Love My Prince รักนะ ♥ เจ้าชายน้อยองค์น้อย
เขียนโดย Mitsuneko
วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.38 น.
แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) First & Last
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ9.35 น.
วันเสาร์
วันนี้เป็นที่ฉันตื่นเต้นเป็นอย่างมากจนแทบอยากจะกริ๊ด ก็มันเดทครั้งแรกในชีวิต เพราะฉันสวยเกินจนคนทั่วไปคิดว่ามีแฟนแล้วเลยไม่กล้ามาจีบกัน <<<หลงตัวเอง
แต่ยังไงซะ วันนี้ก็เป็นวันที่ฉันเฝ้ารอมานาน ฉันนอนตั้งแต่สองทุ้มเพื่อรักษาผิวพรรณให้แปล่งปลั่งเพื่อวันนี้ แต่ผลกลับแย่กว่าเดิม คือฉันนอนไม่หลับจนเกือบจะได้เป็นแพนด้าถูกจับเข้าสวนสัตว์#ผิด
และเพื่อไม่ให้เค้าเห็นแพนด้าตัวนี้ฉันจึงต้องใช้เวลาสักนิดในการแปลงโฉมเพื่อแปลงเป็นเจ้าหญิงผู้งดงาม (ชาตินี้ก็คงไม่ได้เป็น) แต่ยังไงก็มีเวลาเหลือเฝือ เพราะเวลานัดคือสิบโมง หรือก็คืออีกตั้งครึ่งชั่วโมง ครึ่งชั่วโมง! กริ๊ด! ลืมไปเลยว่าต้องเผื่อเวลาเดินทางอีก สถานที่นัดพบก็อยู่ไกลอีกจะทันมั้ยยย ไม่มีเวลาแล้วต้องรีบ!!!
- 9.59 น.
เฮ้อ~ ก็ยังถือว่ามาทันอยู่ด้วย ไม่ต้องถามว่ามายังไงนะ คำตอบคือ บิน มา (ถ้าเป็นไปได้) สถานที่นัดพบคือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ อควาเรียม! ฉันยืนอยู่บริเวณจุดขายตั๋วที่นัดกันไว้ ซึ่งตอนนี้ก็เหลืออีกหนึ่งนาทีแต่ยังไม่เห็นชินเลยนะ เป็นผู้ชายน่าจะมารอก่อนสิ
10.15 น.
นี่มันอะไรกัน สิบโมงกว่าแล้วก็ยังไม่มา แต่ไม่เป็นไร รออย่างใจเย็นๆ ลองไปเดินเล่นรอบๆ รอก่อนก็แล้วกัน ข้างๆ ของที่นี้เป็นสวนสาธารณที่อากาศบริสุทธิ์สดชื่นน่าเดินเล่นมาก ถ้าได้เดินกับชินดีคงดีมากกว่าแน่
แต่เมื่อก่อนฉันก็เคยมาที่นี่กับคุณแม่แล้วก็...แล้วก็ใครนะ? ถ้าจำไม่ผิด เพื่อนของคุณแม่กับลูกของเขา? แต่เรื่องมันก็นานตั้งแต่ตอนเลื่อนขึ้นป.5 น่าจะได้ แต่มันก็นานมากจริงๆ เด็กของเพื่อนคุณแม่คนนั้นถึงจะจำหน้าตาไม่ได้แต่ก็จำได้ว่าอ่อนกว่าฉันอยู่ไม่กี่ปี เหมือนคุณแม่จะบอกให้สนิดกันไว้แล้วก็...ต่อจากนั้นก็พูดว่าอะไรนะ น่าจะเป็นเรื่องสำคัญ...
“ขอบคุณมากนะ พ่อหนุ่ม ลิซซี่จังของฉันมันขี่กลัวแบบนี่แหละ ช่วยได้มากเลย”
“ไม่หรอกครับ ผมยินดี (*^O^*) ”
ฉันที่เดินไปเดินมาและคิดไปเรื่อยเปื่อยก็ไปได้ยินบทสนทนาที่เสียงของ ‘พ่อหนุ่ม’นั้นออกจะคุ้นๆหู ไม่คุ้นหรอก ใช่เลยละ ใช่เลย~ โดนใจฉันเลย~ ไม่ใช่และ นี้มันก็เพลงลุ้นปู่ทวดแล้วมั้ง#เว่อร์
แต่ก็ใช่เค้าแน่นอนเพราะฉันหันไปเพื่อเช็คดูว่าใช่คนที่ฉันกำลังรอรึเปล่า…
แน่นอนคำตอบคือ ใช่ จากที่ดูสถานการณ์ มีต้นไม้อยู่ใกล้ๆ และในมือชินก็มีลูกแมวท่ทางกำลังหวาดกลัว และคู่สนทนาคือคุณยายวัยประมาณหกสิบกำลังขอบคุณที่ชินช่วยลูกแมวเอาไว้ ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น...ฉันก็เดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆ จนชินสังเกตเห็นฉัน แล้ววิ่งเข้ามาหา
“แฮ่กๆ ขอโทษที่ให้รอนะอลิซ พอดีเจอ-”
“อ่าๆ ฉันรู้แล้ว สุภาพบุรุษจังนะ”
“อะ อืม แน่นอนสิ เพิ่งรู้เหรอ เป็นลิซซี่ที่น่ารักมากแถมยังชื่อคล้ายกับอลิซด้วย ยิ่งน่ารักเลยนะ (^o^) ” น้ำเสียงอันร่างเริงฟังดูเจ้าเล่ห์ของเค้าทำให้ฉันรู้สึกเขินนิดๆ☆ミ
“ฉันไม่ใช่หมานะยะ! ไม่ต้องมาหน้าแบบนี้เลย นายมาสายมากนะ รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวมีเวลาดูน้อย” ฉันรีบพูดเร่งเพื่อใบหน้าที่กำลังแดงจนจะเป็นมะเขือเทศแดงแปร้ดดดอยู่
“นี่คิดจะดูถึงเย็นเลยรึไง (-.-) ”
“เอาน่า ยังไง..วันนี้...ฉันก็อยากอยู่กับชินให้นานที่สุดอยู่แล้วละ”
“( i _ i )”
“เป็นอะไร...” ฉันหยุดเดินแล้วหันหน้าไปมองใบหน้าอันเรียวเล็กแสนน่ารักซึ่งใบหน้าเป็น...สีแดง!? เขินละสิ คิคิ จะน่ารักเกินไปแล้วนะ
“เอาละๆ ไปกันได้แล้ว” เค้าพูดพลางหันหน้าไปทางอื่น แล้วก็ไม่ยอมมองมาที่ฉันตรงๆ
แบบนั้นก็มองไม่เห็นหน้าน่ะสิ (T.T)
“นี่ๆ คุณชายช่วยหันมาทางนี่หน่อยจะได้มั้ยคะ?” สรรพนามใหม่ที่ฉันใช้เรียก ทำให้เค้าท่าทางเหมือนจะสะดุ้งขึ้นมาทันที
ความเขินอายเมื่อกี้ได้หายไปแล้ว แต่ตอนนี้สีหน้าของเค้ากลับดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“อลิซ...ขอละ อย่าเรียกแบบนั้นอีกนะ” เสียงที่ฟังดูจริงจังทำเอาฉันไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย
พวกเรามุ้งหน้าเข้าไปในอควาเรียม ชินก็ได้ซื้อตั๋วมาเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไงตอนนี้ก็ไม่มีใครเริ่มพูดอะไรกันเลย เป็นบรรยากาศที่หน้าอึดอัดมาก
หลังจากที่เดินมาได้สักพัก พวกเราก็มาชมการแสดงของสัตว์น้ำกันต่อ ที่นี้มีคนเยอะมากฉันโดนเบียดจนแทบจะแบนแล้วไหลลื่นไปตามกลุ่มคน...
หมับ!
แต่ก่อนที่ฉันจะไหลลื่นไปตามกลุ่มคนก็มีมืออันอ่อนนุ่มมาจับมือฉันไว้ก่อนที่จะโดนเบียดไปมากกว่านี้
“ขอบคุณนะ” ฉันมองหน้าเค้าแล้วกล่าวขอบคุณ แล้วเค้าก็ยิ้มให้ฉัน อ่า...บรรยากาศเริ่มดีขึ้นแล้ว
วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุด...
วันนี้เป็นวันที่ไม่ต้องอยู่คนเดียวอีกต่อไป...
วันนี้...เป็นวันที่เราได้ใกล้กัน...
…
..
…
- 17.35 น.
วันนี้ได้ไปเที่ยวกับชินตั้งหลายที่เลยละทั้งอควาเรียม ช็อปปิ้งดูหนัง (เงินทำงานพิเศษของชิน ^^) สนุกที่สุดเลยยย!!! แล้วตอนนี้ก็กำลังจะไป...
“ได้เวลากลับบ้านแล้วนะ”
“ฮ่ะๆ นั้นสินะ คงจะเพลินเกินไป ต้องสงสารกระเป๋าตังของนายด้วยนี่นะ”
“’งั้นก็กลับบ้านกันได้แล้ว เรื่องใช่เงินขนาดนี่เนี่ยต้องฟ้องคณน้าแล้วละนะ”
“ต้องขออภัยอย่างสูงค้า”
คิกๆ ถึงจะบ่นยังไง เค้าก็ดูเป็นห่วง สุดท้ายก็เดินจับมือกันจนถึงบ้านเลยละ...
พอกลับมาถึงบ้านสักพัก ฉันก็จะเอาของขวัญของเดทครั้งแรกที่ฉันก็เตรียมไว้ให้เหมือนกัน ไปให้ชิน ซึ่งโอกาสดีที่ตอนนี้ชินไม่อยู่บ้าน
แอดดด~~~
ฉันก็เดินดูรอบๆ ห้องเพื่อความเป็นระเบียบ แต่ดูๆ แล้วห้องนี่ก็ดูเรียบร้อยมากกว่าที่จะเป็นห้องเด็กผู้ชายเลยนะนั้น ข้าวของก็ไม่ค่อยมี...
จะวางไว้ตรงไหนดีนะ?...
แต่สายตาของฉันก็ไปหยุดอยู่ตรงที่โต๊ะทำงาน อ๊ะ! ไว้ในลิ้นชักก็ได้เนอะ เพราะพอเปิดลิ้นชักดูตอนทำงานอย่างตั้งใจ ก็จะได้เจอของขวัญจากฉัน
แต่...เมื่อฉันเปิดดู ก็มี...ซองจดหมายจ่าหน้าซองถึง ‘ชิน’ วางไว้อยู่ นิสัยช่างสงสัยออกอาการ แอดดูดีมั้ยอ่ะ แต่มันเป็นการเสียมารยาทนะ แต่ก็อยู่รู้ว่าเนื้อความมันเป็นยังไง...
มือไปไวกว่าความคิด ฉันเปิดดูในซองจดหมายและได้อ่านเนื้อความข้างใน…
‘ถึง Fran Northbirt (ฟราน นอร์เบิร์ต)
สวัสดีลูกชายคนใหม่ ก็อยากให้เป็นนะ แต่คนฝืนใจเธอไม่ได้ เป็นน้าแล้วกัน ยังไงครั้งนี้ก็ทำตามที่บอกแล้วนะ ที่ให้เขียนจดหมายแทนคุยทางโทรศัพท์ แต่แบบนี้ก็คงคุยกันได้ยาวขึ้น ยังไงก็ขอบคุณที่ช่วยทำให้ลูกสาวน้ามีความสุขนะ ลูกสาวน้าคงไม่ได้ทำให้เดือดร้อนนะ จากนี้ก็ช่วยเป็นเพื่อนและดูแลลูกสาวหน้าต่อไป...อีกสักหนึ่งอาทิตย์นะ โอโต้ซังของเธอเค้าเรียกหาเธอแล้ว เค้าก็บอกว่าอยากเจออยากให้เธอกลับไปหา ยังไงถ้าถึงวันนั้นก็เตรียมพร้อมให้ดีละ...แล้วน้าจะไปหานะ
จาก Rinzei Prisella
23 Febuary 2xxx’
ตอนนี้ฉันก็เข้าใจแล้วว่าโลกนี้มีเรื่องที่ ‘ไม่ควรรู้’ อยู่จริงๆ แต่เมื่อฉันรู้แล้ว...
ปึก!
เสียงประตูที่เหมือนจะเปิดด้วยความรีบอย่างสุดแรง แน่นอนคนที่เข้ามาก็ต้องเป็นเจ้าของห้องนี้อยู่แล้ว ฉันได้แต่มองหนุ่มน้อยร่างเล็กที่วิ่งมาด้วยความเหนื่อย มองมาที่มือของฉันซึ่งเป็นจดหมายลับของเค้า แต่มันก็ไม่เรียกว่าลับอีกแล้ว เมื่อฉันอ่านมันจบหมดแล้ว
“อ่านอะไรอยู่...”
“…”
“ท่าทางแบบนั้นคงจะอ่านจบแล้วสินะ”
“…”
“ก็อย่างที่อ่านไปเมื่อกี้ ผมต้องกลับไปหาพ่อแล้วละ แล้วก็...”
“ฉันไม่ได้สนเรื่องนั้นถึงหน้าซ่องจะเป็นชื่อ ‘ชิน’ แล้วชื่อข้างในมันอะไร แล้วพ่ออะไรกัน นายความจำเสื่อมอยู่ไม่ใช่รึไง แล้วแม่ฉันมาเกี่ยวอะไรรู้จักกันตั้งแต่แรกแล้วหรอ แล้วทำไมถึงไม่บอกฉันละ หรือนายโกหกฉันตั้งแต่แรก!!”
ฉันพูดจบโดยไม่คิดจะมองหน้าของเค้า หน้าตาของคนโกหก...ทำไมละ...ทำไมต้องโกหกกัน
ฉันมันเชื่อไม่ได้หรอ...
ฉันมันไว้ใจไม่ได้หรอ...
ฉันมันยังไม่ดีงั้นหรอ...
โปรดติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ