I'm sorry! ขอโทษครับ สามีผมโหด

8.3

เขียนโดย LemonNest

วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.30 น.

  36 chapter
  30 วิจารณ์
  55.61K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

24) ขอโทษครับ 24

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter 24

 

 

 

ฟาง

 

            “รู้จักกันด้วยเหรอ?” เติ้ลถามยูตะที่ยกคิ้วยิ้มกวน ๆ ผมเหลือบมองไอ้ตี๋ที่มันจ้องเพื่อนพี่เติ้ลเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

 

            “อืม รู้จักดีเลยแหละ” ผมดึงชายเสื้อมันกระตุกเรียก ตี๋หันมามองสายตาสื่อว่ามีอะไร

 

            “ใครวะ?”

 

            “มึงอย่ารู้เลย” ยิ่งห้ามผมยิ่งอยากรู้ พี่เติ้ลเอียงคอมองผมแล้วยิ้มยื่นหน้าเข้ามาประชิด ผมผละถอยหน้าออกอย่างตกใจ

 

            “ไม่บอกน้องเขาไปล่ะว่ากูเป็นฟะ…”

 

            “กูไม่เคยรู้จักมึง!” ตี๋พูดสวนเสียงดังกระชากข้อมือฟางให้เดินเลี่ยงไปทางอื่น เติ้ลและยูตะมองหน้ากัน

 

            “มึงไม่เคยเห็นบอกกูว่ารู้จักไอ้นั่น” เติ้ลพูดขึ้นก่อน

 

            “มันเป็นแฟนเก่ากูเอง มึงจะอยากรู้ไปทำไม มึงหึง?” ยูตะถามเล่น ๆ ปล่อยมือทิ้งข้างลำตัวเดินตรงไปทางร้านขายอาหาร

 

            “กูไม่มีความคิดโง่ ๆ แบบนั้น แค่คบกันบังหน้ากูจะหึงทำไม แต่ก็สนุกดีว่ะ แค่กูบอกว่ากูมีแฟนแล้วแม่งก็ไว้ใจกูกันหมด แต่แฟนมึงฉลาดชิบหาย ไม่หลงกลกูง่าย ๆ” เติ้ลเดินตามมา

 

            “อยากไปยุ่งกับมันมาก มันเคยกระทืบกูเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว แต่ก็หม้นไส้ไอ้เด็กนั่นไม่น้อย”

 

            “ฟางอะนะ กูว่าน่ารักดี ผิวขาวตัวขาว กูชอบ” เติ้ลพูดไปยิ้มไป อยากได้มากขึ้นไปอีก

 

            “อยากทำอะไรก็ทำ ตอนนี้กูมีเป้าหมายเป็นคนอื่นอยู่ หล่อใสน่ากินสุด ๆ” ยูตะนึกถึงใบหน้าติ้วที่นั่งทำแผลให้อย่างตั้งใจ

 

            “มึงก็มั่วไปเรื่อย ระวังเจ้าของเขาจะมากระทืบซ้ำ”

 

            “เก่งนี่หว่า รู้ว่ากูกำลังแย่งมา สมแล้วที่เป็นแฟนกู” ยูตะถอยหลังมากอดคอเติ้ล

 

            “เลวทั้งคู่ สมกันนะว่าไหม มึงกับกูเนี่ย” เติ้ลยกยิ้มมุมปากโบกมือเรียกเพื่อนคนอื่น ๆ ที่เดินรั้งท้ายให้เดินไว ๆ

 

            ผมรับถุงลูกชิ้นมาจากแม่ค้าคนสวยก้มหน้าลงเอาไม้จิ้มลูกชิ้นเข้าปาก อารมณ์ดีหน่อยก็ป้อนไอ้ตี๋บ้าง เราเดินกันจนทั่วงานก็พากันกลับไปยังที่พัก ไอ้ตี๋มันยังหงุดหงิดไม่หายหลังจากที่เจอเพื่อนพี่เติ้ลคนไหน ตกลงมันเป็นใครวะ?

 

            หรือว่ามึงมีอะไรปิดบังกูอยู่

 

                “ฟาง มึงเข้าไปอาบน้ำก่อนเลย” มันไล่ผมไปอาบน้ำ ร่างยาวนอนทอดโซฟาเปิดหนังดู ผมหยิบผ้าหายเข้าไปในห้องน้ำ

 

            “อ่าว หายไปไหนวะ?” ออกมาก็ไม่เจอมันอยู่ที่เดิม รีบแต่งตัวใส่รองเท้าออกไปเดินดูหน้าบ้าน กำลังจะหมุนตัวกลับพี่ฟินมันก็เดินเข้ามาเรียกก่อน

 

            “มึงไม่ได้ไปกับไอ้ตี๋เหรอเมื่อกี้” ผมขมวดคิ้วเป็นปม ส่ายหน้าให้

 

            “ไปไหนวะฟิน กูเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ” ยิ่งคิดยิ่งเครียด มันไปไหนกับใครทำไมต้องแอบ ถ้ามันจะนอกใจก็บอกกันตรง ๆ ผมจะได้เตรียมตัวทัน

 

            “….” ฟินนิ่งเงียบไปสักพัก “สงสัยกูจะตาฝาด มึงมาช่วยกูเลือกของฝากให้พ่อกับแม่หน่อยดิ กูซื้อมาให้มึงด้วย” ฟินลากน้องชายเข้าบ้านตัวเอง ผมไม่ได้ลืมเรื่องไอ้ตี๋และฟินมันต้องไม่ตาฝาดอย่างที่พูด มันกำลังเปลี่ยนประเด็นให้ผมลืม

 

            “อันนี้ของมึง ชอบไหมวะ กูเลือกนานกว่าชิ้นของคนอื่นอีก” ผมหยิบสร้อยข้อมือเส้นสีเงินขึ้นมาส่องกับไฟดูจี้กลม ๆ ที่เป็นรูปดอกหญ้าไขว้กัน

 

            “สวยดี มึงซื้อให้กูเหรอ กูไม่ได้ซื้อให้มึงเลย” ก็เห็นมาด้วยกันจะซื้อฝากกันเองทำไม ผมเอาสร้อยมาใส่ที่ข้อมือข้างซ้ายของตัวเอง สวยดีว่ะ ยิ่งสะท้อนกับไฟยิ่งสวย

 

            “ก็มึงน้องกู” ผมดึงคอมันโน้มลงมากอดเอาไว้แน่น ไอ้ฟินมันขืนตัวไว้เอามือดันตัวผมออก

 

            “ขนลุกชิบหาย แล้วมึงก็นะ เรียกกูพี่บ้างเหอะ ทุกวันนี้กูจะเป็นเพื่อนกับมึงอยู่แล้ว”

 

            “ไม่ชอบเหรอวะ ฟางเห็นฟินเป็นทั้งพี่ทั้งเพื่อนเลยนะ กูจะเรียกอะไรกูก็รักมึง ไอ้พี่เหี้ย” ฟินมันตบหัวผมเสียงดัง พี่พัดมันเดินเข้ามาพอดี

 

            “รังแกน้องเหรอไอ้ฟิน” พี่พัดมานั่งข้างผม ผมแกล้งซุกอกพี่พัดทำหน้าเศร้า

 

            “พี่พัดครับ พี่ฟินแกล้งฟางอีกแล้ว ฟางก็ไม่รู้ว่าฟางทำอะไรผิด” ผมเกลียดเสียงตัวเองที่สุดเลยตอนนี้ ไอ้พี่ฟินมันถลึงตาใส่มือทำท่าจะทุบผม พี่พัดลูบหัวผมปลอบ

 

            “น่าสงสารจังน้องพี่ โอ๋ ๆ พี่อยู่ไม่ต้องกลัวนะครับ” อบอุ่นไปอีกพี่พัด ผมรู้ว่าพี่พัดมันแกล้ง

 

            “กูไม่ให้แล้วไอ้น้องเหี้ย เอาของกูคืนมา” ฟินเท้าสะเอวแบมือทวงยิก ๆ ผมแลบลิ้นใส่

 

            “ของฟางว่ะฟิน ให้แล้วให้เลย” พี่พัดมันปล่อยตัวผมให้เป็นอิสระนั่งดูของฝากที่ฟินมันเทออกมาเต็มโต๊ะ

 

            “ไหนของกูอะ?” พัดเงยหน้าขึ้นทวง ฟินทำหน้าเซ็งก้มลงรวบของเข้าถุงตามเดิม

 

            “มึงมากับกูแล้วจะซื้อทำไม”

 

            “ทีฟางมันยังได้เลย” พัดเถียงออกมา

 

            “ก็มันน้องกู”

 

            “เอ้า กูก็ผะ…” ผมจ้องหน้าพี่พัดเลยครับ พี่ฟินมันรีบเอามือมาปิดปากพี่พัดไว้ลากไปยืนคุยกันที่มุมหนึ่ง

 

            ผมมองผ่านหน้าต่างไปยังบ้านตัวเอง ไอ้ตี๋มันจะมายังนะ “ฟิน กูกลับก่อนนะ” ไม่รอฟังคำตอบเดินออกมาสวมรองเท้าเดินไปบ้านตัวเอง

 

……………………………………………….

 

ดิน

 

            ถึงเวลาจัดการตัวเหี้ย…

 

            ผมกับไอ้ตี๋รอไอ้ยูตะที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งตามที่เรานัดหมายกัน ผมแปลกใจเท่าไหร่ที่จะคุ้นหน้าไอ้ลูกครึ่งนี่ มันเป็นแฟนเก่าไอ้ตี๋เมื่อหลายปีก่อน คนที่โดนกระทืบจนเข้าโรงพยาบาลนั่นแหละ ผมจะไม่ยุ่งเลยถ้ามันไม่เสือกมาชอบไอ้ติ้ว ทั้งที่เตือนแล้วก็เสือกไม่ฟัง รู้จักกูน้อยไปแล้วไอ้ยู

 

            “กูว่ามันนานไปแล้วนะ กูบอกติ้วว่าออกมาแค่ชั่วโมงเดียว” ก่อนหน้าจะมาผมก็เล่าให้ฟังหมดว่ายูตะมันเป็นใคร อะไรยังไง เด็กผมมันก็ห่วงไม่อยากให้ผมมา แต่ผมขอเวลามันชั่วโมงเดียวเพื่อจัดการปัญหาต่าง ๆ

 

            “มันชอบเล่นตัว มึงใจเย็น ๆ” ผมแตะอาหารไปสองจานยังใจเย็นไม่พออีกหรือไง ไอ้ตี๋มันสั่งเบียร์มานั่งดื่มชิล ๆ

 

            “มึงออกมาไอ้ฟางไม่สงสัย?”

 

            “กูส่งข้อความไปบอกมันแล้ว ถ้าเสือกโง่ไม่อ่านค่อยกลับไปเคลียร์” ผมนั่งเท้าคางกระดิกนิ้วเคาะแก้ม

 

            “ไอ้เติ้ลมันเป็นแฟนไอ้ยู แล้วเสือกมายุ่งกับไอ้ฟาง เหอะ แม่งคบกันแปลกๆ”

 

            “มันคบกันที่ไหนล่ะ ตอแหลทั้งคู่ อยากสนุกเดี๋ยวกูจัดให้” ผมไม่อยากใช้กำลัง…ถ้าไม่จำเป็น

 

            “มันมาแล้ว” ผมนั่งตัวตรงหายใจเข้าลึก ๆ ไอ้ยูกับไอ้เติ้ลเดินยิ้มมาทางเราสองคนที่นั่งรออยู่ ยังไม่สำนึกว่ากูรอนานมาก มาถึงก็สั่งอาหารทั้งที่มันน่าจะคิดได้ว่าพวกผมไม่มีเวลามานั่งรอมันได้อีก

 

            “ทำหน้าแบบนี้อยากจะกระทืบกูมากสินะ” ผมดุ้นลิ้นข้างแก้ม ยูตะโน้มหน้ามาถามผม

 

            “เออ!”

 

            “กูไม่ว่างมาเล่นกับพวกมึงนะ จะเอายังไง?” ตี๋เปิดประเด็น

 

            “ก็ไม่ไง กูจะเอาเมียมึง” ไอ้เติ้ลพูดยั่วอารมณ์ไอ้ตี๋ ผมจับมือมันไว้เพราะที่นี่มันร้านอาหารและคนที่ผมรอก็ยังไม่มาสักทีด้วย

 

            “หน้าด้าน หน้าทน! มึงมันตีสองหน้า”

 

            “ช่วยไม่ได้เมียมึงโง่เอง”

 

            “นิสัยมึงยังไม่เปลี่ยนเลยนะ หวงก้างไม่เลิก ตอนคบกับกูมึงก็เหมือนหมาบ้า” แล้วมึงก็เสือกไปยั่วให้หมามันกระทืบ โง่สมกับหน้าตามึงเลย หึ ผมยกนาฬิกาดูเวลา

 

            ไอ้พัดมันนานจังวะ ส่งเมียเข้านอนหรือพาเมียไปสวรรค์

 

                “กูมันเลวมาตั้งแต่เจอมึงนั่นแหละ ไม่คิดว่าจะคบเหี้ย กูเลยเหี้ยตาม”

 

            “พูดไปก็เสียดายมึงนะ กลับมาคบกับกูสิ กูจะเลิกยุ่งกับแฟนเพื่อนมึง” ถึงมันไม่ต่อรองพวกผมก็มีวิธีจัดการโดยไม่ต้องออกแรงกันอยู่แล้ว

 

            “ใจกูไม่ใช่ของเล่น และกูคงไม่กลับไปคว้าขยะที่ทิ้งแล้วเก็บขึ้นมาให้เปื้อนมือหรอก มันสกปรก!”

 

            “ไอ้ตี๋!” คราวนี้เป็นไอ้ยูที่ทนไม่ไหว ผมเห็นรถไอ้พัดเลี้ยวเข้ามาก็ยกยิ้มมุมปาก มือสะกิดไอ้ตี๋ให้รู้กันสองคน

 

            “อืม กูรู้แล้ว” ตี๋ตอบกลับดินเบา ๆ

 

            พัดเลือกที่นั่งใกล้กับคนทั้งสี่ ใส่หมวกและแว่นปิดยังหน้าตามือถือกล้องมาหามุมวางให้เห็นภาพยูตะและเติ้ลชัด ๆ

 

            “กูถามจริง ๆ นะ มึงสองคนเป็นแฟนกันจริง ๆ เหรอวะ?” ตี๋ถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่ในใจ

 

            “มึงจะถามทำไม?” เติ้ลพูดขึ้น

 

            “ถ้ามึงคบกันแล้วจะมายุ่งกับของของคนอื่นทำไมวะ?”

 

            “มันน่าสนุกไม่ใช่เหรอวะ เวลาเห็นอีกคนกระวนกระวายน่ะ ยิ่งเราเป็นผู้ชนะยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่” ผมพยักหน้าพอใจเมื่อไอ้เติ้ลมันพูดออกมาตามที่ผมต้องการ แล้วมึงจะสนุกมากกว่านี้อีก

 

            “มึงจะบอกว่ามึงไม่ได้คบกัน?”

 

            “มึงถามมากไปแล้วนะ” ยูตะสังเกตหรี่ตาจับผิด ผมเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น

 

            “อย่างมึงก็เหมาะสมกันดีนะ อีกคนก็เหี้ย อีกคนก็เลว”

 

            “มึงจะพูดอะไรก็พูดไป ยังไงกูก็ไม่ล้มเลิกความคิดจะฟันเมียมึงหรอก ยิ่งโง่ ๆ กูยิ่งชอบ” เติ้ลเหยียดปากเย้ย

 

            “หึ ส่วนไอ้เด็กนั่นมันหล่อดีนะ กูก็คงไม่ปล่อยไปง่าย ๆ ถ้ายังไม่ได้ ไม่เอาน่า เราก็คนกันเอง ของแบบนี้แบ่งกันได้ พวกมึงเองก็ไม่น่าจะจริงจัง” ผมกัดฟันกรอด ยอมเล่นตามน้ำไปก่อน

 

            “มึงก็รู้ว่ากูไม่เคยคบใครจริงจัง ก็เอาดิ อยากได้กูก็ให้” ยูตะดีดนิ้วชอบใจ

 

            “อย่างนี้ค่อยคุยกันง่ายหน่อย แล้วมึงล่ะที่รัก ให้ไอ้เติ้ลมันเล่นเมียมึงหน่อยคงไม่เป็นอะไร หรือมึงเอาจริง?” ตี๋เงียบมือมันจิกเนื้อตัวเองแน่น

 

            “เออ! กูก็ไม่ได้จริงจัง อยากได้ก็เอาไป” พวกผมพยักหน้าให้พนักงานชายคนหนึ่ง ไม่นานแก้วเบียร์สี่แก้วก็มาวางอยู่บนโต๊ะ

 

            “ฉลองให้กับคืนนี้หน่อยแล้วกัน” ผมชูแก้วขึ้น ไอ้ตี๋มันยิ้มร้ายชูแก้วของมันขึ้นตาม ไอ้ยูกับไอ้เติ้ลมันก็ไม่ได้สงสัยอะไรกับแก้วตัวเองกระดกยกซดจนหมดแก้ว ผมนับถอยหลังในใจมือเคาะโต๊ะ

 

            “อึก พวกมึง…ฟุบ!” เติ้ลสลบหน้าฟุบลงไปกับโต๊ะ ยูตะทนฤทธิ์ยานอนหลับไม่ไหวฟุบลงไปตาม ๆ กัน ผมยกมือตบหัวไอ้ยูตะเต็มแรง

 

            “นิดหน่อยก็เอานะมึง” ไอ้ตี๋มันหัวเราะ ผมจัดการเรียกเช็คบิลพร้อมจ่ายเงินให้พนักงานชายคนที่ช่วยเหลือ ไอ้พัดมันเดินถือกล้องมานั่งข้างผมเปิดวิดีโอที่อัดเอาไว้ให้ดู

 

            “ไอ้ฟางจะได้ตาสว่างสักที แล้วมึงทำไมนาน?” ตี๋ถามพัด เราสามคนลุกขึ้นเตรียมกลับที่พัก

 

            “ไอ้ฟินมันไม่ยอมนอน กูเลยต้องจัดการนิดหน่อย” ไม่หน่อยแล้วมั้ง รอยเต็มคอขนาดนี้

 

            พวกผมสามคนแบกไอ้สองตัวที่นอนสลบขึ้นรถตรงไปที่โรงแรมม่านรูดใกล้ ๆ จัดการช่วยกันถอดเสื้อผ้ามันออกจนหมด จัดฉากให้มันนอนกอดกันก่อนจะลงมือถ่ายรูปแล้วส่งไปให้แฟนไอ้เติ้ลที่เป็นผู้หญิงที่พ่อมันหาให้ สืบประวัติมันไม่ยากหรอกครับ และยิ่งรู้ว่าพ่อมันเข้มงวดเรื่องหน้าตาทางสังคมผมยิ่งพอใจ

 

            มึงสนุกมามากพอแล้ว ถึงเวลากูสนุกบ้างแล้วกัน

 

                แน่นอนว่าเรื่องที่มันคบกันเป็นเรื่องภายในกลุ่ม พ่อมันไม่รู้เรื่องอะไรด้วยสักนิด และถ้าแฟนมันเอาภาพพวกนี้ไปให้พ่อมันดู หึ มันโดนยับไม่กล้ามายุ่งกับพวกผมอีกนาน ส่วนไอ้ยูตะอาจจะเล่นยากหน่อยเพราะทุกคนรู้ว่ามันเป็นเกย์ แต่ถ้าผมลงคลิปเสียงความชั่วนี้ลงไปในโลกออนไลน์ คงไม่มีใครโง่หลงเชื่อมันง่าย ๆ อีกแล้วครับ

 

            “กลับกัน กูสังหรณ์ใจไม่ดีเลยว่ะ” ตี๋ยกมือทาบอกข้างซ้าย ผมยัดเงินให้พนักงานก่อนเราสามคนจะพากันกลับที่พัก อย่าว่าแต่มันเลย ผมเองก็รู้สึกว่าใจไม่ดีเท่าไหร่เสียวไปทั้งส่วนล่าง

 

………………………………………………………..

 

ฟิน

 

                ผมขยับตัวลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นไอ้พัดมันเดินคว้ากุญแจรถออกจากบ้านไป รีบใส่เสื้อผ้าเดินไปบ้านไอ้ฟางที่อยู่ติดกัน มันหน้างัวเงียเดินออกมาเปิดประตู

 

            “มีอะไรวะฟิน กูง่วง”

 

            “ไอ้ตี๋มันกลับมายัง?” ฟางส่ายหน้าปิดปากหาว

 

            “ยัง มันบอกขอเวลาไปธุระสำคัญดึก ๆ กลับ” แล้วมึงก็ให้มันไป ผมดึงคอเสื้อมันเข้ามาใกล้

 

            “ไอ้พัดมันขับรถไปไหนไม่รู้ว่ะ แล้วเมื่อตอนหัวค่ำกูก็เห็นไอ้ตี๋มันนั่งรถไปกับใครก็ไม่รู้ มึงว่ามันแปลก ๆ ไหม?” ไอ้ฟางเริ่มคิดตาม

 

            “ก็ไม่” ผมตบหน้าผากตัวเอง น้องกูทำไมมันสมองช้าแบบนี้ ผัวไปไหนก็ไม่สนใจสักนิด มึงเชื่อใจกันมากสินะ

 

            “มึงไม่คิดว่าไอ้ตี๋จะไปหากิ๊กบ้างเหรอวะ?”

 

            “มันไม่กล้าหรอก เพราะถ้ามันมี กูก็มีบ้าง” แล้วมันจะให้มึงรู้ทำไม ผมจับมือน้องชายตัวเองลากไปบ้านไอ้ดิน เคาะอยู่สองสามทีหน้าไอ้ติ้วก็โผล่ออกมา

 

            “มีอะไรครับพี่ฟิน?”

 

            “ไอ้ดินอยู่ไหมวะ ถ้ามันไม่อยู่กูว่ามันไม่ธรรมดาแล้ว” ผมทำหน้าจริงจัง ไอ้ติ้วกับไอ้ฟางมองหน้ากัน

 

            “ทำไมอะ?” ทำไมพวกมึงโง่กันแบบนี้นะ ผมกอดคอมันสองคนมาสุมหัวคุยกันเงียบ ๆ สามคน

 

            “มึงคิดดูนะ ทั้งไอ้พัด ไอ้ตี๋ ไอ้ดินมันหายไปพร้อมกันสามคนมันไม่แปลกเหรอวะ? กูว่านะ…มันต้องไปมีกิ๊ก!”

 

            “เหี้ย! กูไม่ยอมอะ มึงต้องช่วยกูนะฟิน มึงเป็นพี่กู” ไอ้ฟางมันดึงแขนผมส่ายไปมา

 

            “พี่ดินไม่น่าจะทำนะ ผมลองโทรหาดีกว่า” ผมรีบห้ามไอ้ติ้วเอาไว้

 

            “ไม่ได้ ๆ เราจะให้พวกมันรู้ตัวไม่ได้ กูติดสัญญาณไว้ที่รถไอ้พัด แค่เปิดโทรศัพท์เราก็จะรู้ว่ามันไปไหนกัน”

 

            “แต่เราไม่มีรถนะฟิน ไอ้ตี๋มันก็เอารถไป” เออว่ะ ติ้วกลับเข้าไปในห้องหยิบกุญแจรถออกมาชู

 

            “แต่ผมมี พี่ดินไม่ได้เอารถไป แสดงว่าพี่ดินไปกับพี่ตี๋” คนที่ผมเห็นก็เป็นไอ้ดินไม่ผิดแน่ ไอ้พัดนะไอ้พัด กล้านอกใจกูมึงตายแน่

 

            “มันอยู่ที่XXX ร้านอาหารกึ่งผับนี่หว่า” ผมพูดขึ้นเมื่อเช็คสถานที่ที่รถไอ้พัดจอดอยู่ “งั้นเราไปกันเลย” ผมพยักหน้าเตรียมพร้อมลุย

 

            “ไปไม่ได้” ติ้วพูดขึ้น ผมกับไอ้ฟางมันหน้ามันก่อนจะพูดพร้อมกัน

 

            “ทำไม?/ทำไมวะ?”

 

            “ผมไม่รู้รถพี่ดินจอดที่ไหน แฮ่ ๆ” ติ้วหัวเราะแห้งมือลูบท้ายทอย ผมทำหน้าเซ็งเรียกมันสองตัวมานั่งในบ้านตัวเอง มีวิธีเดียวคือคอยจับสัญญาณว่ามันไปไหนกันบ้าง ผมนั่งจิ้มจอจนสถานที่มันเริ่มเปลี่ยนมุ่งหน้าไปอีกเส้นทาง

 

            มันไปไหนต่อวะ…

 

            “ไอ้เหี้ยพัด!!” ผมปาโทรศัพท์ทิ้งบนหมอนอิง ลุกขึ้นพรวดทึ้งหัวตัวเอง ไอ้ฟางกับไอ้ติ้วลุกพรวดตามผม

 

            “เกิดอะไรขึ้นวะฟิน?!” ผมมองหน้าพวกมันสองตัวสลับกันไปมาก่อนจะพูดขึ้น

 

            “มันเข้าม่านรูด…มันสามตัวหักหลังเรา!”

 

 

 TBC.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา