สงครามรักพิชิตหัวใจ

ก่อนกลับคฤหาสน์อารดาพาอ๋องมู่เฉินเข้าร้านตัดผม     เพื่อให้เขาเปลี่ยนทรงผมใหม่เนื่องจากเดิม          อ๋องมู่เฉินผมยาวปกไหล่แบบหนุ่มจีนโบราณ แต่เนื่องจากเธอต้องพาเขาไปร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ด้วยกัน        เธอจึงอยากให้เขาตัดผมทรงใหม่ให้ดูเข้ากับยุคสมัย และแล้วก็ได้ผมทรงใหม่เป็น  รองทรงต่ำดูเท่เข้ากับยุคสมัย         ซึ่งอ๋องมู่เฉินดูจะชื่นชอบอยู่ไม่น้อยเพราะได้รับคำชมจากอารดา  เมื่อกลับมาที่ คฤหาสอารดาก็สั่งให้แม่บ้านขึ้นไปทำความสะอาดและจัดห้องนอนสำหรับอ๋องมู่เฉิน  เป็นห้องที่ติดกับห้องนอนของเธอที่อยู่ชั้นบน        และแล้วดีไซเนอร์ประจำตัวของอารดา    ก็นำชุดราตรีสำหรับใส่ไปงานเลี้ยงคืนนี้มาส่งให้   พร้อมทั้งนำช่างและผู้ช่วยอีกสองคนมาช่วยแต่งหน้าทำผมและแต่งตัวให้กับเธอและเขา  

"พ่อกับแม่ขอฝากยัยหนูดาด้วยนะลูกสำหรับงานเลี้ยงคืนนี้  พ่อกับแม่ต้องไปแล้วนะจ๊ะ"   บิดามารดาของอารดากล่าวฝากฝังและล่ำลาลูกสาวก่อนจะเดินทางไปอิตาลีด้วยเครื่องบินส่วนตัวในตอนหัวค่ำ ในขณะที่ช่างต่างแยกกันทำหน้าที่แต่งหน้าแต่งตัวให้กับอ๋องมู่เฉินและอารดาอยู่นานเป็นชั่วโมงอ๋องมู่เฉินเป็นฝ่ายแต่งตัวเสร็จก่อนเนื่องจาก    การแต่งตัวของผู้ชายไม่ยุ่งยากอะไรนักเขาอยู่ในเสื้อเชี้ตสีขาว         ผูกหูกระต่ายสีแดงคลุมทับด้วยสูทสีดำเข้ากับกางเกงสีดำรองเท้าหนังนั่งรออยู่ที่โซฟารับแขกข้างล่าง   โดยต้องรออีกเป็นนานกว่าที่ฝ่ายหญิงจะแต่งตัวเสร็จ

และทันทีที่อารดาปรากฏตัวออกมา        อ๋องมู่เฉินรู้สึกราวกับเวลาหยุดหมุน  เธอปรากฏตัวด้วยเดรสสีแดง เป็นชุดสายรัดไหล่คอกว้างโชว์ลำคอขาวเนียน และร่องอกอวบเนียนโผล่แพลมออกมาเล็กน้อยชุดรัดรูปเน้นส่วนสัดสุดเซ็กซี่ที่ความยาวของชุดสั้นต่ำกว่าสะโพกเล็กน้อยโชว์เรียวขาขาวสูงยาวแบบหุ่นนางแบบ   โทนแต่งหน้าเข้มลิปติกสีแดงทำให้ดูโฉบเฉี่ยวร้อนแรงเย้ายวนจนอ๋องหนุ่ม        ตะลึงงันไม่อาจละสายตาจากหญิงสาวตรงหน้าได้และสายตาแห่งความปรารถนาที่อ๋องหนุ่มมองมา     ก็ทำให้อารดาราวกับจะหลอมละลายเสียให้ได้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ในห้องอาบน้ำระหว่างเขาและเธอ   อารดาก็พบว่าเธอจดจำกับสัมผัสของอ๋องหนุ่ม  ที่เกือบจะพาเธอเตลิดจนกู่ไม่กลับติดอยู่ในหัวจนสลัดไม่หลุด    เมื่อคิดถึงก็พาให้เธอร้อนรุ่มขึ้นมาในร่างกายเสียดื้อๆ  และยิ่งได้สบตาที่ฉายแวว  แห่งความปรารถนาของเขาทุกครั้งเธอก็ต้องหวั่นไหวและเกิดอาการร้อนวูบวาบขึ้นทุกที  จนหลายครั้งเธอต้องเป็นฝ่ายเลี่ยงที่จะไม่สบสายตาของอีกฝ่ายโดยเฉพาะวันนี้ เมื่อเขาตัดผมและแต่งตัวตามยุคปัจจุบันมันก็ส่งให้เขาดูหล่อเท่สง่างาม     นับวันเขายิ่งจะมีอิทธิพลต่อจิตใจของเธอขึ้นทุกที  ทั้งสองนั่งมาในรถลีมูซีนหรูสีดำโดยมี      คนขับรถประจำคฤหาสน์เป็นคนขับรถให้เธอหญิงสาวลงจากรถควงแขนอ๋องหนุ่มเดินเข้างาน    เรียกแสงแฟลซจากกล้องของนักข่าวได้เป็นอย่างดีเนื่องจากอารดาคือคุณหนูไฮโซลูกสาวมหาเศรษฐีตระกูลอัครมงคลไพศาล

ซึ่งเป็นนักธุรกิจชื่อดังและชายหนุ่มที่่ควงคู่มากับเธอ  ก็เป็นหนุ่มหล่อสุดเท่จึงทำให้เป็นจุดสนใจมากยิ่งขึ้น

"สวัสดีค่ะคุณอาวัลลพ วันนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่ว่างติดธุระ จึงส่งหนูมาร่วมงานนี้แทนน่ะค่ะ สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณอา"    อารดายกมือไหว้กล่าวทักทายและยื่นกล่องของขวัญให้กับเจ้าภาพที่เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจของครอบครัวเธออ๋อง มู่เฉินก็ยกมือไหว้อีกฝ่ายตามอารดา    เนื่องจากเขาพึ่งจะได้รับคำแนะนำจากเธอว่าเป็นการแสดงความเคารพตามธรรมเนียมของบ้านเธอ บรรยากาศภายในงานเลี้ยงจัดแบบสไตล์ยุโรป  ซึ่งแปลกไปจากที่โลกของเขาอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน

"สวัสดีจ๊ะ หนูอารดาไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ยังสวยเหมือนเดิมเลยดูสิหนุ่มๆในงานเหลียวมองตาเป็นมันกันเลย"   เมื่อเอ่ยปากทักทายตามมารยาทแล้วก็แยกตัวไปอีกทาง              ในขณะนั้นก็มีเสียงผู้หญิงทักดังมาจากด้านหลัง

"อ้าวไงจ๊ะยัยดา หนุ่มหล่อข้างเธอคนนี้ใครกันเนี่ย?"  "ยัยเกต คนนี้คือคุณมู่เฉิน เป็นเพื่อนชาวจีนของฉันเอง เขาพูดได้แต่ภาษาจีนนะ เธอเป็นลูกครึ่งจีนก็ใช้ภาษาจีนพูดกับเขาก็แล้วกัน"

"ขอยืมตัวหน่อยไ้ด้ไหมจ๊ะ?"  "เชิญตามสบายเลย ฉันขอไปทักทายคนรู้จักตรงนั้นหน่อยคุยกันตามสบายแล้วกันนะ"     แล้วเพื่อนสาวของอารดาก็เกาะแขนอ๋องมู่เฉินอย่างถึงเนื้อถึงตัว จนอ๋องหนุ่มแปลกใจเธอดึงตัวพาเขาแยกไปคุยทางอื่น แล้วเพื่อนสาวก็หันหลังมาขยิบตากันกับอารดาอย่างรู้กันแบบมีนัยยะบางอย่าง  ซึ่งความจริงแล้วคือ  ก่อนหน้าที่จะมางานนี้อารดาได้โทรขอให้เพื่อนสาวของเธอที่สนิทกันให้ช่วย   ร่วมมือกันทดสอบหนุ่มเจ้าชู้อย่างอ๋องมู่เฉินเพื่อลองใจว่าเขาจะจริงใจกับเธอแค่ไหนและจะหวั่นไหวไปกับผู้หญิงอื่นที่มายั่วยวนเขาหรือไม่