แค่อยากให้รู้ว่ารักเธอ
เขียนโดย ลันตนา
วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.02 น.
แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2562 21.37 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ภาพบาดตา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
บทที่ 4 ภาพบาดตา
“เป็นอะไรลูกทำหน้าเศร้าจังเลย” วิชัยเดินเข้ามาพร้อมกับถือกระเป๋าเอกสารเข้ามาในบ้าน เห็นลูกสาวนั่งทำหน้าเศร้าจึงถาม
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูก็แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย” ไอรินทร์ตอบและยิ้มให้พ่อที่กำลังเดินมานั่งข้างๆ
“ปีนี้ลูกก็จบม.6แล้ว เรื่องที่จะไปเรียนที่อังกฤษละว่าไง ยังอยากไปอยู่ไหม” วิชัยถามพร้อมกับโอบไหล่ลูกสาว
“หนูขอคิดอีกนิดนะคะ อ้อ! พ่อคะ...” ผู้เป็นลูกสาวตอบพ่อและนึกอะไรบางอย่างออกแล้วถามออกไป “คือว่า ญาณิศาเพื่อนรินทร์อยากไปด้วยค่ะไปได้ไหมคะ”
“ได้สิลูก”
“ดีจัง งั้นหนูขอออกไปเดินเล่นหน่อยได้ไหมคะ”
ไอรินทร์เดินออกจากบ้านมาเรื่อยๆจนถึงสนามเด็กเล่นของหมู่บ้าน ในสมองยังคิดถึงเรื่องที่จะไปอังกฤษตลอดทางที่เดินมา พอเริ่มคิดจิตใจที่มันไม่สามัคคีก็เริ่มทำงานอัตโนมัติโดยไม่ต้องสั่ง
ให้ตายเถอะอะไรกันแค่ไปอังกฤษทำไมต้องคิดมากคิดน้อยขนาดนี้ด้วยนะไอรินทร์พอคิดว่าจะไปอีกใจมันก็ส่งเสียงคัดค้านมาแล้วฉันจะทำยังไงดีนะ ถ้าไปถามคนอื่นก็บอกว่าไปเถอะน่าสนุก โอ๊ยกลุ้ม
ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้นสายตาก็มองเห็นอะไรบางอย่าง นั้นพี่ก้องนี่นากลับมาเร็วจัง แต่เธอก็ไม่ได้จนใจอะไร แต่สนใจผู้หญิงผมยาวประบ่า ตาโต หน้าหมวย ผิวขาวคนนั้นเป็นใคร ท่าทางสนิทสนมกันมากแลกกันป้อนน้ำป้อนขนม แล้วผู้หญิงคนนั้นยังหอมแก้มก้องภพด้วยแต่ก้องภพก็ไม่ได้หอมตอบ แล้วกอดก้องภพอีกชายหนุ่มก็ยิ้มหวานเชียว คุยกันสนุกสนานกระหนุงกระหนิง จู๋จี๋อย่างกับเป็นแฟนกัน
‘ไม่สิรินทร์ เราต้องไม่คิดอะไร’ ไอรินทร์พูดในใจ แล้วจู่ๆเบ้าตาก็ร้อนขึ้นอย่างอัตโนมัติ เธอจึงรีบหันหลังแล้ววิ่งทันทีกลัวว่าคนที่อยู่ข้างหน้าจะหันมาเห็น ระหว่างทางที่วิ่งกลับบ้านเธอก็คิดในใจไปด้วย ‘ไม่นะรินทร์เราไม่ได้ชอบพี่ก้องไม่ใช่เหรอ แล้วเราจะร้องไห้เสียใจทำไม’
“อ้าว! รินทร์ทำไมลูก...” วิชัยที่กำลังนั่งอ่านเอกสารที่ถืออยู่ในมือ เห็นลูกสาววิ่งเข้ามาจึงเรียกถาม แต่ถามไม่ทันจบไอรินทร์ก็พูดตัดบทเสียก่อน
“พ่อคะรินทร์จะไปเรียนที่อังกฤษคะ” พูดจบก็วิ่งขึ้นข้างบนทันทีไม่สนใจเสียงของพ่อที่เรียก
“รินทร์! รินทร์! มาคุยกับพ่อก่อนสิลูก รินทร์!” เสียงของวิชัยที่เรียกลูกสาวไม่ได้ผลเลย
ตอนนี้ในสมองของเธอมีแต่ภาพของเขา...เขา...เขาคนนั้นที่กอดกับผู้...ผู้หญิง...ผู้หญิงคนนั้น ทำไมละทำไมต้องคิดมากขนาดนี้ด้วย เขาจะกอดกับใครหอมแก้มกับใครมันก็ไม่เกี่ยวกับเราสักหน่อย อีกอย่างเราก็ไม่ได้คิดอะไรกับเขาด้วย ไม่เห็นจะต้อง...ต้องเสียใจแบบนี้ ไม่เห็นจะต้องไปแคร์กับสิ่งที่เห็นเลย ไปอังกฤษก็ดีเหมือนกันจะได้ไปอยู่ที่ใหม่ๆเจอคนใหม่ๆจะได้ลืมภาพบ้าๆพวกนี้ แล้วไอรินก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรศัพท์โทร.หาญาณิศา รออยู่สักครู่ปลายสายก็รับ
[ฮัลโหลรินทร์] ปลายสายกรอกเสียงสดใสมาหาเพื่อน
“สา...” กรอกเสียงเครือสั่นลงโทรศัพท์
[แกเป็นอะไรรึเปล่าเสียงแกฟังดูสั่นๆนะ]
“ปะ...เปล่าจ๊ะ” หญิงสาวพยายามสะกดกลั้นน้ำตาและปรับเสียงให้เป็นปรกติมากที่สุด “สาฉันจะไปเรียนที่อังกฤษ แกยังอยากจะไปกับฉันไหม”
[อยากสิ! ดีใจจัง เอ๊ะว่าแต่...] คนปลายสายเงียบไปครู่เหมือนคิดอะไรอยู่ แล้วเปลี่ยนเสียงจากดีใจเป็นสงสัย
[แกคิดดีแล้วเหรอที่จะไป ปกติแกเป็นพวกไม่ชอบห่างบ้านนานๆ แกมีอะไรรึเปล่า]
“มะ...ไม่มีอะไร ฉันว่าไปอังกฤษมันก็ดีนะ จะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ไม่ต้องเห็นอะไรเดิมๆ” ไอรินทร์พูด ประโยคหลังๆแอบเศร้านิดๆ
[อะไรใหม่ๆ อะไรเดิมๆคืออะไรเหรอ] เพื่อนสาวถามด้วยความสงสัย
“อย่าไปสนใจเลย ถ้าฉันรู้วันเวลาที่ไปแล้วจะโทร.มาบอกอีกทีนะแค่นี้แหละ บ๊าย” ไอรินทร์ทำเป็นพูดเสียงสดใสกลบเกลื่อน
[บ๊าย]
‘รินทร์เป็นอะไรของเขาเหมือนมีอะไรปกปิดเรา ตอนแรกทำเสียงเหมือนจะร้องไห้ อะไรใหม่ๆ อะไรเดิมๆคืออะไร... เอาไว้ค่อยถาม ถามตอนนี้ก็ไม่ได้อะไร’ ญาณิศาคิดไตร่ตรองในใจ
หลังจากวางสายจากเพื่อนแล้ว น้ำใสๆก็ไหลลงมาจากดวงตากลมโตรดรินแก้มสองข้างมันคือน้ำตาของความเสียใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอโกหกตัวเองมาตลอดว่าไม่ได้ชอบ ไม่ได้คิดอะไรกับผู้ชายปากเสียแบบนั้น จนต้องสร้างกำแพงขึ้นมาปกปิดความรู้สึก กำแพงที่สร้างมันสูงแต่มันไม่แข็งแรงเลย เวลาโดนเขาล้อหรือว่าแซวมันก็ไม่ชอบหรอก แต่หัวใจดูเหมือนว่ามันจะเสพติดคำล้อเลียนจากเสียงนุ่มๆทุ่มๆของผู้ชายคนนี้เข้าเสียแล้ว จนบางทีกำแพงมันเกือบจะพังแต่ก็ระงับไว้ทัน
พอมาเห็นภาพวันนี้ที่เขาจู๋จี๋สนิทสนมกับผู้หญิงคนนั้น ความรู้สึกมันที่แท้จริงก็ชัดเจนมากขึ้นว่าเราชอบพี่ก้องจริงๆ เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พอได้อยู่ใกล้เขาได้ฟังเสียงก็รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก มันอยากอยู่ใกล้ทุกวันอยากได้ยินทุกวัน
แต่คงทำได้แค่คิดเท่านั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปเป็นคนคนนั้นของเขา เพราะเขามีแฟนอยู่แล้วแถมยังสวยด้วย ก็เหมาะสมกันดีคนสวยกับคนหล่อ เราก็คงได้แต่หัวเราะกับความรู้สึกบ้าบอไร้สาระของตัวเอง ไปอังกฤษนี้แหละดีที่สุดแล้วเผื่อบางทีมันอาจจะลบเลือนภาพ ความรู้สึกต่างๆได้บ้าง ไม่มาก...ก็น้อย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ