[3P]เมื่อผมเป็นชู้...กับเมียชาวบ้าน
9.7
เขียนโดย DTBII
วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.09 น.
11 ตอน
9 วิจารณ์
23.70K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2558 17.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) บทลงโทษ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่๘ บทลงโทษ
“มึงมีเรื่องต้องเคลียร์กับกู”ไอ้ภูมันดึงคอเสื้อผมไว้ซะแน่นเลยยิ่งผมดิ้นหนีมันมากเท่าไหร่มันยิ่งดึงผมให้เข้าใกล้มันมากเท่านั้น
ปัง!ปัง!
“ฟิก มึงทำแบบนี้กับกูไม่ได้นะเว้ย มึงออกมาคุยกับกูให้รู้เรื่องก่อน”เสียงไอ้ปลิวตะโกนโวยวายดังอยู่ข้างนอก ไอ้ภูก็ยิ่งดูโมโหใหญ่เลย มันผลักผมออกอย่างแรง ทีตอนแรกกระชากกูเข้าไปใกล้นะมึง
“แต่ก่อนอื่น มึงไปเคลียร์กับเมียเก่ามึงก่อน ถ้ากูยังได้ยินเสียงมันอยู่นะ...มึงโดนดีแน่!”มันขู่ผมเสร็จก็เปิดประตูแล้วผลักผมออกไปเผชิญหน้ากับไอ้ปลิวที่ยืนอยู่ด้านนอก
“มึงกลับไปเถอะ”ผมบอกมันเสียงนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันมองหน้าผมอย่างท้อแท้สิ้นหวัง
“มึงจะให้กูกลับไปไหนฟิก กูไม่มีที่ไหนให้ไปแล้ว กูเหลือมึงแค่คนเดียวนะ”มันเข้ามาคว้ามือผมมากุมไว้ ผมก็สะบัดออก อย่าหาว่าผมใจร้ายเลย เพราะเรื่องของผมกับมันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้อยู่แล้ว ซึ่งผมก็ได้เคยบอกไปแล้วว่า ผมไม่เคยคบกับใครจริงจัง เพราะผมแค่สนุกเท่านั้น แล้วอีกอย่าง เรื่องของผมกับมันก็จบลงไปตั้งแต่ตอนที่ผัวมันมากระทืบผมแล้ว
“เรื่องของกูกับมึงมันจบลงแล้ว อ่ะ กูมีให้เท่านี้”ผมหยิบกระเป๋าเงินออกมาแล้วควักที่มีทั้งหมดในกระเป๋าส่งให้มัน ไอ้ปลิวปัดมือผมออก
“กูไม่เอา กูไม่อยากได้เงินของมึง กูต้องการมึงต่างหากฟิก”แล้วมันก็เข้ามาเกาะแกะผมผมก็พยายามผลักมันออก มีเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา ไอ้ตินกลับมาแล้ว พร้อมกับเสื้อช็อปยับ ๆเหมือนเคย มันมองผมกับไอ้ปลิวสลับไปมา ดูจากสีหน้าแล้วมันก็คงพอเดาสถานการณ์ออก แต่สายตาของมันที่มองมากลับเย็นชาจนผมเสียวสันหลังวาบ เป็นอะไรของมันอีกล่ะ
“เฮ้ย ไอ้ติน มึงช่วยกูพูดกับมันหน่อยสิ”เพราะครั้งหนึ่งไอ้ตินก็เคยไล่ไอ้ปลิวไปได้แต่คราวนี้มันไม่แม้แต่จะหยุดฟังพอมันเปิดประตูได้มันก็รีบเข้าไปทันที ทิ้งให้ผมอยู่กับมันสองคน
“มึงกลับไปเลยไป อย่าให้กูต้องโมโหนะ”ผมผลักมันออก เริ่มจะโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว
“ทำไมมึงใจร้ายกับกูแบบนี้วะ”
“นี่ถือว่ากูใจดีกับมึงแล้วนะ”ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมไล่ตะเพิดไม่สนใจมันแล้ว มันถอนหายใจแรง ๆ คว้ากระเป๋าเสื้อผ้าของมันอย่างทุลักทุเล เออ ก็จริง แล้วมันจะไปอยู่ที่ไหนวะสำนึกส่วนดี (อันน้อยนิด) ของผมเริ่มประมวลผลช้า ๆ ผมหยิบโทรศัพท์มากดโทรหาไอ้โตทันที เฮ้อ มีเรื่องเดือดร้อนมันอีกแล้วสิ
[ว่าไง] น้ำเสียงระรื่นหูของมันทำผมนึกละอายเล็กน้อย
“เฮ้ย ไอ้โตกูมีเรื่องขอให้มึงช่วยหน่อย”
[ถ้ากูช่วยได้กูก็จะช่วย]
“คืองี้ เพื่อนกูมันมาเที่ยวแล้วมันหาห้องพักได้ เงินมันก็ไม่ค่อยมี ถ้าไม่ว่าอะไร กูให้มันไปค้างบ้านมึงได้รึเปล่าวะ”ไอ้โตเงียบไปเล็กน้อย
[กูก็อยากช่วยนะ แต่กูกลัวใจไอ้ป่าน มึงก็รู้ว่าสันดานมันเป็นยังไง]
“มึงไม่ต้องห่วง เพื่อนกูกับไอ้ป่านมันขั้วเดียวกัน”ผมได้ยินไอ้โตถอนหายใจเล็กน้อย
[ถ้างั้นก็ได้ แต่อย่านานนะ] หลังจากตกลงกันได้แล้ว ผมก็จดที่อยู่ของไอ้โตให้ไอ้ปลิว มันมองหน้าผมอย่างนึกแปลกใจ นี่กูใจดีกับมึงมากแล้วนะเนี่ย
“ขอบใจมึงมากนะฟิก”มันเข้ามาคว้าผมไปกอดจนแทบจะกระดิกตัวไม่ได้ มันจะไปยังต้องลำบากผมไปช่วยมันขนกระเป๋าเสื้อผ้าอีก
“เฮ้อ จบซักที”ทำไมรู้สึกเหนื่อยจังวะ ผมกลับเข้ามานห้อง ไอ้ภูส่งสายตาอาฆาตให้ผม ไอ้ตินก็นั่งเงียบ ๆไม่มองหน้าผมแม้แต่น้อย มันดูเหม่อ ๆชอบกล เป็นอะไรของมันวะ
“เคลียร์เสร็จแล้วเหรอ”ไอ้ภูแค่นเสียงถาม
“แน่นอน มือชั้นนี้แล้ว”ผมยักไหล่ด้วยท่าทางที่คิดว่ากวนตีนที่สุดไปให้มัน ไอ้ตินส่งเสียงหึหะในลำคอ ในห้องตกอยู่ในความเงียบ ผมหันไปมองพวกมันสองคนเห็นพวกมันกำลังนั่งอ่านหนังสือกันอย่างพร้อมเพรียง ดูไม่รู้เล้ย ว่าเตี๊ยมกันมา เฮอะ กูจะดูว่าพวกมึงจะเงียบกันได้อีกนานไหม ผมกดโทรหาไอ้ชาย
“ฮัลโหลชิน คิดถึงจังเลยทำอะไรอยู่ครับ กินข้าวรึยัง”ผมพยายามดัดเสียงให้นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงผมไม่เห็นพวกมันสองคนแต่ผมว่าพวกมันต้องนั่งฟังหูผึ่งอยู่แน่ ๆ
[ชินเชินอะไร เล่นเหี้ยอะไรของมึง พ่อมึงตายไง๊] ด่ากูไม่พอ ด่าพ่อกูอีกนะไอ้ชาย มึงจะช่วยตามน้ำให้กูหน่อยไม่ได้รึไงวะ
“แหม ปากหวานจังเลยน้า คิดถึงก็บอกมาเหอะ”แล้วผมก็สนทนาต่อไป โดยมีเสียงไอ้ชายด่ามาเป็นระยะ ไม่รู้ว่าผมกับไอ้ชายใครบ้ากว่ากัน ไอ้ชายมันก็ไม่ยอมวางสักที
“อืมครับ ฟิกก็อยากไปแต่หมาสองตัวที่บ้านมันดุ”ผมแกล้งพูดขอกัดมันสองคนนิดนึง ในที่สุดไอ้ภูมันคงทนไม่ไหวเพราะมันลุกมายืนค้ำหัวผม ที่ส่งยิ้มของผู้ชนะไปห้มัน ไอ้ภูกระชากโทรศัพท์ไปจากมือผมก่อนจะเดินออกไปที่นอกระเบียง
“มึงจะทำอะไร”ผมเดินตามมันไป และร้องเสียงหลงทันทีเมื่อมันโยนโทรศัพท์ของผมลงด้านล่างทันทีถึงห้องผมจะอยู่แค่ชั้นสามก็เถอะ แต่ผมคาดว่าโทรศัพท์ของผมได้สิ้นชีพไปแล้ว ไอ้ภูเดินกลับเข้าไปในห้องทิ้งให้ผมยืนกระฟัดกระเฟียดคนเดียว
“เซ็งเว้ย”ผมหยิบนู่นหยิบนี่เสียงดังตึงตังด้วยควาหงุดหงิด ผมคว้ากุญแจรถมา กะจะออกไปข้างนอกอยู่กับพวกมันแล้วหงุดหงิด
“ถ้ามึงก้าวออกจากห้องล่ะก็...”เป็นไอ้ตินที่พูดขู่ผมขึ้นมาผมหันกลับไปมองมันอย่างท้าทาย กูไม่กลัวมึงหรอกเว้ย
“ทำไมมึงจะทำอะไรกู ไอ้แห้ง”ผมยิ้มเหยียดมันถ้าสูกับไอ้ตินเป็นไปได้ว่าผมก็พอมีหวังชนะเพราะตัวมันก็พอ ๆกับผม ไม่เหมือนไอ้ภูรายนั้นแรงอย่างควาย
“หึ! มันไม่ทำแต่กูทำ”ไอ้ภูสาวเท้ามาหาผม ก่อนจะซัดหมัดลงที่ท้องผมเต็มแรง ไอ้เหี้ยภู! ผมเซล้มลงกับพื้น จุกซิครับ!
“ยังจะปากเก่งอีกมั้ยมึง มาเริ่มเกมส์ตอบคำถามกันดีกว่ามั้ง”ไอ้ภูยิ้มเย็นชาให้ผมมันคว้าเอวผมพาดบ่าเหมือนผมเป็นถุงปุ๋ย แล้วโยนผมลงที่โซฟาดังตุ้บ จนเจ็บหลัง
“เริ่มคำถามแรกดีกว่า”มันว่าแล้วมานั่งทับช่วงอกผมไว้จนขยับไม่ได้ แล้วมึงจะมานั่งทำไมตรงนี้วะ
“สัด กูหนักลุกออกไปเว้ย”ผมได้แต่ด่ามัน พลางสะบัดขาไปด้วย ก็ไอ้ตินมันมายุ่งกับช่วงล่างของผมนี่หว่า
“คำถามแรกวันนี้มึงไปไหนมา”ไอ้ภูถามพร้อมรอยยิ้ม ที่เป็นรอยยิ้มที่สยองมากสำหรับผม ไม่พูดเปล่ามันไล่มือมาตามลำคอผมด้วย
“ไปเรียนไงไอ้สัด”ไม่เข้าใจเลยจริง ๆดูเหมือนไอ้ภูมันจะระแคะระคายเรื่องวันนี้แล้วมันจะมาถามผมทำบ้าอะไรอีก
“ปากหนักนักนะมึง จัดการตามสบายเลยนะไอ้ติน เดี๋ยวกูช่วย”ไอ้ภูมันหัวเราะหึ ๆ มันพูดอะไรกันไม่รู้แต่ที่รู้ ๆคือกางเกงผมหลุดไปแล้วครับ
“กูไม่มีอารมณ์เว้ย ปล่อยกู”ผมพูดจริง ๆ รู้สึกครั้งนี้ไอ้ตินมันน่ากลัวแปลก ๆ ไม่เหมือนคนเดิมเลยถลึงตาใส่ไอ้ภูบ้าง แต่มันก็ไม่ได้ผล มันหยิกแก้มผม....จนเจ็บ
“แหม ๆ ของแบบนี้มันสร้างกันได้”ไอ้ภูพูดจบก็ก้มมาดูดเม้มซอกคอผมจนเจ็บ ผมจิกเล็บลงบนไหล่มัน ไม่ได้เสียวแต่อยากให้มันเจ็บ ว่าแล้วก็จิกเล็บลงไปลึกกว่าเดิมอีก นี่ ๆ
“ถ้ามึงไม่หยุด กูจะทำรอยให้เต็มคอมึงแน่”มันดึงมือผมออก คว้ามาจูบก่อนจะไล่ลงมาตามแขน
“โอ๊ยไอ้สัดติน มึงเอาอะไรยัดตูดกู!!”ผมตะโกนลั่นห้องเมื่อรู้สึกว่าอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่ไอ้นั่นของมันแน่ ๆ กำลังสอดเข้ามาในช่องทางของผมอย่างรุนแรงโดยไม่มีพิธีรีตองอะไรทั้งสิ้น ผมเม้มปากแน่เพื่อสะกดกลั้นความเจ็บ รู้สึกมีน้ำตาคลอด้วย
“เจ็บมั้ย”ผมอาจจะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าไอ้ภูมันไม่ถามผมด้วยรอยยิ้มสะใจ มึงนะมึง พอกันทั้งคู่เลย ผมบิดตัวเล็กน้อยเอไอ้เจ้าสิ่งนั้นดันเข้ามาจนสุด ผมเจ็บมาก ๆ ไม่มีอารมณ์ร่วมใด ๆทั้งสิ้น ดูเหมือนนี่จะเป็นจุดประสงค์ของมันใช่ไหม
“โอ๊ย”แรงสั่นสะเทือนจากเจ้าสิ่งนั้นทำให้ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บ ผมรู้เลยว่ามันคืออะไร ไวเบรเตอร์ ผมรู้สึกขยะแขยงขึ้นมาชอบกล
“ไอ้ติน มึงหยุดนะเว้ย”ไม่มีความเสียวเลยสักนิด มีแต่ความเจ็บเพราะแรงสั่นที่เพิ่มขึ้นน่าแปลกนะ... ทำไมอกข้างซ้ายมันถึงได้เจ็บไปด้วย? ไม่เข้าใจตัวเอง
“กูจะให้โอกาสมึงอีกครั้ง ตอบความจริงมาวันนี้มึงไปทำอะไรมา”ไอ้ตินถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาอีกแล้ว
“เออๆ กูนอนกับคนอื่นมา”ผมรีบตอบกลัวมันจะทำอะไรบ้า ๆอีก
“มึงสนุกมากมั้ย”ไอ้ตินถามต่อ เออ สนุกสิ ตูดมันฟิตดี ก็ทำได้แค่คิด ผมนิ่งเงียบไม่ตอบมัน
“มึงมีความสุขมากใช่ไหมไอ้ฟิก”
“เออสิ กูก็ใช้ชีวิตขอกูแบบนี้ จะให้กูเปลี่ยนเพราะพวกมึงมันเป็นไปไม่ได้หรอกเว้ย”
“...สักวันมึงต้องทำให้ได้”ไอ้ภูพูดแกมบังคับ ผมมองมันอย่างคับแค้นใจ
“พวกมึงคงฝันล่ะ”
“หึ ก็คอยดูว่ากูสองคนจะเปลี่ยนชีวิตกาก ๆของมึงได้ไหม”ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ผมไม่ส่งเสียงร้องออกมาสักแอะเมื่อแรงสั่นมันเพิ่มมากขึ้น มีแต่ความรู้สึกแปลกพิกลที่มีไอ้ของเล่นมาอยู่ในตัวผม เชี่ยเอ๊ย คิดว่าไอ้ตินมันจะไม่มีพิษสงอะไรซะแล้ว ผมคงประเมินมันต่ำไป มันดึงไวเบรเตอร์ออก แล้วสอดแก่นกายของมันเข้ามาแทน ซึ่งก็เข้ามาได้ง่ายเพราะโดนไวเบรเตอร์มาแล้ว ผมควรจะขอบคุณมันดีไหม
“มะ เดี๋ยวกูจะทำให้มึงมีอารมณ์เอง”ไอ้ภูกระซิบที่ข้างหูของผม มันแกะกระดุมเสื้อผมออกโน้มตัวมาบดเบียดริมฝีปากกับผม ซึ่งผมก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรออกไป ไอ้ตินยังคงขยับเอวช้า ๆน้องชายผมก็ถูกปลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ พวกมันก็ปฏิบัติภารกิจของพวกมันต่อไป ผมจับความรู้สึกได้ว่าไอ้ตินมันกำลังโกรธเพราะทุกสัมผัสของมันบอกแบบนั้นจริง ๆ
“โอ๊ย ไอ้เหี้ย”ผมร้องออกมาอย่างสุดกลั้นเมื่อไอ้ตินมันบีบน้องชายผม
“สัญญามาก่อนว่ามึงจะไม่ทำแบบนี้อีก”มันส่งเสียงขู่มา บีบน้องชายผมแรงกว่าเดิม
“แค่พูดตอบมามันยากนักรึไงวะหา ไอ้ตินบีบแรง ๆเลย ถ้าหน้ามันไม่เขียว มึงไม่ต้องหยุด”ไอ้ภู ไอ้สัดหมา
“...ไอ้...โอ๊ย เออ ๆก็ได้ ๆกูสัญญา ๆ ว่าจะไม่ทำแล้ว”ต่อหน้าพวกมึงนะ
“ดี!มึงพูดแล้วนะ แล้วถ้ากูรู้...มึงเจ็บตัวแน่ ตูดมึงด้วย กูจะเล่นแม่งทั้งคืนเลย”ผมได้แต่กลอกตามองมันบังคับกูกันชัด ๆ เมื่อพวกมันเสร็จกิจ พวกมันก็แยกย้ายกันไปล้างตัว
ตอนเช้าผมลากสังขารมาเข้าห้องน้ำ ความจริงก็กะจะไม่มาเรียนเพราะเป็นคาบอิ้ง แต่ผมขาดเกินโควต้าแล้ว ก็เลยจำเป็นต้องไป ขณะที่กำลังแปรงฟันอยู่ไอ้ตินมันก็เข้ามา ผมเหลือบตามองมันเมื่อมันเดินเข้ามาใกล้ ๆ ผมเสียววูบอย่าเดินมาด้านหลังกูสิเว้ย!ผมเกร็ง ๆมันนิดหน่อย เพราะตอนนี้ผมเหลือแค่ผ้าขนหนูพันเอวอยู่เดียว ไอ้ตินมันเดินเอาคางมาเกยไหล่ผมไว้ สายตามันไม่เย็นชาเหมือนเมื่อวานแล้ว ผมก็เลยไม่ค่อยเกร็งมันเท่าไหร่
“เมื่อวานกูโมโห”จู่ ๆมันก็พูดขึ้นผมก็เงียบรอมันพูดต่อไป
“พอกูเห็นมึงกับไอ้ปลิวเมื่อวาน....มันก็ทำให้กูนึกถึงอันขึ้นมา”มันเงียบไป ผมเงยหน้ามองมันผ่านกระจกเห็นมันมีสีหน้าข่มขื่น
“ถึงกูจะลืมอันแล้ว แต่พอกูมาเห็นแบบนี้จู่ ๆกูก็โกรธขึ้นมา”อ้อ ที่แท้มันก็โมโหเลยมาลงที่ผมอย่างนั้นหรือ แล้วมันก็จูบไหล่ผมเบา ๆแล้วเดินออกไป สักพักไอ้ภูก็เดินเข้ามาบ้าง นี่มันนัดเวลากันรึไงวะ พอมาถึงมันก็มาฉี่เสียงดังจ๊อก ๆ อยู่ใกล้ ๆผม พอมันทำธุระเสร็จมันก็เดินมาใกล้ ๆผม
“ออกไปเลยไป”ผมไล่มันหลังจากที่แปรงฟันเสร็จแล้ว
“หือ ทำไมอ่ะ เรามาสนุกกันอีกรอบดีกว่า”มันทำสายตากรุ้มกริ้ม ผมรู้ว่ามันตั้งใจจะแกล้งก็เลยเปิดน้ำ สาดใส่มันทันที มันก็หัวเราะคิกคัก เหมือนสนุกหนักหนา
“ไอ้ภู!”ผมตะโกนด่ามันเมื่อมันกระตุกผ้าขนหนูที่พันเอวผมอยู่ออกไปด้วย ได้ยินเสียงมนหัวเราะลั่นห้อง มีความสุขนักนะมึง ผมรีบแต่งตัวออกไปเรียน ไม่อยากอยู่กับพวกมันนาน พาลจะปวดหัวเปล่า ๆไม่อยากจะยอมรับเท่าไหร่แต่ถ้าพวกมันเล่นประตูหลังผมบ่อย ๆ มีหวังได้ขี้สบายรูแน่ ไอ้ฟิกเอ๊ย!
“วันนี้มึงอย่าทำตัวเหลวไหลนะ...”ไอ้ตินเว้นวรรคไว้
“ถ้ามึงไม่ฟังคำกู แล้วมึงจะรู้ว่าคนอย่างกูก็เลวเป็น”ผมแต่เงียบแล้วเปิดประตูออกไปเลย ไอ้ตินมันทำให้ผมกลัวขึ้นมาตงิด ๆ แม่ง ไม่ชอบมันโหมดนี้เลยว่ะ ขณะที่กำลังเข้าไปในตึกเรียนรวมก็มีเสียงเรียกจากไอ้กันต์เด็กแว่นจากคณะมนุษศาสตร์เอกอิ้ง เรียกไว้ มันก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นคนที่รับอาสาทำการบ้านให้ผมเอง
“ฟิก เดี๋ยวก่อนมีเรื่องสำคัญ”มันคว้าไหล่ผมไว้ ผมเลิกคิวมองมัน กะจะทวงการบ้านของผมซักหน่อย แต่ท่าทางมันดูรีบ ๆลน ๆ
“อะไรล่ะ แล้วไหนการบ้านกู”
“คือ...คือว่า เมื่อวานเรายุ่งมากเลย มีงานที่คณะเราก็เลย”มันกลืนน้ำลาย ผมก็ชักสีหน้า กูยิ่งรีบ ๆอยู่มายืดยาดอยู่ได้
“เราก็เลยลืมทำการบ้านให้นาย นายอย่าโกรธเรานะ”
“เฮ้ย แล้วกูจะเอาที่ไหนไปส่งล่ะ”เริ่มฉุนมันแล้ว มันคงกลัวผมโกรธเพราะเห็นมันยิ่งหน้าเสีย
“เราจะโทรบอกนาย แต่เราก็โทรไม่ติดก็ไม่รู้จะทำยังไง เมื่อวานกว่าจะได้กลับก็เช้าเลย ฟิก เราขอโทษนะ งั้นเอาของเราไปส่งแทนก็ได้”มันหยิบแบบฝึกหัดของมันมาให้ผม
“ไม่ต้องแล้ว”ผมสะบัดเสียงใส่มัน แล้วรีบหมุนตัวเดินต่อไป ไม่อยากสาย
“เดี๋ยว ๆฟิก”
“มีอะไรอีกวะ”ผมทำหน้าหงุดหงิดใส่มัน
“คือวันนี้มีควิซย่อย...”ผมตาโตมีควิซย่อย
“เราโทรหานายไม่ติดก็เลยไม่ได้บอก...”เชี่ยเอ๊ย ผมเดินเข้าไปในห้องเรียนอย่างหงุดหงิดอาจารย์แจกกระดาษข้อสอบไว้แล้ว ไม่รู้เรื่องเลย ผมก็มั่ว ๆไป ทำใจไว้แล้วกับเกรดวิชานี้
“กูเปลี่ยนเบอร์แล้วนะ”ผมบอกไอ้เคนกับไอ้ชายหลังจากที่เรียนเสร็จแล้ว
“แหม่ ช่วงนี้นี่เปลี่ยนเบอร์ปล่อยจริงนะมึง”
“มือถือสวยดีนะ ฮ่า ๆ”ไอ้เคนมันล้อโนเกีย เก่า ๆของผม ซึ่งไอ้เครื่องนี้ผมไปค้นมาจากลิ้นชักกะจะใช้แก้ขัดไปก่อน
“เออ วันนี้ไอ้โป้มันชวนไปกินเหล้าบ้านมัน มึงจะไปไหมวะ”ผมมองหน้าไอ้ชายอย่างครุ่นคริด ใจนี่กระโดดไปบ้านไอ้โป้แล้วครับ แต่ติดที่ไอ้สองตัวนั่นน่ะสิ ไอ้เคนก็รอโอกาสจะล้อผมอีก
“แปบนึง”ผมเดินออกมาโทรหาไอ้ภู
[ว่าไงที่รัก]ที่รักพ่อมึงสิ
“เออ เย็นนี้กูไปทำงานบ้านเพื่อนกูนะ”
[ทำงานอะไร บ้านเพื่อนคนไหน]
“มึงไม่ต้องรู้หรอก บอกไปมึงก็ไม่รู้จัก บอกไอ้ตินด้วยนะ แค่นี้นะเว้ย”ผมไม่รอช้ากดวางสายทันที
“เอ้า โทรรายงานผัวเสร็จแล้วเหรอ”หมาในปากไอ้เคนทำงานทันที
“รายงานเหี้ยอะไรกูโทรหาเด็กกูเว้ย”ไอ้เคนหัวเราะ
“ให้มันจริงเถอะ”ความจริงก็ไม่อยากโทรบอกหรอก แต่พอนึกถึงไอ้ติน....ผมก็กลัวมันนิด ๆ (นิดเดียวจริง ๆนะ)หลังจากนั้นก็ไปเมากันที่ห้องไอ้โป้ ไอ้พวกนี้มันคอทองแดงกันอยู่แล้วก็กินกันยันมืดเลย หืม...ไอ้ภูโทรมา
“อะไร”ผมก็เริ่มมึน ๆแล้วเหมือนกัน
[เมื่อไหร่จะกลับ แล้วทำไมเสียงดังจังวะ นี่มึงทำงานแน่เหรอ บอกมาว่ามึงอยู่ไหน]มันถามเสียงแข็ง ผมก็เลยยอมบอกที่อยู่มันไป มันต้องมาตามผมแน่ ๆ
“อะไร ผัวมึงโทรตามเหรอ”ไอ้เคนก็ยังล้อผมไม่หยุด ไอ้เหี้ยนี่นิ ผมไม่สนใจมันคว้าขวดเหล้ายกดื่มทันที เพราะไอ้ภูกำลังมาก็เลยต้องรีบกระดกหน่อย สักพักผมก็ได้ยินเสียงรถมาจอดหน้าบ้านไอ้โป้
“ใครมาวะ”ไอ้โป้ที่เมาหมดสภาพไปแล้วถามเสียงอ้อแอ้ขึ้นมา
“ผัวไอ้ฟิก”
“สัด ไม่ใช่เว้ย”ไม่ได้ ๆ เดี๋ยวไอ้ฟิกเสียชื่อ ป่นปี้หมดไอ้ภูเดินเด่นเข้ามาเลย มันจับคอเสื้อผมกระตุก ๆ
“ไหนมึงบอกว่ามาทำงาน”มันกระซิบกับผม
“ก็ทำงานเสร็จแล้วไง ก็เลยฉลองไง”แล้วผมก็หัวเราะแหะ ๆให้มันในขณะที่ไอ้ภูมันก็ลากผมเข้าไปในรถพากลับหอ ผมก็หงุดหงิดนิดหน่อย
“ลงมา”ผมก็เดินเซ ๆ ลงมาหามัน
“ภูจ๋าา”ผมไม่ได้เมามากหรอก แค่มึน ๆเฉย ๆ แล้วก็อยากจะแกล้งมันก็เท่านั้นเอง ไอ้ภูหยุดเดินทันทีที่ได้ยินผมเรียก เหอ ๆ ผมยังสยองตัวเองเลย มันหันมามองผมด้วยใบหน้าแปลกใจ แต่ก็ขึ้นสีน้อย ๆ ผมเดินปามัน ประคองหน้ามันมาใกล้ ๆจนสามารถสัมผัสลมหายใจของอีกฝ่ายได้ ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้มันก่อนจะ
อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แหวะอ้วกออกมาใส่มันทันที ก๊าก ๆ คิดว่ากูจะจูบมึงเหรอ
“ไอ้ฟิก ไอ้เหี้ยยย”มันผลักผมออก ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องปล่อยให้ผมหัวเราะตัวงออยู่คนเดียว
“มึงมีเรื่องต้องเคลียร์กับกู”ไอ้ภูมันดึงคอเสื้อผมไว้ซะแน่นเลยยิ่งผมดิ้นหนีมันมากเท่าไหร่มันยิ่งดึงผมให้เข้าใกล้มันมากเท่านั้น
ปัง!ปัง!
“ฟิก มึงทำแบบนี้กับกูไม่ได้นะเว้ย มึงออกมาคุยกับกูให้รู้เรื่องก่อน”เสียงไอ้ปลิวตะโกนโวยวายดังอยู่ข้างนอก ไอ้ภูก็ยิ่งดูโมโหใหญ่เลย มันผลักผมออกอย่างแรง ทีตอนแรกกระชากกูเข้าไปใกล้นะมึง
“แต่ก่อนอื่น มึงไปเคลียร์กับเมียเก่ามึงก่อน ถ้ากูยังได้ยินเสียงมันอยู่นะ...มึงโดนดีแน่!”มันขู่ผมเสร็จก็เปิดประตูแล้วผลักผมออกไปเผชิญหน้ากับไอ้ปลิวที่ยืนอยู่ด้านนอก
“มึงกลับไปเถอะ”ผมบอกมันเสียงนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันมองหน้าผมอย่างท้อแท้สิ้นหวัง
“มึงจะให้กูกลับไปไหนฟิก กูไม่มีที่ไหนให้ไปแล้ว กูเหลือมึงแค่คนเดียวนะ”มันเข้ามาคว้ามือผมมากุมไว้ ผมก็สะบัดออก อย่าหาว่าผมใจร้ายเลย เพราะเรื่องของผมกับมันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้อยู่แล้ว ซึ่งผมก็ได้เคยบอกไปแล้วว่า ผมไม่เคยคบกับใครจริงจัง เพราะผมแค่สนุกเท่านั้น แล้วอีกอย่าง เรื่องของผมกับมันก็จบลงไปตั้งแต่ตอนที่ผัวมันมากระทืบผมแล้ว
“เรื่องของกูกับมึงมันจบลงแล้ว อ่ะ กูมีให้เท่านี้”ผมหยิบกระเป๋าเงินออกมาแล้วควักที่มีทั้งหมดในกระเป๋าส่งให้มัน ไอ้ปลิวปัดมือผมออก
“กูไม่เอา กูไม่อยากได้เงินของมึง กูต้องการมึงต่างหากฟิก”แล้วมันก็เข้ามาเกาะแกะผมผมก็พยายามผลักมันออก มีเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา ไอ้ตินกลับมาแล้ว พร้อมกับเสื้อช็อปยับ ๆเหมือนเคย มันมองผมกับไอ้ปลิวสลับไปมา ดูจากสีหน้าแล้วมันก็คงพอเดาสถานการณ์ออก แต่สายตาของมันที่มองมากลับเย็นชาจนผมเสียวสันหลังวาบ เป็นอะไรของมันอีกล่ะ
“เฮ้ย ไอ้ติน มึงช่วยกูพูดกับมันหน่อยสิ”เพราะครั้งหนึ่งไอ้ตินก็เคยไล่ไอ้ปลิวไปได้แต่คราวนี้มันไม่แม้แต่จะหยุดฟังพอมันเปิดประตูได้มันก็รีบเข้าไปทันที ทิ้งให้ผมอยู่กับมันสองคน
“มึงกลับไปเลยไป อย่าให้กูต้องโมโหนะ”ผมผลักมันออก เริ่มจะโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว
“ทำไมมึงใจร้ายกับกูแบบนี้วะ”
“นี่ถือว่ากูใจดีกับมึงแล้วนะ”ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมไล่ตะเพิดไม่สนใจมันแล้ว มันถอนหายใจแรง ๆ คว้ากระเป๋าเสื้อผ้าของมันอย่างทุลักทุเล เออ ก็จริง แล้วมันจะไปอยู่ที่ไหนวะสำนึกส่วนดี (อันน้อยนิด) ของผมเริ่มประมวลผลช้า ๆ ผมหยิบโทรศัพท์มากดโทรหาไอ้โตทันที เฮ้อ มีเรื่องเดือดร้อนมันอีกแล้วสิ
[ว่าไง] น้ำเสียงระรื่นหูของมันทำผมนึกละอายเล็กน้อย
“เฮ้ย ไอ้โตกูมีเรื่องขอให้มึงช่วยหน่อย”
[ถ้ากูช่วยได้กูก็จะช่วย]
“คืองี้ เพื่อนกูมันมาเที่ยวแล้วมันหาห้องพักได้ เงินมันก็ไม่ค่อยมี ถ้าไม่ว่าอะไร กูให้มันไปค้างบ้านมึงได้รึเปล่าวะ”ไอ้โตเงียบไปเล็กน้อย
[กูก็อยากช่วยนะ แต่กูกลัวใจไอ้ป่าน มึงก็รู้ว่าสันดานมันเป็นยังไง]
“มึงไม่ต้องห่วง เพื่อนกูกับไอ้ป่านมันขั้วเดียวกัน”ผมได้ยินไอ้โตถอนหายใจเล็กน้อย
[ถ้างั้นก็ได้ แต่อย่านานนะ] หลังจากตกลงกันได้แล้ว ผมก็จดที่อยู่ของไอ้โตให้ไอ้ปลิว มันมองหน้าผมอย่างนึกแปลกใจ นี่กูใจดีกับมึงมากแล้วนะเนี่ย
“ขอบใจมึงมากนะฟิก”มันเข้ามาคว้าผมไปกอดจนแทบจะกระดิกตัวไม่ได้ มันจะไปยังต้องลำบากผมไปช่วยมันขนกระเป๋าเสื้อผ้าอีก
“เฮ้อ จบซักที”ทำไมรู้สึกเหนื่อยจังวะ ผมกลับเข้ามานห้อง ไอ้ภูส่งสายตาอาฆาตให้ผม ไอ้ตินก็นั่งเงียบ ๆไม่มองหน้าผมแม้แต่น้อย มันดูเหม่อ ๆชอบกล เป็นอะไรของมันวะ
“เคลียร์เสร็จแล้วเหรอ”ไอ้ภูแค่นเสียงถาม
“แน่นอน มือชั้นนี้แล้ว”ผมยักไหล่ด้วยท่าทางที่คิดว่ากวนตีนที่สุดไปให้มัน ไอ้ตินส่งเสียงหึหะในลำคอ ในห้องตกอยู่ในความเงียบ ผมหันไปมองพวกมันสองคนเห็นพวกมันกำลังนั่งอ่านหนังสือกันอย่างพร้อมเพรียง ดูไม่รู้เล้ย ว่าเตี๊ยมกันมา เฮอะ กูจะดูว่าพวกมึงจะเงียบกันได้อีกนานไหม ผมกดโทรหาไอ้ชาย
“ฮัลโหลชิน คิดถึงจังเลยทำอะไรอยู่ครับ กินข้าวรึยัง”ผมพยายามดัดเสียงให้นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงผมไม่เห็นพวกมันสองคนแต่ผมว่าพวกมันต้องนั่งฟังหูผึ่งอยู่แน่ ๆ
[ชินเชินอะไร เล่นเหี้ยอะไรของมึง พ่อมึงตายไง๊] ด่ากูไม่พอ ด่าพ่อกูอีกนะไอ้ชาย มึงจะช่วยตามน้ำให้กูหน่อยไม่ได้รึไงวะ
“แหม ปากหวานจังเลยน้า คิดถึงก็บอกมาเหอะ”แล้วผมก็สนทนาต่อไป โดยมีเสียงไอ้ชายด่ามาเป็นระยะ ไม่รู้ว่าผมกับไอ้ชายใครบ้ากว่ากัน ไอ้ชายมันก็ไม่ยอมวางสักที
“อืมครับ ฟิกก็อยากไปแต่หมาสองตัวที่บ้านมันดุ”ผมแกล้งพูดขอกัดมันสองคนนิดนึง ในที่สุดไอ้ภูมันคงทนไม่ไหวเพราะมันลุกมายืนค้ำหัวผม ที่ส่งยิ้มของผู้ชนะไปห้มัน ไอ้ภูกระชากโทรศัพท์ไปจากมือผมก่อนจะเดินออกไปที่นอกระเบียง
“มึงจะทำอะไร”ผมเดินตามมันไป และร้องเสียงหลงทันทีเมื่อมันโยนโทรศัพท์ของผมลงด้านล่างทันทีถึงห้องผมจะอยู่แค่ชั้นสามก็เถอะ แต่ผมคาดว่าโทรศัพท์ของผมได้สิ้นชีพไปแล้ว ไอ้ภูเดินกลับเข้าไปในห้องทิ้งให้ผมยืนกระฟัดกระเฟียดคนเดียว
“เซ็งเว้ย”ผมหยิบนู่นหยิบนี่เสียงดังตึงตังด้วยควาหงุดหงิด ผมคว้ากุญแจรถมา กะจะออกไปข้างนอกอยู่กับพวกมันแล้วหงุดหงิด
“ถ้ามึงก้าวออกจากห้องล่ะก็...”เป็นไอ้ตินที่พูดขู่ผมขึ้นมาผมหันกลับไปมองมันอย่างท้าทาย กูไม่กลัวมึงหรอกเว้ย
“ทำไมมึงจะทำอะไรกู ไอ้แห้ง”ผมยิ้มเหยียดมันถ้าสูกับไอ้ตินเป็นไปได้ว่าผมก็พอมีหวังชนะเพราะตัวมันก็พอ ๆกับผม ไม่เหมือนไอ้ภูรายนั้นแรงอย่างควาย
“หึ! มันไม่ทำแต่กูทำ”ไอ้ภูสาวเท้ามาหาผม ก่อนจะซัดหมัดลงที่ท้องผมเต็มแรง ไอ้เหี้ยภู! ผมเซล้มลงกับพื้น จุกซิครับ!
“ยังจะปากเก่งอีกมั้ยมึง มาเริ่มเกมส์ตอบคำถามกันดีกว่ามั้ง”ไอ้ภูยิ้มเย็นชาให้ผมมันคว้าเอวผมพาดบ่าเหมือนผมเป็นถุงปุ๋ย แล้วโยนผมลงที่โซฟาดังตุ้บ จนเจ็บหลัง
“เริ่มคำถามแรกดีกว่า”มันว่าแล้วมานั่งทับช่วงอกผมไว้จนขยับไม่ได้ แล้วมึงจะมานั่งทำไมตรงนี้วะ
“สัด กูหนักลุกออกไปเว้ย”ผมได้แต่ด่ามัน พลางสะบัดขาไปด้วย ก็ไอ้ตินมันมายุ่งกับช่วงล่างของผมนี่หว่า
“คำถามแรกวันนี้มึงไปไหนมา”ไอ้ภูถามพร้อมรอยยิ้ม ที่เป็นรอยยิ้มที่สยองมากสำหรับผม ไม่พูดเปล่ามันไล่มือมาตามลำคอผมด้วย
“ไปเรียนไงไอ้สัด”ไม่เข้าใจเลยจริง ๆดูเหมือนไอ้ภูมันจะระแคะระคายเรื่องวันนี้แล้วมันจะมาถามผมทำบ้าอะไรอีก
“ปากหนักนักนะมึง จัดการตามสบายเลยนะไอ้ติน เดี๋ยวกูช่วย”ไอ้ภูมันหัวเราะหึ ๆ มันพูดอะไรกันไม่รู้แต่ที่รู้ ๆคือกางเกงผมหลุดไปแล้วครับ
“กูไม่มีอารมณ์เว้ย ปล่อยกู”ผมพูดจริง ๆ รู้สึกครั้งนี้ไอ้ตินมันน่ากลัวแปลก ๆ ไม่เหมือนคนเดิมเลยถลึงตาใส่ไอ้ภูบ้าง แต่มันก็ไม่ได้ผล มันหยิกแก้มผม....จนเจ็บ
“แหม ๆ ของแบบนี้มันสร้างกันได้”ไอ้ภูพูดจบก็ก้มมาดูดเม้มซอกคอผมจนเจ็บ ผมจิกเล็บลงบนไหล่มัน ไม่ได้เสียวแต่อยากให้มันเจ็บ ว่าแล้วก็จิกเล็บลงไปลึกกว่าเดิมอีก นี่ ๆ
“ถ้ามึงไม่หยุด กูจะทำรอยให้เต็มคอมึงแน่”มันดึงมือผมออก คว้ามาจูบก่อนจะไล่ลงมาตามแขน
“โอ๊ยไอ้สัดติน มึงเอาอะไรยัดตูดกู!!”ผมตะโกนลั่นห้องเมื่อรู้สึกว่าอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่ไอ้นั่นของมันแน่ ๆ กำลังสอดเข้ามาในช่องทางของผมอย่างรุนแรงโดยไม่มีพิธีรีตองอะไรทั้งสิ้น ผมเม้มปากแน่เพื่อสะกดกลั้นความเจ็บ รู้สึกมีน้ำตาคลอด้วย
“เจ็บมั้ย”ผมอาจจะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าไอ้ภูมันไม่ถามผมด้วยรอยยิ้มสะใจ มึงนะมึง พอกันทั้งคู่เลย ผมบิดตัวเล็กน้อยเอไอ้เจ้าสิ่งนั้นดันเข้ามาจนสุด ผมเจ็บมาก ๆ ไม่มีอารมณ์ร่วมใด ๆทั้งสิ้น ดูเหมือนนี่จะเป็นจุดประสงค์ของมันใช่ไหม
“โอ๊ย”แรงสั่นสะเทือนจากเจ้าสิ่งนั้นทำให้ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บ ผมรู้เลยว่ามันคืออะไร ไวเบรเตอร์ ผมรู้สึกขยะแขยงขึ้นมาชอบกล
“ไอ้ติน มึงหยุดนะเว้ย”ไม่มีความเสียวเลยสักนิด มีแต่ความเจ็บเพราะแรงสั่นที่เพิ่มขึ้นน่าแปลกนะ... ทำไมอกข้างซ้ายมันถึงได้เจ็บไปด้วย? ไม่เข้าใจตัวเอง
“กูจะให้โอกาสมึงอีกครั้ง ตอบความจริงมาวันนี้มึงไปทำอะไรมา”ไอ้ตินถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาอีกแล้ว
“เออๆ กูนอนกับคนอื่นมา”ผมรีบตอบกลัวมันจะทำอะไรบ้า ๆอีก
“มึงสนุกมากมั้ย”ไอ้ตินถามต่อ เออ สนุกสิ ตูดมันฟิตดี ก็ทำได้แค่คิด ผมนิ่งเงียบไม่ตอบมัน
“มึงมีความสุขมากใช่ไหมไอ้ฟิก”
“เออสิ กูก็ใช้ชีวิตขอกูแบบนี้ จะให้กูเปลี่ยนเพราะพวกมึงมันเป็นไปไม่ได้หรอกเว้ย”
“...สักวันมึงต้องทำให้ได้”ไอ้ภูพูดแกมบังคับ ผมมองมันอย่างคับแค้นใจ
“พวกมึงคงฝันล่ะ”
“หึ ก็คอยดูว่ากูสองคนจะเปลี่ยนชีวิตกาก ๆของมึงได้ไหม”ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ผมไม่ส่งเสียงร้องออกมาสักแอะเมื่อแรงสั่นมันเพิ่มมากขึ้น มีแต่ความรู้สึกแปลกพิกลที่มีไอ้ของเล่นมาอยู่ในตัวผม เชี่ยเอ๊ย คิดว่าไอ้ตินมันจะไม่มีพิษสงอะไรซะแล้ว ผมคงประเมินมันต่ำไป มันดึงไวเบรเตอร์ออก แล้วสอดแก่นกายของมันเข้ามาแทน ซึ่งก็เข้ามาได้ง่ายเพราะโดนไวเบรเตอร์มาแล้ว ผมควรจะขอบคุณมันดีไหม
“มะ เดี๋ยวกูจะทำให้มึงมีอารมณ์เอง”ไอ้ภูกระซิบที่ข้างหูของผม มันแกะกระดุมเสื้อผมออกโน้มตัวมาบดเบียดริมฝีปากกับผม ซึ่งผมก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรออกไป ไอ้ตินยังคงขยับเอวช้า ๆน้องชายผมก็ถูกปลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ พวกมันก็ปฏิบัติภารกิจของพวกมันต่อไป ผมจับความรู้สึกได้ว่าไอ้ตินมันกำลังโกรธเพราะทุกสัมผัสของมันบอกแบบนั้นจริง ๆ
“โอ๊ย ไอ้เหี้ย”ผมร้องออกมาอย่างสุดกลั้นเมื่อไอ้ตินมันบีบน้องชายผม
“สัญญามาก่อนว่ามึงจะไม่ทำแบบนี้อีก”มันส่งเสียงขู่มา บีบน้องชายผมแรงกว่าเดิม
“แค่พูดตอบมามันยากนักรึไงวะหา ไอ้ตินบีบแรง ๆเลย ถ้าหน้ามันไม่เขียว มึงไม่ต้องหยุด”ไอ้ภู ไอ้สัดหมา
“...ไอ้...โอ๊ย เออ ๆก็ได้ ๆกูสัญญา ๆ ว่าจะไม่ทำแล้ว”ต่อหน้าพวกมึงนะ
“ดี!มึงพูดแล้วนะ แล้วถ้ากูรู้...มึงเจ็บตัวแน่ ตูดมึงด้วย กูจะเล่นแม่งทั้งคืนเลย”ผมได้แต่กลอกตามองมันบังคับกูกันชัด ๆ เมื่อพวกมันเสร็จกิจ พวกมันก็แยกย้ายกันไปล้างตัว
ตอนเช้าผมลากสังขารมาเข้าห้องน้ำ ความจริงก็กะจะไม่มาเรียนเพราะเป็นคาบอิ้ง แต่ผมขาดเกินโควต้าแล้ว ก็เลยจำเป็นต้องไป ขณะที่กำลังแปรงฟันอยู่ไอ้ตินมันก็เข้ามา ผมเหลือบตามองมันเมื่อมันเดินเข้ามาใกล้ ๆ ผมเสียววูบอย่าเดินมาด้านหลังกูสิเว้ย!ผมเกร็ง ๆมันนิดหน่อย เพราะตอนนี้ผมเหลือแค่ผ้าขนหนูพันเอวอยู่เดียว ไอ้ตินมันเดินเอาคางมาเกยไหล่ผมไว้ สายตามันไม่เย็นชาเหมือนเมื่อวานแล้ว ผมก็เลยไม่ค่อยเกร็งมันเท่าไหร่
“เมื่อวานกูโมโห”จู่ ๆมันก็พูดขึ้นผมก็เงียบรอมันพูดต่อไป
“พอกูเห็นมึงกับไอ้ปลิวเมื่อวาน....มันก็ทำให้กูนึกถึงอันขึ้นมา”มันเงียบไป ผมเงยหน้ามองมันผ่านกระจกเห็นมันมีสีหน้าข่มขื่น
“ถึงกูจะลืมอันแล้ว แต่พอกูมาเห็นแบบนี้จู่ ๆกูก็โกรธขึ้นมา”อ้อ ที่แท้มันก็โมโหเลยมาลงที่ผมอย่างนั้นหรือ แล้วมันก็จูบไหล่ผมเบา ๆแล้วเดินออกไป สักพักไอ้ภูก็เดินเข้ามาบ้าง นี่มันนัดเวลากันรึไงวะ พอมาถึงมันก็มาฉี่เสียงดังจ๊อก ๆ อยู่ใกล้ ๆผม พอมันทำธุระเสร็จมันก็เดินมาใกล้ ๆผม
“ออกไปเลยไป”ผมไล่มันหลังจากที่แปรงฟันเสร็จแล้ว
“หือ ทำไมอ่ะ เรามาสนุกกันอีกรอบดีกว่า”มันทำสายตากรุ้มกริ้ม ผมรู้ว่ามันตั้งใจจะแกล้งก็เลยเปิดน้ำ สาดใส่มันทันที มันก็หัวเราะคิกคัก เหมือนสนุกหนักหนา
“ไอ้ภู!”ผมตะโกนด่ามันเมื่อมันกระตุกผ้าขนหนูที่พันเอวผมอยู่ออกไปด้วย ได้ยินเสียงมนหัวเราะลั่นห้อง มีความสุขนักนะมึง ผมรีบแต่งตัวออกไปเรียน ไม่อยากอยู่กับพวกมันนาน พาลจะปวดหัวเปล่า ๆไม่อยากจะยอมรับเท่าไหร่แต่ถ้าพวกมันเล่นประตูหลังผมบ่อย ๆ มีหวังได้ขี้สบายรูแน่ ไอ้ฟิกเอ๊ย!
“วันนี้มึงอย่าทำตัวเหลวไหลนะ...”ไอ้ตินเว้นวรรคไว้
“ถ้ามึงไม่ฟังคำกู แล้วมึงจะรู้ว่าคนอย่างกูก็เลวเป็น”ผมแต่เงียบแล้วเปิดประตูออกไปเลย ไอ้ตินมันทำให้ผมกลัวขึ้นมาตงิด ๆ แม่ง ไม่ชอบมันโหมดนี้เลยว่ะ ขณะที่กำลังเข้าไปในตึกเรียนรวมก็มีเสียงเรียกจากไอ้กันต์เด็กแว่นจากคณะมนุษศาสตร์เอกอิ้ง เรียกไว้ มันก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นคนที่รับอาสาทำการบ้านให้ผมเอง
“ฟิก เดี๋ยวก่อนมีเรื่องสำคัญ”มันคว้าไหล่ผมไว้ ผมเลิกคิวมองมัน กะจะทวงการบ้านของผมซักหน่อย แต่ท่าทางมันดูรีบ ๆลน ๆ
“อะไรล่ะ แล้วไหนการบ้านกู”
“คือ...คือว่า เมื่อวานเรายุ่งมากเลย มีงานที่คณะเราก็เลย”มันกลืนน้ำลาย ผมก็ชักสีหน้า กูยิ่งรีบ ๆอยู่มายืดยาดอยู่ได้
“เราก็เลยลืมทำการบ้านให้นาย นายอย่าโกรธเรานะ”
“เฮ้ย แล้วกูจะเอาที่ไหนไปส่งล่ะ”เริ่มฉุนมันแล้ว มันคงกลัวผมโกรธเพราะเห็นมันยิ่งหน้าเสีย
“เราจะโทรบอกนาย แต่เราก็โทรไม่ติดก็ไม่รู้จะทำยังไง เมื่อวานกว่าจะได้กลับก็เช้าเลย ฟิก เราขอโทษนะ งั้นเอาของเราไปส่งแทนก็ได้”มันหยิบแบบฝึกหัดของมันมาให้ผม
“ไม่ต้องแล้ว”ผมสะบัดเสียงใส่มัน แล้วรีบหมุนตัวเดินต่อไป ไม่อยากสาย
“เดี๋ยว ๆฟิก”
“มีอะไรอีกวะ”ผมทำหน้าหงุดหงิดใส่มัน
“คือวันนี้มีควิซย่อย...”ผมตาโตมีควิซย่อย
“เราโทรหานายไม่ติดก็เลยไม่ได้บอก...”เชี่ยเอ๊ย ผมเดินเข้าไปในห้องเรียนอย่างหงุดหงิดอาจารย์แจกกระดาษข้อสอบไว้แล้ว ไม่รู้เรื่องเลย ผมก็มั่ว ๆไป ทำใจไว้แล้วกับเกรดวิชานี้
“กูเปลี่ยนเบอร์แล้วนะ”ผมบอกไอ้เคนกับไอ้ชายหลังจากที่เรียนเสร็จแล้ว
“แหม่ ช่วงนี้นี่เปลี่ยนเบอร์ปล่อยจริงนะมึง”
“มือถือสวยดีนะ ฮ่า ๆ”ไอ้เคนมันล้อโนเกีย เก่า ๆของผม ซึ่งไอ้เครื่องนี้ผมไปค้นมาจากลิ้นชักกะจะใช้แก้ขัดไปก่อน
“เออ วันนี้ไอ้โป้มันชวนไปกินเหล้าบ้านมัน มึงจะไปไหมวะ”ผมมองหน้าไอ้ชายอย่างครุ่นคริด ใจนี่กระโดดไปบ้านไอ้โป้แล้วครับ แต่ติดที่ไอ้สองตัวนั่นน่ะสิ ไอ้เคนก็รอโอกาสจะล้อผมอีก
“แปบนึง”ผมเดินออกมาโทรหาไอ้ภู
[ว่าไงที่รัก]ที่รักพ่อมึงสิ
“เออ เย็นนี้กูไปทำงานบ้านเพื่อนกูนะ”
[ทำงานอะไร บ้านเพื่อนคนไหน]
“มึงไม่ต้องรู้หรอก บอกไปมึงก็ไม่รู้จัก บอกไอ้ตินด้วยนะ แค่นี้นะเว้ย”ผมไม่รอช้ากดวางสายทันที
“เอ้า โทรรายงานผัวเสร็จแล้วเหรอ”หมาในปากไอ้เคนทำงานทันที
“รายงานเหี้ยอะไรกูโทรหาเด็กกูเว้ย”ไอ้เคนหัวเราะ
“ให้มันจริงเถอะ”ความจริงก็ไม่อยากโทรบอกหรอก แต่พอนึกถึงไอ้ติน....ผมก็กลัวมันนิด ๆ (นิดเดียวจริง ๆนะ)หลังจากนั้นก็ไปเมากันที่ห้องไอ้โป้ ไอ้พวกนี้มันคอทองแดงกันอยู่แล้วก็กินกันยันมืดเลย หืม...ไอ้ภูโทรมา
“อะไร”ผมก็เริ่มมึน ๆแล้วเหมือนกัน
[เมื่อไหร่จะกลับ แล้วทำไมเสียงดังจังวะ นี่มึงทำงานแน่เหรอ บอกมาว่ามึงอยู่ไหน]มันถามเสียงแข็ง ผมก็เลยยอมบอกที่อยู่มันไป มันต้องมาตามผมแน่ ๆ
“อะไร ผัวมึงโทรตามเหรอ”ไอ้เคนก็ยังล้อผมไม่หยุด ไอ้เหี้ยนี่นิ ผมไม่สนใจมันคว้าขวดเหล้ายกดื่มทันที เพราะไอ้ภูกำลังมาก็เลยต้องรีบกระดกหน่อย สักพักผมก็ได้ยินเสียงรถมาจอดหน้าบ้านไอ้โป้
“ใครมาวะ”ไอ้โป้ที่เมาหมดสภาพไปแล้วถามเสียงอ้อแอ้ขึ้นมา
“ผัวไอ้ฟิก”
“สัด ไม่ใช่เว้ย”ไม่ได้ ๆ เดี๋ยวไอ้ฟิกเสียชื่อ ป่นปี้หมดไอ้ภูเดินเด่นเข้ามาเลย มันจับคอเสื้อผมกระตุก ๆ
“ไหนมึงบอกว่ามาทำงาน”มันกระซิบกับผม
“ก็ทำงานเสร็จแล้วไง ก็เลยฉลองไง”แล้วผมก็หัวเราะแหะ ๆให้มันในขณะที่ไอ้ภูมันก็ลากผมเข้าไปในรถพากลับหอ ผมก็หงุดหงิดนิดหน่อย
“ลงมา”ผมก็เดินเซ ๆ ลงมาหามัน
“ภูจ๋าา”ผมไม่ได้เมามากหรอก แค่มึน ๆเฉย ๆ แล้วก็อยากจะแกล้งมันก็เท่านั้นเอง ไอ้ภูหยุดเดินทันทีที่ได้ยินผมเรียก เหอ ๆ ผมยังสยองตัวเองเลย มันหันมามองผมด้วยใบหน้าแปลกใจ แต่ก็ขึ้นสีน้อย ๆ ผมเดินปามัน ประคองหน้ามันมาใกล้ ๆจนสามารถสัมผัสลมหายใจของอีกฝ่ายได้ ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้มันก่อนจะ
อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แหวะอ้วกออกมาใส่มันทันที ก๊าก ๆ คิดว่ากูจะจูบมึงเหรอ
“ไอ้ฟิก ไอ้เหี้ยยย”มันผลักผมออก ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องปล่อยให้ผมหัวเราะตัวงออยู่คนเดียว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ