I'm sorry! ขอโทษครับ สามีผมโหด

8.3

เขียนโดย LemonNest

วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.30 น.

  36 chapter
  30 วิจารณ์
  56.22K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) ขอโทษครับ 13

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter 13

 

 

 

ฟิน

 

โมโห!!!

 

ฟางหายไปทั้งคนไม่มีใครคิดจะบอกผม แล้วดูมัน กลับมาก็มานั่งหน้าเศร้ากลัวผมจะต่อว่า แล้วมันน่ากระทืบสักทีไหมวะ ทำอะไรไม่เคยคิด ฮึ่ม ๆ ผมเอามือเท้ากับโต๊ะหายใจหอบเมื่อได้พ่นไฟใส่ไอ้น้องชายไปชุดใหญ่

 

“จบยังครับ?”

 

“แกกล้าถามพี่อย่างนี้เหรอไอ้น้องบ้า! รู้ไหมว่ากูเป็นห่วงน่ะห้ะ!!”

 

“ครับ ๆ ก็กลับมาแล้วนี่ไง ขอโทษครับ” มันน้อมรับแต่การกระทำสวนทางกับคำพูด ร่างบางของมันนอนกลิ้งอยู่บนโซฟาภายในห้องที่เพิ่งประชุมเสร็จ วันทั้งวันขลุกอยู่แต่กับงาน น่าเบื่อ อยากจะลาออกให้รู้แล้วรู้รอด

 

“แล้วยังไง? ตกลงเรื่องไอ้ตี๋มึงโอเค?” ผมก็ไม่ได้อยากจะกีดกันแต่ไอ้บ้าตี๋มันเกินจะทน ขนาดน้องผมยังไม่ประกาศตัวมันยังหวงยิ่งกว่าพี่ชายแท้ ๆ พอประกาศตัวมันไม่เอาเก็บใส่กล่องตั้งไว้ที่บ้านเลยรึไง

 

“ก็พูดชัดเจนแล้วว่าผัวอะนะ”

 

 “มึงยังจะมาอะนะ อายบ้าเหอะ กูอายแทน” ผมทรุดตัวนั่งกุมขมับ นับวันเชื้อด้านมันเข้ากระแสเลือดไอ้ฟางเข้าไปเรื่อย ๆ

 

“ด้านได้อายอดนะครับ ผัวผมมันธรรมดาที่ไหน ทั้งผู้หญิงผู้ชายวิ่งโร่เข้าใส่ตลอด ไว้ใจไม่ได้”

 

“ออกไป…”

 

“ว่าไงนะ?”

 

“ออกไปก่อนเว้ย! กูปวดหัว คืนนี้มานอนกับกูด้วย บอกไอ้เหี้ยนั่นไม่ต้องมาตาม กูจะนอนกับน้องกู”

 

“อ้าว หาเรื่องซวยให้ผมอีก พี่ก็รู้ว่าไอ้ตี๋มันไม่ฟังใคร” แล้วมันใช่หน้าที่กูต้องไปคุยเองไหม ผมปวดกบาลกับน้องเวรตัวดี กูเป็นพี่ชายมึงนะเว้ย

 

ก๊อก ๆ  ๆ

 

“นานเว้ยยย!! จะคุยอะไรกันนักหนา” ผมทุบกำปั้นลงกองเอกสารที่กระจุยกระจาย กูต้องยอมรับมันจริง ๆ ใช่ไหมวะ ไม่! กูรับไม่ได้อย่างแรง

 

“ฟางไปก่อนนะ ไว้จะแวะมาหาใหม่” ฟางลุกขึ้นจัดเสื้อให้เข้าที่เข้าทาง ผมพยักหน้ารับ เปิดประตูมาก็เจอหน้าไอ้ตี๋ยืนกอดอกมองผมเขม็ง โปรดสำนึกด้วยว่ากูเป็นพี่ชายมัน ไม่ต้องหึงครับ

 

“มาทำอะไรกันสองต่อสอง นานมากไอ้สัส” สายตามันมองผมกับฟางสลับกัน

 

คนแบบนี้เหรอจะต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกับผม เฮือก ตายแป๊บ

 

“ไอ้ตี๋ พี่ชายกูครับ มึงโมโหหิวใช่ไหม?” ฟางดึงคอเสื้อตี๋ลากออกไป “ตามกูมานี่ไอ้สัส นั่นพี่ชายมึงอย่ามาปล่อยรังสีใส่เข้าใจไหม แล้วไหนยังจะเพื่อนกูอีก ถ้ามึงยังไม่เลิก…” ผมถอนหายใจมองตามหลังทั้งสองคนไป

 

…………………………………………………………….

 

ผมเดินเตะฝุ่นไปตามท้องถนนยามเย็น ตั้งแต่เช้ายังไมได้เจอหน้าไอ้พัดเลยครับ วันนี้มันไปซื้อของที่ต้องใช้กับเพื่อนอีกสองคน ผมมีหน้าที่ดูแลเอกสารที่นี่ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น มาน้ำตกทั้งที่ก็อยากจะเที่ยวบ้าง เห้อ~

 

จ๋อม!

 

สองขาของผมจุ่มลงไปตีเล่นในน้ำเท้าแขนเอนตัวไปด้านหลัง หลับตาฟังเสียงธรรมชาติที่อยู่รอบตัว ขอแค่เวลานี้เท่านั้น ขอผมกอบโกยความสุขเข้าตัวเองบ้าง

 

ตุบ!!

 

“โอ๊ย! ไอ้สัสหนัก ใครวะแม่ง?!” ผมนอนแผ่หลาโดยมีร่างอีกคนนอนทับอยู่บนตัว มันรีบลุกขึ้นพลิกตัวมาคร่อมผมเอาไว้ทำท่าจะลุก ผมก็ดันตัวเองขึ้นจะลุกเช่นกัน

 

“พี่ฟิน!!”

 

มือมันผลักผมล้มลงนอนอีกรอบ ใบหน้าที่คุ้นตายื่นเข้ามาใกล้ระยะประชิด ผมก็มัวแต่อึ้งไม่ได้ผลักมันออกอย่างที่ควร ทั้งดวงตา แก้มใส ไหนจะคิ้วโค้งคมเข้มที่ผมคุ้นมากเป็นพิเศษ

 

เดี๋ยวนะ…

 

คิ้วมันเหมือนเคยเห็นที่ไหน…

 

“เอ๋ จำผมไม่ได้จริงด้วยสินะ”

 

 เสียงแบบนี้…

 

“ถ้าอย่างนั้น…จุ๊บ! แบบนี้จำได้รึยังครับ…เจ้าสาวของผม” เสียงกระซิบที่ข้างหูมันทำผมนิ่งค้างนึกย้อนไปวัยเด็กที่ใต้ต้นไม้ภายในบ้านของตัวเอง

 

‘ฟ้า ๆ ฟางอยากได้มะม่วง’ ฟางในวัยเด็กยืนชี้ลูกมะม่วงลูกใหญ่ทางฝั่งของบ้านฟ้า เจ้าของบ้านยืนกอดอกอยู่ริมระเบียงห้องชั้นสอง

 

‘อยากได้ฟางก็ต้องปีนเอง ฟ้าโดนกักบริเวณอยู่นะ’

 

‘จะเอา!  พี่ฟิน เอาให้ฟางหน่อย’

 

‘ไม่เอา พี่จะนอน’ ผมบอกปัดพลิกตัวหนีฟางที่เดินมาเขย่าแขนเสื้อ

 

‘พี่ฟิน! ฟางจะเอา ๆ ๆ’

 

‘ไม่เว้ย!’ ผมเผลอตะคอกใส่ฟางเสียงดัง น้องหยุดมือทิ้งลงข้างตัว ผมโล่งใจได้ไม่นานเสียงร้องไห้ก็ดังตามมา

 

‘ฮึก…ฮือ…แม่ครับ!!’

 

‘โอเค ๆ ฟางจะเอาอะไร พี่จะหามาให้’

 

‘นั่น’ ชี้ไปที่ต้นมะม่วงบ้านติดกัน ผมกลืนน้ำลายลงคอดูความสูงที่ต่างกับพื้นลิบลิ่ว ตกมาได้คอหักตายห่า

 

‘ไม่ใช่ของบ้านเรา พี่ว่าให้แม่ซื้อมาให้ดีกว่านะ’

 

‘แต่ฟ้าให้ฟางแล้วนะ ใช่ไหมฟ้า?!’ ฟางเงยหน้าตะโกนถามไอ้เด็กข้างบ้านที่มันชอบไปเล่นด้วยบ่อย ๆ

 

‘อืม ให้ครับ’

 

‘เห็นไหม พี่ฟินไปเอามานะ เอามาเยอะ ๆ เลย ฟางจะไปบอกแม่ให้เตรียมน้ำจิ้มไว้ให้’ ผมส่ายหน้าปวดหัวกับน้องชายตัวแสบ แล้วอะไรคือน้ำจิ้มวะ จับบันไดได้ก็ปีนเอาพาดกับกำแพงบ้าน เอื้อมมือไปจนสุดเด็กลูกมะม่วงมาพอกิน ก่อนจะลงเหลือบเห็นนัยน์ตาใสของเจ้าของบ้านแอบมองอยู่ คิ้วคมเข้มโผล่ออกมาก่อนผมจะแกล้งเด็กมะม่วงอ่อนปาเข้าไปในห้องมัน

 

‘เจ็บนะ!’ สีหน้ายุ่ง ๆ ของมันโผล่มาให้ผมเห็นก่อนมือขาวจะลูบหัวป้อย ๆ โดนเข้าเต็ม ๆ

 

‘เป็นอะไร ไม่ออกมาข้างนอก’

 

‘ถามโง่ ๆ แม่ไม่ให้ออกไง แค่หนีเที่ยววันเดียวเองแท้ ๆ’ มันบ่นปากเล็กขมุบขมิบ

 

‘สมน้ำหน้า ฮะ เฮ้ยยยยจะร่วงแล้ว….ตุบ!’ เขาคงเรียกเวรกรรมตามสนองจริง ๆ ผมร่วงลงมาก้มจ้ำเบ้ากับพื้นน้ำตาเล็ดออกมา มะม่วงที่หยิบใส่เสื้อร่วงกระจัดกระจายตามพื้น

 

ถ้าร่วงมาเขตบ้านตัวเองก็ไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อกี้ผมดันปีนอยู่บนกำแพงเสียหลักมาหล่นเขตบ้านคนอื่น เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นเรียวขาของไอ้เด็กริมระเบียงมายืนกอดอกมองสีหน้าเยอะเย้ย

 

‘สมน้ำหน้า เจ็บไหมล่ะครับ’ มันแสยะยิ้มมือยื่นมาตรงหน้า ผมปัดออกลุกขึ้นนั่งเอง

 

‘เพราะมึงนั่นแหละ ถ้าไม่ชวนกูคุย กูก็คงไม่ตก’

 

‘พูดไม่เพราะเลยนะครับ มา ผมช่วยนะ’ มันก้มลงเก็บมะม่วงมากองรวมกัน หาถุงหิ้วมาใส่ให้ยื่นมาให้ผม ผมลังเลไม่ยื่นมือไปรับ

 

‘ถ้าฟางโวยวายผมก็ช่วยอะไรไม่ได้นะ เอาไปสิครับ ผมขอแม่ให้แล้วล่ะ’

 

‘ขอบใจ’ ผมรีบคว้าเอาไว้ลุกขึ้นจะยืน แต่ผิดท่าไปหน่อย ไม่หน่อยเลยมากกว่า เพราะขาผมดันพันกันก่อนจะ…

 

จุ๊บ!

 

พระเจ้า ช่วยบอกผมทีว่ามันคือเรื่องโกหก ปากของผมไปวางแหมะอยู่ตรงเป้ากางเกงมันพอดิบพอดี ไอ้เด็กนั่นมันตกใจผลักหน้าผมออกเอามือมากุมเป้าเอาไว้มองผมเหมือนเป็นพวกโรคจิต

 

‘คือมันไม่ใช่…คือกูไม่ตั้งใจ…โอเค กูผิดเอง’ ผมยอมรับผิดแต่โดยดี มันตั้งสติได้เดินดุ่มมาคุกเข้าประคองหน้าผมไปจูบพลางสอดลิ้นเข้ามาด้วย ผมตัวสั่นมือร่วงทิ้งข้างตัว

 

‘ไม่ต้องห่วงไปหรอกครับ ผมจูบฟางมาแล้ว ฟางก็บอกอร่อยดี’

 

‘อะ อะ อะ…ไอ้…’

 

‘น่ารักจัง จองแล้วนะ เจ้าสาวของผม’ เสียงกระซิบที่แผ่วอยู่ข้างหูมันฝังแน่นเข้าไปในจิตใจคล้ายเป็นคำมั่นหมายของเรา ผมปาถุงมะม่วงไปทางเขตบ้านตัวเองผ่านกำแพงมี่สูงชัน ยกร่างตัวเองกระโดดข้ามตามไปติด ๆ

 

‘กูเป็นผู้ชายเว้ย!! จำไว้ไอ้เด็กประสาท’

 

จำได้แล้ว…

 

หลังจากวันนั้นผมก็พยายามหลบหน้ามันอยู่ตลอดเวลา เมื่อโตขึ้นก็ขอย้ายไปอยู่หอพักกับเพื่อน มันเรียนอยู่ที่อื่นผมจึงโล่งใจไปเปราะนึง แต่พอรู้ข่าวว่ามันย้ายบ้านก็ใจหายไม่น้อย จูบแรกของผมจะไม่ยอมให้ใครรู้ว่าเป็นมัน เป็นผู้ชายที่อายุน้อยกว่าหนึ่งปี เช่นกันว่าเรื่องไอ้ฟางผมก็ไม่คิดจะประจานมันหรอก ถ้าไม่จำเป็น

 

แล้วกูมาเพ้อเหี้ยอะไรอยู่!!

 

“ออกไปจากตัวกูได้แล้ว มึงเป็นใคร? กูจำไม่เห็นจะได้” ผมแกล้งมึนผลักตัวมันออกตีหน้านิ่งเหมือนทุกที

 

“หืม…จำไม่ได้แล้วจะนิ่งไปทำไมนะ แถมยัง…ไม่เห็นจะโต้ตอบกลับสักนิด ปกติเจอผู้ชายด้วยกันมาจูบคงไม่ต่อยก็กระทืบตายไปแล้วแท้ ๆ”

 

นั่นสิ ผมมัวทำบ้าอะไรอยู่ ต่อยมันสิ ต่อยมันไปเลย

 

“ไอ้ฟิน!!” เสียงตะโกนเรียกชื่อผมดังมาขัดจังหวะได้พอดี ไอ้พัดมันโบกมือก้าวเท้ามาทางที่ผมกับไอ้ฟ้าอยู่ ไอ้เด็กประสาทขมวดคิ้วสงสัยมองผมกับไอ้พัดสายตาเกินคาดเดา

 

“ได้ข่าวฟางกลับมาแล้ว ตอนนี้อยู่ไหนวะ?” บางทีผมก็คิดว่ามันจะชอบน้องผมเข้าให้จริง ๆ

 

“อยู่กับผัวมันสิวะ มึงไม่ต้องไปยุ่งกับมันเลย มากับกูไอ้พัด หายหัวไปเลยนะ”

 

“เอ้า กูก็ไปเอาของกับไอ้พวกนั้นมาไง มึงก็รู้ไม่ใช่เหรอวะ?” ผมปิดปากมันลากคอไปให้พ้นจากตรงนี้ ไอ้พัดมันอู้อี้ดันมือผมออก ขอโทษนะ แต่กูทำใจอยู่ต่อไม่ได้ กูไม่พร้อมจะเจอหน้าไอ้ฟ้าตอนนี้ ยิ่งมันจำคำพูดตอนนั้นได้ยิ่งน่ากลัว ผู้ชายตัวใหญ่อย่างกูไม่เหมาะจะเป็นเจ้าสาวมึงหรอกไอ้ฟ้า

 

เพราะกูมีไอ้พัดอยู่เต็มหัวใจมาตั้งแต่แรก

 

………………………………………………………

 

ฟ้า

 

“หึ คิดว่าผมจะสนใจรึไงกัน” ผมยืนมองแผ่นหลังกว้างของพี่ฟินที่ไกลออกไป ยังจำกันได้สินะ มันอาจจะเป็นความคิดโง่ ๆ ของเด็กคนหนึ่งที่หลงรักผู้ชายรุ่นพี่ตั้งแต่สัมผัสแรก ที่จริงก็ไม่ค่อยแน่ใจเพราะพี่ฟินเป็นผู้ชาย จะคบหากันก็คงลำบาก แต่พอยิ่งโตความชอบยิ่งเพิ่มมากขึ้น พี่เขาเก่งและเท่มาก ๆ ถึงเราจะอยู่คนละที่แต่ทุกเย็นผมก็จะแวะไปดูพี่ฟินตามโรงเรียน แต่พอเข้ามหา’ลัย ผมเองก็ยุ่งเลยห่างหายไปในที่สุด

 

พี่เป็นของผม ต่อให้แย่งผมก็จะทำ เพราะพี่เป็นของผมแค่คนเดียว

 

ผมวางมือจากต้นข้าวเพราะเริ่มแน่ใจว่าเพื่อนใหม่คนนี้ต้องมีเจ้าของอยู่แล้วแน่นอน เพียงแต่คงมีเหตุผลบางอย่างที่ยังคงบอกไม่ได้ เสียดายมากกับผู้ชายคนนี้ ก่อนจะมาเจอพี่ฟินอีกครั้งผมก็คบคนไปเรื่อย ทั้งผู้หญิงผู้ชาย แต่บทสรุปก็จบลงตรงที่พี่ฟินอยู่ดี เพราะอะไรผมก็ตอบไม่ได้ รู้แค่ว่าพี่ฟินผมชอบมาก และอยากเป็นคนที่ดูแลพี่เขาไปตลอด อยากปกป้อง  อยากจะเข้าไปใกล้ชิดให้มากกว่านี้

 

ตกดึกเป็นบรรยากาศที่น่ามานั่งดื่มชิล ๆ ที่ชายหาดมากที่สุด ที่นี่มันครบทุกอย่างทั้งทะเลและน้ำตก สถานที่ก็ไม่ไกลเกินเอื้อมขับรถไม่กี่กิโลก็ถึง ผมชวนไอ้ฟางมาด้วยกันแต่มันติดแฟน ก็ไอ้แฟนหมาด ๆ ที่ผมสงสัยนั้นแหละ ผมเลยมานั่งเหงาคนเดียวไร้เพื่อนไร้แฟน มาทำหล่อให้สาวริมหาดได้อ่อยกันเล่น ๆ

 

“มากี่ที่ครับ” เสียงพนักเอ่ยขึ้นทางด้านหลัง ผมไม่คิดจะสนใจถ้าไม่ได้ยินเสียงพี่ฟินดังขึ้น

 

“สามครับ”

 

“วานั่งอยู่นี่ก่อนนะคะ พี่พัดกลับไปเอาเสื้อที่รถมาให้ก่อน”

 

“ค่ะ ไว ๆ นะคะวาหนาว” ฟินมองผู้หญิงที่พัดคบหาด้วยสายตาเศร้า มือใหญ่กำแน่นซ่อนอารมณ์เจ็บไว้ภายใน หญิงสาวเองก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิด เปิดฉากเอ่ยเย้ยหยันเพื่อนแฟนไม่คิดไว้หน้า

 

“สนิทกันจังเลยนะคะ แต่ว่าคิดว่ามันมากไป พี่ฟินชอบพี่พัดรึเปล่าคะ เป็นห่วงเป็นใยกันเกินเพื่อน”

 

“ครับ?”

 

“มีเพื่อนที่ไหนเขาผูกรองเท้าให้กัน คอยซับเหงื่อให้กันบ้างคะ หรือว่ามันเป็นเรื่องปกติ”

 

“น้องวาจะพูดอะไรครับ พี่ไม่เข้าใจ”

 

“หึ ก็วากำลังคิดว่าพี่กำลังชอบแฟนว่าอยู่ไง เลิกคิดเถอะค่ะ ยังไงพี่พัดเขาก็ชอบผู้หญิง!”

 

“มันจะมากไปแล้วนะ!!” ฟินตะคอกเสียงสั่น เขากำลังโกรธและเจ็บใจผู้หญิงคนนี้  ถึงจะรับความจริงไม่ได้แต่ก็ไม่น่าจะมาตอกย้ำให้ช้ำใจ ผมกำลังหันกลับไปช่วยอีกเสียงก็แทรกเข้ามาก่อน

 

“เฮ้ย ๆ มีอะไรวะ” พัดเดินเข้ามานั่งข้างแฟนสาว มองสลับกับเพื่อนชายที่ใบหน้าบึ้งตึงจ้องหญิงสาวตาไม่กระพริบ

 

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เราแค่คุยกันขำ ๆ ใช่ไหมคะพี่ฟิน” น้ำเสียงกดดันให้เขาเลือกจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ

 

“อืม ขำมาก”

 

“งั้นเหรอ? ถ้ามึงว่างั้นกูก็จะเชื่อ” พัดรู้ว่าเพื่อนโกหก ดูท่าแฟนคนนี้จะไม่ค่อยน่าคบเสียแล้ว

 

ผมอยากจะเตะปากผู้หญิงคนนี้สักครั้งในชีวิต เธอกำลังคิดร้ายกับพี่ฟิน แล้วพี่ฟินก็สุภาพบุรุษพอที่จะไม่ทำ ผมหันหลังให้ทั้งสามคนจิบเบียร์นั่งดื่มไปจนนักท่องเที่ยวแทบไม่มี เสียงอ้อแอ้ของคนข้างหลังเริ่มไม่ไหว

 

“เมาแล้วนะคะวา พอแล้วนะ ไม่เอา” พัดแย่งแก้วออกมาจากแฟนสาว

 

“ไม่!! วาจะดื่มให้ลืมเรื่องทุเรศให้ออกไปจากหัวให้หมด อึก พี่พัดไม่รู้อะไรอย่ามาห้ามดีกว่า”

 

“ไม่รู้อะไรล่ะคะ?”

 

“ก็…”

 

“ไอ้พัด!! กูมีเรื่องจะพูดด้วย” ฟินรีบแทรกขึ้นขัดจังหวะ แต่ก็ไม่พ้นที่วาจะพูดต่อ

 

“ฮ่า ๆ กลัวอะไรเหรอคะพี่ฟิน กลัวพี่พัดรู้รึไงว่าพี่ชอบเพื่อนตัวเองน่ะ จุ๊ ๆ ๆ วาไม่บอกหรอกค่ะ”

 

“คือ…”

 

“วาก็พูดไปเรื่อย มึงอย่าไปสนใจเลย อย่างมึงเนี่ยนะจะมาชอบกู ใช่ไหมวะ?” พัดยิ้มคิดว่ามันเป็นเรื่องไม่จริง พัดอ้ำอึ้งสีหน้าเริ่มแย่

 

“อืม คงงั้นมั้ง” ฟินพูดกลับเสียงเนือย ๆ

 

“ขี้โกหกจังเลยนะคะ วาเห็นนะ ว่าโทรศัพท์พี่ฟินมีรูปพี่พัดเต็มไปหมดเลย อึก อืม วาง่วงจังค่ะ”

 

“ห้ะ! วาว่าไงนะครับ?”

 

“พอที!! ไอ้พัด กูชะ…” เพราะความเมาทำให้กล้าที่จะพูดออกไป แต่ความกล้ามันก็แลกมาด้วยความเจ็บปวดเช่นกัน ผมยอมไม่ได้ที่จะให้พี่ฟินต้องมารับเรื่องที่ตัวเองเผลอทำเอาไว้

 

“พี่พัดคะ วาง่วงจังค่ะ อืม ไม่ไหวแล้วนะ” วาเซไปซบไหล่หนาของพัดใบหน้าแดงก่ำ ตาปรือมองมาทางฟิน

 

“รักวาไหมคะ พี่พัดรักวาไหม” เสียงอ้อนของเธอสร้างความเจ็บปวดให้กับฟินทีละนิด

 

“รักครับรัก” พัดโต้ตอบกลับไปตรงข้ามกับที่ใจคิด เพียงอยากกล่อมหญิงสาวให้กลับไปที่ของเธอ เบื่อเต็มที่กับผู้หญิงคนนี้ พูดจาไม่รื่นหูนัก

 

“ฮ่า ๆ ๆ” วาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ชอบใจที่ได้เห็นสีหน้าจะร้องไห้ของอีกคน คิดจะมาแย่งของเธอมันไม่ง่ายหรอก

 

ผมทนต่อไปไม่ไหวแล้ว หัวใจของผมมันจะแตกสลายเอาให้ได้ ลุกขึ้นยืนไปกระชากตัวพี่ฟินให้ยืนขึ้น มีสายตาสงสัยของพัดมองตาม หญิงสาวล้มตัวลงนอนหน้าฟุบกับโต๊ะเตี้ย

 

“ไปกับผม!!”

 

“เฮ้ย! อะไรวะ?!” ฟินเซไปมายืนแทบจะไม่ไหวสะลึมสะลือมองเห็นหน้าฟ้าลาง ๆ

 

“น้องจะพาเพื่อนพี่ไปไหน?”

 

“ไปให้ไกลจากคนร้าย ๆ ไง ดูแลแฟนพี่ให้ดีเหอะ ถ้าตื่นมาฝากบอกด้วยว่าอย่าปากหมาให้มาก ไม่งั้นจะตายเอา”

 

“ไอ้ฟ้า!! มึงพูดกับไอ้พัดอย่างนั้นได้ไง” ฟินตะคอกเสียงดัง

 

“ทำไมผมจะพูดไม่ได้!! เพราะมันไง พี่ถึงต้องมานั่งเจ็บแบบนี้”

 

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึง อย่ามาเสือกเรื่องของกู” ผมปล่อยมือพี่ฟินไม่ได้ ต่อให้เขาจะด่าจะว่ายังไงก็ปล่อยไม่ได้ วันนี้ต้องเอาให้จบ มันต้องจบทุกอย่าง

 

ถ้าพี่ต้องการจะทำอะไร ผมจะสานต่อให้เอง

 

“พี่พัด…พี่คิดอะไรเกินเพื่อนกับพี่ฟินรึเปล่า?” พี่พัดอึ้งไป พี่ฟินต่อยหน้าผมเข้าจัง ๆ ผมร่วงล้มกองกับพื้น

 

“มึงทำเหี้ยอะไรวะ!!!!”

 

“น้องมีอะไรกันครับ ใจเย็น ๆ ให้พี่ช่วยอะไรไหม” พี่เจ้าของร้านเดินมาถาม ผมปัดเศษทรายที่ตัวลุกขึ้นยืน

 

“ผมขอเวลาไม่นานพี่ ขอโทษด้วยนะครับ”

 

“เออ พี่เข้าใจ อย่าให้ถึงตายกันก็พอ พี่เห็นมาเยอะจนชินแล้ว”

 

“ที่ถามเมื่อกี้….จริงจังไหม?” พี่พัดถามผมก้มหน้างุด เงยหน้ามามองผมนิ่ง

 

“ครับ”

 

“มึงไม่ต้องไปบ้าตามมัน มึงกลับไปเลยนะไอ้ฟ้า มะ…”

 

“กล้าถามก็กล้าตอบ…” ผมรอคำตอบจากพี่พัดสายตาก็มองพี่ฟินที่นั่งกุมหน้าหมดอาลัยตายอยาก ไม่ใช่แค่พี่เจ็บ ผมก็เจ็บเช่นกัน

 

“ฟิน…ที่มึงเคยถามว่ากูไม่คิดจะจริงจังกับใครเลยอะ มันเป็นเพราะอะไร…เพราะกูชอบมึง…”

 

“วะ ว่าไงนะ”

 

“อืม กูชอบมึง ชอบมานาน กูก็แค่อยากจะลองดูว่าถ้ากูคบคนอื่นมึงจะแสดงท่าทีอะไรไหม แต่ก็เปล่า มึงยังยิ้มและยุยงให้กูคบกับเขาอีก กูเลยคิดว่า…บางที…กูอาจจะเป็นได้แค่เพื่อนกับมึงตลอดไป…แต่วันนี้ มันมีอะไรหลายอย่างที่ทำให้กูมีกำลังใจขึ้นมา มึงเริ่มแสดงออกมาว่าหึงกู สายตาของมึงมันชัดเจนว่าไม่ชอบผู้หญิงที่กูบอกว่าจะจริงจังด้วย…กูคิดเข้าข้างตัวเองได้ป่ะวะ ว่ามึงก็ชอบกูเหมือนกัน”

 

ผมเหมือนเป็นส่วนเกินท่ามกลางการสารภาพรักของคนทั้งคู่ พี่ฟินชอบพี่พัด และพี่พัดเองก็คิดแบบเดียวกัน ส่วนตัวผมที่ยืนนิ่งค้างติ่งต้องถอยเท้าออกมาทีละก้าวไม่อยากยอมรับความจริงจากปากของพี่ฟิน อย่าพูด อย่าตอบประโยคนั้นออกมา ขอให้ผมไปก่อนได้ไหม ขอให้ผมไม่ต้องมาเป็นพยานรักครั้งนี้

 

“กูชอบมึงไอ้พัด ขอบคุณว่ะ ขอบคุณมาก”

 

แปล๊บ…

 

หัวใจของผมมันแตกสลายกลายเป็นฝุ่นละออง กลับกลายเป็นว่าผมเป็นต้นเหตุให้ทั้งคู่รู้ใจกัน ทั้งที่ผมหวังว่าคนที่จะอยู่เคียงข้างกับพี่ฟินต้องเป็นผมเท่านั้น หึ ทำบ้าอะไรลงไป ผมทำบ้าอะไรลงไปวะ

 

……………………………………………………

 

เท้าเปล่าของผมเหยียบย่ำไปบนทรายที่หยาบชื้น  ลมทะเลพัดผ่านร่างกายของผมให้หนาวเหน็บ ตัดสินใจออกมามันดีที่สุดแล้ว อย่างน้อยการที่ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุขมันก็ดี อืม ก็คงจะดีมั้ง แต่ทำไมผมถึงหายใจไม่ออกตื้ออยู่ในอกแบบนี้นะ

 

“ทำไมชีวิตผมถึงเศร้าจังครับแม่” ร่างสูงกอดเข่านั่งมองน้ำทะเลที่ซัดเข้าฝั่งคลื่นฟองเป็นเกลียวโค้ง จุดย่ำแย่ที่สุดในชีวิตมันมาถึงแล้ว

 

หมับ

 

“กูให้พรมึงข้อหนึ่ง มึงจะขออะไร?” มืออบอุ่นปิดตาผมไว้ทั้งสองข้าง เสียงของพี่ฟินถามผมระยะใกล้ ผมกุมมือคู่นั้นไว้

 

“พี่ตามผมมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

 

“ตั้งแต่มีไอ้เด็กบ้าวิ่งร้องไห้หนีมานั่นแหละ”

 

“ผมไม่ได้ร้องไห้”

 

“พรกำลังจะหมดเวลาแล้วนะ ขอเร็ว ๆ เข้าสิวะ” เขาเร่ง ผมยิ้มใจเต้นรัวแรงอยู่ในอก สิ่งที่ผมคิดในตอนนี้มีเพียงอย่างเดียว…

 

“ผมขอให้พี่อยู่กับผมไปตลอด รักผมเหมือนที่ผมรักพี่ได้รึเปล่าครับ”

 

“หมดเวลาแล้ว มึงอดแล้วไอ้เด็กบ้า” พี่ฟินปล่อยให้ผมเป็นอิสระ ทรุดตัวนั่งข้างผมเหยียดขาไปให้น้ำทะเลเข้าซัดทั้งสองข้าง

 

“พี่ขี้โกง” ผมเหยียดขาตามหันมาค้อนใส่

 

“กูเปล่า แต่ถึงมึงไม่ขอกูก็จะยัดเยียดตัวกูให้อยู่ดี”

 

“อะไรของพี่กัน แล้ว…พี่พัดล่ะ?”

 

“ถามถึงเพื่อนกูทำไม ไอ้พัดมันกลับไปนอนร้องไห้ที่ห้องแล้วมั้ง กูเพิ่งหักอกมันมา” ผมเบิกตากว้าง เขาพูดราวกับไม่ทุกข์ ร้อนอะไร

 

“ได้ไงครับ ไหนว่าพี่พัดชอบพี่ แล้วพี่ก็…”

 

“อืม กูชอบมัน แต่ลองมาคิดดู กูคิดว่ามันอาจเป็นเพราะมันเข้ามาตอนมึงหายไปด้วยแหละ พอมึงหายไปกูก็เหงา มีมันที่เข้ามาช่วงนั้นพอดี กูเลยคิดว่ากูชอบมัน รักมันมาก แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ถ้ากูลองคิดว่ากูเป็นแฟนมัน เห้อ~ กูคงทำตัวลำบากน่าดู”

 

“อะไรของพี่วะ โลเล หลายใจ”

 

“ด่ากูนะไอ้ฟ้า กูจะบอกอะไรให้นะ ที่กูทำตัวนักเลงก็เพราะมึง เป็นเพราะมึงนั่นแหละมาให้กูเป็นเจ้าสาวบ้าบออะไรก็ไม่รู้ กูเลยคิดว่าตัวเองยังไม่แมนพอ เลยไปฝึกทุกอย่างให้ตัวเองดูแมนขึ้น แล้วที่กูหลบหน้ามึงมาตลอดก็เพราะ…”

 

“เพราะ?”

 

“…กะ…กูเขิน” ผมยิ้มแก้มปริหยิกแก้มพี่ฟินมายืดออกทั้งสองข้าง ถึงจะโดนอีกคนทั้งตบหัวเตะขาก็ไม่หวั่น น่ารักจัง

 

“พี่เขินมาเป็นปี ๆ ทำได้ไงวะ”

 

“มึงไม่เข้าใจ!! นั่นจูบแรกของกูเลยนะ แถมยังเป็นผู้ชายอีก กูรับไม่ได้ กูไม่สามารถไปจูบคนอื่นได้อีก ถึงมันจะเด็กแต่กูความจำดีนะ กูก็ไม่คิดว่ากูจะมาอ่อนไหวกับผู้ชายด้วยกัน”

 

“เพราะอะไรพี่ถึงเลือกผมอะ”

 

“กูจะเลือกใครมันก็ต้องมีคนเจ็บอยู่ดี กูเลยเลือกทำตามหัวใจของตัวเองดีที่สุด หรือมึงอยากให้กูไปคบไอ้พัด” น้ำเสียงพี่ฟินฉุนขึ้น ผมรีบปลอบดึงร่างพี่ฟินมาโอบเอวเอาไว้

 

“เฮ้ย! มึงทำเหี้ยอะไรเนี่ย ทุเรศชิบหายมากอดกันริมหาด”

 

“พี่อยู่นิ่ง ๆ เหอะ ไม่มีใครเห็นหรอกครับ ถึงเห็นผมก็ไม่สนใจแล้วตอนนี้”

 

“หน้าด้าน”

 

“ก็แฟนพี่ไง” ผมยิ้มกรุ้มกริ่มเอียงหน้าช้อนตามองพี่ฟิน

 

“กูบอกมึงตอนไหนว่าเป็นแฟน” ฟินยิ้มถามเสียงเรียบ

 

“งั้น…พี่เป็นแฟนกับผมนะ นะครับพี่ฟิน” ผมถูหน้ากับไหล่กว้าง พี่ฟินดันหัวผมออกเตะน้ำใส่หน้าผมซ้ำอีก

 

“ไม่เว้ย!” ฟินลุกขึ้นยืนปัดทรายที่เกาะเต็มกางเกงออก

 

“อะไรของพี่วะ จะหักอกผมอีกคนรึไง ใจร้าย” ผมยื่นมือส่งไปทางพี่ฟินให้พยุงขึ้นหน่อย พี่ฟินมองมือของผมยื่นมามาจับดึงให้ลุกขึ้น ผมไม่ยอมปล่อยสอดนิ้วเข้าไปประสานกันเอาไว้

 

“จับมือกันไปจนถึงห้องพักได้ไหม” พี่ฟินพูดยิ้ม ๆ

 

“โห เป็นกิโลเลยนะ ผมเอารถมา”

 

“ไอ้โง่ หมายถึงหลังจากลงรถดิ กูก็ไม่เดินกลับหรอกนะ”

 

“แล้วไม่กลัวคนอื่นเห็นเหรอครับ” ผมแกว่งแขนเดินเตะเท้าไปพร้อม ๆ กับพี่ฟิน

 

“มันดึกแล้วคงนอนกันหมดแล้วแหละ ได้ไหมล่ะ?” พี่ฟินถามย้ำ

 

“ตามบัญชาครับ พี่ขออะไรผมก็ยอมทั้งนั้นแหละ” ขอแค่ให้มีพี่ยืนอยู่ข้าง ๆ ผมก็พร้อมจะทำให้ทุกอย่าง เราเดินเล่นกุมมือกันไปจนถึงที่หมาย พี่ฟินขึ้นรถมานั่งข้างคนขับ ผมหันมายิ้มยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนลมหายใจของเรารินรดกัน

 

“อยาก…จูบ” ผมส่ายสายตารอคำตอบ

 

“เป็นแฟนกับกูดิ แล้วกูจะให้จูบ” ฟินยักคิ้วยื่นหน้ามาแนบชิดเอียงหน้าจนปากเราเกือบจะติดกัน ผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ยกมือทาบอกตัวเอง

 

“ครับ ตกละ...จุ๊บ~ “ ผมยังไม่ทันจะพูดจบริมฝีปากร้อนของพี่ฟินก็แนบลงมาปิดทับ เพียงแค่เสี้ยวสัมผัสแก้มของผมก็เห่อร้อนขึ้นมา

 

“หึ วันนี้แค่นี้ก่อน เป็นแฟนกูแล้วนะไอ้ฟ้า รักกูให้มาก ๆ แล้วกูจะให้แม่ไปขอ”

 

ตึกตัก ตึกตัก

 

ผมจะทำยังไงดี ตอนนี้ร่างกายมันชานิ่งไปหมด ใบหน้าพี่ฟินเปื้อนยิ้มจนผมไม่อาจะสายตาไปไหนได้ ผู้ชายคนนี้กลายมาเป็นแฟนผมเพียงแค่ข้ามคืน ทุกอย่างมันไวจนผมตั้งตัวไม่ทัน แม่ครับ…ชีวิตผมมันกำลังมีสิ่งดี ๆ เข้ามาแล้ว ผมกำลังยิ้มอย่างมีความสุขที่สุด มือของผมประคองใบหน้าอีกคนกดลงมาจูบอีกครั้ง และอีกครั้ง

 

 

 TBC.

 

                    

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา