One life ครั้งหนึ่งในโรงเรียน

7.8

เขียนโดย Tokanokung

วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.22 น.

  12 ตอน
  15 วิจารณ์
  13.90K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) เผชิญหน้า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Lessons 7: เผชิญหน้า......

 

           หลักจากที่เราได้รับการเชิญให้ไปเข้าร่วมประชุมกับสภานักเรียนโดยที่พวกเรายังไม่ทันได้ตั้งตัวกันเลย วันเสาร์อาทิตย์ของผมก็ได้นั่งอยู่แต่ในห้องทำการบ้าน จะได้ออกไปนอกห้องก็ตอนหาข้าวกิน แต่วันหยุดของผมมันก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไปบางทีมันอาจจะแย่กว่าคนธรรมดาทั่วไปก็ได้ แต่ชั่งเรื่องวันหยุดของผมไปเถอะที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือ!! พวกเราอยู่หน้าห้องสภานักเรียนเรียบร้อยแล้ว!!!...

           ไม่ต้องตื่นเต้นไปหรอกครับคนอ่าน เพราะคนที่ตื่นเต้นกว่าพวกคุณยืนอยู่ตรงนี้ตั้ง5ตัว ตอนนี้พวกเรารู้สึกเหมือนเป็นปลวกตัวเล็กๆที่พร้อมจะโดนขยี้อย่างละเอียด แต่ถึงจะบอกว่า5ตัวแต่ก็เหมือนยังมี1ตัวที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกหรือสีหน้าอะไรเลย คงไม่ต้องบอกทุกคนก็น่าจะเดาได้นั่นก็คือ อาร์ เธอดูสงบและเยือกเย็นหัวใจคุณเธอชั่งแข่งแกร่งยิ่งนัก...

           ต้องขอย้อนไปตอนเช้าผมเดินเข้ามาในโรงเรียนแล้วก็ต้องเดินตรงไปที่ห้องชมรมทันทีเพราะตอนผมตื่นก็ตื่นมาเพราะเสียงโทรศัพท์จากยัยไม่กระดานโทรมาบอกว่าวันนี้ตอนเช้าไม่ต้องเข้าห้องเรียนให้มาที่ห้องชมรม แล้วยังบอกอีกว่าได้โทรไปบอกครูประจำชั้นว่าให้สมาชิกทั้งหมดต้องเข้าประชุมสภานักเรียนขอไม่เข้าเรียนหนึ่งวันหลังจากนั้นยัยนั่นก็วางสายไปโดยที่ผมไม่ได้พูดอะไรสักคำ พอผมเดินเปิดประตูเข้าก็เจอทุกคนมาถึงกันครบแล้ว ผมเดินไปนังเก้าอี้ที่ว่างอยู่....

 

     ผม:เรานัดกันมาทำอะไรกันงั้นหรอ

     แบงค์: น่าจะนัดมาประชุมกันเรื่องการประชุมสภานักเรียนนะครับ

     จูเนียร์: ใช่แล้วล่ะเราจะมาประชุมกัน ก่อนจะไปเจอพวกสภานักเรียน แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง มีใครมีแผนอะไรจะรับมือกับพวกนั้นมั้ย

     มาย: ผมมีๆๆ เราก็ฟังเรื่องที่พวกนั้นพูด แล้วเราก็ลงความเห็นกันว่าถ้าเรื่องนั้นมันมีผลดีต่อโรงเรียนและตัวนักเรียนทุกคนแต่ถ้าเรื่องนั้นมันไม่ดีต่อทุกคนเราก็คัดค้าน วิธนี้ดีหรือเปล่า!!...

     จูเนียร์: เห็นแบบนี้ฉันไม่คิดว่านายจะคิดอะไรแบบนี้ได้ด้วย แต่ชั่งมันเถอะงันเอาวิธีนี้แหละ.....

 

          พอรู้ตัวอีกที่หลังจากนั้นพวกเราทุกคนก็เข้ามาอยู่ในห้องประชุมเรียนบร้อยแล้ว ห้องประชุมของที่นี่ใหญ่เอามากๆเลยล่ะ ในห้องประชุมพวกเราทั้งหมดเป็นคนที่มาช้าที่สุด สมาชิกภายในห้องประชุมตอนนี้ นอกจากพวกเราก็มี อาจารย์อีก2ท่านที่เป็นผู้ชายทั้ง2ท่านแล้วก็สมาชิกสถานักเรียนอีก4 เป็นผู้ชาย3คนผู้หญิง1คน

         บรรยากาศภายในห้องเงียบมากจนแทบจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นของทุกคน จนกระทั้งมีเสียงของผู้หญิงคนของสภานักเรียนพูดว่า

" ขอโทษนะคะ เราต้องรอประธานของการประชุมครั้งนี้ก่อนค่ะ แต่วันนี้ประธานนักเรียนจะไม่มานะคะ ประธานนักเรียนจะส่งคนมาแทน ส่วนประธานนักเรียนของเขตเราติดประชุมใหญ่ของทั้ง3เขตค่ะ ที่เรียกว่าการประชุมของจตุรเทพค่ะ ขอโทษทีนะคะที่ประธานของพวกเรามาไม่ได้"

           หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นพูดจบ ก็ได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามาภายในห้อง

" ขอโทษที่มาช้านะครับ"

         นั่นคือเสียงแรกที่คนคนนั้นเดินเข้ามาภายในห้อง เมื่อทุกคนหันไปมองคนที่มีปฎิกริยาที่สุดก็เห็นจะมีผมกับยัยไม้กระดานส่วนคนที่อยู่ในเหตุการนั้นด้วยอีกคนก็คืออาร์ยัยนั่นไม่แสดงสีหน้าหรือมีอาการตกใจใดๆจิตใจเธอเปรียบได้เหมือนหิมะมันเย็นและก็เย็นแล้วก็ละลายไป  

         คนที่เดินเข้ามาภายในห้องประชุมก็คือไอ้คนที่มาทักเราตอนวันที่เราไปติดใบปลิวนี่มันเป็นใครกันนะ และนั่นก็เหมือนมันอ่านใจผมได้มันให้คำตอบกับพวกผมทันที มันเดินไปนั่งที่นั่งที่ว่างอยู่ตรงหัวโต๊ะ

"สวัสดีครับ ผมคือคนที่ประธานส่งมาแทนครับ ผมชื่อ คุซามิ มาโคโตะ เรียก มาโคโตะก็ได้ครับ ผมคือรองประธานของเขตนี้ครับ.... "

"อ้าว!ไง! เจอกันอีกแล้วนะ ชมรม PIS "

 

     ผม จูเนียร์ : รองประธานนนน!!!!!!! นายเนี่ยนะ!!!!!

     มาโคโตะ: แล้วมีปัญหาอะไรฟร่ะ เอะ!.. โทษทีครับ แล้วมีปัญหาอะไรครับ....

     ผม จูเนียร์: ก็ไม่มีอะไรหรอก...

     ผม:จะแก้ตัวก็ไม่ทันแล้วเว้ย เค้าได้ยินกันทั้งห้องแล้ว ( คิดในใจ..!)

     มาโคโตะ: คุณเลขาครับผมขอ เอกสารวาระการประชุมด้วยครับ

     ผม: ไอ้นี่พอกับผู้หญิงพูดเพราะเชียวนะ (คิดในใจอีกแล้วครับ...!)

     มาโคโตะ : จะเริ่มการประชุมนะครับ วันนี้เราจะประชุมกัน2หัวข้อครับ เรื่องแรก เราจะเริ่มหักคะแนนนักเรียนที่มาสายและหักคะแนนความประพฤติ ถ้าใครมาสายแล้วโดนหักคะแนนบ่อยๆทางเขตของเราจะให้ไปทำกิจกรรมกับทางโรงเรียนเพื่อชดเชยคะแนนที่เสียไปเราจะเริ่มแผนนี้เร็วๆนี้......

            พอผมได้ยินแผนแรกเหมือนจะมีแค่ผมคนเดียวที่เดือดร้อนเพราะผมคือคนเดียวที่น่าจะมาสายที่สุดในบรรดาพวกที่อยู่ในห้องนี้ ผมรีบหัดไปกระซิบคนที่นั่งอยู่ข้างผมทันที่...


     ผม: นี่ๆแบงค์ เราไม่คัดค้านแผนนี้หรอ..

     แบงค์ : ผมว่ามันก็ไม่ได้กระทบอะไรนะครับ ผมว่าแผนนี้ดีด้วยนะครับสำหรับผมไม่เป็นปัญหาอะไรกับแผนนี้เลยครับหรือว่าคุณมาสายหรอครับ
     ผม: แทบจะทุกวันเลยเว้ย...

     แบงค์ : งั้นผมว่ามันเป็นปัญหาของคุณคนเดียวเลยนะครับ แย่หน่อยนะครับต่อไปนี้คุนต้องตื่นเร็วหน่อยครับ

          ผมถอนหายใจอย่างสิ้นหวังสุดๆ แล้วก็ไม่มีใครคัดค้านเรื่องนี้ใดๆทั้งสิ้น ผมคงต้องมาโรงเรียนให้ไวขึ้นกว่าทุกวันแล้วสิ เฮ้ออ......

 

          มาโคโตะ: เอาล่ะครับเราจะพูดถึงเรื่องที่สอง เรื่องที่สองก็คือการยุบชมรมที่มีสมาชิกไม่ถึง5คนเพราะว่าถึงโรงเรียนของเราจะใหญ่แต่ห้องชมรมมันก็มีจำกัดยังมีคนที่จะตั้งชมรมที่มีสมาชิกครบ5คนและบางชมรมก็มากว่านั้น ตอนนี้ไม่มีห้องชมรมให้พวกนั้นอยู่ เราจึงต้องยุบชมรมบางชมรมที่ไม่มีสมาชิกครบ5คน เราได้มีรายชื่อชมรมที่มีสมาชิกไม่ครบ5คนมาแล้ว ซึ่งก็มีแค่ชมรมเดียวครับ ชมรมนี้สมาชิกจบไปเมื่อปีที่แล้วแล้วตอนนี้เหลือสมาชิกเพียงแค่2คนเท่านั้น ชมรมนั้นก็คือ.... ชมรมวิจัยเรื่องลึกลับ ครับ เราจะส่งเอกสารไปทางชมรมภายใน7วันครับ เรื่องที่เราจะประชุมกันวันนี้ก็มีแค่นี้ครับ มีใครจะเสนอหรือแสดงความคิดอะไรหรือเปล่าครับ

          เมื่อผมได้ยินแบบนั้นผมรีบยกมือขึ้นทันทีโดยที่ไม่ได้หันไปปรึกษาเพื่อนร่วมชมรมเลยแม้แต่น้อย และเมื่อผมยกมือขึ้น ผมมองไปที่ ไอ้รองประธานมันทำหน้าตกใจนิดนึง แต่เมื่อผมมองไปรอบๆก็เห็นว่า จูเนียร์ แบงค์ มาย ก็ยกมือขึ้นเหมือนกัน มีแค่อาร์คนเดียวที่ไม่ได้ยกมือ แต่ผมคิดว่ามันก็คงปกติของยัยนั่นแหละ

 

     มาโคโตะ : ใครจะพูดก่อนดีครับ?

     ผม : งั้นฉันขอพูดก่อนล่ะกัน เออ.....คือว่า ฉันคิดว่าน่าจะให้เวลาพวกเค้าอีกสักพักดีมั้ย ฉันว่ากว่าพวกเค้าจะตั้งชมรมขึ้นมาได้ มันก็คงใช้เวลาอยู่เหมือนกันแล้วนี่จะไปยุบชมรมพวกนั้นมันไม่ทำร้ายความฝันหรือความชอบของพวกนั้นมากไปหน่อยหรอ?

     แบงค์ : ผมว่าเราลองหาห้องที่ว่างอื่นก่อนมั้ยครับ บางที่มันอาจจะมีห้องว่างอยู่ก็ได้นะครับ เขตเราก็ไม่ใช่เขตเล็กๆมันน่าจะมีว่างอยู่บ้างนะครับ อีกอย่างถ้าพวกเรายุบชมรมพวกนั้นผมคิดว่าพวกนั้นคงจะเสียใจเหมือนกันนะครับ ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราดูสิครับ

     มาโคโตะ: ทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก เพราะถึงจะยังมีห้องว่างอยู่แต่ชมรมที่ไม่มีสมาชิกครบ5คนเราก็ต้องยุบชมรมไป

     จูเนียร์ : งั้นที่ว่าไม่มีห้องว่าก็เป็นแค่ข้ออ้างนะสิ จุดมุ่งหมายหลักของการตั้งชมรมคืออะไรล่ะไม่ใช่ว่าให้นักเรียนใช้เวลาว่าร่วมกัน ได้สนิทกันมากขึ้นไม่ใช่หรือไงถึงพวกนั้นจะมีสมาชิกไม่ครบแต่พวกนั้นก็คงสนุกกันอยู่พวกนายไม่คิดว่าการได้ใช้ชีวิตม.ปลายให้คุ้มก่อนจบไปมันไม่ดีหรือไง

     มาย: ส่วนผมคิดว่าที่ทุกคนพูดมาผมเห็นด้วยหมดเลยครับ.....

     ผม จูเนียร์ แบงค์ : เฮ้ย ! ไม่คิดจะคิดเองหรือไงเนี่ย

     มาย :ก็พวกนายแย่งฉันพูดไปหมดแล้วนิ อีกอย่างฉันก็คิดไม่ออกแล้วด้วย!!

     มาโคโตะ : เรื่องนั้นผมรู้ดีครับ แต่พวกเราให้เวลาหาสมาชิกเพื่อมมาตั้งแต่เปิดเทอมแล้วนะ นี่มันก็เลยเวลามามากแล้ว ยังไงก็ต้องยุบชมรมครับ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เขตพวกเราทำนะครับเพราะพวกเราก็ต้องยุบชมรมที่สมาชิกไม่ครบทั้งโรงเรียน แค่คำว่าความสนุกกับการใช้เวลาร่วมกันมันเอามาเป็นข้องอ้างไม่ได้หรอกนะ งั้นการประชุมครั้งนี้จบเท่านี้ คุณเลขาครับ ....!

     เลขา : ค่ะ !

     มาโคโตะ : ช่วยส่งจดหมายไปที่ชมรมวิจัยเรื่องลึกลับด้วยครับ ว่าเราจะยุบชมรมภายใน1อาทิตย์ ให้ย้ายของออกไปให้หมดด้วยครับเพราะจะมีห้องชมอื่นเข้าไปอยู่ สำหรับวันนี้ เลิก!!! แยกย้ายได้ ขอบคุณคุณครูทั้งสองท่านที่มาวันนี้ครับ ขอบคุณชมรม PIS ด้วยครับแล้วเจอกันการประชุมครั้งหน้าครับ .....

 

          หลังจากนั้นพวกเราก็เดินออกมาจากห้องประชุมด้วยความรู้สึกแย่ ถึงเราจะแย้งกลับไปแต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ พวกคุณสงสัยใช่มั้ยล่ะว่าทำไมผมต้องเดือดร้อนแทนชมรมอื่นทั้งๆที่ก็ไม่เคยคุยกัน เพราะผมรู้ไงว่าชีวิตมัธยมมันมีครั้งเดียวในชีวิต แล้วถ้ามีคนมาบอกให้คุณหยุดทำสิ่งที่ชอบเดี่ยวนี้ คุณจะรู้สึกอย่างไร นั่นแหละครับ ผมคิดว่าพวกชมรมวิจัยเรื่องลึกลับก็คงรู้สึกเหมือนกัน พวกเราเดินมาถึงห้องชมรมโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันเลย ทุกคนเข้าไปในห้องแล้วนั่งที่นั่ง ทุกคนต่างไม่พูดอะไรกัน แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนแต่ก็มีเสียงนึงดังขึ้นในกลางความเงียบ !!!...

     มาย: เออ..! ฉันหิวน้ำแล้วมีใครจะเอาอะไรมั้ยพอดีฉันจะไปซื้อน้ำ..

 

          ไม่มีใครตอบกลับมายไปเลยแม้กระทั่งตัวผมเอง ผมก็พอจะเข้าใจที่เจ้านั่นอยากไปซื้อนำ้เวลานี้ก็เพราะว่ามันอยากปลีกตัวออกไปจากห้องนี้ก็ในห้องนี้มันเงียบและกดดันเกินไป ผมคิดว่าเจ้านี่คงไม่ชอบอยู่ในสถาพกดดันและเงียบขนาดนี้เพราะดูจากลักษณะตัวมันแล้วน่าจะไม่ชอบอยู่คนเดียว เป็นคนสนุกสนาน มันคงไม่ค่อยชอบความเงียบเท่าไหร่ หลังจากนั้นมันก็พูดต่ออีกว่า



     มาย: งั้นเดี่ยวฉันซื้อมาฝากทุกคนเลยล่ะกันนะ แต่! ต้องจ่ายเงินฉันด้วยนะ ช่วงนี้ค่าขนมไม่ค่อยพอใช้ ไปนะ! เดี่ยวฉันกลับมา....

 

          หลังจากนั้นมันก็วิ่งออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ส่วนผมก็ไม่อยากให้ภายในห้องมันเงียบเกินไป ผมก็พูดออกไปไม่ให้บบรรยากาศมันดูแย่ไปกว่านี้...


     ผม: นี่ทุกคน เราไปบอกข่าวชมรมวิจัยเรื่องลึกลับดีมั้ยเรื่องนี้นะ (นี่มันทำให้บรรยากาศดีขึ้นหรือแย่ลงกันแน่เนี่ย) บางทีถ้าเราไปบอกอาจจะดีกว่าให้พวกสภาส่งจดหมายมา บางทีเราอาจจะช่วยพวกนั้นได้ก็ได้นะเหลือเวลาอีกตั้ง1อาทิตย์ยังพอมีเวลาอยู่นะ..


     จูเนียร์: เราจะช่วยอะไรได้ล่ะ มันมีทางอื่นอีกหรอ !!?

     แบงค์: แต่ผมว่าไปหาพวกเขาหน่อยก็ดีนะครับ เผื่อพวกเราจะช่วยอะไรพวกเขาไปบ้าง

     จูเนียร์: งั้นก็ได้.. ไปช่วยพวกนั้นกัน! !!!!!!! เฮ้ๆๆ!!!!

     แบงค์ : ไปช่วยพวกนั้นกัน เย้ๆๆ!!!!!! คุณก็เอาด้วยสิครับ เย้ๆๆ!!!

     ผม: ฉันไม่เอาด้วยหรอก แล้วพวกนายชักจะเสียงดังไปแล้วเว้ย..

     จูเนียร์: อาร์ เอาด้วยสิๆเย้ๆๆ!!!!

     ผม: ยัยนั่นคงจะเอาด้วยหรอกนะ ยัยนั่นเงียบกว่าเป่าสากอีก...
     .
     .
     .
     อาร์: เ...ย้..~...!......!.....

     ผม: อ้าวเฮ้ย..!! เอาด้วยสะงั้น....~~~~~~......~~~~ -_-!

 

แล้วก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ...!!!!!!!!!!


     ผม: สงสัยมายกลับมาแล้วมั้ง แล้วมันจะเคาะประตูทำไม...

     แบงค์: เดี่ยวผมไปเปิดเองครับ

 

          แล้วแบงค์ก็เดินไปเปิดประตูแล้วสิ่งที่อยู่ข้างหน้าประตูก็คือ หญิงสาวที่พวกเราไม่รู้จัก เธอเป็นคนที่ดูจากภายนอกนั้น เธอเป็นคนสวยมากเลย... แล้วสิ่งที่เธอพูดก็คือ .....

"นี่พวกแก!!!!!!! ช่วยเงียบกันหน่อยจะได้มั้ยฮ่ะ!!!!! พวกเราซ้อมคารูตะกันอยู่นะ!!!!!"

ปัง!!! (เสียงปิดประตู)

          แล้วเธอก็ปิดประตูใส่หน้าพวกเราโดยที่พวกเรายังไม่ได้พูดอะไรสักคำ คนเราสมัยนี้ดูจากภายนอกกันไม่ได้จริงๆ เฮ้อ..โลกนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน.....
          แล้วพวกเราก็เดินมาถึงหน้าห้องชมรมวิจัยเรื่องลึกลับ แบงค์เป็นคนเคาะประตู ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!..ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!! ....

 

     ผม: ไอ้บ้า!!! แกจะเคาะรัวยังงี้ทำมายย!!!!

     จูเนียร์:นี่พวกนายทำอะไรกันเนี่ยฮ้าาา!!! ฉันเคาะเอง ก๊อก!..

     ผม:แล้วเธอจะเคาะน้อยครั้งไปไหนเนี่ย

     ฉัน: แล้วไอ้ที่เคาะเมื่อกี่มันไม่เยอะเลยหรือไง...

     ผม: แต่พวกนี้ไม่อยู่ห้องหรือเปล่าทำไมถึงไม่มีใครเปิดประตูเลยล่ะ....

     แบงค์: สงสัยไม่มีใครอยู่ล่ะมั้งครับ วันหลังเราค่อยมากันดีกว่าครับ

     จูเนียร์:ฉันก็ว่างั้นแหละน่าเสียดายฉันอุตส่าห์ปลุกกำลังใจในตัวฉันขึ้นมา กลับห้องกันๆ

 

          แล้วพวกเราก็เดินกลับห้องซึ่งห้องอยู่ถัดไปแค่ห้องเดียวเท่านั้น แต่ยังมีคนยืนอยู่หน้าหองชมรมวิจัยเรื่องลึกลับ...


     ผม: อ้าว! อาร์ ไม่มีใครอยู่หรอก กลับห้องกัน

          แต่ยัยนั่นก็ไม่ตอบกลับมาหรือเดินกลับห้องเลยแถมยังเคาะประตูห้องนั้นด้วย แล้วก็เคาะประตูแบบแปลกๆอีก

"ก๊อกก๊อกก๊อกก๊อก ก๊อก ก๊อกปัง!ก๊อกก๊อก ก๊อกปัง!ก๊อกก๊อก ปัง!ปัง!ปัง! "

****เสียงปัง! คือเสียงตบประตู*

 

     ผม:นี่เธอเล่นมุขหรือเปล่าเนี่ย ในห้องนั้นไม่มีใครอยู่หรอกพวกเราก็เคาะไปแล้วนิ กลับกันเถอะ...

     จูเนียร์ : นั่นสิพรุ่งนี้เราค่อยกลับมาหาพวกนั้นก็ได้นะ กลับห้องกลับเถอะ

     แบงค์: นี่คุณเรียนแบบการเคาะผมหรือเปล่าเนี่ยครับเล่นมุขซำ้กับผมคนอ่านจะไม่ฮาเอานะครับ...

 

          หลังจากที่พวกเราชวนอาร์กลับห้องเส็จ ประตูห้องวิจัยเรื่องลึกลับก็เปิดออก  โอ้แม่เจ้า!!! นี่มันเรื่องอะไรกันนี่ พวกเราเคาะประตูกันแทบตายแต่ทำไมมันไม่เปิดแต่ยัยนี่เคาะกลับเปิดซะงั้น

          แต่คนที่ไวกว่าความคิดผมคงเป็เจ้าสองคนที่เมื่อกี้ยังอยู่ข้างผมมันวิ่งไปคำนับอาร์อย่างเอาจริงเอาจังแล้วพูดว่า

"ขอคารวะท่านอาร์รับข้าเป็นลูกศิษย์ด้วยเถอะ"

          สองคนนี้เห็นมันเข้ากันได้ก็ตอนทำอะไรไร้สาระนี่แหละ เมื่อประตูเปิดออกมา ก็มีคนเดินออกมาจากห้อง " มีอะไรหรือเปล่า " เธอคนนั้นพูด

     จูเนียร์: เรามีเรื่องจะมาบอก คือมันเป็นข่าวที่เออ..~ ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่น่ะ
     คนในห้อง: งั้นเข้ามาก่อนสิ~

 

          ผมจะขอเล่าลักษณะของเธอคนที่มาตอนรับเรานะครับดูจากภายนอกแล้วนั้นเธอดูเป็นคนที่ปกติทั่วไป ผมสีดำดวงตาสีม่วงดูแล้วน่าค้นหา แต่เธอแต่งตัวใส่ผ้าคลุมใส่หมวกเหมือนแม่มด

          แล้วก็สภาพภายในห้องชมรมวิจัยเรื่องลึกลับ ในความคิดพวกคุณคิดว่าห้องชมวิจัยเรื่องลึกลับจะต้องเป็นแบบไหน คุณคงจะคิดว่าห้องนี้ก็คงมืดๆมีอะไรที่น่ากลัวๆมีอะไรที่เป็นของโบราณ และนั่นผมก็คิดเหมือนคุณจนกระทั่งผมได้มาเห็นของที่นี่ ห้องนี้มันไม่ต่างจากห้องชมรมธรรมดาทั่วไปเลยด้วยซ้ำ มีชั้นหนังสือ มีโต๊ะและมันปกติทุกอย่างเลยจริงๆ...

          ทุกคนเดินเข้าไปในห้องแล้วก็นั่งที่นั่งของแต่ละคน.......แล้วภายในห้องก็มีสมาชิกของชมรมวิจัยเรื่องลึกลับอีก1คน แล้วสมาชิกชมรมทั้งสองก็แนะนำตัวก่อนเลย

คนแรก" สวัสดี ฉันชื่อทามะ" คนที่สอง" สวัสดีนะ ฉันชื่อเนโกะ" 

 

     จูเนียร์: สวัสดีจ้า ฉันชื่อจูเนียร์ นะแล้วนั่งก็ อาร์ แบงค์ และ TM

     แบงค์ : ฉันของถามอย่างนึงหน่อยสิ ทำไมพวกฉันเคาะประตูก่อนหน้านี้ถึงไม่มาเปิดล่ะ

     ทามะ: เรื่องนั้นทำไมไม่ถามเพื่อนเธอดูล่ะ

     แบงค์ : ยัยนั่นเป็นพวกไม่ชอบอธิบายน่ะ

     ทามะ : งั้นฉันจะบอกก็ได้ค่ะ มันคือรหัสมอส ยังไงล่ะ

     แบงค์ : อะไรนะ รหัสมอส งั้นหรอ มันคืออะไรล่ะนั่น

     ทามะ: ฉันจะอิธิบายให้ฟังค่ะ ที่หน้าประตูถ้าสังเกตประตูดีๆจะมีรอยขีดที่เป็นรหัสมอสอยู่ ซึ่งเขียนว่า hello คุณก็แค่ตอบกลับมาเป็นรหัสมอสเท่านั้นค่ะ เพื่อนคุณก็แค่เคาะประตูตอบกลับมาว่า สวัสดี แค่นั้นเองค่ะ ฉันก็เลยไปเปิดให้

     แบงค์ : ฉันรู้แล้วว่าทำไมพวกเธอถึงมีสมาชิกแค่2คน เฮ้อ....

     ทามะ : ทำไมหรอค่ะ คุณรู้หรอคะว่าทำไมชมรมเราถึงไม่มีใครมาสมัครเลย..!!!!!

     แบงค์ : นี่แกล้งโง่หรือเปล่าเนี่ย ก็รหัสอะไรของพวกเธอนั่นไง

     ทามะ : ฉันว่ามันก็ปกติเลยนะคะ

     แบงค์ : ฉันแหละคนนึงที่ไม่รู้ สมกับเป็นชมรมวิจัยเรื่องลึกลับก็ตรงนี้แหละ

     ทามะ: แล้วที่ว่ามีเรื่องจะมาบอกมีอะไรหรอ?

     ผม : มันค่อนข้างจะพูดยากนิดหน่อยนะ คือเราไปประชุมกับสภานักเรียนมา แล้วมันก็มีผลออกมาว่าจะต้องยุบชมรมที่มีสมาชิกไม่ถึง5คน เราก็เลยมาบอกพวกเธอก่อนพวกนั้นจะส่งจดหมายมาน่ะ

     ทามะ : งั้นหรอ? ฉันรู้อยู่แล้วล่ะว่าสักวันก็ต้องมีวันนี้ ถึงจะรู้อยู่แล้วแต่มันก็อดที่จะเสียใจไม่ได้จริงๆ ฉันรู้แล้วล่ะขอบคุณมากนะที่มาบอก..

     จูเนียร์ : แต่เรายังมีเวลานะ เราจะช่วยพวกเธออย่างเต็มที่เลย!!!

     ทามะ : ไม่เป็นไรหรอก พวกเธอกลับกันไปก่อนเถอะนะ ขอบคุณมาก ....

     ผม : แต่ว่า!... (ยังไม่ทันจะพูดจบคุณทามะก็หันหลังให้พวกเรา..)

     เนโกะ: นี่ พวกเธอช่วยกลับไปก่อนนะ พวกเราไม่เป็นไรหรอก เนอะ! ทามะ

     ทามะ: อืม..~~~

     จูเนียร์ : งั้นพวกเราจะแวะมาใหม่นะ ....

 

          หลังจากนั้นพวกเราพวกเราก็เดินออกมาจาห้องโดยที่แบงค์เป็นคนปิดประตู ยังไม่ทันจะออกจากห่างประตูก็ได้ยินเสียงร้องให้และเสียงพูดว่า

" ไม่เป็นไรนะทามะ มันคงถึงเวลาจริงๆแล้ว เราทั้งสองคนพยายามเต็มที่แล้วนะ "

          เมื่อได้ยินแบบนั้นพวกเราทุกคนก็ไม่มีใครพูดอะไรเลย ได้แต่เดินเข้าไปในห้องเงียบๆ พอเปิดประตูก็เห็นมายมันนั่งอยู่ในห้องคนเดียวกับนำ้ที่มันซื้อมาให้พวกเรา...


     มาย: นี่นายไปไหนมาเนี่ย ฉันรอตั้งนาน

     จูเนียร์: ก็ไปห้องชมรมวิจัยเรื่องลึกลับนะสิ

     มาย: อะไรเนี่ย ไม่ชวนกันเลยฉันก็อยากไปด้วยนะ ฉันอยากเห็นห้องชมรมนั่นอีกครั้งจัง ตอนนี้จะเป็นยังบ้างนะ ห้องนั้นคงเต็มไปด้วยของน่ากลัว ห้องคงมืดๆ แน่เลย

     ผม: นายเคยเข้าในห้องนั้นด้วยหรอ ไม่หรอกผิดจากที่นายคิดทุกประการ

     มาย:ก็เคยเข้าไปตอนที่ฉันเจอกับนายครั้งแรกไง แล้วก็เรื่องห้องนั้นมันไม่จริงใช่มั้ย ถ้าไม่เป็นอย่างที่ฉันคิด นี่มันผิดคอนเซ็ปท์ชมรมวิจัยเรื่องลึกลับนะ...

     ผม: แล้วฉันจะรู้กับคนแต่งมั้ยล่ะ

     จูเนียร์ : งั้นวันนี้เราคงทำอะไรไม่ได้แล้ว วันนี้ฉันรีบน่ะ วันนี้เลิกชมรมได้

     ผม: ฉันเห็นเธอรีบทุกวันนั่นแหละ

     จูเนียร์ : ไปล่ะนะเจอกันพรุ่งนี้ บายยย ขอบคุณเรื่องนำ้ด้วยนะ.......!!

 

        เรื่องมันจะเกินความสามารถของเราหรือเปล่านะ พวกเราชมรมเล็กๆจะไปสู้สภานักเรียนได้จริงๆหรอ จะเอาแผนการอะไรมาสู้กับพวกนั้นกันดีล่ะ........

 

.........………................END .....................................

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา