Waiting for love รอเธอรัก...ควักหัวใจยัยเพื่อนซี้

-

เขียนโดย ภีรภร

วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.44 น.

  15 ตอน
  0 วิจารณ์
  17.48K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558 17.18 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ฉันชอบได้กำไร

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          

               พอนึกถึงประโยคของไตรที่บอกว่า “มีคนสวยกว่าเธอ” ฉันก็มานั่งคิดนอนคิดอยู่หลายตลบแล้วก็ได้คำตอบว่ามีคนที่สวยกว่าฉันอยู่ถมเทไป  ไหนจะฟองฟองดาวโรงเรียน เอ่อคนอะไรชื่อฟองฟอง  แต่ช่างเถอะ  แล้วไหนจะเนสเร่เด็กใหม่ห้อง 3  อันนี้ก็ยี่ห้อน้ำดื่ม  เตเต้กิ๊กเก่าเมฆ  แฟร์รี่ดัมเมเยอร์  เพียวฟ้าห้อง 5 อ้อแล้วก็อีกคนที่มะขามชอบ  ชื่ออะไรไม่รู้หน้าตาก็ไม่คุ้น สงสัยจะเป็นเด็กใหม่  ยังไม่หมดเท่านี้หรอกนะ  คนสวยในโรงเรียนนี้มีจนนับไม่ถ้วนและหลายๆ คนก็มีแฟนไปแล้วหลายคน  แต่ฉันก็จัดได้ว่าสวย (ตามที่เมฆบอก) แต่กลับไม่มีแฟนไม่สิไม่เคยมีด้วยซ้ำ  ความรักไม่เคยมีอยู่ในหัวสมองเลยแม้แต่น้อย  วันๆ อยู่กับสี่หนุ่มรักษ์โลกจนบ้างครั้งฉันอยากเป็นผู้ชายขึ้นมาจริงๆ  ความเอ่ยความรักมันเป็นยังไงจะรู้สึกดีใจ  เสียใจ  ตื่นเต้น  โลกสดใสสีชมพูอย่างที่เขาว่ากันไหมนะ  คร่อก ZZZ

                
                “เจ้าฟ้า  เสร็จยังลูก  มะขามรอนานแล้วนะ”  แม่ส่งเสียงเรียกฉันเป็นรอบที่สามแล้ว  ปกติฉันตื่นเร็ว แต่งตัวเร็วแต่วันนี้มันแตกต่างไปนิดหน่อยเองนะก็แค่ นั่งแต่งตัวพิถีพิถันกว่าเดิม  ทาแป้งฝุ่นนิดหน่อย  ทาลิปมันบางๆ  ฉีดน้ำหอมนิดหน่อย  ปกติฉันไม่เคยทำอะไรเยอะขนาดนี้  แต่เพื่อต้องการพิสูจน์บางอย่างก็เท่านั้น
                “ค่า  เสร็จแล้ว่าแม่”  ฉันสะพายกระเปาเป้สีน้ำตาลอ่อนของโรงเรียนวิ่งลงบันไดอย่างรีบเร่ง
                “เจ้าฟ้า
!” 
                “ทำไมแม่ต้องตะโกนด้วย  หนูตกใจหมด  
T_T
                “ใช่เจ้าฟ้าจริงๆ หรือเปล่านี่”  แม่จับตัวฉันหันซ้ายหันขวาพลางจับนู้นจับนี่จนมาจบลงที่หน่มน้มช้านนน  จนต้องเอามือมากุมไว้
                “แม่จับหน้มน้มหนูทำไม 
=O=
                “ฮ่าๆ  ไม่ต้องจับหรอกครับน้าฉัตร  ปากอย่างงี้เสียงอย่างนี้เจ้าฟ้าชัวร์ครับ 
^^”  มะขามคงยืนอยู่นานแล้ว  O_O แสดงว่ามันเห็นแม่จับนมฉันแล้ว  
                “ก็จริงนะมะขาม  รีบไปโรงเรียนกันเถอะเดี๋ยวจะสายเอานะ”  แม่ดุนหลังพวกฉันออกมานอกบ้านพร้อมส่งขนมปังอบเนยส่งให้คนละหนึ่งห่อ “เอาไว้กินตอนรอรถนะ”
                “ไปแล้วแม่”
                “สวัสดีครับน้าฉัตร”  มะขามยกมือไหว้แม่ฉันแล้วเดินนำออกไปตามฟุตบาธ  
                บ้านฉันอยู่ในซอยแต่ก็ไม่ห่างจากป้ายรถเมย์มากนัก  เดินออกไปพ้นซอยก็เจอป้ายรถเมย์พอดี  บ้านฉันเป็นบ้านสองชั้นมีสนามหญ้าหน้าบ้านประดับด้วยต้นไม้ดอกไม้หลายสายพันธุ์ ข้างรั้วบ้านซึ่งติดกับบ้านมะขามปลูกมะลิเป็นแถวยาวเวลามะลิออกดอกจะส่งกลิ่นหอมไปในห้องนอนทำให้หลับสบายแถมยังผ่อนคลายอีกด้วย  
                “เจ้าฟ้า”  
                จู่ๆ มะขามก็หยุดเดินทำให้หน้าฉันกระแทกเข้ากับหลังมันอย่างแรง
                “จะหยุดเดินทำไมนี่  เจ็บดั้งจัง”  
                “เปล่า  เฮ้อ”  ถอยหายใจ 
                “ถอยๆ ขวางทาง”  ฉันส่ายหน้านิดหน่อยแล้วเดินนำหน้ามันไป  แต่แล้ว

                “โฮ่งๆ
!!!!!!!!
                “มะขาม เฮ้ยๆ”
                “เฮ้ยๆ แกอยู่นิ่งๆ สิเจ้าฟ้า”
                “โฮ่งๆ
!!!!
                ฝูงหมาดำตัวใหญ่ๆ ประมาณห้าตัววิ่งมาแล้วมันก็เห่า น้ำลายไหลย้อยลงมาตามทาง อ่ะ
! มันเป็นหมาบ้า ด้วยความที่ไม่ค่อยถูกกับหมาพวกนี้ฉันวิ่งไปเกาะหลังมะขาม พลางกระโดดโหย่งๆ ไปด้วย ไม่ไหวแล้ว กลัว กลัว ต้องหาที่สูงๆ
                “ฟึบ
!
                “เฮ้ย จะมาขึ้นหลังฉันทำไม ลงไปๆ ฉันไม่แบบช้าง”
                “แกจะว่าฉันเป็นช้างก็ยอม ฉันไม่ลง” 
TOT 
                ฉันหลับตาไม่อยากเห็นอะไรทั้งสิ้นพลางเอาหน้าซบลงกับหลังของมะขาม สักพักเสียงเหาของหมาก็ค่อยๆ เบาลง
                “เจ้าฟ้า มันไปแล้ว”
                “อือ”
                ตอบรับไปแต่ยังเอาหน้าซบหลังอยู่ เนื้อตัวแนบชิดไปกับตัวมะขามเลยล่ะ
                “เอ่อ
หนักว่ะ”
                “เดินไปถึงให้ป้ายรถเมย์ก่อน ถ้ามันกลับมาอีกล่ะ”
                “มันไม่กลับมาหรอก”
                “ไม่ลง”
                “แกจะลงมั้ย เจ้าฟ้า”
                “ไม่ลง”
                “เออก็ดี ฉันชอบได้กำไร”
                “กำไร?”
                “เออ นิ่มด้วย”
                “นิ่ม?”
                
O_O นิ่ม อะไรนิ่ม หรือว่า เฮ้ยนมฉันแนบชิดกับแผ่นหลังมัน ฉันรีบลงจากหลังมันแล้วหมายจะเข้าไปขยี้ผมมันให้เละแต่ฉันเตี้ยอ่ะได้แต่กระชากคอเสื้อ
                “ไอ้มะขาม แกคิดอกุศลกับฉัน”
                “ฮ่าๆ ถึงแกจะไม่มีนม แต่มันก็นิ่มนะ”
                “ฮึ่ย
! ไอ้ลามก หมับ!
                จะต่อยหน้ามันสักรอบแต่มันกลับรับหมัดไว้ได้ทันแล้วจับมือฉันไว้แน่น โน้มหน้าลงมาเกือบจะชิดกัน
                “อย่าเขินสิ รู้มั้ย” มะขามสบตาฉันนิ่งแล้วค่อยๆ ไล้นิ้วตามแก้มฉันไปมาอย่างแผ่วเบา “วันนี้แกสวยนะ” 
O_O อ่ามันชมว่าฉันสวย ร้อยวันพันปีไม่เคยพูด
                “เอ่อ
” ไม่กล้าพูดอะไรออกไป ตอนนี้ทั้งเขินทั้งประหม่าทำตัวไม่ถูก
                “อย่าแต่งหน้าแบบนี้อีกนะ”
                “

                “จะไปเล่นลิเกที่ไหนวะ ก๊ากๆ”
                “ไอ้มะขาม
! แกตาย! 
                ฉันเตะเข้าที่ขาพับ เอากระเป๋าฟาดหัวมันไปสองที มันล้มลงพื้นร้องอวดครวญให้ไปช่วย หึ! มันคือแผนการของมัน ถ้าฉันไปช่วยมันต้องเอาคืนฉันอยู่ ดี เจ็บใจนักมันหลอกด่า!><
                ระหว่างเดินไปยังป้ายรถเมล์ฉันก็หยิบขนมที่แม่ให้มาจับยัดเข้าปาก  ต้องใช้คำว่ายัดเลยล่ะเพราะต้องรีบกินถ้ากินบนรถคงจะไม่ได้ไหนจะยืนเบียดเสียดกันคนอื่น  ไหนจะจับราวเพื่อยึดตัวไม่ให้ล้มเวลารถเบรก  ส่วนมะขามกินขนมอย่างสบายใจไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลย กินเสร็จก็ล้วงเอาโทรศัพท์พร้อมหูฟังออกจากกระเป๋านักเรียนแล้วฟังเพลงโดยไม่สนใจโลกภายนอกจนรถเมล์สายที่จะขึ้นมาจอดรับมันก็เดินนำขึ้นรถไป  วันนี้คนค่อนข้างหนาแน่นกว่าทุกวัน สายตาฉันก็จับจองหาที่ยืน  ซึ่งแน่นอนว่าที่นั่งเต็มหมดเลยต้องหาที่ยืนแทน  T_T  แต่จะมองหายังไงก็ไม่พบว่าจะมีที่ให้ฉันเข้าไปยืนได้  มีแต่ผู้ชายยืนเต็มไปหมดเลย  แล้วมะขามหายไปไหนนี่  ( - -   )(   - -)  ขณะที่ฉันกำลังมองหาก็มีมือมาดึงแขนฉันถลาเข้าหา  
                “หือ?”  ฉันมองหน้าคนที่ดึงแขนฉัน  
                “ยืนนิ่งๆ มันร้อน”  มะขามใช้ตัวกันฉันจากผู้ชายสูงๆ ผิวดำหน้าโหดคนนึงแล้วใช้มือข้างที่ไม่ได้จับราวเอื้อมไปจับเบาะรถไว้ทำให้เหมือนเขากำลังโอบฉันอยู่  พอมายืนใกล้ๆกันแบบนี้ เพิ่งรู้ว่าฉันสูงแค่หน้าอกมันเองแต่ก่อนฉันกับมะขามสูงเท่ากันแต่ตอนนั้นเราอยู่ชั้นประถม  ฉันเห็นมันกินนมวันละสามกล่องได้มั้งคือกินเช้า  กลางวัน  เย็น
                “เตี้ยจังนะ”  อยู่ๆ มันก็พูดขึ้นมาหลังจากที่เงียบไปนาน
                “ใครมันจะไปเท่าแกล่ะ  อย่างกับเสาไฟฟ้า”
                “แล้วมันดีไหมล่ะ”
                “ดียังไง”
                “ฉันขึ้นรถเมล์ได้อย่างสบายๆ จับราวได้”  มันมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า  “แค่เอื้อมมือมาจับราวยังไม่ถึงเลย”
                “
(>o<)
                
“แต่น่ารักดี/ปริ๊นๆ”  ประโยคนี้ฉันฟังไม่ค่อยถนัดหรอกเพราะเสียงแตรรถกลบเสียงมะขามหมด  ฉันได้แต่มองหน้าเป็นเชิงบอกให้พูดอีกครั้งแต่มันกลับ ทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

 

ถ้าชอบ อีกช่องทางหนึ่งนะคะ จะลงเร็วกว่า คลิกเลยจ้า ^_^

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา