The Last Night
9.2
เขียนโดย pyclub70
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.31 น.
40 ตอน
16 วิจารณ์
37.29K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559 20.39 น. โดย เจ้าของนิยาย
39) 035-คืนที่5
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ035-คืนที่5
"เฮ่ คุณวูดตัน"
เด็กชายลึกลับคนหนึ่งทักขณะวิ่งมา"คืนแห่งความมืดมาเยือนแล้วนะ ห่ะๆ"
"ค่ะ ค่ะ คาลาเนส!!?"
ชายเจ้าของชื่อวูดตันตะลึงทันทีในท่าทาบเข่าเข้าผนังหิน"นายเป็น เป็นๆๆ ผี ออกไปนะ ไปสิ ฉันกลัว ฉ่ะๆๆ ฉันกลัว ไปสิ"
"ฮ่าๆๆ ผีที่ไหนกันจะมาช่วยคุณน่ะ"คาลาเนสหยอกแหย่เอวฝ่ายตรงข้าม"ตอนนี้เราตกอยู่ในวงอาคมของผมเอง ที่ทำได้ตอนนี้มีเพียงรอให้ฟ้าสาง"
วูดตันยินเสียง เห็นใบหน้านั้น ก็คลายความกลัวลงได้มาหน่อย
คาลาเนสสินะ ใช่แล้ว แล้วๆ..ทำไมถึงอยู่ที่นี่ได้ล่ะ นายตายไปแล้วไม่ใช่รึไง เสียงในใจของผู้ช่ำชองป่าแว่วในใจ
"เอาน่ะๆ คือผมน่ะ ยังไม่ตายหรอก"คาลาเนสตอบราวอ่านความในใจได้ สายตาเหล่มองพื้นน้ำแข็งกำลังคืบคลาน"คุณเองก็เช่นกัน โชคดีจัง"
"ม่ะ หมายความว่าไง"วูดตันเกาหัวฉงน"ฉันไม่ได้อยู่สถานะเดียวกับนายนะ"
"แล้วคุณอยู่มาแล้วกี่พันปีล่ะ"คาลาเนสหันมาจ้องหน้าแลเห็นท่าทีอ้ำอึ้ง"นั่นสินะ คุณคงจำไม่ได้หรอกกับการมีตัวตนอยู่จริงของเนฟร่าบุตรแห่งเอวา"
"เนฟร่าหรือนายหมายถึง!!!"วูดตันสะบัดหน้าก่อนสบตาตะลึง"เนเน๊ะน่ะหรือ!!!!!???"
"แล้วคิดว่าผมหมายถึงใครล่ะ"คาลาเนสเดินเลี่ยงไปทางขอบอาคมด้านขวา แอบยิ้มเล็กน้อย"นั่นไง สุดท้ายคุณก็เผยไต๋ ก็นะ..ถึงเราจะถูกฆ่าตายไปมากเพียงใด ก็ไม่ตายจริงๆหรอกนะเพราะพระประสงค์ของพระบิดา เว้นแต่ผู้ใช้ศาสตร์แห่งมนตราสายอัญเชิญ ว่าแต่ว่า..ก่อนหน้านี้ เสียงในใจของคุณเอ่ยถึงพระแม่เอวาหรือ"
"ไม่ตายงั้นรึ"วูดตันหลุบตาตระหนัก ขมวดคิ้ว"พระแม่เอวางั้นรึ นั่นสิ อะไรที่ทำให้ฉันเป็นแบบนั้นนะ"
"หึๆ ก็คุณน่ะ ไม่ใช่ผู้รู้คำทำนายสายพระบิดาน่ะสิ มวลมนุษยชาติต่างก็ภาวนาต่อพระแม่เอวาล่ะนะ เวลามีเรื่องทุกข์ใจ"คาลาเนสผายมือใกล้เขตอาคมก่อนหันมาเสียงแข็ง"คุณวูดตัน!!! จงใจจะทำอะไรกันแน่!!??"
พลันนั้น!! แสงไพลินซ้อนสายฟ้าแปล่บเกิดขึ้นยังมือขวาของคาลาเนส ตั้งท่าหวังจะตบวูดตันที่สะดุ้งก่อนล้มลง"น่ะ นายจะฆ่าฉันรึไง!!?"
"ฆ่าแน่ หากคุณคิดฆ่าเนเน๊ะ!!"คาลาเนสแววตาแข็งกร้าว ขวางมือเอาจริง"เอวา คือสิ่งชั่วร้าย!!!!!"
"โธ่ๆๆ อย่างฉัน อย่างฉันน่ะนะ ม่ะ ไม่เคยคิดท่ะทำ.."ระหว่างนี้วูดตันส่อพิรุธด้วยริ้วมือแอบเรียกพงไพรให้ช่วย"ทำร้ายใครหรอก... อ่ะ อ่ะ"บรรดารากไม้แหลกชูฟ่อ พร้อมทะลวงใส้คาลาเนส
คาลาเนสตอบกลับ ง้างมือสูงขึ้นอีกนิด หมายทะลวงไส้วูดตันด้วยหอกสายฟ้าแห่งแสงไพลินก่อนรากไม้พุ่งผ่านร่าง แต่..และ..เพียง..เฉียดฉิว..วืด.."อั่ก!!"
เฉียดไปแค่ฉิว"นายจำไว้นะ!!! ฉันคือผู้พิทักษ์เนเน๊ะ!!"ผ้าคลุมสยายสะพรึง ใบหน้าราวปีศาจของคาลาเนสข่มจิตวูดตันด้วยแรงกดดันมหาศาล
"อ๊าาาา!!!"
วูดตันดิ้นรนทรมาน หวาดระแวงโดยไว เมื่อแสงไพลินแตกระเบิดก้องเสียงสะท้าน แสดงถึงพลังแห่งนรกคาเลล์เดไลอาล่าเมลไฮจ์ในห้วงดวงตาก่อนดับสิ้น
ทว่า..
เมื่อวูดตันรู้ตัวว่ายังไม่ตาย แต่ก็กลับถูกคืนแห่งความมืดเล่นงาน พลันจับนั่นจับนี่สำรวจร่างกายก่อนหมดสติไปเสียดื้อๆ
...หลังเด็กชายลึกลับลาจาก
"ไอ้บ้าเอ้ย!! เสียสติไปแล้วรึไง ตื่นสิตื่น"เพียล่าตบหน้าวูดตันรัวๆ"เฮ่ยๆ ฉันมาช่วยแล้ว เป็นบ้าอะไรเนี่ย"
เพียล่าและโอ'เกนท์สบตากัน ท่าทีฉงนกับอาการของวูดตันราวกับคนบ้าหวาดระแวง ไม่มีท่าทีจะสงบลงได้ง่าย"ไปๆ ไปๆ ฉันกลัวแกแล้ว ออกไปๆ ออกไปๆ ออกไปนะไอ้บ้า ห่ะๆๆ "
"เฮ่ ไอ้เบื้อก นายเป็นไรวะเนี่ย"โอ'เกนท์ก้มหน้าถาม เอื้อมทาบคางวูดตันส่ายไปมา"ฉันรู้นะว่ามันยากที่จะยอมรับกับคืนแห่งความมืด ฉันรู้ นายเจออะไรบ้างในนั้นน่ะ แต่นายต้องสติ โอเคร๊ นายมองฉัน มองฉัน วูดตัน"
วูดตันปรือตาปริบๆ อาการเบาบางและสงบลง แต่ร่างสั่นพรือ
"อย่างนั้นแหละ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัว ฉันมาช่วยนายแล้ว"โอ'เกนท์ว่าแล้วก็พยุงร่างนั้นขึ้น สายตามองเพียล่าถามเชิง
เพียล่าไม่สบตา กลับง้างคันศรเล็งหว่าน"นั่นใคร"เธอถามไถ่กับความมืดที่ตอบมาโดยความเย็นเยียบ
"......!?!"
"ไปกันเถอะเพียล่า"โอ'เกนท์บอกหลังวางร่างวูดตันบนหลังมอนโซและขึ้นขี่"คืนนี้คืนแห่งความมืดนะ เธอคิดว่าจะมีอะไรไปนอกเหนือจากความตายล่ะ"
"...อย่าประมาท"
เพียล่าย่องเท้าช้าๆ ง้างคันศรชี้ส่ายก่อนขึ้นซ้อนและประคองร่างวูดตันไปพลางเหลียวหลัฝ
เสร็จสรรพมอนโซก็ทะยานหายลิบ...
ทันใด เสียงหนึ่งก็แว่วไล่หลัง"หึหึ คุณเพียล่าก็ด้วยสินะ" มันคือเสียงบ่นจากเด็กชายลึกลับ"คงไม่คิดว่า.. เผ่าพันธุ์เราจะทำสงครามกันหรอกนะ หึหึ พาริเอล่า"
________________
คืนที่5ผ่านไปอย่างไร้ร่องรอยและไร้คราบโลหิต ไม่มีผู้คนสูญเสียหรือสาปสูญ ไม่มีใครได้รับรับผลกระทบใดๆ หากจะกล่าวแล้ว..มันเกิดเพียงแค่ลางมรณะเท่านั้น ซึ่งผิดวิสัยเอามากๆ เหตุใด ทำไม หรือใครบังการ หรืออาจเป็นแค่1ในล้านของความน่าจะเป็นหรือแค่บังเอิญ!?! คำถามและทฤษฎีมากมายต่างถูกหยิบยกเป็นประเด็นทั้งทั่วโลก
ณ มหานครครูฟาริลเต ตึกไบออสโคลัมปาลา ดาดฟ้าชั้นที่169
"ไม่หรอก เมื่อคืนน่ะ คงมีใครหลายคนใช้มนตราขั้นสูงยับยั้งอสูรจากความมืด"ฮาร์มพูดขณะรับประทานอาหารเช้าในห้องโถงเปิดอันหรูหรา"นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ใหม่หรอกนะ เพียงแต่.. (ง่ำๆๆๆ)"
"เพียงแต่อะไรหรือครับ.."ผู้รับใช้ชายผมหงอกชะงักถามขณะยืนอยู่ข้างโต๊ะ"อ่ะ เอ่อ..."
"งึ้มมม ง่ำๆๆ.. เพียงแต่.. เหล่าบรรดาผู้ใช้ศาสตร์แห่งมนตราทุกสายทั้งทั่วโลกร่วมระดมเจตจำนงค์ต้านด้วยพลังของพระบิดา รวมทั้งศาสตร์แห่งความมืดของอัลติเมเซียด้วยล่ะนะ ฉันเดาไว้แบบนั้น"ฮาร์มบอกก่อนทิ่มส้อมหมุนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปาก
ซู้ดดดด!!!!
"ห่ะ!!!?? อัลติเมเซีย!!!??!!!หรือคะ"ผู้รับใช้สาวอีกคนใกล้ชายหงอกอุทานแล้วก็หงายหลังกึก
ทว่า.. ราวกับถูกสะกดด้วยความงามเลอเลิศสุดหาแลปฐพีและนภากาศ สายตาหลายคู่แห่จ้องเป็นตาเดียว เมดทุกคนชะงักงันและเหม่อลอย หลังผู้เลอโฉมปรากฏกายสง่า ก้าวขาขาวในชุดราตรีลงจากบันไดอย่างลึกลับ จนกระทั่ง...
"ไม่เอาน่าฮาร์ม"เสียงสะพรึงเย็นจิตพูดทั่วทิศ"ข้าก็แค่ทำในสิ่งที่ควร ว่าแต่เจ้ารู้ได้อย่างไร"
"มาตั้งแต่เมื่อไร"ฮาร์มเหล่ตากวาดทั่ว วางช้อนและจับส่อมไว้มือหนึ่ง"ที่ตกลงกันไว้ไม่ใช่แบบนี้หนิ คุณต้องการอะไร"
เสี้ยววิ!! อัลติเมเซียก็ถึงหลังเก้าอี้พนักพิง"ข้าก็แค่เดียวดายมานาน หากจะพบบุรุษใบหน้าชวนฝันอย่างเจ้า มันจะทำให้ข้าต้องกลายเป็นคนเลวเชียวรึ"
ต่อมา ใบหน้าแนบแก้ม ปากกระซิบข้างหูฮาร์มอย่างเบาะเบา"เจ้ากำลังหวั่นไหว ข้าสัมผัสได้" ฮาร์มอ้าปากค้างขณะมือถือส่อมม้วนเกี่ยวด้วยเส้นสปาเก็ตตี้
กระนั้น!!! เขาต้องหันกลับหลังเร็วไว เมื่อ..เสียงกระแนะกระแหนดังขึ้นจากทิศทางลึกลับ
"โฮะๆๆๆ แหมๆ ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันเชียวนะ"
เจ้าของเสียงนี้ โผล่ท้ายหลังอัลติเมเซีย พลันวาดมือจากไม้เท้าเปล่งแสงสีขาวทั่วร่าง"ในนามพระบิดาจงกำจัดเอวาให้สูญสิ้น"ว่าเสร็จดวงตาแข็งกร้าวดุจราชสีห์
ซึ่งเสียงนี้... อัลเมติเซียระลึกได้ว่าเธอนั้นเป็นคู่อริ ทว่า..ผู้อยู่ในโถงอาหารเริ่มฉงนงงกึกไปตามๆกันว่าทำไมจึงเกิดอะไรขึ้นแบบนี้ หลายๆเสียงตะโกนหาผู้จัดการระเบียบ
"ครูล!! ฉันว่าต้องมีเรื่องไม่ดีแน่ นายปรากฏกายทีเถอะ"
"ครูลอยู่ไหน มาดูแลพวกฉันทีซิ ฉันเป็นถึงระดับราชวงค์เชียวนะ ถ้านายไม่มาฉันจะแจ้งจักรพรรดิให้ประหารนายซะครูล" และอีกหลายเสียงก็โวยวายพลางลุกหนี วาเลนจึงเผยแสงสว่างขึ้นไปอีก
"ห่ะ!! วาเลน!! เจ้าต้องการอะไร เจ้ามาได้ไง"อัลติเมเซียขวางตาตระหนัก พลันวาดคฑาฉายแสงฟ้าอมม่วง หมายโจมตีก่อนเหล่ตา"ฮาร์ม เอาไงดี"
ซึ่งแตกตื่น... ทุกคนวิ่งออกจากห้องโถงอาหารจนหมดเกลี้ยงเมื่อครูลที่พวกเขาเรียกแล้วไม่มา
ขณะเดียวกัน ดั่งเหตุคาดฝัน ฮาร์มหายไปจากจุดเดิมเริ่มแรก อัลเมติเซียคุยกับลมซะงั้น"โธ่ เว้ย!!! ฮาร์ม!!"
"โฮะๆๆ นี่ๆ ไม่มีชายคนไหนจะอยู่เคียงข้างเจ้าหรอกนะ"วาเลนหัวเราะเยาะเย้ยสะใจ"ชิ"
ฉับพลัน!! อัลติเมเซียเปลี่ยนท่า ร่ายคฑาเกิดแสงสีชาดเป็นวงพุ่งใส่วาเลนเป็นคลื่นระเบิดมหึมาเข้าถล่มฝุ่นฟุ้งท่วม"สำเร็จ!?!"
ทว่า..เพียงพริบตา!!!
"หลบสิ!!!"
ใครบางคนลั่นและพุ่งกระโจนโอบกอดร่างวาเลนหลบเข้าข้างฝา
'เป็นนายสินะครูล'ฮาร์มพูดในใจ แอบหยั่งเชิงอยู่บนเพดาน
"ห๋าาาา นี่ๆๆ ทำไมแตะต้องตัวฉันได้"วาเลนตกใจหนัก เงยหน้ามองเด็กชายผู้ช่วยชีวิตขณะถูกคร่อมกาย"แอร๊ยยยย ปล่อยนะไอ้บ้า จะกอดฉันไปอีกนานแค่ไหนเนี่ย ไอ้บ้ายี๊ยยยยยย"
วาเลนอาการสยิวกิ๊ว ทันใด!! อ้อมแขนทะมัดทะแมงค่อยๆคลายก่อนยกแตะไหล่แทนแล้วเลื่อนใบหน้าลงหาเรียวปากอิ่มเอิบชมพู"ว่ะ ว่ะ หวายยยย น่ะๆ นี่ นายจะทำอะไรฉัน ไม่นะ แอร๊ยยยย"วาเลนสะบัดหนี ดันด้วยสองมือปรามอกอุ่นและใบหน้านวลของหนุ่มละอ่อน
"คิดไปเองทั้งนั้น ใครจะกล้าพิชิตหัวใจนางฟ้าอย่างคุณล่ะ"ครูลก้มหน้าปากลงแทรกหู กระซิบก่อนถอยออกและยืนขึ้น
'ว้าววว พระเอก'วาเลนเพ้อชั่วครู่ก่อนสะบัดหน้า'น่ะๆ นี่ เราตกหลุมรักมนุษย์รึไงกัน ไม่ๆๆๆ พระประสงค์ของพระบิดาจะลืมเลือนมิได้ ไม่ว่ามนุษย์คนใดเราต้องฆ่าให้หมดเพื่อสกัดปรารถนาของอัลติเมเซีย'วาเลนหนักแน่น ลุกเร็วและเข้าเล่นงานด้านหลังเด็กชายผู้ช่วยชีวิตตน
"ย๊าาาาาาา!!!!!!"
ตรึ้มมมมมม!!!!
ร่างวาเลนกระเด็นติดผนังไร้สติ ด้วยหลังเท้าครูลเตะเต็มเหนี่ยว
อัลติเมเซียเห็นดังนั้น นางเลือกถอยกรูดเรียกหาฮาร์ม ครูลแสยะยิ้มเดินเข้าหานางด้วยร่างแฝงประกายแสง ใบหน้าดุจดั่งมัจจุราชแห่งบาสไซยายาสซั่นเนรี่มหานรกขุนเจ็ด
"ทำไมถึงมีพลังมากมายเช่นนี้"อัลติเมเซียถามพลันผายอาวุธ แผ่นหลังจนตรอก"เจ้าเป็นใคร!!?!"
ครูลไม่ตอบ หากยิ้มโฉดพลันพุ่งเข้าหา ทว่า..อัลติเมเซียเลือกโจมตีด้วยศาสตร์แห่งมนตราสายอุบัติ
มวลวิญญาณปรากฏไว เข้าสกัด รุมล้อมครูลไว้ พวกมันทั้งกัดทึ้ง แทะ ดูด เล้าโลม ฉีกกระชากกินอย่างโหยกระหาย แต่..!?
"คุณมีพลังแค่นี้เองน่ะหรือ"ครูลชะงัก พูดขณะโดนรุม"น่าเสียใจจัง อ่อนหัดเอ้ย!!!"
จบคำ เหล่าวิญญาณสลายไปดั่งควันถูกเป่า อัลเมติเซียตกตะลึง วับตา!!! ครูลฉวยโอกาสเข้าคว้าคอบางก่อนขว้างสุดแขนกระเด็นไปติดพื้นโถงอีกฟาก จากนั้น..ตามไปขึ้นคร่อมและบีบคอหมายเอาชีวิต
"ค่ะ..ใครกัน!! ใคร!! ท่ะ..ที่..!! สั่งให้เจ้าทำเช่นนี้"อัลติเมเซียหายใจติดๆขัดๆพยายามพูด"ขอร้องล่ะ อั่ก บอกข้าเถิด"
"ใครล่ะ!! ที่เจ้าหลงไหล!! หึหึ เพราะความรักของเจ้าที่มีต่อมนุษย์ไงล่ะสิ พระบิดาสาปแช่งเจ้าไว้อย่างไร!! จำไม่ได้รึ!?! อัลติเมเซีย!! เพื่อคนรักน่ะหรือที่เจ้ายอมทิ้งชีวิตตนเอง ห้ะ!! ข้าถามเจ้าอยู่นะ ตอบมาสิ!! เอวาครอบงำเจ้าแล้วรึไง!!"ครูลเสียงเปลี่ยนเป็นทุ้มใหญ่ ซ่อนร่างใหญ่โตด้วยลักษณะบางอย่างเหนือคำอธิบาย จริงจังด้วยยิ้มมุมปากพลางกระชากคอนางขึ้น
ฝ่ายตรงข้ามหมดแรงไร้ต้าน พยายามตอบ..แต่ไร้เสียงจากลำคอ
นางปล่อยแขนทิ้งลงร่วง ขาลอยพื้น เริ่มหมดสติก่อนภาวนา'ฮาร์ม เจ้าอยู่ไหน ช่วยข้าที'
...และแล้ว ลมหายใจของนางก็หมดลง ร่างแน่นิ่งในอุ้มมือครูล
"หึ หึ หึ ฮ่าๆๆๆๆๆ"ครูลสะใจหลังขยี้ลำคอนางได้ ทว่า..!!?
ผลั๊ยวะ !!!!!
หน้าแข้งฮาร์มเข้ากระทบหน้าครูลอย่างจังจนกระเด็นไกล ร่างอัลติเมเซียรอดพ้นหวุดหวิดจากความตายงั้นหรือ?!?
"และแล้วฉันก็ได้เจอนาย"ครูลลุกยืน ลิ้นยื่นยาวปาดเลือดตัวเองมุมปาก"ฮาร์ม เรามีความแค้นกันอยู่นะ"
ว่าเสร็จ.. ฮาร์มที่ประคองอัลติเมเซียอยู่ก็กระเด็นไปตามๆกันด้วยลูกถีบ
"ทำไมนายอ่อนแอลงจังนะ"ครูลเย้ยแล้วตามไป บวกหมัดบาทากระหน่ำใบหน้าและร่างฮาร์ม ปั่กๆๆๆ!!!
ถึงขึ้นสะบัดสะบอม แม้กระนั้นฮาร์มก็โอบร่างอัลติเมเซียไว้ไม่ให้ถูกทำร้าย
"ดูเหมือนจะรักกันมากเลยนะ"ครูลเอียงคอว่าหลังหยุดเตะ"โอ๊ะ โอ งั้นก็ตายไปพร้อมๆกันซะ!!!!"
ครูลเดือดจัด!!! ยกเท้าประดับแสงประกายขึ้น หมายกระทืบไปอีกปังเพื่อปิดฉาก เสี้ยววิ..!! ฉากโรแมนซ์ก็ดังเอ่ย..
"ฮาร์ม!!!! เจ้าหนีไปซะ"ดวงตาแดงกล่ำผวา ผลักมืออย่างไร้แรง"ตรงนี้ข้าจะรับไว้เอง" จากนั้นจึงหลับตายอมรับชะตากรรม
"บ้าน่ะ!! ผมน่ะ! ผมๆๆ ผมน่ะ! ไม่เคยให้ใครมาตายแทนหรอก"ฮาร์มน้ำตาซึม ซึ่งสายเกินหลังร่างตนเองปลิดปลิวไปไกล ทิ้งร่างอัลติเมเซียไว้ลำพังอย่างจำใจ"ม่ายยยยยยยย!!!"
จากนั้น!!! ครูลกระทืบสุดแรงจนแผ่นดินสะเทือนและเกิดคลื่นระเบิดพายุ
ตรื้มมมมมมมมมมมมมม!!!!!
เมื่อแน่ใจว่าตายแล้ว ครูลถอนเท้าออกช้าๆก่อนเดินห่างมาพลางแสยะยิ้ม
"บ้าเอ้ย!! เจ็บใจชะมัด"ฮาร์มกัดฟันกรอด ดื้อดึงวิ่งไปใช้สองมือโอบร่างสาวอัลติเมเซียอีกครั้ง"เฮ่ คุณ ไม่เป็นไรใช่ไหม"
"ขอบใจ"อัลติเมเซียละล่ำละลักตอบ เลือดท่วมปาก"อั่ก ว่าแต่เจ้าล่ะ คงบาดเจ็บมากเลยสิ"
"ไม่เท่าไร"ฮาร์มกล่าวร้อนรน"ผมจะแก้แค้นไอ้หมอนั่นให้ได้เลย ผมสัญญา!!! ย๊าาาาาาาาา!!!!"
"หืมมมม เหมือนจะได้ยินเสียงแมงหวี่"ครูลหันหลังกลับเห็นภาพอริยังไม่ตาย"หึหึ ช่างน่าประทับใจ ตายยากกันจังนะ"
ฉับพลัน!! ครูลวิ่งไปพร้อมประดับศาสตร์มนตราแห่งสายอัญเชิญยังเท้าทั้งสอง อันสื่อว่าเปิดประตูนรก"บาเซซ!! วอลโรลดาวน์!!"
ฮาร์มมองอย่างวิตก สองมือโอบแน่นยังร่างอัลติเมเซีย
"ไม่น๊าาาา!!!!"อัลติเมเซียดวงตาเบิกโพลง ประหวั่นใจตาย
ทว่า..ห่างเพียบคืบ!!
"หยุดนะ!!!"เสียงวาเลนนั่นเอง"ฉันบอกให้หยุดไง"
ครูลชะงักกึกราวกับแผ่นสะดุด เหล่ตามองเสียงนั้นและเหงื่อตกทันที เมื่อไซฟ่อนแห่งครุสเซอร์ หอกแห่งโอลิมปัส ดาบแห่งคาตาริไรนิโอจิ คฑาแห่งกาลูรัส ธนูแห่งเอสฟีร่า มีดแอสแห่งบาจิ วงแหวนแห่งพีเอลไลน์ ง้าวมังกรแห่งเสิ่นจางและแท่นปริศนาโอไออาอันมีความหมายดูดวิญญาณ
ซึ่งทั้งหมด จ่อล้อมทุกด้านจากเหล่าเทพและเทพีแห่งมหานครครูฟาริลเตอันมีพระแม่เอวาเป็นสิ้นสุดขอบจักรวาลดั่งดลให้เกิดอัญเชิญมา
ซึ่งนั่น....เป็นการเข้าใจว่า วาเลนนั้นยอมทรยศพรรคพวกตนสำหรับครูลที่ภักดีต่อพระบิดา
"วาเลนอย่าสอด!!หากไม่จำเป็น!!"ครูลไม่กลัวตายเอียงคอว่า ยกเท้าห่างใบหน้านั้นเพียงแค่คืบแล้วร่างมา"ใครกันที่สั่งให้เจ้าทำเช่นนี้!?!"
"ข่ะ ข่ะ ข้า..."วาเลนอ้ำอึ้งอยู่นาน จนที่สุด"ข้ารักฮาร์ม ข้ารักฮาร์ม แค่นั้นแหละ"
ไม่เพียงครูลที่เอะใจ แต่ฮาร์มก็ตะลึงเช่นกัน อัลติเมเซียได้ยินดังนั้นก็รัดกอดร่างฮาร์ลไว้แน่น"ผม..ผมน่ะ ผม ผมหวังดีต่อคุณนะอัลติเมเซีย.."ฮาร์มตะกุกตะกัก"ผมจะไม่มีวันทิ้งคุณเด็ดขาด!!"แต่สายตาเหล่วาเลนทีอัลติเมเซียที น้ำตาลอบซึมเมื่อเห็นทั้งสองร้องโฮใสอาบไหลลงพวงแก้มชมพู
"ฮาร์มมมมม ข้าขอโทษ"วาเลนกล่าวพลางหันมาจ่อไม้เท้าใส่"จงตายซะอัลติเมเซีย มารยาร้อยเล่มเกวียนช่วยเจ้าไม่ได้หรอก ในนามของข้าพเจ้า บุตรแห่งพระบิดาลำดับที่14 ขอพระองค์ทรงมอบความตายให้แก่อัลติเมเซียผู้ทรยศด้วยอัสนีแห่งจูเลอัสเซล่า มา จง มา!! บุตรแห่งสตาร์ไลท์ทั้ง198ลำดับร่วมเป็นสักขีพยานในการมอบชีวิตนี้เถิด"
'เจ้าพลาดแล้ววาเลน'ครูลหรี่ตามอง'เจ้านั่นแหละที่ทรยศ หึหึ'
"เจ้าหักหลังข้า!!!"เสียงลุ่มลึกลึกลับประกาศก้องฟ้า
เปรี้ยงงงงงง!!!!!
ตรื้มมมมมม!!!!!!
เสียงฟ้าผ่าสนั่นอึกทึกจากนอกโลกเป็นบารมีหลากสีแหวกเมฆพุ่งลงมา เทพเทพีถืออาวุธทั้งหลายพลันสลาย ซึ่งก่อนแสงทุกสีเข้าฟาดฟันอัลติเมเซียและฮาร์ม ทว่า..!!!!?!?!!!!
"ในนามของข้า บุตรแห่งพระบิดาลำดับหนึ่งผู้ครองจักรวาลและนรกทั้งปวงอันสยายพริ้วสะบัดบารมีเหนือเอวาผู้ชั่วช้า ขอพระบิดาจงสะท้อนพลังนี้สู่ผู้ทรยศด้วยเถิด!!!"เสียงสาวปริศนาด่วนดัง ท่ามกลางแสงอัศจรรย์
"ความปรารถนานั้นจักสำแดง!!!!"
และเสียงชายวัยกลางคนทุ้มใหญ่ปริศนาก็สนองความนั้น
ฟรี้ดดดดดดดดดดด!!!!!!
บรื้มมมมมมมมมมม!!!!!!
หลังแสงสะท้านต้านกันฉายเงาลงพื้น"ห่ะ เนฟร่า!!!!!"อุทานดังโดยอัลติเมเซีย ฮาร์ม ครูล วาเลน
"ครูล!!!"เนฟร่าถมึงตา มือขวาแกว่งดาบมหึมาขณะมือซ้ายต้านพลัง พูดเสียงเรียบ"ใช้ช่องโหว่นี้หนีไปซะ!!"
"โว้วๆๆๆ นี่กะจะไม่ฆ่ากันโดยไม่มีชิ้นดีเลยงั้นสินะ หึๆ"ครูลยิ้มพลางถอย"ก็ได้ๆ เนฟร่าถ้าเจ้ามาข้าจะถอย ครั้งนี้ข้าจะยอม แต่พระบิดาคงไม่ปปราณีแกแน่วาเลน อัลติเมเซียและก็นาย..ฮาร์ม พวกเจ้าจะถูกจองจำในกฏการฝ่าฝืนแห่งความรักอันโง่เขลา เจ้ามองสิใครที่กอดคนรักของเจ้าอยู่"
"อัลติเมเซีย!!"เนฟร่าเหลือกตามอง"เจ้า!! ต้องรับโทษ!!!!!"
ครูลเหล่ตา เชิงเยาะเย้ยอย่างสะใจก่อนเปิดวาร์ปหายไป ทว่า.. หันกลับมาทิ้งท้ายว่า"เนฟร่าเจ้าคือบุตรแห่งพระบิดาก็จริงแต่สักวันข้าจะล้มเจ้าให้ได้!!"
เนฟร่าฟังแล้ว ก็หวดคลื่นดาบใส่ทันที
"บรื้มมมมมมมมมมมมมม"
ซึ่งนั่นเอง..ช่วงเวลาเดียวกัน เนเน๊ะราวกับถูกถอดร่างอวตาร พลันระลึกได้ทั้งหมดว่ามีต้นตอเป็นมาอย่างไรและบ่นออกมาว่า"เอวาน่ะหรือ!! ข้าจะเหยียบเจ้าให้จมปฐพีเลยเชียว!!! หวังว่าคงได้เจอกัน สักวัน หึ หึ ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ"สาวน้อยดวงตาเบิกโพลงจนน่าประหวั่นก่อนหลุดจากภวังค์
___________
"ห่ะ หาวววววว ฮ๊าาา"เนเน๊ะตื่นนอนเป็นคนแรก"ทำไมเมื่อคืนมันหนาวจังนะ"
"คืนแห่งความมืดน่ะ"เพียล่าตอบพลางลุกขึ้นจากเตียง
เนเน๊ะหันตามอง ใบหน้างงจิตอย่างมาก"ช่ะ ใช่หรอคะ!?! แล้วๆ มีใครก่อไฟไหมคะ?"
"อื้ม!! ใช่สิ"เพียล่าลุกยืนบิดขี้เกียจ"มีสิ วิคเตอร์ไง แต่มันก็แค่ลางมรณะน่ะ"
สาวน้อยระลึกได้ว่า ในฝันมีใครบางคนบอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอจึงเบี่ยงประเด็น"แล้วคุณวูดตันล่ะคะ อยู่ไหน?"
"อ๋อ หมอนั่นน่ะหรอ"สาวนักรบว่าพลางสวมเกราะ"ยังไม่ตายหรอก พักอยู่อีกห้องน่ะ"
เวลาล่วงสาย กลุ่มกิเรเร่ถูกเชิญมายังห้องอาหารของ อาหารถูกเสิร์ฟทันทีเมื่อทั้งหมดมาครบโแยเอธิเบล ซึ่งรวมถึงใครคนหนึ่งในบ้านเอธิเบลด้วย ระหว่างนั้นเอง ชาร์ลจึงเปิดประเด็นท่ามกลางเสียงซุบซิบ
"อ่ะนี่.."หนุ่มมาดผู้ดีชะงัก
"อ๋อ..นี่น่ะ ปู่ข้าเอง ชื่อ.."เอธิเบลถูกไม้เท้าเหนี่ยวปาก"อื๋ออออออออ อ๋าๆอือๆ"
"ข้าชื่อ ... โงกุน ย่าาา เป็นผู้นำจิตวิญญาณแห่งเมืองนี้"เขาว่าใบหน้าขึงขัง
"เมือง!?!"โอ'เกนท์หลุดอุทาน
"ใช่ นี่น่ะเมือง"เขาเบ้ปาก"ซึ่งไม่เคยตกเป็นทาสคืนแห่งความมืดเลย"
"เอ๊ะยังไง"วิคเตอร์พูดหลังกระเดือกอาหารลงคอ หันมองชาร์ล "แบบนี้มันมีด้วยรึไง?"
"หึๆ หึๆ ฮ่าๆๆๆ พวกเจ้ารู้อะไรไหม ว่าเมื่อคืนเกิดราตรีวิปลาส"เขาก้มหน้าตักอาหารใส่ปาก"แปลกใช่ไหมล่ะ ที่มีเพียงแค่ลางมรณะน่ะ"
"เพราะอะไร"ชาร์ลถาม
"ด้วยซันสโตนทั้งเก้าแห่งไงล่ะ"เขาตอบอย่างสบายอารมณ์
"หืม!?!"เพียล่าส่งเสียง
"ซันสโตนอ่ะนะมันจะอยู่ตรง.. โอ้ยยยย!!!"เอธิเบลแทรกไม่สวยเลยโดนไม้เท้ากระแทกปาก"อู้ๆๆ อี้ๆๆๆ"
"มันคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์น่ะ"ปู่เธอตอบ แต่ไม้เท้ายังปิดปากเอธิเบล"ว่าแต่พวกเจ้าจะออกเดินทางกันตอนไหน"
ขณะนั้นเอง ทั้งชาร์ล เพียล่าและโอราฟก็เอะใจกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พูดถึง แต่ดูจากปฏิกิริยาของเขาแล้ว คงไม่เหมาะแน่หากจะซักรายละเอียดต่อ
"หลังมื้อเช้า"เพียล่าแกล้งตอบ พร้อมกันนั้นทุกคนก็อิ่มหนำเสร็จสรรพ
"งั้นดีเลย จะไปลามิเรสใช่ไหม"เขาว่าพลางล้วงลงกระเป๋าเสื้อกั๊กดูวุ่นวาย"อยู่ไหนๆๆๆ อ่อนี่ เจอแล้ว กระดุมเม็ดบนของดอกเม็ปป้า ขอรบกวนด้วย ข้าขอฝากสิ่งนี้ไปให้จัมโป้บีที่เขตแมรี่ทาวน์ที ที่ร้านขายไอเทมเมจิกไวท์"
'ดอกเม็ปป้า คืออะไรกันนะ'เนเน๊ะคิดในใจ'คาลาเนส'
ชาร์ลยื่นมือรับมา"สิ่งนี้มีความหมายอย่างไรหรือท่านผู้เฒ่า"
"แล้วพวกเจ้าจะได้รู้เกี่ยวกับคืนแห่งความมืดมากกว่านี้ เมื่อไปถึงที่นั่น"เขาว่าแล้วก็เดินจากไปก่อนปล่อยเอธิเบลเป็นอิสระ"เฮ่ออออ ปู่นี่ก็.."
เพียล่าเอียงคอ เชิงถามยังสิ่งที่ชาร์ลรับมา..
"ข้าก็ไม่รู้เหมือน"เอธิเบลหน้าซื่อ"ว่าแต่ว่า ขอให้ข้าร่วมทางไปด้วยคนสิ ข้าอยากเห็นโลกที่มันกว้างใหญ่"
กลุ่มกิเรเร่หันมองสบตากันกับคำนั้น เอธิเบลแววตาเป็นประกายเมื่อเห็นปากเพียล่าขยับปากว่า"ได้สิ"
"เย่ๆๆ ขอบคุณนะ"เอธิเบลกระโดดโลดเต้น"ข้าจะเตรียมมอนโซให้พวกเจ้านะ"ว่าแล้วก็หายลับไปก่อนโผล่มา"เชิญพวกท่านไปรอที่ระเบียงเลย"
"จะดีหรอเพียล่า"วิคเตอร์ถามขณะเดินออกมารอมอนโซ
"ดีสิ เราต้องรู้ให้ได้ถึงเรื่องราวเหล่านี้"ชาร์ลตอบแทนพลางถกแขนเสื้อทั้งสองขึ้น"เรื่องเกี่ยวกับคืนแห่งความมืดของที่นี่ที่มีเพียงลางมรณะปรากฏน่ะ แต่ฉันว่า..หากคืนแห่งความมืดมาเยือนจริง มันต้องมีรายงานมาถึงฉันสิ แต่นี่อะไร ไม่มีเลย น่าแปลกมากๆ ใช่ไหมล่ะ"
'ซันสโตนทั้งเก้ามันอยู่ตรงไหนนะ'ชาร์ลนึกในใจ
ขณะนั้นเอง วิตเตอร์เหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งส่งยิ้มมาจากอีกฟากและยินเสียงในใจ'อยากรู้ใช่ไหม เอาทั้งหมดที่นายมีมาแลกกันสิ หึๆๆ'แล้วหนุ่มนักรบก็ตอบในใจ'อยากได้ก็ตามไปเอาที่ลามิเรสสิ หึๆๆ"
"วูดตัน เมื่อคืนนายเจออะไรบ้าง"เพียล่าถามหลังเห็นเขาซึมๆๆ
"อ่ะ เอ่อ.."วูดตันลังเล"ฉันเจอคาลาเนสมั้งนะ"
"คาลาเนส!!"เนเน๊ะเสียงดัง"เขายังไม่ตายใช่ไหม"
"จะว่างั้นก็ได้นะ ตอนที่ฉันเจอหมอนั่น หมอนั่นช่วยฉันไว้ด้วยการสร้างเขตอาคม"วูดตันร่างสั่นเล็กน้อย"แต่ๆ แต่บางอย่างมัน.."
"เฮ่ พวกเรารีบไปกันเถอะ เอธิเบลมารับแล้ว"โอ'เกนท์ว่าพลางวิ่งไปคร่อมมอนโซและทุกคนก็ตามไป
"เอาล่ะ พร้อมนะ"เอธิเบลถามเมื่อเห็นทุกคนเตรียมพร้อม"ไป!!!!"
มอนโซ5ตัวทะยานขึ้นฟ้าเร็วไว เสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านล่าง"ใครใช้ให้เจ้าออกจากเมืองนี้ เจ้ามันเหมือนพ่อไม่มีผิด กลับมาเดี๋ยวนี้นะเอธิเบล ฉอดๆๆๆๆๆ#@&
,",/?@(!(:?@*!(:)$?!!;;"/!*#"
เป็นปู่เอธิเบลนั่นเอง แสดงอาการกระวนกระวายกระโดดโลดเต้นตะลึงหนัก พลางชี้ๆส่ายๆ
"ดูแลตัวเองด้วยนะปู่"เอธิเบลใบหน้าเยิ้มยิ้ม โบกมือบ๊ายบาย"เดี๋ยวข้ามาจ้าาาาา"ว่าแล้วก็ขะหยิบตาซ้ายเยาะเย้ย
Go!!!!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ