MonsterHighSchool รักวุ่นๆของวัยรุ่นโรงเรียนปีศาจ
9.6
เขียนโดย DECOLOP
วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.41 น.
7 บท
8 วิจารณ์
9,914 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558 17.34 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) เพื่อนใหม่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ -ห้องพยาบาลเซนต์บาเรล-
"เจ้านี่ช่างไม่ระวังตัวเอาเสียเลยนะ" แวมไพร์ตาสีแดงยืนกอดอก ขณะปรายตามองเดนน่าที่นางพยาบาลชุดขาวในคราบเลือดกำลังพันผ้าพันแผลให้เธอ อยู่บนเตียง
"ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะมีปีศาจโผล่มาแบบนั้น"
"ที่นี่อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ" พูดจบ เขาก็เดินออกไปข้างนอกห้องพยาบาล ก่อนเดนน่าจะลุกขึ้นแล้วโค้งเบาๆเป็นการขอบคุณที่พยาบาลช่วยทำแผลให้เธอ
"ขอบคุณนะคะคุณพยาบาล"
"ยินดีค่ะ ต่อไปก็ระวังตัวด้วยนะ ถ้าโดนเจ้าตัวนี้ข่วนแล้วใส่ยาไม่ทันล่ะก็ ต่อให้เป็นอสูรกาย ก็ตายได้เลยล่ะ"
พยาบาลสาวพูดพร้อมกับยิ้มอย่างเยือกเย็น คำพูดของเธอทำให้เดนน่าขนลุกเกรียวขึ้นมาทันที ทำไมปีศาจที่นี่ถึงอันตรายนักนะ
"ค..ค่ะ แล้วจะระวังตัวนะคะ"
เดนน่าเดินออกไปจากห้องพยาบาลเดนน่ารู้สึกเจ็บแปล๊บๆที่ขาของเธอ เดนน่ามองหาเวลส์แต่เขาก็หายไปเสียแล้ว
"คิดจะไปก็ไป บ้า!"
เธอพูดกับตัวเอง ปีศาจที่เดินผ่านมาทำให้พวกเขาคิดว่าเธอพูดกับมนุษย์ล่องหนซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีมนุษย์ล่องหนจะมาเดินป้วนเปี้ยนในโรงเรียนนี้
เดนน่าเดินไปเรื่อยเปื่อยตามทางเดินในสวนหน้าโรงเรียนพลางคิดว่าถ้าเกิดมีปีศาจโผล่ขึ้นมาจากข้างพุ่มไม้แล้วขย้ำเธอตอนนี้ คงจะหนีไม่ทัน เธอจึงเดินเข้าไปในอาคารที่คนค่อนข้างพลุกพล่านเพื่อสยบความกลัว แต่คนเยอะๆก็ใช่ว่าจะดีไปสักทีเดียว
พลั่ก!
"โอ้ย!? ขอโทษค่ะ.."
เธอเดินไปชนกับปีศาจร่างยักษ์ที่มีฟันใหญ่อยู่สองซี่ที่โผล่ให้เห็นออกมานอกปาก เขามีรูปร่างที่ใหญ่โตจนน่ากลัว เนื้อตัวสีม่วงเข้มและดวงตาบอดข้างนึงยิ่งทำให้เขาดูป่าเถื่อนขึ้นมากกว่าเดิมอีก
"ทำไมเจ้าเดินไม่ดูทางเลย สาวน้อย หลงเสน่ห์ข้าเข้าเหรอจ๊ะ"
ปีศาจน่าเกลียดพูดพร้อมกับเอามือใหญ่ยักษ์เชยคางเล็กๆของเธอขึ้น กลิ่นปากที่สุดจะบรรยายทำให้เธอแทบจะเป็นลมล้มพับไปตรงนั้น
มันลากเธอไปหลังโรงเรียนซึ่งเต็มไปด้วยป่ากุหลาบสีดำซึ่งบรรยากาศวังเวงและเปล่าเปลี่ยวคนเป็นที่สุด เธอพยายามขัดขืนทุกการกระทำของยักษ์ตัวม่วง
"ไม่นะ! ปล่อยฉัน ช่วยด้วยย!!"
"แหกปากไปก็ไม่มีใครมาช่วยเจ้าหรอก หึๆ พี่รวยนะจ๊ะ มาเป็นเมียพี่เถอะ"
"รวยกะผีสิยะ! ช่วยฉันด้วยย ใครก็ได้!!"
"ปากดีแบบนี้ ต้องสยบด้วยจูบ"
ริมฝีปากที่แห้งกรังและบานเท่าใบบัวค่อยๆเข้ามาใกล้ปากเธอช้าๆแทบจะกลืนหัวเธอได้ทั้งหัว
"กรี้ดดดดดดดด!!"
แต่ไม่ทันที่ไอ้ยักษ์จะได้จรดฝีปากที่ตนมั่นใจมากนักว่าจะสร้างความสุขให้สาวน้อยได้ ก็โดนลูกเตะจากสาวผมสั้นสีเงินในชุดนักดาบเข้าที่กลางท้ายทอยทำให้ล้มทรุดหมดสติลงไปทันที
"ไปตายเหอะ ไอโรคจิต..."
เธอพูดด้วยสีหน้าที่ไม่แคร์โลก ดวงตาสีฟ้าของเธอเหมือนไม่มีความรู้สึกรู้สาใดๆ แถมท่าทีการวางตัวก็สง่างามเหมือนอัศวินหญิง ไหนจะดาบที่แนบอยู่ในฝักข้างๆเอวนั่นอีก ช่างเป็นหญิงที่เท่ห์จริงๆ
"ข..ขอบคุณนะ"
เดนน่ายังคงตัวสั่นเทาไม่หายเพราะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็ว หญิงสาวปริศนาละสายตาจากผลงานของตัวเองที่นอนกองอยู่กับพื้นหันมามองมองเธอด้วยนัยน์ตาสีฟ้าราวกับสีของท้องทะเล
"ฉันยินดี งั้นขอตัวก่อนล่ะ"
"เดี๋ยวสิ! เธอชื่ออะไรเหรอ"
"ฉันชื่อเซเลีย เป็นปีศาจเผ่านักดาบ"
น้ำเสียงเย็นชาของเธอช่างมีเสน่ห์ เธอเหมือนนักรบของราชินีผู้แข็งแกร่งและทรงคุณธรรม เธอคิดว่าถ้าได้ผูกมิตรด้วยได้ต้องดีมากแน่ๆ
"ฉันชื่อ เดนน่า ไป..กินข้าวเที่ยงด้วยกันไหม"
เซเลียมีท่าทีอึ้งเล็กน้อยกับการเชิญชวนของสาวผมสีส้มที่กำลังมองเธอด้วยแววตาที่รอลุ้นคำตอบ
"เธออยากกินข้าวกับฉันเหรอ.."
"อื้ม งั้นตกลงนะ ไปกันเถอะ!"
เธอลากสาวผมสีเงินไปที่โรงอาหารโดยไม่รอคอยให้เธอได้พูดอะไรต่อ เซเลียรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเพราะเธอเป็นผู้หญิงห้าวและเย็นชา ทำให้ไม่ค่อยมีคนอยากคบหาด้วยซักเท่าไร และเดนน่าก็เป็นคนแรกที่ชวนเธอไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน
"ว่าแต่ เธออยากกินอะไรล่ะ"
"ฉันกินอะไรก็ได้"
แต่สายตาของเซเลียไม่ได้เป็นไปตามปาก เธอมองไปที่ร้านขายเนื้อมังกรย่าง ทำให้เดนน่าเดาใจเธอได้ไม่ยาก
"กินเนื้อย่างดีกว่าเนาะ"
"โอเค"
ตาของเธอเป็นประกายเมื่อได้เห็นเนื้อย่างที่วางเรียงรายหลายขนาด เธอมักจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เห็นเนื้อย่างอันโอชะที่ไม่ว่าจะได้ลิ้มลองกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ
"ขอเนื้อย่างมังกรการ์เร็ต ไซส์XXLค่ะ"
เธอสั่งด้วยความคล่องแคล่วเหมือนคุ้นเคยกับเนื้อพวกนี้เป็นอย่างดี แม่ค้าก็ยิ้มตอบก่อนจะหยิบเนื้อชิ้นเบ้อเริ่มเทิ่มใส่จานก่อนจะยกมาวางไว้ที่โซนรับอาหาร
"งั้นหนูขอ...ชิ้นนี้ละกันค่ะ"
เดนน่าก้มมองเนื้อมังกรที่ส่งกลิ่นจะว่าหอมไหมก็ไหม เหม็นหรือเปล่าก็ไม่เชิง เธอไม่เคยกินเนื้อมังกรมาก่อนนั่นทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นแต่ก็กลัวตงิดๆ เพราะเนื้อของมังกรท่าทางน่าจะ.. อร่อยน่าดูสำหรับเซเลีย แต่เพื่อผูกมิตรกับเพื่อนใหม่ ยังก็ต้องลองซักตั้ง
ชิ้นเนื้อมังกรที่หันเป็นชิ้นประมาณเนื้อเสต็กอยู่ในจากของเธอ ซึ่งต่างจากของเซเลียที่ชิ้นใหญ่เท่ากับกะละมังใบเล็กๆใบนึงเลยทีเดียว
"ทำไมเธอกินเท่านี้ล่ะ อิ่มเหรอ"
"ฉันว่าชิ้นนี้ก็ใหญ่พอแล้วนะ ฮ่าๆๆ"
เธอพูดก่อนจะมองไปที่เนื้อมังกรในถาดอาหารของเซเลีย แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมสาวน้อยคนนี้ถึงกินน้อยนัก
ทั้งสองคนเดินหาที่นั่งอยู่ประมาณห้านาทีก็พบทำเลดีๆริมบ่อน้ำซึ่งมันก็ร่มรื่นดีทำให้เดนน่ารีบวิ่งเข้าไปจับจองก่อนเซเลียจะวิ่งตามมาเช่นกัน
"ว่าแต่ เธอมาจากตระกูลอะไรเหรอ"
เดนน่าชวนคุยขณะที่กำลังเขี้ยวเนื้อมังกรในแก้มตุ้ยๆ สาวผมเงินมีเนื้อมังกรซึ่งเธอพึ่งตัดมันยังคงคาอยู่ในปากก่อนจะเขี้ยวมันแล้วกลืนอย่างไว
"อื้ม..ฉันมาจากตระกูลฟาเรนเซียร์น่ะ"
"ฟาเรนเซียร์..ตระกูลขุนนางที่ราชินีทรงโปรดปรานนี่นา!"
"ก็..ประมาณนั้น"
เดนน่าตกใจกับเชื้อตระกูลของเซเลียมาก เธอเป็นถึงลูกของตระกูลที่ราชินีทรงโปรดปรานในผลงานมาก เพราะพวกเขาสามารถจัดการกับวิกฤตการณ์แย่งชิงแผ่นดินปีศาจของหัวเมืองแคว้นครั้งใหญ่ได้ ซึ่งผลงานครั้งนี้ก็ได้ถูกจารึกไว้ในบันทึกโลกปีศาจในนามของตระกูลฟาเรนเซียร์
แต่เธอกลับแปลกใจอยู่อย่างนึง ทำไมเป็นถึงลูกสาวของตระกูลขุนนางที่ร่ำรวยมหาศาล มีทั้งอำนาจและลาภยศมากมายขนาดนั้น ถึงไม่ทำตัวหยิ่งยโสหรืออวดโอ้ถึงตระกูลของเธอเลยแม้แต่น้อยนะ แถมยังไม่ถือตัว แล้วยังมาช่วยเธอไว้อีก เป็นคนที่นิสัยดีจริงๆเลยนะ
"แล้วเธอล่ะ มาจากตระกูลอะไร"
คำถามนั้นทำให้เดนน่าทำมีดในมือร่วงลงกับพื้น...เธอนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ไม่เคยอยากจะจดจำ จู่ๆภาพในคืนนั้นก็ลอยเข้ามาในหัว แม่ของเธอโดนหอกแทงลงกลางอกต่อหน้าต่อตา หมู่บ้านกำลังถูกไฟเผาไหม้จนเกลี้ยง..และมีเพียงเธอที่รอดชีวิต เป็นเผ่าเฮเลนเพียงคนเดียว ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในโลกปีศาจแห่งนี้
"คือ..เรื่องมัน"
"ฉันเข้าใจแล้วล่ะ"
"ฮ้ะ..??"
เดนน่าตกใจกับท่าทีของเซเลียที่กำลังสลดใจเหมือนกับไว้อาลัยให้ใครซักคน หรือว่าเซเลีย จะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น?! บ้าน่า..เธอคงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพนั่นหรอกนะ
"อย่าเข้าใจผิดนะ คือฉันสามารถอ่านใจคนได้"
"!!..เธอก็เลยเห็นภาพที่ฉันกำลังนึกถึงอยู่?"
"อื้ม..เธอต้องผ่านเรื่องที่น่าเศร้าจริงๆเลยนะ"
"แต่ฉันก็ทำใจได้แล้วล่ะ ไม่ดราม่าหรอก ฮ่าๆๆ"
เดนน่ายิ้มก่อนจะกินอาหารในจานต่อ เซเลียเห็นท่าทีที่ยิ้มแย้มของเธอก็หายห่วงก่อนจะจัดหนักกับเนื้อมังกรที่แสนโอชะในจานของเธอต่อไป
ขณะเดียวกันนั่นเองที่แวมไพร์หนุ่มเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารของพวกเธอพร้อมกับแดเนียลที่เดินขนาบข้างมาด้วย
เวลส์นั่งลงข้างเดนน่าอย่างถือวิสาสะ แดเนียลก็ไปนั่งข้างๆกับสาวผมเงินซึ่งไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรออกมา
เดนน่ารับรู้ถึงการมาเยือนของความวุ่นวาย เธอเลยขยับออกห่างจากนายแวมไพร์หนุ่มที่ถือถุงเลือดสีแดงสดอยู่ในมือพลางดูดมันจนหมดในรวดเดียว
"เจ้าขยับหนีข้างั้นเหรอ ช่างกล้านะยัยลูกเจี๊ยบ" เขาพูดก่อนจะขยับเข้าไปใกล้เธอมากขึ้นในขณะที่เซเลียก็นั่งกินอาหารของเธอโดยที่ไม่ทันได้สังเกตุว่าตรงข้ามเธอเกิดอะไรขึ้นบ้าง ส่วนแดเนียลก็วุ่นอยู่กับการป้อนนมยูนิคอร์นที่ราคาแพงหูฉี่ให้แมวขนฟูที่กำลังออดอ้อนเขาอยู่
"นี่นาย! จะมายุ่งอะไรกับฉันอีก"
"ข้าไม่ได้ทำอะไรเจ้าซักหน่อย แล้วนี่มันก็โต๊ะอาหารสาธารณะ ข้าก็มีสิทธิ์ที่จะมานั่ง!"
"แต่พวกฉันมานั่งก่อน นายไม่มีสิทธิ์!"
"อ้อเหรอ อย่างเจ้าจะทำอะไรข้าได้ ยังไงข้าก็จะนั่งตรงนี้!"
"ได้..งั้น ฉัน ไป เอง!!"
เธอลุกขึ้นและกำลังจะชวนเซเลียให้ลุกขึ้นตาม แต่แล้วก็ไม่ทันที่ได้เอ่ยปากพูดอะไร เขาก็กระชากแขนของเธอเข้ามานั่งบนตักที่เย็นเฉียบ พร้อมกับลมหายใจที่ร้อนระอุกำลังโรยรายลงมาที่ต้นคอของเธอ ทำให้เธอรู้สึกขนลุกวาบไปทั้งตัวพร้อมกับหัวใจที่กำลังเต้นอย่างบ้าคลั่ง
"ปล่อยนะ!"
ไม่รู้อะไรดลใจให้เวลส์ทำแบบนั้น เขาห้ามตัวเองไม่ได้ เหมือนต้องมนต์สะกด อยากจะกลืนกินเธอ ในหัวของเขาตอนนี้มีเพียงอยากจะฝังเขี้ยวลงไปในคอนั่นแล้วดูดเลือดมาซะให้หมดตัว
ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของเดนน่า เธอถอกข้อศอกทิ่มลงไปที่กลางอกของเขาเต็มแรงทำให้แวมไพร์หนุ่มเบิกตากว้างจนแทบจะถลนออกมา
"เจ้า..!!! แค่กๆ!"
เลือด..!เขาไอออกมาเป็นเลือด เดนน่าตกใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอมั่นใจว่าข้อศอกของเธอไม่ได้แรงถึงขนาดจะทำให้ซี่โคงแตกหรือทิ่มปอดได้ แดเนียลเห็นเพื่อนของเขากำลังไอเป็นเลือดก็รีบลุกจากที่นั่งแล้วเข้าไปดูอาการ
"เวลส์! เจ้าเป็นอะไร?!"
ส่วนเซเลียที่จัดการกับเนื้อมังกรของเธอหมดแล้วก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับเบิกตากว้ากับสิ่งที่เห็น
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น?! ทำไมเขาไอเป็นเลือด"
"ฉ..ฉันก็ไม่แน่ใจ แค่เอาข้อศอกกระทุ้งที่หน้าอกเขา แต่ฉันมั่นใจนะว่าไม่ได้ทำแรงมากถึงขนาดจะไอออกมาเป็นเลือดได้ขนาดนั้น..."
เดนน่ารู้สึกผิดอย่างมากที่ทำให้ปีศาจตนนึงต้องเลือดตกยางออก เธอไม่อยากทำให้ใครเจ็บตัวถึงขนาดนี้เลย
เดนน่าและเซเลียมองร่างชายหนุ่มตรงหน้าที่กำลังหมดสติไปขณะที่แดเนียลกำลังเอามือจับที่ท้ายทอยของเขาแล้วร่ายคาถา และเหมือนจะได้ผล เขาทำให้เวลส์หยุดไอออกมาเป็นเลือด
"เจ้าไม่ต้องตกใจ หมอนี่ก็แค่มีโรคประจำตัว แวมไพร์เป็นกันทุกตนนั่นแหละ"
"แล้วทำไม..จู่ๆเขาถึงไอออกมาเป็นเลือดแบบนั้นล่ะ"
เดนน่ารู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อยที่เป็นอาการโรคประจำตัวของแวมไพร์ ไม่ใช่เพราะฝีมือของเธอทั้งหมดซะทีเดียว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง
"ก็เพราะถ้าเขาเกิดอาการ กระหาย ขึ้นมา ร่างกายของแวมไพร์ที่ถูกฝึกให้มีความอดทนมาตั้งแต่เด็กๆ จะสำรอกเลือดออกมาทันที ทำให้เขาหมดสติเพื่อป้องกันไม่ให้เขาทำร้ายใครได้"
"งั้นแสดงว่า..ที่เขาเป็นแบบนี้ เพราะเขากระหายเดนน่างั้นเหรอ"
เซเลียที่ยืนฟังอยู่สรุปใจความให้อีกครั้ง ซึ่งแดเนียลก็พยักหน้าเบาๆทำให้เดนน่าถึงกับใจหายวูบ
"แต่เขาไม่มีอาการแบบนี้มาหลายปีแล้ว ครั้งล่าสุดคือตอนที่เขาไม่ยอมกินอะไรเลยทำให้จะไปกินเลือดกวางเข้า แต่ข้าผ่านไปเป็นพอดีเลยช่วยไว้ทัน"
แดเนียลพูดพลางพยุงให้ร่างที่สลบอยู่มานอนฟุบลงไปกับโต๊ะ ก่อนจะเริ่มตั้งข้อสงสัย
"แต่ทำไมจู่ๆถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้นะ"
เขาเกาคางเบาๆ เปลี่ยนจากที่ทำหน้าตาขี้เล่นตลอดเวลา เป็นสีหน้าเริ่มเครียดเข้าไปทุกที เดนน่าและเซเลียที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็กำลังฟังเขาอย่างจริงจังเช่นกัน
เดนน่ารู้ตัวดีว่าเธอไม่ใช่ปีศาจธรรมดา เธอคือเผ่าเฮเลน ที่มีเลือดอ่ร่อยากี่ทุี่สุดในโลกปี็ศาจไม่แน่อาจเพราะแบบนั้นก็ได้
"คือ ฉันเป็นปีศาจเผ่าเฮเลน ไม่แน่ว่าเพราะแบบนี้หรือเปล่าที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้"
"ว่าไงนะ!/ว่าไงนะ!"
สองคนที่กำลังนั่งคิดอยู่ตกใจขึ้นมาหลังจากที่เธอพูดไปแบบนั้น ซึ่งเธอก็ไม่แปลกใจเพราะมีประกาศว่าปีศาจเผ่านี้ได้สูญหายไปจากโลกปีศาจทุกตนแล้ว ซึ่งพวกเขาก็น่าจะคิดแบบนั้นเช่นกัน
"ในโลกนี้ยังเหลือเฮเลนอยู่อีกเหรอ ไม่อยากเชื่อเลยนะ"
แดเนียลพูดพลางรู้สึกสนใจในการมีอยู่ของเธอ ซึ่งเซเลียก็เริ่มพูดขึ้นบ้าง
"มิน่าล่ะ ทำไมตอนที่ฉันเห็นเธอครั้งแรก ถึงได้กลิ่นเนื้อมังกรลอยมาฉุยเชียว..."
เดนน่ารู้สึกขนลุกเกรียว กับท่าทางของพวกเขาที่เริ่มแสดงออกมาว่าเธอเหมือนอาหารอันโอชะ
"ฮ่าๆๆ พวกเราไม่ทำอะไรเจ้าหรอกไว้ใจได้ เพราะปีศาจที่นี่ส่วนใหญ่น่ะ ได้รับการฝึกเรื่องความอดทนมาอย่างดี มีแค่บางส่วนเท่านั้นแหละที่จะทำอะไรป่าเถื่อนแบบนั้นได้น่ะ"
แดเนียลพูดอย่างผ่อนคลายที่เวลส์จู่ๆก็มีอาการขึ้นมาไม่ได้มีอะไรซับซ้อนไปกว่าเพราะเลือดของเฮเลนยั่วประสาทเขานั่นเอง
"อย่างไอ้ยักษ์อ้วนเมื่อกี้ก็เหมือนจะไร้การฝึกฝนเรื่องความอดทน ก็เลยเห็นเธอน่ากินล่ะมั้ง เลยจับไป แต่ไม่เป็นไร ฉันจะปกป้องเธอเอง"
เซเลียพูดด้วยสายตาและน้ำเสียงที่เย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็งขั้วโลกแต่แฝงด้วยความห่วงใย ซึ่งนั่นก็ทำให้เดนน่ารู้สึกปลอดภัยแต่ก็หวาดกลัวในเวลาเดียวกัน
"ข..ขอบใจนะ"
"งั้นก่อนอื่น ข้าต้องพาหมอนี่ไปนอนที่หอพักก่อนแล้วล่ะ พวกเธอไปเรียนกันก่อนเลย ฝากบอกอาจารย์ด้วยนะว่าข้าพาเวลส์ไปพักผ่อน" เขาพูดพลางเอาแขนข้างซ้ายของเพื่อนพาดบ่าไว้
"ได้ๆ งั้นเราไปกันเถอะเซเลีย"
"อื้ม"
เราบอกลากันตรงนั้นก่อนที่จะเดินขึ้นไปบนชั้นเรียน เดนน่ากับเซเลียเรียนคนละห้องกันทำให้ต้องแยกไปอีกทาง ซึ่งเธอก็เดินขึ้นไปชั้นเรียนที่ิเงียบสงัดเพียงลำพัง ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าเรียนสายอีกแล้วสินะ โธ่เอ้ย หมดกัน ตำแหน่งนักเรียนดีเด่นที่เธอใฝ่ฝันอยากจะเป็น ต้องมาล่มตั้งแต่ตอนนี้แล้วงั้นหรือเนี่ย
------------------------------------------------------------------------------------------------------
"เจ้านี่ช่างไม่ระวังตัวเอาเสียเลยนะ" แวมไพร์ตาสีแดงยืนกอดอก ขณะปรายตามองเดนน่าที่นางพยาบาลชุดขาวในคราบเลือดกำลังพันผ้าพันแผลให้เธอ อยู่บนเตียง
"ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะมีปีศาจโผล่มาแบบนั้น"
"ที่นี่อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ" พูดจบ เขาก็เดินออกไปข้างนอกห้องพยาบาล ก่อนเดนน่าจะลุกขึ้นแล้วโค้งเบาๆเป็นการขอบคุณที่พยาบาลช่วยทำแผลให้เธอ
"ขอบคุณนะคะคุณพยาบาล"
"ยินดีค่ะ ต่อไปก็ระวังตัวด้วยนะ ถ้าโดนเจ้าตัวนี้ข่วนแล้วใส่ยาไม่ทันล่ะก็ ต่อให้เป็นอสูรกาย ก็ตายได้เลยล่ะ"
พยาบาลสาวพูดพร้อมกับยิ้มอย่างเยือกเย็น คำพูดของเธอทำให้เดนน่าขนลุกเกรียวขึ้นมาทันที ทำไมปีศาจที่นี่ถึงอันตรายนักนะ
"ค..ค่ะ แล้วจะระวังตัวนะคะ"
เดนน่าเดินออกไปจากห้องพยาบาลเดนน่ารู้สึกเจ็บแปล๊บๆที่ขาของเธอ เดนน่ามองหาเวลส์แต่เขาก็หายไปเสียแล้ว
"คิดจะไปก็ไป บ้า!"
เธอพูดกับตัวเอง ปีศาจที่เดินผ่านมาทำให้พวกเขาคิดว่าเธอพูดกับมนุษย์ล่องหนซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีมนุษย์ล่องหนจะมาเดินป้วนเปี้ยนในโรงเรียนนี้
เดนน่าเดินไปเรื่อยเปื่อยตามทางเดินในสวนหน้าโรงเรียนพลางคิดว่าถ้าเกิดมีปีศาจโผล่ขึ้นมาจากข้างพุ่มไม้แล้วขย้ำเธอตอนนี้ คงจะหนีไม่ทัน เธอจึงเดินเข้าไปในอาคารที่คนค่อนข้างพลุกพล่านเพื่อสยบความกลัว แต่คนเยอะๆก็ใช่ว่าจะดีไปสักทีเดียว
พลั่ก!
"โอ้ย!? ขอโทษค่ะ.."
เธอเดินไปชนกับปีศาจร่างยักษ์ที่มีฟันใหญ่อยู่สองซี่ที่โผล่ให้เห็นออกมานอกปาก เขามีรูปร่างที่ใหญ่โตจนน่ากลัว เนื้อตัวสีม่วงเข้มและดวงตาบอดข้างนึงยิ่งทำให้เขาดูป่าเถื่อนขึ้นมากกว่าเดิมอีก
"ทำไมเจ้าเดินไม่ดูทางเลย สาวน้อย หลงเสน่ห์ข้าเข้าเหรอจ๊ะ"
ปีศาจน่าเกลียดพูดพร้อมกับเอามือใหญ่ยักษ์เชยคางเล็กๆของเธอขึ้น กลิ่นปากที่สุดจะบรรยายทำให้เธอแทบจะเป็นลมล้มพับไปตรงนั้น
มันลากเธอไปหลังโรงเรียนซึ่งเต็มไปด้วยป่ากุหลาบสีดำซึ่งบรรยากาศวังเวงและเปล่าเปลี่ยวคนเป็นที่สุด เธอพยายามขัดขืนทุกการกระทำของยักษ์ตัวม่วง
"ไม่นะ! ปล่อยฉัน ช่วยด้วยย!!"
"แหกปากไปก็ไม่มีใครมาช่วยเจ้าหรอก หึๆ พี่รวยนะจ๊ะ มาเป็นเมียพี่เถอะ"
"รวยกะผีสิยะ! ช่วยฉันด้วยย ใครก็ได้!!"
"ปากดีแบบนี้ ต้องสยบด้วยจูบ"
ริมฝีปากที่แห้งกรังและบานเท่าใบบัวค่อยๆเข้ามาใกล้ปากเธอช้าๆแทบจะกลืนหัวเธอได้ทั้งหัว
"กรี้ดดดดดดดด!!"
แต่ไม่ทันที่ไอ้ยักษ์จะได้จรดฝีปากที่ตนมั่นใจมากนักว่าจะสร้างความสุขให้สาวน้อยได้ ก็โดนลูกเตะจากสาวผมสั้นสีเงินในชุดนักดาบเข้าที่กลางท้ายทอยทำให้ล้มทรุดหมดสติลงไปทันที
"ไปตายเหอะ ไอโรคจิต..."
เธอพูดด้วยสีหน้าที่ไม่แคร์โลก ดวงตาสีฟ้าของเธอเหมือนไม่มีความรู้สึกรู้สาใดๆ แถมท่าทีการวางตัวก็สง่างามเหมือนอัศวินหญิง ไหนจะดาบที่แนบอยู่ในฝักข้างๆเอวนั่นอีก ช่างเป็นหญิงที่เท่ห์จริงๆ
"ข..ขอบคุณนะ"
เดนน่ายังคงตัวสั่นเทาไม่หายเพราะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็ว หญิงสาวปริศนาละสายตาจากผลงานของตัวเองที่นอนกองอยู่กับพื้นหันมามองมองเธอด้วยนัยน์ตาสีฟ้าราวกับสีของท้องทะเล
"ฉันยินดี งั้นขอตัวก่อนล่ะ"
"เดี๋ยวสิ! เธอชื่ออะไรเหรอ"
"ฉันชื่อเซเลีย เป็นปีศาจเผ่านักดาบ"
น้ำเสียงเย็นชาของเธอช่างมีเสน่ห์ เธอเหมือนนักรบของราชินีผู้แข็งแกร่งและทรงคุณธรรม เธอคิดว่าถ้าได้ผูกมิตรด้วยได้ต้องดีมากแน่ๆ
"ฉันชื่อ เดนน่า ไป..กินข้าวเที่ยงด้วยกันไหม"
เซเลียมีท่าทีอึ้งเล็กน้อยกับการเชิญชวนของสาวผมสีส้มที่กำลังมองเธอด้วยแววตาที่รอลุ้นคำตอบ
"เธออยากกินข้าวกับฉันเหรอ.."
"อื้ม งั้นตกลงนะ ไปกันเถอะ!"
เธอลากสาวผมสีเงินไปที่โรงอาหารโดยไม่รอคอยให้เธอได้พูดอะไรต่อ เซเลียรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเพราะเธอเป็นผู้หญิงห้าวและเย็นชา ทำให้ไม่ค่อยมีคนอยากคบหาด้วยซักเท่าไร และเดนน่าก็เป็นคนแรกที่ชวนเธอไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน
"ว่าแต่ เธออยากกินอะไรล่ะ"
"ฉันกินอะไรก็ได้"
แต่สายตาของเซเลียไม่ได้เป็นไปตามปาก เธอมองไปที่ร้านขายเนื้อมังกรย่าง ทำให้เดนน่าเดาใจเธอได้ไม่ยาก
"กินเนื้อย่างดีกว่าเนาะ"
"โอเค"
ตาของเธอเป็นประกายเมื่อได้เห็นเนื้อย่างที่วางเรียงรายหลายขนาด เธอมักจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เห็นเนื้อย่างอันโอชะที่ไม่ว่าจะได้ลิ้มลองกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ
"ขอเนื้อย่างมังกรการ์เร็ต ไซส์XXLค่ะ"
เธอสั่งด้วยความคล่องแคล่วเหมือนคุ้นเคยกับเนื้อพวกนี้เป็นอย่างดี แม่ค้าก็ยิ้มตอบก่อนจะหยิบเนื้อชิ้นเบ้อเริ่มเทิ่มใส่จานก่อนจะยกมาวางไว้ที่โซนรับอาหาร
"งั้นหนูขอ...ชิ้นนี้ละกันค่ะ"
เดนน่าก้มมองเนื้อมังกรที่ส่งกลิ่นจะว่าหอมไหมก็ไหม เหม็นหรือเปล่าก็ไม่เชิง เธอไม่เคยกินเนื้อมังกรมาก่อนนั่นทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นแต่ก็กลัวตงิดๆ เพราะเนื้อของมังกรท่าทางน่าจะ.. อร่อยน่าดูสำหรับเซเลีย แต่เพื่อผูกมิตรกับเพื่อนใหม่ ยังก็ต้องลองซักตั้ง
ชิ้นเนื้อมังกรที่หันเป็นชิ้นประมาณเนื้อเสต็กอยู่ในจากของเธอ ซึ่งต่างจากของเซเลียที่ชิ้นใหญ่เท่ากับกะละมังใบเล็กๆใบนึงเลยทีเดียว
"ทำไมเธอกินเท่านี้ล่ะ อิ่มเหรอ"
"ฉันว่าชิ้นนี้ก็ใหญ่พอแล้วนะ ฮ่าๆๆ"
เธอพูดก่อนจะมองไปที่เนื้อมังกรในถาดอาหารของเซเลีย แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมสาวน้อยคนนี้ถึงกินน้อยนัก
ทั้งสองคนเดินหาที่นั่งอยู่ประมาณห้านาทีก็พบทำเลดีๆริมบ่อน้ำซึ่งมันก็ร่มรื่นดีทำให้เดนน่ารีบวิ่งเข้าไปจับจองก่อนเซเลียจะวิ่งตามมาเช่นกัน
"ว่าแต่ เธอมาจากตระกูลอะไรเหรอ"
เดนน่าชวนคุยขณะที่กำลังเขี้ยวเนื้อมังกรในแก้มตุ้ยๆ สาวผมเงินมีเนื้อมังกรซึ่งเธอพึ่งตัดมันยังคงคาอยู่ในปากก่อนจะเขี้ยวมันแล้วกลืนอย่างไว
"อื้ม..ฉันมาจากตระกูลฟาเรนเซียร์น่ะ"
"ฟาเรนเซียร์..ตระกูลขุนนางที่ราชินีทรงโปรดปรานนี่นา!"
"ก็..ประมาณนั้น"
เดนน่าตกใจกับเชื้อตระกูลของเซเลียมาก เธอเป็นถึงลูกของตระกูลที่ราชินีทรงโปรดปรานในผลงานมาก เพราะพวกเขาสามารถจัดการกับวิกฤตการณ์แย่งชิงแผ่นดินปีศาจของหัวเมืองแคว้นครั้งใหญ่ได้ ซึ่งผลงานครั้งนี้ก็ได้ถูกจารึกไว้ในบันทึกโลกปีศาจในนามของตระกูลฟาเรนเซียร์
แต่เธอกลับแปลกใจอยู่อย่างนึง ทำไมเป็นถึงลูกสาวของตระกูลขุนนางที่ร่ำรวยมหาศาล มีทั้งอำนาจและลาภยศมากมายขนาดนั้น ถึงไม่ทำตัวหยิ่งยโสหรืออวดโอ้ถึงตระกูลของเธอเลยแม้แต่น้อยนะ แถมยังไม่ถือตัว แล้วยังมาช่วยเธอไว้อีก เป็นคนที่นิสัยดีจริงๆเลยนะ
"แล้วเธอล่ะ มาจากตระกูลอะไร"
คำถามนั้นทำให้เดนน่าทำมีดในมือร่วงลงกับพื้น...เธอนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ไม่เคยอยากจะจดจำ จู่ๆภาพในคืนนั้นก็ลอยเข้ามาในหัว แม่ของเธอโดนหอกแทงลงกลางอกต่อหน้าต่อตา หมู่บ้านกำลังถูกไฟเผาไหม้จนเกลี้ยง..และมีเพียงเธอที่รอดชีวิต เป็นเผ่าเฮเลนเพียงคนเดียว ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในโลกปีศาจแห่งนี้
"คือ..เรื่องมัน"
"ฉันเข้าใจแล้วล่ะ"
"ฮ้ะ..??"
เดนน่าตกใจกับท่าทีของเซเลียที่กำลังสลดใจเหมือนกับไว้อาลัยให้ใครซักคน หรือว่าเซเลีย จะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น?! บ้าน่า..เธอคงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพนั่นหรอกนะ
"อย่าเข้าใจผิดนะ คือฉันสามารถอ่านใจคนได้"
"!!..เธอก็เลยเห็นภาพที่ฉันกำลังนึกถึงอยู่?"
"อื้ม..เธอต้องผ่านเรื่องที่น่าเศร้าจริงๆเลยนะ"
"แต่ฉันก็ทำใจได้แล้วล่ะ ไม่ดราม่าหรอก ฮ่าๆๆ"
เดนน่ายิ้มก่อนจะกินอาหารในจานต่อ เซเลียเห็นท่าทีที่ยิ้มแย้มของเธอก็หายห่วงก่อนจะจัดหนักกับเนื้อมังกรที่แสนโอชะในจานของเธอต่อไป
ขณะเดียวกันนั่นเองที่แวมไพร์หนุ่มเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารของพวกเธอพร้อมกับแดเนียลที่เดินขนาบข้างมาด้วย
เวลส์นั่งลงข้างเดนน่าอย่างถือวิสาสะ แดเนียลก็ไปนั่งข้างๆกับสาวผมเงินซึ่งไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรออกมา
เดนน่ารับรู้ถึงการมาเยือนของความวุ่นวาย เธอเลยขยับออกห่างจากนายแวมไพร์หนุ่มที่ถือถุงเลือดสีแดงสดอยู่ในมือพลางดูดมันจนหมดในรวดเดียว
"เจ้าขยับหนีข้างั้นเหรอ ช่างกล้านะยัยลูกเจี๊ยบ" เขาพูดก่อนจะขยับเข้าไปใกล้เธอมากขึ้นในขณะที่เซเลียก็นั่งกินอาหารของเธอโดยที่ไม่ทันได้สังเกตุว่าตรงข้ามเธอเกิดอะไรขึ้นบ้าง ส่วนแดเนียลก็วุ่นอยู่กับการป้อนนมยูนิคอร์นที่ราคาแพงหูฉี่ให้แมวขนฟูที่กำลังออดอ้อนเขาอยู่
"นี่นาย! จะมายุ่งอะไรกับฉันอีก"
"ข้าไม่ได้ทำอะไรเจ้าซักหน่อย แล้วนี่มันก็โต๊ะอาหารสาธารณะ ข้าก็มีสิทธิ์ที่จะมานั่ง!"
"แต่พวกฉันมานั่งก่อน นายไม่มีสิทธิ์!"
"อ้อเหรอ อย่างเจ้าจะทำอะไรข้าได้ ยังไงข้าก็จะนั่งตรงนี้!"
"ได้..งั้น ฉัน ไป เอง!!"
เธอลุกขึ้นและกำลังจะชวนเซเลียให้ลุกขึ้นตาม แต่แล้วก็ไม่ทันที่ได้เอ่ยปากพูดอะไร เขาก็กระชากแขนของเธอเข้ามานั่งบนตักที่เย็นเฉียบ พร้อมกับลมหายใจที่ร้อนระอุกำลังโรยรายลงมาที่ต้นคอของเธอ ทำให้เธอรู้สึกขนลุกวาบไปทั้งตัวพร้อมกับหัวใจที่กำลังเต้นอย่างบ้าคลั่ง
"ปล่อยนะ!"
ไม่รู้อะไรดลใจให้เวลส์ทำแบบนั้น เขาห้ามตัวเองไม่ได้ เหมือนต้องมนต์สะกด อยากจะกลืนกินเธอ ในหัวของเขาตอนนี้มีเพียงอยากจะฝังเขี้ยวลงไปในคอนั่นแล้วดูดเลือดมาซะให้หมดตัว
ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของเดนน่า เธอถอกข้อศอกทิ่มลงไปที่กลางอกของเขาเต็มแรงทำให้แวมไพร์หนุ่มเบิกตากว้างจนแทบจะถลนออกมา
"เจ้า..!!! แค่กๆ!"
เลือด..!เขาไอออกมาเป็นเลือด เดนน่าตกใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอมั่นใจว่าข้อศอกของเธอไม่ได้แรงถึงขนาดจะทำให้ซี่โคงแตกหรือทิ่มปอดได้ แดเนียลเห็นเพื่อนของเขากำลังไอเป็นเลือดก็รีบลุกจากที่นั่งแล้วเข้าไปดูอาการ
"เวลส์! เจ้าเป็นอะไร?!"
ส่วนเซเลียที่จัดการกับเนื้อมังกรของเธอหมดแล้วก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับเบิกตากว้ากับสิ่งที่เห็น
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น?! ทำไมเขาไอเป็นเลือด"
"ฉ..ฉันก็ไม่แน่ใจ แค่เอาข้อศอกกระทุ้งที่หน้าอกเขา แต่ฉันมั่นใจนะว่าไม่ได้ทำแรงมากถึงขนาดจะไอออกมาเป็นเลือดได้ขนาดนั้น..."
เดนน่ารู้สึกผิดอย่างมากที่ทำให้ปีศาจตนนึงต้องเลือดตกยางออก เธอไม่อยากทำให้ใครเจ็บตัวถึงขนาดนี้เลย
เดนน่าและเซเลียมองร่างชายหนุ่มตรงหน้าที่กำลังหมดสติไปขณะที่แดเนียลกำลังเอามือจับที่ท้ายทอยของเขาแล้วร่ายคาถา และเหมือนจะได้ผล เขาทำให้เวลส์หยุดไอออกมาเป็นเลือด
"เจ้าไม่ต้องตกใจ หมอนี่ก็แค่มีโรคประจำตัว แวมไพร์เป็นกันทุกตนนั่นแหละ"
"แล้วทำไม..จู่ๆเขาถึงไอออกมาเป็นเลือดแบบนั้นล่ะ"
เดนน่ารู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อยที่เป็นอาการโรคประจำตัวของแวมไพร์ ไม่ใช่เพราะฝีมือของเธอทั้งหมดซะทีเดียว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง
"ก็เพราะถ้าเขาเกิดอาการ กระหาย ขึ้นมา ร่างกายของแวมไพร์ที่ถูกฝึกให้มีความอดทนมาตั้งแต่เด็กๆ จะสำรอกเลือดออกมาทันที ทำให้เขาหมดสติเพื่อป้องกันไม่ให้เขาทำร้ายใครได้"
"งั้นแสดงว่า..ที่เขาเป็นแบบนี้ เพราะเขากระหายเดนน่างั้นเหรอ"
เซเลียที่ยืนฟังอยู่สรุปใจความให้อีกครั้ง ซึ่งแดเนียลก็พยักหน้าเบาๆทำให้เดนน่าถึงกับใจหายวูบ
"แต่เขาไม่มีอาการแบบนี้มาหลายปีแล้ว ครั้งล่าสุดคือตอนที่เขาไม่ยอมกินอะไรเลยทำให้จะไปกินเลือดกวางเข้า แต่ข้าผ่านไปเป็นพอดีเลยช่วยไว้ทัน"
แดเนียลพูดพลางพยุงให้ร่างที่สลบอยู่มานอนฟุบลงไปกับโต๊ะ ก่อนจะเริ่มตั้งข้อสงสัย
"แต่ทำไมจู่ๆถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้นะ"
เขาเกาคางเบาๆ เปลี่ยนจากที่ทำหน้าตาขี้เล่นตลอดเวลา เป็นสีหน้าเริ่มเครียดเข้าไปทุกที เดนน่าและเซเลียที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็กำลังฟังเขาอย่างจริงจังเช่นกัน
เดนน่ารู้ตัวดีว่าเธอไม่ใช่ปีศาจธรรมดา เธอคือเผ่าเฮเลน ที่มีเลือดอ่ร่อยากี่ทุี่สุดในโลกปี็ศาจไม่แน่อาจเพราะแบบนั้นก็ได้
"คือ ฉันเป็นปีศาจเผ่าเฮเลน ไม่แน่ว่าเพราะแบบนี้หรือเปล่าที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้"
"ว่าไงนะ!/ว่าไงนะ!"
สองคนที่กำลังนั่งคิดอยู่ตกใจขึ้นมาหลังจากที่เธอพูดไปแบบนั้น ซึ่งเธอก็ไม่แปลกใจเพราะมีประกาศว่าปีศาจเผ่านี้ได้สูญหายไปจากโลกปีศาจทุกตนแล้ว ซึ่งพวกเขาก็น่าจะคิดแบบนั้นเช่นกัน
"ในโลกนี้ยังเหลือเฮเลนอยู่อีกเหรอ ไม่อยากเชื่อเลยนะ"
แดเนียลพูดพลางรู้สึกสนใจในการมีอยู่ของเธอ ซึ่งเซเลียก็เริ่มพูดขึ้นบ้าง
"มิน่าล่ะ ทำไมตอนที่ฉันเห็นเธอครั้งแรก ถึงได้กลิ่นเนื้อมังกรลอยมาฉุยเชียว..."
เดนน่ารู้สึกขนลุกเกรียว กับท่าทางของพวกเขาที่เริ่มแสดงออกมาว่าเธอเหมือนอาหารอันโอชะ
"ฮ่าๆๆ พวกเราไม่ทำอะไรเจ้าหรอกไว้ใจได้ เพราะปีศาจที่นี่ส่วนใหญ่น่ะ ได้รับการฝึกเรื่องความอดทนมาอย่างดี มีแค่บางส่วนเท่านั้นแหละที่จะทำอะไรป่าเถื่อนแบบนั้นได้น่ะ"
แดเนียลพูดอย่างผ่อนคลายที่เวลส์จู่ๆก็มีอาการขึ้นมาไม่ได้มีอะไรซับซ้อนไปกว่าเพราะเลือดของเฮเลนยั่วประสาทเขานั่นเอง
"อย่างไอ้ยักษ์อ้วนเมื่อกี้ก็เหมือนจะไร้การฝึกฝนเรื่องความอดทน ก็เลยเห็นเธอน่ากินล่ะมั้ง เลยจับไป แต่ไม่เป็นไร ฉันจะปกป้องเธอเอง"
เซเลียพูดด้วยสายตาและน้ำเสียงที่เย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็งขั้วโลกแต่แฝงด้วยความห่วงใย ซึ่งนั่นก็ทำให้เดนน่ารู้สึกปลอดภัยแต่ก็หวาดกลัวในเวลาเดียวกัน
"ข..ขอบใจนะ"
"งั้นก่อนอื่น ข้าต้องพาหมอนี่ไปนอนที่หอพักก่อนแล้วล่ะ พวกเธอไปเรียนกันก่อนเลย ฝากบอกอาจารย์ด้วยนะว่าข้าพาเวลส์ไปพักผ่อน" เขาพูดพลางเอาแขนข้างซ้ายของเพื่อนพาดบ่าไว้
"ได้ๆ งั้นเราไปกันเถอะเซเลีย"
"อื้ม"
เราบอกลากันตรงนั้นก่อนที่จะเดินขึ้นไปบนชั้นเรียน เดนน่ากับเซเลียเรียนคนละห้องกันทำให้ต้องแยกไปอีกทาง ซึ่งเธอก็เดินขึ้นไปชั้นเรียนที่ิเงียบสงัดเพียงลำพัง ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าเรียนสายอีกแล้วสินะ โธ่เอ้ย หมดกัน ตำแหน่งนักเรียนดีเด่นที่เธอใฝ่ฝันอยากจะเป็น ต้องมาล่มตั้งแต่ตอนนี้แล้วงั้นหรือเนี่ย
------------------------------------------------------------------------------------------------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ