The Last Night
9.2
เขียนโดย pyclub70
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.31 น.
40 ตอน
16 วิจารณ์
36.91K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559 20.39 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) 012-คำทำนายบทแรก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ012-คำทำนายบทแรก
~The Last Night~
" ..ก่อนราตรีวิปลาสสิ้นสลายไป ในกาลนั้นดวงอาทิตย์จะอับแสงนาน7วันไร้ทิวาปรากฏ แผ่นนภาจะถูกมวลมหาเมฆปกคลุมสะท้านเสียงกึกก้องสั่นสะเทือน ไร้จันทร์ชี้นำไร้ดาวชี้ทาง แสงสายอัสนีบาตจากเบื้องบนจะฟาดฟันไม่หยุดยั้ง ท้องมหาสมุทรจะเกิดมหาพายุพัดปรวนแปรแลเห็นเป็นคลื่นยักษ์ซัดโหม ลาวาเพลิงอัคคีจากนรกโลกันตร์จะปะทุขึ้นจากป่องภูเขาไหลชโลมธรณีจนปฐพีร่ำไห้ ความเยือกเย็นจะจับตัวเป็นน้ำแข็ง มนุษยชาติจะถูกพิพากษา แผ่นดินธีโอน่าจะแตกออกเป็นเสี่ยง เหล่าปีศาจอสูรกายทั้งหลายจะเผยกาย เหล่าทวยเทพจะตกอับ เหล่ามวลมนุษย์จะถึงกาลล่มมลาย หากความวิปโยคนี้อุบัติกาลใด กาลนั้นย่อมหมายความว่าบุตรแห่งเพทราใกล้ลุล่วงต่อความประสงค์ของพระบิดา.."
"...ในกาลนี้ข้าขออธิฐานต่อพระองค์ผู้เป็นนิรันดร์ผู้สร้างโลกผู้ปกครองสูงสุด หากศรัทธาแห่งบุตรเพทราสูญสิ้นลงยามใด ขอท่านจงนำศรัทธาแห่งข้าพัดพาไปสู่ใจนั้น... " ส่วนหนึ่งคำพยากรณ์และคำอธิฐานแห่งดารุสซึ่งถูกบันทึกไว้โดยนักเดินทางโซโชรอนในหนังสือบันทึกการเดินทางแห่งข้า
~~~~~~~~~~~~~~
กลุ่มกิเรเร่ถูกก่อตั้งขึ้นโดยเพียล่าและชาร์ลอย่างไม่เป็นทางการ โดยมีเป้าหมายหลักคือหยุดคืนแห่งความมืดให้จบลง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากหรืออาจจะเป็นไปไม่ได้เลย ชาร์ลมีความรู้เรื่องทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี มีความต้องการออกค้นหาคำอักษรและจารึกโบราณตามสถานที่ต่างๆ ที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งบนโลกนี้ ซึ่งมันอาจมีบันทึกเกี่ยวกับคืนแห่งความมืดบ้างก็เป็นได้และส่วนใหญ่สถานที่นั้นๆ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้องน้อยคนนักจะเข้าถึง
หลังจากที่ชาร์ลศึกษาโบราณสถานหลายๆแห่งจากหนังสือบันทึกการเดินทางแห่งข้าของนักเดินทางโซโชรอน จึงตัดสินใจแนะนำเพียล่าว่าเราต้องไปที่"สุสานสุดท้าย"เนื่องจากที่นี่เป็นที่เร้นลับไร้มนุษย์เข้าถึงและมีบันทึกต่างๆมากมาย น่าจะอำนวยต่อความประสงค์ของกลุ่ม
การเข้ากลุ่มของวิคเตอร์และโอ'เกนท์รวมถึงเนเน๊ะด้วยนั้น ทั้งเพียล่าและชาร์ลได้เห็นความสามารถ ที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวพวกเขาอย่างมหาศาล จึงเอ่ยปากชักชวน แล้วก็เป็นไปอย่างคาดหวัง พวกเขาไม่ลังเลที่จะมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่ม
หมู่บ้านกามาสแห่งเผ่าโอกอน ชายหนุ่ม3คนกำลังนั่งล้อมวงเสวนา ถึงเรื่องเนเน๊ะจะเข้าร่วมกลุ่มกิเรเร่
"ใครกันเนเน๊ะ?"ชายร่างท้วมหนวดเคราประปรายเอ่ยถาม
"ฉันก็ไม่รู้.. ชาร์ลนายรู้จักหรือเคยได้ยินบ้างไหม?"ชายหนุ่มสมสง่าชาติทหารหันหน้าสงสัย ถามไปทางชายหนุ่มรูปงามมาดผู้ดีที่กำลังเอากิ่งไม้เขี่ยดินเล่น
"ไม่รู้เหมือนกันนะวิคเตอร์ ฉันว่าเรารอเพียล่ากลับมาดีกว่านะ"หนุ่มชาร์ลตอบกลับ พร้อมทิ้งกิ่งไม้นั้นและยืนขึ้น
"เฮ่.. โอ'เกนท์เรามาเดารูปร่างหน้าตาเนเน๊ะกันดีไหม.."วิคเตอร์ยิ้มย่องเลิกคิ้วไปทางชายร่างท้วม
"เอิ่ม..."โอ'เกนท์ลูบเคราอยู่นานก่อนเอ่ยว่า..
"เนเน๊ะหรอ? ฉันว่าชื่อนี้ฟังดูพิลึกนะ เอิ่ม... แล้วก็หน้าตาน่ะหรอ.. "
"อ่า ใช่ๆ" เสียงวิคเตอร์แทรกขึ้น
"หน้าตาก็เหมือนคนทั่วๆไปนี่แหละมั้งนะ โอยยยย.. ฉันคิดไม่ออกแฮ่ะ"โอ'เกนท์กุมขมับจนปัญญาจะนึกออก
"ฮ่าๆ ฉันว่าเนเน๊ะต้องเป็นสาว สวย เก่ง นิสัยดีและโสดแน่เลยฮ่าๆ นายว่าไหมชาร์ล"จินตนาการวิคเตอร์แล่นปรี้ดสุดๆ อย่างกับเนเน๊ะคือนางในฝันแน่ะ
"ใช่ไหมชาร์ล"โอ'เกนท์สัมทับอย่างไว
"........."ชาร์ลพยักหน้าเล็กน้อยไร้คำพูดใดๆ ก่อนวิคเตอร์หันไปขำกับโอ'เกนท์ ทั้งสองยังคุยกันต่อไป ส่วนชาร์ลได้แต่คิดถึงเรื่องการไปสุสานสุดท้ายและรอเพียล่ากลับมา
ในขณะเพียล่านำเนเน๊ะมุ่งหน้าไปหมู่บ้านกามาส โดยอินทรีขาวตัวเดิมที่ทำให้เนเน๊ะต้องเปล่งอุทาน เหวอ ออกมา เนเน๊ะคิดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการเดินทางครั้งนี้ เพราะอะไรเธอจึงตกลงกับเพียล่า
"คุณเพียล่าคะ เราจะไปที่ไหนคะ?"เนเน๊ะกระซิบถามเพียล่าที่ไม่พูดอะไรเลย ตั้งแต่ออกจากหมู่บ้านคี-คูได
"หมู่บ้านกามาส ที่นั่นมีคนกำลังรอเราอยู่ หมายถึงสมาชิกในกลุ่มน่ะ"เพียล่าตอบกลับอย่างใจเย็น
"อีกไกลไหมคะ?"ความอิดโรยเกิดขึ้นกับเนเน๊ะ เพราะเธอเดินทางมาเกินครึ่งวันแล้วโดยยังไม่พัก
"กว่าจะถึงก็คงจะใกล้ค่ำแล้วล่ะ"สมาธิของเพียล่าแน่วแน่อยู่กับการควบคุมเจ้าเวหามากกว่าคำถามของเนเน๊ะ
เวลาที่เหลือก่อนถึงหมู่บ้านกามาสนั้น เนเน๊ะที่นั่งซ้อนท้ายเพียล่ามา ยังคิดไม่ตกกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปข้างหน้า เหลือเวลาไม่กี่ชั่วโมงใกล้พลบค่ำ เพียล่าเร่งความเร็วอย่างเต็มที่ มือสองข้างของเนเน๊ะรัดเอวเพียล่าแน่นสนิทพร้อมกับใบหน้าซบลงบนแผ่นหลัง สมองของเนเน๊ะทำงานหนักมากเปลือกตาจึงค่อยๆปิดลง เนเน๊ะเผลอหลับไป
" ..เนเน๊ะ การเดินทางครั้งนี้อันตรายยิ่งนัก เจ้าจงระวังตัวและจงมีสติให้มั่นเมื่อเจอสถานการณ์คับขัน"เทพีแห่งความรักปรากฏกายขึ้นในภวังค์เอ่ยเตือน ด้วยน้ำเสียงอันอ่อนนุ่มพลางใช้หลังมือลูบแก้มเนเน๊ะเบาๆอย่างเอ็นดู
เนเน๊ะค่อยๆเปิดเปลือกตาออก แลเห็นดวงอาทิตย์จวนจะตกดิน คำพูดในภวังค์เนเน๊ะจดจำได้ทั้งหมดและยังรู้สึกได้ว่ามืออุ่นใครบางคนลูบแก้มเธอ เนเน๊ะอุ่นใจมากขึ้นหลังระลึกได้ว่าเสียงนั้น เป็นเสียงเดียวกับรูปปั้นสตรีที่มอบขนนกสีขาว เธอเริ่มระวังตัวและมีสติกับการมาเยือนของราตรีอันมืดมิดที่หมู่บ้านกามาส
แสงตะวันอ่อนล้าดวงอาทิตย์ลับหายไป ฟ้าสีดำคลีเข้าคลุมผืนฟ้าเข้าสู่รัตติกาล โอ'เกนท์ก่อไฟจากไม้แห้ง ให้แสงสว่างอันร้อนผ่าวและเป็นสัญญาณบอกตำแหน่งให้เพียล่าทราบ วิคเตอร์และโอ'เกนท์รอการกลับมาของเพียล่าอย่างใจจดใจจ่อ เฝ้ามองยอดไม้ไม่ลดละสายตา
ชาร์ลเองได้แต่แหงนหน้ามองดูดวงดาวในแต่ละกลุ่ม ดูการเคลื่อนที่ของพระจันทร์และความเข้มของแสงจันทร์ จับทิศทางลมทั้งบนดินและชั้นบรรยากาศ เปลวเริ่มไฟมีการเปลี่ยนทิศทางเอนเอียงเห็นได้ชัด
"นั่นไงเพียล่ามาแล้ว"ชาร์ลพูดพลางชี้นิ้ว วิคเตอร์และโอ'เกนท์หันขวับมองตาม ทุกคนรู้สึกโล่งอกและตื่นเต้นจะได้เห็นเนเน๊ะ
"เนเน๊ะ.. เธอคือเนเน๊ะใช่ไหม"ชาร์ลยิงคำถามแรกหลังเพียล่าลงจอด
"ค่ะ"เนเน๊ะตอบสั้นๆเพราะอาการเพลียที่เดินทางมาทั้งวัน
"นี่เด็กหนิ"วิคเตอร์เปล่งอุทานหลังทั้ง2เดินมานั่งล้อมกองไฟ
"เธอมาจากหมู่บ้านไหนกัน?"โอ'เกนท์ที่ดูเหมือนจะตะลึงมากกว่าใคร อดสงสัยไม่ได้กับใบหน้าเนเน๊ะ
"หมู่บ้านคี-คูไดค่ะ"เสียงเอื่อยของเนเน๊ะตอบเบาๆ
"เอิ่ม... โดยปกติแล้วชนเผ่าเล็กๆที่อาศัยป่าอยู่ทุกมุมโลกอย่างเราๆจะมีเส้นผมหยักโสกหรือหยิกหรือเป็นรอนมีสีดำหรือดำออกแดงหรือน้ำตาลเข้มปนแดง นัยน์ตาส่วนใหญ่ก็จะมี.. มี มีสีดำไม่สนิทมีสีน้ำตาลอ่อนบ้างเข้มบ้างส่วนสีผิวนั้นก็จะออกแดงดำหรือน้ำตาลคล้ำไม่ก็เหลือง แต่เธอนี่สิผมตรงดำวาวมันขลับนัยน์ตาก็มีสีฟ้าใสประกายทะเลสีผิวก็ขาวเนียนอย่างกับคนเมืองหนาว คี-คูไดที่ฉันรู้จักส่วนใหญ่แล้วหน้าตาจะละหม้ายคล้ายคลึงกับพวกฉันนี่แหละ แต่เธอนี่... เอิ่มมมม.."โอ'เกนท์แม้จะอยู่ข้างกองไฟตรงข้ามเนเน๊ะ แต่เขาก็เห็นลักษณะของเธอชัดแจ้ง จึงอธิบายยาวเหยียดให้อีกทั้ง3คนที่ยังไม่รู้หรือแม้กระทั่งตัวเนเน๊ะเองได้ฟัง
"จะว่าไปหน้าตาเนเน๊ะยังกับตุ๊กตาพอร์ซเลนแน่ะ ว่าไหม"ชาร์ลสังเกตุอยู่นานเอ่ยออกชื่นชม
".........."เนเน๊ะนั่งเงียบและไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องผิดปกติที่เธอมีรูปลักษณ์ต่างออกไปจากคนในหมู่บ้านคี-คูได แต่ความจริงแล้วมันก็แปลกไปจริงๆน่ะแหละ
"จะยังไงก็ช่างเถอะ เข้าประเด็นเลยละกันฉันว่าเด็กนี่ยังไม่เหมาะสมกับการเข้าร่วมกลุ่ม เขาเด็กเกินไปอาจเป็นภาระให้เรา แล้วถ้าเขาตายล่ะเธอจะรับผิดชอบยังไงเพียล่า"วิคเตอร์รีบตัดบทเรื่องหน้าตาเนเน๊ะทิ้ง และพูดในสิ่งที่ตนคิดโดยไม่สนใจเนเน๊ะที่เหลือบตาขึ้นมอง จนเพียล่าเริ่มขยับปากแต่เสียงของโอ'เกนท์เร็วกว่า
"อ่านะ.. ฉันก็เห็นด้วยนะวิคเตอร์"โอ'เกนท์โยนคำพูดไปทางเพียล่า
"ใช่!! เนเน๊ะอาจจะยังเด็กเกินไปและอาจจะเป็นภาระให้แก่เรา แต่ฉันรู้ว่าในตัวเด็กคนนี้มีอะไรมีแค่ฉันเท่านั้นที่รู้!! ฉันจะรับผิดชอบชีวิตของเนเน๊ะเอง มีใครจะคัดค้านอะไรไหม?"ว่าจบเพียล่าใช้สายตาหว่านไปรอบๆ
"ไม่มีนะ?"เพียล่าย้ำอีกรอบทุกคนต่างเงียบ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ สายตาวิคเตอร์กับโอ'เกนท์ยังไม่เชื่อในตัวเนเน๊ะ
เนเน๊ะต้องก้มหน้าอย่างละอาย ทำใจยอมรับกับสิ่งที่วิคเตอร์พูดจนทำให้เธอรู้สึกอยากลับบ้าน ทว่า..สำหรับเนเน๊ะแล้ว เธอรู้จักแต่คำว่ามุ่งไปข้างหน้า เธอจะไม่ถอยกลับอย่างเด็ดขาด!!
ค่ำคืนนี้ ที่หมู่บ้านกามาสกลุ่มกิเรเร่ต่างพักผ่อนหลับนอน เก็บแรงไว้สำหรับการเตรียมพร้อมออกเดินทางในวันพรุ่ง
ฟ้าจวนจะสาง
เนเน๊ะตื่นก่อนทุกคนในกลุ่ม เธอคิดถึงเรื่องเกี่ยวกับการเข้าร่วมกลุุ่มเมื่อคืนวาน วิคเตอร์และโอ'เกนท์ต่างไม่ยอมรับเธอ ไม่รู้ว่าโชคชะตาหรือฟ้าพาไปเนเน๊ะ ได้แต่นั่งคิดมากที่ตัวเองยังเด็กเกินไปและอาจเป็นตัวถ่วง
แต่ทว่า.. อีกครึ่งหลังของหัวใจเธอนั้น ช่างเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความกล้าอย่างไม่คิดชีวิต
ตรงเส้นขอบฟ้าดวงตะวันผุดโผล่ขึ้นมาฉายแสงส่องนภากาศและผืนดิน องค์กรเรเมดี้ได้ค้นพบกลุ่มเงามืดครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่บางส่วนของเทือกเขาเออร์เนส ช่วงบริเวณเทือกเขายกตัวสูงเหนือมหาสมุทรโมซาร่าเขตเอลิลูติดกับดินแดนตะวันตกส่วนใต้ของจักรวรรดิลามิเรส
หลังการกระจายข่าว ทั่วโลกมีการตื่นตัวกันอีกครั้ง เหล่าบรรดานักรบแห่งมวลมนุษยชาติเตรียมพร้อมกับการเดินทางไปที่นั่น..
เงามืดแบล็คซีแห่งดินแดนตะวันตกส่วนใต้
~~~~~~~~~~~~
หลังจากทุกคนในกลุ่มตื่นนอนและทานอาหารเช้า เพียล่าและชาร์ลอธิบายแผนการเดินทางให้ทุกคนรับทราบ เป้าหมายหลักคือการไปสุสานสุดท้ายและการเดินทางไปสุสานสุดท้ายนั้น ค่อนข้างใช้เวลามากนานนับสัปดาห์ในการเดินเท้า อีกทั้งอุปสรรคต่างๆนาๆกว่าจะถึงที่หมาย คงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆหากแต่มีเจ้าเวหากันคนละตัวก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
"เรามีเจ้าเวหาเพียงตัวเดียวเท่านั้น คงไม่สามารถไปกันหมดได้แน่นอน อีกอย่างนะทางกองทัพก็ผูกขาดไว้นานแล้วด้วย"เพียล่ากำลังพูดเพื่อส่งต่อให้ชาร์ลรับ แต่..
"ผูกขาด??"โอ'เกนท์แทรกขึ้นทำหน้าสงสัย
"หมายความว่าผู้ที่จะมีสิทธิ์ใช้เจ้าเวหาจะต้องเป็นคนในกองทัพหรือทางราชสำนัก นอกจากจะใช้บินเพื่อทำสงครามและทำภารกิจกับซ้อมรบแล้วอย่างอื่นหมดสิทธิ์"เพียล่าโปรยยิ้ม อธิบายพลางลูบหัวเจ้าเวหาอย่างทะนุถนอม
"แล้วทำไมเธอบินมานี่ได้"โอ'เกนท์สงสัยหนักกว่าเก่า
"เรื่องนั้นช่างเถอะ"เพียล่าดูลึกลับขึ้นมาทันที หลังให้คำตอบกับโอ'เกนท์ วิคเตอร์และชาร์ลที่รู้ดี ก็แอบยิ้มไปตามๆกัน ทิ้งไว้ให้โอ'เกนท์กับเนเน๊ะงงเล่นๆ
"ถ้าเป็นอย่างนั้นเราคงไม่มีทางเลือกนอกจากการเดินเท้า"ชาร์ลเอ่ย
"โอ'เกนท์ หมู่บ้านของนายไม่มีม้าบ้างเลยรึไง"วิคเตอร์เสริมนิด
"หมู่บ้านฉันตั้งอยู่ในแถบตีนเขาเป็นป่ารกทึบเขตหนาว แล้วทางที่เราจะไปมันก็ไม่สามารถใช้ม้าได้หรอก"วิคเตอร์ได้ยินดังนั้นจึงเงียบไป
"เอาล่ะๆทุกคน เราจำเป็นต้องเดินด้วยเท้ามีใครจะเสนออะไรไหม"ชาร์ลกล่าวสรุป และแล้วทุกคนต่างไม่มีใครทัดทานความคิดนี้ แม้แต่เนเน๊ะที่ชินกับการเดินเท้าหาสมุนไพรมาแต่เยาว์ก็เห็นด้วย เมื่อมติเป็นเอกฉันท์เพียล่าจึงตบปีกเจ้าเวหาเบาๆ เพื่อให้มันบินกลับฐานทัพ
หลังทุกคนเตรียมสัมภาระของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดก็เป็นเวลาออกเดินทางโดยมุ่งหน้าลงใต้..
เพื่อเสี่ยงกับคืนแห่งความมืด การเดินทางของเนเน๊ะจึงมีชะตากรรมมนุษยชาติเป็นเดิมพัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ