สงครามนิวเคลียร์ล้างโลก

-

เขียนโดย colin

วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 11.04 น.

  3 chapter
  0 วิจารณ์
  5,547 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2558 14.37 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) after the War

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          รอยเชสเตอร์ในปี 2016

“บราโว่ซิกแจ้งศูนย์ บราโว่ซิกแจ้งศูนย์เปลี่ยน” นายทหารในชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษกำลังติดต่อไปที่ศูนย์บัญชาการของเขาด้วยท่าทีเร่งรีบ เพราะตอนนี้กระสุนชนิดต่างๆกำลังลอยข้ามหัวของเขาตลอดเวลา ในขณะที่ทหารอีกนายใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการบรรจุกระสุนขนาด 5.56 คาลิเบอร์ เพื่อเตรียมการยิงครั้งถัดไป

“พวกยุโรปรุกคืบกันมาแล้วนะครับผู้กอง” พลลาดตระเวนคนหนึ่งพูดขึ้น หลังจากปฏิบัติภารกิจเสร็จแล้ว

“สมิธ นายไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกน่า เรายังมีไอ้นั้นอยู่” ผู้กองประจำหน่วยเอ่ยขึ้นพร้อมชี้ไปที่เป้า พวกทหารต่างพากันมองไปที่ที่เขาชี้ให้ดู

“อย่าบอกนะว่า” สมิธนายทหารฝีมือดีกำลังพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด ผู้กองของเขายิ้มร่าก่อนจะสั่งให้พลวิทยุรายงานคำสั่งดังกล่าวประกอบกับลูกทีมของเขาโดนโหมกระหน่ำทั้งระเบิดและกระสุนเป็นระยะๆ “โทนี่รีบบอกพิกัดให้เพนดากอนเร็วเข้า!”

“ครับท่าน” พลวิทยุขานรับ จากนั้นเขาก็แจ้งพิกัดเตรียมชุดใหญ่ให้กับข้าศึก “214528 รหัสสีเขียว พิกัด112ลิปดาเหนือ 220ลิปดาตะวันออก ย้ำ 214528 รหัสสีเขียว พิกัด112ลิปดาเหนือ 220ลิปดาตะวันออกเปลี่ยน ขอพระเจ้าคุ้มครอง”

      ไม่นานนักหัวรบนิวเคลียร์ขนาด 1000 ปอนด์ก็ถูกส่งขึ้นฟ้า และเมื่อกระทบเป้าหมายก็เกิดระเบิดอย่างรุนแรงราวกับซาตานที่อยู่ในนรกกำลังจะบอกว่า วันสิ้นโลกกำลังจะมาถึงในไม่ช้า ทันใดนั้นเองก็เกิดแสงประหลาดสีฟ้าพุ่งทะยานขึ้นท้องฟ้า สนามพลังปริศนาบังเกิดขึ้นมันพลักเมืองๆนึงขึ้นสูงไปบนท้องฟ้าสูงกว่าสามหมื่นฟิต จากนั้นมันก็ครอบคลุมทั้งเมืองเอาไว้เสมือนของเล่นในลูกโป่งยักษ์  

 

          รอยเชสเตอร์ในที่ 2017

          หนึ่งปีหลังจากนั้น มีเพียงรอยเชสเตอร์เท่านั้นที่รอดพ้นจากอำนาจการทำลายล้างของมหาอาวุธนิวเคลียร์ ที่ครึ่งหนึ่งมันถูกใช้เพื่อต่อต้านอุกกาบาตจากนอกโลก แต่มาวันนี้มันกลับทำลายโลกเสียเอง รอยเชสเตอร์ถูกครอบคลุมไว้ด้วยสนามพลังขนาดยักษ์ ในเริ่มแรกสนามพลังพลาสม่ามีความร้อนสูงเป็นสีฟ้าและอันตราย แต่หลังจากนั้นอีกหนึ่งปีพลังงานของมันเริ่มถดถอยลง มันโปร่งใส่แต่ก็ยังอันตรายอยู่ดี ชาวเมืองเริ่มหันมาสนใจมันมากขึ้น และพยายามตรวจสอบว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ใครช่วยเราไว้ แล้วมันมีจุดประสงค์อะไรที่ต้องมาช่วยเมืองเล็กๆแห่งนี้

 “แฟรงกี้ ได้ข่าวว่าสนามพลังนั้นมันโปร่งใสแล้วนี้ และการสำรวจของเราเป็นยังไงบ้าง” ลูคัสนายกประจำเมืองหันไปถามลูกน้องของเขา ลูคัสนั้นเป็นคนมีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนเขาเคยเป็นวุฒิสภาในหลายๆเมืองรวมทั้งกับทำเนียบขาวด้วย ประสบการณ์ด้านการจัดสรรทรัพยากรของเขานั้นแทบจะเรียกได้ว่า โอกาสประสบความสำเร็จค่อนข้างสูงลิบลิ่วเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ

“ก็เป็นไปได้ด้วยดีนะครับท่าน” แฟรงกี้ตอบพร้อมกับแสดงรายละเอียดและอธิบายในสิ่งที่เขากับดอนครูวิทยาศาสตร์ไปสำรวจมา “มีความเป็นไปได้ว่าสนามพลังที่ปกคลุมเมืองเรานั้นอาจจะประกอบไปด้วยซิลเวอร์ไนเตรตกับไฮโดรคาร์บอนนะครับท่าน”   

“หมายความว่าสนามพลังนั้นมีน้ำกับแร่เงินประกอบอยู่งั้นเหรอ?” ลูคัสถามต่ออย่างมีหวัง เพราะเขาเป็นคนรักอิสระเอามากๆ แต่พอมาเจอสนามพลังคลอบคลุมไว้แบบนี้ มันจึงทำให้เขารู้สึกอึดอัดยิ่งนัก

“มันยังเป็นแค่สมมติฐานน่ะครับท่าน ผมยังไม่กล้าฟันธงมากนักเพราะเมื่อไหร่ที่เราเข้าใกล้มัน ไอ้เจ้าสนามพลังนั่นมันก็พลักให้เราออกห่างจากมันทุกที เหมือนมันรู้ว่าเรากำลังจะทำลายมันน่ะครับ” แฟรงกี้ว่า

“ไม่เป็นไรแฟรงกี้ งั้นฉันให้เวลานายสองวัน ถ้าเกิดมีอะไรคืบหน้าก็ช่วยแจ้งมาก็แล้วกัน”  

       

          ทางด้านร้านอาหารของคุณนายเมลล์สัน ผู้คนยังคงแน่นเอียดเหมือนเดิมทั้งตอนนี้และก่อนหน้าที่นิวเคลียร์จะทำลายล้างโลกไปหมดสิ้น คุณนายเมลล์สันมองไปที่อเล็กและแองเจลล่าลูกชายกับลูกสาวของเธอที่กำลังพูดคุยกับเพื่อนๆนักเรียนของพวกเขาอย่างสนุกสนาน

“อเล็กเมื่อวานทำไมนายไม่มาหาฉันล่ะ ปล่อยให้ฉันรออยู่ตั้งนาน นายสัญญาแล้วนี้ว่าเราจะสำรวจสนามพลังนั่นกันน่ะ” ปีเตอร์ แบรนเนลสันลูกชายของนายกรอยเชสเตอร์พูดขึ้นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ปีเตอร์นั้นมีความเป็นผู้นำสูงเหมือนกับพ่อของเขา เขามีความรับผิดต่อสิ่งที่เขาทำและห่วงใยเพื่อนๆมากกว่าสิ่งใด

“นายก็รู้นี้ว่าเมื่อวานฉันไปไม่ได้ แองจี้กับฉันต้องไปโบสถ์กับแม่ซึ่งนายก็คงรู้นะ ว่าเมื่อวานมันเป็นวันอะไร” อเล็กลูกชายคนเล็กของคุณนายเมลล์สันบอกกับเพื่อนของเขาถึงธุระที่เขาพี่สาวและแม่ต้องไปทำให้ได้

“จริงสิฉันก็ลืมไปเสียสนิทเลย นั่นเป็นวันครบรอบที่พ่อของนายตายนี่นา” ปีเตอร์ว่า พอจบบทสนทนาของเขาแองเจลล่าที่นั่งข้างๆก็น้ำตาซึม ปีเตอร์วางมือไปบนไหล่แองเจลล่าราวกับรู้ว่าตัวเองกำลังทำผิดต่อเธอ “ขอโทษนะแองจี้ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

“ไม่เป็นไรหรอกปีเตอร์ ก็แค่ฉันยังทำใจไม่ได้กับเรื่องนี้น่ะ” แองเจลล่ายิ้มขึ้นให้เขาดูว่าเธอไม่เป็นไร

“มาเข้าเรื่องกันดีว่านะพวกนาย” อเล็กรีบตัดบทสนทนาของทั้งสองก่อนจะวาดบางอย่างลงไปบนกระดาษ “ฉันว่าลักษณะของมันตามตรีโกณมิติแล้ว คิดว่าไอ้สนามพลังนี้มันต้องมีแหล่งปลดปล่อยพลังงานแน่ๆ ถ้าฉันลากจุดนี้มาเชื่อมกับจุดนี้อีกที บางทีเราอาจจะหาสวิตช์เพื่อปิดมันลงก็ได้”

“นายแน่ใจนะอเล็ก” แองเจลล่ามองตามมือน้องชาย ที่กำลังขีดเขียนถึงสิ่งที่เขากำลังคิดว่าจะช่วยให้เมืองนี้รอดปลอดภัยยังไง

“เธอก็รู้นี่ ว่าฉันโกหกไม่เป็น” อเล็กพูดพลางขีดเส้นต่อไป

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน พรุ่งนี้นายกับแองจึ้ พวกเราไปเจอกันที่สวนริมน้ำ ฉันจะพาจอร์แดนกับไทเลอร์ไปด้วย” ปีเตอร์สั่งการเสร็จ ก็จัดการกับอาหารที่อยู่ตรงหน้าของเขาทันที

 

ตอนแรกอาจจะยาวไปสักหน่อยนะครับยังไงก็เป็นกำลังให้กับเรื่องนี้ด้วยนะครับ

ขอบคุณทุกท่านครับ

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา