I'm sorry! ขอโทษครับ สามีผมโหด

8.3

เขียนโดย LemonNest

วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.30 น.

  36 chapter
  30 วิจารณ์
  56.19K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) ขอโทษครับ 11

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter 11

 

 

 

ฟาง

 

เสียงเครื่องดนตรีบรรเลงขึ้น พวกเราชาววิศวกรรมมาแล้วครับ

 

“ฮัลโหล ๆ เทส ๆ เอาล่ะครับ เช้านี้พวกพี่จะแบ่งกลุ่มให้ก่อนนะ เริ่มจากน้องแว่นคนแรกเลย นับหนึ่งนับครับ เราจะนับกันไปเรื่อย ๆ จนถึงสี่ ฮั่นแน่… ห้ามสลับที่นั่งกันนะครับ ถ้าพี่เห็นจะให้ลุกขึ้นมาเต้นโชว์ด้านหน้า” เสียงพี่ต่างมหา’ลัยถือโทรโข่งเดินไปมาเพื่อบอกชาวค่ายให้รู้กันถ้วนหน้า ผมกำลังสะกิดไอ้ติ้วให้แลกที่กันเลย ดักทางกูซะ

 

“พี่ครับ” มีน้องคนหนึ่งยกมือขึ้น

 

“ว่าไง”

 

“ผมขอสลับที่ไม่ได้เหรอพี่ ผมขาดแฟนไม่ได้อ่า” สิ้นเสียงเด็กใจกล้า เสียงโห่แซวก็ตามมา พี่คนที่รับหน้าเป็นคนนำทีมถึงกับเหวอเกาหัวแกรก ๆ

 

“น้อง พี่ขอล่ะ กติกาเป็นกติกาครับ แล้วแฟนน้องคนไหนล่ะ?”

 

“คนนี้พี่” มันชี้คนข้างตัวที่หน้าแดงก่ำ เป็นเด็กผู้ชายหน้าตาดีผิวออกแทนแต่ไม่ถึงกับคล้ำ

 

“ไอ้บ้า! มึงหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ” ผมโคตรสงสารแฟนมันเลย ฮ่า ๆ

 

“ไม่ต้องอายครับ มันเป็นเรื่องปกติ แต่พี่คงให้ไม่ได้พะ…” พี่เขากำลังพูดไอ้เด็กที่ถามมันก็คว้าคอแฟนมันมาหอมแก้มหน้าตาเฉย ทั้งโห่ทั้งด่าแซวมาหมด เพื่อนมันก็ตบหัวคนละทีด้วยความชอบใจ

 

“ผมขาดแฟนไม่ได้จริง ๆ พี่ ถ้าพี่ไม่อยากให้แฟนผมอายไปมากกว่านี้ก็ยอมซะดี ๆ”

 

มึงด้านมาก กูยกนิ้วให้เลย

 

 “พี่ให้มันไปเหอะ!”

 

“ยอม ๆ ไปเหอะพี่ ผมสงสารแฟนมัน ฮ่า ๆ ๆ”

 

“แม่งใจชิบหาย” 

 

“โอเคครับ งั้นน้องสองคนอยู่ทีมเดียวกันนะ พี่ไหว้ล่ะ ขอแค่สองคนนี้นะครับ” พี่คนนั้นยกมือขึ้น พวกเพื่อนไอ้คนติดแฟนมันยังไม่เลิกแซว จวบจวนได้เวลาจริงจังพวกเราก็นับเลขเริ่มจากคนแรกเพื่อจับกลุ่ม

 

กำลังจะนับถึงผมมือของใครสักคนก็ฉุดผมลุกขึ้น ไอ้ติ้วมันก็ลุกตามเดินไปหาพี่ดินที่โบกธงหมายเลขหนึ่งเอาไว้ หลายคนที่รู้กลุ่มก็ต่างเดินไปหาพี่นำทีมของตัวเอง ผมเงยหน้ามองไอ้คนที่มาดึงมือผมก่อนจะเบิกตากว้าง

 

 “มึง!” ไอ้ตี๋มันเอามือมาปิดปากผมลากออกมานอกแถว แล้วดันนั่งเป็นคนหลังสุดด้วยเลยง่ายต่อการเคลื่อนย้ายโดยไม่มีใครทันสังเกตเห็น

 

“มาอยู่กับกู”

 

“ไม่เอา อยู่กับมึงกูคงได้ประสาทแดกตาย” ผมเอ่ยหมุนตัวจะไปนั่งที่เดิม มือหนากระชากแขนผมรั้งเอาไว้ มันเอาผ้าสีขาวที่เขียนด้วยพู่กันว่าหมายเลขหนึ่งมาผูกแขนผม มองกลับไปยังที่นั่งตัวเองก็นับเลยไปไกล

 

“ห้ามแกะออก ห้ามหายนะครับน้องฟาง” มันยิ้มพูดสุภาพใส่ มีน้องอีกคนยืนต่อหลังผมอยู่นั่นเอง

 

“ครับ”

 

ผมโคตรจะเจ็บใจแต่ทำอะไรมันไม่ได้สักอย่าง ค่ายนี้มีชั้นปีสาม ปีสอง และปีหนึ่ง รวมทั้งสิ้นก็เกือบร้อยคนครับ คนยิ่งเยอะยิ่งสนุก ถ้ามีสาว ๆ มามากกว่าแค่สิบผมคงจะนอนตายตาหลับ ที่มีอยู่ก็ถึกกันทั้งนั้น ไอ้ออมมันดูบอบบางขึ้นมาเมื่อเทียบกับคนอื่น

 

“อ้าว ฟ้าอยู่หนึ่งเหมือนกันเหรอ” ผมร้องทักเมื่อเห็นหมายเลขที่ข้อแขนมันที่เหมือนกับของผม

 

“อืม โชคดีจังได้อยู่กลุ่มเดียวกัน เราคิดว่าฟางจะไปอยู่กับเพื่อนซะอีก” เออ ไอ้ติ้วมันหายไปไหน ผมชะโงกหน้ามองหามัน เห็นหัวไว ๆ เดินไปทางป่าเคียงข้างพี่ดินไปเลย

 

หึ ผมไม่เชื่อหรอกว่าพี่ดินจะไม่วางแผนอะไร ได้นอนห้องเดียวกัน ทีมเดียวกัน ร้ายจริง ๆ

 

“มันไปนู้นแล้วแหละ แต่ก็ดีเจอนาย เราก็ไม่รู้จักใครเลย” อย่างน้อยก็มีไอ้ฟ้ามาเป็นเพื่อนคุย ผมตบบ่ามันพาดขนไปนั่งรอคนที่เหลือที่เก้าอี้ใต้ต้นไม้ ไอ้ตี๋มันมองผมสายตาโหด ผมยิ้มแกล้งเอียงคอไปซบไหล่ไอ้ฟ้า

 

“เฮ้ย! ฟางทำอะไร ตกใจหมดเลย” ฟ้าสะดุ้งแต่ไม่ได้ผลักหัวฟางออก ใจเต้นรัวมือบีบกันแน่น

 

“เมื่อยคอ” ผมตอบสั้น ๆ ยักคิ้วให้ไอ้ตี๋ที่เผลอรัดข้อมือน้องคนนั้นแน่นจนต้องขอโทษขอโพย

 

“รู้สึกดีจัง ซบนาน ๆ ก็ได้กำลังดี”

 

ผมรีบเด้งหัวออกนั่งตัวตรง กูลืมไปได้ยังไงว่าไอ้ฟ้ามันเจ้าเล่ห์ เห็นหน้าซื่อ ๆ มันร้ายใช่หยอก ดูจากเมื่อคืนแล้วเสียวสันหลังไม่หาย ผมไหวไหล่ทำท่าน่าขนลุก นึกถึงเรื่องที่มันกอดผมทั้งคืนอ้างว่าติดหมอนข้างแล้วขนแขนก็ตั้งชันขึ้นตรง

 

ผมรู้มันอ้าง แต่ก็ดีกว่ามันปล้ำล่ะวะ

 

“เออ ว่าจะถามอยู่ ทำมาค่ายได้อะ” ผมโพล่งถามให้หายข้องใจ ฟ้าเอียงหน้ายิ้มช้อนตามองผมก่อนจะหันกลับไปมองทางเดิม

 

“ที่มาเพราะฟางมาไง” มันตอบขำ ๆ

 

“ห้ะ เรามา?” ผมไปรู้จักมักจี่มันตอนไหนวะ ขอโทษเหอะ ผมไม่คบเพื่อนหน้าหล่อ ต้องหน้าเหี้ยแบบไอ้ติ้ว ไอ้เพเท่านั้น จุ๊ ๆ อย่าเอ็ดไป

 

“หึ จำกันไม่ได้เลยไงวะ ไอ้ฟางขี้แย” เริ่มคุ้นกับคำที่มันใช้เรียกผม จับหน้ามันมาลองมองดี ๆ ก็คุ้นตาอยู่แต่นึกไม่ออก

 

“เดี๋ยวนะ…ฟ้าเหรอ? ฟ้า…อืม…” ผมครุ่นคิดโน้มหน้าไปจนจมูกเราชิดกัน

 

“ถ้ามึงจะใกล้กูขนาดนี้ ใกล้มากกูจับจูบเหมือนตอนเด็กนะเว้ย” มันยิ้มหน้าหื่น

 

ชัดเจน! อ้าก!! ไอ้เหี้ยสีฟ้า ไอ้คนที่ขโมยจูบแรกของผมไป

 

“ไอ้สีฟ้า! มึงยังไม่ตายอีกเหรอวะ” ถึงจะขวัญเสียเรื่องวัยเด็กไม่หายเมื่อนึกถึงจูบของเรา แต่ผมก็อดดีใจไม่ได้ที่เจอเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ บ้านไอ้สีฟ้ามันขายพวกสีทาบ้านครับ ที่จริงบ้านมันก็อยู่ใกล้กับผมนั่นแหละ แต่ตอนป. 6 มันย้ายไปต่างจังหวัดเราเลยไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ผมทำที่อยู่และเบอร์โทรมันหาย มันเองก็ไม่มีเบอร์ผมด้วย เจอกันทุกวันจะเอาไปทำห่าอะไร ผมคิดได้แค่นั้นนะตอนนั้น

 

“กวนตีน มึงไม่เปลี่ยนไปเลยนะ เพิ่มเติมคือความขาวและนิสัยเหี้ยขึ้น”

 

“ชมกูซะเขิน มึงมาเรียนนี่ได้ไงวะ ไหนว่าจะไปตั้งถิ่นฐานอยู่นู้นเลยจะไม่กลับมาอีก”

 

“พ่อแม่กูหย่ากันว่ะ กูเลยย้ายมาอยู่กับมี่บ้านเดิม เพิ่งย้ายมาไม่นานหรอก” ผมหน้าเศร้าขึ้น ไม่น่าถามมันเลย

 

“กูขอโทษ”

 

“ช่างมันเหอะ กูทำใจได้แล้ว หย่ากันก็ดี มึงก็รู้ว่าพ่อกูวัน ๆ กินแต่เหล้า แม่กูเจ็บมาเยอะแล้ว จบกันสักที”

 

“ไม่เอา ๆ เรามาเปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่า ไงวะ มึงมีแฟนยัง แหม ๆ เดี๋ยวนี้หล่อขึ้น เล่นซะกูจำไมได้เลยนะ”

 

“แฟนกูก็มึงไง แค่เห็นชื่อมึงมาค่ายกูก็รีบลงทันที น่าจะแกล้งมึงต่อสักหน่อยเนอะ กำลังสนุกเลย”

 

“ตลกแล้ว แมน ๆ อย่างพี่น้องอย่าหวังไปเลย แล้วไงวะ มีเพื่อนคบบ้างเปล่า”

 

ผมโยกหัวมันบ้างตบบ่ามันบ้าง เฮฮากันไป ไอ้สีฟ้ามันจำผมได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันตอนฝนตก ที่เราไม่เจอกันเพราะผมไม่ค่อยกลับบ้านด้วยครับ มันไปหาแม่ผมทุกวัน ไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวฟรีไง ผมล่ะเชื่อมันเลย

 

………………………………………………

 

ตี๋

 

ผมอยากจะกระทืบไอ้เด็กฟ้าให้ติดตีน เอามันเงยหน้ามาดูไอ้ฟางไม่ได้ไปตลอดกาล การที่ผัวมึงมานั่งเฝ้าขนาดนี้มันยังไม่ชัดพออีกเหรอวะว่าผมหวงมันขนาดไหน ไอ้เชี้ยเด็กเปรต วัน ๆ กูไม่ต้องทำอะไรก็เพราะมึงเลย

 

“หึ เป็นอะไรวะ?” ไอ้ดินมันกวนส้นตีนยักคิ้วถาม ทั้งที่มันก็รู้คำตอบอยู่ในใจ

 

“หงุดหงิด! อย่าเตะเด็ก!!”

 

“อ่าวพี่ ผมนั่งอยู่เฉย ๆ นะครับ” ไอ้เด็กปีสองจากที่อื่นมันเงยหน้ามองผมทันที่ที่ผมยกเท้าขึ้นพาดเก้าอี้

 

“ไม่ใช่มึงเว้ย!”

 

“พี่ชื่อตี๋ใช่ป่ะ เพื่อนผมมันชอบพี่อะ น่ะ ๆ คนนั้นพี่” น้องคนเดิมมันชี้มือไปทางเพื่อนผู้ชายหน้าตาน่ารัก ผมออกจะแมนทำไมมันคิดว่าผมต้องชอบผู้ชายด้วยวะ

 

 “เพื่อนน้องมันผู้ชายนะ”

 

“เห็นเป็นผู้หญิงรึไงครับ ผมรู้นะว่าพี่มองใครอ่า” มันส่งสายตาล้อเลียนมาให้ ผมตบหัวมันเบา ๆ เหมือนเป็นรุ่นน้องตัวเอง

 

“มองพี่ข้างหน้าไป อย่ามายุ่งเรื่องของกู”

 

“ชอบก็จีบดิพี่ ใจ ๆ หน่อย” มึงยังไม่เลิกยุ่งกับกูอีกนะ ผมยกมือขึ้นเรียกไอ้ดินที่เดินออกไปพูดข้างหน้า

 

“ดิน! น้องคนนี้ไม่ฟังมึงว่ะ” ไอ้เด็กปีหนึ่งมันมองหน้าผมปากบ่น

 

“ทำไมพี่ทำงี้วะ”

 

“กูพอใจ มีปัญหา?”

 

“น้องคนนั้นออกมายืนข้างหน้าด้วยครับ เอาล่ะ เราจะให้น้องคนนี้มาสาธิตให้ดูก็แล้วกัน” ไอ้ดินตะโกนเรียก มันอิดออดปัดฝุ่นที่ติดตามกางเกงออก

 

“เดี๋ยวพี่เจอผมเอาคืนแน่ คอยดู” ไม่วายยังขู่ก่อนจะเดินออกไปยืนข้างหน้า

 

“น้องเคยเห็นแมงมุมเวลามันเดินไหมครับ?!” ไอ้ดินมันถาม น้อง ๆ พากันตอบ มันจึงพูดต่อ

 

“พี่จะให้น้องคนนี้เป็นแมงมุม แล้วอีกคนเป็นหลังคา น้อง…” ดินหันไปหาน้องที่ยืนข้าง ๆ

 

“กิมครับ”

 

 “น้องกิมเลือกเพื่อนมาหนึ่งคนครับ ใครก็ได้” ผมรับรู้ถึงสายตาเจ้าเล่ห์ของมันที่มองฟาง อย่านะไอ้สัส กูฆ่ามึงแน่

 

“ฟางครับ!”

 

เหี้ย!!

 

ผมชี้หน้ามันให้เลือกคนอื่น ไอ้เด็กเวรมันยักคิ้วให้กวักมือเรียกฟางออกมาอีก ไอ้ดินมันยืนขำชอบใจยกนิ้วโป้งให้ไอ้เด็กกิมที่ในอนาคตมึงโดนตีนกูแน่

 

“หึ น้องฟางนอนลงแล้วน้องกิมขึ้นคร่อมครับ”

 

ฮิ้วววว~

 

‘ไอ้กิม ๆ ๆ’

 

‘แมน ๆ เขาเล่นกันครับ ฮ่า ๆ’

 

‘เสร็จเสี่ยกิมเว้ย เบา ๆ นะเพื่อน’

 

“พี่ดินครับ ให้ผมไปเป็นแมงมุมไม่ได้เหรอ?” ฟางยกมือขึ้นถามหน้าเสีย ดินส่ายหน้า

 

“น้องฟางไม่เหมาะจะขึ้น ไม่ ๆ พี่หมายถึงนอนรอนิ่ง ๆ มันไม่เหนื่อยนะครับ สบายกว่าอยู่ข้างบนเยอะ” ผมตบหน้าผากตัวเองเมื่อได้ยินไอ้ดินมันพูด ไอ้พวกเหี้ยก็พากันคิดเรื่องเวร ๆ ออกมาให้ได้ยิน

 

ผมเกลียดไอ้ท่าเวรนี่ที่สุด ยิ่งไอ้ดินสั่งให้น้องมันร้องท่อนแมงมุมขยุ้มซ้ำไปซ้ำมาก้นผมเริ่มนั่งไม่ติดเก้าอี้ ท่อนล่างไอ้ฟางมันแนบชิดไอ้เด็กปีหนึ่งแทบจะปี้กันได้อยู่แล้ว ผมไม่ได้พูดทะลึ่งแต่การกระทำมันใช่ ถ้าอีกสองนาทีมันยังไม่เลิกร้องเพลงนะ ผมจะลงไปขยุ้มไอ้เด็กปีหนึ่งกระทืบมันให้ติดตีน

 

“พอครับ พี่ว่าเราพอแค่นี้ก่อนดีกว่า เพราะใครบางคนเริ่มไม่สนุกด้วยแล้ว”

 

“โห่ กำลังสนุกเลยพี่ เอาอีก ๆ”

 

เอาตีนกูไปแดกอุดปากก่อนไหมครับ

 

“เปลี่ยน ๆ ต่อไปเป็นเกมส่งของ น้องติ้วออกมาข้างนอกครับ” ดินเรียกชื่อติ้ว เจ้าตัวเดินยิ้มกริ่มออกมายืนข้าง ผมกระดิกเท้ารอตบหัวไอ้เด็กกิมที่มันกำลังก้มหน้าขอทางเดินมาทางนี้

 

“ไงวะพี่ ขยุ้ม ๆ สมใจอยากเลย ผมว่าจะจีบฟางพี่ว่าไง?” มันถามกวนตีน ผมตบหัวมันจนหน้าทิ่ม พี่มันที่เป็นปีสามเหมือนผมหันมามอง แต่กูไม่สนเว้ย ค่ายนี้น้องผมทุกคน

 

“มึงเลิกคิดไปได้เลย มึงดูไอ้ตัวข้าง ๆ ถ้ามึงสอยมันได้กูให้จีบได้” ผมใช้ไอ้กิมให้เป็นประโยชน์ มันจีบไปก็ไม่ติดถ้าผมยังอยู่ ใช้มันกำจัดไอ้ฟ้าท่าจะดี

 

จูบเลย ๆ ๆ

 

ไม่ทันที่กิมจะได้ตอบเสียงเชียร์ของคนในค่ายก็ดังขึ้นแทรก ดินกับติ้วกำลังกัดป๊อกกี้เข้าปากทีละนิด จากแท่งยาวกลายเป็นสั้นจนเหลือแค่เพียงนิดเดียว ติ้วกัดไปช้อนตามองหน้าดินไป อีกคนก็จ้องกลับไม่มีใครยอมใคร

 

เป๊าะ

 

เสียงหักของขนมดังขึ้นพร้อมกับเสียงโห่ของคนเชียร์ ไอ้ดินมันรีบกัดหักก่อนจะได้จูบโชว์บรรดาน้องที่รู้จัก ในนี้มันไม่ได้มีแค่พวกผมไง มีไอ้เต้ย ไอ้ต้นข้าวมาอีกด้วย เรื่องนี้ยังไม่ได้บอกพวกมันเลย ยิ่งไอ้เต้ยถ้ารู้ว่าผมสอยไอ้ฟางมามันคงโวยวายหาเรื่องแกล้งผมอีก

 

“เรื่องที่พี่พูดเมื่อกี้อะ ผมคงทำให้ไม่ได้หรอก ผมมีเมียแล้วว่ะ ขี้หึงด้วย” มันตอบมาหน้าตาเฉย ผมสะกิดกับคำว่าเมียมันมากเลย มันพูดง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ?

 

“ชัดเจนจังนะมึง”

 

“แน่นอน ไม่ชัดเจนเดี๋ยวหมาคาบไปแดก พี่ก็อย่าช้านะ เพราะถึงผมจะมีเมียแต่เรื่องยุยงให้คนจีบฟางมันเรื่องง่ายนิดเดียว หึ”

 

“ไอ้กิม!”   

 

 

 

 

 TBC.

 

 

 

                            

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา