แค่อยากให้รู้ว่ารักเธอ
เขียนโดย ลันตนา
วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.02 น.
แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2562 21.37 น. โดย เจ้าของนิยาย
30) กำลังใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 30 กำลังใจ
“พี่ก้อง!” เธอตะโกนสุดเสียงแต่คนรอบกายไม่ได้สนใจ
เจ้าของชื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยหวังจะใช้มือเลื่อนล้อกลับรถเข็นไปหาเจ้าของด้วยความคิดคะนึงหา แต่จะให้เธอเห็นตนเองในสภาพนี้ได้อย่างไร ‘ให้เธอเห็นไม่ได้’ เขาตัดใจจากความคิดแรกแล้วหมุนล้อรถไปข้างหน้าให้เร็วตามกำลังที่มี
ไอรินทร์เห็นดังนั้นจึงเดินฝ่าฝูงชนตามไปจนถึงตัว เรียวแขนเล็กโอบรอบลำคอชายหนุ่มจากด้านหลัง
“รินทร์มารับพี่แล้วนะคะ” ดีใจ
“พี่...” ก้องภพเว้นวรรค “มีเรื่องจะบอกแต่พี่ขออย่างหนึ่ง” ไอรินทร์เงียบ ตั้งใจฟัง “อย่ารังเกียจพี่ได้ไหม” ไอรินทร์ตอบค่ะแล้วพยักหน้า ก้องภพสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด “จะรับได้ไหมที่พี่ไม่เหมือนเดิม” ชายหนุ่มหลุบตาลงต่ำมองสิ่งหนึ่งที่อยู่กับเขามาตลอดยี่สิบหกปีแต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว
ไอรินทร์ยืดตัวตรง ดวงตาคู่สวยเลื่อนลงไปมองที่ตำแหน่งเขามองพบว่าขาซ้ายของก้องภพตั้งแต่หัวเข่าลงไปขาดหาย ใจเธอหายวาบ แล้วไอรินทร์ยิ้มอ่อนโยนให้เขา
“รินทร์รักพี่นะคะไม่ว่าพี่จะเป็นอย่างไร”
หนึ่งเดือนต่อมา...
“จะทำอะไรคะ!” ไอรินทร์วางถาดอาหารลงบนโต๊ะและวิ่งถลาเข้าไปหาผู้ป่วยที่นั่งอยู่บนรถเข็น ดึงมีดออกแล้วโยนมีดไปทางอื่น เขากำลังจะกรีดข้อมือตัวเอง “อย่าทำแบบนี้อีกนะ”
“อย่ามาเสียเวลาเพราะพี่อีกเลยนะ” นัยต์ตาชายหนุ่มเริ่มอุ่นร้อน
หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเวลาว่างหรือหลังเลิกงานของไอรินทร์ เธอจะมาดูแลเขาตลอดไม่ว่าจะป้อนข้าว พาออกไปเดินเล่นหรือไปโรงพยาบาล เขารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นตัวถ่วง ผู้หญิงดีพร้อมทุกอย่างควรจะได้เจอคนที่ดีกว่านี้
“คนไม่สมบูรณ์แบบพี่ดูแลรินทร์ไม่ได้หรอก ไปซะ” เขาสั่งเสียงแข็ง พูดว่าขอโทษในใจ เพราะรักจึงไม่อยากให้คนรักต้องมาตกระกำลำบากดูแลคนพิการ อยากให้เธอมีชีวิตที่ดีและสุขสบาย
ไอรินทร์ทรุดร่างลงนั่งคุกเข่าข้างรถเข็น “ชีวิตของทุกคนไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอกค่ะ แม้แต่มหาเศรษฐีก็ไม่สามารถหาชีวิตที่สมบูรณ์แบบได้” ไอรินทร์สบตาชายหนุ่ม “อย่ากังวลไปเลยนะคะ รินทร์จะอยู่ข้างพี่” ก้องภพกดยิ้มให้หญิงสาวแทนคำขอบคุณ น้ำดีได้เข้าไปหล่อเลี้ยงให้หัวใจที่กำลังแห้งกลับมาสดชื่นอีกครั้ง
หลังมื้ออาหารและยาหลังอาหาร ผู้ป่วยนอนหลับเพราะฤทธิ์ยาและมีพยาบาลอาสานอนเป็นเพื่อนข้างกาย ผู้ป่วยหลับไปนานแล้ว ไอรินทร์มองไปหน้าด้านข้างของผู้ป่วย เธอสัมผัสได้ถึงความรักที่เขามีให้ เพราะไม่อยากให้เธอลำบากจึงพยายามผลักไส คิดแล้วยิ้ม ไอรินทร์ประทับลงบนริมฝีปากของชายหนุ่มบางเบาแล้วถอนออก เมื่อความไม่สมบูรณ์แบบเป็นสวนหนึ่งของชีวิต เราก็ต้องอยู่กับมันให้ได้อย่างมีความสุข
หลายเดือนต่อมา...
พิธีมงคลสมรสของก้องภพและไอรินทร์จัดที่บ้านของเจ้าสาว ในเจ็ดโมงเช้าเป็นพิธีทำบุญตักบาตรและฟังระสวดพระพุทธมนต์
เจ้าบ่าวอยู่ในเครื่องแบบสีขาวแต่งเต็มยศ เจ้าสาวอยู่ในชุดไทยจักรีประยุกต์สีทองตัดจากผ้าไหมทั้งชุด กระโปรงปักดิ้นสีทอง มีชายเดียว ชายสไบคลุมไหล่ด้านซ้ายทิ้งยาวข้างหลัง เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็อยู่ในชุดไทยที่ดูเรียบง่ายแต่ไม่โดดเด่นกว่าบ่าวสาว
“ให้พี่จับมือบนสิ” เจ้าบ่าวร้องท้วงเมื่อเจ้าสาวแย่งยิงตำแหน่งมือจับบนทัพพีจนสำเร็จ
“ไม่ได้ค่ะ ผู้หญิงต้องเป็นช้างเท้าหน้า” เธอยักคิ้วหลิ่วตาข้างหนึ่งพอเก๋ไก๋ที่สามารถชิงตำแหน่งช้างเท้าหน้าได้สำเร็จ
“รู้อย่างนี้ตักคนละทัพพียังดีกว่า” เขาพูดลอยๆ แต่ลอยเข้าหูเจ้าสาว ใบหน้ารูปหัวใจเคลือบด้วยเครื่องสำอางจัดเต็มหยักงอเล็กน้อย
“ไม่ทันไรทะเลาะกันเสียแล้ว แม่คงเลี้ยงหลานไม่ไหวแน่” พีรพัฒน์พูดเรียกรอยยิ้มจากผู้ร่วมพิธี
เก้าโมงเช้าพิธีรดน้ำสังข์
“แม่ฝากน้องด้วยนะลูก ทะเลาะกันพูดกันดีนะอย่าถึงขั้นลงไม้ลงมือนะ แม่เอาน้องกลับจริงๆ” คุณวรรณวิภาเป็นผู้รดน้ำคนแรก
“ลูกน่ะ อย่าขี้งอนมากนะรู้ไหม” คุณวิชัยอวยพรทั้งน้ำปริ่มขอบตาดีใจที่มีผู้ชายดีๆดูแลและใจหายเมื่อลูกสาวคนเล็กของบ้านต้องจากอกไปมีครอบครัวเป็นตัวเอง
“ถึงจะแต่งงานกันแล้ว ลูกก็ต้องให้เกียรติน้องเสมอนะ” คุณเกรียงภพอวยพร
“มีหลานให้แม่ไวๆนะ” คุณสุภาพรอวยพร ต่อจากนั้นเป็นแขกผู้ร่วมงานคนอื่นๆ
บรรยากาศอบอวลด้วยความชื่นมื่น ใบหน้าทุกคนแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มแห่งความปิติยินดี ญาณิศาเองก็เช่นกันที่ยินดีด้วยที่เห็นเพื่อนมีความสุข แต่ในชีวิตเธอมันช่างน่าเบื่อเหลือเกินต้องอยู่กับการถูกบังคับทุกวัน จะมีสักวันไหมที่จะมีชีวิตตามแบบที่ต้องการ
พิธีการดำเนินมาถึงตอนเย็นซึ่งจัดเป็นงานเลี้ยงในโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง
“สวยจัง” เจ้าบ่าวในชุดเครื่องแบบสีขาวเอ่ยขณะมองเจ้าสาวคนสวย
“แค่วันนี้เองเหรอ” เจ้าสาวนั่งอยู่หน้ากระจกและช่างทำผมสองคนกำลังช่วยกันจัดแต่งทรงผมให้เข้ากับชุดราตรีสีขาวสง่างามสไตล์เจ้าหญิง
“วันนี้พี่ก็เท่สุดๆเหมือนกัน” เธอมองเขาผ่านกระจก
ช่างทำผมหนึ่งในสองหันรีหันขวางและค้นหาอะไรบางอย่าง “นี่! ยัยเป็ดมงกุฎกับสร้อยคออยู่ไหนยะ” ช่างทำผมชื่อเป็ดหันรีหันขวาง
“อยู่ในกล่องไงเจ๊” เป็ดซึ่งเป็นสาวประเภทสองพยักเพยิดหน้าไปทางที่เห็นกล่อง เจ๊เท้าสะเอวทำเสียงฮึดฮัด
“ไม่มียะ ลงไปหาที่รถไป๊” เป็ดวางมือจากผมแล้วยอมไปตามคำสั่งโดยดี
“เอิ่ม คุณเจ้าบ่าวคะฝากเจ้าสาวสักครู่นะคะ” เจ๊จีบปากจีบคอยิ้มหวานให้ชายหนุ่มแล้วขอตัวออกไป
“วันนี้ปวดขาไหมคะ” ไอรินทร์จับมือของเขาที่วางอยู่บนลาดไหล่เปล่าของเธอ ก้องภพจับขอข้างซ้ายที่มีขาเทียม แล้วส่ายหน้าและตอบว่าไม่
“หิวไหม” ไอรินทร์พยักหน้า ตอนนี้พยาธิในสำไส้เริ่มทำงานแล้ว ข้าวผัดแฮมมื้อเช้าเพียงมื้อเดียวที่ยื้อชีวิตเธอไว้ถึงตอนเย็น
แล้วก้องภพออกไปจากห้อง มีเพียงไอรินทร์คนเดียวที่อยู่ในห้อง เธอลุกขึ้นหมุนซ้ายหมุนขวามองตัวเองในกระจกแล้วยิ้มให้ตัวเอง วันนี้เป็นวันที่สวยที่สวยที่สุดในชีวิต วันที่เธอใฝ่ฝันที่จะใส่ชุดราตรีสวยๆเดินควงแขนเคียงข้างกับคนรักบนพรหมสีแดงและมีเสียงปรบมือดังรอบกาย
กริ๊งๆๆ
“มาเร็วจัง” ริมฝีปากเคลือบลิบสติกสีชมพูสดกดยิ้มดีใจแล้วเดินไปเปิดประตู
............
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ