[3P]เมื่อผมเป็นชู้...กับเมียชาวบ้าน

9.7

เขียนโดย DTBII

วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.09 น.

  11 ตอน
  10 วิจารณ์
  28.56K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2558 17.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) บทลงโทษ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่๘ บทลงโทษ

“มึงมีเรื่องต้องเคลียร์กับกู”ไอ้ภูมันดึงคอเสื้อผมไว้ซะแน่นเลยยิ่งผมดิ้นหนีมันมากเท่าไหร่มันยิ่งดึงผมให้เข้าใกล้มันมากเท่านั้น

ปัง!ปัง!

“ฟิก มึงทำแบบนี้กับกูไม่ได้นะเว้ย มึงออกมาคุยกับกูให้รู้เรื่องก่อน”เสียงไอ้ปลิวตะโกนโวยวายดังอยู่ข้างนอก ไอ้ภูก็ยิ่งดูโมโหใหญ่เลย มันผลักผมออกอย่างแรง ทีตอนแรกกระชากกูเข้าไปใกล้นะมึง

“แต่ก่อนอื่น มึงไปเคลียร์กับเมียเก่ามึงก่อน ถ้ากูยังได้ยินเสียงมันอยู่นะ...มึงโดนดีแน่!”มันขู่ผมเสร็จก็เปิดประตูแล้วผลักผมออกไปเผชิญหน้ากับไอ้ปลิวที่ยืนอยู่ด้านนอก

“มึงกลับไปเถอะ”ผมบอกมันเสียงนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันมองหน้าผมอย่างท้อแท้สิ้นหวัง

“มึงจะให้กูกลับไปไหนฟิก กูไม่มีที่ไหนให้ไปแล้ว กูเหลือมึงแค่คนเดียวนะ”มันเข้ามาคว้ามือผมมากุมไว้ ผมก็สะบัดออก อย่าหาว่าผมใจร้ายเลย เพราะเรื่องของผมกับมันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้อยู่แล้ว ซึ่งผมก็ได้เคยบอกไปแล้วว่า ผมไม่เคยคบกับใครจริงจัง เพราะผมแค่สนุกเท่านั้น แล้วอีกอย่าง เรื่องของผมกับมันก็จบลงไปตั้งแต่ตอนที่ผัวมันมากระทืบผมแล้ว

“เรื่องของกูกับมึงมันจบลงแล้ว อ่ะ กูมีให้เท่านี้”ผมหยิบกระเป๋าเงินออกมาแล้วควักที่มีทั้งหมดในกระเป๋าส่งให้มัน ไอ้ปลิวปัดมือผมออก

“กูไม่เอา กูไม่อยากได้เงินของมึง กูต้องการมึงต่างหากฟิก”แล้วมันก็เข้ามาเกาะแกะผมผมก็พยายามผลักมันออก มีเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา ไอ้ตินกลับมาแล้ว พร้อมกับเสื้อช็อปยับ ๆเหมือนเคย มันมองผมกับไอ้ปลิวสลับไปมา ดูจากสีหน้าแล้วมันก็คงพอเดาสถานการณ์ออก แต่สายตาของมันที่มองมากลับเย็นชาจนผมเสียวสันหลังวาบ เป็นอะไรของมันอีกล่ะ

“เฮ้ย ไอ้ติน มึงช่วยกูพูดกับมันหน่อยสิ”เพราะครั้งหนึ่งไอ้ตินก็เคยไล่ไอ้ปลิวไปได้แต่คราวนี้มันไม่แม้แต่จะหยุดฟังพอมันเปิดประตูได้มันก็รีบเข้าไปทันที ทิ้งให้ผมอยู่กับมันสองคน

“มึงกลับไปเลยไป อย่าให้กูต้องโมโหนะ”ผมผลักมันออก เริ่มจะโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว

“ทำไมมึงใจร้ายกับกูแบบนี้วะ”

“นี่ถือว่ากูใจดีกับมึงแล้วนะ”ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมไล่ตะเพิดไม่สนใจมันแล้ว มันถอนหายใจแรง ๆ คว้ากระเป๋าเสื้อผ้าของมันอย่างทุลักทุเล เออ ก็จริง แล้วมันจะไปอยู่ที่ไหนวะสำนึกส่วนดี (อันน้อยนิด) ของผมเริ่มประมวลผลช้า ๆ ผมหยิบโทรศัพท์มากดโทรหาไอ้โตทันที เฮ้อ มีเรื่องเดือดร้อนมันอีกแล้วสิ

[ว่าไง] น้ำเสียงระรื่นหูของมันทำผมนึกละอายเล็กน้อย

“เฮ้ย ไอ้โตกูมีเรื่องขอให้มึงช่วยหน่อย”

[ถ้ากูช่วยได้กูก็จะช่วย]

“คืองี้ เพื่อนกูมันมาเที่ยวแล้วมันหาห้องพักได้ เงินมันก็ไม่ค่อยมี ถ้าไม่ว่าอะไร กูให้มันไปค้างบ้านมึงได้รึเปล่าวะ”ไอ้โตเงียบไปเล็กน้อย

[กูก็อยากช่วยนะ แต่กูกลัวใจไอ้ป่าน มึงก็รู้ว่าสันดานมันเป็นยังไง]

“มึงไม่ต้องห่วง เพื่อนกูกับไอ้ป่านมันขั้วเดียวกัน”ผมได้ยินไอ้โตถอนหายใจเล็กน้อย

[ถ้างั้นก็ได้ แต่อย่านานนะ] หลังจากตกลงกันได้แล้ว ผมก็จดที่อยู่ของไอ้โตให้ไอ้ปลิว มันมองหน้าผมอย่างนึกแปลกใจ นี่กูใจดีกับมึงมากแล้วนะเนี่ย

“ขอบใจมึงมากนะฟิก”มันเข้ามาคว้าผมไปกอดจนแทบจะกระดิกตัวไม่ได้ มันจะไปยังต้องลำบากผมไปช่วยมันขนกระเป๋าเสื้อผ้าอีก

“เฮ้อ จบซักที”ทำไมรู้สึกเหนื่อยจังวะ ผมกลับเข้ามานห้อง ไอ้ภูส่งสายตาอาฆาตให้ผม ไอ้ตินก็นั่งเงียบ ๆไม่มองหน้าผมแม้แต่น้อย มันดูเหม่อ ๆชอบกล เป็นอะไรของมันวะ

“เคลียร์เสร็จแล้วเหรอ”ไอ้ภูแค่นเสียงถาม

“แน่นอน มือชั้นนี้แล้ว”ผมยักไหล่ด้วยท่าทางที่คิดว่ากวนตีนที่สุดไปให้มัน ไอ้ตินส่งเสียงหึหะในลำคอ ในห้องตกอยู่ในความเงียบ ผมหันไปมองพวกมันสองคนเห็นพวกมันกำลังนั่งอ่านหนังสือกันอย่างพร้อมเพรียง ดูไม่รู้เล้ย ว่าเตี๊ยมกันมา เฮอะ กูจะดูว่าพวกมึงจะเงียบกันได้อีกนานไหม ผมกดโทรหาไอ้ชาย

“ฮัลโหลชิน คิดถึงจังเลยทำอะไรอยู่ครับ กินข้าวรึยัง”ผมพยายามดัดเสียงให้นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงผมไม่เห็นพวกมันสองคนแต่ผมว่าพวกมันต้องนั่งฟังหูผึ่งอยู่แน่ ๆ

[ชินเชินอะไร เล่นเหี้ยอะไรของมึง พ่อมึงตายไง๊] ด่ากูไม่พอ ด่าพ่อกูอีกนะไอ้ชาย มึงจะช่วยตามน้ำให้กูหน่อยไม่ได้รึไงวะ

“แหม ปากหวานจังเลยน้า คิดถึงก็บอกมาเหอะ”แล้วผมก็สนทนาต่อไป โดยมีเสียงไอ้ชายด่ามาเป็นระยะ ไม่รู้ว่าผมกับไอ้ชายใครบ้ากว่ากัน ไอ้ชายมันก็ไม่ยอมวางสักที

“อืมครับ ฟิกก็อยากไปแต่หมาสองตัวที่บ้านมันดุ”ผมแกล้งพูดขอกัดมันสองคนนิดนึง ในที่สุดไอ้ภูมันคงทนไม่ไหวเพราะมันลุกมายืนค้ำหัวผม ที่ส่งยิ้มของผู้ชนะไปห้มัน ไอ้ภูกระชากโทรศัพท์ไปจากมือผมก่อนจะเดินออกไปที่นอกระเบียง

“มึงจะทำอะไร”ผมเดินตามมันไป และร้องเสียงหลงทันทีเมื่อมันโยนโทรศัพท์ของผมลงด้านล่างทันทีถึงห้องผมจะอยู่แค่ชั้นสามก็เถอะ แต่ผมคาดว่าโทรศัพท์ของผมได้สิ้นชีพไปแล้ว ไอ้ภูเดินกลับเข้าไปในห้องทิ้งให้ผมยืนกระฟัดกระเฟียดคนเดียว

“เซ็งเว้ย”ผมหยิบนู่นหยิบนี่เสียงดังตึงตังด้วยควาหงุดหงิด ผมคว้ากุญแจรถมา กะจะออกไปข้างนอกอยู่กับพวกมันแล้วหงุดหงิด

“ถ้ามึงก้าวออกจากห้องล่ะก็...”เป็นไอ้ตินที่พูดขู่ผมขึ้นมาผมหันกลับไปมองมันอย่างท้าทาย กูไม่กลัวมึงหรอกเว้ย

“ทำไมมึงจะทำอะไรกู ไอ้แห้ง”ผมยิ้มเหยียดมันถ้าสูกับไอ้ตินเป็นไปได้ว่าผมก็พอมีหวังชนะเพราะตัวมันก็พอ ๆกับผม ไม่เหมือนไอ้ภูรายนั้นแรงอย่างควาย

“หึ! มันไม่ทำแต่กูทำ”ไอ้ภูสาวเท้ามาหาผม ก่อนจะซัดหมัดลงที่ท้องผมเต็มแรง ไอ้เหี้ยภู! ผมเซล้มลงกับพื้น จุกซิครับ!

“ยังจะปากเก่งอีกมั้ยมึง มาเริ่มเกมส์ตอบคำถามกันดีกว่ามั้ง”ไอ้ภูยิ้มเย็นชาให้ผมมันคว้าเอวผมพาดบ่าเหมือนผมเป็นถุงปุ๋ย แล้วโยนผมลงที่โซฟาดังตุ้บ จนเจ็บหลัง

“เริ่มคำถามแรกดีกว่า”มันว่าแล้วมานั่งทับช่วงอกผมไว้จนขยับไม่ได้ แล้วมึงจะมานั่งทำไมตรงนี้วะ

“สัด กูหนักลุกออกไปเว้ย”ผมได้แต่ด่ามัน พลางสะบัดขาไปด้วย ก็ไอ้ตินมันมายุ่งกับช่วงล่างของผมนี่หว่า

“คำถามแรกวันนี้มึงไปไหนมา”ไอ้ภูถามพร้อมรอยยิ้ม ที่เป็นรอยยิ้มที่สยองมากสำหรับผม ไม่พูดเปล่ามันไล่มือมาตามลำคอผมด้วย

“ไปเรียนไงไอ้สัด”ไม่เข้าใจเลยจริง ๆดูเหมือนไอ้ภูมันจะระแคะระคายเรื่องวันนี้แล้วมันจะมาถามผมทำบ้าอะไรอีก

“ปากหนักนักนะมึง จัดการตามสบายเลยนะไอ้ติน เดี๋ยวกูช่วย”ไอ้ภูมันหัวเราะหึ ๆ มันพูดอะไรกันไม่รู้แต่ที่รู้ ๆคือกางเกงผมหลุดไปแล้วครับ

“กูไม่มีอารมณ์เว้ย ปล่อยกู”ผมพูดจริง ๆ รู้สึกครั้งนี้ไอ้ตินมันน่ากลัวแปลก ๆ ไม่เหมือนคนเดิมเลยถลึงตาใส่ไอ้ภูบ้าง แต่มันก็ไม่ได้ผล มันหยิกแก้มผม....จนเจ็บ

“แหม ๆ ของแบบนี้มันสร้างกันได้”ไอ้ภูพูดจบก็ก้มมาดูดเม้มซอกคอผมจนเจ็บ ผมจิกเล็บลงบนไหล่มัน ไม่ได้เสียวแต่อยากให้มันเจ็บ ว่าแล้วก็จิกเล็บลงไปลึกกว่าเดิมอีก นี่ ๆ

“ถ้ามึงไม่หยุด กูจะทำรอยให้เต็มคอมึงแน่”มันดึงมือผมออก คว้ามาจูบก่อนจะไล่ลงมาตามแขน

“โอ๊ยไอ้สัดติน มึงเอาอะไรยัดตูดกู!!”ผมตะโกนลั่นห้องเมื่อรู้สึกว่าอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่ไอ้นั่นของมันแน่ ๆ กำลังสอดเข้ามาในช่องทางของผมอย่างรุนแรงโดยไม่มีพิธีรีตองอะไรทั้งสิ้น ผมเม้มปากแน่เพื่อสะกดกลั้นความเจ็บ รู้สึกมีน้ำตาคลอด้วย

“เจ็บมั้ย”ผมอาจจะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าไอ้ภูมันไม่ถามผมด้วยรอยยิ้มสะใจ มึงนะมึง พอกันทั้งคู่เลย ผมบิดตัวเล็กน้อยเอไอ้เจ้าสิ่งนั้นดันเข้ามาจนสุด ผมเจ็บมาก ๆ ไม่มีอารมณ์ร่วมใด ๆทั้งสิ้น ดูเหมือนนี่จะเป็นจุดประสงค์ของมันใช่ไหม

“โอ๊ย”แรงสั่นสะเทือนจากเจ้าสิ่งนั้นทำให้ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บ ผมรู้เลยว่ามันคืออะไร ไวเบรเตอร์ ผมรู้สึกขยะแขยงขึ้นมาชอบกล

“ไอ้ติน มึงหยุดนะเว้ย”ไม่มีความเสียวเลยสักนิด มีแต่ความเจ็บเพราะแรงสั่นที่เพิ่มขึ้นน่าแปลกนะ... ทำไมอกข้างซ้ายมันถึงได้เจ็บไปด้วย? ไม่เข้าใจตัวเอง

“กูจะให้โอกาสมึงอีกครั้ง ตอบความจริงมาวันนี้มึงไปทำอะไรมา”ไอ้ตินถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาอีกแล้ว

“เออๆ กูนอนกับคนอื่นมา”ผมรีบตอบกลัวมันจะทำอะไรบ้า ๆอีก

“มึงสนุกมากมั้ย”ไอ้ตินถามต่อ เออ สนุกสิ ตูดมันฟิตดี ก็ทำได้แค่คิด ผมนิ่งเงียบไม่ตอบมัน

“มึงมีความสุขมากใช่ไหมไอ้ฟิก”

“เออสิ กูก็ใช้ชีวิตขอกูแบบนี้ จะให้กูเปลี่ยนเพราะพวกมึงมันเป็นไปไม่ได้หรอกเว้ย”

“...สักวันมึงต้องทำให้ได้”ไอ้ภูพูดแกมบังคับ ผมมองมันอย่างคับแค้นใจ

“พวกมึงคงฝันล่ะ”

“หึ ก็คอยดูว่ากูสองคนจะเปลี่ยนชีวิตกาก ๆของมึงได้ไหม”ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ผมไม่ส่งเสียงร้องออกมาสักแอะเมื่อแรงสั่นมันเพิ่มมากขึ้น มีแต่ความรู้สึกแปลกพิกลที่มีไอ้ของเล่นมาอยู่ในตัวผม เชี่ยเอ๊ย คิดว่าไอ้ตินมันจะไม่มีพิษสงอะไรซะแล้ว ผมคงประเมินมันต่ำไป มันดึงไวเบรเตอร์ออก แล้วสอดแก่นกายของมันเข้ามาแทน ซึ่งก็เข้ามาได้ง่ายเพราะโดนไวเบรเตอร์มาแล้ว ผมควรจะขอบคุณมันดีไหม

“มะ เดี๋ยวกูจะทำให้มึงมีอารมณ์เอง”ไอ้ภูกระซิบที่ข้างหูของผม มันแกะกระดุมเสื้อผมออกโน้มตัวมาบดเบียดริมฝีปากกับผม ซึ่งผมก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรออกไป ไอ้ตินยังคงขยับเอวช้า ๆน้องชายผมก็ถูกปลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ พวกมันก็ปฏิบัติภารกิจของพวกมันต่อไป ผมจับความรู้สึกได้ว่าไอ้ตินมันกำลังโกรธเพราะทุกสัมผัสของมันบอกแบบนั้นจริง ๆ

“โอ๊ย ไอ้เหี้ย”ผมร้องออกมาอย่างสุดกลั้นเมื่อไอ้ตินมันบีบน้องชายผม

“สัญญามาก่อนว่ามึงจะไม่ทำแบบนี้อีก”มันส่งเสียงขู่มา บีบน้องชายผมแรงกว่าเดิม

“แค่พูดตอบมามันยากนักรึไงวะหา ไอ้ตินบีบแรง ๆเลย ถ้าหน้ามันไม่เขียว มึงไม่ต้องหยุด”ไอ้ภู ไอ้สัดหมา

“...ไอ้...โอ๊ย เออ ๆก็ได้ ๆกูสัญญา ๆ ว่าจะไม่ทำแล้ว”ต่อหน้าพวกมึงนะ

“ดี!มึงพูดแล้วนะ แล้วถ้ากูรู้...มึงเจ็บตัวแน่ ตูดมึงด้วย กูจะเล่นแม่งทั้งคืนเลย”ผมได้แต่กลอกตามองมันบังคับกูกันชัด ๆ เมื่อพวกมันเสร็จกิจ พวกมันก็แยกย้ายกันไปล้างตัว

ตอนเช้าผมลากสังขารมาเข้าห้องน้ำ ความจริงก็กะจะไม่มาเรียนเพราะเป็นคาบอิ้ง แต่ผมขาดเกินโควต้าแล้ว ก็เลยจำเป็นต้องไป ขณะที่กำลังแปรงฟันอยู่ไอ้ตินมันก็เข้ามา ผมเหลือบตามองมันเมื่อมันเดินเข้ามาใกล้ ๆ ผมเสียววูบอย่าเดินมาด้านหลังกูสิเว้ย!ผมเกร็ง ๆมันนิดหน่อย เพราะตอนนี้ผมเหลือแค่ผ้าขนหนูพันเอวอยู่เดียว ไอ้ตินมันเดินเอาคางมาเกยไหล่ผมไว้ สายตามันไม่เย็นชาเหมือนเมื่อวานแล้ว ผมก็เลยไม่ค่อยเกร็งมันเท่าไหร่

“เมื่อวานกูโมโห”จู่ ๆมันก็พูดขึ้นผมก็เงียบรอมันพูดต่อไป

“พอกูเห็นมึงกับไอ้ปลิวเมื่อวาน....มันก็ทำให้กูนึกถึงอันขึ้นมา”มันเงียบไป ผมเงยหน้ามองมันผ่านกระจกเห็นมันมีสีหน้าข่มขื่น

“ถึงกูจะลืมอันแล้ว แต่พอกูมาเห็นแบบนี้จู่ ๆกูก็โกรธขึ้นมา”อ้อ ที่แท้มันก็โมโหเลยมาลงที่ผมอย่างนั้นหรือ แล้วมันก็จูบไหล่ผมเบา ๆแล้วเดินออกไป สักพักไอ้ภูก็เดินเข้ามาบ้าง นี่มันนัดเวลากันรึไงวะ พอมาถึงมันก็มาฉี่เสียงดังจ๊อก ๆ อยู่ใกล้ ๆผม พอมันทำธุระเสร็จมันก็เดินมาใกล้ ๆผม

“ออกไปเลยไป”ผมไล่มันหลังจากที่แปรงฟันเสร็จแล้ว

“หือ ทำไมอ่ะ เรามาสนุกกันอีกรอบดีกว่า”มันทำสายตากรุ้มกริ้ม ผมรู้ว่ามันตั้งใจจะแกล้งก็เลยเปิดน้ำ สาดใส่มันทันที มันก็หัวเราะคิกคัก เหมือนสนุกหนักหนา

“ไอ้ภู!”ผมตะโกนด่ามันเมื่อมันกระตุกผ้าขนหนูที่พันเอวผมอยู่ออกไปด้วย ได้ยินเสียงมนหัวเราะลั่นห้อง มีความสุขนักนะมึง ผมรีบแต่งตัวออกไปเรียน ไม่อยากอยู่กับพวกมันนาน พาลจะปวดหัวเปล่า ๆไม่อยากจะยอมรับเท่าไหร่แต่ถ้าพวกมันเล่นประตูหลังผมบ่อย ๆ มีหวังได้ขี้สบายรูแน่ ไอ้ฟิกเอ๊ย!

“วันนี้มึงอย่าทำตัวเหลวไหลนะ...”ไอ้ตินเว้นวรรคไว้

“ถ้ามึงไม่ฟังคำกู แล้วมึงจะรู้ว่าคนอย่างกูก็เลวเป็น”ผมแต่เงียบแล้วเปิดประตูออกไปเลย ไอ้ตินมันทำให้ผมกลัวขึ้นมาตงิด ๆ แม่ง ไม่ชอบมันโหมดนี้เลยว่ะ ขณะที่กำลังเข้าไปในตึกเรียนรวมก็มีเสียงเรียกจากไอ้กันต์เด็กแว่นจากคณะมนุษศาสตร์เอกอิ้ง เรียกไว้ มันก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นคนที่รับอาสาทำการบ้านให้ผมเอง

“ฟิก เดี๋ยวก่อนมีเรื่องสำคัญ”มันคว้าไหล่ผมไว้ ผมเลิกคิวมองมัน กะจะทวงการบ้านของผมซักหน่อย แต่ท่าทางมันดูรีบ ๆลน ๆ

“อะไรล่ะ แล้วไหนการบ้านกู”

“คือ...คือว่า เมื่อวานเรายุ่งมากเลย มีงานที่คณะเราก็เลย”มันกลืนน้ำลาย ผมก็ชักสีหน้า กูยิ่งรีบ ๆอยู่มายืดยาดอยู่ได้

“เราก็เลยลืมทำการบ้านให้นาย นายอย่าโกรธเรานะ”

“เฮ้ย แล้วกูจะเอาที่ไหนไปส่งล่ะ”เริ่มฉุนมันแล้ว มันคงกลัวผมโกรธเพราะเห็นมันยิ่งหน้าเสีย

“เราจะโทรบอกนาย แต่เราก็โทรไม่ติดก็ไม่รู้จะทำยังไง เมื่อวานกว่าจะได้กลับก็เช้าเลย ฟิก เราขอโทษนะ งั้นเอาของเราไปส่งแทนก็ได้”มันหยิบแบบฝึกหัดของมันมาให้ผม

“ไม่ต้องแล้ว”ผมสะบัดเสียงใส่มัน แล้วรีบหมุนตัวเดินต่อไป ไม่อยากสาย

“เดี๋ยว ๆฟิก”

“มีอะไรอีกวะ”ผมทำหน้าหงุดหงิดใส่มัน

“คือวันนี้มีควิซย่อย...”ผมตาโตมีควิซย่อย

“เราโทรหานายไม่ติดก็เลยไม่ได้บอก...”เชี่ยเอ๊ย ผมเดินเข้าไปในห้องเรียนอย่างหงุดหงิดอาจารย์แจกกระดาษข้อสอบไว้แล้ว ไม่รู้เรื่องเลย ผมก็มั่ว ๆไป ทำใจไว้แล้วกับเกรดวิชานี้

“กูเปลี่ยนเบอร์แล้วนะ”ผมบอกไอ้เคนกับไอ้ชายหลังจากที่เรียนเสร็จแล้ว

“แหม่ ช่วงนี้นี่เปลี่ยนเบอร์ปล่อยจริงนะมึง”

“มือถือสวยดีนะ ฮ่า ๆ”ไอ้เคนมันล้อโนเกีย เก่า ๆของผม ซึ่งไอ้เครื่องนี้ผมไปค้นมาจากลิ้นชักกะจะใช้แก้ขัดไปก่อน

“เออ วันนี้ไอ้โป้มันชวนไปกินเหล้าบ้านมัน มึงจะไปไหมวะ”ผมมองหน้าไอ้ชายอย่างครุ่นคริด ใจนี่กระโดดไปบ้านไอ้โป้แล้วครับ แต่ติดที่ไอ้สองตัวนั่นน่ะสิ ไอ้เคนก็รอโอกาสจะล้อผมอีก

“แปบนึง”ผมเดินออกมาโทรหาไอ้ภู

[ว่าไงที่รัก]ที่รักพ่อมึงสิ

“เออ เย็นนี้กูไปทำงานบ้านเพื่อนกูนะ”

[ทำงานอะไร บ้านเพื่อนคนไหน]

“มึงไม่ต้องรู้หรอก บอกไปมึงก็ไม่รู้จัก บอกไอ้ตินด้วยนะ แค่นี้นะเว้ย”ผมไม่รอช้ากดวางสายทันที

“เอ้า โทรรายงานผัวเสร็จแล้วเหรอ”หมาในปากไอ้เคนทำงานทันที

“รายงานเหี้ยอะไรกูโทรหาเด็กกูเว้ย”ไอ้เคนหัวเราะ

“ให้มันจริงเถอะ”ความจริงก็ไม่อยากโทรบอกหรอก แต่พอนึกถึงไอ้ติน....ผมก็กลัวมันนิด ๆ (นิดเดียวจริง ๆนะ)หลังจากนั้นก็ไปเมากันที่ห้องไอ้โป้ ไอ้พวกนี้มันคอทองแดงกันอยู่แล้วก็กินกันยันมืดเลย หืม...ไอ้ภูโทรมา

“อะไร”ผมก็เริ่มมึน ๆแล้วเหมือนกัน

[เมื่อไหร่จะกลับ แล้วทำไมเสียงดังจังวะ นี่มึงทำงานแน่เหรอ บอกมาว่ามึงอยู่ไหน]มันถามเสียงแข็ง ผมก็เลยยอมบอกที่อยู่มันไป มันต้องมาตามผมแน่ ๆ

“อะไร ผัวมึงโทรตามเหรอ”ไอ้เคนก็ยังล้อผมไม่หยุด ไอ้เหี้ยนี่นิ ผมไม่สนใจมันคว้าขวดเหล้ายกดื่มทันที เพราะไอ้ภูกำลังมาก็เลยต้องรีบกระดกหน่อย สักพักผมก็ได้ยินเสียงรถมาจอดหน้าบ้านไอ้โป้

“ใครมาวะ”ไอ้โป้ที่เมาหมดสภาพไปแล้วถามเสียงอ้อแอ้ขึ้นมา

“ผัวไอ้ฟิก”

“สัด ไม่ใช่เว้ย”ไม่ได้ ๆ เดี๋ยวไอ้ฟิกเสียชื่อ ป่นปี้หมดไอ้ภูเดินเด่นเข้ามาเลย มันจับคอเสื้อผมกระตุก ๆ

“ไหนมึงบอกว่ามาทำงาน”มันกระซิบกับผม

“ก็ทำงานเสร็จแล้วไง ก็เลยฉลองไง”แล้วผมก็หัวเราะแหะ ๆให้มันในขณะที่ไอ้ภูมันก็ลากผมเข้าไปในรถพากลับหอ ผมก็หงุดหงิดนิดหน่อย

“ลงมา”ผมก็เดินเซ ๆ ลงมาหามัน

“ภูจ๋าา”ผมไม่ได้เมามากหรอก แค่มึน ๆเฉย ๆ แล้วก็อยากจะแกล้งมันก็เท่านั้นเอง ไอ้ภูหยุดเดินทันทีที่ได้ยินผมเรียก เหอ ๆ ผมยังสยองตัวเองเลย มันหันมามองผมด้วยใบหน้าแปลกใจ แต่ก็ขึ้นสีน้อย ๆ ผมเดินปามัน ประคองหน้ามันมาใกล้ ๆจนสามารถสัมผัสลมหายใจของอีกฝ่ายได้ ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้มันก่อนจะ

อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกก

แหวะอ้วกออกมาใส่มันทันที ก๊าก ๆ คิดว่ากูจะจูบมึงเหรอ

“ไอ้ฟิก ไอ้เหี้ยยย”มันผลักผมออก ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องปล่อยให้ผมหัวเราะตัวงออยู่คนเดียว

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา