I'm sorry! ขอโทษครับ สามีผมโหด
เขียนโดย LemonNest
วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.30 น.
แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) ขอโทษครับ 10
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 10
ดิน
“มึงเก็บกระเป๋าเสร็จยัง” ผมถามตี๋มืออีกข้างถือบุหรี่จุดสูบยืนพิงพนังอยู่นอกระเบียง พรุ่งนี้ไปค่ายผมนั่งจัดกระเป๋าตั้งแต่สองทุ่ม ผมคงพูดผิด จริง ๆ เป็นติ้วมากกว่าที่จัดให้ ไม่รู้มันจะตื่นเต้นอะไรนักหนา
พี่รู้ไหม นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เดทกันเลยนะ
เอาที่มันสบายใจ ผมยกมือสองข้างเดินออกมานอกห้องปล่อยให้สามีที่รักนั่งยิ้มไปจัดไปเหมือนคนบ้า ได้ทีก็แวะมาหาตี๋มันหน่อย ไม่นึกว่าจะเจอเรื่องเด็ดให้
“หน้าเป็นส้นตีนอะไร รู้ว่ากูไปด้วยทำเป็นป่วย” ตี๋ไม่ได้จะสนใจจะตอบคำถามผม หน้ามันดุไอ้เด็กฟางที่นั่งแบะปากอยู่ข้าง ๆ
“ก็ไหนเต้ยบอกมึงไม่ไปไงวะ” ฟางนั่งพับผ้าใส่กระเป๋าอย่างไม่เต็มใจ
“ก็กูจะไป” ตี๋ทำหน้าหาเรื่องมือโยกหัวฟางที่ปัดออกทันควัน ผมเลื่อนปิดกระจกไม่อยากจะฟังทั้งคู่ทะเลาะกัน มันน่ารำคาญ
ผมแหงนหน้ามองก้อนปุยสีขาวที่เคลื่อนที่ลอยไปมาอยู่บนท้องฟ้า ลมเย็นพัดผ่านหน้าให้อารมณ์เงียบสงบ นึกถึงหน้าคนที่นั่งอยู่ที่ห้องแล้วอดจะยิ้มไม่ได้ ความรักมันเกิดได้ทุกที บางครั้งก็ต้องใช้เวลา แต่บ้างก็รักกันเพียงแค่เจอหน้า
ผมไม่เสียใจเลยที่ได้เจอมัน
เหมือนอีกคนจะคิดแบบเดียวกัน เสียงแผดร้องของติ้วที่อัดไว้ในโทรศัพท์ร้องดังขึ้นเรียกชื่อผมเสียงไพเราะ โคตรอายแต่ไม่ยอมก็ไม่ได้
“อืม ว่าไง” ผมอัดควันเข้าปอดพ่นออกมามือกดรับสาย
(พี่หายไปไหนครับ ติ้วออกมาก็ไม่เจอ) เสียงง้องแง้งมาก ผมดึงบุหรี่ออกจากปากตอบกลับ
“มาห้องไอ้ตี๋ เย็นนี้กินอะไรจะได้ซื้อเข้าไป”
(กินพี่ดิน ฮ่า ๆ ๆ ไปไหนให้บอกผมใจหายรู้เปล่า จะกลับยังอ่า)
“อีกสักพัก หิวไหม พี่จะได้ซื้อเข้าไปไม่ต้องออกมาอีก” เสียงเคาะกระจกดังขึ้นข้าง ๆ เป็นตี๋ที่ยืนเท้าสะเอวชี้ที่ประตูขยับปากว่าจะออกไปข้างนอก
(รอได้ ไปพร้อมกัน)
“งั้นแต่งตัวเลย จะกลับแล้ว” ผมวางสายเลื่อนประตูเปิดออก หยิบที่เขี่ยบุหรี่มาดับไฟลง
“มึงจะกลับยัง ถ้ายังจะได้ทิ้งกุญแจสำรองไว้ให้” มันโยนกุญแจให้ผม แต่ผมไม่รับส่ายหน้ามองไอ้เด็กฟาง
“กลับเลย มึงจะไปไหนกัน?”
“ไปหาอะไรให้คุณชายเค้าแดก เรื่องมาก!” มันหันไปขึ้นเสียงใส่เด็กมัน ฟางหน้าเชิดมองผมแวบนึง
“กูไม่ได้บังคับ มึงจะอยู่กับพี่ดินก็อยู่ไป กูไปเองได้” ผมฟังจากน้ำเสียงมันเหมือนจะน้อยใจ แต่ก็เรื่องของมันไม่เกี่ยวกับผมนี่หว่า
“ไปเอง ปล่อยมึงอยู่คนเดียวก็มีแต่เรื่อง”
“เออ! แล้วเสือกอะไรกับกูล่ะ ใครขอให้มึงมาช่วย กูน่าจะปล่อยให้แม่งฆ่าให้ตายไปเลยก็ดี”
“ไอ้ฟาง!!” ผมถอนหายใจเดินหนีออกมามือกดโทรหาติ้วให้มันเอารถมารับที่หน้าคอนโด เรื่องราวเป็นยังไงก็ไม่มีใครเล่าสักคน ผมรู้แค่ไอ้เด็กฟางอยู่ห้องเดียวกับตี๋ ไหนบอกพี่ชายมันโหด ผมล่ะงง
……………………………………………………………….
ฟาง
ผมดันตัวไอ้ตี๋ออกเมื่อมันพุ่งมาดึงเสื้อคอวีของผมลอยติดมือ จะมาเดือดร้อนทำเหี้ยอะไร ผมก็แค่ออกไปหาอะไรกิน แค่ไปคนเดียว และผมก็โตพอจะดูแลตัวเองได้บ้าง
“แค่กๆ ป…ล่อย…” ผมจะตายอยู่แล้วถ้ามันยังไม่ปล่อยเสื้อ
“อยากไปไหนก็ไป!!”
ไอ้ตี๋เปิดประตูห้องออกโยนผมล้มลงกับพื้นก่อนจะปิดลงเสียงดังลั่น ห้องข้าง ๆ เปิดประตูออกมาดู มองผมสายตาสงสัย ผมปัดฝุ่นตามตัวออกลุกขึ้นยืนตรงไปยังลิฟท์
กูก็ไม่ได้อยากอยู่นักหรอก
ครืน ครืน
ผมแหงนหน้ามองท้องฟ้าที่ตั้งเค้าเหมือนฝนจะตก ดีที่หยิบกระเป๋าเงินติดตัวมา ถึงโทรศัพท์ไม่มีแต่ก็มีตู้สาธารณะไว้ใช้บริการยามฉุกเฉิน อย่างน้อยก็จำเบอร์ไอ้ติ้วกับพี่ฟินได้
ซ่า ซ่า
พูดยังไม่ทันขาดคำเม็ดฝนก็โปรยลงมาสาดใส่เสื้อสีขาวของผมให้ลู่แนบไปตามตัว กางเกงขาสั้นชื้นแฉะขยับขาทีก็ลำบาก ผมวิ่งฝ่าฝนไปหลบใต้ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ที่สุด
“แย่จังเลยนะครับ ผมเพิ่งจะออกมาได้แป๊บเดียวก็ต้องมาติดฝนซะได้ หิวจะตาย” ผมหน้าเหรอชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“คุยกับผม?”
“ก็มีกันแค่สองคน” เขายิ้มให้ผมก้มมองต่ำ ผมเอียงหน้าก้มมองตัวเองที่หัวนมโผล่น่าอาย
เวร ไม่มีเสื้อปิดด้วย
พรึ่บ
“ดูท่าทางจะหนาวนะครับ ผมให้ยืม” เขาใจดีเกินไปแล้ว ผมเอ่ยขอบคุณสวมเสื้อแขนยาวที่ถูกยื่นมาให้
“นายชื่ออะไร?” ผมถามออกไปเงยหน้ามองอากาศที่ฝนคงไม่หยุดง่าย ๆ
“…ฟ้า ชื่อเรามันไม่เหมาะกับหน้าเลยใช่ไหม”
“ก็น่ารักดี ผู้ชายชื่อฟ้ามีเยอะแยะไป” ผมยิ้มมองหน้าหล่อของคนแปลกหน้า ฝนเริ่มซาลงเขาหยิบร่มออกมาจากกระเป๋า
“แล้วนายล่ะ?”
“ห้ะ ฟาง…ก็มีร่มทะ…” ผมมัวแต่ยืนงงตอบไปแบบส่ง ๆ
“ตอนแรกก็จะกางร่มไปที่รถ แต่เห็นฟางวิ่งมาเลยอยากติดฝนเป็นเพื่อน บาย แล้วเจอกันครับ”
อยากติดฝนเป็นเพื่อน
“บ้าชะมัด แล้วเราจะคืนเสื้อยังไงวะ” ผมมองแผ่นหลังกว้างที่เดินหายเข้าไปในรถที่จอดอยู่ใต้ตึกฝั่งตรงข้าม พูดเหมือนจะเจอกันอีก เห้อ เจอแต่คนแปลก ๆ
………………………………………………………..
ผมโบกรถไปห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลมาก เดินเลือกของกินกับของใช้ไม่ได้สนใจเวลาที่เดินไปเรื่อย ๆ ก่อนอื่นก็ต้องซื้อเสื้อผ้ามาเปลี่ยนรวมถึงชั้นในที่เปียกจนต้องบิดน้ำแล้วหิ้วใส่ถุงกองรวมกันกลับไปซักที่ห้อง เสียดายครับ ซื้อมาโคตรแพง
“รับเป็นแหวนคู่ดีไหมคะ พี่จะคิดให้ราคาพิเศษเลยนะ” ผมแค่เห็นมันสวยเลยหยุดแวะดู ใจก็จะซื้อแค่วงดียวแต่ถ้าซื้อคู่มันถูกกว่ามาก แล้วผมจะใส่กับใครวะ
“ผมไม่มีแฟนครับพี่” พี่ผู้หญิงทำหน้าไม่เชื่อ
“งั้นใส่กับเพื่อนก็ได้นะคะ หลายคนมาซื้อก็ใส่กับเพื่อนสนิท กับพี่ชายน้องสาว” ผมทำหน้าสยองคิดภาพใส่คู่กับพี่ฟิน มันคงได้ตบหัวพร้อมประโยคที่ด่านับไม่ถ้วน
“งั้นเอาสองวงก็ได้ครับ” เผื่อจะให้ใครแล้วกัน อืม ให้ต้นข้าวดีกว่า เราลืมไปได้ไงนะ
ผมกลับเข้ามายืนหยุดอยู่หน้าประตูห้องไอ้ตี๋ ขอกุญแจพี่พนักงานที่เพิ่งจะรู้จักกันก่อนจะขึ้นมายืนทำใจได้สักพัก ขอให้มันไม่อยู่ ยังไม่ทันจะไขห้องประตูก็เปิดออกกว้างปรากฏร่างพี่ดินที่สวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำ
“พี่ก็เป็นห่วง นึกว่าฟางจะหลงซะแล้ว มือถือก็ไม่ได้เอาไป” พี่ดินเป็นห่วงผมเหรอ แล้วไหนว่ากลับไปแล้วไง
“พี่ไม่ได้กลับไปแล้วเหรอครับ”
“ติ้วมีธุระด่วนที่บ้านคงกลับดึก พี่ว่าจะฝ่าฝนกลับห้อง แต่ตี๋มันมาดึงตัวไว้บังคับให้เข้ามาอาบน้ำก่อนเนี่ยแหละ”
“งั้นเหรอครับ” ผมพูดเสียงแผ่ว
“ฟางก็รีบอาบน้ำซะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา” พี่ดินหลบทางให้ผมเดินเข้าไปข้างใน
ผมเหมือนเห็นอะไรติดอยู่ที่ประตู ที่แท้เป็นหน้าจอที่มองเห็นหน้าห้อง พี่ดินคงเห็นผมไม่เข้ามาสักทีเลยเปิดประตูให้คิดว่าเข้าไม่ได้ อืม ผมก็ลืมไปว่าคอนโดนี้ราคาแพงหูฉีก
“ดินมากินข้าว” เสียงตี๋เรียกเพื่อนดังขึ้น ร่างใหญ่เดินถือจานอาหารออกมาวางบนโต๊ะ ดินเข้าไปในห้องนอนของตี๋กลับออกมาอยู่ในสภาพเรียบร้อย
“ฟาง รีบไปอาบน้ำแล้วมากินข้าว” ผมส่ายหน้า
“ผมกินมาแล้วครับ งั้นขอตัวก่อน” ร่างบางหันหลังให้เดินหิ้วถุงเข้าไปอีกห้องที่อยู่ติดกัน ดินมองตามหันกลับมามองเพื่อนชายที่ใบหน้าเรียบเฉยทรุดตัวนั่งเก้าอี้ตรงข้าม
“มึงจะปล่อยไว้อย่างนี้?”
“อะไร?” ตี๋เงยหน้าสงสัย
“เอาเขามาก็ช่วยดูแลเขาหน่อยไอ้ห่า ระวังมันจะหนีไป”
“ก็ช่างมันดิ อยากไปก็ไป”
“แล้วมึงเอาฟางมาอยู่ด้วยทำไม?” ดินถามวางช้อนลง
“พี่มันแค่เป็นห่วงเลยฝากกูไว้ชั่วคราว ไอ้ฟินมันไปต่างจังหวัดหลายวัน กูก็ว่างเลยรับปากมางั้น ๆ”
“แปลก กัดกันจะตายทำไมมายอมง่าย ๆวะ”
“กูไปช่วยน้องมันมั้งเลยไว้ใจ แดก ๆ ไปเหอะ พูดมากนะมึง” ตี๋บ่ายเบี่ยงตักอาหารใส่จานดิน
“หึ หนีให้ได้ตลอด ชอบก็บอกว่าชอบ รักก็บอกว่ารัก รีบพูดก่อนจะมีโอกาส”
ตี๋เงียบลงเก็บคำของเพื่อนมาคิด ผมมันอาจจะบ้ามากที่ยืนหลบแอบฟังเขาคุยกัน ยกมือทาบอกที่จังหวะการเต้นของหัวใจรัวเร็วบีบอัดหายใจไม่ออก
ไม่ได้คิดอะไรกับกู แล้วมาให้กูจำแค่มึงทำไมวะ
………………………………………………….
ตี๋
ผมลงไปส่งไอ้ดินข้างล่างกลับขึ้นมาเก็บจานบนโต๊ะเอามาล้างจนสะอาด มองประตูห้องไอ้ฟางที่ปิดสนิทไม่เปิดออกมาตั้งแต่ช่วงเย็น ไม่ใช่ตายคาห้องไปแล้วนะ
กึก
กุญแจถูกไขเข้าไปในห้อง ฟางนอนคว่ำเอียงหน้าออกข้างลมหายใจสม่ำเสมอ ข้าวของวางลงข้างเตียงน้ำหยดเป็นทางยาวตั้งแต่ห้องน้ำยันเตียงนอน
“ไม่เช็ดตัวป่วยขึ้นมากูไม่ดูแน่” ผมบ่นคว้าผ้ามาไล่เช็ดน้ำตามพื้น เห็นเสื้อแขนยาวตากอยู่นอกระบียงเมื่อเอาผ้าขี้ริ้วไปตาก
มันเคยบ่นว่าไม่ชอบสีดำ แล้วเสื้อสีดำมันเป็นของใคร?
“อืม ปวดหัวชิบหาย” ตื่นแล้วก็ดี ผมหยิบเสื้อที่ยังไม่แห้งเข้ามาในห้อง ไอ้ฟางเบิกตาตกใจลุกพรวดขึ้นนั่ง
“มึงเข้ามาได้ยังไง?!”
“ห้องกู ทำไมกูจะเข้าไม่ได้” ผมพูดโยนเสื้อโป๊ะหน้ามัน
“ของใคร?” สีหน้ามันซีดลง ผมเดาว่าไม่ใช่ของมันล้านเปอร์เซ็น
“ก็ของกูไง มึงจะถามทำไม” มันตอบกลับเสียงเรียบ โกหกหน้าตายเลยนะมึง
“กูให้ตอบใหม่” ผมไม่เชื่อแม่งหรอก เดินเข้าไปประชิดบีบคางมันให้เงยหน้าขึ้นมองตา มันหันหน้าหนี
หึ โกหกกูจริง ๆ
“ของกูไงวะ! โอ๊ย!! กูเจ็บไอ้สัส” ฟางร้องมือทุบแขนแข็งแรงให้ปล่อย
“ตอบไม่มองหน้ากู อยากลองดีใช่ไหม” เสียงเหี้ยมเอ่ยถาม
“มึงจะอะไรนักหนากับอีแค่เสื้อตัวเดียว เออ! ไม่ใช่ของกูแล้วมันยังไง” คลายออกมาจนได้นะ มันยังไง หึ
ผมกำลังจะจัดการไอ้ฟางแต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะ ผมปล่อยมันเป็นอิสระมือควานหาโทรศัพท์ขึ้นกดรับ มันจะหนีออกนอกห้องแต่ผมไวกว่ากระชากตัวมันเหวี่ยงลงบนที่นอนกระโดดไปนั่งทับมันไว้ทั้งตัว
“เออ”
(ไหนมึงว่าไอ้ฟินไปต่างจังหวัด ทำไมมันมีชื่อไปค่ายวันพรุ่งนี้ด้วย)
“อะไรนะ! กูก็ตรวจสอบแล้วไม่เห็นชื่อมันโผล่เมื่อวานวะ” ต้องเป็นฝีมือไอ้เหี้ยพัดแน่ เล่นตุกติกกับกูนะ
(กูจะรู้ไหมล่ะ ไม่ใช่เรื่องของมึงหรอกมั้ง กูแค่โทรมาบอก)
เรื่องกูเต็ม ๆเลย!!
“มึงตัดชื่อมันสองคนออกได้ไหม” ผมถามเผื่อจะได้ เพราะงานนี้ไอ้ดินมันเป็นแกนนำ ฝ่ายสโมมันใหญ่ก็จริงแต่ก็ต้องผ่านไอ้ดินก่อน
(กูทำได้….แต่กูไม่ทำ ไอ้ฟินไปก็ดี มึงจะได้ไม่ต้องลำบากดูแลฟางไง)
ดีส้นตีนอะไร!!
“ไอ้สัสดิน มึงอย่ามากวนตีน เอาชื่อไอ้พัดออกก็ได้” ผมต่อรอง
“พี่พัดไปด้วยเหรอวะ?!” ไอ้ฟางโพล่งถามหน้าตาปิดไม่มิดว่ามันกำลังดีใจ มากไป มึงมากไปแล้วนะ
(กูทำไม่ได้ ไอ้พัดมันตัวแทนสโม ตัดออกเดี๋ยวจะมีปัญหา แค่นี้นะ ผัวกูเริ่มเยอะแล้ว)
มันกดตัดสายทิ้งไปง้อผัวตามเคย ผมโยนโทรศัพท์ทิ้งก้มลงซุกคอขาวกัดเนื้อนิ่มเต็มปากเต็มคำ ไอ้ฟางร้องเสียงหลงดิ้นทุรนทุรายจะขาดใจให้ได้
“อ้าก!! กูเจ็บ!”
มือผมตะปบสะโพกมันบีบนวดใบหน้าเลื่อนต่ำมาที่หน้าอกแบนราบ ไล้ลิ้นละเลงลงบนจุกนมชมพูผ่านเสื้อคอวีที่แหวกยาวลึก มันแอ่นตัวลอยขึ้นแต่ขาพยายามถีบผมออก
“อื้ม~” ฟางกัดริมฝีปากมือกดหัวตี๋ให้แนบชิดมากยิ่งขึ้น ยิ่งช่วงล่างเสียดสีกันไปมากลางกายคับพองแน่นอยากจะปลดปล่อย แค่สัมผัสเบา ๆ ตี๋ก็ปลุกอารมณ์อีกฝ่ายได้ไม่ยาก
ผมเลิกเสื้อมันขึ้นพรมจูบทิ้งรอยไว้ตามตัวขาว มือถอดกางเกงมันออกให้พ้นจากขาก่อนจะแกล้งลูบขาอ่อนมันเล่นบีบหนักให้หายหมันเขี้ยว ไอ้ฟางยกขาชันตั้งขึ้นกระดกตัวลอยล่อนเอวกระแทกเข้ากลางลำตัวผมจนจุก น้องมันกับน้องผมชนกันอย่างจัง
อารมณ์เสียววูบขึ้นขนตามตัวลุกซู่ รีบบดตัวเข้าหามันจนร่างบางจมลงไปกับเตียง ผมไม่ปล่อยให้มันสนุกอยู่นานดึงร่างมันขึ้นติดมากับผมที่เปลี่ยนท่าเป็นนั่งแทน กลายเป็นไอ้ฟางนั่งทับผมในท่าคร่อมเรียบร้อย เหมือนมันจะรู้ว่าผมจะทำอะไรส่ายหน้าสองแก้มแดงระเรื่อ
“อายอะไร เห็นมาหมดแล้ว” ผมพูดหยอกล้อมือบีบก้นมันเล่น นิ่มชิบหาย
“มันก็ไม่เหมือนกันไอ้สัส กูเคยนอนแต่ข้างล่าง ไม่ใช่….”
“ก็เปลี่ยนมาอยู่ข้างบนบ้างจะเป็นไรไป วันนี้กูเหนื่อยขยับให้หน่อย” ผมขอหน้าด้าน ๆ ผลักตัวมันออกเล็กน้อยมือรูดซิปควักความเป็นชายออกมารูดรั้งต่อหน้า
ไอ้ฟางมันมองตามกลืนน้ำลายหน้าซีด ผมยิ้มโน้มตัวไปทางมันเอื้อมมือหยิบถุงยางมาฉีกสวมครอบลงไป หยิบเจลส่งให้มันจัดการของตัวเอง
“กูไม่เล่นแบบนี้ ก็เอาเหมือนเก่าดิวะ”
“เร็ว ชักช้ากูไม่เบิกทางให้แล้วอย่ามาร้องนะ” ผมเร่งโยนขวดเจลให้ มันแบมือรับหน้างอ
“มึงแม่ง! กูไม่อยากก็บังคับจังวะ” มันบ่นมือบีบเจลก่อนสอดนิ้วเข้าไปทางด้านหลังตัวเองหน้าเหยเก ผมพลิกตัวให้มันหันหลังมา
“ทำต่อไป กูไม่สั่งอย่าหยุดนะ” ผมอยากเห็นมันสอดนิ้วเข้าไปชัด ๆ ไอ้ฟางเอี้ยวตัวมาจะด่าแต่เจอผมปิดปากด้วยจูบได้แต่อืออึงในลำคอ ผมจับมือมันให้ขยับกดนิ้วหายเข้าไปลึก
“อื้อ อื้มมม…” ฟางครางในลำคอใบหน้าแดงก่ำ
ผมจับสะโพกมันยักขึ้นดึงลงมาให้ช่องรักกับแท่งร้อนตรงกัน กดเข้าไปช้า ๆ ก่อนจะกระแทกตัวหยัดเข้าไปในโพรงนุ่มทีเดียวมิดลำ ไอ้ฟางเอื้อมมือมาจิกหัวผมกำแน่น ทั้งเจ็บทั้งเสียว ฟางแม่งโคตรน่าเอา
“อ้าห์ ~ จัดการเลย กูให้มึงนะวันนี้” ผมเอนตัวไปเท้าแขนด้านหลัง ปล่อยให้มันขย่มสะโพกลงมาเอง แรก ๆมันก็ด่าแต่ดีที่ปากด่าแล้วเสือกทำ
ปึก ปึก ปึก
ผมมองแผ่นหลังขาวที่ช้ำเป็นจ้ำ นั่งมองผลงานของตัวเองด้วยความพอใจ แค่นี้มันก็ไม่กล้าถอดเสื้อโชว์ใครแล้วครับ อดใจไม่ไหวจะโน้มตัวสอดมือไปช่วยมันข้างหน้า มือหนารูดแก่นกายร้อนที่หัวมีน้ำปริ่มออกมา ฟางหอบหายใจเหนื่อยแต่หน้าเปื้อนความสุข
“อะ…ซี้ดดด…กูจะ…แฮ่ก ๆ” ฟางกัดฟันกรอดพ่นลมหายใจร้อนออกมา
พรึ่บ
ผมจับตัวมันในท่าคลานตัวคร่อมซ้อนหลังมันเอาไว้ คุกเข่าจับบ่ามันแน่นหยัดแท่งร้อนรัวกระหน่ำใส่มันเต็มกำลังแรงทั้งหมด เสียงหยาบโลนดังลั่นห้องปนกับเสียงครางของทั้งผมและมันที่แข่งกันฟังไม่ได้ศัพท์
น้ำเหนียวขาวขุ่นฉีดพ่นลงไปในร่องช้ำไหลย้อนออกมาเลอะขาขาวทั้งสองข้าง มันหันมาตบหน้าผมฉาดใหญ่ทำตาดุที่ผมปล่อยในใส่ร่างกายมัน ก็คนมันอดไม่อยู่จะให้ทำยังไง ปล่อยในมันอุ่นดีผมชอบ แต่ไอ้ฟางมันไม่ชอบ
“วันหลังไม่ต้องมาเอากูเลยนะ พูดอะไรไม่เคยฟัง” ผมแสยะยิ้มโยกสะโพกแกล้วมันเล่น ไอ้ฟางรีบหาที่ยึดมือจับแน่น
“จัดกระเป๋าเสร็จแล้วใช่ไหม” ผมถาม
“เออ แต่กูจะไปเอาออกบ้าง ถ้ารู้ว่าพี่ฟินไปด้วยกูไม่เอาใบใหญ่ไปหรอก หนัก! ให้พี่กูแบกไปแทนดีกว่า”
“ไม่ต้องเอาออก มึงไปกับกูไม่ต้องไปกับรถมหา’ลัย”
“ไม่เอา กูจะไปนั่งกับเพื่อนกู”
“หึ แล้วคอยดูว่ามึงจะได้นั่งกับเพื่อนมึงไหม คืนนี้ไม่ต้องนอนหรอก” ผมพูดจบบีบก้อนเนื้อนิ่มหยัดกายเข้าไปใหม่ ไอ้ฟางร้องโอยเพราะผมเล่นเร่งเครื่องแบบไม่บอกล่วงหน้า คืนนี้ก็ยาว ๆ กันไปไม่มีพัก เรื่องเสื้อผมยังไม่ลืมนะ จบยกนี้ค่อยคั้นมันต่อ
………………………………………………………..
ฟาง
ไอ้เหี้ยตี๋!!!
ผมกรีดร้องมือคลำสะโพกตัวเองที่พังมาก ขยับทีปวดร้าวไปตามแนวสันหลังแบกกระเป๋าไม่ไหวจนลำบากมันต้องแบกให้ สรุปก็ต้องไปกับมันอยู่ดี เมื่อคืนแม่งโคตรเลว ถามผมไม่หยุดว่าเสื้อใคร ผมก็บอกปัดว่าเสื้อไอ้เพทาย มันไม่เชื่อจนผมต้องแกล้งสลบหลับคาอกมันนอนตายห่าท่าทางน่าสมเพช
“เดี๋ยวน้อง ๆ พักกันห้องละสองคนนะครับ พี่จะแจกกุญแจให้ไปพักกันก่อน” พี่พัดมีหน้าที่แบ่งคนเข้าพักตามห้องต่าง ๆ ผมได้นอนกับใครก็ไม้รู้ด้วย
“เสียใจ พี่ไม่ได้นอนกับฟางเลย” พี่พัดยื่นกุญแจให้ผม
“มึงหยุดเล่นได้แล้ว อาจารย์เรียกหามึงกับกูอยู่ แจกเร็ว ๆ” พี่ฟินมันไปโวยวายจะนอนกับผมแต่ไม่ได้ไง ชื่อมันล็อกไว้ห้ามเปลี่ยนจนกว่าจะจบทริปนี้
“ขอโทษที่มาสายครับ” เสียงทุ้มของผู้มาใหม่ดังขึ้น ผมหันไปมองเจอหน้าฟ้าที่วิ่งหอบมา
บังเอิญมาก
“น้องฟ้าจากมหา’ลัย XX ใช่ไหม อืม นอนกับฟางนะ” ผมมองหน้าพี่พัดที่ก้มลงอ่านชื่อ ไอ้ตี๋มันกำมือแน่นมองผมแบบโคตรดุ ใจผมสั่นเข่าอ่อนทันที
“ทำไมเอาคนจากที่อื่นมารวมกับเรา” ไอ้ตี๋มันถามเสียงโหด
“ทางค่ายจัดมากูจะรู้ไหม ถ้ารู้ว่าใครย้ายห้องจะส่งตัวกลับนะครับ ทางที่ดีทำตามกฎด้วย” พี่ดินป่าวประกาศมึงสะกิดไอ้ติ้วให้เดินตาม ขี้โกง ผมว่าพี่ดินแม่งจัดเองแน่เลย เพทายมันได้นอนกับต้นข้าวด้วย น่าอิจฉาว่ะ ไอ้เต้ยก็นอนกับพี่แซม สองสาวแตงออมก็ได้คู่กันอีก ทำไมมีแต่ผมที่ได้นอนกับคนอื่นวะ
“เจอกันอีกแล้วนะ โชคดีจัง” ฟ้ามันทักทายผมยิ้มแก้มปริ ก้มมองมือผมที่กำเสื้อมันแน่น คือที่จริงไอ้ตี๋มันจะโยนทิ้งแต่ผมแย่งมาได้จนปล่อยให้ห่างตัวไม่ได้
“เหอ ๆ คงงั้นมั้ง” ผมตอบกลับส่งยิ้มแหย ๆ ไม่อยากหันไปมองหน้าไอ้ตี๋เลยให้ตาย
“หืม เก็บเสื้อเราไว้ด้วยเหรอ น่ารักจัง” ชิบ! มึงพูดอะไรตอนนี้ จบกันกู
พี่ฟินกับพี่พัดเดินหายไปตอนไหนวะ ทำทิ้งผมไว้กับไอ้ฟ้าและไอ้ตี๋กันสามคน มันกวาดตามองรอบกระชากแขนผมบีบกำแน่น
“โกหกกู” เสียงเข้มเอ่ยดุ
“ก็ขืนบอกมึงไปก็เท่านั้นแหละ พอ ๆกูจะเข้าห้องแล้ว” ผมโบกมือให้จบ ไอ้ฟ้ามันจับแขนไอ้ตี๋ให้ปล่อยมือจากผม
“ขอโทษนะ แต่ต้องขอตัวฟางก่อน ไปครับ เราเข้าห้องกัน”
“ไอ้สัส! แล้วเราจะได้เห็นดีกันไอ้ฟาง” มันโยนกระเป๋าใส่หน้าผมเดินแบกเป้ของตัวเองหายเข้าลิฟท์ไป มันได้นอนคนเดียวว่ะ รู้สึกโล่งใจดี แล้วทำไมกูต้องโล่งด้วยวะ แต่ตอนนี้คิดได้อย่างเดียว….
ซวยยยย!!! ไอ้ตี๋มันต้องฆ่าผมตายแน่
TBC.
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ