The Last Night
9.2
เขียนโดย pyclub70
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.31 น.
40 ตอน
16 วิจารณ์
36.97K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559 20.39 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) 02-เผชิญ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ02-เผชิญ
นครเกลซาโร่
"เนเน๊ะตกอยู่ในอันตราย!!"เสียงหญิงสาวนางหนึ่งลั่นอย่างวิตกด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
"เราไม่ควรปล่อยให้เธอตกอยู่ในอันตราย"เสียงหญิงสาวอีกหนึ่งเสนอความคิดพลางหันไปทางชายชรา แต่เสียงชายฉกรรจ์กลับเอ่ยค่อนเบาแย้งขึ้นมา"แล้วจะให้อย่างไรได้.."
"ไม่มีทางช่วยเธอได้เลยหรือ?"เสียงสาวหญิงคนแรกกล่าวคำถาม เชิงส่งสายตาวิงวอนขอให้ช่วยเหลือเนเน๊ะต่อหน้าชายชรา แต่ชายชรากลับทำทีไม่สนใจนาง
"เนเน๊ะคือผู้ที่ถูกเลือก..เธอจะไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน"ชายฉกรรจ์กล่าวตัดบทคำของนางคนนั้นที่เอาแต่ยืนจ้องหน้าชายชรา
"ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ดี"เสียงหญิงสาวคนแรกพร่ำเอ่ยอย่างกังวลอันมีน้ำตาคลอเบ้าและกำลังจะไหลออกเต็มทนพร้อมทรุดนั่ง
".................."
ครู่เดียว..เสียงทุกคนต่างเงียบกันหมด เฝ้าดูเนเน๊ะอย่างใจจดใจจ่อผ่านกระจกแผ่นยักษ์ขนาดมหึมาที่สร้างด้วยพลัง บุคคลที่อยู่ในนครเกลซาโร่คงได้แต่ภาวนาให้เนเน๊ะปลอดภัย
ส่วนทางด้านยายแขขาวได้ก่อไฟและคอยเติมเชื้อฟืนตลอดไม่ให้มอด ด้วยความรู้สึกเป็นห่วงเนเน๊ะแกคอยชะเง้อมองไปนอกหน้าต่างซ้ำๆ ซึ่งแกนั้นไม่สามารถช่วยอะไรหลานได้เลย ได้แต่หวังให้เนเน๊ะปลอดภัยกลับมา
ทางด้านหมู่บ้านคี-คูได คาไดสั่งให้ผู้คนทุกหลังคาเรือน ออกมารวมตัวกันที่กลางหมู่บ้านเพื่อก่อกองไฟขนาดใหญ่ คาไดกำชับว่าห้ามมิให้ไฟดับโดยเด็ดขาด ทุกคนต้องมีสมาธิอยู่กับการเผาฟืน ไม่ต้องสนใจกับสิ่งที่มองเห็นหรือมองไม่เห็นและสิ่งที่ได้ยิน
____________
เงาปีศาจไม่รอช้ามันง้างแขนที่ถือขวานขึ้นและบรรจงสับลงไปที่ร่างเนเน๊ะ........!!! แต่!!! ขนนกสีขาวพลันเปล่งแสงแห่งพลังออกมาสว่างไสวเรืองรองไปทั่วบริเวณ ทันใดนั้นเงาปีศาจหายวับไป เนเน๊ะรอดตายอย่างเส้นยาแดงผ่าแปด เธอรู้สึกอึ้งกับเหตุการณ์ จากนั้นจึงสั่งให้น้ำตาหยุดไหล แต่ยังไม่จบแค่นี้..เมื่อเนเน๊ะตั้งสติได้ขณะกำขนนกสีขาวไว้ในมือแน่น เธอนึกถึงคำพูดของรูปปั้นและอธิฐานต่อขนนกสีขาวขอให้ทางกลับบ้านปรากฏ... ไม่นานนัก ทางกลับบ้านก็ปรากฏขึ้นเป็นแสงสีขาวเจิดจ้าประกายคล้ายดั่งแสงตะวันทอส่อง ไม่รอช้าหากเธอจะรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็วตามเส้นทาง แต่ขณะที่วิ่งอยู่นั้นมีบางอย่างกำลังตามหลังมา เธอมั่นใจ เธอสัมผัสได้จากเสียงอึกทึกของพื้นดินดัง.. กะกึกๆๆๆ เนเน๊ะหันกลับไปมอง มันดูเหมือนใครบางคนขี่ม้าตามมาอย่างบ้าระห่ำ ม้าตัวดังกล่าวมีลักษณะน่าเกรงขามสีดำทั้งกายและหุ้มเกราะสีเงินแววบางส่วน บนหลังของมันคืออัศวินถือดาบเล่มใหญ่ นัยน์ตาแดงฉาน ในนาทีนั้น เนเน๊ะยังคงวิ่งกลับบ้านไปอย่างไม่คิดชีวิตแม้จะเห็นภาพอันน่าสะพรึงก็ตามที อัศวินควบม้าไล่ตามเข้ามาใกล้ทุกทีจนถึงระยะสังหาร เสียงวืบวาบจากการควงดาบแว่วขึ้นหนึ่งครั้งก่อนเหวี่ยงเข้าหวดหมายกุดหัวเด็กสาวให้ขาดพลัน ทว่าโชคเข้าข้างเธอที่เผอิญสะดุดกับก้อนหินจนเสียหลักล้มลง เพียงแค่ชั่วครู่อัศวินก็ขี่ผ่านเลยเนเน๊ะไปตามทางสีขาวออกไปไกลลิบตา ณ ตอนนี้ทางสีขาวที่ได้ปรากฏขึ้นมานั้น มันกำลังเลือนหายไปพร้อมกับอัศวินตนนั้นคล้ายกับว่ามันต้องการให้แสงแห่งปาฏิหารย์หายไปกับมันในความมืดด้วย ความมืดกลับมาอีกครั้ง!!! เนเน๊ะลุกยืนแล้ววิ่งต่อก่อนจะสายเกินไปกับแสงรำไร แต่เรี่ยวแรงมันโรยราขาแทบก้าวไม่ออกภาพเบื้องหน้าก็เรือนราง เธอวิ่งไปสักพักจึงสะดุดก้อนหินล้มฟุบลงขณะวิ่งฝ่าไปในความมืด น้ำตาไหลออกอีกครั้ง ร่างกายสั่นหนาว ความหวังเริ่มเลือนหายไป มันช่างแสนน่ากลัวเหลือเกินกับสิ่งที่เด็กผู้หญิงวัยเพียง11ปีต้องเผชิญ เสียงหวีดร้องรอบๆตัว เสียงโหยหวนแสนทรมานพุ่งเข้ามายังโสตประสาทของเนเน๊ะและมันยังคงหลอกหลอนอย่างไม่ลดละ เสียงสะอื้นร่ำไห้ของเนเน๊ะดังไปถึงเทพีเจ้าของรูปปั้นนั้น "ฮึกๆๆ.. ฮือๆ.. คะใคร ก็ ได้ ชะ.. ช่วยด้วยค่ะ!!" เนเน๊ะร้องขอด้วยเสียงขาดๆหายๆ "ได้โปรดช่วยหนูที!!" ทันทีที่สิ้นเสียงเนเน๊ะ ขนนกสีขาวได้แสดงปาฏิหารย์อีกครั้งด้วยการบันดาลให้เกิดแสงสว่างส่องขึ้นไปทางบ้านของเธออีกครั้ง เนเน๊ะไม่รอช้ารีบออกวิ่งไปทั้งน้ำตาอย่างรวดเร็ว แสงไต้ที่ส่องมาจากทางบ้านของเธออยู่เพียงไม่ไกลเท่าไรแล้ว แต่!! แต่เนเน๊ะไม่ได้วิ่งกลับบ้านเพียงลำพังหากมีใครกำลังวิ่งตามเธอมาด้วย มันคือ..อัศวินควบม้าไล่ตามมาอย่างติดๆ ครั้งนี้มันไม่ได้ถือดาบแต่ถือธนูคันใหญ่หมายจะปลิดชีพเนเน๊ะให้ได้ อีกเพียงแค่ไม่กี่ก้าวจวนเจียนจะเข้าสู่เขตบ้าน อัศวินตนนั้นเองก็เช่นกันรีบควบม้าไล่ตามมาจนถึงระยะยิง มันไม่รอช้ารีบขึ้นสายแล้วปล่อยคมศรออกไปทันที คมศรวิถีตรงพุ่งอย่างรวดเร็วเป้าหมายคือกลางหลังสาวน้อย เสี้ยววินาทีต่อเสี้ยววินาที!! คมศรพุ่งแหวกอากาศมายังปลายผมอันพริ้วสยายตรงตำแหน่งกลางหลังของเนเน๊ะได้ทำให้เธอฟุบลงไปกับพื้นอย่างหมดท่า แต่ทว่า.. การฟุบลงไปกับพื้นนั้นเกิดจากการเร่งฝีเท้ามากเกินไปจึงสะดุดกับรากไม้เล็กๆที่คดงอและโชคดีที่ร่างของเธอเข้าสู่เขตบ้านได้ทันเวลา คมศรที่พุ่งมากับร่างอัศวินผู้พิฆาตมันได้สลายไปเมื่อเข้าสู่เขตบ้านของเธอเหมือนดั่งมันชนกับม่านพลังอันศักดิ์สิทธิ์ เนเน๊ะไร้แรงลุกในท่านอนคว่ำหน้า เธอเหลียวกลับไปมองข้างหลังอย่างแช่มช้าพลันโล่งใจ เมื่อพบแต่ความว่างเปล่าก่อนหอบหายใจแฮ่กๆทรุดหน้าลงกับดิน
..เหตุการณ์ในคืนนี้ จะตราให้เนเน๊ะจดจำไปชั่วชีวิตด้วยสำนึกแห่งความกลัว เมื่อเรี่ยวแรงบำรุงมา เนเน๊ะย่อเข่าเข้าหาตัวยันเท้าขึ้นปละใช้มือค้ำพื้น พยุงร่างให้ยืนขึ้นแล้วพยายามกัดฟันหอบสังขารเดินจนถึงประตูบ้าน เธอผลักเข้าไปทันทีก่อนทิ้งตัวลงนอนไปกับพื้นพร้อมรอยน้ำตาทิ้งคราบ ยายแขขาวเหลือบเห็น ด่วนเร่งเข้าไปพยุงร่างเนเน๊ะมายังเก้าอี้ไม้ตัวยาว จากนั้นจึงจัดท่าทางให้เธอนอนในท่าสบายก่อนหยิบยาเม็ดลูกกลมดำมาป้อนให้แล้วตามด้วยน้ำอุ่นจากกาต้มวางรอไว้ข้างๆเก้าอี้ตัวยาว ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหลังสะดุ้งตื่นเนเน๊ะลุกนั่งชันเข่า เมื่อสติกลับคืนเธอกลืนน้ำลายอึกหนึ่งก่อนเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับยายฟัง ขณะยังมีอาการหวาดผวาอยู่ ซึ่งดูได้จากหน้าตาที่เธอตื่นระแวงตลอดและสายตาอันล่อกแล่ก ทั้งเรื่องของรูปปั้นผู้หญิงและขนนกสีขาว ทั้งหมดแล้วเธอเล่าด้วยเสียงสั่นเครือพร้อมร่างกายสั่นระริก ยายแขขาวไม่ทันจะรับฟังจนจบแกก็เอ่ยขึ้น...
"นอนเถอะนะเนเน๊ะ เจ้าไม่ต้องกลัวนะ หลับตานอนเถอะนะ"ยายแขขาวหวังปลอบขวัญเนเน๊ะที่ยังมีอาการหวาดผวา โดยการโอบกอดและลูบหัวเบาๆแกรู้สึกได้ว่าทั้งร่างของเธอสั่นระริกราวกับลูกหมาตกน้ำ
"ค่ะ..ค่ะ.. ค่าา"
เนเน๊ะที่รับคำยายในอ้อมกอดนั้น ต้องจำใจฝืนข่มตานอนก่อนโน้มตัวลง เตาผิงระอุไฟช่วยให้คลายหนาวได้เป็นอย่างดี เนเน๊ะผล็อยหลับไปในที่สุด ยายแขขาวเห็นดังนั้นจึงเดินไปหยิบผ้าห่มมาคลุมให้แล้วนั่งลงข้างๆกัน
รุ่งเช้าวันใหม่
"เนเน๊ะๆ ตื่นได้แล้วนะ"
"ขนนกสีขาวน่ะเป็นสัญลักษณ์ของเทพีแห่งความรัก เจ้าช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้เจอกับนาง ส่วนเรื่องคืนแห่งความมืดน่ะ ข้าเคยบอกเจ้าแล้วใช่ไหมว่าอย่าหลงเดินเข้าไป!!"
หลังเขย่าร่างสาวน้อยยายแขขาวก็รีบเอ่ย ตอบคำถามของเนเน๊ะที่ถามค้างไว้ในตอนเธอที่เล่าเรื่องราวตั้งแต่เมื่อคืน เนเน๊ะงัวเงียผงกหัวขึ้นมาพลางขยี้ตาหลังได้ยินยายชัดทุกคำพูด
"ยายคะ สมุนไพรใกล้จะหมดรึยังคะ?"
เมื่อหลานสาวได้ยินยายแขขาวพูดแล้วจึงรีบตัดบทแล้วลุกนั่งด้วยเกรงว่าแกจะดุให้ ซึ่งด้วยหน้าที่ที่ไม่เคยบกพร่องในการหาสมุนไพรของเนเน๊ะถึงแม้จะเจอกับเรื่องเลวร้ายมาเมื่อคืน แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอหวั่นไหวแม้แต่น้อย สาวน้อยยืนกายได้รีบทำธุระช่วงเช้าทันที
"ก็จวนเจียนแล้วล่ะคงใช้ได้อีกประมาณ4วันแหละมั้ง"ยายแขขาวตอบขณะมองไปที่เก็บสมุนไพรโดยไม่สนใจเนเน๊ะ
หลังเสร็จธุระเนเน๊ะเอ่ยอย่างแน่วแน่ไม่ลังเล "เอ่อ.. ยายคะ ทุ่งล้านแสงอยู่ทิศไหนหรอคะ ไกลมากไหมหนูจะไปเอามันมาปลูกที่บ้านค่ะ"
"ฮึ.. เจ้าจะไปจริงรึ!? มันไกลมากนะอาจจะใช้เวลาถึง3วันเชียวอันตรายก็มีมากและไม่รู้ว่าคืนแห่งความมืดจะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่.. หากเจ้าจะไปจริงๆล่ะก็ ให้ออกเดินทางในยามรุ่งอรุณไปทางทิศเหนือ สิ่งที่เจ้าจะต้องเตรียมไปก็คือตะเกียง อาหาร ยา เสื้อคลุม อ้อ..ข้าขอมอบมีดเล่มนี้ให้กับเจ้ามันเป็นมีดโบราณเก็บไว้ให้ดีนะ"ถึงประโยคหลังแกว่าพลางเลิกเสื้อขึ้นควักมีดพกให้กับหลาน คำพูดของยายแขขาวดูกำกวงยัดเยียดตามอารมณ์ขึ้นๆลงๆของแก แต่ที่แน่ชัดคือ..ยายแขขาวรู้ดีว่าเนเน๊ะต้องไปที่นั่นให้ได้แน่ เนเน๊ะรับฟังอย่างไร้ข้อกังขาแล้วรับมีดนั้นมาในมือก่อนชักออกจากฝักเพื่อชวดชมมันด้วยอาการอึ้งทึ่ง เพราะไม่คิดว่าเธอจะได้จับของมีคมอันตราย
...มีดนั้นมีสองคมยาวตรงเป็นปลายแหลมสีเงินเงาวับ ด้ามจับเป็นสีดำถนัดมือ สามารถซับหยดเหงื่อได้ ส่วนฝักมีดเป็นหนังสัตว์สีดำอย่างเหนียวแต่บางเบา
เมื่อพลบค่ำมาถึง เนเน๊ะมีความตั้งใจมากจะไปทุ่งล้านแสง เธอเริ่มจัดเตรียมข้าวของสัมภาระจำเป็นที่ใช้เดินทาง เสร็จสรรพ..เธอก็หยิบขนนกสีขาวออกมาจากกระเป๋าลับในชุดที่เธอใส่ พลันชื่นชมอยู่นานและไม่ลืมจะนำมันไปด้วย
ตกดึกก่อนนอน เนเน๊ะครุ่นคิดว่าทำไมถึงอยากจะไปที่ทุ่งล้านแสงอีกครั้ง ทั้งๆที่ยังหวาดผวากับคืนแห่งความมืดอยู่ หนำซ้ำอันตรายต่างๆนาๆก็มีมากมาย เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ท้องฟ้าใกล้รุ่งอรุณ
เนเน๊ะพร้อมออกเดินทาง แต่เมื่อคาไดทราบข่าวจากนกพิราบขาวของยายแขขาวจึงรีบเดินทางมาทันที
"อรุณสวัสดิ์ค่า คุณคาได"เนเน๊ะโบกมือยิ้มแย้มทักทายคาไดซึ่งยังไม่ทันลงจากหลังม้า ยายแขขาวยืนข้างๆเธอก็ปรายตาไปทางคาไดด้วย
"อรุณสวัสดิ์จ้ะ เจ้าจะไปที่ทุ่งล้านแสงจริงๆน่ะหรือ?"คาไดทำหน้าสงสัย เอ่ยออกด้วยความไม่แน่ใจในเรื่องการเดินทางของสาวน้อยหลังลงจากอานม้า
"ค่ะ"สาวน้อยตอบฉับไว ภายใต้ใบหน้าอันยิ้มแย้มไร้เลศนัย
"อ่าๆ.. ข้ามีของมอบให้เจ้าน่ะ อ่ะนี้(คาไดพูดพลางยื่นให้ เนเน๊ะจึงหยิบมันมา แล้วเขาก็อธิบายต่อ)
..มันคือแหวนเงินเมื่อมีอันตรายย่างกรายมาหาเจ้ามันจะส่งสัญญาณออกมาทันที หนทางข้างหน้าไกลลิบมากนัก เจ้าจงนำม้าของข้าไปเถอะนะมันวิ่งเร็วและยังฉลาดอีกด้วย"คาไดบอกกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มตาปี๋ก่อนลงจากม้าจูงมาให้เนเน๊ะก่อนยกตัวเนเน๊ะขึ้นคร่อมมัน
ที่จริงแล้วคาไดเองก็เป็นห่วงเนเน๊ะมาก เมื่อหันมองไปหนทางไปทุ่งล้านแสงอันแสนไกล แต่ก็ต้องเก็บไว้เพราะรู้ดีว่าคงห้ามไม่ได้กับความมุ่งมั่นที่เธอมี
"ขอบคุณค่ะ"เนเน๊ะพยักหน้ารับ พลันนั้น..เธอรีบควบม้าออกเดินทางไปทันที
"รักษาตัวเองด้วยล่ะเนเน๊ะ"คาไดร้องตะโกนไล่หลังพลางโบกมือร่ำลา
"..............."ยายแขขาวไม่กล่าวอะไรหากแกก็เป็นห่วงเนเน๊ะไม่แพ้คาไดภายใต้สีหน้าเฉยเมย
ใจจริงยายแขขาวและคาไดไม่อยากให้เธอไปเท่าไร ทว่า ต้องจำใจโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ทั้งสองหันมา พยักหน้ารับกันอย่างมั่นใจว่าเธอคือ"ผู้ที่ถูกเลือก"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ