One life ครั้งหนึ่งในโรงเรียน

7.8

เขียนโดย Tokanokung

วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.22 น.

  12 ตอน
  15 วิจารณ์
  13.67K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ประชุมใหญ่.....

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Lessons 6 : ประชุมใหญ่......

 

           ในที่สุดวิกฤตใหญ่ที่สุดตอนนี้ก็ทำให้สมาชิกชมรมทุกคนต่างหนักใจ เพราะว่าพวกเราทุกคนไม่รู้ว่าจะหาสมาชิกอีกหนึ่งคนมาจากไหน หลังจากนั้นไม่นานสมาชิกคนแรกที่ขอ กลับบ้านก่อนก็คือยัยไม้กระดานเธอคนนั้นเดินคอตกแทบจะลากกับพื้นออกไปจากห้องชมรม ส่วนที่เหลือก็ต่างแยกย้าย ส่วนผมแค่รู้สึกยังไม่อยากกลับบ้านก็เลยขอนั่งอยู่ในห้องชมรมต่อ พอได้นั่งอยู่ในห้องชมรมคนเดียวมันดูวังเวงน่ากลัวอยู่เหมือนกัน นั่งอยู่ได้ไม่นานผมก็เดินไปหยิบหระเป๋าพร้อมจะกลับบ้าน เปิดประตูออกมาหน้าห้องชมรมแล้วมองไปรอบๆผมก็เพิ่งได้สังเกตเห็นว่าทั้งชั้นนี้มีห้องชมรมทั้งหมด4ชมรม ชมรมแรกจากบันไดทางขึ้นคือชมวิจัยเรื่องลึกลับ ถัดมาคือห้องชมรมของเรา ชมรมที่อยู่ห้องที่3คือชมรมวรรณกรรม     ห้องที่4คือชมรมคารูตะ  จะว่าไปห้องชมรมคารูตะอยู่ชั้นนี้ได้ก็เพราะมีแต่ชมรมที่ไม่ส่งเสียงดังสินะ เพราะว่าการเล่นคารูตะต้องใช้สมาธิและความเงียบอย่างมากทีแรกผมกะจะเข้าชมรมนี้แหละ...

        ผมเดินมาถึงหน้าบันไดก็ได้ยินเสียงประตูเปิดออกมาจากห้องชมรมวิจัยเรื่องลึกลับ

"เฮ้!นาย.."

        หูของผมได้ยินแบบนั้นร่างกายก็ต้องหันไปดูทันที สิ่งมีชีวิตที่สายตาของผมเห็นคือ ร่างของเด็กผู้ชายที่น่าจะอายุประมาณเท่าผมแต่มันตัวเล็กกว่าผมเรียกได้ว่าตัวเตี้ยก็ได้

 

      ผม: เรียกฉันหรอ?

     ตัวเตี้ย: ก็นายนั่นแหละ

     ผม: มีธุระอะไรกับฉันงั้นหรอ

     ตัวเตี้ย: เออนายกำลังจะกลับบ้านหรือเปล่า พอดีอาคารมันน่ากลัวนะ เดินไปด้วยกันได้มั้ยพอดีฉันกลัวผี...

     ผมได้แต่คิดในใจว่า มันอยู่ชมรมวิจัยเรื่องลึกลับแล้วมันจะกลัวผีทำไม .......

     ผม: ก็ได้อยู่หรอก

 

         จากนั้นผมกับมันก็เดินลงจากชั้นสี่ลงไปถึงชั้นหนึ่งโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันเลย ระหว่างทางมันก็ทำทางกลัวผีของมันมาตลอดทางพอถึงชั้นหนึ่งมันก็ขอบคุณผมแล้วรีบวิ่งจากไปเหมือนมันไม่อยากจะอยู่อาคารเรียนนี้ แล้วผมก็เดินกลับบ้านตามปกติ ระหว่างทางผมเดินผ่านสนามฟุตบอลก็เห็นชมรมเบสบอลกำลังซ้อมกันอย่างหนัก

         ผมเดินมาถึงหน้าห้องพักของผม ได้แต่คิดว่าพรุ่งนี้ขอให้มีสมาชิกมาสมัครเข้าชมรมพรุ่งนี้จะได้รีบตั้งชมรมกัน ก็ได้แค่ภาวนาล่ะนะ.........

         เช้าวันรุ่งขึ้น ผมมาถึงโรงเรียนไม่เช้าแต่ก็ไม่ได้สายมากนัก วันนี้ก็เหลืออีก12วันแล้วสิถ้าหาสมาชิกไม่ได้ในภายใน12วันนี้ ชมรมของเราก็ต้องถูกปิด เดินมาถึงห้องเรียน ผมก็เดินไปนั่งที่นั่งของผมแต่วันนี้ไม่มีใครมาคุยเรื่องชมรมกับผมเลยปกติอย่างน้อยทุกวันก็จะมียัยผู้หญิงที่ชื่อจูเนียร์วิ่งเข้ามาคุยเรื่องชมรมตั้งแต่เช้า แต่วันนี้กับไม่มีเสียงหนวกหูนั่นมันก็ทำให้รู้สึกเหงาๆอยู่เหมือนกัน เวลาผ่านไปก็พักเที่ยงแล้ว น่าแปลกใจที่สมาชิกชมรมทุกคนวันนี้ ทำข้าวกล่องมาจากบ้านกันหมดแต่ยกเว้นผมคนเดียวแน่นอนเพราะผมได้อยู่บ้าน แต่จูเนียร์ก็ไม่ได้อยู่บ้านเหมือนกันทำไมยัยนั่นถึงมีข้าวกล่องมาล่ะ ทุกคนเดินไปรวมกันที่โต๊ะของจูเนียร์ที่อยู่ริมหน้าต่าง....


      ผม: ทุกคนเอาข้าวกล่องมากันหมดเลยหรอ

      แบงค์: ไม่ได้เอามาหรอครับ

     ผม: เออนะสิ เดี่ยวฉันต้องลงไปซื้อก่อนนะ ว่าแต่เธอเถอะทำไมเธอถึงมีข้าวกล่องล่ะอย่าบอกนะว่าทำเอง

     จูเนียร์: ก็ฉันไม่ได้พักอยู่คนเดียวสักหน่อยฉันอยู่กับแม่นะอย่างน้อยฉันก็เป็นผู้หญิงนะพ่อแม่ฉันก็ต้องห่วงลูกสาวบ้างสิเผื่อมีพวกโรคจิตมาทำอะไรไม่ดีกับฉันอย่างน้อยฉันก็มีแม่อยู่ด้วย ถึงแม่ฉันจะกลับบ้านบ่อยก็เถอะแต่ก็มาที่นี่บ่อยเหมือนกัน ว่าแต่นายเถอะอย่าบอกนะว่าอยู่ห้องคนเดียวไม่เหงาบ้างหรือไง

    ผม: อย่างเธอฉันคิดว่าไม่ต้องกลัวเรื่องพวกนั้นหรอก ฉันอยู่คนเดียวก็จริงแต่ฉันไม่เหงาหรอกนะ! ฉันไปซื้อกินของก่อนนะ กินข้าวไปก่อนก็ได้นะเดี่ยวฉันกลับมา...

 

            แล้วผมก็รีบวิ่งไปซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อที่อยู่เกือบจะถึงโรงอาหาร ระหว่างทางที่เดินไปซื้ออาหารกลางวันผมก็นึกถึงคำพูดของจูเนียร์ขึ้นมาคำพูดที่ว่า

"นายอยู่คนเดียวนายไม่เหงาหรือไง"

           ที่ผมตอบไปก็แค่คำโกหกของผมเท่านั้น ที่จริงการอยู่คนเดียวของผมผมเหงามากๆ แต่ก็ต้องเก็บไว้จะไปบอกใครได้ล่ะเรื่องน่าอายแบบนี้ ผมจึงรีบเร่งฝีเท่าเพื่อไปซื้ออาหารกลางวันของผมเพราะผมหิวมากร้านสะดวกซื้อของเขตเรามี2ที่คือที่ระหว่างทางไปอาคาร6และก็ตรงที่ใกล้กับโรงอาหาร แล้วที่ร้านสะดวกซื้อคนก็เยอะมากเหมือนแจกฟรีซึ่งมันก็ยิ่งกินเวลาของผมไปนานและแล้วผมก็ซื้อของเส็จแล้วเดินกลับมาที่ห้องเรียนของผม เพื่อนที่ร่วมชมรมของผมก็กินข้าวรอผมอยู่....

 

      จูเนียร์: นี่ไปซื้อข้าวหรือทำไปกินเองนานขนาดนี้

      ผม: ก็คนมันเยอะนิก็ต้องต่อแถวสิ

     จูเนียร์: มัวแต่พูอยู่นั่นแหละมากินได้แล้วจะได้คุยกันเรื่องสมาชิกอีกคนนึงกันต่อ

     ผม: สมาชิกอีกคนงั้นหรอ คุยถึงไหนกันแล้วล่ะ

     จูเนียร์: ก็กำลังปรึกษากันอยู่ว่าจะหาสมาชิกอีกคนจากไหน จะหาจากห้องนี้หรือจากห้องอื่น

     ผม: คนในห้องนี้ส่วนมากก็มีชมรมกันไปหมดแล้ว ฉันว่าลองรอกันก่อนไหมยังไงเราก็ไปติดใบปลิวกันที่ส่วนต่างของเขตแล้วคงมีคนเห็นบ้างแหละ

    จูเนียร์:แค่รอมันคงไม่ทันหรอกเราต้องหาทางอื่นไปด้วย

    แบงค์: งั้นเราแบ่งเป็น2กลุ่มเอาไหม แล้วผลัดกันเฝ้าห้องชมรมตอนเลิกเรียนเผื่อมีคนมาสมัครที่ห้องชมรม แล้วอีกกลุ่มนึงก็เดินหาภายในเขตแบบนี้ดีหรือเปล่าครับ

    ผม: เป็นความคิดที่ดีนะเนี่ยนายดูฉลาดกว่าดูภายนอกนะเนี่ย

    จูเนียร์: ฉันเห็นด้วย! อาร์เธอว่าไงบ้างกับแผนนี้

    อาร์ :ฉันก็เห็นด้วย...(วันนี้เหมือนเพิ่งได้ยินเสียงของเธอคนนี้)

    จูเนียร์: งั้นแผนนี้เริ่มวันนี้เลยนะ และอีกอย่างวันนี้คาบเรียนตอนบ่ายทั้งหมดไม่มีเรียนล่ะโชคดีจริงๆวันนี้

    ผม: อ้าว! วันนี้ตอนบ่ายไม่มีเรียนงั้นหรอ ทำไมล่ะ?

   แบงค์: ผมก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ทำไมถึงยกเลิกล่ะครับ

   จูเนียร์: เห็นทางโรงเรียนบอกว่าวันนี้ครูทั้งโรงเรียนมีประชุมกันที่เขตHC น่ะ

   ผม: งั้นหรอ แล้วเราจะแบ่งกลุ่มยังไงดีวันนี้ แต่ฉันขออยู่เฝ้าอยู่ห้องชมรมนะวันนี้

   จูเนียร์: งั้นฉันไปเดินหากับแบงค์เอง...(มันจะรอดมั้ยเนี่ยสองคนนี้ไปด้วยกันมันต้องทะเลาะกันตลอกทางแน่)

   ผม: งั้นฉันก็อยู่ห้องชมรมกับอาร์สินะ

   จูเนียร์: แล้วตอนเลิกเรียนพวกฉันจะกลับไปห้องชมรมนะ งั้นกินข้าวเส็จก็แยกย้ายกันเลย.....



          จากนั้นพวกเรากินข้าวเส็จก็แยกย้ายกัน จูเนียร์กับแบงค์ก็เดินไปหาสมาชิกในชมรมทันทีผมไม่อยากจะคิดสภาพตอนสองคนนี้มันอยู่ด้วยกันสองคนมันสองคนคงจะทะเลาะกันจนหาที่สุดไม่ได้...ผมจึงหันหน้าไปหาสาวเงียบประจำชมรมของเรา....

 

    ผม: เราไปกันเลยมั้ย เอากระเป๋าไปด้วยเลยก็ได้นะเพราะคงไม่ได้กลับมาห้องเรียนแล้วล่ะ

    อาร์: อืม...ไปกันเถอะ

 

         เราสองคนก็ได้มุ่งหน้าไปที่ห้องชมรมของเราทันทีระหว่างทางเราก็ได้คุยกันหลายเรื่องเพราะกว่าจะเดินมาถึงห้องชมรมมันก็ไกลเอาเรื่อง จำไม่ได้ว่าคุยเรื่องอะไรไปบ้างแต่เหมือนเราก็คุยกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเราเดินกันมาถึงชั้น4อาคาร6กันเรียบร้อย เสียงแรกที่ได้ยินที่เดินขึ้นมาถึงชั้นนี้คือเสียงการตบเสื่อของชมคารูตะ ชมรมนี้ก็คงฝึกซ้อมกันอย่างหนักผมอยากเดินเข้าไปในห้องชมแล้วนั่งดูจริงๆเราสองคนเดินมาถึงหน้าห้องชมรมของเราเปิดเข้าไปสภาพห้องก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พวกเราสองคนเดินเข้าไปนั่งกันอย่างเป็นระเบียบพอนั่งได้สักพักยัยนั่นก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านทันที จะว่าไปพอได้นั่งอยู่ในห้องนี้มันก็ไม่มีอะไรทำเลยจริงๆแหะไม่มีกิจกรรมทำ ไม่มีงานอะไรที่ส่งมาจากทางเขตหรือสภานักเรียนเลยแล้วจริงๆแล้วชมรมนี่มันต้องทำอะไรบ้างล่ะเนี่ย ผมไม่มีอะไรทำก็พยายามที่จะชวนอาร์คุยบรรยากาศภายในห้องจะได้ไม่เงียบเกินไป....

 

       ผม: ที่จริงเธออยากเช้าชมรมไหนหรือเปล่าถ้ายังไม่ได้เข้าชมรมนี้

      อาร์:อยากเข้าชมรมการอ่าน

      ผม:ถ้าอยากเข้าชมรมการอ่านตอนนี้ก็ยังไปสมัครได้นะเพราะชมรมเรายังไม่ได้ก่อตั้งอย่างเป็นทางการเลย

     อาร์:ไม่เป็นไรหรอก อยู่ชมรมนี้ก็สนุกดี

     ผม:สนุกตรงไหนหรอทำไมฉันไม่เห็นรู้สึกอย่างนั้นเลย

     อาร์: อีกไม่นานเธอก็จะรู้เอง...

 

          หลังจากนั้นบรรยากาศภายในห้องชมรมก็ดำดิ่งลงสู่ความเงียบอีกครั้ง จนเวลาผ่านไปจนถึงเวลาเลิกเรียน ก็มีเสียงประตูเปิดเข้ามาภายในห้อง  "ไง! " มีคนมาสมัครเข้าชมรมไหมเสียงของจูเนียร์ดังขึ้น....

 

     ผม: ไม่มีเลยทางนั้นล่ะหาได้สักคนไหม

     จูเนียร์: ไม่มีเลยนะสิ ก็คนที่ไปกับฉันนะคอยขัดฉันตลอดเลยว่าคนนั้นคนนี้ไม่เหมาะกับชมรมเราฉันล่ะเหนื่อยจริง..(นั่นไงตูว่าแล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้)

     แบงค์: ก็แต่ละคนดูไม่เป็นงานเป็นการเลย

    จูเนียร์:แต่เราต้องหาให้ได้สักคนก่อนเพื่อตั้งชมรมนะ

    ผม: พอก่อนเถอะทั้งสองคน วันนี้หาไม่ได้วันหลังค่อยพยายามกันใหม่ งั้นพรุ่งนี้ฉันไปกับเธอเอง...

   จูเนียร์: โอเค! ก็ได้ (เธอพูดด้วยนำ้เสียงหงุดหงิด)....

    ผม: งั้นวันนี้เลิกชมรมแค่นี้นะ....

    จูเนียร์: งั้นฉันไปก่อนนะ (เธอรีบวิ่งออกจากห้องชมรมอย่างรวดเร็วตามเคยไม่รู้จะรีบไปไหน)

    ผม: อืม....

    แบงค์: งั้นผมกลับก่อนนะครับ..

    อาร์: ฉันก็ด้วย

    ผม: งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ.....

 

         เมื่อวันเวลาผ่านไปก็ยังไม่มีใครมาสมัครเข้าชมรมพวกผมก็ทำตามแผนที่วางไว้กันทุกวัน ผมก็ได้ไปเดินหาสมาชิกกับจูเนียร์ วันถัดมาผมก็ได้นั่งอยู่ห้องชมรมกับแบงค์พวกเราทำอย่างนี้กันอยู่ตลอดพวกเราไม่ยอมให้เวลาผ่านไปได้โดยเปล่าประโยชน์.....

         เช้าวันนี้ผมตื่นเกือบจะสายแต่ก็ยังทันเวลาอยู่ หลังจากที่พวกเราทำตามแผนที่วางไว้มาโดยตลอดพอถึงวันนี้ก็เหลือเวลาอีกแค่3วันเท่านั้นที่จะหาสมาชิกเข้ามาในชมรมเพียงอีกคนเดียวชมรมของเราก็จะไม่ถูกยุบ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปหาสมาชิกอีกคนมาจากไหน ถ้าวันนี้ยังหาสมาชิกชมรมไม่ได้ก็ต้องรอพรุ่งนี้เหลืออีกแค่2วัน วันนี้จะมีใครมาสมัครเข้าชมรมเราหรือเปล่านะ

        ผมเดินไปโรงเรียนด้วยอาการเร่งรีบ พอถึงโรงเรียนก็เข้าเรียนเรียนตามปกติไม่มีอะไรพิเศษ จนถึงเวลาเลิกเรียนพวกสมาชิกชมรมก็หายกันจากห้องเรียนไปหมดอย่างเร็ว พวกนี้พอหมดคาบเรียนพวกมันก็แยกย้ายกันไม่รอเดินไปด้วยกันเลย ผมต้องทำตัวให้ชินไว้แล้วสิ ผมเก็บกระเป๋าแล้วรีบเดินไปที่ห้องชมรม  

         ผมก็เดินไปห้องชมรมตามปกติของผม แต่ระหว่างทางนั้นผมเดินมาถึงหน้าห้องเรียนห้องนึง ประตูบานนึงก็เปิดออกมาอย่างรวดเร็วจนแทบจะฟาดหน้าผมจนผมล้มลงไปกับพื้นเพราะผมเบรกหลบประตูอย่างกระทันหัน แล้วไอ้คนที่มันเปิดประตูโดยไม่ระวังคนนี้มันก็คือ.....คนที่ออกมาจากห้องชมรมวิจัยเรื่องลึกลับเมื่อวาน แต่วันนี้มันกลับออกมาจากห้องชมรมวิจัยคอมพิวเตอร์....

 

      ผม: โอ้ย!!!! (ผมเปลี่ยนสรรพนามเรียกมันทันที)

      มัน: อ้าว!นาย โทษทีนะ พอดีรีบไปหน่อย.. เป็นอะไรมั้ย

     ผม: แกนะ เปิดตูก็เปิดเบาๆหน่อยสิ ข้างนอกก็มีคนเดินนะจะรีบไปไหนเนี่ย..

     มัน: พอดีผมทำธุระอยู่นะครับ ไม่เป็นไรมากใช่มั้ยครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะ...

 

         แล้วมันก็วิ่งจากไปด้วยอาการรีบร้อน สงสัยมันจะรีบจริงๆ ส่วนทางผมก็ต้องรีบไปที่ห้องชมรมแล้วสิ ตอนนี้ก็สายแล้วพวกนั้นคงรอผมอยู่ที่ชมรมนานแล้ว.....

         ผมเดินมาถึงหน้าห้องชมรมแล้วเปิดประตูเข้าไป และเป็นอย่างที่ผมคิดทุกคนมาอยู่ที่ห้องชมรมหมดแล้ว เสียงแรกที่ผมได้ยินเหมือนประโยคเดจาวู...

 

      จูเนียร์: นี่จะมาสายทุกวันเลยใช่มั้ย ถ้ามาขนาดนี้ไม่มาพรุ่งนี้เลยล่ะ

      อาร์ : มาสายนะ...

      ผม: ไม่ขอแก้ตัวล่ะกันนะ วันหลังจะมาให้เร็วกว่านี้ล่ะกัน

      จูเนียร์: เอาล่ะเรื่องนั้นชั่งมันก่อนเถอะ วันนี้พวกเราจะเฝ้าชมรมด้วยกันทั้งหมดแล้วก็เอาโอกาสนี้ประชุมกันไปด้วย ก่อนอื่นต้องทำป้ายไปติดหน้าห้องก่อนว่านี่คือห้องชมรมของเราเพราะห้องชมรมของเราไม่มีป้ายบอกว่านี่คือห้องอะไร ที่ไม่มีป้ายเพราะชมรมของเราต้องไม่ให้ใครรู้ว่าชมรมของเราอยู่ที่ไหนแล้วแต่ละปีห้องชมรมของเราก็จะเปลี่ยนที่ไปทุกปี ที่จะรู้ก็จะมีพวกสภานักเรียนแล้วก็คุณครูแค่บางคนเท่านั้น..

 

      ผม:จะว่าไปห้องชมรมก็ไม่ป้ายจริงๆด้วย เพราะชมรมที่อยู่ชั้นเดียวกันกับพวกเราก็มีป้ายกันหมด..

      จูเนียร์: แต่เราจะติดแค่วันนี้กับวันพรุ่งนี้เท่านั้น ถ้าไม่ใครมาค่อยคิดแผนใหม่กันอีกที ฉันไม่ยอมให้ชมรมถูกปิดไปง่ายๆหรอกแต่ตอนนี้ฉันคิดแผนไม่ออกเอาไว้คิดทีหลังนะ ฉันทำป้ายห้องชมรมเส็จแล้วเดี่ยวฉันเอาไปติดก่อนนะ

 

           หลังจากนั้นพวกเราก็ต่างคนต่างพูดคุยกัน ทุกคนก็ดูมีความสุขและสนุกในแบบของแต่ละคนถ้าชมรมนี้ถูกปิดไปคงจะไม่ได้เห็นรอยยิ้มมีความสุขที่มารวมตัวกันแบบนี้อีกแล้ว และแล้วเวลาก็ชั่งผ่านไปเร็วเวลาเลิกชมรมก็มาถึงทุกคนก็เงียบลงแล้วต่างคนก็ต่างเริ่มเก็บกระเป๋าพร้อมจะเดินทางกลับบ้าน แล้วคนที่จะเดินออกจากห้องชมรมคนแรกก็ยังเป็นยัยไม้กระดานตามเคย ไม่รู้ว่าเธอคนนี้รีบไหนทุกวัน ยัยไม่กระดานกำลังจะเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู แต่ลูกปิดประตูนั้นกลับถูกหมุนแล้วเปิดเข้ามาจากด้านนอก.... .... ทุกคนต่างตกใจที่จะมีคนอื่นเปิดเข้ามาห้องชมรมทั้งที่สมาชิกชมรมทุกคนอยู่ภายในห้องชมรมหมดแล้ว

           แล้วประตูก็ค่อยๆเปิดออกทีละนิดเริ่มเผยให้เห็นคนที่เปิดประตูเข้ามาทีละนิดจนเห็นคนที่เปิดประตูเข้ามาอย่างเต็มตัว.......

"สวัสดีครับ..!"

     นั่นคือเสียงแรกจากที่พวกเราได้เห็นสภาพของคนคนนั้นเต็มๆ........

      ผม: เอะ! แก... แกมาทำอะไรที่นี่!!

     จูเนียร์: อ้าว! คนรู้จักนายหรอ?

     ผม: ก็ไม่หรอก... เคยคุยผ่านๆนะ

     จูเนียร์: งั้นหรอ.. ว่าแต่นายนะมาทำอะไรงั้นหรอ?

     มัน: เออ.... พอดีผมมาสมัครเข้าชมรมนะครับ ที่นี่ยังรับสมัครคนเข้าชมรมอยู่หรือเปล่า...

           พอได้ยินประโยคนี้ทุกคนก็แสดงปฏิกิริยาออกมาทันที... ยัยไม่กระดานแสดงสีหน้าดีใจอย่างชัดเจนพร้อมวิ่งเข้าไปหาเจ้านั่นทันที ส่วนแบงค์ก็ลุกจากเกัาอี้แล้วเดินเข้าไปหาเจ้านั่นเช่นกัน ส่วนอาร์ก็แค่ปิดหนังสือแล้วหันมาจ้องที่เจ้านั่น ส่วนผมก็ยืนอึ้งอยู่เฉยๆ หลังจากนั้นพวกเราก็ถามประวัติเจ้านั่นแล้วก็ให้กรอกใบสมัครอย่างรวดเร็ว ประวัติมันผมก็จำได้แค่ชื่อแหละ ชื่อจริงของมันผมไม่จำ จำได้แค่ชื่อเล่น มันชื่อว่า มาย ชือเหมือนผู้หญิงชะมัด....

 

     จูเนียร์: พรุ่งนี้เราจะไปยื่นใบขอตั้งชมรมกัน!! แค่นี้ชมรมเราก็่ถูกปิดแล้ว..!!

     อาร์: ฉันว่าเราขาดอะไรไปอย่างนึง

     จูเนียร์: อะไรงั้นหรอ

     ผม: นั่นสิอะไรงั้นหรอ

     อาร์: ครูที่ปรึกษาไงเรายังไม่มี

     จูเนียร์: เรื่องนั้นค่อยหาหลังตั้งชมรมก็ได้นิ

     แบงค์: เรื่องนั้นทำไม่ได้หรอกครับ เพราะถ้าไม่มีครูที่ปรึกษาจะตั้งชมรมไม่ได้ครับ

     จูเนียร์: เรื่องแบบนั้นมีด้วยงั้นหรอแล้วจะทำไรดีล่ะเนี่ย

     อาร์:ในหนังสือที่รุ่นพี่ทิ้งไว้ก็มีบอก

     ผม: เออ! ใช่สิที่รุ่นพี่บอกว่าถ้าจะหาครูที่ปรึกษาชมรมส่วนมากจะอยู่ภาควิชาสังคมฯ แล้วจะไปหาใครดีล่ะ

 

          หลังผมพูดจบได้ไม่นาน เสียงประตูก็ได้เปิดเข้ามาภายในห้องอีกครั้ง ทุกคนต่างหันหน้าและจดจ้องไปอยู่กับเสียงนั้นและคนที่เดินเข้ามานั่นก็คือ ผู้ชายที่พวกเราไม่คุ้นหน้าเลย.... สวัสดีทุกคน...พวกเธอคงจะไม่คุ้นหน้าครูล่ะสินะ ครูขอแนะนำตัวก่อนล่ะกัน

 

" ครูคือคูร คิจิน ครูจะมาเป็นครูที่ปรึกษาของชมรมนี้ ฝากตัวด้วยนะ"

ทุกคนต่างเงียบไม่มีใครพูดอะไรกับการแนะนำตัวของครูคนนี้เลย.....

 

        จูเนียร์: เออ... ถึงจะไม่เข้าใจเรื่องนี้เลยก็เถอะ แต่ก็ถือว่าดีมากแล้วนะ งั้นพรุ่งนี้เราจะไปยื่นใบของตั้งชมรมกัน.... สำหรับวันนี้!! เลิกชมรมได้.....!!!!!....



          วันต่อมาพวกเราก็ไปยื่นใบขอตั้งชมรมกับสภานักเรียน เรื่องทุกอย่างก็เป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีอะไรขัดข้องหลังจากนั้นพวกเราทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องชมรมแต่ครูที่ปรึกษาชมรมกับบอกเราว่าจะไม่ค่อยได้มาห้องชมรมเท่าไหร่เพราะครูก็เป็นที่ปรึกษาให้ชมดนตรีด้วย..... แต่เรื่องนั้นชั่งมันเถอะ พวกเราก็ตั้งชมรมขึ้นจริงจังแล้วแต่กลับไม่รู้เลยว่าหน้าที่ของชมรมพวกเราจริงๆต้องทำอะไรยังไงบ้าง พวกเรานั่งไปได้สักพักโดยที่สมาชิกทุกคนก็ไม่มีหน้าที่อะไรเลย จนกระทั่งคนที่แทบจะไม่พูดเลย ได้เอ่ยปากพูดขึ้น....

 

       อาร์: ทุกคน.. เมื่อกี้ก่อนฉันจะมาถึงห้องชมรมมีคนฝากจดหมายมาให้หัวหน้าชมรม

      จูเนียร์: จดหมายงั้นหรอ แต่ชมรมเราไม่มีหัวหน้าชมรมนะ งั้นเปิดอ่านให้ทุกคนฟังล่ะกัน

      อาร์: เอาไปสิ..



"เนื้อความในจดหมาย"
"ถึงหัวหน้าชมรมPIS ฉันคือหนึ่งในสมาชิกสภานักเรียน ฉันมีเรื่องมาแจ้ง ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ โรงเรียนเราจะมีประชุมสภานักเรียนซึ่งเป็นการปรึกษาเรื่องต่างๆภายในโรงเรียน เพราะฉนั้นให้หัวหน้าชมรมมาเข้าประชุมด้วย จบกัน!...... "



      ผม: เข้าประชุมงั้นหรอเรื่องใหญ่อีกแล้วนะเนี่ย

     จูเนียร์: ประชุมงั้นหรอ พี่ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟังเลยนะ

     แบงค์: แล้วใครจะเป็นคนไปล่ะครับ

     จูเนียร์: งั้นเราก็ไปกันหมดนี่แหละ

     มาย : หมดนี่เลยหรอพวกนั้นจะไม่ว่าอะไรใช่มั้ย

     จูเนียร์: ไม่ว่าไรหรอกมั้ง ถ้าว่าเราค่อยคิดแก้ปัญหาตอนนั้นเองล่ะกัน วันนี้ฉันรีบมากเลย สำหรับวันนี้แยกย้ายได้!!!!! ไปล่ะนะเจอวันจันทร์นะ วันหยุดสองวันทำการบ้านด้วยล่ะ บาย.....



            ยัยนั่นจากไปโดยที่ทุกคนไม่ได้พูดอะไร แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ผมก็เพิ่งรู้ว่าทางกลับบ้านของมายมันคือทางเดียวกันกลับผม ถ้าจะไม่พูอะไรกับมันเลยผมจะดูเป็นคนนิสัยแย่ไปเลยสินะ...

 

       ผม: เออ .... โทษทีนะไม่ใช่ว่านายอยู่ชมรมอื่นไปแล้วหรอ วันนั้นฉันเห็นนายเดินออกมาจากชมรมวิจัยเรื่องลึกลับ

      มาย: อ่อ วันนั้นผมเดินก็เดินหาชมรมของเราแหละครับแต่ผมถามใครก็ไม่มีใครรู้เลยว่าอยู่ที่ไหนเลย ผมก็เดินไปหาเข้าไปถามชมรมอื่นทุกชมรมเลย จนกระทั้งเมื่อวานผมก็เดินมากะว่าจะเดินไปถามชมรมคารูตะ แต่มันมีปัายติดหน้าห้องว่าชมรมPIS นั่นแหละครับ

      ผม: งั้นหรอ.... เออ....( ผมกำลังจะพูด)

      มาย: เอะ! ผมต้องแยกตรงนี้แล้วนะครับ แล้วเจอกันวันจันทร์ครับ.......

 

            แล้วมันก็แยกจากไปผมก็เดินต่อพลางนึกถึงจดหมายวันนี้ ประชุมกับสภานักเรียนงั้นหรอ... จะเป็นยังไงกันนะ นี่ชมรมของเรายังมีความลับเยอะอีกมากแค่ไหนกัน..........

 

....................END......................

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา