แค่อยากให้รู้ว่ารักเธอ

8.7

เขียนโดย ลันตนา

วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.02 น.

  33 บท
  10 วิจารณ์
  35.69K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2562 21.37 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) Time to say good bye

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                                                 บทที่ 5 Time to say good bye

วันนี้ไอรินทร์ตื่นสายนิดหน่อยเนื่องจากพิษของอาการอกหักทำให้เธอแทบนอนไม่หลับ กว่าจะข่มตาลงได้ก็ปาเข้าไปตีสองแล้ว สภาพตอนนี้ก็ตาบวมเนื่องจากร้องไห้ขอบตาดำ หน้าตาดูไม่มีชีวิตชีวา

               “ทำไมวันนี้ตื่นสายจังเลยลูก” วิชัยถามลูกสาวเมื่อเห็นเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหาร

                “เออ...อ้อ เมื่อคืนรินทร์เล่นคอมฯดึกค่ะก็เลยตื่นสาย” สมองน้อยๆคิดหาเหตุผลมาบอกพ่อแต่เหตุผลนั้นมันเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เพราะว่าเมื่อคืนเธอแทบจะไม่ได้แตะคอมฯเลยซักนิดเดียว

               “วันหลังก็อย่าเล่นดึกมากนะ ดูสิตาบวมเลย” วิชัยไม่ได้สงสัยอะไรมาก แล้วก็เตือนลูกสาวด้วยความเป็นห่วง

              “เล่นคอมฯจริงเหรอจ๊ะน้อง” พีรพัฒน์ที่นั่งอยู่ใกล้ๆเอ่ยถาขึ้นมาบ้าง ทำเหมือนกับว่ารู้อะไรแต่ก็ไม่รู้หรอก

               “ก็...ก็จริงนะสิ” ผู้เป็นน้องสาวพูดตะกุกตะกะ

               “ครับๆ” พีรพัฒน์พูดไปก็ขำไปกับท่าทางแปลกๆของน้องสาว

               “แล้วเรื่องที่จะไปอังกฤษลูกตกลงแล้วใช่ไหม” ไอรินทร์กำลังยกแก้วโอวัลติลอุ่นๆขึ้นมาซด ได้ยินประโยคนี้ก็วางแก้วลง เธอมีคำตอบอยู่ในใจแล้วนี่จะลังเลอะไรอยู่อีก แล้วไอริทร์นก็ตอบพ่อไป

               “ค่ะพ่อรินทร์จะไปแล้วสาเพื่อนรินทร์ก็จะไปด้วย” เธอควรทำท่าดีใจสิ แต่เธอตอบไปเสียงเรียบๆแล้วก็ทำหน้าเฉยๆ

               “ได้สิลูกแล้วพ่อจะโทร.ไปบอกเพื่อนให้ดำเนินการเลย” วิชัยพูดและไม่ได้สงสัยอะไรในท่าทางของลูกสาว เขาคิดแค่ว่าลูกจะไปอยู่ไกลครั้งแรกอาจจะเกิดอาการคิดถึงบ้าน

 

หนึ่งเดือนต่อมาหลังจากที่คุณวิชัยดำเนินเรื่องของไอรินทร์และญาณิศาจะไปเรียนที่อังกฤษเสร็จเรียบร้อย คุณวิชัยจึงมาบอกให้ไอรินทร์รู้เล็กน้อยเกี่ยวกับรายละเอียดของมหาวิทยาลัย การเรียน ที่พัก และวันเวลาที่จะไป

“ทั้งหมดก็เป็นแบบนี้ ลูกมีอะไรสงสัยไหม” วิชัยพูด

“แล้วไปเรียนกี่ปีคะ” ไอรินทร์ถามพ่อ “สี่ปี” วิชัยตอบลูกสาว

“ตั้งสี่ปีแม่คงคิดถึงลูกแย่เลย” คุณวรรณวิภาพูดพร้อมกับหันหน้าไปหาลูกสาว

“เราก็ค่อยโทร.ไปหาลูก หรือไม่ก็ไปเยี่ยมลูกก็ได้คุณจะได้ถือซะว่าไปเที่ยวด้วย” วิชัยปลอบภรรยาพร้อมยื่นข้อเสนอให้

“ดีเหมือนกันค่ะ” คุณวรรณวิภาเห็นด้วย

                “ถ้าพ่อกับแม่ไปเยี่ยมน้องที่อังกฤษผมขอไปด้วยนะครับ” พีรพัฒน์ พูดด้วยท่าทางออดอ้อน “ได้สิลูก” วิชัยตอบลูกชาย

               “พ่อคะแล้วเราจะไปวันไหนคะ” ไอรินทร์ที่เงียบอยู่นานก็ถามขึ้นมาบ้าง สีหน้าและแววตาของเธอดูไม่ตื่นเต้นดีใจที่จะได้ไปต่างประเทศครั้งแรกเลยมีแต่หน้านิ่งๆกับเสียงเรียบๆ ก็แน่ละสิไปพร้อมกับความเจ็บปวดเสียใจจนลืมดีใจลืมตื่นเต้นไปทั้งหมด

“ไปวันที่ 20 พฤษภาคม ตอนไปพ่อกับแม่จะไปส่งลูกเองแล้วก็อยู่เป็นเพื่อนลูกสักพักก็ค่อยกลับ” วิชัยตอบลูกสาว

“ให้ผมไปด้วยสิครับ” พีรพัฒน์ขอพ่อด้วยท่าทางอ้อนวอน

 “ไม่ได้ลูกต้องอยู่บ้าน พ่อกับแม่ต้องพาน้องไปมหา’ลัยแล้วก็พาไปที่พัก แล้วหลังจากนั้นก็... จะไปเที่ยวกันด้วย” วิชัยพูดและหันไปทำตาหวานให้ภรรยา

“จะหาเวลาไปสวีตกันสองต่อสองใช่ไหมครับ ก็เลยไม่อยากให้ผมไปด้วย” พีรพัฒน์ทำหน้างอง้ำเมื่อโดนขัดใจ วรรณวิภากับวิชัยก็เขินกันเมื่อได้ยินที่ลูกชายพูด

“หนูขอออกไปเดินเล่นข้างนอกนะคะ” พูดจบก็เดินออกไป ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็ไม่ได้สงสัยอะไรกับท่าทีของหญิงสาวยกเว้นพีรพัฒน์ที่รู้สึกแปลกๆกับอาการของน้องสาวเพราะเขาสังเกตมาตลอดแต่ก็ไม่ถามอะไร

 

ไอรินทร์เดินออกมาเรื่อยๆจากบ้านจนมาถึงริมสระน้ำข้างๆสนามเด็กเล่น ในสมองไม่มีเรื่องที่จะไปอังกฤษเลยสักนิด มีแต่ภาพของก้องภพคนที่เธอชอบเขาข้างเดียวมาตลอดยืนกอดกับผู้หญิงแสนสวยคนนั้น คิดแล้วก็ยิ่งน่าสมเพชตัวเองจริงๆที่คิดได้แบบนนี้

 “ทำหน้าเสียใจทำไมเหรอ หรือว่าไม่ได้รับตำแหน่งธิดาช้างปีนี้ ไม่เป็นไรหรอกปีหน้ายังมีใหม่นะ” เสียงของผู้ชายที่เธอคุ้นหูเป็นอย่างดีดังอยู่ข้างๆ ก้องภพนี้เองมาตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วมาพูดไม่ดูอารมณ์ของเธอเลย

“อย่ามากวนตอนนี้ได้ไหม รินทร์อยากอยู่คนเดียว” ไอรินทร์พูดเสียงราบเรียบไม่แสดงอาการใดๆเพื่อปกปิดเสียงสั่นๆและน้ำตาที่มันกำลังจะไหล

“โอ๋ๆ อย่าร้องไห้สิครับเดี๋ยวก็หมดสวยหรอก” ชายหนุ่มก็ยังพูดต่อในท่าทางสบายๆแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าลายสก็อตสีน้ำเงินเข้มออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วยื่นให้ไอรินทร์ เขาก็เหมือนโรคจิตนั่นแหละยิ่งเห็นเธอโกรธก็ยิ่งชอบ

“พี่ก้อง!” ไอรินทร์พูดเสียงดัง แต่ก็ยังไม่หันไปมองตนข้างๆที่กำลังยืนยิ้มอยู่ ที่ไม่หันไปเพราะเธอพยายามจะลืมเขาให้ได้และเลิกชอบเขาให้ได้

“อย่าโกรธสิ พี่ก็แค่...”

“รินทร์จะไปอังกฤษแล้ว” ไอรินทร์พยายามควบคุมเสียงไม่ไห้สั่นและพูดออกไป เธอก็ไม่รู้ว่าพูดประโยคนี้ออกไปได้ยังไงเพราะเธอคิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกเขาเลย แต่แค่อยากให้คนที่ยืนอยู่ข้างๆเงียบสักทีได้ยินเสียงของเขามันจะทำให้เธอเจ็บแทบจะตายอยู่แล้ว

ร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆได้ยินเช่นนั่นก็หยุดยิ้มและหยุดพูดล้อโดยอัตโนมัติเหมือนกับโดนรีโมทคอนโทรควบคุม สีหน้าและแววตาแสดงออกถึงความเศร้า จากเมื่อครู่ยิ้มสดใสแต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว นี้เธอกำลังจะจากเขาไปจริงๆเหรอ นี้คือสิ่งที่เขาคิดได้แค่ในใจไม่กล้าพูดออกไป

“แล้วจะไปเมื่อไหร่” แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เศร้าสร้อย

“วันที่ 20 พฤษภาคมนี้ อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆจัง” หญิงสาวตอบแล้วแสร้งทำเป็นยิ้ม ไอรินทร์ไม่หันไปมองก้องภพเลยว่าตอนนี้ใบหน้าของเขาไม่ได้สดใสเหมือนเมื่อกี้เลย มันถูกแทนที่ด้วยความเสียใจเมื่อเขารู้ว่าจะไม่ได้เห็นหน้าเธออีกแล้ว

“เรียนที่นั่นกี่ปี” ชายหนุ่มถามเสียงเรียบ

“4 ปีรินทร์คิดว่าจะอยู่ที่นั้นตลอดไม่กลับมาเมืองไทย” ไอรินทร์ตอบเสียงเรียบๆ

“ไปอยู่ไกลนานๆแล้วไม่คิดถึง ‘คนที่นี้’ บ้างเหรอ” ก้องภพถามอ้อมๆ เขาอยากถามว่า ‘ไม่คิดถึงพี่บ้างเหรอ’ แต่ไม่กล้าถามออกไปตรงๆเพราะรู้ว่าเธอคงไม่ตอบเป็นแน่

“คิดสิคะ”...รินทร์คงคิดถึงพี่มากๆ T_T... นี้เป็นได้เพียงแค่สิ่งที่เธอคิดในใจห้ามพูดออกมา

“พี่ขอให้รินทร์โชคดี ตั้งใจเรียนด้วย” ชายหนุ่มอวยพรเธอด้วยความเสียใจ อยากจะห้ามเธอแต่ก็ทำไม่ได้

“ขอบคุณค่ะ พี่ก้อง” เสียงของไอรินทร์สั่น แม้แต่บอกขอบคุณเธอก็ไม่หันไปมองก้องภพเลย แล้วร่างอ้วนก็หันหลังเดินออกไปจากที่ตรงนั้น

[ตอนพิเศษ: ก้องภพ]

พอรินทร์เดินออกไปแล้วผมก็เดินมานั่งที่เก้าอี้ไม้ตัวยาวข้างๆริมสระน้ำ ผ้าเช็ดหน้าในมือผมคงเอาไว้เช็ดน้ำตาในหัวใจผมโดยเฉพาะ พอผมรู้ว่ารินทร์จะไปอังกฤษแล้วก็รู้สึกเหงาเหมือนกับอยู่คนเดียวในโลกกว้างๆมีคนเดินผ่านมามากมายแต่ก็รู้สึกเหงามากๆ

ตั้งแต่เล็กจนโตผมชอบพูดล้อเลียนเธอบ่อยๆ ผมชอบล้อเธอว่าอ้วนแล้วก็ผมหยิกแต่ผมไม่เคยรังเกียจรินทร์เลย ที่ผมล้อล้อเพราะผมชอบเธอต่างหาก ทุกคนคงจะคิดว่าผมแปลกละสิ ผู้ชายส่วนมากชอบผู้หญิงขาวๆ สวยๆ หุ่นเซ็กซี่ๆ แต่ผมชอบของผมอย่างนี้ละใครจะทำไม รินทร์จะสวยหรือไม่สวยผมก็ยังชอบรินทร์ ผมชอบที่รินทร์เป็นรินทร์พอได้อยู่ใกล้เธอผมจะมีความสุขและยิ้มได้(ไม่รู้ว่ารินทร์จะรู้สึกเหมือนผมบ้างไหม) พอรู้ว่ารินทร์จะไปอังกฤษผมก็เสียใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ อยากบอกว่าไม่ให้ไปแต่ก็ไม่กล้าพูด ที่ไม่กล้าเพราะผมไม่รู้ว่ารินทร์คิดยังไงกับผมเพราะที่ผ่านมาผมก็เอาแต่พูดล้อเลียนเธอแล้วก็แซวเธอบ่อยๆ รินทร์ก็เอาแต่ทำหน้าบูดๆบึ้งๆงอๆใส่ผมทุกครั้งจนผมไม่รู้ว่ารินทร์คิดยังไงกับผมกันแน่(มันคงเป็นเวรกรรม) แต่สำหรับผมแล้วรินทร์ไม่ใช่แค่น้องสาวแต่เป็นมากกว่าน้องสาวความรู้สึกแบบนี้มันคงเกิดขึ้นตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแล้วมั่ง

ผมเสียใจที่รินทร์ไปแต่ก็ต้องทำใจให้ได้ก็คงต้องใช่เวลาอีกสักพัก รินทร์กลับมาจากอังกฤษเมื่อไหร่ผมจะเลิกพูดล้อเลียนเธอ ผมเคยพูดไว้ใช่ไหมว่าผมจะทำอะไรถ้ารินทร์ไปอังกฤษผมผมไม่บอกหรอก แต่ทุกคนคงรู้แล้วใช่ไหมครับ ถ้ารู้แล้วเหยียบไว้ให้มิดนะแล้วห้ามบอกรินทร์เด็ดขาด (สัญญาเกี่ยวก้อยกัน) ส่วนใครที่ยังนึกไม่ออกว่าผมทำอะไรอ่านต่อไปเรื่อยๆนะครับเดี๋ยวผมจะบอกว่าผมทำอะไร

[จบตอนพิเศษ: ก้องภพ]

 

ไอรินทร์กลับมาถึงบ้านแล้วตอนนี้เธอมานั่งอยู่ที่ศาลาไม้เล็กๆในสวนหน้าบ้าน แล้วหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมากดโทรศัพท์เพื่อโทร.หาญาณิศา

“ฮัลโหลสา” ไอรินทร์กรอกเสียงใส่โทรศัพท์ด้วยเสียงเศร้า

[จ๊ะรินทร์ มีอะไรเหรอ] ญาณิศาพูดเสียงสดใส

“ฉันได้วันที่จะไปอังกฤษแล้วนะ ไปวันที่ 20 พฤษภาคม แต่เราต้องขึ้นเครื่องบินไปกรุงเทพฯวันที่ 19แล้วไปอังกฤษวันที่ 20” ไอรินทร์ปรับเสียงจากเศร้าให้เป็นปรกติ

[อีกไม่นานแล้วสินะตื่นเต้นมากๆเลย... แกเป็นอะไรหรือเปล่าเสียงแกฟังแล้วไม่เหมือนคนดีใจได้ไปเมืองนอกเลยนะ]

“ฉันเหรอ...” ฉันก็เจ็บไงเมื่อรู้ว่าคนที่ฉันชอบเขามีแฟนแล้วก็สมควรแล้วแหละที่เป็นแบบนี้เพราะเราชอบเขาข้างเดียว

[รินทร์! รินทร์! รินทร์! เป็นอะไรรึเปล่า] ญาณิศาตะโกนเข้ามาในโทรศัพท์เมื่อเพื่อนเงียบไป

“ฮะ...เป็นอะไร แกเป็นอะไรสา” ไอรินทร์ที่ได้ยินเพื่อนตะโกนก็ตกใจ

[ฉันไม่ได้เป็นอะไร แกนั่นแหละเป็นอะไร] ญาณิศาพูดติดอารมณ์เสียนิดๆ

“ฉันก็เป็นนิดหน่อยแต่ไม่ถึงตาย”

[แล้วแกเป็นอะไร]

“…”

[ไม่ต้องพูดก็ได้ถ้ามันเป็นเรื่องที่รู้สึกไม่ดี] ญาณิศาบอกเพื่อนอย่างเข้าใจ

“…ถ้าฉันพร้อมแล้วฉันจะบอกแก แค่นี้ก่อน” ไอรินทร์พูดเสียงเรียบๆ

[จ๊ะ ไปพักผ่อนเถอะ] ...‘คิดไว้ไม่ผิดจริงๆว่ารินต้องมีเรื่องอะไรสักอย่าง แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือเรื่องอะไร’ ญาณิศาคิดในใจ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา