พิมพ์ลิขิตเเอบรัก
-
เขียนโดย Dashathone
วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.29 น.
18 ตอน
2 วิจารณ์
23.63K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558 23.39 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) ว่าที่พ่อตา (ไม่ธรรมดา)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 10
ว่าที่พ่อตา(ไม่ธรรมดา)
การจราจรในเช้าวันจันทร์ของถนนแห่งเมืองเศรษฐกิจอย่างกรุงเทพฯนั้น ต่างคลาคล่ำไปด้วยรถราของเหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย ที่ต้องฟันฝ่าเพื่อมาให้ทันเวลาเข้าทำงานในออฟฟิศ
ธีร์ภพขับรถเข้ามาจอดรถภายใต้ตึกหรูหราขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทอสังหาริทรัพย์อันดับต้นๆของเมืองไทย จากที่เคยสวมกางเกงสแล็คกับเสื้อเชิตและรองเท้าหนังในบทบาทของอาจารย์พิเศษ ยามเมื่อต้องไปสอนที่มหาวิทยาลัย แต่วันนี้ชายหนุ่มสวมสูททับเพิ่มอีกตัวเพื่อให้ดูสุภาพและเป็นทางการมากขึ้น ส่งผลให้รูปร่างสูงสมาร์ทอยู่แล้ว ยิ่งดูสง่ามากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น มันยิ่งดูมีเสน่ห์ดึงดูดสายตาจากสาวน้อยสาวใหญ่ที่เดินผ่าน ให้หันกลับมาแลชม้ายชายตามองชื่นชมอย่างไม่มีปิดบัง หากแต่คนถูกมองกลับมีสีหน้าวิตกกังวลเคร่งขรึม หัวคิ้วเข้มขมวดมุ่น เหตุผลเดียวที่ทำให้เขาต้องมายืนหน้าตึกแห่งนี้ คือ....พิมพ์ภัทร ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่อยู่ในหัวใจเขามาตลอด
ธีร์ภพแจ้งชื่อกับพนักงานต้อนรับเพื่อขอเข้าพบประธานบริษัท เพียงไม่นานเขาก็มานั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานบางเฉียบในห้องขนาดกว้างขวาง ผนังเป็นกระจกรอบด้าน ทำให้มองเห็นวิวกรุงเทพในมุมสูงเกือบร้อยแปดสิบองศา ชุดโซฟารับแขกหนังสุดหรูสมกับฐานะและตำแหน่งของเจ้าของห้องเป็นอย่างดี หากแต่ความรู้สึกในใจเขาตอนนี้ กลับไม่ต่างจากกำลังจะเข้าแดนประหารจากพ่อตายังไงยังงั้น
“เปลี่ยนใจยังทันนะ” เสียงเรียบนิ่งแต่ทรงอำนาจดังขึ้นทำลายความเงียบสงบเย็นเยือก ซึ่งมีเพียงเครื่องปรับอากาศภายในห้องเท่านั้นที่กำลังทำงานอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้แขกหนุ่มถึงอึ้งและอดคิดไม่ได้ว่าบิดาของคนรักอย่างคุณระพีนั้น ‘ไม่ธรรมดา’ คือเอกสารขนาดเอสี่สีขาวที่เต็มไปด้วยตัวอักษรหมึกสีดำ และตัวหนังสือที่สะดุดตาเขาที่สุดไม่ใช่ตัวเลขหกหลักกลาง หรือตราสวยงามของบริษัท แต่เป็น...
ตำแหน่งรองประธาน
คำถามแรกที่แวบขึ้นในหัวสมองที่กำลังอื้ออึงอยู่ตอนนี้ คือผู้ชายในชุดสูทดูภูมิฐานกำลังต้องการอะไร ทำแบบนี้เพื่ออะไร แล้วจะมีผลต่อความสัมพันธ์ของเขาและพิมพ์ภัทรไปในทิศทางไหน แล้วคำพูดปลอบใจของเพื่อนรักอย่างปารมีก็แทรกเข้ามาทันที
‘พ่อแม่ของน้องภัทรคงเป็นประเภทหากลูกรักใครก็รักด้วย ไม่งั้นเขาไม่ปล่อยให้มึงใกล้ชิดลูกสาวเขานานขนาดนี้หรอก’
เขาอยากตอบกลับมันนักว่าวันนี้อาจโดนคุณระพีเชือด!! มากกว่าช่วยเหลือแน่ๆ แต่ก็เอาวะ เมื่ออยากได้ลูกเสือตัวแสบ ก็ต้องลองเข้าไปขอจากพ่อเสือถึงในถ้ำสิ มันถึงสมน้ำสมเนื้อ
“ผมว่าตัวหนังสือในกระดาษตรงหน้าคุณก็ชัดเจน และผมมั่นใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาดแน่ ว่าไง คุณยังอยากพิสูจน์ตัวเองเพื่อความรักของลูกสาวผมที่มีต่อคุณอยู่รึเปล่า อาจารย์ธีร์” แม้คุณระพีจะยังคงใช้น้ำเสียงราบเรียบ แต่เขากลับรู้สึกว่ากำลังถูกท้าท้ายอยู่ในที
“ทำไมท่านถึงไว้ใจให้ผมรับตำแหน่งใหญ่ขนาดนี้ล่ะครับ” ไม่ใช่แค่ตำแหน่งหรอกที่ใหญ่ หน้าที่ความรับผิดชอบก็ใหญ่ขึ้นไปด้วย โดยเฉพาะบริษัทมีชื่อเสียงและพนักงานนับพันคนเช่นนี้ คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบริหารและควบคุมคนทั้งหมด ควบคู่ไปกับการถูกจับตามองทุกย่างก้าวของการทำงานไปด้วย ที่สำคัญผลงานต้องเป็นที่น่าพอใจของทุกฝ่ายด้วย โดยเฉพาะ ‘ว่าที่พ่อตา’ เช่นชายมากวัยตรงหน้าเขาคนนี้
“หึหึ ทำไม ไม่มั่นใจในความสามารถตัวเองหรือ” เสียงหัวเราะในลำคอคล้ายขบขันชอบใจในคำถามอย่างตรงไปตรงมาของ ‘ว่าที่ลูกเขย’ ริมฝีปากหนาของคนวัยหกสิบก็ต้องฉีกยิ้มกว้างหัวเราะลั่นห้อง เมื่อได้ยินคำถามต่อมาของคนรุ่นลูกตรงหน้า
“ผมมีเวลาเท่าไหร่ครับ”
“ฮ่าๆ สามเดือน”
จบคำตอบของคุณระพี ชายหนุ่มไม่รอช้าที่จะจรดปากกาด้ามทองหมึกดำลงด้านล่างของกระดาษทันที สามเดือนสำหรับสร้างผลงานให้เป็นที่ยอมรับอาจน้อยเกินไป แต่ความมุ่งมั่นเดียวที่เขาต้องทำให้ได้ คือ...แก้วตาดวงใจสุดที่รักของคุณระพีต่างหากล่ะ
“เอาล่ะคุณอยากถามอะไรก็ว่ามา” เมื่อทุกอย่างในวันนี้เป็นไปตามแผนที่ท่านวางไว้ คุณระพีก็เปิดฉากให้โอกาสธีร์ภพถามข้อสงสัย
“ทำไมท่านถึงไว้ใจให้ผมรับตำแหน่งนี้ล่ะครับ” ธีร์ภพจึงเลือก/ที่จะถามคำถามเดิม เพราะอย่างน้อยมันน่าจะมีเหตุผลลึกๆมากกว่าแค่ความสามารถของเขา หรื่อการอยากช่วยเหลือของคุณระพี
“ผมคิดว่าพลังแห่งความรักจะเป็นแรงดึงดูดชั้นเยี่ยม ให้คนสองคนที่มีหัวใจตรงกันกลับมาบรรจบกันด้วยความรักอีกครั้ง คุณคงไม่ว่าผมเป็นตาแก่เห็นแก่ตัวหรอกใช่ไหม ที่อยากอยู่ใกล้ลูกหลานตอนแก่ ภัทรปฏิเสธบริษัทนี้มาตลอด ทั้งๆที่ผมสร้างมาทั้งหมดก็เพื่อเขา ผมก็แค่ดึงคุณมาร่วมงานด้วย แล้วมีหรือลูกสาวผมจะปล่อยให้คุณรับมือกับตำแหน่งใหญ่นี้อยู่คนเดียวได้”
“ผมคิดว่าไม่ใช่แค่นี้หรอกครับ” คำถามกลายๆของคนอ่อนกว่า ทำให้แววตาคุณระพีเปล่งประกาย แต่เป็นเพราะถูกใจมากกว่าที่จะโกรธ ที่โดนคนอายุน้อยกว่ารู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของท่าน
“ผมเคยเป็นนักเรียนจนๆมาก่อน เพราะงั้นผมถึงเข้าใจความรู้สึกของคุณ แม่ของภัทรเขาเป็นลูกสาวเศรษฐีตระกูลดัง ผมก็แค่นักเรียนทุนจบใหม่คนหนึ่งเหมือนคุณตอนนี้ คุณคิดดูสิว่าเรื่องชั้นวรรณะเมื่อยี่สิบหกปีก่อนมันมีอุปสรรคขนาดไหน แต่เผอิญที่มีคนให้โอกาสผมได้แสดงความสามารถของตัวเอง จนเป็นที่ยอมรับของพ่อตา ท่านเลยให้โอกาสผมได้สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมามั่งมีอย่างทุกวันนี้ แล้วทำไมผมจะไม่รู้ว่าโอกาสำคัญกับคุณมากแค่ไหน แต่ที่เหนือสิ่งอื่นใด คือคุณมีความสามารถมากพอที่จะดำรงตำแหน่งนี้ ซึ่งมันยังไม่เคยมีมาก่อน”
“ขอบพระคุณครับ ที่ให้โอกาสผม” ธีร์ภพยกมือไหว้ขอบคุณคุณระพีด้วยความซาบซึ้งในหน้า ถ้าหากท่านไม่ทำแบบนี้ เขาก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอย่างไรให้ได้เจอและใกล้ชิดยัยน้องน้อยของเขาทุกวันได้ เพราะต่างก็ทำงานกันคนละที่ แถมเวลาที่จะว่างตรงกันพอให้ไปง้อก็แทบจะไม่มีเลย นี่สินะเข้าทางผู้ใหญ่แล้วจะดวงดีแบบนี้เอง
“ลูกสาวผมเขาเป็นคนอ่อนนอกแข็งใน ภายนอกอาจดูเป็นคนหัวอ่อนบอกอะไรก็ฟัง แต่ภายในกลับดื้อรั้นจะทำตามหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องที่เขาจะตัดสินใจเอง ถ้าคุณรับมือกับพนักงานนับพันคนได้ แล้วทำไมแค่ผู้หญิงหัวดื้อคนเดียวอย่างลูกสาวผมถึงจัดการไม่ได้ จริงไหม” พ่อผู้รู้จักลูกสาวตัวเองดีกำลังแนะนำว่าที่ลูกเขยอย่างอ้อมๆ เพราะจริงๆแล้วการใช้สมองบริหารและควบคุมลูกน้องจำนวนพัน ต่างจากการใช้หัวใจดูแลคนที่รักมากนัก
“แต่การบริหารกับดูแลคนรักไม่เหมือนกันนะครับ” ความคิดเห็นของชายหนุ่มอนาคตใกล้ เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากท่านประธานให้กว้างขึ้นไปอีก แสดงว่าคนรักของลูกสาวไตร่ตรองความจริงในหัวใจตัวเองและตัดสินใจแล้ว รู้และเข้าใจว่าจะง้อแม่ลูกสาวสุดที่รักตนอย่างพิมพ์ภัทรด้วยวิธีไหน ถึงจะกลับมาเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้ง
“ฮ่าๆ ใช่ หวังว่าผมเลือกคนไม่ผิด” คุณระพีตอบกลับคนที่ท่านเลือกแล้วอย่างอารมณ์ดี
“ครับ” คนถูกเลือกเองก็ตอบกลับด้วยเสียงหนักแน่น และเขามั่นใจว่าสามารถทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าคนรัก กลับมาเปล่งประการด้วยความสุขเพราะเขาได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม
คล้อยหลังว่าที่ลูกเขยซื่อบื้อพ้นประตูไปแล้วเพียงสิบหน้าที ใบหน้าผู้มาวัยก็กระตุกยิ้มที่มุมปาก นิ้วมือเหี่ยวย่นเคาะลงบนโต๊ะทำงานเป็นจังหวะคล้ายกำลังครุ่นคิดวาดแผนการในหัว ก่อนจะกดโทรออกหมายเลขที่ช่วงนี้เขาใช้บ่อยที่สุด
“ค่ะท่าน”
“ทำตามแผน” คุณระพีกรอกเสียงคำสั่งลงไปตามสายทันทีที่ได้ยินเสียงเจ้าของหมายเลขกดรับสาย เห็นที่คราวนี้เขาคงต้องลงมือเอง ในเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมและเหยื่อตัวแรกติดเบ็ด ใครจะเชื่อว่าความรักจะมีอำนาจมหาศาลเช่นนี้
ว่าที่พ่อตา(ไม่ธรรมดา)
การจราจรในเช้าวันจันทร์ของถนนแห่งเมืองเศรษฐกิจอย่างกรุงเทพฯนั้น ต่างคลาคล่ำไปด้วยรถราของเหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย ที่ต้องฟันฝ่าเพื่อมาให้ทันเวลาเข้าทำงานในออฟฟิศ
ธีร์ภพขับรถเข้ามาจอดรถภายใต้ตึกหรูหราขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทอสังหาริทรัพย์อันดับต้นๆของเมืองไทย จากที่เคยสวมกางเกงสแล็คกับเสื้อเชิตและรองเท้าหนังในบทบาทของอาจารย์พิเศษ ยามเมื่อต้องไปสอนที่มหาวิทยาลัย แต่วันนี้ชายหนุ่มสวมสูททับเพิ่มอีกตัวเพื่อให้ดูสุภาพและเป็นทางการมากขึ้น ส่งผลให้รูปร่างสูงสมาร์ทอยู่แล้ว ยิ่งดูสง่ามากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น มันยิ่งดูมีเสน่ห์ดึงดูดสายตาจากสาวน้อยสาวใหญ่ที่เดินผ่าน ให้หันกลับมาแลชม้ายชายตามองชื่นชมอย่างไม่มีปิดบัง หากแต่คนถูกมองกลับมีสีหน้าวิตกกังวลเคร่งขรึม หัวคิ้วเข้มขมวดมุ่น เหตุผลเดียวที่ทำให้เขาต้องมายืนหน้าตึกแห่งนี้ คือ....พิมพ์ภัทร ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่อยู่ในหัวใจเขามาตลอด
ธีร์ภพแจ้งชื่อกับพนักงานต้อนรับเพื่อขอเข้าพบประธานบริษัท เพียงไม่นานเขาก็มานั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานบางเฉียบในห้องขนาดกว้างขวาง ผนังเป็นกระจกรอบด้าน ทำให้มองเห็นวิวกรุงเทพในมุมสูงเกือบร้อยแปดสิบองศา ชุดโซฟารับแขกหนังสุดหรูสมกับฐานะและตำแหน่งของเจ้าของห้องเป็นอย่างดี หากแต่ความรู้สึกในใจเขาตอนนี้ กลับไม่ต่างจากกำลังจะเข้าแดนประหารจากพ่อตายังไงยังงั้น
“เปลี่ยนใจยังทันนะ” เสียงเรียบนิ่งแต่ทรงอำนาจดังขึ้นทำลายความเงียบสงบเย็นเยือก ซึ่งมีเพียงเครื่องปรับอากาศภายในห้องเท่านั้นที่กำลังทำงานอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้แขกหนุ่มถึงอึ้งและอดคิดไม่ได้ว่าบิดาของคนรักอย่างคุณระพีนั้น ‘ไม่ธรรมดา’ คือเอกสารขนาดเอสี่สีขาวที่เต็มไปด้วยตัวอักษรหมึกสีดำ และตัวหนังสือที่สะดุดตาเขาที่สุดไม่ใช่ตัวเลขหกหลักกลาง หรือตราสวยงามของบริษัท แต่เป็น...
ตำแหน่งรองประธาน
คำถามแรกที่แวบขึ้นในหัวสมองที่กำลังอื้ออึงอยู่ตอนนี้ คือผู้ชายในชุดสูทดูภูมิฐานกำลังต้องการอะไร ทำแบบนี้เพื่ออะไร แล้วจะมีผลต่อความสัมพันธ์ของเขาและพิมพ์ภัทรไปในทิศทางไหน แล้วคำพูดปลอบใจของเพื่อนรักอย่างปารมีก็แทรกเข้ามาทันที
‘พ่อแม่ของน้องภัทรคงเป็นประเภทหากลูกรักใครก็รักด้วย ไม่งั้นเขาไม่ปล่อยให้มึงใกล้ชิดลูกสาวเขานานขนาดนี้หรอก’
เขาอยากตอบกลับมันนักว่าวันนี้อาจโดนคุณระพีเชือด!! มากกว่าช่วยเหลือแน่ๆ แต่ก็เอาวะ เมื่ออยากได้ลูกเสือตัวแสบ ก็ต้องลองเข้าไปขอจากพ่อเสือถึงในถ้ำสิ มันถึงสมน้ำสมเนื้อ
“ผมว่าตัวหนังสือในกระดาษตรงหน้าคุณก็ชัดเจน และผมมั่นใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาดแน่ ว่าไง คุณยังอยากพิสูจน์ตัวเองเพื่อความรักของลูกสาวผมที่มีต่อคุณอยู่รึเปล่า อาจารย์ธีร์” แม้คุณระพีจะยังคงใช้น้ำเสียงราบเรียบ แต่เขากลับรู้สึกว่ากำลังถูกท้าท้ายอยู่ในที
“ทำไมท่านถึงไว้ใจให้ผมรับตำแหน่งใหญ่ขนาดนี้ล่ะครับ” ไม่ใช่แค่ตำแหน่งหรอกที่ใหญ่ หน้าที่ความรับผิดชอบก็ใหญ่ขึ้นไปด้วย โดยเฉพาะบริษัทมีชื่อเสียงและพนักงานนับพันคนเช่นนี้ คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบริหารและควบคุมคนทั้งหมด ควบคู่ไปกับการถูกจับตามองทุกย่างก้าวของการทำงานไปด้วย ที่สำคัญผลงานต้องเป็นที่น่าพอใจของทุกฝ่ายด้วย โดยเฉพาะ ‘ว่าที่พ่อตา’ เช่นชายมากวัยตรงหน้าเขาคนนี้
“หึหึ ทำไม ไม่มั่นใจในความสามารถตัวเองหรือ” เสียงหัวเราะในลำคอคล้ายขบขันชอบใจในคำถามอย่างตรงไปตรงมาของ ‘ว่าที่ลูกเขย’ ริมฝีปากหนาของคนวัยหกสิบก็ต้องฉีกยิ้มกว้างหัวเราะลั่นห้อง เมื่อได้ยินคำถามต่อมาของคนรุ่นลูกตรงหน้า
“ผมมีเวลาเท่าไหร่ครับ”
“ฮ่าๆ สามเดือน”
จบคำตอบของคุณระพี ชายหนุ่มไม่รอช้าที่จะจรดปากกาด้ามทองหมึกดำลงด้านล่างของกระดาษทันที สามเดือนสำหรับสร้างผลงานให้เป็นที่ยอมรับอาจน้อยเกินไป แต่ความมุ่งมั่นเดียวที่เขาต้องทำให้ได้ คือ...แก้วตาดวงใจสุดที่รักของคุณระพีต่างหากล่ะ
“เอาล่ะคุณอยากถามอะไรก็ว่ามา” เมื่อทุกอย่างในวันนี้เป็นไปตามแผนที่ท่านวางไว้ คุณระพีก็เปิดฉากให้โอกาสธีร์ภพถามข้อสงสัย
“ทำไมท่านถึงไว้ใจให้ผมรับตำแหน่งนี้ล่ะครับ” ธีร์ภพจึงเลือก/ที่จะถามคำถามเดิม เพราะอย่างน้อยมันน่าจะมีเหตุผลลึกๆมากกว่าแค่ความสามารถของเขา หรื่อการอยากช่วยเหลือของคุณระพี
“ผมคิดว่าพลังแห่งความรักจะเป็นแรงดึงดูดชั้นเยี่ยม ให้คนสองคนที่มีหัวใจตรงกันกลับมาบรรจบกันด้วยความรักอีกครั้ง คุณคงไม่ว่าผมเป็นตาแก่เห็นแก่ตัวหรอกใช่ไหม ที่อยากอยู่ใกล้ลูกหลานตอนแก่ ภัทรปฏิเสธบริษัทนี้มาตลอด ทั้งๆที่ผมสร้างมาทั้งหมดก็เพื่อเขา ผมก็แค่ดึงคุณมาร่วมงานด้วย แล้วมีหรือลูกสาวผมจะปล่อยให้คุณรับมือกับตำแหน่งใหญ่นี้อยู่คนเดียวได้”
“ผมคิดว่าไม่ใช่แค่นี้หรอกครับ” คำถามกลายๆของคนอ่อนกว่า ทำให้แววตาคุณระพีเปล่งประกาย แต่เป็นเพราะถูกใจมากกว่าที่จะโกรธ ที่โดนคนอายุน้อยกว่ารู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของท่าน
“ผมเคยเป็นนักเรียนจนๆมาก่อน เพราะงั้นผมถึงเข้าใจความรู้สึกของคุณ แม่ของภัทรเขาเป็นลูกสาวเศรษฐีตระกูลดัง ผมก็แค่นักเรียนทุนจบใหม่คนหนึ่งเหมือนคุณตอนนี้ คุณคิดดูสิว่าเรื่องชั้นวรรณะเมื่อยี่สิบหกปีก่อนมันมีอุปสรรคขนาดไหน แต่เผอิญที่มีคนให้โอกาสผมได้แสดงความสามารถของตัวเอง จนเป็นที่ยอมรับของพ่อตา ท่านเลยให้โอกาสผมได้สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมามั่งมีอย่างทุกวันนี้ แล้วทำไมผมจะไม่รู้ว่าโอกาสำคัญกับคุณมากแค่ไหน แต่ที่เหนือสิ่งอื่นใด คือคุณมีความสามารถมากพอที่จะดำรงตำแหน่งนี้ ซึ่งมันยังไม่เคยมีมาก่อน”
“ขอบพระคุณครับ ที่ให้โอกาสผม” ธีร์ภพยกมือไหว้ขอบคุณคุณระพีด้วยความซาบซึ้งในหน้า ถ้าหากท่านไม่ทำแบบนี้ เขาก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอย่างไรให้ได้เจอและใกล้ชิดยัยน้องน้อยของเขาทุกวันได้ เพราะต่างก็ทำงานกันคนละที่ แถมเวลาที่จะว่างตรงกันพอให้ไปง้อก็แทบจะไม่มีเลย นี่สินะเข้าทางผู้ใหญ่แล้วจะดวงดีแบบนี้เอง
“ลูกสาวผมเขาเป็นคนอ่อนนอกแข็งใน ภายนอกอาจดูเป็นคนหัวอ่อนบอกอะไรก็ฟัง แต่ภายในกลับดื้อรั้นจะทำตามหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องที่เขาจะตัดสินใจเอง ถ้าคุณรับมือกับพนักงานนับพันคนได้ แล้วทำไมแค่ผู้หญิงหัวดื้อคนเดียวอย่างลูกสาวผมถึงจัดการไม่ได้ จริงไหม” พ่อผู้รู้จักลูกสาวตัวเองดีกำลังแนะนำว่าที่ลูกเขยอย่างอ้อมๆ เพราะจริงๆแล้วการใช้สมองบริหารและควบคุมลูกน้องจำนวนพัน ต่างจากการใช้หัวใจดูแลคนที่รักมากนัก
“แต่การบริหารกับดูแลคนรักไม่เหมือนกันนะครับ” ความคิดเห็นของชายหนุ่มอนาคตใกล้ เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากท่านประธานให้กว้างขึ้นไปอีก แสดงว่าคนรักของลูกสาวไตร่ตรองความจริงในหัวใจตัวเองและตัดสินใจแล้ว รู้และเข้าใจว่าจะง้อแม่ลูกสาวสุดที่รักตนอย่างพิมพ์ภัทรด้วยวิธีไหน ถึงจะกลับมาเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้ง
“ฮ่าๆ ใช่ หวังว่าผมเลือกคนไม่ผิด” คุณระพีตอบกลับคนที่ท่านเลือกแล้วอย่างอารมณ์ดี
“ครับ” คนถูกเลือกเองก็ตอบกลับด้วยเสียงหนักแน่น และเขามั่นใจว่าสามารถทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าคนรัก กลับมาเปล่งประการด้วยความสุขเพราะเขาได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม
คล้อยหลังว่าที่ลูกเขยซื่อบื้อพ้นประตูไปแล้วเพียงสิบหน้าที ใบหน้าผู้มาวัยก็กระตุกยิ้มที่มุมปาก นิ้วมือเหี่ยวย่นเคาะลงบนโต๊ะทำงานเป็นจังหวะคล้ายกำลังครุ่นคิดวาดแผนการในหัว ก่อนจะกดโทรออกหมายเลขที่ช่วงนี้เขาใช้บ่อยที่สุด
“ค่ะท่าน”
“ทำตามแผน” คุณระพีกรอกเสียงคำสั่งลงไปตามสายทันทีที่ได้ยินเสียงเจ้าของหมายเลขกดรับสาย เห็นที่คราวนี้เขาคงต้องลงมือเอง ในเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมและเหยื่อตัวแรกติดเบ็ด ใครจะเชื่อว่าความรักจะมีอำนาจมหาศาลเช่นนี้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ