3Kill ฆ่า ฆ่า ฆ่า
9.8
เขียนโดย ชิโร่
วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.04 น.
26 ตอน
32 วิจารณ์
31.34K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 22.57 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) ตอนที่ 16 ศึกที่ไร้เหตุผล
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ผ่านไป 3 วันหลังจากเหตุการณ์ที่ผมสู้กับมิคาเอล ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรืน ผมได้ทำการรวมรวมเลือดทั้งหมดจากการไล่ดูดเลือดคนในระแวกนี้โดยไม่ฆ่า ทำให้ตอนนี้ผมสามารถพัฒาการฟื้นฟูร่างกายที่ไร้ที่ติมา รวมถึงการที่ผมสามารถใช้ปีกทั้ง 4 ของแวมไพร์บินได้อย่างชำนาญเลยทีเดียว นอกจากนี้.. วันนี้เองผมก็ได้เรียกตัวหมากสำคัญมาซึ่งก็คือ รากูเอลมาคุยด้วยที่บ้าน ส่วนไอร่าวันนี้ผมให้เธอออกไปเที่ยวนอกบ้าน เพื่อผมจะได้คุยกับรากูเอลตัวต่อตัว
''อะไรกัน บ้านของเจ้านี่มันไม่หรูเอาซะเลยนะ''
รากูเอลเข้ามาในห้องของผม พร้อมนั้งไปยังเตียงนอน พลางจับดูความนุ่มของเตียงนั่น
''เฮ้อ ~ ขอโทษด้วยแล้วกันที่บ้านผมมันไม่รวย งั้นเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า คุณรู้จักเซร่าฟิมมากแค่ไหนกันครับ ถ้าเป็นไปได้ก็บอกข้อมูลของมิคาเอลมาด้วยแล้วกัน''
ผมยืนเท้าเอวกล่าวถามรากูเอลไปแบบนั้น พลางมองรากูเอลที่เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
''เซร่าฟิมงั้นเหรอ... ยัยคนทรยศนั่นนะเหรอ ?''
''งั้นขอถามเลยแล้วกันนะครับ ว่าทำไมเซร่าฟิมถึงไปอยู่ในนรก ผมได้ยินจากไอร่าแล้วนะ ทำไมถึงได้ไปเป็นพี่สาวของโรรี่กับเฮลไซท์ ที่สำคัญ ทำไมถึงได้ควบคุมพลังของเบลเซบับได้ ? ''
ทันทีที่ถามคำถามนั่นออกไป รากูเอลถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆ
''ฮ่ะๆ ต้องขอโทษที่พูดแบบนี้ แต่คงบอกเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะเป็นกฏน่ะนะ... แล้ว ทำไมไม่ลองใช้สติปัญญาของตัวเองหาคำตอบดูล่ะ หรือว่ามันจะซับซ้อนสำหรับเจ้ามากเกินไป จริงๆแล้วปีศาจกับอัครทูต มีอะไรกันมากกว่าที่คิดอีกนะ จะเรียกว่ามิตร หรือ ศัตรูก็ได้เหมือนกัน เจ้าหนุ่ม เจ้าอาจจะคิดว่า ประวัติศาสตร์กับความเป็นจริงเหมือนกันสินะ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่ายิ่งนานเข้า ประวัติศาสตร์ยิ่งบิดเบือน การแต่งเติมเรื่องราวตามใจอยากน่ะ เป็นสิ่งที่มนุษย์ใฝ่หา หรือจะเรียกอีกว่าเรื่องราว ถ้าเจ้าอ่านนิทานสองเล่มที่ผู้แต่งต่างคนกัน ตัวอักษรมันก็ไม่เหมือนกันทุกตัวหรอกนะ''
''ผมเองก็ไม่ได้เกลียดปริศนาหรอกนะ เอาเป็นว่าเรื่องสายเลือดของสามพี่น้องนั่น คงไม่มีผลต่อแผนของพวกเราหรอกนะ ถ้ามีผลขึ้นมา ยังไงก็บอกผมด้วยล่ะ ไม่งั้นพวกเราโดนจับไปขังอีกรอบแน่''
ถึงที่จริงจะอยากรู้ว่าเซร่าฟิมเฮลไซท์และโรรี่ รวมถึงมิคาเอลว่าเกิดอะไรขึ้นกับทั้ง 4 คนนี้ แต่ว่าความปราถนาของผมคือความตาย รู้เรื่องนี้ไปมันก็เท่านั้น ที่สำคัญ ต้องให้ความสำคัญกับแผนการก่อน บอกตามตรงว่ายังไม่ค่อยไว้ใจรากูเอลเท่าไหร่เลย...
''ซักวันพวกเราก็ต้องไปถล่มนรก คุณจะสู้กับเซร่าฟิมไหวหรือเปล่าล่ะ''
ผมกล่าวถามพร้อมจ้องหน้าของรากูเอล
''ไม่มีทาง ข้าขอยอมแพ้ ไม่อยากจะมองหน้าของเซร่าฟิมด้วยซ้ำ ยัยนั่นมันโหดเกินไป''
ท่าทางจะเรื่องยุ่งแล้วสิ ขนาดรากูเอลตอบไม่คิดเลยว่าสู้ยัยนั่นไม่ได้
''เจ้าตอนนี้ก็ไปนรกได้ไม่ใช่รึไง ได้รับเลือดของไอร่าไปแล้วนิ''
รากูเอลกล่าวถามผม
''ถ้าผมจะไปนรกก็ทำได้ แต่แล้วยังไงครับ ? อยากให้ผมกระโจนเข้ากองไฟรึไงกัน ถึงจะอยากตาย แต่การไปนรกมันตายทั้งเป็นมากกว่าคำว่าตายอีกนะครับ ผมไม่ได้ซาดิษถึงขนาดให้คนอื่นมาทรมานตัวเองเล่นหรอกนะครับ''
ถึงจะเป็นอมตะ มันก็เหมือนกับแมลงวันไปตอมคน แต่คนไม่สามารถตบมันได้
''ฮ่ะๆ เจ้าหนุ่ม... ข้าล้อเล่นเฉยๆ จะบอกให้ก็ได้นะ แต่จะไม่บอกเหตุการณ์หรอกนะ.. จะใบ้ให้นิดๆก็ได้ เจ้าใจร้อนไปมันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกนะ แอล แต่ถือว่าเป็นการขอบคุณ จะบอกเข้าก็ได้
พระเจ้า - ลูซิเฟอร์รุ่นแรก - และลูกทั้งสาม - ความคัดแย้ง - การทรยศ - พระเจ้าตาย - มิคาเอล...พอจะเข้าใจแล้วหรือยัง ? ''
''จะบอกว่าพระเจ้ามีลูกกับลูซิเฟอร์งั้นเหรอครับ เล่นตลกรึไงกัน ?''
ผมตอบกลับไปทันที
''ฮ่าๆ หรือเปล่านะ ? บางทีสิ่งที่เจ้าคิดพลาดไปก็อาจจะไม่ได้นึกถึงมัน''
รากูเอลตอบผมแบบคลุมเครือ
''แล้วมิคาเอลเกี่ยวข้องอะไรด้วยล่ะ หรือหมอนั่นไปฆ่าพระเจ้าก็เลยเกิดเรื่อง ? หรือเพราะว่าพระเจ้าแอบไปทำอะไรกับลูซิเฟอร์จนเกิดการขัดแย้งกันบนสวรรค์''
''หรือเปล่านะ ?''
รากูเอลจ้องหน้าผมแบบจริงจัง เล่นเอาซะผมหงุดหงิดจริงๆ
''กวนตีนรึไง รากูเอล อย่าลืมนะว่าตอนนี้คุณเป็นตัวหมากของผมอยู่''
ผมย้ำเตือนรากูเอล
''ฮ่ะๆ.. เข้าใจแล้วครับท่านมนุษย์ เดาถูกไป 70 % นะ''
รากูเอลหลุดหัวเราะออกมาหน่อยๆ
''รากูเอล.... ''
ผมจ้องหน้ารากูเอลด้วยสีหน้าจริงจังราวกับหาเรื่อง
''นี่.. เจ้าหนุ่มคิดว่าพระเจ้าเป็นชายหรือหญิงกันล่ะ ?''
รากูเอลถามกลับมาด้วยรอยยิ้ม
''งั้นเหรอ แค่นั้นก็เพียงพอแล้วล่ะ ตอนนี้ช่างเรื่องเซร่าฟิมไว้ก่อน เอาเป็นว่าหล่อนแข็งแกร่งที่สุดในนรกสินะ ยิ่งกว่าเฮลไซท์ด้วย ถ้าอย่างงั้น คงต้องให้คุณมาตายแทนผมแล้วล่ะ รากูเอล''
''พูดตรงดีนิเจ้าหนุ่ม ในโลกมนุษย์ ข้ามั่นใจว่าพลังของข้าเหนือกว่าเซร่าฟิมเป็นไหนๆ ''
รากูเอลพูดด้วยความมั่นใจ
''งั้นแปลว่า ถ้าสู้กันในนรก หรือบนสวรรค์ คุณก็เหมือนหนอนแมลงที่จะถูกเซร่าฟิมเป่าไปทางไหนก็ได้งั้นเหรอครับ... เป็นเทพที่กระจอกจริงๆนะ คุณน่ะ ''
''เฮ้ยๆ ไอ้การพูดจาเหยียดหยามข้านี่อยากหัวเราะจริงๆนะ เอาเถอะ ก็ตามนั้นแหละ วันที่สวรรค์แตกพ่าย เซร่าฟิมซัดไปแค่ดาบเดียวเองนะ เทพนับหมื่นตายเรียบเลย''
''ห๊ะ ?''
ผมถึงกับอุทานออกมาเบาๆ ดาบเดียวที่ว่านี่ หมายถึงอะไร ถ้ารากูเอลพูดความจริงล่ะก็ มันไม่แปลกเลยที่มิคาเอลจะวิ่งหนีผมเพราะกลัวดาบของเซร่าฟิมในวันนั้น
''แน่นอนสิ ใครที่หนีเซร่าฟิมได้มันก็ยิ่งกว่าพระเจ้าแล้ว ไอ้หนุ่ม''
คำที่รากูเอลพูดออกมา ทำเอาคิดไปเลยว่าการแหกนรกของผม เซร่าฟิมไม่รู้เรื่อง ผมช่างโชคดีจริงๆ
''ถ้าจะแข็งแกร่งขนาดนั้นแล้วจะไปถล่มนรกได้ยังไงกัน !!?''
''เจ้าหนุ่ม เวลาที่เจ้าร้อนเนี่ยขาดสติไปเยอะเลยนะ อย่าลืมสิว่าเจ้าเป็นอมตะ ถ้าสู้กันไปเรื่อยๆยังไงเจ้าก็ชนะเซร่าฟิมได้อยู่แล้ว''
''เรื่องนั้นผมรู้อยู่แล้ว แต่ กับคนที่ถล่มทั้งสวรรค์ได้เนี่ยนะ ผมคงจะไม่เหมือนแมลงหวี่ที่มาตอมเซร่าฟิมแล้วหล่อนตบผมไม่เคยโดน จะเปรียบเทียบแบบนี้ได้รึเปล่าล่ะ รากูเอล...''
ใช่.. จะพูดง่ายๆก็เหมือนกับผมแตะตัวเธอไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ ขณะเดียวกัน เธอก็ไม่สามารถฆ่าผมได้ แต่ถ้าสู้กันไปเรื่อยๆแล้วล่ะก็ ไม่สิ.. หากเซร่าฟิมแพ้ผมเมื่อไหร่ คนเป็นน้องสาวอย่างเฮลไซท์จะต้องเคลื่อนไหวหรือทำอะไรซักอย่างแน่ ถ้าโชคดี คงจะเอ่ยปากให้ผมตาย
''ก็ตามนั้นแหละ แต่ซักวันถ้าสู่ไปเรื่อยๆก็ชนะได้อยู่แล้ว ดาบของเจ้าตัดได้ทุกสิ่งนิ ถ้าอย่างนั้นขอแค่ฟันโดน 1 ครั้ง ชัยชนะอาจจะตกเป็นของเจ้าก็ได้ เพราะเทพอย่างพวกข้า เวลาแขนหรือขาขาดไม่สามารถฟื้นฟูได้เหมือนปีศาจหรอกนะ บอกตามตรงว่าข้าอิจฉาเจ้าที่เป็นแวมไพร์ งอกร่างกายออกมาใหม่ได้ทุกส่วน จะหัว แขน ขา หรือร่างสลายหายไปก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้''
''ซักวันจะชนะได้ ? ผมเกลียดคำว่าซักวันนะ รากูเอล..''
รากูเอลกลับเงียบลงโดยไม่ได้พูดอะไรเลยซักคำ ได้แต่จ้องตาของผมแบบยิ้มๆ เหมือนมีเล่ห์นัยอะไรซักอย่าง ถ้าจะเดาแบบโง่ๆเลยกก็น่าเป็น พระเจ้ากับลูซิเฟอร์รุ่นก่อนมีลูกทั้งสามคน นั่นคือเฮลไซท์ โรรี่ และ เซร่าฟิม คนที่ฆ่าพระเจ้าคือมิคาเอล พอพระเจ้าตายลงก็คงจะเกิดเรื่องหลังจากนั้น แต่ว่า
''ชิส์... รากูเอล จะมีความลับกับผมมากไปแล้วนะ ?''
มันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆ บอกตามตรงนั่นคือความอยากรู้ ไม่ได้เกี่ยวกับแผนการเลยซักนิด
แต่รากูเอลก็ยังคงเงียบ....
ผมจึง...
''เฮ้อ ~ เอาเถอะ เรื่องนั้นช่างมันแล้วกัน คืนนี้พระจันทร์จะเต็มดวง มีโอกาสสูงที่เฮลไซท์จะมาที่โลกมนุษย์ ยังไงวันนี้ขอให้คุณมาที่ดาดฟ้าตอน 1 ทุ่มด้วยนะ''
______________________________________________________________
ปราสาทแห่งนรก
บัลลังค์เฮลไซท์...
ในห้องแห่งบัลลังค์แห่งนี้ เฮลไซท์อยู่ในห้องพร้อมกับเบลเฟเกอร์สองคน ไม่นานหลังจากนั้นเซร่าฟิมก็เข้ามายังในห้องพร้อมเปิดประตูอย่างไม่บอกกล่าวหรือขออนุญาติ แต่หล่อนมาพร้อมกับลูกแก้วสีดำขนาดเหมาะมือ แสดงให้เห็นว่า ลูกแก้วสีดำถูกสร้างเสร็จแล้ว
ทันทีที่เฮลไซท์เห็นลูกแก้วสีดำนั่น ก็อดแสดงอาการดีใจไม่ได้เลย
''สร้างเสร็จแล้วสินะ เซร่าฟิม!''
''ค่ะ ท่านเฮลไซท์ พวกเราจะเลือก องค์รักษ์ไปทั้งหมด 3 คนนะคะ ได้โปรดเลือกตอนนี้เลยค่ะ''
เบลเฟเกอร์พูดออกมา และดูเหมือนว่าจะไปนรกกันในทันทีเลยด้วย
''เราจะไปนรกกับทั้ง หมด 4 คน ตัวเรา,เซร่าฟิม,อินวี่,ลุกซุเรีย ที่เหลืออยู่เฝ้านรก แล้วก็เตรียมสัตว์นรก 'เซอร์เบอรัส' เอาไว้ 3 ตัวด้วย เราจะไปตามแอลกลับมายังนรก รวมถึงโรรี่ด้วย !''
เฮลไซท์ออกคำสั่งกับบริวารของตัวเองทั้งหมด
''เข้าใจแล้วค่ะ ท่านเฮลไซท์''
ทันทีที่เซร่าฟิมพูดจบ เบลเฟเกอร์ก็เดินไปรับลูกแก้วจากมือของเซร่าฟิม จากนั้นเซร่าฟิมก็ออกจากห้องโถงไป เพื่อไปตามบริวารอีกทั้งสองคน อินวี่ และ ลุกซุเรีย และเตรียมการเซอร์เบอรัสอีก 3 ตัว
_____________________________________________________________
ณ ย่านการค้าของเมืองถัดไป
เวลานี้ราวๆ 15.00 แดดร้อนมากๆจนมองไม่เห็นเมฆแม้แต่ก้อนเดียว
ย่านการค้าสองฝั่ง.. ที่มีถนนใหญ่กั้นไว้ตรงกลาง ส่วนทางเท้าก็จะมีร้านค้าต่างๆ เช่นพวกร้านขายเสื้อผ้า ของกินแปลกๆต่างๆ ของแฟชั่น ของกินหรูๆ ตลอดจนไปถึงร้านข้าวธรรมดา
โรรี่กำลังนั้งกินแอปเเปิ้ลเขียวอยู่ที่เก้าอี้สารธารณะข้างทาง วันนี้หล่อนแต่งตัวเหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไป ใส่หมวกใบเล็กๆเพื่อปิดบังใบหน้า แต่งตัวด้วยชุดกระโปรงสีขาว ใส่รองเท้าแตะสีขาว เธอกำลังทำน่าเศร้าๆและกัดกินแอปเปิ้ลจนเลอะปากไปหมด แกว่งขาทั้งสองเหมือนเด็กน้อยในขณะที่กินอย่างเอร็ดอร่อย
แต่เธอไม่รู้ตัวเลยว่า ผมกำลังเดินมาหาเธอโดยไม่รู้ตัว
การหาตัวโรรี่ง่ายยิ่งกว่าหาร้านข้าวที่ไม่อร่อยซะอีกนะ กลิ่นหอมๆของเธอมันแรงจริงๆนั่นแหละ เพราะตอนนั้นผมได้ลิ้มรสเลือดของเธอไปครั้งหนึ่งแล้ว
''โรรี่.... ''
โรรี่ที่ตอนแรกก้มหน้ากินแอปเปิ้ลอยู่ ถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองผม เธอตกใจหน่อยๆ และพยายามที่ลุกจากที่นั้งและวิ่งหนีไป แต่ในจังหวะที่เธอย่างฝีก้าว ผมได้เอื้อมมือไปจับแขนขวาของเธอ
''เดี๋ยวก่อนสิ โรรี่ ผมมีเรื่องอยากขอร้องเฉยๆน่ะ...''
ตอนนี้ที่ผมจับมือของเธอไว้แน่นมาก ถึงไม่อยากจะพูดแบบหรูๆว่าตอนนี้ผมจับมือเธอแรงมาก และไม่คิดว่าจะปล่อยเธอมือด้วย คำพูดของผมว่าขอร้อง แต่การกระทำเหมือนการบังคับ ช่างขัดแย้งกันจริงๆ และวันนี้ ผมจะมาขอร้องเธอโดยการแลกเปลี่ยนสัญญาหนึ่งข้อ
''ปะ..ปล่อยฉันนะ จะมาจับฉันทรมานรึไง''
โรรี่พูดโดยไม่มองหน้าผม พยายามที่ฉุดแขนของตัวเองพร้อมสะบัดไปมาให้หลุด แต่ก็อย่างที่บอกว่าผมจับเธอไว้แน่นมาก ตอนนี้พวกเราเหมือนพี่ชายและน้องสาวทะเลอะกันนั่นแหละ...
วินาทีนั้น... ไอพวกสวะรนหาที่ตายก็มาจับที่ไหล่ของผม... พวกมันมีทั้งหมด 3 คน เป็นพวกกุ้ยสวะ หรือจะบอกง่ายๆว่าเป็นพวกวัยรุ่นที่ชอบต่อยตี แต่เสือกทำตัวเป็นพระเอก
''เฮ้ยย แกจะทำอะไรผู้หญิงวะ''
พวกมันพูดออกมาราวกับหาเรื่อง พอเห็นหน้า พวกมัน 3 คนและหมั่นหน้าเหมือนไอ้จอร์จไม่มีผิด
บอกตรงๆว่าพวกมึงจะมายุ่งทำซากอะไรเรื่องของคนอื่น อยากจะช่วยสาวน้อยอย่างโรรี่และชวนไปทำเรื่องสนุกงั้นเหรอ แค่คิดก็ขำล่ะ พวกแกน่ะคงไม่รู้สินะว่าโรรี่มันแก่กว่าคุณยายข้างถนนอีก
''หุบปากแล้วถอยออกไป ไม่เห็นเหรอว่าคนกำลังคุยเรื่องสำคัญกัน ตอนเช้าๆแบบนี้ไม่อยากจะฟันเนื้อมนุษย์หรอกนะ เหม็นเลือดผู้ชายว่ะ''
''บ่นไรของเอ็งวะ ทำร้ายผู้หญิงนี่หว่า ไอ้หนุ่ม''
อุตส่าห์พูดเตือนแล้วแท้ๆ แต่ดันไม่ฟัง มันใช้หมัดขวา ต่อยหน้าของผมทันที ผมเองก็ไม่ได้หลบหมัดนั่นเพราะคิดว่าไม่เป็นไร แต่มันก็เจ็บเอาการ เพราะตอนกลางวันร้อนๆแบบนี้ เหือดขึ้นจริงๆ ทำให้ผมถูกมันต่อยเข้าเบ้าหน้าเต็มๆ โรรี่หลุดมือไปได้และวิ่งหนีออกไปในจังหวะนั้น
โมโหมาก วันนี้เป็นวันที่หงุดหงิดที่สุด..
วินาทีที่ผมถูกต่อยจนโซเซ จึงได้ชักดาบออกจากมือฝ่ามือซ้ายในตอนนั้นสวนกลับอย่างไม่ลังเล และใช้ดาบสะบัดพุ่งอย่างรวดเร็ว แทงไปที่คอของมัน... ดาบของไอร่ามันคมกริบถึงขนาดทะลุลำคอจนเลือดสาดออกมา และมันก็ตายคาที่ จากนั้นผมก็กระชากดาบออกจากลำคอของมัน เลือดก็พุ่งกลางย่านการค้าแห่งนี้และมันก็ล้มลงไปนอนตายคาที่ ผมจึงไล่ฟันอีกสองคนที่เหลือจนตัวขาดออกไปเลยทีเดียว ผู้คนในย่านการค้าแห่งนี้ต่างหันมองมาที่ผมกันทุกคน.. เสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังขึ้นพร้อมกับความชุลมุน เลือดสาดเต็มพื้นถนนพร้อมกับการวิ่งหนีของมนุษย์
พอมองหันกลับไปด้านหลังก็มองไม่เห็นโรรี่แล้ว หนีไปจนได้สินะ...
จึงช่วยไม่ได้ที่ผมจะกางปีกแวมไพร์ในย่านการค้า ผมไม่สนว่าใครจะคิดว่าผมวิเศษ เป็นตัวประหลาด ปีศาจ หรืออะไรทั้งนั้น ตราบเท่าที่ผมยังมีสิ่งที่ต้องทำ ก็จำเป็นที่จะต้องเมินเฉยต่อคนอื่น
แดดร้อนๆนับว่าเป็นอุปสรรคมากเลยทีเดียว ผมบินเหนือน่าฟ้าที่สูงกว่าตึกเสียอีก พยายามใช้สายตามองหาโรรี่ตามซอยต่างๆ ถนนต่างๆ แต่ก็หาไม่เจอเลย เพราะแสงแดดมันสะท้อนกับกระจกในเมืองจนเข้าตาผมไปหมด ทำเอาคิดเลยว่า สายตาของแวมไพร์มันไม่สมบูรณ์ ถึงจะมองได้ระเอียดแต่ก็ไม่สามารถปรับวิสัยทัศน์ให้เหมือนคนปกติได้ในตอนกลางวัน
แต่โชคก็เข้าข้างผมเช่นกัน ในเมื่อโรรี่เป็นแวมไพร์เหมือนกัน เธอจึงหนีออกไปได้ไม่ไกลมากนัก แดดร้อนๆแบบนี้เธอคงจะเป็นเหมือนกับผม ยิ่งไปกว่านั้นด้วยการที่เธอไม่เคยดื่มเลือดเลย ทำให้เธอแข็งแกร่งทางกายภาพอย่างเดียว แต่ความอ่อนแอทางร่างกายเยอะเกินไป
ผมเจอเธอที่กำลังเหนื่อยหอบจากการวิ่งที่ตรอกแห่งหนึ่งในย่านการค้า มันเป็นตรอกเล็กๆที่ไม่มีผู้คนเดินผ่าน เป็นเหมือนสถานที่ร้างจากการค้าขาย ผมจึงได้ใช้แรงพุ่งตัวบินดิ่งไปยังตรอกแห่งนั้น โดยผมพุ่งมาอย่างรวดเร็วและใช้แขนทั้งสองจับกุมตัวโรรี่เอาไว้อย่างฉับพลัน
โรรี่ตกใจมากที่จู่ๆผมก็บินดิ่งลงมา เธอพยายามที่จะขัดขืนผมด้วยแรงกาย
''เดี๋ยวก่อนสิ ฟังฉันก่อน มีเรื่องจะขอร้อง''
''ไม่เอา.. ปล่อยฉันนะ''
โรรี่เธอหลับตาทั้งสองข้างเหมือนคนกำลังกลัว พร้อมดันแขนทั้งสองเพื่อขัดขืนผม
ดื้อจริงๆเลยนะ โรรี่ !
''ฟังนะ ผมจะยอมมีลูกกับเธอก็ได้ ถ้าฟังคำขอร้องของผมน่ะ... !''
ทันทีที่ผมพูดคำนั้นออกไป โรรี่ถึงกับหยุดขัดขืนผม และหันหน้ามามองด้วยสีหน้างงๆ
เธอเงียบลงได้ซักพัก จากนั้นจึงได้ยอมมาพูดกับผมแต่โดยดี..
''จะ.... จริงเหรอ ?''
โรรี่พูดด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ
''อา.. จริงสิ''
ผมตอบกลับไปด้วยท่าทางจริงจัง
''แล้ว... นายต้องการขอร้องอะไรกับฉันล่ะ ?''
โรรี่ท่าทางจะกลัวผมจริงๆ หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น กลายเป็นเด็กเหมือนผวาต่อบางสิ่ง
''ฟังนะ ผมอยากดูดเลือดของเธอ เพราะงั้นช่วยหน่อยเถอะนะ''
''งั้นจับดูดแต่แรกก็จบนี่ ไม่เห็นต้องมาขอร้องเลย''
''ก็เลือดเธอมันเป็นสีเขียวน่ะสิ ผมอยากให้เธอกินเลือดของไอร่าน่ะ เลือดของเธอจะได้กลับมาเป็นสีแดง แล้วผมจะได้ดูดเลือดของเธอไง... ''
''มะ... มันก็ได้อยู่นะ แต่นายพูดจริงเหรอ จะไม่โกหกฉันอย่างนั้นเหรอ จะยอมมีลูกกับฉันจริงๆเหรอ ''
และตอนนี้เองผมก็ได้หยิบหลอดเลือดของไอร่ามา ซึ่งตอนเช้าก่อนไอร่าจะออกจากบ้าน ผมได้เอาเลือดของเธอใส่หลอดเอาไว้ด้วย มันเป็นเลือดที่ไม่เยอะมาก แต่ก็น่าจะเพียงพอที่ปลุกพลังของโรรี่ให้เป็นแวมไพร์มากขึ้นในอีกระดับ
''นี่มัน... ?''
โรรี่แปลกใจ
''หลอดเลือดยังไงล่ะ... ผมขอร้องล่ะ วันนี้เฮลไซท์จะมาที่โลกอย่างแน่นอน ผมจะสู้กับเธอ''
ผมชูหลอดเลือดให้โรรี่ได้ดู แต่เห็นท่าทางของเธอแล้ว เธอน่าจะหิวแบบสุดๆ
''ดะ..เดี๋ยวสิ แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าเฮลไซท์จะมาโลกมนุษย์ ?''
โรรี่หันมาถามผมด้วยอาการกระวนกระวาย
''ไม่รู้สิ สัญชาติญาณมันบ่งบอก ผมจึงรู้สึกร้อนรนแบบไม่มีเหตุผลยังไงล่ะ อีกอย่าง เธอไม่มีทางเลือกแล้วนะโรรี่ ถ้าผมแพ้ให้กับเฮลไซท์เมื่อไหร่ เป้าหมายต่อก็อาจจะเป็นเธอที่ถูกตามล่ากลับไปยังนรกนะโรรี่ ผมพูดถูกใช่หรือเปล่า เพราะงั้นขอร้องล่ะ...''
สุดท้ายแล้วโรรี่ก็ยอมตกลงที่จะกินเลือดของไอร่า โดยผมเป็นคนส่งหลอดเลือดให้กับโรรี่ ถึงแม้ว่าเธอจะทำใจกินไม่ค่อยได้แบบกล้าๆกลัวๆก็ตาม แต่พอเธอได้ลิ้มรสเลือด ก็กระดกมันเข้าไปรวดเดียวเลยล่ะ ตาของเธอมันแดงกล่ำออกมาทันทีที่กินเลือดจนหมด ผมจึงไม่รอช้า จับแขนทั้งสองของเธอชูขึ้นเหนือหัวเหมือนคนขืนใจ และพลักตัวเธอไปติดกับผนัง จากนั้นก็ถอดเสื้อของเธอในบริเวณไหล่ซ้าย
ง้างเขี้ยวออกมาแล้วกัดไปที่ไหล่ของเธอ พริบตาที่ลำเขี้ยวของผมจมสู่ผิวนิ่มๆของโรรี่ มันก็ดันเกิดอารมณ์ซะแบบนั้น นึกไม่ถึงว่าเลือดของโรรี่มันจะอร่อยขนาดนี้ รสชาติแต่ละคนที่ผมดูดเลือดจะไม่มีเหมือนกัน ถ้าเป็นผู้ชายกลิ่นเลือดจะเหม็นสาบ แต่ถ้าเป็นผู้หญิง มันจะหอม และรสชาติก็จะแตกต่างไปตามกลิ่นอีกด้วย เลือดของไอร่าก็อร่อยเหมือนกัน แต่ของโรรี่ก็อร่อยไปอีกแบบ
อา... หอมเหลือเกิน ดูดเพลินจนเลือดมันล้นออกมาที่ไหล่ซะแล้วสิ
โทษทีนะโรรี่ เสื้อผ้าเธอเปื้อนเลือดไปหมดเลย ไว้ผมจะซื้อให้ใหม่แล้วกันนะ
โรรี่ เธอหลับตาพร้อมกับความเจ็บหน่อยๆจากการที่ผมดูดเลือดอย่างรุนแรง พยายามที่จะใช้มือน้อยๆทั้งสองจับหัวของผมเอาไว้ เหมือนกับผู้หญิงที่คลอดลูกจนต้องหาอะไรมาจับ
''เจ็บนะ... บะ..เบาๆหน่อยสิ''
กี่คนแล้วนะที่บอกว่าเจ็บตอนผมดูดเลือด แต่ผมไม่สามารถห้ามใจตัวเองตอนด้วยเลือดได้จริงๆ สุดท้ายแล้วโรรี่ก็ร้องครางออกมาจนได้ แต่ผมก็หยุดไม่ได้เลย จึงได้แต่จมเขี้ยวแต่ดูดมันอย่างเมามันส์ เสียงกลืนน้ำลายจากเลือดสีแดงสดกำลังไหลรินสู่ลำคอของผมไม่ขาดสาย รู้สึกได้เลยว่าร่างกายของโรรี่มันเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ แถมเหงื่อก็ไหลออกมาเพราะอากาศร้อนอีก เธอเองก็เหนื่อยแบบสุดๆจนหายใจออกมาด้วยสีหน้าที่แดงฉ่ำ
จนท้ายสุดเมื่อผมดูดเลือดเสร็จ โรรี่ถึงกับทรุดตัวไปนั้งเหมือนคนหมดแรง
หายใจหอบๆแหบๆ
ผมจึงก้มลงไปจับตัวโรรี่ขึ้นมา เพื่ออุ้มเธอในท่าเจ้าหญิง เธอก็เลยทำหน้างงๆว่าผมจับเธอมาอุ้มทำไม แน่นอนว่าในเมื่อเธอเป็นเป้าหมาย จึงต้องให้เธอออกห่างจากเมืองนี้
''อะ...อุ้มฉันทำไมล่ะ ... ?''
''อีกไม่กี่ชั่วโมง เฮลไซท์จะต้องมาแน่ ผมจะไปส่งเธอในที่ๆปลอดภัย ส่วนถ้าเธออยากทำลูก เดี๋ยวจะมาจัดการทีหลังให้ คงเข้าใจผมสินะ...''
ศึกในครั้งนี้ยังไงเราก็มีส่วนเสียเปรียบ อย่างน้อยก็ขอให้ชนะเฮลไซท์ได้ก่อน เราคงจะยังไม่ตายตอนนี้แน่ ไม่สิ... ศึกครั้งนี้นะมันไร้ประโยชน์สิ้นดี ความปราถนาของผมจะไม่เป็นจริงจากศึกครั้งนี้อย่างแน่นอน หากผมชนะเฮลไซท์ได้ เธอก็กลับไปนรก ก็แค่นั้น แต่หากผมแพ้ ผมจะถูกขังคุกอีกครั้ง นั่นหมายถึง จะแพ้หรือชนะ เราก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
ถ้าจะให้ความปราถนาเป็นจริง ต้องบุกไปถล่มนรกเท่านั้น หากผมทำนรกพินาศ เฮลไซท์ต้องฆ่าผมแน่ และในครั้งนี้ จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด ต้องชนะทั้งตอนนี้และตอนไปถล่มนรกให้ได้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
เฮลไซท์.. คืนนี้เจอกัน !!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ