แค่อยากให้รู้ว่ารักเธอ
เขียนโดย ลันตนา
วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.02 น.
แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2562 21.37 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) Time to say good bye
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 5 Time to say good bye
วันนี้ไอรินทร์ตื่นสายนิดหน่อยเนื่องจากพิษของอาการอกหักทำให้เธอแทบนอนไม่หลับ กว่าจะข่มตาลงได้ก็ปาเข้าไปตีสองแล้ว สภาพตอนนี้ก็ตาบวมเนื่องจากร้องไห้ขอบตาดำ หน้าตาดูไม่มีชีวิตชีวา
“ทำไมวันนี้ตื่นสายจังเลยลูก” วิชัยถามลูกสาวเมื่อเห็นเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหาร
“เออ...อ้อ เมื่อคืนรินทร์เล่นคอมฯดึกค่ะก็เลยตื่นสาย” สมองน้อยๆคิดหาเหตุผลมาบอกพ่อแต่เหตุผลนั้นมันเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เพราะว่าเมื่อคืนเธอแทบจะไม่ได้แตะคอมฯเลยซักนิดเดียว
“วันหลังก็อย่าเล่นดึกมากนะ ดูสิตาบวมเลย” วิชัยไม่ได้สงสัยอะไรมาก แล้วก็เตือนลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
“เล่นคอมฯจริงเหรอจ๊ะน้อง” พีรพัฒน์ที่นั่งอยู่ใกล้ๆเอ่ยถาขึ้นมาบ้าง ทำเหมือนกับว่ารู้อะไรแต่ก็ไม่รู้หรอก
“ก็...ก็จริงนะสิ” ผู้เป็นน้องสาวพูดตะกุกตะกะ
“ครับๆ” พีรพัฒน์พูดไปก็ขำไปกับท่าทางแปลกๆของน้องสาว
“แล้วเรื่องที่จะไปอังกฤษลูกตกลงแล้วใช่ไหม” ไอรินทร์กำลังยกแก้วโอวัลติลอุ่นๆขึ้นมาซด ได้ยินประโยคนี้ก็วางแก้วลง เธอมีคำตอบอยู่ในใจแล้วนี่จะลังเลอะไรอยู่อีก แล้วไอริทร์นก็ตอบพ่อไป
“ค่ะพ่อรินทร์จะไปแล้วสาเพื่อนรินทร์ก็จะไปด้วย” เธอควรทำท่าดีใจสิ แต่เธอตอบไปเสียงเรียบๆแล้วก็ทำหน้าเฉยๆ
“ได้สิลูกแล้วพ่อจะโทร.ไปบอกเพื่อนให้ดำเนินการเลย” วิชัยพูดและไม่ได้สงสัยอะไรในท่าทางของลูกสาว เขาคิดแค่ว่าลูกจะไปอยู่ไกลครั้งแรกอาจจะเกิดอาการคิดถึงบ้าน
หนึ่งเดือนต่อมาหลังจากที่คุณวิชัยดำเนินเรื่องของไอรินทร์และญาณิศาจะไปเรียนที่อังกฤษเสร็จเรียบร้อย คุณวิชัยจึงมาบอกให้ไอรินทร์รู้เล็กน้อยเกี่ยวกับรายละเอียดของมหาวิทยาลัย การเรียน ที่พัก และวันเวลาที่จะไป
“ทั้งหมดก็เป็นแบบนี้ ลูกมีอะไรสงสัยไหม” วิชัยพูด
“แล้วไปเรียนกี่ปีคะ” ไอรินทร์ถามพ่อ “สี่ปี” วิชัยตอบลูกสาว
“ตั้งสี่ปีแม่คงคิดถึงลูกแย่เลย” คุณวรรณวิภาพูดพร้อมกับหันหน้าไปหาลูกสาว
“เราก็ค่อยโทร.ไปหาลูก หรือไม่ก็ไปเยี่ยมลูกก็ได้คุณจะได้ถือซะว่าไปเที่ยวด้วย” วิชัยปลอบภรรยาพร้อมยื่นข้อเสนอให้
“ดีเหมือนกันค่ะ” คุณวรรณวิภาเห็นด้วย
“ถ้าพ่อกับแม่ไปเยี่ยมน้องที่อังกฤษผมขอไปด้วยนะครับ” พีรพัฒน์ พูดด้วยท่าทางออดอ้อน “ได้สิลูก” วิชัยตอบลูกชาย
“พ่อคะแล้วเราจะไปวันไหนคะ” ไอรินทร์ที่เงียบอยู่นานก็ถามขึ้นมาบ้าง สีหน้าและแววตาของเธอดูไม่ตื่นเต้นดีใจที่จะได้ไปต่างประเทศครั้งแรกเลยมีแต่หน้านิ่งๆกับเสียงเรียบๆ ก็แน่ละสิไปพร้อมกับความเจ็บปวดเสียใจจนลืมดีใจลืมตื่นเต้นไปทั้งหมด
“ไปวันที่ 20 พฤษภาคม ตอนไปพ่อกับแม่จะไปส่งลูกเองแล้วก็อยู่เป็นเพื่อนลูกสักพักก็ค่อยกลับ” วิชัยตอบลูกสาว
“ให้ผมไปด้วยสิครับ” พีรพัฒน์ขอพ่อด้วยท่าทางอ้อนวอน
“ไม่ได้ลูกต้องอยู่บ้าน พ่อกับแม่ต้องพาน้องไปมหา’ลัยแล้วก็พาไปที่พัก แล้วหลังจากนั้นก็... จะไปเที่ยวกันด้วย” วิชัยพูดและหันไปทำตาหวานให้ภรรยา
“จะหาเวลาไปสวีตกันสองต่อสองใช่ไหมครับ ก็เลยไม่อยากให้ผมไปด้วย” พีรพัฒน์ทำหน้างอง้ำเมื่อโดนขัดใจ วรรณวิภากับวิชัยก็เขินกันเมื่อได้ยินที่ลูกชายพูด
“หนูขอออกไปเดินเล่นข้างนอกนะคะ” พูดจบก็เดินออกไป ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็ไม่ได้สงสัยอะไรกับท่าทีของหญิงสาวยกเว้นพีรพัฒน์ที่รู้สึกแปลกๆกับอาการของน้องสาวเพราะเขาสังเกตมาตลอดแต่ก็ไม่ถามอะไร
ไอรินทร์เดินออกมาเรื่อยๆจากบ้านจนมาถึงริมสระน้ำข้างๆสนามเด็กเล่น ในสมองไม่มีเรื่องที่จะไปอังกฤษเลยสักนิด มีแต่ภาพของก้องภพคนที่เธอชอบเขาข้างเดียวมาตลอดยืนกอดกับผู้หญิงแสนสวยคนนั้น คิดแล้วก็ยิ่งน่าสมเพชตัวเองจริงๆที่คิดได้แบบนนี้
“ทำหน้าเสียใจทำไมเหรอ หรือว่าไม่ได้รับตำแหน่งธิดาช้างปีนี้ ไม่เป็นไรหรอกปีหน้ายังมีใหม่นะ” เสียงของผู้ชายที่เธอคุ้นหูเป็นอย่างดีดังอยู่ข้างๆ ก้องภพนี้เองมาตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วมาพูดไม่ดูอารมณ์ของเธอเลย
“อย่ามากวนตอนนี้ได้ไหม รินทร์อยากอยู่คนเดียว” ไอรินทร์พูดเสียงราบเรียบไม่แสดงอาการใดๆเพื่อปกปิดเสียงสั่นๆและน้ำตาที่มันกำลังจะไหล
“โอ๋ๆ อย่าร้องไห้สิครับเดี๋ยวก็หมดสวยหรอก” ชายหนุ่มก็ยังพูดต่อในท่าทางสบายๆแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าลายสก็อตสีน้ำเงินเข้มออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วยื่นให้ไอรินทร์ เขาก็เหมือนโรคจิตนั่นแหละยิ่งเห็นเธอโกรธก็ยิ่งชอบ
“พี่ก้อง!” ไอรินทร์พูดเสียงดัง แต่ก็ยังไม่หันไปมองตนข้างๆที่กำลังยืนยิ้มอยู่ ที่ไม่หันไปเพราะเธอพยายามจะลืมเขาให้ได้และเลิกชอบเขาให้ได้
“อย่าโกรธสิ พี่ก็แค่...”
“รินทร์จะไปอังกฤษแล้ว” ไอรินทร์พยายามควบคุมเสียงไม่ไห้สั่นและพูดออกไป เธอก็ไม่รู้ว่าพูดประโยคนี้ออกไปได้ยังไงเพราะเธอคิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกเขาเลย แต่แค่อยากให้คนที่ยืนอยู่ข้างๆเงียบสักทีได้ยินเสียงของเขามันจะทำให้เธอเจ็บแทบจะตายอยู่แล้ว
ร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆได้ยินเช่นนั่นก็หยุดยิ้มและหยุดพูดล้อโดยอัตโนมัติเหมือนกับโดนรีโมทคอนโทรควบคุม สีหน้าและแววตาแสดงออกถึงความเศร้า จากเมื่อครู่ยิ้มสดใสแต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว นี้เธอกำลังจะจากเขาไปจริงๆเหรอ นี้คือสิ่งที่เขาคิดได้แค่ในใจไม่กล้าพูดออกไป
“แล้วจะไปเมื่อไหร่” แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เศร้าสร้อย
“วันที่ 20 พฤษภาคมนี้ อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆจัง” หญิงสาวตอบแล้วแสร้งทำเป็นยิ้ม ไอรินทร์ไม่หันไปมองก้องภพเลยว่าตอนนี้ใบหน้าของเขาไม่ได้สดใสเหมือนเมื่อกี้เลย มันถูกแทนที่ด้วยความเสียใจเมื่อเขารู้ว่าจะไม่ได้เห็นหน้าเธออีกแล้ว
“เรียนที่นั่นกี่ปี” ชายหนุ่มถามเสียงเรียบ
“4 ปีรินทร์คิดว่าจะอยู่ที่นั้นตลอดไม่กลับมาเมืองไทย” ไอรินทร์ตอบเสียงเรียบๆ
“ไปอยู่ไกลนานๆแล้วไม่คิดถึง ‘คนที่นี้’ บ้างเหรอ” ก้องภพถามอ้อมๆ เขาอยากถามว่า ‘ไม่คิดถึงพี่บ้างเหรอ’ แต่ไม่กล้าถามออกไปตรงๆเพราะรู้ว่าเธอคงไม่ตอบเป็นแน่
“คิดสิคะ”...รินทร์คงคิดถึงพี่มากๆ T_T... นี้เป็นได้เพียงแค่สิ่งที่เธอคิดในใจห้ามพูดออกมา
“พี่ขอให้รินทร์โชคดี ตั้งใจเรียนด้วย” ชายหนุ่มอวยพรเธอด้วยความเสียใจ อยากจะห้ามเธอแต่ก็ทำไม่ได้
“ขอบคุณค่ะ พี่ก้อง” เสียงของไอรินทร์สั่น แม้แต่บอกขอบคุณเธอก็ไม่หันไปมองก้องภพเลย แล้วร่างอ้วนก็หันหลังเดินออกไปจากที่ตรงนั้น
[ตอนพิเศษ: ก้องภพ]
พอรินทร์เดินออกไปแล้วผมก็เดินมานั่งที่เก้าอี้ไม้ตัวยาวข้างๆริมสระน้ำ ผ้าเช็ดหน้าในมือผมคงเอาไว้เช็ดน้ำตาในหัวใจผมโดยเฉพาะ พอผมรู้ว่ารินทร์จะไปอังกฤษแล้วก็รู้สึกเหงาเหมือนกับอยู่คนเดียวในโลกกว้างๆมีคนเดินผ่านมามากมายแต่ก็รู้สึกเหงามากๆ
ตั้งแต่เล็กจนโตผมชอบพูดล้อเลียนเธอบ่อยๆ ผมชอบล้อเธอว่าอ้วนแล้วก็ผมหยิกแต่ผมไม่เคยรังเกียจรินทร์เลย ที่ผมล้อล้อเพราะผมชอบเธอต่างหาก ทุกคนคงจะคิดว่าผมแปลกละสิ ผู้ชายส่วนมากชอบผู้หญิงขาวๆ สวยๆ หุ่นเซ็กซี่ๆ แต่ผมชอบของผมอย่างนี้ละใครจะทำไม รินทร์จะสวยหรือไม่สวยผมก็ยังชอบรินทร์ ผมชอบที่รินทร์เป็นรินทร์พอได้อยู่ใกล้เธอผมจะมีความสุขและยิ้มได้(ไม่รู้ว่ารินทร์จะรู้สึกเหมือนผมบ้างไหม) พอรู้ว่ารินทร์จะไปอังกฤษผมก็เสียใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ อยากบอกว่าไม่ให้ไปแต่ก็ไม่กล้าพูด ที่ไม่กล้าเพราะผมไม่รู้ว่ารินทร์คิดยังไงกับผมเพราะที่ผ่านมาผมก็เอาแต่พูดล้อเลียนเธอแล้วก็แซวเธอบ่อยๆ รินทร์ก็เอาแต่ทำหน้าบูดๆบึ้งๆงอๆใส่ผมทุกครั้งจนผมไม่รู้ว่ารินทร์คิดยังไงกับผมกันแน่(มันคงเป็นเวรกรรม) แต่สำหรับผมแล้วรินทร์ไม่ใช่แค่น้องสาวแต่เป็นมากกว่าน้องสาวความรู้สึกแบบนี้มันคงเกิดขึ้นตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแล้วมั่ง
ผมเสียใจที่รินทร์ไปแต่ก็ต้องทำใจให้ได้ก็คงต้องใช่เวลาอีกสักพัก รินทร์กลับมาจากอังกฤษเมื่อไหร่ผมจะเลิกพูดล้อเลียนเธอ ผมเคยพูดไว้ใช่ไหมว่าผมจะทำอะไรถ้ารินทร์ไปอังกฤษผมผมไม่บอกหรอก แต่ทุกคนคงรู้แล้วใช่ไหมครับ ถ้ารู้แล้วเหยียบไว้ให้มิดนะแล้วห้ามบอกรินทร์เด็ดขาด (สัญญาเกี่ยวก้อยกัน) ส่วนใครที่ยังนึกไม่ออกว่าผมทำอะไรอ่านต่อไปเรื่อยๆนะครับเดี๋ยวผมจะบอกว่าผมทำอะไร
[จบตอนพิเศษ: ก้องภพ]
ไอรินทร์กลับมาถึงบ้านแล้วตอนนี้เธอมานั่งอยู่ที่ศาลาไม้เล็กๆในสวนหน้าบ้าน แล้วหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมากดโทรศัพท์เพื่อโทร.หาญาณิศา
“ฮัลโหลสา” ไอรินทร์กรอกเสียงใส่โทรศัพท์ด้วยเสียงเศร้า
[จ๊ะรินทร์ มีอะไรเหรอ] ญาณิศาพูดเสียงสดใส
“ฉันได้วันที่จะไปอังกฤษแล้วนะ ไปวันที่ 20 พฤษภาคม แต่เราต้องขึ้นเครื่องบินไปกรุงเทพฯวันที่ 19แล้วไปอังกฤษวันที่ 20” ไอรินทร์ปรับเสียงจากเศร้าให้เป็นปรกติ
[อีกไม่นานแล้วสินะตื่นเต้นมากๆเลย... แกเป็นอะไรหรือเปล่าเสียงแกฟังแล้วไม่เหมือนคนดีใจได้ไปเมืองนอกเลยนะ]
“ฉันเหรอ...” ฉันก็เจ็บไงเมื่อรู้ว่าคนที่ฉันชอบเขามีแฟนแล้วก็สมควรแล้วแหละที่เป็นแบบนี้เพราะเราชอบเขาข้างเดียว
[รินทร์! รินทร์! รินทร์! เป็นอะไรรึเปล่า] ญาณิศาตะโกนเข้ามาในโทรศัพท์เมื่อเพื่อนเงียบไป
“ฮะ...เป็นอะไร แกเป็นอะไรสา” ไอรินทร์ที่ได้ยินเพื่อนตะโกนก็ตกใจ
[ฉันไม่ได้เป็นอะไร แกนั่นแหละเป็นอะไร] ญาณิศาพูดติดอารมณ์เสียนิดๆ
“ฉันก็เป็นนิดหน่อยแต่ไม่ถึงตาย”
[แล้วแกเป็นอะไร]
“…”
[ไม่ต้องพูดก็ได้ถ้ามันเป็นเรื่องที่รู้สึกไม่ดี] ญาณิศาบอกเพื่อนอย่างเข้าใจ
“…ถ้าฉันพร้อมแล้วฉันจะบอกแก แค่นี้ก่อน” ไอรินทร์พูดเสียงเรียบๆ
[จ๊ะ ไปพักผ่อนเถอะ] ...‘คิดไว้ไม่ผิดจริงๆว่ารินต้องมีเรื่องอะไรสักอย่าง แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือเรื่องอะไร’ ญาณิศาคิดในใจ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ