Waiting for love รอเธอรัก...ควักหัวใจยัยเพื่อนซี้
-
เขียนโดย ภีรภร
วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.44 น.
15 ตอน
0 วิจารณ์
17.72K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558 17.18 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ดอกไม้ในใจผม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ วันนี้เป็นวันเสาร์ ฉันตื่นมาใส่บาตรกับแม่หน้าบ้านตั้งแต่ 6 โมงเช้า ปกติฉันเป็นคนตื่นเช้าแบบนี้ประจำเลยล่ะ ตื่นมาต้องรดน้ำต้นไม้ให้แม่ เด็กในวัยเดียวกันอาจจะยังนอนอยู่บนเตียงหรือกำลังฝันหวานอยู่ แม่บอกว่าผู้หญิงต้องรู้จักตื่นเช้า ทำงานบ้าน จะได้ดูมีคุณค่ามีคนหมายปอง แต่ปัจจุบันคำพูดของแม่ก็ยังเป็นแค่คำพูดไม่เห็นมีใครมาหมายปองเลย T_T “ยื่นนิ่งๆ สิเจ้าฟ้า” “มดกัดหนู >O<” “ทำไมเราไม่รู้จักมอง โตแล้วนะลูก” แม่ก้มปัดมดออกให้ “หนูโตแต่ตัวไง” “เฮ้อ ไม่ไหวๆ เจ้าฟ้าต้องรู้จักวางตัวให้สุขุมกว่านี้ จะมากระโดกกระเดกเหมือนเด็กๆ ไม่ได้แล้วนะ” “สาธุ” พร้อมยกมือขึ้นไหว้ “เจริญพร” เห็นไหมล่ะ ฉันจะทำตัวให้สุขุมได้ยังไง ก็ดูแม่สิยังรับมุกฉันเลย ฉันไม่ได้ว่าแม่นะคือครอบครัวของเราจะเฮฮา ร่าเริง แต่มีสาระนะ ฉันกับแม่หยุดการสนทนาไว้เท่านี้เพราะพระท่านเดินบินฑบาตรมาถึงหน้าบ้านแล้ว “เจ้าฟ้า รับโทรศัพท์หน่อยลูก” แม่ตะโกนเรียกฉันจากห้องรับแขก ในขณะที่ฉันกำลังง่วนอยู่กับการล้างจาน “แม่รับสายให้หนูหน่อย” “มารับเองเถอะ เบอร์ไม่คุ้นเลย” “มือหนูเปียกน้ำ” “รับให้ก็ได้ ฮัลโหล ว่างทั้งวัน มารับด้วยนะ” แล้วนั้นอะไร พอรับสายก็ตอบว่าว่าง ให้มารับด้วย “มะขามเองหรอ ฮิๆ แม่เองจ้า ฮ่าๆ เนียนใช่ไหม เดี่ยวคุยกับเจ้าฟ้านะ” แม่เดินมายืนโทรศัพท์ให้ฉันหลังจากเห็นว่าฉันล้างจานเสร็จเรียบร้อย “มะขามหรอแม่” แม่พยักหน้าให้แล้วเดินจากไป “ว่าไง มะขาม” “เจ้าฟ้า แกว่างใช่ไหม แกรออีกสิบนาทีฉันจะไปรับ” ถ้าจะตอบว่าไม่คงทันเพราะแม่ฉันดันบอกไปแล้ว “นี่แกจะไม่บอกสักคำเลยใช่ไหมว่าจะพาฉันไปไหน” “เดี๋ยวบอก”
เมื่อยี่สิบนาทีที่แล้วฉันยังอยู่บ้าน นั่งดูการ์ตูนอย่างมีความสุข แต่ตอนนี้ฉันกลับมานั่งรอใครสักคนเป็นเพื่อนมะขามหน้าสวนสาธารณตอนแปดโมงเช้า อยากรู้จังมานั่งรอใคร ถามไปกี่ทีมันก็ไม่บอก บอกแค่ว่าเดี๋ยวก็รู้ “มะขาม แกมานั่งรอใคร” “เดี๋ยวก็รู้” “เดี๋ยวก็รู้ๆ แกบอกฉันมาสิบรอบแล้วนะ แล้วไหนล่ะคนที่แกมารอเมื่อไหร่จะโผล่มาสักที” “เดี๋ยวก็รู้” “แกพูดเป็นคำเดียวหรือไง ฉันไม่ตลกด้วยนะ” ฉันเหวี่ยงออกไปอย่างไม่ลืมหูลืมลืมตาไม่สนใจคนรอบข้างที่กำลังมองเราสองคนอยู่ ปกติฉันเป็นคนมีเหตุผลและใจเย็นกว่านี้แต่ครั้งฉันไม่รู้เรื่องราวอะไรแล้วต้องมานั่งรอใครก็ไม่รู้ ถามมะขามก็บอกได้แค่ว่าเดี๋ยวก็รู้ มันสมควรโมโหมั้ย “แกจะโวยวายทำไม” มะขามพูดอย่างใจเย็นผิดกับฉันที่กำลังร้อนเป็นไฟ “แกลองเป็นฉันไหมล่ะ โดนลากมาเพื่อนั่งรอใครสักคนเนี่ยนะ สู่เอาเวลาที่นั่งรอไปดูการ์ตูนยังดีกว่าเลย” “จริงๆ แล้วที่ฉันบอกว่าเดี๋ยวก็รู้ เพราะฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามานั่งรอใคร” “ไม่รู้ แกจะบ้าหรือไง หรือว่าแกนัดสาวไว้” “ไม่ใช่” “…..” “จริงๆ แล้วไอ้เมฆให้ฉันมาแทนมัน มันไม่ว่าง มันบอกแค่ให้มารอที่สวนสาธารณแถวโรงเรียนตอนแปดโมงเช้า ฉันเลยชวนแกมาไง” “เพื่อ?” “แกคิดว่าคนที่ไอ้เมฆนัดเป็นเพศชายหรือไง ถ้าเกิดผู้หญิงคนนั้นมาเจอฉันแล้วเข้าใจผิดว่าฉันสนใจจะไม่จับฉันลากเข้าป่าหรอ” ก็จริงของมันนะ ถ้าเกิดผู้หญิงคนนั้นมาเจอแล้วคิดว่ามะขามพิศวาสจะไม่เกาะไม่ปล่อย ความผิดทั้งหมดต้องยกให้เมฆคนเดียว “ทำไมแกดูมั่นใจจัง” “ความหล่อไง^^ ใครเห็นก็ต้องตกหลุมรัก ว่าแต่แกเถอะไม่ตกหลุมบ้างหรอ” มะขามสบตาฉันเหมือนกำลังค้นหาคำตอบ เราต่างคนต่างเงียบ สบตากันอยู่อย่างนั้นเหมือนแข่งกันสบตาอย่างนั้น แต่ฉันไม่ไหวรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา ก่อนจะรีบตอบคำถาม “ไม่อ่ะ ในสายตาฉันแกหน้าตาบ้านๆ มาก” “นี่นะหน้าตาบ้านๆ ฉันบ้านแล้วคนที่หล่อน้อยกว่าเรียกว่าอะไร” มะขามชี้หน้าตัวเอง “จะเรียกอะไรก็ช่าง แต่แกหน้าตาไม่ผ่าน” ฉันพูดพร้อมยกมือทำท่ากากบาท มันได้แต่นั่งคอตกเป็นอันว่าการสนทนาได้จบลงเพียงเท่านี้ สามสิบนาทีผ่านไปไวเหมือนโกหกเธอคนนั้นก็ยังไม่มา ฉันกับมะขามได้แต่นั่งเซ็ง (= =) (= =) “ฉันว่าเรากลับกันเถอะ” “จะดีหรอ” จะสุภาพบุรุษไปไหนคะ? “ดีสิ ฉันนั่งรอจนรากจะงอกแล้ว” ฉันยืนปิดขี้เกียจไปมา จู่ๆ ก็มีเสียงคนวิ่ง ทักๆ มาจากด้านหลัง ( 0 0) “เอ่อ สวัสดีค่ะ ใช่พี่เมฆหรือเปล่าคะ ^^” ผู้หญิงหน้าตาน่ารัก แก้มอมชมพูดูสุขภาพดีบวกกับการใส่ชุดสีฟ้าทำให้เธอดูดีมากๆ เอ่ยถามมะขามที่กำลังมองมาที่เธอ “เอ่อ ไม่ครับ พี่มะขาม” “แล้วพี่เมฆล่ะคะ” เธอมองซ้ายมองขวามาเจอฉันยืนตีหน้าบึ้งให้ เลยรีบหันไปทางเมฆอย่างรวดเร็ว “เมฆให้พี่มาแทน” “ทำไมล่ะคะ พี่เมฆทำไมผิดสัญญาแบบนี้” TOT เอาไงแล้วจู่ๆ เธอเบะหน้าจะร้องไห้ขึ้นมาทำเอามะขามทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ได้แต่ส่งสายตาอ้อนวอนให้ฉันช่วย “น้องคะ พี่เมฆไม่ว่างเลยให้พี่มะขามมาแทน ครั้งนี้ไม่ได้เดต ครั้งหน้าก็ยังมีนะ” “พี่พูดจริงนะ เบบี้จะรอวันนั้น งั้นเบบี้ไปก่อนนะ อ้อ! ขอโทษที่มาสายนะคะ บายค่ะ” เบบี้พูดเสร็จก็รีบเดินจากพวกเราไปด้วยความรู้สึกดีใจกับเดตครั้งหน้า จะมีครั้งหน้าที่ไหนกันล่ะ ฉันมั่วเองสดๆ ไม่รู้ฉันจะบาปหรือเปล่า แต่ช่างเถอะเอาเป็นว่าคนที่ผิดเต็มคือเมฆ! “เจ้าฟ้าโกหกน้องเบบี้ทำไม” ยังจะมาตอบย้ำให้ฉันรู้สึกผิดอีก “ฉันนี่นะ” ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ “ใช่…พูดไปแบบนั้นก็เป็นการให้ความหวังเดี๋ยวน้องเบบี๋ก็ไปสร้างปัญหาให้ไอ้เมฆหรอก” “ช่างสิ ให้มันแก้ปัญหาเองแล้วกัน” พูดจบฉันก็คว้ากระเป๋าแล้วหมุนตัวเดินไปตามทางออกสวน “เจ้าฟ้า! แล้วนั่นแกจะไปไหน” “กลับบ้านน่ะสิ” “รอก่อนสิ” มะขามรีบวิ่งมาขนาบข้างฉัน “…” “ช่วยอะไรสักอย่างได้มั้ย” “อะไร” “ช่วยไปดูต้นไม้เป็นเพื่อนหน่อยสิ” ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้ไปช่วยดู ทั้งที่ก็เป็นหน้าที่ฉันต้องทำเป็นประจำทุกเดือนเพื่อนำต้นไม้ใหม่มาประดับตกแต่งตามจุดต่างในโรงเรียนแทนต้นที่กำลังจะเหี่ยวเฉา เพราะต้นที่เราเลือกมาประดับเป็นไม้ล้มลุก ไม้เมืองหนาวบ้างทำให้ต้องเปลี่ยนอยู่ทุกๆ เดือน และที่ต้องเปลี่ยนอยู่ทุกเดือนเนื่องจากนโยบายจากผู้อำนวยการที่มองหมายให้ชมรมรักษ์โลกรับผิดชอบโดยให้โจทย์ว่าจะทำอย่างไรให้โรงเรียนมีสีสันที่หลากหลายเพื่อดึงดูดความสนใจให้นักเรียนมาเรียนทุกวันและมันก็ได้ผลดีเลยทีเดียว เพราะนักเรียนจะรอลุ้นว่าเดือนนี้สีสันของโรงเรียนจะออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งมันก็สร้างความหนักใจและปวดหัวให้กับชมรมของเรา “แล้วเดือนนี้ธีมอะไร” “ยังไม่ได้คิด” หา! ยังไม่ได้คิดเป็นไปได้ยังไงปกติมะขามจะคิดธีมของในแต่ละเดือนไว้ล่วงหน้าเสมอเพื่อสำรองไว้หากหาต้นไม้ไม่ได้ตามรูปแบบของธีมก็จะเอาธีมที่สำรองมาแทน ฉันต้องต่อว่าสักหน่อยแล้วแต่คงจะไม่ทันที่จะได้ต่อว่าอะไร มันเล่นเดินนำออกไปแล้ว
ณ ร้านไม้เมือง เรามาถึงหน้าร้านขายต้นไม้เจ้าประจำ บรรยายกาศภายในร้านค่อนข้างร่มรื่นมีต้นไม้ให้เลือกหลากหลาย รู้สึกสดชื่นทันทีที่ก้าวเข้ามา ลุงเติมเจ้าของร้านก็เดินออกมาต้อนรับทันทีพร้อมกับรอยยิ้มที่เป็นมิตร “สวัสดีหนูๆ” “สวัสดีครับ/ค่ะ” กล่าวทักทายลุงเติมเสร็จก็ปล่อยให้มะขามกับลุงคุยกันไป ส่วนฉันขอเดินเล่นดูดอกไม้เพื่อเอาไปปลูกที่บ้านสักต้น “วันนี้จะเอาต้นไม้อะไรบ้าง ลุงจะพาไปดูก่อน” “ยังคิดไม่ออกเลยครับ ว่าจะขอไอเดียดีๆ จากลุงนี่ล่ะ” “ลุงมีไอเดียดีๆ ที่ไหนกัน ลุงก็เอามาจากประสบการณ์บวกกับความรู้สึกทั้งนั้น” “นี่ล่ะครับที่มันดี การใช้ความรู้สึกร่วมด้วยงานที่ทำก็จะสื่อออกมาดีด้วย ผมว่าลุงช่วยคิดหน่อยนะครับ ช่วงนี้สมองผมรวนนิดหน่อย” “ฮ่าๆ สมองรวนเลยเหรอ ยังหนุ่มยังแน่นอยู่เลยนะหรือว่าจะเป็นเพราะดอกไม้ที่ร้านลุง ดูสิทั้งสวยทั้งหอมเลยดอกมะลิ กลีบขาวนวลน่าจับน่ามอง น่าทะนุทนอม ของสวยๆ ก็ต้องมีเผลอใจกันบ้างว่ามั้ย ลุงไปดูดอกไม้อีกด้านให้ก่อนนะ” พูดจาให้ตีความยากแต่ตั้งใจแซวกันเห็นๆ มะขามลอบยิ้มพลางมองไปยังดอกไม้ที่เป็นสาเหตุ
ลุงเติม:ดอกไม้สวยก็ต้องเผลอใจเป็นธรรมดา
มะขาม:เผลอไปทั้งใจเลยครับ
เมื่อยี่สิบนาทีที่แล้วฉันยังอยู่บ้าน นั่งดูการ์ตูนอย่างมีความสุข แต่ตอนนี้ฉันกลับมานั่งรอใครสักคนเป็นเพื่อนมะขามหน้าสวนสาธารณตอนแปดโมงเช้า อยากรู้จังมานั่งรอใคร ถามไปกี่ทีมันก็ไม่บอก บอกแค่ว่าเดี๋ยวก็รู้ “มะขาม แกมานั่งรอใคร” “เดี๋ยวก็รู้” “เดี๋ยวก็รู้ๆ แกบอกฉันมาสิบรอบแล้วนะ แล้วไหนล่ะคนที่แกมารอเมื่อไหร่จะโผล่มาสักที” “เดี๋ยวก็รู้” “แกพูดเป็นคำเดียวหรือไง ฉันไม่ตลกด้วยนะ” ฉันเหวี่ยงออกไปอย่างไม่ลืมหูลืมลืมตาไม่สนใจคนรอบข้างที่กำลังมองเราสองคนอยู่ ปกติฉันเป็นคนมีเหตุผลและใจเย็นกว่านี้แต่ครั้งฉันไม่รู้เรื่องราวอะไรแล้วต้องมานั่งรอใครก็ไม่รู้ ถามมะขามก็บอกได้แค่ว่าเดี๋ยวก็รู้ มันสมควรโมโหมั้ย “แกจะโวยวายทำไม” มะขามพูดอย่างใจเย็นผิดกับฉันที่กำลังร้อนเป็นไฟ “แกลองเป็นฉันไหมล่ะ โดนลากมาเพื่อนั่งรอใครสักคนเนี่ยนะ สู่เอาเวลาที่นั่งรอไปดูการ์ตูนยังดีกว่าเลย” “จริงๆ แล้วที่ฉันบอกว่าเดี๋ยวก็รู้ เพราะฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามานั่งรอใคร” “ไม่รู้ แกจะบ้าหรือไง หรือว่าแกนัดสาวไว้” “ไม่ใช่” “…..” “จริงๆ แล้วไอ้เมฆให้ฉันมาแทนมัน มันไม่ว่าง มันบอกแค่ให้มารอที่สวนสาธารณแถวโรงเรียนตอนแปดโมงเช้า ฉันเลยชวนแกมาไง” “เพื่อ?” “แกคิดว่าคนที่ไอ้เมฆนัดเป็นเพศชายหรือไง ถ้าเกิดผู้หญิงคนนั้นมาเจอฉันแล้วเข้าใจผิดว่าฉันสนใจจะไม่จับฉันลากเข้าป่าหรอ” ก็จริงของมันนะ ถ้าเกิดผู้หญิงคนนั้นมาเจอแล้วคิดว่ามะขามพิศวาสจะไม่เกาะไม่ปล่อย ความผิดทั้งหมดต้องยกให้เมฆคนเดียว “ทำไมแกดูมั่นใจจัง” “ความหล่อไง^^ ใครเห็นก็ต้องตกหลุมรัก ว่าแต่แกเถอะไม่ตกหลุมบ้างหรอ” มะขามสบตาฉันเหมือนกำลังค้นหาคำตอบ เราต่างคนต่างเงียบ สบตากันอยู่อย่างนั้นเหมือนแข่งกันสบตาอย่างนั้น แต่ฉันไม่ไหวรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา ก่อนจะรีบตอบคำถาม “ไม่อ่ะ ในสายตาฉันแกหน้าตาบ้านๆ มาก” “นี่นะหน้าตาบ้านๆ ฉันบ้านแล้วคนที่หล่อน้อยกว่าเรียกว่าอะไร” มะขามชี้หน้าตัวเอง “จะเรียกอะไรก็ช่าง แต่แกหน้าตาไม่ผ่าน” ฉันพูดพร้อมยกมือทำท่ากากบาท มันได้แต่นั่งคอตกเป็นอันว่าการสนทนาได้จบลงเพียงเท่านี้ สามสิบนาทีผ่านไปไวเหมือนโกหกเธอคนนั้นก็ยังไม่มา ฉันกับมะขามได้แต่นั่งเซ็ง (= =) (= =) “ฉันว่าเรากลับกันเถอะ” “จะดีหรอ” จะสุภาพบุรุษไปไหนคะ? “ดีสิ ฉันนั่งรอจนรากจะงอกแล้ว” ฉันยืนปิดขี้เกียจไปมา จู่ๆ ก็มีเสียงคนวิ่ง ทักๆ มาจากด้านหลัง ( 0 0) “เอ่อ สวัสดีค่ะ ใช่พี่เมฆหรือเปล่าคะ ^^” ผู้หญิงหน้าตาน่ารัก แก้มอมชมพูดูสุขภาพดีบวกกับการใส่ชุดสีฟ้าทำให้เธอดูดีมากๆ เอ่ยถามมะขามที่กำลังมองมาที่เธอ “เอ่อ ไม่ครับ พี่มะขาม” “แล้วพี่เมฆล่ะคะ” เธอมองซ้ายมองขวามาเจอฉันยืนตีหน้าบึ้งให้ เลยรีบหันไปทางเมฆอย่างรวดเร็ว “เมฆให้พี่มาแทน” “ทำไมล่ะคะ พี่เมฆทำไมผิดสัญญาแบบนี้” TOT เอาไงแล้วจู่ๆ เธอเบะหน้าจะร้องไห้ขึ้นมาทำเอามะขามทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ได้แต่ส่งสายตาอ้อนวอนให้ฉันช่วย “น้องคะ พี่เมฆไม่ว่างเลยให้พี่มะขามมาแทน ครั้งนี้ไม่ได้เดต ครั้งหน้าก็ยังมีนะ” “พี่พูดจริงนะ เบบี้จะรอวันนั้น งั้นเบบี้ไปก่อนนะ อ้อ! ขอโทษที่มาสายนะคะ บายค่ะ” เบบี้พูดเสร็จก็รีบเดินจากพวกเราไปด้วยความรู้สึกดีใจกับเดตครั้งหน้า จะมีครั้งหน้าที่ไหนกันล่ะ ฉันมั่วเองสดๆ ไม่รู้ฉันจะบาปหรือเปล่า แต่ช่างเถอะเอาเป็นว่าคนที่ผิดเต็มคือเมฆ! “เจ้าฟ้าโกหกน้องเบบี้ทำไม” ยังจะมาตอบย้ำให้ฉันรู้สึกผิดอีก “ฉันนี่นะ” ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ “ใช่…พูดไปแบบนั้นก็เป็นการให้ความหวังเดี๋ยวน้องเบบี๋ก็ไปสร้างปัญหาให้ไอ้เมฆหรอก” “ช่างสิ ให้มันแก้ปัญหาเองแล้วกัน” พูดจบฉันก็คว้ากระเป๋าแล้วหมุนตัวเดินไปตามทางออกสวน “เจ้าฟ้า! แล้วนั่นแกจะไปไหน” “กลับบ้านน่ะสิ” “รอก่อนสิ” มะขามรีบวิ่งมาขนาบข้างฉัน “…” “ช่วยอะไรสักอย่างได้มั้ย” “อะไร” “ช่วยไปดูต้นไม้เป็นเพื่อนหน่อยสิ” ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้ไปช่วยดู ทั้งที่ก็เป็นหน้าที่ฉันต้องทำเป็นประจำทุกเดือนเพื่อนำต้นไม้ใหม่มาประดับตกแต่งตามจุดต่างในโรงเรียนแทนต้นที่กำลังจะเหี่ยวเฉา เพราะต้นที่เราเลือกมาประดับเป็นไม้ล้มลุก ไม้เมืองหนาวบ้างทำให้ต้องเปลี่ยนอยู่ทุกๆ เดือน และที่ต้องเปลี่ยนอยู่ทุกเดือนเนื่องจากนโยบายจากผู้อำนวยการที่มองหมายให้ชมรมรักษ์โลกรับผิดชอบโดยให้โจทย์ว่าจะทำอย่างไรให้โรงเรียนมีสีสันที่หลากหลายเพื่อดึงดูดความสนใจให้นักเรียนมาเรียนทุกวันและมันก็ได้ผลดีเลยทีเดียว เพราะนักเรียนจะรอลุ้นว่าเดือนนี้สีสันของโรงเรียนจะออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งมันก็สร้างความหนักใจและปวดหัวให้กับชมรมของเรา “แล้วเดือนนี้ธีมอะไร” “ยังไม่ได้คิด” หา! ยังไม่ได้คิดเป็นไปได้ยังไงปกติมะขามจะคิดธีมของในแต่ละเดือนไว้ล่วงหน้าเสมอเพื่อสำรองไว้หากหาต้นไม้ไม่ได้ตามรูปแบบของธีมก็จะเอาธีมที่สำรองมาแทน ฉันต้องต่อว่าสักหน่อยแล้วแต่คงจะไม่ทันที่จะได้ต่อว่าอะไร มันเล่นเดินนำออกไปแล้ว
ณ ร้านไม้เมือง เรามาถึงหน้าร้านขายต้นไม้เจ้าประจำ บรรยายกาศภายในร้านค่อนข้างร่มรื่นมีต้นไม้ให้เลือกหลากหลาย รู้สึกสดชื่นทันทีที่ก้าวเข้ามา ลุงเติมเจ้าของร้านก็เดินออกมาต้อนรับทันทีพร้อมกับรอยยิ้มที่เป็นมิตร “สวัสดีหนูๆ” “สวัสดีครับ/ค่ะ” กล่าวทักทายลุงเติมเสร็จก็ปล่อยให้มะขามกับลุงคุยกันไป ส่วนฉันขอเดินเล่นดูดอกไม้เพื่อเอาไปปลูกที่บ้านสักต้น “วันนี้จะเอาต้นไม้อะไรบ้าง ลุงจะพาไปดูก่อน” “ยังคิดไม่ออกเลยครับ ว่าจะขอไอเดียดีๆ จากลุงนี่ล่ะ” “ลุงมีไอเดียดีๆ ที่ไหนกัน ลุงก็เอามาจากประสบการณ์บวกกับความรู้สึกทั้งนั้น” “นี่ล่ะครับที่มันดี การใช้ความรู้สึกร่วมด้วยงานที่ทำก็จะสื่อออกมาดีด้วย ผมว่าลุงช่วยคิดหน่อยนะครับ ช่วงนี้สมองผมรวนนิดหน่อย” “ฮ่าๆ สมองรวนเลยเหรอ ยังหนุ่มยังแน่นอยู่เลยนะหรือว่าจะเป็นเพราะดอกไม้ที่ร้านลุง ดูสิทั้งสวยทั้งหอมเลยดอกมะลิ กลีบขาวนวลน่าจับน่ามอง น่าทะนุทนอม ของสวยๆ ก็ต้องมีเผลอใจกันบ้างว่ามั้ย ลุงไปดูดอกไม้อีกด้านให้ก่อนนะ” พูดจาให้ตีความยากแต่ตั้งใจแซวกันเห็นๆ มะขามลอบยิ้มพลางมองไปยังดอกไม้ที่เป็นสาเหตุ
ลุงเติม:ดอกไม้สวยก็ต้องเผลอใจเป็นธรรมดา
มะขาม:เผลอไปทั้งใจเลยครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ