราน พูดกับฉัน
" แม่หนูบอกว่า ช่วงปิดเทอมหนูมักจะมาช่วยงานที่นี่เสมอ ลุงเลยอยากจะลบกวนให้หนูช่วยดูแลลูกชายของลุงให้หน่อยนะ เพราะลุงคงไม่มีเวลาดูเท่าไหร่ "
" เอ่ออ ทำไมคุณลุงไม่จ้างพี่เลี้ยงมาดูแลล่ะค่ะ เดี๋ยวหนูหาคนที่ไว้ใจได้ให้เอามั้ยค่ะ " ฉันถามไปแบกล้าๆกลัวๆ แต่ก็นะฉันไม่ถูกโฉลกกับเด็กซักเท่าไหร่แค่ลูกพี่สาวที่วิ่งซนอยู่บ้านก็เหนื่อยจะแย่
" 5555 ลูกชายลุงหน่ะ มันไม่ " ก็อก ก็อก ก็อก คุณลุงกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็มีเสียงเคาะประตูเข้ามาขัดจังหวะ
" เข้ามาสิ ลูกชายลุงมาแล้วล่ะ " คุณลุงพูดขึ้นฉันจึงหันไปมองทางประตูห้องที่ตอนนี้กำลังถูกเปิดเข้ามา และพอบุคคลใหม่ก้าวเข้ามาในห้อง
" นี่ นาย " ฉันอุทานแล้วชี้หน้าคนที่มาใหม่ด้วยเค้าตกใจ
" นี่ เธอ " สีหน้าหมอนั้นก็แสดงออกถึงความตกใจ
" อ่าว รู้จักกันมาก่อนหรอ " ลุงปรานพูดขึ้นในขณะที่ฉันยังยืนอึ้งอยู่
" ก็ไม่เชิงครับพ่อ " หมอนั้นตอบแทนฉัน แต่ว่า เมื่อกี้นายนั้นเรียกลุงปรานว่าอะไรนะ พ่อ หรอ หรือว่า
" ลุงปรานค่ะ ลูกชายที่ว่านั้น " ฉันชี้ไปทางหมอนั่น
" ใช่แล้ว คนที่หนูเมลต้องเป็นพี่เลี้ยงให้ไง " ลุงปรานตอบด้วยร้อยยิ้ม พริมใจ
" นี่นะหรอครับ พี่เลี้ยงของผม " หมอนั้นถามขึ้นบ้าง
" ลูกชายลุงก็โตป่านนี้แล้ว จะมีพี่เลี้ยงไปทำไมล่ะค่ะ " ฉันถามขึ้นอีกครั้ง
" ก็ไม่เชิงเป็นพี่เลี้ยงหรอกนะ ออกจะให้มาเป็นเพื่อนมากกว่านะ เพราะลูกชายลุงก็ไม่มีเพื่อนที่นี้กลัวจะเหงานะ " ชางเป็นพ่อที่ประเสริฐจริงๆ อาจจะเพราะปากอย่างนั้นเลยไม่มีเพื่อนก็ได้
" ลูกชายลุงชื่อ ซัน อายุน้อยกว่าหนูแค่ 2 ปีนะ ฝากหนูดูแลระหว่างอยู่ที่นี้ด้วยนะ "
" แต่ หนู .... "
" รับรองค่ะ ว่าเมลจะดูแลคุณซันเป็นอย่างดี " แม่ตอบแทนก่อนที่ฉันจะพูดอะไรอีก ฉันหันไปมองค้อนแม่ แม่ก็ได้แต่ส่งสายตาอ้อนวอนกลับมา
" ค่ะ " ฉันจึงไม่มีทางเลือกและก้มหน้ารับปาก แล้วหันไปยิ้มประชดให้นายซันเด็กเปรตนั้น ที่แท้ก็อายุน้อยกว่าฉันตั้ง 2 ปี คอยดูเถอะ ฉันจะเอาคืนนายให้สาสม
" ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับคุณพี่เลี้ยง " เด็กเปรตหันมายิ้มให้ฉันด้วยใบหน้ากวนโอ้ยกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้น เหอะ เอาซิ นายกับฉันใครจะอยู่ใครจะไป มาตัดสินต่อจากนี้.......
" ใกล้แล้วค่ะแม่ " ฉันตะโกนบอกแม่ในขณะที่มือก็ยุ่งอยู่กับการเกล้าผมขึ้นเพื่อไม่ให้มันรุงรังเกินไป
บนรถ
" แม่บอกแล้วใช่มั้ยให้เร็วๆ มั่วแต่แต่งตัวอยู่ได้ " แม่บ่นฉันมาตลอดทางตั้งแต่ออกจากบ้านมา จนตอนนี้ก็มาถึงจุดหมายปลายทางแล้วเป็นโรงพยาบาลจิตเวชชื่อดังแห่งหนึ่ง แถวบ้านฉัน ไม่ต้องสงสัยนะค่ะคุณผู้อ่านทุกท่าน ใช่ค่ะ แม่ฉันทำงานที่นี่ และวันนี้ก็มีการจัดงานเลี้ยงต้อนรับ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนใหม่ที่มาแทนคนเก่า เห็นว่ายังหนุ่มอยู่เลยแต่ฉันก็ยังไม่เคยเห็นหรอก ว่าแล้วก็รีบเดินตามแม่เข้าไปในงาน
เฮ้อออ !!!! ฉันถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายหลังจากปลีกตัวออกมาจากงานมานั่งอยู่ในสวนของโรงพยาบาลพร้อมกับน้ำผลไม้ในมือหนึ่งแก้ว
" น่าเบื่อชะมัดเลย " มีแต่ผู้ใหญ่ทั้งนั้น ไม่รู้แม่จะลากฉันมาทำไม
" นั้นสิ น่าเบื่อเนอะ "
" อืมใช่ "
แต่ เอ๊ะ!!! นี่ฉันคุยกับใครกันเนี่ย ฉันหันซ้ายหันขวาแต่รอบตัวก็ว่างเปล่าและคิดว่าตัวเองคงโดนดีเข้าแล้ว จึงรีบลุกจากที่นั่งเพื่อจะเดินออกไปจากที่นี่แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะเห็นความผิดปกติของม้านั่งที่ตั้งอยู่ตรงข้าม
" นั้นมันอะไร ขาคนงั้นหรอ " หลังจากยืนจ้องอยู่นานฉันก็พูดขึ้นมา
" ใครอยู่ตรงนั้น ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ " ไม่นานร่างที่นอนอยู่ตรงมานั่งฝั่งตรงข้ามก็เริ่มขยับเปลี่ยนเป็นท่านั่งพร้อมมองมาทางฉัน แสงไปสลัวทำให้ฉันเห็นว่าบุคคลปริศนาเป็นผู้ชายถึงไฟจะไม่สว่างฉันก็พอมองเห็น ผมสีดำสนิท นัยตาสีดำ จมูกที่โด่งธรรมชาติ ริมฝีปากเรียวบาง ผิวที่ดูขาวเนียนสุดๆ เมื่อรวมกันแล้วมันเพอร์เฟ็คมาก ฉันยืนค้างอยู้กลางอากาศ หล่อมาก ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันนะ
" นี่ป้าเป็นใคร มารบกวนเวลานอนของผม "
" ว่าไงนะ นายเรียกฉันว่าป้าหรอ " คำพูดของผู้ชายที่ฉันพึ่งหลงใหลเมื่อกี้มันต่างกับรูปลักษณ์ภายนอกอย่างสิ้นเชิง
" เสียมารยาทที่สุดใครป้ากันฮ่ะ "
" ใครกันแน่ที่เสียมารยาทมารบกวนเวลานอนของคนอื่นเค้านะ " หมอนั้นตอบหน้าตาย
" ที่นี่มันที่นอนหรือไง ที่นี่มันโรงพยาบาลจิตเวชนะย่ะ " ฉันเถียงคำไม่ตกฟาก
ในที่สุดหมอนั้นก็ลุกขึ้นยืนเผยให้เห็นถึงส่วนสูงและรูปร่างที่งดงามนั้น ทำบุญด้วยอะไรนะถึงได้สมบูรณ์แบบขนาดนี้เนี่ย เอ๊ะ!!! นี่ใช่เวลามาเพ้อมั้ย หมอนั้นเดินตรงเข้ามาหาฉันช้าๆแล้วมาหยุดตรงหน้าฉัน
" นายเป็นใคร " ฉันเงยหน้าขึ้นไปสบตากับคนตรงหน้า พร้อมถามด้วยความสงสัย
" นั้นสิ ผมเป็นใครกันนะ ป้า..." หมอนั้นตอบด้วยคำถามกวนโอ้ยสุดๆ พร้อมกับยิ้มมุมปากเล็กน้อย
" นี่นายกวนประสาทฉันหรอ " ฉันวีนแตกเพราะคำตอบสุดกวนกับไอ่สรรพนามที่ใช่เรียกฉันนั้นอีก
" ฉันจะถามอีกครั้ง นายเป็นใคร เข้ามาที่นี่ได้ยังไง " หมอนั่นไม่ตอบแต่กลับก้มหน้าลงมาช้าๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
" นะ นะ นี่ นายจะทำอะไร "หมอนั่นไม่ตอบแต่กลับก้มลงมาเรื่อยๆ ฉันถอยหลังนี้แล้วหลับตาปี๋
ซู้ดดด !!!! เอ๊ะ ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมาเพื่ออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และพบว่าน้ำผลไม้ในมือที่ถือไว้มันหมดเกลี้ยงราวกับระเหยไปกับอากาศ พร้อมกันรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ถอยไปยืนอยู่ห่างฉันนิดหน่อย
" นี่นาย " ฉันชี้หน้าเตรียมจะด่าแต่ก็ต้องหยุดเพราะหมอนี่พูดขัดขึ้นมาก่อน
" ก็ป้านั้นแหละ ชวนผมพูด ผมก็เลยคอแห้ง " หน้าตาของหมอนั้นมันกวนโอ้ยสุดๆเห็นแล้วหงุดหงิด ขอถอนคำพูดที่ชมไปเมื่อกี้ นายนี่มันปีศาจในร่างเทวดาชัดๆ
" ขอบคุณสำหรับน้ำผลไม้นะครับ " พูดจบหมอนั้นก็หันหลังเดินจากไป
" นี่เดี๋ยวก่อน นายเป็นใคร มาคุยกันให้รู้เรื่องเลยนะ " ฉันตะโกนตามหลังของหมอนั้นไป แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้สนใจและเดินหายไปในความมืด โดยไม่แม้แต่จะหันกลับมา
" ไอ่ บ้า เอ้ย @#$%@$#@$ " ฉันปาแก้วน้ำลงถังขยะพร้อมสบถคำหยาบอีกมากมาย คิดแล้วก็โมโหไม่หาย ป้างั้นหรอฉันดูแก่ตรงไหนไม่ทราบ อย่าให้เจออีกนะ นายตาย
.............................................
แสงแดดยามเช้าที่ส่องเข้ามาในห้องนอนผ่านหน้าต่างบ้านเล็ก มันแยงตาจนทำให้ฉันตื่น วันนี้อากาศแจ่มใสจังแหะน่าจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นนะ ว่าแล้วฉันก็ลุกจากเตียงไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำทันที วันนี้ฉันต้องเข้าไปโรงพยาบาลกับแม่ปิดเทอมทีไรฉันก็ไปที่นั้นเป็นประจำแหละ อยู่บ้านก็เบื่อ
ก็อก ก็อก ก็อก !!!
" เมลเสร็จรึยัง "
" เสร็จแล้วค่ะแม่ " ฉันเดินไปหยิบโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ใส่ในกระเป๋าสะพายแล้วเดินออกจากห้องไป
ณ โรงพยาบาล
" เมื่อวานหายไปไหนมา แม่จะแนะนำให้รู้จักกับท่าน ผอ. ซักหน่อย " แม่พูดขึ้นระหว่างเดินไปที่ห้องทำงาน
" ก็ในงานมันน่าเบื่อนี่ค่ะเลยออกไปเล่น แล้วทำไมต้องแนะนำหนู้ด้วยล่ะค่ะ " ฉันตอบแม่แล้วทำหน้ามุ่ย
" ก็ ผอ. เค้าอยากให้ช่วยดูแลลูกชายเค้าที่ย้ายมาอยู่กับเค้าที่นี่ให้หน่อยนะสิ แม่ก็เลยบอกไปว่าเมลจะเป็นคนดูแลให้เองนะ " แม่ฉันอธิบายยาว แต่
" แต่แม่ค่ะ แม่ยังไม่ได้ถามความสมัครใจหนูเลยนะ ให้หนู้ไปเลี้ยงเด็กเนี่ยนะ ไม่เอาอ่ะ " ฉันตอบทันทีพร้อมบ่นอู้อี้
" แต่แม่รับปาก ผอ. ไปแล้วนี่ ช่วยแม่หน่อยแล้วกันนะ " แม่พูดด้วยน้ำเสียงเชิงขอร้องสุดๆ มาไม้นี้อีกแล้ว แม่เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่อยากให้ฉันช่วยอะไร แล้วฉันก็ต้องยอมทุกทีสิหน่า
" ก็ได้ๆ แต่ถ้าไม่ไหว หนูจะไม่ทนนะ " ฉันตอบแม่แบบเซ็งๆ
และแล้วฉันก็มายืนอยู่หน้าห้อง ท่าน ผอ. พร้อมกับแม่ ก็อก ก็อก ก็อก !!!!
" ใครครับ " เสียงคนที่อยู่ข้างในห้องถาม
" ฉันเองค่ะ สุธิชา พาเมลมาทำความรู้จักค่ะ "
" เชิญครับ "
ฉันเดินเข้ามาข้างในพร้อมกับแม่ สมกับเป็นห้องทำงานของคนที่ใหญ่ที่สุดในโรงพยาบาลจริงๆมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ตู้เย็น แอร์ ทีวี หรือแม้แต่ห้องน้ำส่วนตัว และสายตาก็มาหยุดอยู่ที่ ผู้ชายวัยกลางคนกำลังนั่งทำงานอยู่ตรงโต๊ะกลางห้อง เค้าเงยหน้าขึ้นมามอง หน้าตาสุขุมแต่ลอยยิ้มกับออ่อนโยน
" สวัสดีค่ะท่านผู้อำนวยการ หนู เมลค่ะ " ฉันยกมือไหว้คนตรงหน้าและแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มที่สดใส
" หน้าตาน่ารักจริงๆครับ " ท่าน ผอ. หันไปพูดกับแม่ฉัน
" เรียกลุงว่า ลุงปราน ก็ได้นะ หนูเมล " ท่านผูอำนวยการ เอ้ย ลุงปราน พูดกับฉัน
" แม่หนูบอกว่า ช่วงปิดเทอมหนูมักจะมาช่วยงานที่นี่เสมอ ลุงเลยอยากจะลบกวนให้หนูช่วยดูแลลูกชายของลุงให้หน่อยนะ เพราะลุงคงไม่มีเวลาดูเท่าไหร่ "
" เอ่ออ ทำไมคุณลุงไม่จ้างพี่เลี้ยงมาดูแลล่ะค่ะ เดี๋ยวหนูหาคนที่ไว้ใจได้ให้เอามั้ยค่ะ " ฉันถามไปแบกล้าๆกลัวๆ แต่ก็นะฉันไม่ถูกโฉลกกับเด็กซักเท่าไหร่แค่ลูกพี่สาวที่วิ่งซนอยู่บ้านก็เหนื่อยจะแย่
" 5555 ลูกชายลุงหน่ะ มันไม่ " ก็อก ก็อก ก็อก คุณลุงกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็มีเสียงเคาะประตูเข้ามาขัดจังหวะ
" เข้ามาสิ ลูกชายลุงมาแล้วล่ะ " คุณลุงพูดขึ้นฉันจึงหันไปมองทางประตูห้องที่ตอนนี้กำลังถูกเปิดเข้ามา และพอบุคคลใหม่ก้าวเข้ามาในห้อง
" นี่ นาย " ฉันอุทานแล้วชี้หน้าคนที่มาใหม่ด้วยเค้าตกใจ
" นี่ เธอ " สีหน้าหมอนั้นก็แสดงออกถึงความตกใจ
" อ่าว รู้จักกันมาก่อนหรอ " ลุงปรานพูดขึ้นในขณะที่ฉันยังยืนอึ้งอยู่
" ก็ไม่เชิงครับพ่อ " หมอนั้นตอบแทนฉัน แต่ว่า เมื่อกี้นายนั้นเรียกลุงปรานว่าอะไรนะ พ่อ หรอ หรือว่า
" ลุงปรานค่ะ ลูกชายที่ว่านั้น " ฉันชี้ไปทางหมอนั่น
" ใช่แล้ว คนที่หนูเมลต้องเป็นพี่เลี้ยงให้ไง " ลุงปรานตอบด้วยร้อยยิ้ม พริมใจ
" นี่นะหรอครับ พี่เลี้ยงของผม " หมอนั้นถามขึ้นบ้าง
" ลูกชายลุงก็โตป่านนี้แล้ว จะมีพี่เลี้ยงไปทำไมล่ะค่ะ " ฉันถามขึ้นอีกครั้ง
" ก็ไม่เชิงเป็นพี่เลี้ยงหรอกนะ ออกจะให้มาเป็นเพื่อนมากกว่านะ เพราะลูกชายลุงก็ไม่มีเพื่อนที่นี้กลัวจะเหงานะ " ชางเป็นพ่อที่ประเสริฐจริงๆ อาจจะเพราะปากอย่างนั้นเลยไม่มีเพื่อนก็ได้
" ลูกชายลุงชื่อ ซัน อายุน้อยกว่าหนูแค่ 2 ปีนะ ฝากหนูดูแลระหว่างอยู่ที่นี้ด้วยนะ "
" แต่ หนู .... "
" รับรองค่ะ ว่าเมลจะดูแลคุณซันเป็นอย่างดี " แม่ตอบแทนก่อนที่ฉันจะพูดอะไรอีก ฉันหันไปมองค้อนแม่ แม่ก็ได้แต่ส่งสายตาอ้อนวอนกลับมา
" ค่ะ " ฉันจึงไม่มีทางเลือกและก้มหน้ารับปาก แล้วหันไปยิ้มประชดให้นายซันเด็กเปรตนั้น ที่แท้ก็อายุน้อยกว่าฉันตั้ง 2 ปี คอยดูเถอะ ฉันจะเอาคืนนายให้สาสม
" ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับคุณพี่เลี้ยง " เด็กเปรตหันมายิ้มให้ฉันด้วยใบหน้ากวนโอ้ยกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้น เหอะ เอาซิ นายกับฉันใครจะอยู่ใครจะไป มาตัดสินต่อจากนี้.......
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ