พิมพ์ลิขิตเเอบรัก

-

เขียนโดย Dashathone

วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.29 น.

  18 ตอน
  2 วิจารณ์
  23.68K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558 23.39 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

16) วินาทีชีวิต 100%

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 13

วินาทีชีวิต

 

                หลังจากได้รับการแนะนำและหน้าที่ขอบเขตความรับผิดชอบจากท่านประธานบริษัทอย่างคุณระพีแล้ว ทั้งธีร์ภพและพิมพ์ภัทรจึงออกจากห้องประชุมใหญ่หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง แต่คนที่เอาแต่ทำหน้ามุ่ยบอกบุญไม่รับ กลับเป็นเลขาส่วนตั๊วส่วนตัวของชายหนุ่มอย่างพิมพ์ภัทรเอง เพราะงานที่ธีร์ภพนักเรียนนอกจบใหม่ต้องทำในเวลาสามเดือนแทบเป็นไปไม่ได้ ก็เพราะมันค่อนข้างหนักหนาสาหัสนัก ต่อให้ใช้เวลาทั้งปีก็อาจจะทำสำเร็จเพียงอย่างเดียว

                “เลิกถอนหายใจได้แล้วคนดี เดี๋ยวแก่เร็วนะ” ธีร์ภพเอ่ยยิ้มๆพลางลูบศีรษะทุยสวยไปด้วย หวังให้คนรักหายทุกข์ใจโดยเร็ว เขาเข้าใจหญิงสาวดีว่าทั้งห่วงและกังวลแทนตนมากแค่ไหน สำหรับคนที่มีประสบการณ์น้อยเช่นเขา มันออกจะดูเกินกำลังไปนิดเพราะต้องมาตรวจสอบการทำงานย้อนหลังของทุกแผนก ถอนรากถอนโคลนพวกทุจริตทุกคนไมให้เหลือ และตบท้ายด้วยการวางระบบของบริษัทใหม่ทั้งหมด โดยอำนาจสั่งการทุกอย่างในมือเขาจะขึ้นตรงต่อคุณระพีแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่ผ่านทีมบริหารสักคน เพราะท่านต้องการกำจัดพวกเกลือเป็นหนอนให้สิ้นซาก แต่ก็ยังดีที่ท่านอนุญาตให้เขาสามารถตั้งทีมงานเฉพาะแบบลับๆของตัวเองได้ ทว่ามีหรือที่เขาจะหวั่น ก็ในเมื่อมีผู้หญิงน่ารักน่าใคร่มาคอยนั่งสบตาให้กำลังใจทุกวันแบบนี้ คนอย่างธีร์ภพสู้สุดใจขาดดิ้น เพราะเดิมพันนับมูลค่าไม่ได้นั้นคือเจ้าของหัวใจหน้าแฉล่มคนนี้เท่านั้น เห็นทีคงต้องขอความช่วยเหลือจากนายเหมืองสุดที่รักกับทายาทมหาเศรษฐีอย่างภวินท์เสียหน่อยแล้ว

                “ภัทรว่าสามปียังน้อยไปด้วยซ้ำ” พิมพ์ภัทรพูดกระแทรกเสียงหงุดหงิด ที่บิดาของเธอมอบงานสุดหินให้ชายหนุ่มพิสูจน์ตัวเองเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น

                “ยังไงพี่ก็ต้องทำให้ได้ เดี๋ยวเขาไม่ยกลูกสาวให้” คนตัวโตยังคงพูดด้วยรอยยิ้มราวกับไม่มีเรื่องงานให้หนักอก ทั้งๆที่บททดสอบนี้มันเป็นงานช้างสำหรับเขาแท้ๆ

                “ภัทรยังไม่ตกลงด้วยสักหน่อย” พิมพ์ภัทรตอบหน้าตายแต่แววตากลับมีประกายหวานซุกซนให้คนมองชุ่มฉ่ำหัวใจเล่น

                “หว้า....งั้นพี่คงไม่ต้องรอครบสามเดือนแล้วล่ะ ฉุดวันนี้เลยแล้วกัน” ไม่พูดเปล่า ท่านรองประธานยังจุมพิตแก้มนุ่มเร็วๆหนึ่งที ราวกับยืนยันว่าจะทำอย่างที่พูด

                “บ้า...” ถึงโดนหอมแก้มเพียงข้างเดียว แต่กลับรู้สึกร้อนผ่าวทั้งสองข้างจนต้องเอามือมากุม ก่อนจะถลึงตาใส่หลังชายหนุ่มที่เดินหัวเราะกลับไปนั่งทำงานต่อที่โต๊ะ โดยไม่สนคนถูกกระทำเลยสักนิด

                ห้องทำงานของหนึ่งในทีมผู้บริหารซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องของธีร์ภพ ชายหนุ่มผิวเข้มในชุดสูทสุดหรูกำลังนั่งเอนกายบนเก้าอี้ ใช้นิ้วมือหมุนโทรศัพท์มือถือไปมาบนผิวกระจกของโต๊ะทำงานทรงทันสมัย ราวกับกลังขบคิดหาทางออกให้กับปัญหาใหญ่ ณทีเข้ามาทำงานบริษัทนี้ได้ เพราะบิดาของตนร่วมหุ้นในโปรเจ็คคอนโดมิเนียมกลางเมืองยอดนิยมมูลค่าหลายพันล้าน พูดถึงบิดาตัวเองทีไรเป็นอันต้องเจ็บปวดทุกครั้ง เพราะแม่ของเขาเป็นเพียงอนุลับของท่านทูตคนดังอย่างไม่ได้ตั้งใจ และเป็นเมียคนที่สองรองจากคุณหญิงพราวพรรณี ยัยแก่หนังเหนี่ยวบ้าอำนาจนั่นคอยตามกีดกันเขาและพ่อไม่ให้เจอกัน จนกระทั่งแม่เสียไปด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย พ่อถึงรับตัวเขาเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่ตอนอายุได้สิบขวบ คนภายนอกอาจเข้าใจว่าท่านทูตและคุณหญิงมีลูกสามคน คือ พราวพัตราลูกสาวคนโตผู้เก็บตัว ณภัทรลูกชายคนที่สองซึ่งเขามั่นใจว่ามันเป็นเกย์ และตัวเขาเอง แต่ใครเลยจะล่วงรู้ว่าความจริงว่าเขาเป็นเพียงลูกเมียน้อยที่ผู้เป็นพ่อไม่ได้ตั้งใจจะมี แต่เป็นเพราะกลัวเสียชื่อเสียงและกระทบต่อตำแหน่งหน้าที่การงาน จึงเอาเขามาเลี้ยงแบบออกหน้าออกตา ทว่าในบรรดาลูกทั้งสามคน ณทีคือคนที่เรียนเก่งและเป็นที่หนึ่งเสมอมาเพราะเป็นคนฉลาด ต่างจากลูกเมียหลวงทั้งสองคนที่ไม่มีแววด้านบริหารธุรกิจสักนิด ดังนั้นเขาจึงเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของบริษัทของตระกูล

                ส่วนตอนนี้นะหรือ....เขากำลังจะโดนไอ้ท่านรองประธานหน้าอ่อนนั้นลูบคมซึ่งเขาสั่งสมมานานหลายปี เขาไม่เคยพลาดในเรื่องธุรกิจมืดเบื้องหลังของตัวเองเลยสักครั้ง แม้ธุรกิจรับสั่งซื้ออาวุธจะผิดกฎหมาย แต่ก็ต้องยอมรับว่าผลตอบแทนสูงกว่าการต้องมานั่งหลังแข็งทำงานออฟฟิศอย่างทุกวันนี้มาก และครั้งนี้จะเป็น     ล็อตสุดท้ายที่เขาจะใช้บริษัทนี้เป็นทางผ่าน ก่อนที่เขาจะย้ายฐานไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อร่วมทุนกับเพื่อนคนหนึ่งเปิดผ่อนใกล้ชายแดนที่ให้กำไรเป็นกอบเป็นกำ เขาจะต้องชิงลงมือก่อนที่พวกมันจะจับได้ เพราะเขาจะได้ไม่ต้องทนนั่งฟังคำหยามเหยียดเสียดสีนินทาว่าร้ายจากยัยแก่พราวพรรณีนั่นทุกวัน โดยเฉพาะก่อนทานอาหารเช้าและเย็นในช่วงที่ท่านทูตบิดาผู้เฉยชาไม่อยู่บ้าน

                เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้น นิ้วแกร่งจึงกดโทรออกสั่งการทันที

                “ฉันมีงานให้พวกแกทำ” น้ำเสียงเย็นชาไม่ต่างจากสีหน้าเยือกเย็นนัก

                ‘ครับนาย เมื่อไหร่ดีครับ’ เสียงปริศนาปลายสายน้อมรับ ก่อนจะถามกำหนดการ

                “พรุ่งนี้” ผู้เป็นนายวางสายทันทีที่จบประโยค ก่อนจะสับเปลี่ยนซิมการ์ดแล้วทำลายมันทิ้งด้วยการเผาไฟ

                หากแต่เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์หรูอีกเครื่องก็ดังขึ้นขัดจังหวะให้ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์

                “มีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ คุณนาย” ณทีเอ่ยทักด้วยเสียงเรียบทว่าฟังคุ้นเคยกันดี

                ‘ช่วยเก็บคนคนหนึ่ง’

                “มันไม่อยู่ในแผนของผม” ณทีปฏิเสธเสียงแข็ง ถึงเขาจะสั่งเก็บใครได้ แต่ก็ไม่รับงานฆ่าคนพร่ำเพรื่อ มีหวังแผนการทั้งหมดแตกโป๊ะแน่

                ‘การเข้าพบท่านทูตกับคุณหญิงเพื่อบอกความลับของลูกชายคนเล็กของท่าน ก็ไม่อยู่ในแผนของฉันเหมือนกัน’ คนในสายยังคงพูดเสียงเรียบ แต่แฝงความมั่นใจว่าเหนือชั้นกว่าข่มคนฟัง ก่อนเสียงตัดสัญญาณจะดังขึ้นให้ณทีปาเครื่องมือสื่อสารทิ้งอย่างหัวเสีย เพราะต้องทำตามคำสั่งหญิงแก่หิวเงินอย่างสุนีย์วรรณ

                “เจ้ๆ ทำอะไรอยู่ เจ๊ๆได้ยินเปรมไหม” เสียงร้องเรียกดังลั่นทางเดินของชั้นผู้บริหารไม่แพ้เสียงร้องเท้าส้นสูงกระทบพื้นนั้น เรียกให้เจ้าของชื่อต้องเงยหน้าขึ้นมองต้นตอของเสียงอย่างช่วยไม่ได้

                “อะไรยัยเปรม เอะอ่ะเสียงดังทั้งชั้น”

                “เจ้ รัศมีการนอกใจแรงมากกกก” เสียงเล่าจากญาติผู้น้องเน้นชัดถ้อยชัดคำ แถมลากเสียงยาวย้ำว่าสิ่งที่ตัวเองเพิ่งเห็นมานั้นถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นเป็นแน่

                “อะไรของเธอ ใครนอกใจใคร” พิมพ์ภัทรถามขณะมือกำลังสาละวนอยู่กับเอกสารด่วนเป็นระวิง เพราะเห็นว่าเที่ยงนี้     ธีร์ภพมีธุระกับเพื่อนนักเรียนนอกด้วยกัน เธอจึงกะว่าจะพักช้าไปสักหน่อยเพราะยังไม่ค่อยหิว แต่ก็ไม่อย่างปล่อยเวลาว่าให้เปล่าประโยชน์

                “คือเปรมเห็นอาจารย์ธีร์ถือช่อกุหลาบสีขาวช่อใหญ่เดินเข้าร้าน House of Choco & Bake อ่ะเจ้”

                “กุหลาบสีขาว ร้าน House of…เกรซ” พิมพ์ภัทรเบิกตามองคนเอาข่าวมาบอก รู้สึกเนื้อตัวชาดิกไปทั้งร่าง ส่วนปากก็พึมพำราวกับคนละเมอ ไม่ต่างจากหัวสมองที่กำลังเรียบเรียงคิดตามคำพูดของเปรมนิภา ก่อนจะตัดสินใจเด้งตัวจากเก้าอี้ราวกับโดนของร้อน แล้วมุ่งหน้าไปที่ลิฟต์เพื่องลงไปชั้นล่างสุดของตึกทันที

                “อ้าว เจ้ๆ จะรีบไปไหน เดี๋ยวสิ” เปรมนิภาเรียกพี่สาวเสียงหลงไล่หลัง เมื่อเห็นพิมพ์ภัทรหุนหันเดินดุ่มๆออกจากห้องไปโดยไม่สนใจคนเรียกสักนิด

                ภวินท์ ภาวสุทธิธานันท์ หนุ่มหล่อทายาทคนเดียวของบริษัทค้าเพชรรายใหญ่แห่ง PW Grand Diamond กำลังเดินไปยิ้มไปกับความคิดของตัวเอง เลี้ยวเข้าทางเดินร้านขนม House of Choco & Bake  ก่อนจะเงยหน้าสอดส่ายสายตามองหาเจ้าของร้านและเจ้าของหัวใจคนสวย ซึ่งกำลังจะกลายมาเป็นเจ้าสาวของเขาเร็วๆนี้ แต่กลับไปสะดุดตากับแผ่นหลังของผู้ชาย ซึ่งยืนหันหลังให้เขา กำลังสนทนากับ....คู่หมั้นสาวสุดรักสุดหวง ราวกับสนิทสนมเหมือนรู้จักกันมานานปี แผ่นหลังผึ่งผายในเสื้อเชิ้ตพับแขนสีขาวของผู้ชายผิวขาวเหลือง มันช่างคุ้นตานัก หากแต่ความคิดกลับสะดุดลง เมื่อณธิดาหันมาเห็นเขาก่อน แล้วส่งยิ้มหวานมาให้ภวินท์ ทำให้คู่สนทนาหันกลับมามองตามสายตาหญิงสาว เขาถึงรู้ว่าเป็นใครอย่างที่คาดไม่ถึง

    “พี่ธีร์” ภวินท์ขมวดคิ้วด้วยสงสัยว่าธีร์ภพมาทำอะไรที่นี่ แม้จะรู้มาว่าทั้งคู่รู้จักกันมาก่อน แต่ในฐานะคู่หมั้นและว่าที่เจ้าบ่าวในอนาคต เขาก็มีสิทธิ์หึงหวงมิใช่หรือ แม้ธีร์ภพจะเป็นรุ่นพี่ร่วมมหาวิทยาลัยและสนิทสนมช่วยเหลือเกื้อกูลกันดี เมื่อสมัยเป็นนักเรียนนอกด้วยกันที่อเมริกา

    “อ้าว วินท์” เสียงเรียกจากธีร์ภพดึงสติของภวินท์ กลับมา เขารีบปรับสีหน้ากลบเกลื่อน แล้วยิ้มกว้างให้รุ่นพี่คนสนิท เร่งฝีเท้าเดินเข้าไปแซกกลางระหว่างณธิดาและธีร์ภพแบบแนบเนียน

    “เราเข้าไปในร้านกันเถอะค่ะ” ณธิดาเอ่ยชวนเมื่อเห็นกิริยาแปลกๆระหว่างชายหนุ่มสองคน

เท้าเล็กในรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วหยุดชะงักกับภาพชายสองหญิงหนึ่งที่กำลังคุยกันตรงประตูร้านขนมชื่อดัง แต่ที่แปลกคือทำไมทุกคนถึงมีท่าทีแปลกๆหากธีร์ภพมาร้านนี้ด้วยเหตุผลอื่น ไม่ใช่มาสร้างความลำบากใจเพื่อนรักของเธออย่างณธิดา ซึ่งเคยเป็นผู้หญิงที่เขาเคยบอกว่า ‘แอบชอบ’ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเพื่อนของเธอ ไม่ได้! เธอจะไม่ยอมให้ใครหรืออะไรมาทำให้คนที่กำลังจะได้เป็นเจ้าสาวต้องมีปัญหากับว่าที่เจ้าบ่าวอย่างเจ้านายเก่าแน่

ทว่าเท้าที่กำลังจะเลี้ยวเข้ารั้วไม้สีขาวของร้านต้องชะงักอีกครั้ง เมื่อหางตาประทะเข้ากับปลายกระบอกอาวุธโลหะสีเงินที่อยู่ในมือไอ้โม่งสองคนบนรถมอเตอร์ไซด์ ซึ่งมันกำลังเล็กมาที่.....

“พี่ธีร์ ระวัง!” เสียงใสคุ้นเคยที่ดังขึ้น ทำให้เจ้าของชื่อกำลังจะหันหน้ากลับมามองในเสี้ยวนาที หากแต่ก็ยังช้ากว่าเสียงเพชฌฆาตที่พร้อมจะปลิดชีวิตคน

 ปัง!!!

 สิ่งที่ธีร์ภพเห็นนั้นทำให้หัวใจเขาแทบหยุดเต้น พิมพ์ภัทร... คนที่กล้าเสียงชีวิต เอาร่างอันบอบบางเข้ามาบังกระสุนแทนเขา กลับไม่ใช่คนที่เขาเคยรักเช่นณธิดา แต่เป็นคนที่เขาเห็นเป็นเพียงน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้นและเพิ่งรู้ว่ารักได้ไม่นาน ‘ภัทรทำแบบนี้ทำไม!!!’ เขาวิ่งเข้าไปหาหญิงสาวทันทีแบบไม่ต้องรออะไรทั้งสิ้น ภวินท์และณธิดาวิ่งตามหลังมาติดๆ

ด้วยสติที่ยังเหลือภวินท์หยิบมือถือขึ้นมาเพื่อจะโทรเรียกรถพยาบาล แต่!....หางตาเขากลับเหลือบไปเห็นคนผู้ชายสองคน สวมหมวกกันน็อคปิดใบหน้ามิดชิดบนมอเตอร์ไซต์ไม่ได้กำลังยกปืนสีดำขึ้นเล็งเข้ามาในร้าน เขามองตามอาวุธสีดำจนสุดปลายกระบอก แล้วก็ต้องเบิกตากว้างสุดจนพบเป้าหมายเป็น.........ณธิดา ณราวรกาลกุณ

    “เกรซ....”ภวินท์เรียกชื่อคนรักเสียงแผ่ว หากเท้าไวเท่าความคิด เขาหันเข้าไปกอดหญิงสาวเอาตัวบังไว้ทันที

    ปัง!!!

 “คุณวินท์ ไม่นะ คุณอย่าเป็นอะไรนะ!” ณธิดาเบิกตากว้างตกใจ ล้มหงายหลังลงบนพื้นหญ้า โดยมีร่างสูงใหญ่อยู่ด้านบน  เธอเรียกชื่อเขาด้วยเสียงสะอื้นราวกับจะขาดใจ เมื่อเห็นคนด้านช่วยชีวิตแน่นิ่งไป คล้ายกับหลับใหลไม่รู้ตัว เสียงรถพยาบาลที่ภวินท์เรียกก่อนหน้านี้ ส่งสัญญาณดังอยู่หน้าร้านนั้น ดึงสติทั้งธีร์ภพและณธิดาให้รู้ว่าต้องรีบพาผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสอง ส่งโรงพยาบาลโดยเร่งด่วน

    ระหว่างรอฟังผลการผ่าตัด จากแพทย์ที่คงกำลังวุ่นกับการช่วยเหลือคนที่เธอรักอยู่นั้น มันช่างทรมานหัวในคนรอ ไม่ต่างกับตอนที่เห็นเขาพาตัวเองมาบังวิถีกระสุนให้เธอเลยสักนิด ณธิดาเพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่า ชีวิตของคนเรามันช่างสั้นนัก และไม่รู้ว่าวันสุดท้ายของชีวิต  จะมาถึงเมื่อไหร่ โดยที่ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเขาและเธอจะมีชีวิตอยู่ถึงวันนั้นรึเปล่า หากเธอใส่ใจเขาและตัดเงื่อนไขบ้าบอเรื่องการ ‘ไม่กินเด็ก’ ของตัวเองออกไป เธอคงจะมีเวลาได้อยู่ด้วยกันมากขึ้น ดื่มด่ำความสุขจากความรักที่มีให้กันและกันเร็วกว่านี้

    ส่วนธีร์ภพเองก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก หากแต่สิ่งที่เขาปฏิเสธหัวใจตัวเองไม่ได้ก็คือ เขาเพิ่งรู้เหตุผลของหัวใจที่ยอมให้พิมพ์ภัทรอยู่ข้างๆเขา ในทุกช่วงเวลาของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นทุกข์หรือมีสุข ผิดหวังหรือสมหวัง เพราะชีวิตของเขาทั้งชีวิตขาดเธอไม่ได้! ทำไมเขาถึงมองข้ามเธอไปได้นะ ทำไมเขาไม่รู้ตัวให้เร็วกว่านี้ จะได้เริ่มต้นใช้เวลาด้วยกันเร็วกว่านี้ เขาเข้าใจความรักในแบบของเธออย่างถ่องแท้แล้ว ว่าการได้รักใครโดยไม่มีเงื่อนไข และยอมเสียสละได้แม้กระทั่งชีวิต เพื่อคนที่รักนั้นเป็นเช่นไร แม้ว่าพิมพ์ภัทรจะเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ หากแต่จิตใจเธอช่างยิ่งใหญ่กว่าเขาหลายเท่านัก เขาเคยหลงรักณธิดามาหลายปี แต่ไม่เคยรู้จักกับคำว่าเสียสละเพื่อคนที่รักเลย

    ‘ขอบคุณมากนะภัทร พี่จะชดเชยเวลาที่ภัทรเคยให้พี่มา ด้วยหัวใจและชีวิตของพี่ตลอดไป’ธีร์ภพได้แต่พึมพำในใจ ซบหน้าลงกับฝ่ามือตัวเองอย่างคนรู้สึกผิด เขาได้แต่หวังว่าเธอจะยอมให้อภัยกับความโง่เขลาของเขา ยอมให้เขาได้ดูแลตอบแทนให้สมกับความรักของเธอที่มีต่อเขา

    ณธิดาและธีร์ภพต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุด คือการเฝ้าไข้คนรักของตัวเอง พวกเขาเลือกที่จะให้คนรักได้พักในห้องพิเศษที่มีความเป็นส่วนตัว เพื่ออยากให้คนป่วยได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ หลังจากที่ผ่านเหตุการณเลวร้ายจากการลอบทำร้ายของมือปืน ซึ่งยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนว่าจ้าง และเป้าหมายที่แท้จริงคือใคร

    อาการของพิมพ์ภัทรดีขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากกระสุนไม่ได้เข้าดที่จุดสำคัญของร่างกาย และได้ฝังลึกอย่างภวินท์ หากแต่ธีร์ภพอยากให้หญิงสาวได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ที่สำคัญเขายังให้หมอเช็คร่างกาย   ทุกส่วนให้ละเอียดถี่ถ้วน ว่าไม่มีส่วนใจบุบสลายหรือแม้แต่รอยขีดข่วน จนคนป่วยอดยิ้มออกมาไม่ได้ ไม่คิดว่าการที่เธอมีเหตุต้องเข้าโรงพยาบาลนั้น จะทำให้ท่าทีที่เขามีต่อเธอเปลี่ยนไป ไม่เหมือนกับ....พี่ชายน้องสาว อย่างที่เธอเคยได้รับมาก่อนหน้านี้หลายปี ส่วนธีร์ภพเองก็ขนกระเป๋าใบใหญ่ เพื่อมานอนเฝ้าเธอแทบจะตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง   เขาดูแลเธอในทุกๆเรื่องตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน ราวกับว่าเธอเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยๆของพ่อที่มีลูกสาว และทุกคืนก่อนนอนเขามักจะบอกเธอด้วยคำพูดซ้ำๆเดิมทุกวัน ว่า...ฝันดีนะครับคนดีของพี่ นับตั้งแต่วันที่เธอฟื้นขึ้นมาแล้วเห็นใบหน้าเขาเป็นคนแรก ผู้ชายที่ชื่อธีร์ภพ ผู้ชายคนเดียว   ที่เธอแอบรักมานานหลายปีตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง หากแต่ในใจเธอกลับรู้ดีว่าเขาแอบรักเพื่อนเธอมานานเช่นกัน แต่พอเห็นเขาผิดหวังจนต้องมีน้ำตา เธอก็พลอยเศร้าไปด้วย ถ้าหากเมื่อใดเขามีรอยยิ้มหรือเสียงหัวเราะ เธอเองก็มีความสุขและยินดีไปกับเขาเช่นกัน หากว่าใครได้รับรู้เรื่องความรักของเธอกับผู้ชายคนนี้ อาจคิดว่าเธอบ้าหวังลมๆแล้งก็เป็นได้ แต่สำหรับเธอแล้ว การได้ยืนมองตามหลังเขาอยู่ห่างๆนั้น ถือเป็นสิ่งที่เธอได้สมหวังแล้ว สำหรับความรักที่เธอมีให้เขามาตลอด

    ทางด้านห้องพักของผู้ป่วยทายาทนักธุรกิจอย่างภวินท์นั้น          มีพยาบาลสาวคนสวยอย่างเจ้าของร้านขนม นั่งเฝ้าไม่ได้ห่างเตียงเช่นกัน ณธิดาแทบหายใจไม่ออก เมื่อหมอเจ้าของไข้บอกว่าต้องรอดูอาการของคู่หมั้นหนุ่ม ในเรื่องผลข้างเคียงหลังการผ่าตัด เพราะกระสุนไม่ได้เจาะเข้าจุดสำคัญแต่ก็ลึกพอสมควร ทำให้เสียเลือดมาก รวมกับการที่เขาทุ่มเทเคลียร์งานดึกดื่น หลังกลับจากไปพักผ่อนที่เกาะส่วนตัว จึงทำให้ร่างกายอ่อนแอ และต้องใช้เวลาพักฟื้นมากขึ้น การรอคอยเฝ้ามองคนที่เธอรักอยู่ข้างๆเตียงที่มีเขานอนนิ่ง ราวกับว่าภวินท์แค่นอนหลับสนิทหรือกำลังฝันอยู่เท่านั้น แม้เธอจะรู้ว่าเขาปลอดภัยดีแล้ว แต่การได้เพียงแค่มองอยู่แบบนี้ ก็ไม่ทำให้ความร้อนรนลุ้นในใจของเธอลดลงได้เลย จนกว่าจะได้เห็นเขาลืมตาตื่นแล้วเห็นเธอเป็นคนแรกนั่นล่ะ หญิงสาวถึงจะสบายใจและมีความสุขอย่างแท้จริง

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา