จำเลยสวาท
-
เขียนโดย sanny17
วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.47 น.
11 ตอน
0 วิจารณ์
14.49K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558 15.51 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) EP4 หนังสด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความEP4 หนังสด
เพลงพิณลอยคว้างไปถึงครั้งแรกที่เขาและหล่อนร่วมมีสัมพันธ์เกินเลยกัน ครั้งนั้นเป็นเพราะบิดาฝากของให้เอามาให้ชายหนุ่มที่บ้าน หลังจากส่งเอกสารเสร็จหล่อนก็ตั้งใจจะกลับอยู่แล้วถ้าไม่หันไปเห็นพวงชมพูสีชมพูปลั่งบนต้นที่มีอยู่ไม่เยอะแต่ก็จับพวงกันสวยน่ากิน หล่อนจึงหันซ้ายแลขวาไม่พบว่าชายหนุ่มออกมาข้างนอกแต่อย่างใดจึงถือวิสาสะแอบย่องปีนต้นไม้บ้านเขาเพื่อเก็บชมพู่สักสองสามลูกเอาไว้จิ้มพริกเกลือกินที่บ้าน
หญิงสาวใช้ความสามารถและอาศัยความซุกซนในการไต่ปีนขึ้นมายังกิ่งใหญ่หนา ไม่นานหล่อนก็สามารถยืนอยู่จนเกือบสูงสุดของยอดต้น หากแต่พบเอื้อมมือกำลังจะเด็ดก็มีเสียงอะไรบางอย่างร้องขึ้นมาให้หล่อนต้องนั่งยองๆดู มือเกาะกิ่งไม้กลัวตกเพื่อมองหาที่มาของเสียงแล้วสุดท้ายหล่อนก็เจอของดีเข้า...
ที่มาของเสียงร้อง ฮือฮา เบาๆดังออกมาจากอีกฝั่งกำแพงบ้านของอีกฝั่ง หากแต่พอเพ่งตาดูสักนิด กลับทำให้หญิงสาวตาแข็งค้าง
กล่องพัสดุขนาดพอดีวางอยู่กับพื้นสามกล่องห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลอ่อน ขยับถัดไปเป็นโซฟายาวที่มองเห็นได้ง่ายเพราะอยู่ติดกระจกใสเป็นที่ชมวิวสวนสวยของบ้าน แต่สิ่งที่ล่อตาเจ้าหล่อนกับไม่ใช้ต้นไม้สวยๆ
หญิงวัยกลางคนนั่งพับขาไปด้านหลัง กายของเจ้าหล่อนสั่นกระเพื่อมขึ้นลงอยู่บนตักของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ใส่หมวกของขนส่งเอกชน เดาก็รู้ว่ามันคืออะไร ยายเจ๊เจ้าของบ้านกำลังเย่ออยู่กับเด็กหนุ่มส่งของ
"กลางวันแสกๆ ตรงกระจกเนี่ยนะป้า"
หล่อนจับมือที่ประคองเอวหล่อนเอาไว้ให้นาบอยู่กับทรวงที่คล้อยลงเพียงนิดหน่อยแต่ขาวสล้างน่าดู หนุ่มวัยฉกรรจ์ก็สนองตัณหาหล่อนด้วยการบีบคลึงเสียแน่นเต็มมือจนหญิงสาวเห็นเจ้าหล่อนอ้าปากค้างกว้าง ไม่นานหล่อนก็รีบโหมสะโพกขย่มตอของเด็กส่งของเสียจนแทบคว่ำหงายหลัง หากแต่ยังไม่ทันได้เปลี่ยนท่า หญิงสาวก็ได้ยินเสียงใครบางคนกำลังคุยโทรศัพท์เดินมาทางนี้
"ได้ แล้วจ่ายอดไปด้วยหรือเปล่า"
เสียงนั้นดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนหญิงสาวต้องชะโงกดูว่าเขาจะผ่านมาทางนี้หรือไม่
"โอเค ถ้าอย่างนั้นทิ้งรายงานไว้ให้ผมก็พอเดี๋ยวพรุ่งนี้บ่ายผมเข้าไปดู ครับ ขอบคุณครับ"
เขากำลังเดินมาทางนี้ และจังหวะที่เอี้ยวตัวกลับ กิ่งไม้ที่หล่อนอาศัยยึดตัวก็มีอันฉีกออกจากลำตันและขาดติดมือจนหญิงสาวคว้าสิ่งใดเอาไว้ไม่ทัน
"เฮ้ย!!!" เพลงพิณอุทานเสียงหลง หลับตาปี๋รอจังหวะลงสู่พื้นดิน
"เฮ้ย!!!" เสียงชายหนุ่มอุทานตามทันทีที่วางสายโทรศัพท์เสร็จเขาก็ได้ยินเสียงคนดังออกมาจากทางต้นไม้ซ้ายมือ ก่อนจะมีร่างใครบางคนร่วงตามลงมา ...และเขาช่วยเอาไว้ไม่ทัน
ตุ้บ!!
หญิงสาวหล่นลงกับพื้นด้วยท่านอนหงายงอเข่า เอาล่ะเธอถึงพื้นอย่างปลอดภัย แต่จุกชะมัด!! กฤษตฤณเห็นว่าเป็นหญิงสาวที่ร่วงลงมาก็รีบวิ่งเข้ามาหาหน้าตาตื่น
"ผิง!!" หญิงสาวสูดปากเพราะจุก พอดีที่เขาวิ่งมาถึงหล่อนพอดี ก็จับแขนจับขาหล่อนอย่างเบาบาง
"แฮ่..." หล่อนยิ้มให้เขาแก้เก้อ แต่กฤษตฤณก็ไม่สนใจ เอาแต่สำรวจกายหล่อนอย่างเป็นห่วง
"เจ็บตรงไหน" เขาขยับดูหล่อนก็ไม่ร้อง เลยถามออกไป
"จุกเฉยๆค่ะ อวัยวะยังอยู่ครบ ห่วงแต่ตับอาจหลุดออกจากพวกแล้วเพราะท่าลงสวยมาก" กฤษตฤณไม่ตลกด้วย เขาทำหน้าดุใส่หล่อน เช็คขาเช็คแขนและกระดูกไม่มีตรงไหนบาดเจ็บ เขาก็อุ้มประคองหล่อนไว้ในอ้อมแขนพาเดินดิ่งเข้าบ้านไม่สนใจเสียงประท้วงของเจ้าตัว
ครั้งที่แล้วเขาบาดเจ็บเล็กน้อยและถือกล่องปฐมพยาบาลไปไว้บนห้องนอน ดังนั้นเข้าจึงอุ้มร่างบางของสาวที่ทำตัวอย่างกับเด็กด้วยการไปปีนต้นไม้เล่นติดมืดขึ้นห้องไปด้วย
ชายหนุ่มวางร่างหล่อนลงบนตักปล่อยให้หญิงสาวใช้หลังพิงกับหัวเตียงแต่ทั้งตัวอยู่อ้อมตัวเขาไม่ยอมปล่อยให้ห่าง หยิบกล่องยาข้างเตียงมาเปิดก็รื้ออุปกรณ์อย่างเร็ว อันไหนไม่ใช้เขาก็เหวี่ยงออกรีบหาสิ่งที่ต้องการ
"พี่โก้คะ ผิงไม่เป็นอะไร" หญิงสาวรีบปฏิเสธ ตอนนี้หล่อนไม่มีอาการจุกเหลืออยู่แล้ว มีแต่เขาที่กังวลจนเกินเหตุ หล่อนบอกอย่างไรก็ไม่ฟัง ไม่พูด ไม่ตอบ ทั้งการสนิทเกินปกติอย่างนี้เขาก็ไม่สนใจ
"ยังจุกอยู่ไหม" เขามีวิธีช่วยให้หล่อนหาย แต่เจ้าตัวกลับส่ายหน้าปฏิเสธ
"ไม่แล้วค่ะ"
"แขนขาสบายดีนะ" ไม่มีแผลใดนอกจากรอยขีดข่วนเล็กๆที่เขากำลังแต้มยาให้หล่อน
"ไม่ค่ะ พี่โก้พอแล้วค่ะเดี๋ยวผิงทำเอง" เห็นเขาแต้มไปจนถึงปลายเท้าหล่อนก็เป็นกังวล
"อยู่เฉยๆ" กฤษตฤณดุหล่อนเป็นครั้งแรก หญิงสาวก็นิ่งอึ้งไปเลย เพิ่งเคยเห็นเขาดุ แล้วก็เพิ่งเคยโดนดุด้วย เขากล้าดียังไง!
"ก็บอกให้ปล่อยไง!" เพลงพิณไม่รีรอ สะบัดขาใส่เขาอย่างโมโห มีคนเดียวที่กล้าดุหล่อนก็คือบิดา นอกนั้นไม่มีใครกล้าเพราะกลัวฤทธิ์ของมดตะนอย ดังนั้นกฤษตฤณควรรู้ว่า ไม่มีสิทธิ์!
ชายหนุ่มชะงักทันทีที่โดนสะบัดขาใส่ หญิงสาวขึ้นเสียงใส่เขาครั้งแรก และแสดงออกถึงการต่อต้าน กฤษตฤณไม่สนใจในสิ่งที่หล่อนพยายามจะตีจาก แต่เขากลับดุหญิงสาวที่โวยวายเป็นเด็กแทน
"นี่ทำตัวเองเจ็บ แล้วยังจะว่าคนอื่นเขาอีกนะ" เขาดุหล่อนด้วยน้ำเสียงปกติแต่ใบหน้าโหดร้ายไปกว่าครึ่งของเสียงที่หล่อนตะคอก
"ก็นี่มันตัวผิงเอง แล้วมายุ่งอะไรด้วย ก็บอกให้ปล่อยๆ" เพลงพิณนึกเหวอในใจไม่คิดว่าเขาจะกล้าสู้เมื่อเห็นหบ่อนตั้งท่าจะวีน
"อย่ามาทำนิสัยเด็กน้อยกับพี่นะผิง พี่ไม่มีความอดทนกับเด็กพูดจาไม่รู้เรื่องนะ ทำตัวเองเจ็บ ให้พี่ตกใจไม่พอ นั่งทำแผลให้อยู่เนี่ยทำไมต้องมีอาการดีดดิ้น เป็นอะไร ชอบเจ็บตัวหรอ" เขาถามอย่างไม่พอใจ และชายหนุ่มมักถนัดคุยด้วยเหตุผลมากกว่า ถ้าหากไม่มีข้อนั้นให้เขา ต่อไปมันก็คือการใช้กำลังซึ่งเขาไม่ถนัดใช้กับผู้หญิง
เพลงพิณตกใจอึ้งทันทีที่โดนเขาว่า กฤษตฤณนอกจากจะไม่กลัวแล้วยังขึ้นเสียงตอบหล่อนอีกด้วยท่าทีเหมือนบิดาไม่มีผิดเพี้ยน เขาดุเรื่องจริงแล้วนั่นก็ทำให้หล่อนเถียงไม่ได้จึงได้แต่นั่งมองเขาตาขวาง เป็นครั้งแรกที่หล่อนแสดงออกว่าไม่ชอบที่เขาดุ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะยังนั่งอยู่บนตักเขาอยู่อย่างนี้
ฝ่ายกฤษตฤณเห็นว่าหญิงสาวตะลึงงันที่เขาดุก็รู้สึกผิดเล็กๆในใจ เพลงพิณไม่เคยโดนเขาดุแล้วเขาก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้สักนิดถ้าเจ้าหล่อนไม่ดื้อดึงกับเขา เห็นอย่างนี้ก็อ่อนใจจึงต้องปลอบประโลมกันไป
"พี่ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะดุ ก็อย่าดื้อกับพี่สิ ทำให้พี่เป็นห่วงนะรู้ไหม" คำว่า เป็นห่วงที่หลุดออกมาจากปากเขาทำให้หญิงสาวนิ่งงันไปมากกว่าเดิม เขาเป็นห่วงหล่อนอย่างนั้นหรือ ใจที่ขุ่นขวับเมื่อครู่เริ่มหายไปทันทีเมื่อไตร่ตรองพบว่าที่เขาสั่งนั่นนี่และทำกับร่างกายหล่อนอย่างกับเป็นของตัวเองนั้นก็เพราะเป็นห่วง หญิงสาวเลิกโกรธเขาก่อนจะพยักหน้ารับเข้าใจ
"แล้วขึ้นไปทำอะไรข้างบนนั้น" ชายหนุ่มถามขณะที่หยอดยาใส่สำลีขาวสะอาด
"เอ่อ..." เพลงพิณแทบไม่อยากพูดว่าตั้งใจจะไปเก็บชมพู่ แต่ได้ดูหนังสดแทน
"เก็บชมพู่ค่ะ" เขาถือสำลีชุบยาค้างไวแล้วมองหล่อน
"ทำไมไม่เรียกพี่ล่ะ" เขาตัวสูง ใช้ไม้เกี่ยวให้นิดเดียวคงได้แล้ว
"ตั้งใจจะขโมยนี่คะ ไม่ได้ขอจะบอกเจ้าของบ้านทำไม" ชายหนุ่มยิ้มขำกับท่าทางถูกจับได้ของหล่อน
"ขโมยของในบ้านตำรวจนี่นะ คิดได้..." หญิงสาวค้อนขวับให้เขาอย่างงอนๆ เรื่องอะไรมาล้อเลียนกัน
"มา... พี่ทายาที่หัวให้ กิ่งไม้เกี่ยวที่ไรผม หมดสวยกันพอดี" กฤษตฤณเอื้อมมือไปหาหล่อนที่วางพิงศีรษะอยู่กับขอบเตียง ใช้มือแหวกไรผมออกนิดหน่อยก็แต้มยาให้หล่อน
ชายหนุ่มเอี้ยวคอไปทำแผลให้หล่อนอย่างตั้งอกตั้งใจ แผลเป็นแผลกิ่งไม้ขูดเป็นทางยาวเล็กๆเลือดซึมตามผิวนิดหน่อย เขาแต้มยาอย่างเบามือที่สุดระวังหล่อนจะเจ็บ แต่สาวเจ้าของแผลไม่มีทีท่าสนใจอาการเจ็บของตนสักนิด เอาแต่จ้องมองลำคอผิวสีเข้มที่เอียงทำแผลให้หล่อนจนเส้นเอ็นขึ้นที่ข้างคอ ผมรองทรงตัดเอี่ยมสะอาดยิ่งเปิดเผยให้ลำคอของชายหนุ่มดูสูงสง่า แล้วจู่ๆภาพที่หล่อนเห็นเมื่อครู่ก็ฉายชัดสลับกับลำคอเนียนผิวเข้มของชายหนุ่มตรงหน้า ...ภาพที่เด็กชายกำลังก้มซุกไซ้อยู่ที่ลาดคอหงายเงยของสาววัยกลางคนที่นั่งส่ายอยู่บนตักตนลอยวาบวับอยู่ตรงหน้าหล่อน ลำคอเนียนของเขาคล้ายเรียกหาริมฝีปากของหล่อนให้ประทับลงไป เพลงพิณเลื่อนหน้าเข้าหาลำคอชายหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว สลับกับภาพที่สาวใหญ่กอดรัดลำคอของเด็กหนุ่มให้เข้าหาทรวงคล้อยของตน เพลงพิณประทับริมฝีปากลงไปที่ลำคอของเขาอย่างเผลอตัว รู้อีกทีก็ตอนที่ริมฝีปากแนบชิดอยู่ตรงลำคออุ่นๆของเขาเสียแล้ว
ชายหนุ่มชะงักกึกอยู่กับที่เมื่อจู่ๆ ศีรษะที่เขาทำแผลให้ค่อยๆขยับเข้าหาตนเรื่อยๆ อีกครู่นึงเขาไม่ทันจะปรามหล่อนที่ขยับหัวหนีก็เป็นอันสะดุ้ง ริมฝีปากของเจ้าหล่อนจูบประทับอยู่กับลำคอของเขาจนขนลุกเกรียวกราวคล้ายเด็กหนุ่มริลองรัก
หญิงสาวเห็นเขาชะงักก็รู้สึกตัว นี่หล่อนทำอะไรลงไปเนี่ย แค่ภาพติดตาพวกนั้นทำให้หล่อนเป็นไปถึงขนาดนี้เลยหรือขนมผิง ตายแล้ว
"เอ้อ... ขอบคุณค่ะ" จูบขอบคุณงั้นหรือ เพลงพิณใช้จูบแทนคำขอบคุณอย่างงั้นหรือ มันก้าวกระโดดเกินไปหรือเปล่า หญิงสาวคิดว่าเขาและหล่อนไม่ได้สนิทถึงขั้นทำแบบนี้ได้ แต่ก็เผลอทำมันไปแล้ว
กฤษตฤณขยับไปนั่งหลังตรง แต่เอียงหน้ามาหาหล่อน มองตากัน
"ทำให้ตั้งหลายแผล ขอบคุณหลายๆที่สิครับ" ชายหนุ่มไม่รู้ว่าที่หล่อนทำคืออาการอุปาทานจากสิ่งที่เห็นเมื่อครู่ เขารู้แค่ว่าหล่อนจะขอบคุณ แต่อารมณ์เขาเตลิดไปไกลแล้วขอบคุณที่คอทีเดียวจะไปอยู่อะไร
"พี่โก้..." หญิงสาวรำพึงชื่อเขาอย่างนึกตะลึง ไม่คิดว่าเขาจะพูดอย่างนั้นแทนที่จะตกใจกับการกระทำของหล่อน
"ต่อไปก็ที่หน้าผาก จมูก แล้วก็ปาก" เขาชี้ตามตำแหน่งที่จะให้หล่อนขอบคุณ เพลงพิณหน้าขึ้นสีระเรื่อ โอย ไปกันใหญ่
"พี่โก้..."
"อ่ะ" กฤษตฤณยื่นหน้าไปหาหล่อน
ขอบคุณที่ปากก็เท่ากับจูบปากน่ะสิ ภาพเมื่อสักครู่ฉายขึ้นมาอีกแล้ว แล้วยอมรับตามตรงว่ามันปลุกใจให้หญิงสาวรู้สึกอยากจะลอง... สักครั้ง แล้วถ้ากับคนตรงหน้านี้ก็คงไม่เป็นอะไร
"เอาจริงหรือคะ"
"อื้อ เอาสิ..." ชายหนุ่มรีบพยักหน้าตอบหล่อน
"หลับตาสิ ผิงอายนะ" เขาจ้องหน้ากันขนาดนี้จะทำลงได้ยังไง ทำไมทีนี้อายได้เล่า ทั้งที่เป็นคนเริ่มก่อนแท้ๆ
"โอเค"
เพลงพิณค่อยๆไล้ริมฝีปากจูบเขาลงไปที่หน้าผากอย่างเชื่องช้าอ้อยอิ่ง ภาพที่เห็นเมื่อครู่ยังตามมาหลอกหลอนไม่หายไปไหน แล้วมันก็ช่างตลกสิ้นดีที่หล่อนกลับเลือกที่จะเอาภาพนั้นมาเป็นไกด์ให้อารมณ์ของหล่อนได้เตลิดไปไกลมากกว่าจูบขอบคุณเขา ริมฝีปากค่อยๆถอยห่างจากหน้าผากเกลี้ยงเกลา ก่อนจะค่อยๆพรมจูบลงบนจมูกโด่งเป็นสันอย่างเบาๆ และตำแหน่งสุดท้ายก็มาถึง หญิงสาวค่อยๆแนบใบหน้าลงไปจนจมูกชิดกันกับจมูกโด่ง ปล่อยให้ริมฝีปากประทะกันเบาๆ ประกายไฟบางอย่างแล่นวาบเข้าสู่ผิวนุ่มละเอียด หญิงสาวส่งแรงน้ำหนักที่ผิวปากบางจนกดลึกลงกับริมฝีปากเป็นกระจับของเขา
กฤษตฤณครางลึกในลำคอเมื่อสัมผัสละอองนุ่นแบบเมื่อสักครู่กำลังค่อยๆผละห่างออกไป เขาใช้มือดันท้ายทอยของหญิงสาวให้กลับเข้ามาอีกครั้งก่อนจะเป็นฝ่ายกดแนบริมฝีปากเข้าไปหาเจ้าหล่อน แรงปารถนาหยั่งลึกลงไปในจิตใจโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวเผยอปากให้เขาเล็กน้อยให้ชายหนุ่มแทรกสอดเรียวลิ้นเข้ามาก่อกวนอยู่ในโพลงปากของตน ทั้งลิ้นของหล่อนก็ยังต่อสู้เขาอย่างเป็นไปตามธรรมชาติพอจังหวะทั้งสองมาโดนกันก็พากันดันบิดเกี่ยวเป็นเกลียวคลื่นอยู่ในโพลงปาก เกิดเสียงดังจ้วบจ้าบก็เพราะเขาดูดดื่มกินริมฝีปากเจ้าหล่อนอย่างมัวเมา
"อืม... พี่โก้ขา" เพลงพิณเห็นภาพตนเองกำลังเชิดใบหน้าขึ้นให้เขาสูดไล้ลำคอผ่อง กายหล่อนกระเพื่อมขึ้นลงอย่างช้าๆกระสับกระสัน เป็นสาเหตุให้ก่ออารมณ์มัวเมาจนกู่ไม่กลับ ใบหน้าหล่อนในความเป็นจริงเผยอขึ้นตามมโนภาพและกฤษตฤณก็ช่างรู้ใจ ไล่จูบลงมาตามปลายคางตามด้วยซึมซับความหอมจากลำคอของเจ้าหล่อนอย่างหลงใหล
"หอมจริงๆ ขนมผิง" เขาจูบซับลงเรื่อยๆ ตามลาดหน้าอกที่เฉดสีผิวเดียวกัน เนื้อตัวของหล่อนขึ้นสีชมพูแดงตามความต้องการของเจ้าของ
เสื้อแขนยาวที่ใส่ทับเกาะอกถูกกิ่งไม้เกี่ยวหลุดไปตั้งแต่หล่อนร่วงลงมาแล้ว เพียงแต่ไม่ทันเอ่ยให้เขาหยิบมาให้กฤษตฤณก็อุ้มขึ้นเดิมเร็วรี่เข้ามาจนนึกอะไรพูดอะไรไม่ทัน ทั้งร่างจึงเหลือแค่เกาะอกที่เป็นบราไปในตัวกับกางเกงขาสั้นขาดๆ กฤษตฤณจูบตามขอบเสื้อก่อนจะวกขึ้นมาจูบริมฝีปากหล่อนอีกครั้ง
"ขอนะครับ" เขาพูดเท่านั้นก็ซุกไซร้ใบหูจนหล่อนไม่ได้ยินอะไร
มือของกฤษตฤณเข้ากอบกุมความนุ่มหยุ่นของเจ้าหล่อนผ่านเนื้อผ้าบางเบา มืออีกข้างของเขารองแผ่นหลังของหญิงสาวเอาไว้ให้ลอยเชิญริมฝีปากเขาเข้าครอบครองติ่งหูอยากเรียกอารมณ์ อีกมือเขานวดทรวงอิ่มอย่างช้าๆจนปลายยอดเริ่มสู้มือเต่งตั้งดันเนื้อผ้าขึ้นเป็นเม็ด
"อือ... พี่โก้...." เขาใช้นิ้วเกี่ยวเกาะอกลงให้โผล่พ้นจากเนื้อเต่งภายในที่เป็นก้อนกลมดูสวยน่าลอง กฤษตฤณไซ้จมูกและริมฝีปากลงมาเรื่อยอย่างกระหายเต้าเนื้อนูนผ่องด้านล่าง ไม่นานเขาก็ได้เข้าดื่มกินทรวงสาวที่ผลิแรกแย้มสู่ปากบุรุษเพศเป็นครั้งแรก เจ้าหล่อนครางฮือทันทีที่ปลายถันเปียกซึม
เสียงเขาฟัดเนื้อหล่อนดังขึ้นจุ้บจั้บไม่ได้หยุด กฤษตฤณกลายเป็นคนร้อนเร็วรุนแรงทันทีที่ถูกอารมณ์พิศวาสครอบงำ มือหนึ่งข้างถูกลดทอนไปลื้อกางเกงยีนขาสั้นออกจากร่างบางอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่ไม่ได้เงยหน้าออกจากทรวงของเจ้าของกางเกงแต่อย่างใด
เสื้อเกาะอกที่คาดร่วงอยู่กับเอวและชั้นในเนื้อผ้าบางเบาเป็นเพียงสองชิ้นที่อยู่ติดกายหล่อน ชายหนุ่มค่อยวางมือทาบทับบนโหนกเนื้อสาว กายเขาก็เด้งฮือจนน่ากลัว สัมผัสแรกจากเพลงพิณที่เขาได้แตะต้อง วิเศษอะไรขนาดนี้ หญิงสาวที่แสดงกริยาไปตามธรรมชาติ อ้าขาออกหนึ่งข้างวางกับพื้นเตียง อีกข้างทับขาเขาอยู่เปิดอ้าให้เจ้าของตักกว้างได้ใช้ฝ่ามือนวดเฟ้นกลีบกายสาวจากด้านนอก
"ชอบไหมครับ" ชายหนุ่มเห็นเจ้าหล่อนพิงศีรษะไว้กับหัวเตียงปล่อยให้เขาดื่มกินนวดเฟ้นก็รู้สึกพอใจ
"อืม... พี่โก้" หญิงสาวตอบสนองอย่างเป็นธรรมชาติ กฤษตฤณรวบชั้นในของหล่อนเข้าหากันจนพันเป็นก้อนเกลียวก่อนจะดึงรั้งให้เสียดสีอยู่กับกลีบร่องจนหญิงสาวครวญครางเบาๆกับความรู้สึกกระสันที่เกิดขึ้น
"อือ พี่โก้ อย่า... แกล้ง" ไม่ทันไรเขาก็รูดมันออกจากเรียวขากลมเสลาของหล่อน ก่อนจะแทนที่ด้วยมือที่กดแหวกตามกลีบกายแทนเนื้อผ้า กฤษตฤณเพิ่มแรงดูดที่ทรวงอกหล่อนจนต้องแอ่นรับริมฝีปากเขาอย่างรัญจวน สัมผัสจริงจากนิ้วของเขาก่อกวนอารมณ์ของหล่อนไม่ใช่น้อย ชายหนุ่มครางฮือก่อนจะรีบจับพลิกให้หญิงสาวเปลี่ยนท่า
"อืม ไม่ไหวแล้วที่รัก" สองแขนถูกเขาจับให้วางจิกหัวเตียง พลิกให้หญิงสาวคว่ำตัวใช้สองเข่ายันพื้นเตียง แอ่นสะโพกขึ้น เกาะพิงตัวไว้กับไม้ของหัวเตียงอย่างดี กายสาวลอยเด่นสล้างอยู่จนชายหนุ่มไม่อดทนพอจัดท่าทีให้หล่อนได้เขาก็กดสะโพกหล่อนให้แอ่นลงเพื่อเชยชูบั้นท้ายงอนงามส่งกลีบเนื้อล่อตาเขา จนต้องใช้สองมือล็อคน่องเพรียวไว้ กฤษตฤณสอดลิ้นเข้าละเลงที่กลีบอูมของสาวเจ้ากะทันหัน จนคนไม่เคยตกใจร้องกรี๊ด
"กรี๊ด! พี่โก้!" สะโพกหล่อนสะดุ้งตกใจทันที แต่ก็ถูกเขากดลงเอาไว้เช่นเดิม พอคุ้นเคยเข้าเพลงพิณก็แอ่นสะโพกหยัดให้เขาสัมผัสหล่อนอย่างแนบชิดยิ่งขึ้น
"อ๊า ...อ๊า ...อ๊า พี่โก้จ๋า" กฤษตฤณห่อลิ้นสอดเข้ามาตามกลีบร่องที่ปิดชิดเพราะเนื้ออวบอูม น้ำหวานจากกายสาวรินรดแต่เขาก็ไม่นึกรังเกียจ ดูดกินอย่างคนตกอยู่ในทะเลทรายมานานนับปีเจอแหล่งน้ำน้อยนิดก็รีบเข้าตะโบมดื่มกิน
"หวานมาก ที่รัก" กฤษตฤณลองใช้ฝ่ามือช่วยเฟ้นติ่งเนื้อสาวก็ปรากฏว่าทุกครั้งที่เขาขยี้เพลงพิณจะปล่อยความหวานออกมาเป็นระรอกให้เขาดื่มเลียจนชุ่มไปทั่วบริเวณ ขนอ่อนเปียกลู่เพราะมือเขาละเลงน้ำเล่นไปทั่วทั้งกาย
กฤษตฤณขยับร่างกายไปตามครรลอง ชายหนุ่มยืนขึ้นครึ่งตัวใช้เข่าลงกับพื้นเตียงปลดซิบกางเกงก่อนจะรูดลงเพียงครึ่งเดียวเพื่อปลดปล่อยความแข็งกร้าวบางอย่าง มือหนึ่งก็ยังนวดกลีบผกาให้สาวเจ้า อีกมือก็ใช้ความเปียกชื้นที่ติดมือมาจากร่างบางทาส่วนหัวแฉกมนของตนก่อนจะถูไถตามกลีบร่อง
หญิงสาวผวาเฮือกเมื่อรู้สึกได้ถึงบางส่วนของเขาที่รู้ดีว่าคืออะไรแข็งครัดอยู่กลางร่องของตนเอง สติของหญิงสาวกลับคืนสะโพกหล่อนรีบดีดหนีเพราะเกรงว่าเขาจะสอดใส่เข้ามาก่อน แต่อย่างนั้นกฤษตฤณก็ใช้มือประคองเอวหล่อนไว้ให้นิ่งอยู่กับที่ จนเพลงพิณละมือหนึ่งข้างเอี้ยวตัวหันไปยันไหล่เขาเอาไว้ กฤษตฤณกำลังค้อมตัวสอดใส่เข้ามาในกายหล่อนก็ต้องชะงักเพราะมือเรียวยันอกเขาไว้
"พี่โก้เดี๋ยวค่ะ อื๊อ..." เขาสอดลำแข็งเข้าตามกลีบร่องจนหล่อนเผลอปล่อยมือร้องก่อนจะกลับไปยันเขาไว้ได้ทันดังเดิม
"พี่ขอนะที่รัก" กฤษตฤณไม่เสียเวลา เขาตั้งท่าจับลำกายแข็งร้าวของตนเข้าประชิดช่องอุ่นของสาวเจ้าทันทีแต่เจ้าตัวกลับร้องห้ามเอาไว้
"พี่โก้!! ผิงยังซิงนะ!"
เพลงพิณลอยคว้างไปถึงครั้งแรกที่เขาและหล่อนร่วมมีสัมพันธ์เกินเลยกัน ครั้งนั้นเป็นเพราะบิดาฝากของให้เอามาให้ชายหนุ่มที่บ้าน หลังจากส่งเอกสารเสร็จหล่อนก็ตั้งใจจะกลับอยู่แล้วถ้าไม่หันไปเห็นพวงชมพูสีชมพูปลั่งบนต้นที่มีอยู่ไม่เยอะแต่ก็จับพวงกันสวยน่ากิน หล่อนจึงหันซ้ายแลขวาไม่พบว่าชายหนุ่มออกมาข้างนอกแต่อย่างใดจึงถือวิสาสะแอบย่องปีนต้นไม้บ้านเขาเพื่อเก็บชมพู่สักสองสามลูกเอาไว้จิ้มพริกเกลือกินที่บ้าน
หญิงสาวใช้ความสามารถและอาศัยความซุกซนในการไต่ปีนขึ้นมายังกิ่งใหญ่หนา ไม่นานหล่อนก็สามารถยืนอยู่จนเกือบสูงสุดของยอดต้น หากแต่พบเอื้อมมือกำลังจะเด็ดก็มีเสียงอะไรบางอย่างร้องขึ้นมาให้หล่อนต้องนั่งยองๆดู มือเกาะกิ่งไม้กลัวตกเพื่อมองหาที่มาของเสียงแล้วสุดท้ายหล่อนก็เจอของดีเข้า...
ที่มาของเสียงร้อง ฮือฮา เบาๆดังออกมาจากอีกฝั่งกำแพงบ้านของอีกฝั่ง หากแต่พอเพ่งตาดูสักนิด กลับทำให้หญิงสาวตาแข็งค้าง
กล่องพัสดุขนาดพอดีวางอยู่กับพื้นสามกล่องห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลอ่อน ขยับถัดไปเป็นโซฟายาวที่มองเห็นได้ง่ายเพราะอยู่ติดกระจกใสเป็นที่ชมวิวสวนสวยของบ้าน แต่สิ่งที่ล่อตาเจ้าหล่อนกับไม่ใช้ต้นไม้สวยๆ
หญิงวัยกลางคนนั่งพับขาไปด้านหลัง กายของเจ้าหล่อนสั่นกระเพื่อมขึ้นลงอยู่บนตักของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ใส่หมวกของขนส่งเอกชน เดาก็รู้ว่ามันคืออะไร ยายเจ๊เจ้าของบ้านกำลังเย่ออยู่กับเด็กหนุ่มส่งของ
"กลางวันแสกๆ ตรงกระจกเนี่ยนะป้า"
หล่อนจับมือที่ประคองเอวหล่อนเอาไว้ให้นาบอยู่กับทรวงที่คล้อยลงเพียงนิดหน่อยแต่ขาวสล้างน่าดู หนุ่มวัยฉกรรจ์ก็สนองตัณหาหล่อนด้วยการบีบคลึงเสียแน่นเต็มมือจนหญิงสาวเห็นเจ้าหล่อนอ้าปากค้างกว้าง ไม่นานหล่อนก็รีบโหมสะโพกขย่มตอของเด็กส่งของเสียจนแทบคว่ำหงายหลัง หากแต่ยังไม่ทันได้เปลี่ยนท่า หญิงสาวก็ได้ยินเสียงใครบางคนกำลังคุยโทรศัพท์เดินมาทางนี้
"ได้ แล้วจ่ายอดไปด้วยหรือเปล่า"
เสียงนั้นดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนหญิงสาวต้องชะโงกดูว่าเขาจะผ่านมาทางนี้หรือไม่
"โอเค ถ้าอย่างนั้นทิ้งรายงานไว้ให้ผมก็พอเดี๋ยวพรุ่งนี้บ่ายผมเข้าไปดู ครับ ขอบคุณครับ"
เขากำลังเดินมาทางนี้ และจังหวะที่เอี้ยวตัวกลับ กิ่งไม้ที่หล่อนอาศัยยึดตัวก็มีอันฉีกออกจากลำตันและขาดติดมือจนหญิงสาวคว้าสิ่งใดเอาไว้ไม่ทัน
"เฮ้ย!!!" เพลงพิณอุทานเสียงหลง หลับตาปี๋รอจังหวะลงสู่พื้นดิน
"เฮ้ย!!!" เสียงชายหนุ่มอุทานตามทันทีที่วางสายโทรศัพท์เสร็จเขาก็ได้ยินเสียงคนดังออกมาจากทางต้นไม้ซ้ายมือ ก่อนจะมีร่างใครบางคนร่วงตามลงมา ...และเขาช่วยเอาไว้ไม่ทัน
ตุ้บ!!
หญิงสาวหล่นลงกับพื้นด้วยท่านอนหงายงอเข่า เอาล่ะเธอถึงพื้นอย่างปลอดภัย แต่จุกชะมัด!! กฤษตฤณเห็นว่าเป็นหญิงสาวที่ร่วงลงมาก็รีบวิ่งเข้ามาหาหน้าตาตื่น
"ผิง!!" หญิงสาวสูดปากเพราะจุก พอดีที่เขาวิ่งมาถึงหล่อนพอดี ก็จับแขนจับขาหล่อนอย่างเบาบาง
"แฮ่..." หล่อนยิ้มให้เขาแก้เก้อ แต่กฤษตฤณก็ไม่สนใจ เอาแต่สำรวจกายหล่อนอย่างเป็นห่วง
"เจ็บตรงไหน" เขาขยับดูหล่อนก็ไม่ร้อง เลยถามออกไป
"จุกเฉยๆค่ะ อวัยวะยังอยู่ครบ ห่วงแต่ตับอาจหลุดออกจากพวกแล้วเพราะท่าลงสวยมาก" กฤษตฤณไม่ตลกด้วย เขาทำหน้าดุใส่หล่อน เช็คขาเช็คแขนและกระดูกไม่มีตรงไหนบาดเจ็บ เขาก็อุ้มประคองหล่อนไว้ในอ้อมแขนพาเดินดิ่งเข้าบ้านไม่สนใจเสียงประท้วงของเจ้าตัว
ครั้งที่แล้วเขาบาดเจ็บเล็กน้อยและถือกล่องปฐมพยาบาลไปไว้บนห้องนอน ดังนั้นเข้าจึงอุ้มร่างบางของสาวที่ทำตัวอย่างกับเด็กด้วยการไปปีนต้นไม้เล่นติดมืดขึ้นห้องไปด้วย
ชายหนุ่มวางร่างหล่อนลงบนตักปล่อยให้หญิงสาวใช้หลังพิงกับหัวเตียงแต่ทั้งตัวอยู่อ้อมตัวเขาไม่ยอมปล่อยให้ห่าง หยิบกล่องยาข้างเตียงมาเปิดก็รื้ออุปกรณ์อย่างเร็ว อันไหนไม่ใช้เขาก็เหวี่ยงออกรีบหาสิ่งที่ต้องการ
"พี่โก้คะ ผิงไม่เป็นอะไร" หญิงสาวรีบปฏิเสธ ตอนนี้หล่อนไม่มีอาการจุกเหลืออยู่แล้ว มีแต่เขาที่กังวลจนเกินเหตุ หล่อนบอกอย่างไรก็ไม่ฟัง ไม่พูด ไม่ตอบ ทั้งการสนิทเกินปกติอย่างนี้เขาก็ไม่สนใจ
"ยังจุกอยู่ไหม" เขามีวิธีช่วยให้หล่อนหาย แต่เจ้าตัวกลับส่ายหน้าปฏิเสธ
"ไม่แล้วค่ะ"
"แขนขาสบายดีนะ" ไม่มีแผลใดนอกจากรอยขีดข่วนเล็กๆที่เขากำลังแต้มยาให้หล่อน
"ไม่ค่ะ พี่โก้พอแล้วค่ะเดี๋ยวผิงทำเอง" เห็นเขาแต้มไปจนถึงปลายเท้าหล่อนก็เป็นกังวล
"อยู่เฉยๆ" กฤษตฤณดุหล่อนเป็นครั้งแรก หญิงสาวก็นิ่งอึ้งไปเลย เพิ่งเคยเห็นเขาดุ แล้วก็เพิ่งเคยโดนดุด้วย เขากล้าดียังไง!
"ก็บอกให้ปล่อยไง!" เพลงพิณไม่รีรอ สะบัดขาใส่เขาอย่างโมโห มีคนเดียวที่กล้าดุหล่อนก็คือบิดา นอกนั้นไม่มีใครกล้าเพราะกลัวฤทธิ์ของมดตะนอย ดังนั้นกฤษตฤณควรรู้ว่า ไม่มีสิทธิ์!
ชายหนุ่มชะงักทันทีที่โดนสะบัดขาใส่ หญิงสาวขึ้นเสียงใส่เขาครั้งแรก และแสดงออกถึงการต่อต้าน กฤษตฤณไม่สนใจในสิ่งที่หล่อนพยายามจะตีจาก แต่เขากลับดุหญิงสาวที่โวยวายเป็นเด็กแทน
"นี่ทำตัวเองเจ็บ แล้วยังจะว่าคนอื่นเขาอีกนะ" เขาดุหล่อนด้วยน้ำเสียงปกติแต่ใบหน้าโหดร้ายไปกว่าครึ่งของเสียงที่หล่อนตะคอก
"ก็นี่มันตัวผิงเอง แล้วมายุ่งอะไรด้วย ก็บอกให้ปล่อยๆ" เพลงพิณนึกเหวอในใจไม่คิดว่าเขาจะกล้าสู้เมื่อเห็นหบ่อนตั้งท่าจะวีน
"อย่ามาทำนิสัยเด็กน้อยกับพี่นะผิง พี่ไม่มีความอดทนกับเด็กพูดจาไม่รู้เรื่องนะ ทำตัวเองเจ็บ ให้พี่ตกใจไม่พอ นั่งทำแผลให้อยู่เนี่ยทำไมต้องมีอาการดีดดิ้น เป็นอะไร ชอบเจ็บตัวหรอ" เขาถามอย่างไม่พอใจ และชายหนุ่มมักถนัดคุยด้วยเหตุผลมากกว่า ถ้าหากไม่มีข้อนั้นให้เขา ต่อไปมันก็คือการใช้กำลังซึ่งเขาไม่ถนัดใช้กับผู้หญิง
เพลงพิณตกใจอึ้งทันทีที่โดนเขาว่า กฤษตฤณนอกจากจะไม่กลัวแล้วยังขึ้นเสียงตอบหล่อนอีกด้วยท่าทีเหมือนบิดาไม่มีผิดเพี้ยน เขาดุเรื่องจริงแล้วนั่นก็ทำให้หล่อนเถียงไม่ได้จึงได้แต่นั่งมองเขาตาขวาง เป็นครั้งแรกที่หล่อนแสดงออกว่าไม่ชอบที่เขาดุ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะยังนั่งอยู่บนตักเขาอยู่อย่างนี้
ฝ่ายกฤษตฤณเห็นว่าหญิงสาวตะลึงงันที่เขาดุก็รู้สึกผิดเล็กๆในใจ เพลงพิณไม่เคยโดนเขาดุแล้วเขาก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้สักนิดถ้าเจ้าหล่อนไม่ดื้อดึงกับเขา เห็นอย่างนี้ก็อ่อนใจจึงต้องปลอบประโลมกันไป
"พี่ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะดุ ก็อย่าดื้อกับพี่สิ ทำให้พี่เป็นห่วงนะรู้ไหม" คำว่า เป็นห่วงที่หลุดออกมาจากปากเขาทำให้หญิงสาวนิ่งงันไปมากกว่าเดิม เขาเป็นห่วงหล่อนอย่างนั้นหรือ ใจที่ขุ่นขวับเมื่อครู่เริ่มหายไปทันทีเมื่อไตร่ตรองพบว่าที่เขาสั่งนั่นนี่และทำกับร่างกายหล่อนอย่างกับเป็นของตัวเองนั้นก็เพราะเป็นห่วง หญิงสาวเลิกโกรธเขาก่อนจะพยักหน้ารับเข้าใจ
"แล้วขึ้นไปทำอะไรข้างบนนั้น" ชายหนุ่มถามขณะที่หยอดยาใส่สำลีขาวสะอาด
"เอ่อ..." เพลงพิณแทบไม่อยากพูดว่าตั้งใจจะไปเก็บชมพู่ แต่ได้ดูหนังสดแทน
"เก็บชมพู่ค่ะ" เขาถือสำลีชุบยาค้างไวแล้วมองหล่อน
"ทำไมไม่เรียกพี่ล่ะ" เขาตัวสูง ใช้ไม้เกี่ยวให้นิดเดียวคงได้แล้ว
"ตั้งใจจะขโมยนี่คะ ไม่ได้ขอจะบอกเจ้าของบ้านทำไม" ชายหนุ่มยิ้มขำกับท่าทางถูกจับได้ของหล่อน
"ขโมยของในบ้านตำรวจนี่นะ คิดได้..." หญิงสาวค้อนขวับให้เขาอย่างงอนๆ เรื่องอะไรมาล้อเลียนกัน
"มา... พี่ทายาที่หัวให้ กิ่งไม้เกี่ยวที่ไรผม หมดสวยกันพอดี" กฤษตฤณเอื้อมมือไปหาหล่อนที่วางพิงศีรษะอยู่กับขอบเตียง ใช้มือแหวกไรผมออกนิดหน่อยก็แต้มยาให้หล่อน
ชายหนุ่มเอี้ยวคอไปทำแผลให้หล่อนอย่างตั้งอกตั้งใจ แผลเป็นแผลกิ่งไม้ขูดเป็นทางยาวเล็กๆเลือดซึมตามผิวนิดหน่อย เขาแต้มยาอย่างเบามือที่สุดระวังหล่อนจะเจ็บ แต่สาวเจ้าของแผลไม่มีทีท่าสนใจอาการเจ็บของตนสักนิด เอาแต่จ้องมองลำคอผิวสีเข้มที่เอียงทำแผลให้หล่อนจนเส้นเอ็นขึ้นที่ข้างคอ ผมรองทรงตัดเอี่ยมสะอาดยิ่งเปิดเผยให้ลำคอของชายหนุ่มดูสูงสง่า แล้วจู่ๆภาพที่หล่อนเห็นเมื่อครู่ก็ฉายชัดสลับกับลำคอเนียนผิวเข้มของชายหนุ่มตรงหน้า ...ภาพที่เด็กชายกำลังก้มซุกไซ้อยู่ที่ลาดคอหงายเงยของสาววัยกลางคนที่นั่งส่ายอยู่บนตักตนลอยวาบวับอยู่ตรงหน้าหล่อน ลำคอเนียนของเขาคล้ายเรียกหาริมฝีปากของหล่อนให้ประทับลงไป เพลงพิณเลื่อนหน้าเข้าหาลำคอชายหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว สลับกับภาพที่สาวใหญ่กอดรัดลำคอของเด็กหนุ่มให้เข้าหาทรวงคล้อยของตน เพลงพิณประทับริมฝีปากลงไปที่ลำคอของเขาอย่างเผลอตัว รู้อีกทีก็ตอนที่ริมฝีปากแนบชิดอยู่ตรงลำคออุ่นๆของเขาเสียแล้ว
ชายหนุ่มชะงักกึกอยู่กับที่เมื่อจู่ๆ ศีรษะที่เขาทำแผลให้ค่อยๆขยับเข้าหาตนเรื่อยๆ อีกครู่นึงเขาไม่ทันจะปรามหล่อนที่ขยับหัวหนีก็เป็นอันสะดุ้ง ริมฝีปากของเจ้าหล่อนจูบประทับอยู่กับลำคอของเขาจนขนลุกเกรียวกราวคล้ายเด็กหนุ่มริลองรัก
หญิงสาวเห็นเขาชะงักก็รู้สึกตัว นี่หล่อนทำอะไรลงไปเนี่ย แค่ภาพติดตาพวกนั้นทำให้หล่อนเป็นไปถึงขนาดนี้เลยหรือขนมผิง ตายแล้ว
"เอ้อ... ขอบคุณค่ะ" จูบขอบคุณงั้นหรือ เพลงพิณใช้จูบแทนคำขอบคุณอย่างงั้นหรือ มันก้าวกระโดดเกินไปหรือเปล่า หญิงสาวคิดว่าเขาและหล่อนไม่ได้สนิทถึงขั้นทำแบบนี้ได้ แต่ก็เผลอทำมันไปแล้ว
กฤษตฤณขยับไปนั่งหลังตรง แต่เอียงหน้ามาหาหล่อน มองตากัน
"ทำให้ตั้งหลายแผล ขอบคุณหลายๆที่สิครับ" ชายหนุ่มไม่รู้ว่าที่หล่อนทำคืออาการอุปาทานจากสิ่งที่เห็นเมื่อครู่ เขารู้แค่ว่าหล่อนจะขอบคุณ แต่อารมณ์เขาเตลิดไปไกลแล้วขอบคุณที่คอทีเดียวจะไปอยู่อะไร
"พี่โก้..." หญิงสาวรำพึงชื่อเขาอย่างนึกตะลึง ไม่คิดว่าเขาจะพูดอย่างนั้นแทนที่จะตกใจกับการกระทำของหล่อน
"ต่อไปก็ที่หน้าผาก จมูก แล้วก็ปาก" เขาชี้ตามตำแหน่งที่จะให้หล่อนขอบคุณ เพลงพิณหน้าขึ้นสีระเรื่อ โอย ไปกันใหญ่
"พี่โก้..."
"อ่ะ" กฤษตฤณยื่นหน้าไปหาหล่อน
ขอบคุณที่ปากก็เท่ากับจูบปากน่ะสิ ภาพเมื่อสักครู่ฉายขึ้นมาอีกแล้ว แล้วยอมรับตามตรงว่ามันปลุกใจให้หญิงสาวรู้สึกอยากจะลอง... สักครั้ง แล้วถ้ากับคนตรงหน้านี้ก็คงไม่เป็นอะไร
"เอาจริงหรือคะ"
"อื้อ เอาสิ..." ชายหนุ่มรีบพยักหน้าตอบหล่อน
"หลับตาสิ ผิงอายนะ" เขาจ้องหน้ากันขนาดนี้จะทำลงได้ยังไง ทำไมทีนี้อายได้เล่า ทั้งที่เป็นคนเริ่มก่อนแท้ๆ
"โอเค"
เพลงพิณค่อยๆไล้ริมฝีปากจูบเขาลงไปที่หน้าผากอย่างเชื่องช้าอ้อยอิ่ง ภาพที่เห็นเมื่อครู่ยังตามมาหลอกหลอนไม่หายไปไหน แล้วมันก็ช่างตลกสิ้นดีที่หล่อนกลับเลือกที่จะเอาภาพนั้นมาเป็นไกด์ให้อารมณ์ของหล่อนได้เตลิดไปไกลมากกว่าจูบขอบคุณเขา ริมฝีปากค่อยๆถอยห่างจากหน้าผากเกลี้ยงเกลา ก่อนจะค่อยๆพรมจูบลงบนจมูกโด่งเป็นสันอย่างเบาๆ และตำแหน่งสุดท้ายก็มาถึง หญิงสาวค่อยๆแนบใบหน้าลงไปจนจมูกชิดกันกับจมูกโด่ง ปล่อยให้ริมฝีปากประทะกันเบาๆ ประกายไฟบางอย่างแล่นวาบเข้าสู่ผิวนุ่มละเอียด หญิงสาวส่งแรงน้ำหนักที่ผิวปากบางจนกดลึกลงกับริมฝีปากเป็นกระจับของเขา
กฤษตฤณครางลึกในลำคอเมื่อสัมผัสละอองนุ่นแบบเมื่อสักครู่กำลังค่อยๆผละห่างออกไป เขาใช้มือดันท้ายทอยของหญิงสาวให้กลับเข้ามาอีกครั้งก่อนจะเป็นฝ่ายกดแนบริมฝีปากเข้าไปหาเจ้าหล่อน แรงปารถนาหยั่งลึกลงไปในจิตใจโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวเผยอปากให้เขาเล็กน้อยให้ชายหนุ่มแทรกสอดเรียวลิ้นเข้ามาก่อกวนอยู่ในโพลงปากของตน ทั้งลิ้นของหล่อนก็ยังต่อสู้เขาอย่างเป็นไปตามธรรมชาติพอจังหวะทั้งสองมาโดนกันก็พากันดันบิดเกี่ยวเป็นเกลียวคลื่นอยู่ในโพลงปาก เกิดเสียงดังจ้วบจ้าบก็เพราะเขาดูดดื่มกินริมฝีปากเจ้าหล่อนอย่างมัวเมา
"อืม... พี่โก้ขา" เพลงพิณเห็นภาพตนเองกำลังเชิดใบหน้าขึ้นให้เขาสูดไล้ลำคอผ่อง กายหล่อนกระเพื่อมขึ้นลงอย่างช้าๆกระสับกระสัน เป็นสาเหตุให้ก่ออารมณ์มัวเมาจนกู่ไม่กลับ ใบหน้าหล่อนในความเป็นจริงเผยอขึ้นตามมโนภาพและกฤษตฤณก็ช่างรู้ใจ ไล่จูบลงมาตามปลายคางตามด้วยซึมซับความหอมจากลำคอของเจ้าหล่อนอย่างหลงใหล
"หอมจริงๆ ขนมผิง" เขาจูบซับลงเรื่อยๆ ตามลาดหน้าอกที่เฉดสีผิวเดียวกัน เนื้อตัวของหล่อนขึ้นสีชมพูแดงตามความต้องการของเจ้าของ
เสื้อแขนยาวที่ใส่ทับเกาะอกถูกกิ่งไม้เกี่ยวหลุดไปตั้งแต่หล่อนร่วงลงมาแล้ว เพียงแต่ไม่ทันเอ่ยให้เขาหยิบมาให้กฤษตฤณก็อุ้มขึ้นเดิมเร็วรี่เข้ามาจนนึกอะไรพูดอะไรไม่ทัน ทั้งร่างจึงเหลือแค่เกาะอกที่เป็นบราไปในตัวกับกางเกงขาสั้นขาดๆ กฤษตฤณจูบตามขอบเสื้อก่อนจะวกขึ้นมาจูบริมฝีปากหล่อนอีกครั้ง
"ขอนะครับ" เขาพูดเท่านั้นก็ซุกไซร้ใบหูจนหล่อนไม่ได้ยินอะไร
มือของกฤษตฤณเข้ากอบกุมความนุ่มหยุ่นของเจ้าหล่อนผ่านเนื้อผ้าบางเบา มืออีกข้างของเขารองแผ่นหลังของหญิงสาวเอาไว้ให้ลอยเชิญริมฝีปากเขาเข้าครอบครองติ่งหูอยากเรียกอารมณ์ อีกมือเขานวดทรวงอิ่มอย่างช้าๆจนปลายยอดเริ่มสู้มือเต่งตั้งดันเนื้อผ้าขึ้นเป็นเม็ด
"อือ... พี่โก้...." เขาใช้นิ้วเกี่ยวเกาะอกลงให้โผล่พ้นจากเนื้อเต่งภายในที่เป็นก้อนกลมดูสวยน่าลอง กฤษตฤณไซ้จมูกและริมฝีปากลงมาเรื่อยอย่างกระหายเต้าเนื้อนูนผ่องด้านล่าง ไม่นานเขาก็ได้เข้าดื่มกินทรวงสาวที่ผลิแรกแย้มสู่ปากบุรุษเพศเป็นครั้งแรก เจ้าหล่อนครางฮือทันทีที่ปลายถันเปียกซึม
เสียงเขาฟัดเนื้อหล่อนดังขึ้นจุ้บจั้บไม่ได้หยุด กฤษตฤณกลายเป็นคนร้อนเร็วรุนแรงทันทีที่ถูกอารมณ์พิศวาสครอบงำ มือหนึ่งข้างถูกลดทอนไปลื้อกางเกงยีนขาสั้นออกจากร่างบางอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่ไม่ได้เงยหน้าออกจากทรวงของเจ้าของกางเกงแต่อย่างใด
เสื้อเกาะอกที่คาดร่วงอยู่กับเอวและชั้นในเนื้อผ้าบางเบาเป็นเพียงสองชิ้นที่อยู่ติดกายหล่อน ชายหนุ่มค่อยวางมือทาบทับบนโหนกเนื้อสาว กายเขาก็เด้งฮือจนน่ากลัว สัมผัสแรกจากเพลงพิณที่เขาได้แตะต้อง วิเศษอะไรขนาดนี้ หญิงสาวที่แสดงกริยาไปตามธรรมชาติ อ้าขาออกหนึ่งข้างวางกับพื้นเตียง อีกข้างทับขาเขาอยู่เปิดอ้าให้เจ้าของตักกว้างได้ใช้ฝ่ามือนวดเฟ้นกลีบกายสาวจากด้านนอก
"ชอบไหมครับ" ชายหนุ่มเห็นเจ้าหล่อนพิงศีรษะไว้กับหัวเตียงปล่อยให้เขาดื่มกินนวดเฟ้นก็รู้สึกพอใจ
"อืม... พี่โก้" หญิงสาวตอบสนองอย่างเป็นธรรมชาติ กฤษตฤณรวบชั้นในของหล่อนเข้าหากันจนพันเป็นก้อนเกลียวก่อนจะดึงรั้งให้เสียดสีอยู่กับกลีบร่องจนหญิงสาวครวญครางเบาๆกับความรู้สึกกระสันที่เกิดขึ้น
"อือ พี่โก้ อย่า... แกล้ง" ไม่ทันไรเขาก็รูดมันออกจากเรียวขากลมเสลาของหล่อน ก่อนจะแทนที่ด้วยมือที่กดแหวกตามกลีบกายแทนเนื้อผ้า กฤษตฤณเพิ่มแรงดูดที่ทรวงอกหล่อนจนต้องแอ่นรับริมฝีปากเขาอย่างรัญจวน สัมผัสจริงจากนิ้วของเขาก่อกวนอารมณ์ของหล่อนไม่ใช่น้อย ชายหนุ่มครางฮือก่อนจะรีบจับพลิกให้หญิงสาวเปลี่ยนท่า
"อืม ไม่ไหวแล้วที่รัก" สองแขนถูกเขาจับให้วางจิกหัวเตียง พลิกให้หญิงสาวคว่ำตัวใช้สองเข่ายันพื้นเตียง แอ่นสะโพกขึ้น เกาะพิงตัวไว้กับไม้ของหัวเตียงอย่างดี กายสาวลอยเด่นสล้างอยู่จนชายหนุ่มไม่อดทนพอจัดท่าทีให้หล่อนได้เขาก็กดสะโพกหล่อนให้แอ่นลงเพื่อเชยชูบั้นท้ายงอนงามส่งกลีบเนื้อล่อตาเขา จนต้องใช้สองมือล็อคน่องเพรียวไว้ กฤษตฤณสอดลิ้นเข้าละเลงที่กลีบอูมของสาวเจ้ากะทันหัน จนคนไม่เคยตกใจร้องกรี๊ด
"กรี๊ด! พี่โก้!" สะโพกหล่อนสะดุ้งตกใจทันที แต่ก็ถูกเขากดลงเอาไว้เช่นเดิม พอคุ้นเคยเข้าเพลงพิณก็แอ่นสะโพกหยัดให้เขาสัมผัสหล่อนอย่างแนบชิดยิ่งขึ้น
"อ๊า ...อ๊า ...อ๊า พี่โก้จ๋า" กฤษตฤณห่อลิ้นสอดเข้ามาตามกลีบร่องที่ปิดชิดเพราะเนื้ออวบอูม น้ำหวานจากกายสาวรินรดแต่เขาก็ไม่นึกรังเกียจ ดูดกินอย่างคนตกอยู่ในทะเลทรายมานานนับปีเจอแหล่งน้ำน้อยนิดก็รีบเข้าตะโบมดื่มกิน
"หวานมาก ที่รัก" กฤษตฤณลองใช้ฝ่ามือช่วยเฟ้นติ่งเนื้อสาวก็ปรากฏว่าทุกครั้งที่เขาขยี้เพลงพิณจะปล่อยความหวานออกมาเป็นระรอกให้เขาดื่มเลียจนชุ่มไปทั่วบริเวณ ขนอ่อนเปียกลู่เพราะมือเขาละเลงน้ำเล่นไปทั่วทั้งกาย
กฤษตฤณขยับร่างกายไปตามครรลอง ชายหนุ่มยืนขึ้นครึ่งตัวใช้เข่าลงกับพื้นเตียงปลดซิบกางเกงก่อนจะรูดลงเพียงครึ่งเดียวเพื่อปลดปล่อยความแข็งกร้าวบางอย่าง มือหนึ่งก็ยังนวดกลีบผกาให้สาวเจ้า อีกมือก็ใช้ความเปียกชื้นที่ติดมือมาจากร่างบางทาส่วนหัวแฉกมนของตนก่อนจะถูไถตามกลีบร่อง
หญิงสาวผวาเฮือกเมื่อรู้สึกได้ถึงบางส่วนของเขาที่รู้ดีว่าคืออะไรแข็งครัดอยู่กลางร่องของตนเอง สติของหญิงสาวกลับคืนสะโพกหล่อนรีบดีดหนีเพราะเกรงว่าเขาจะสอดใส่เข้ามาก่อน แต่อย่างนั้นกฤษตฤณก็ใช้มือประคองเอวหล่อนไว้ให้นิ่งอยู่กับที่ จนเพลงพิณละมือหนึ่งข้างเอี้ยวตัวหันไปยันไหล่เขาเอาไว้ กฤษตฤณกำลังค้อมตัวสอดใส่เข้ามาในกายหล่อนก็ต้องชะงักเพราะมือเรียวยันอกเขาไว้
"พี่โก้เดี๋ยวค่ะ อื๊อ..." เขาสอดลำแข็งเข้าตามกลีบร่องจนหล่อนเผลอปล่อยมือร้องก่อนจะกลับไปยันเขาไว้ได้ทันดังเดิม
"พี่ขอนะที่รัก" กฤษตฤณไม่เสียเวลา เขาตั้งท่าจับลำกายแข็งร้าวของตนเข้าประชิดช่องอุ่นของสาวเจ้าทันทีแต่เจ้าตัวกลับร้องห้ามเอาไว้
"พี่โก้!! ผิงยังซิงนะ!"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ