ลิขิตรักฉบับคานทอง

6.3

เขียนโดย Dashathone

วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.38 น.

  14 บท
  1 วิจารณ์
  17.95K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2558 14.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) ฉบับที่ 5 พรหมลิขิตหรือจะสู้คนลิขิต

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

ฉบับที่ 5 พรหมลิขิตหรือจะสู้คนลิขิต

 

บริษัท  PW Grand Diamond

   เช้าวันจันทร์เริ่มต้นสัปดาห์ของเหล่าพนักงานของบริษัทออกแบบเครื่องประดับเพชรชื่อดัง  ยังคงขะมักเขม้นทำงานงานกันอย่างกระตือรือร้น  เพราะมีผู้บริหารหนุ่มไฟแรง  แถมหล่อเหลามีเสน่ห์เย้ายวนใจอีกต่างหาก  ซึ่งเจ้านายมักจะมาเดินตรวจและทักทายเหล่าทีมงานต่างๆของบริษัท จนกลายเป็นอาหารตาให้เหล่าสาวๆได้ชุ่มชื่นหัวใจกันเล่น

   “สวัสดีค่ะบอส อย่าลืมทานของว่างนะค่ะ” รันดา  เลขาสาวกล่าวทักทายเจ้านายตัวเองด้วยรอยยิ้มกว้าง  เมื่อภวินท์เปิดประตูเข้าห้องมาพอดี ขณะที่เธอกำลังจัดการขนมให้เขาเหมือนทุกเช้า  แต่นัยตากลับเจ้าเล่ห์แปลกๆสื่อความนัยโดยที่ชายหนุ่มไม่ทันได้สังเกตเห็น

     “เอ่อ  วันนี้คุณดาเอามาเสิร์ฟเองหรือครับ” เจ้าของห้องเอ่ยถามเพราะหวังว่าเจ้าของร้านคนสวยอาจจะมาส่งด้วยตัวเองอีก

   “อ้อ  เด็กที่ร้านมาส่งนะค่ะ  ไม่ใช่....เจ้าของร้านหรอกค่ะ” เลขาสาวเน้นเสียงคำว่า  ‘เจ้าของร้าน’  พร้อมกับทำหน้าล้อเลียนเจ้านายหนุ่ม

   “ครับ” ภวินท์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ  แต่สายตากลับหวูบไหวแสร้งเสมองไปนอกหน้าต่าง เมื่อรู้ตัวว่าถูกเลขาตัวเองส่งสายตาแซวเข้าให้แล้ว  จึงไม่ทันได้เห็นแววตาเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย

“คุณดามีอะไรรึเปล่าครับ” ชายหนุ่มหันกับมาถามเมื่อเห็นว่ารันดายังคงยืนอยู่ข้างโซฟาเหมือนเดิม  เผื่อว่าจะมีเอกสารเร่งด่วนที่เขาต้องเซนต์อนุมัติ 

“บ่ายนี้ไม่มีเอกสารด่วนต้องเซนต์   ไม่มีนัดลูกค้า  แล้วตอนเย็นก็ไม่ต้องไปงานเลี้ยงที่ไหนค่ะ  บอสว่างตั้งแต่บ่าย  พอดีว่าดิฉัน  ภัทร  แล้วก็เกรซที่เคยมาส่งขนมวันก่อนน่ะค่ะ เย็นนี้เรานัด….ฉลอง…กันแถวๆนี้  เห็นบอสว่างเลยอยากชวนไปเป็นเจ้ามือหน่อยนะค่ะ” รันดาลองเรียบๆเคียงๆชวนเจ้านายหนุ่มโดยเน้นคำว่า ‘ฉลอง’  เธอมั่นใจว่าเขาไปแน่เพราะมีณธิดาไปด้วย  ส่วนเจ้ามือเลี้ยงข้าวนั้นถือว่าเป็นผลพลอยได้แล้วกัน 

“ฉลอง....เนื่องในโอกาสอะไรหรือครับ” ภวินท์ถามด้วยเสียงราบเรียบอย่างเคย  แต่ในใจตื่นเต้นอยากเจอหน้าหญิงสาวในมโนความคิดเป็นที่สุด ปกติแล้วภวินท์เป็นคนค่อนข้างจัดสรรเวลาในแต่ละวันให้ลงตัวได้เป็นอย่างดี  ทุกๆวันหลังเลิกงานถ้าไม่ไปฟิตเนสก็ตรงกลับบ้านเพื่อพักผ่อนทันที  นานๆครั้งชายหนุ่มถึงจะไปสังสรรค์บ้างตามแต่เวลาจะเอื้ออำนวย  แต่ครั้งนี้มีสิ่งดึงดูดความสนใจเขาอยู่ไม่น้อย  ‘เกรซ’....นางฟ้าเซ็กซี่คนนั้น

“เกรซจะฉลอง....สละโสดน่ะค่ะ” คำว่าสละโสดที่ออกมาจากปากเลขาสาวใหญ่นั้น  ทำให้ใบหน้าเจ้าของบริษัทเครื่องเพชรอย่าง  ภวินท์ ภาวสุทธิธานันท์  เคร่งขรึมมากขึ้น  หัวคิ้วขมวดมุ่น  ดวงตาหม่นแสงลง  สมองมึนงง  แต่หัวใจเขากลับอยากรู้ว่า  ‘ผู้ชายโชคดีคนนั้นมันเป็นใคร!’

“จองโต๊ะเลยครับ” ชายหนุ่มโพล่งออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด     ก็ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงสวยเซ็กซี่ราวกับนางฟ้า  ที่เพิ่งเจอกันถึงสองครั้งภายในวันเดียว  ครั้งแรกในลิฟต์และครั้งที่สองในห้องทำงานเขาเมื่อสัปดาห์ก่อน  อยู่ดีๆก็จะฉลองสละโสด  โดยที่เขายังไม่ได้เริ่ม  ‘จีบ’  เลยด้วยซ้ำ เขาจะไม่กิน ‘แห้ว’ เด็ดขาด!

“ค่ะบอส  แล้วเจอกันตอนเย็นนะคะ” รันดาตอบรับเสียงร่าเริง    อมยิ้มมุมปากให้กับแผนการหา  ‘ว่าที่สามี’  ให้กับเพื่อนรุ่นน้องที่เป็นไปตามคาด  เธอได้นัดแนะไว้แล้วกับพิมพ์ภัทรเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

หลังจากจากเลขาออกไปจากห้องแล้ว  ภวินท์ยังคงอยู่ในภวังค์  เขาพยายามครุ่นคิดถึงหญิงสาวที่อยู่ในความคิดเขามาตลอดหลายวันอย่างณธิดา  พยายามใช้เหตุและผลกับทุกเรื่องในชีวิต  ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว  ยกเว้นเรื่องความรักเรื่องเดียวเท่านั้น ที่ชายหนุ่มมักทำตามเสียงเรียกร้องจากหัวใจตัวเอง แม้ว่าเขาจะเคยผิดหวังจากรักครั้งแรกเมื่อสมัยเรียมหาวิทยาลัยมาก่อน  แต่เพราะความรู้สึกอิ่มเอมกับคำว่า  ‘รักแรกพบ’  เมื่อตอนได้เจอกับหญิงสาวครั้งแรก  ยังคงตราตึงอยู่ในใจเขา  ทำให้มีความกล้าที่จะเปิดใจกับเรื่องความรักได้อีกครั้ง 

 

ร้านขนม House of Choco & Bake

   “ตื้ดๆ  ตื้ดๆ” เสียงโทรศัพท์รูปทรงบางเฉียบยี่ห้อหรูของณธิดาสั่นเตือนว่ามีสายเข้า  หญิงสาวมองชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ แล้วละมือจากงานที่กำลังง่วนอยู่  เพราะเป็นบุคคลสำคัญโทรมา

   “สวัสดีค่ะ  พี่ดา” ณธิดากรอกเสียงร่าเริงสดใสลงไป  เพราะมีเพียงไม่กี่คนที่เธอรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้ยินเสียง

   “เกรซจ้ะ  วันนี้พี่กับภัทรจะไปกินข้าวเย็นด้วยนะ”

   “คะ  แต่วันนี้วันจันทร์นี่ค่ะ  ปกติพี่ดากับภัทรจะมาทุกวันศุกร์” ณธิดาเอ่ยถามด้วยความสงสัย  เพราะปกติพวกเธอจะนัดสังสรรค์ทุกวันศุกร์  ส่วนวันเสาร์อาทิตย์พวกเธอต่างก็มีภารกิจส่วนตัวที่ต้องสะสางของใครของมัน

   “ก็เรื่อง.....ที่เราคุยกันค้างไว้ไงจ้ะ” รันดาตอบคำถามให้ณธิดาหายสงสัยทันที

   “จริงเหรอคะ ได้ค่ะ” เธอกรอกเสียงแววยินดีตอบกลับปลายสาย  เพราะปัญหาภารกิจการค้นหา  ‘ว่าที่สามีในอนาคต’  จะได้ทางออกจากความช่วยเหลือของเพื่อนสนิท และพี่สาวต่างสายเลือด หลังจากวางสายอย่างรันดาแล้ว  เจ้าร้านขนมคนสวยก็ง่วนอยู่ในครัวตลอดบ่าย  เพื่อเตรียมอาหารสำหรับพวกเธอสามคน  ถึงแม้ว่าร้าน House of Choco &  Bake ของเธอจะขายขนมซะส่วนใหญ่  แต่ก็มีห้องครัวขนาดกะทัดรัดด้านหลังร้าน  เพื่อให้เหล่าพนักงานได้ประกอบอาหารทานกันช่วงพักเที่ยงหรือช่วงหลังเลิกงาน  โดยณธิดามักจะหอบหิ้วเอาอาหารสดและวัตถุดิบทั้งหลายมาใส่ไว้เต็มตู้เย็นตลอด  นี่ก็เป็นอีกหนึ่งน้ำใจเล็กๆน้อย ทำให้เหล่าพนักงานต่างก็ซาบซึ้งในความเอาใจใส่ของหญิงสาว  เพราะช่วยให้พวกเขาประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อีกเยอะ แถมยังได้กินของอร่อยถูกปากทุกวันอีกด้วย

     ในขณะที่ผู้บริหารหนุ่มผู้หล่อเหลาแห่ง PW Grand Diamond นั่งบนเก้าอี้หนังตัวใหญ่หลังโต๊ะทำงานเข้าชุดกัน มือทั้งสองสอดนิ้วประสานกันแน่นท้าวคาง  ศอกวางตั้งฉากบนโต๊ะ สายตาจดจ่อไปที่นาฬิกาบนพนังห้องเหนือชั้นเก็บเอกสารราวกับเพ่งจิต เพื่อช่วยให้เข็มชั่วโมงหมุนเร็วขึ้น  เพราะสำหรับภวินท์ในตอนนี้ ทุกๆวินาทีแห่งการรอคอยที่จะได้เจอณธิดานั้นมันช่างยาวนานเป็นปี   

ร่างสูงใหญ่ดีดตัวขึ้นจากเก้าอี้ทันทีเมื่อเข็มสั้นของนาฬิกาบนผนังบอกเวลา 17.00  เขาเดินกึ่งวิ่งไปยังประตูห้องทันที  เปิดมันออกอย่างรวดเร็ว  แล้วมาหยุดยื่นหน้าโต๊ะเลขาสาว  ความรู้สึกในอกนั้นราวกับหัวใจจะหยุดเต้น หากต้องนั่งรอต่อไปอีกเพียงเสี้ยววินาที

รันดาเงยหน้าจากกองเอกสารที่กำลังง่วนสะสางก่อนเลิกงาน  มองเจ้านายหนุ่มตรงหน้า  ซึ่งไม่คิดว่าเขาจะตรงเวลาเป๊ะยิ่งกว่าเครื่องสแกนนิ้วเข้างานของออฟฟิศซะอีก  เธอฉีกยิ้มกว้างให้เจ้านายผู้ พลางกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ  ‘แหม  เหยื่อมาเร็วกว่าที่คิดแหะ  ฮึๆ’

“ไปกันรึยังครับ” ส่วนคนที่ยินดีเป็น  ‘เหยื่อ’  อย่างภวินท์  เอ่ยถามเสียงเรียบแต่แอบแฝงความร้อนรนจนเลขาสาวสัมผัสได้  ยิ่งตอกย้ำความมั่นใจให้รันดามากยิ่งขึ้น  ว่าสิ่งที่วางแผนไว้นั่นไม่ได้คิดผิดอย่างแน่นอน  เพราะเท่าที่สังเกตมาหลายครั้ง เจ้านายของเธอ ‘มีใจให้’ กับเพื่อนสนิทรุ่นน้องอย่างณธิดาร้อยเปอร์เซ็นต์ สังเกตจากแววตาที่เป็นประกายแพรวพราวแต่ก็อ่อนโยนมาก  และใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลาเมื่อเธอพูดถึงหญิงสาว  ส่วนณธิดานั้นเธอยังไม่แน่ใจ  แต่ถ้าไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ  ก็คบเป็นเพื่อนชายต่างวัยซึ่งไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรนัก  เพราะด้วยคุณสมบัติอย่างเจ้านายของเธอแล้ว  แต่เท่าที่ทำงานด้วยกันมา ถือว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง  มีความจริงใจ  มีความรับผิดชอบ  บริหารงานเก่ง  ฐานะและการศึกษาดี  ที่สำคัญคือ ภวินท์ ‘โสด’  ด้วยเหตุนี้จึงมีสาวน้อยสาวใหญ่มากหน้าหลายตาเข้ามาให้เลือกไม่ซ้ำหน้า  แต่เขากลับยังไม่เปิดใจรับใครเป็นตัวเป็นตน  จนกระทั่งเมื่อเจอผู้หญิงหน้าตาสวยพริ้มแถมเซ็กซี่อย่างณธิดา  เธอและพิมพ์ภัทรจึงวางแผนให้ทั้งสองได้เจอกันอีกครั้ง  เผื่อว่าจะได้ช่วยกระตุ้นให้เขาเดินหน้าจีบน้องสาวต่างสายเลือดคนนี้บ้าง

“ค่ะบอส  งั้นเราไปกันเลยนะคะ ภัทรไปรอที่ร้านแล้วค่ะ” รันดาเดินตามหลังเจ้านายหนุ่มไปที่ลิฟต์ เพื่อมุ่งหน้าไปยังร้านของณธิดา ทุกย่างก้าวที่เดินไปนั้น  รันดาก็ลุ้นอยู่ในใจว่าแผนการที่เตรียมไว้จะสำเร็จหรือไม่  ฝ่ายภวินท์เธอเชียร์เต็มที่และพร้อมจะสนับสนุนทุกเวลา หากเขาต้องการความช่วยเหลือ  แต่สำหรับณธิดาเธอไม่มั่นใจ  เท่าที่สังเกตมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย  หญิงสาวมักปฏิเสธหนุ่มรุ่นน้องทุกคนที่มาขายขนมจีบให้อยู่เสมอ  พอถามเหตุก็ได้คำตอบแบบขำๆว่า ‘ไม่อยากเป็นอมตะ’  อยากเป็นไปตามอายุขัยมากกว่า  แต่มันก็ไม่แน่เสมอไปหรอก  เพราะเวลาเปลี่ยนความคิดในการใช้ชีวิตคนเราอาจเปลี่ยนไปก็ได้  แต่หญิงสาวคงลืมไปว่าณธิดานั้น  เป็นคนมีระเบียบแบแผนและคติการใช้ชีวิตที่ชัดเจนมาตลอด  เพราะงั้นปณิธานที่อยู่ในใจเธอมาตั้งแต่อดีตก็ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน

ส่วนภวิท์นั้นก็ก้าวเดินอย่างรวดเรียวด้วยขาเพรียวยาว  มุ่งหน้าไปยังร้านของผู้หญิงที่อยู่ในห้วงคำนึงมาหลายวัน ซึ่งตรงกันข้ามกับใจเขาที่ลอยไปนั่งอยู่ในร้านเรียบร้อยแล้ว

“อ้าว  ภัทรแล้วพี่ดาล่ะ” ณธิดาถามด้วยความสงสัย  เมื่อเดินออกมาจากด้านหลังร้าน แล้วเห็นเพื่อนรักนั่งอยู่คนเดียว  เพราะปกติก็เห็นมาด้วยกันตลอด 

“กำลังตามมาน่ะ  แล้ววันนี้มีอะไรทานบ้างจ้ะ” พิมพ์ภัทรถามเบี่ยงเบนความสงสัยไปที่เรื่องอาหารแทน  เพราะเธออยากสังเกตอาการของเพื่อนสาว เมื่อได้เจอหน้าเจ้านายของเธอเป็นครั้งที่สาม  เธอกับรันดาจะได้วางแผนขั้นต่อไปได้  หากณธิดาสนใจชายหนุ่มผู้หล่อเหลาเพียบพร้อมอย่างภวินท์สักนิด  เธอก็จะช่วยเต็มที่เพื่อให้ทั้งสองคนสมหวัง  จะว่าไปแล้วคนอย่าง ภวินท์ ภาวสุทธิธานันท์  นี่แหละเหมาะสมกับเพื่อนเธอที่สุด  แม้เขาจะอายุน้อยกว่าณธิดาหลายปี  แต่วุฒิภาวะผู้นำนั้น มีมากกว่าผู้ชายวัยเดียวกันอย่างแน่นอน 

“เชิญทางนี้ค่ะ บอส” รันดาเดด้านหลังตามไนนำเจ้านายไปยังบริเวณด้านหลังร้าน ซึ่งรายล้อมไปด้วยต้นลีลาวดีและดอกกล้วยไม้หลากหลายสี  ตัดกับเฟอร์นิเจอร์และรั้วไม้สีขาวโดดเด่นบนทำเลทองใจกลางเมืองอย่างนี้

การก้าวเดินของภวินท์ต้องหยุดกึก!  เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นสบเข้ากับดวงหน้ารูปไข่สวยหวานอมชมพูเลือดฝาด ทำให้หัวชายหนุ่มใจเต้นแรง  ฝ่ามือทั้งสองข้างชุ่มไปด้วยเหงื่อ  ดวงตาเป็นประกายแพรวพราวจองลึกลงไปในดวงตากลมโตของคนตรงหน้า  ซึ่งกำลังจ้องตอบกลับมาเช่นกัน โลกทั้งใบหยุดหมุนราวกับว่าโลกนี้มีแค่เธอกับเขาแค่สองคน

ส่วนอาการของณธิดาก็ไม่ต่างกันนัก  แต่ผู้หญิงวัยสามสิบสี่อย่างเธอ จะให้แสดงออกอย่างนางเอกละครวัยรุ่น  ดวงตาเบิกกว้าง  เม้มริมฝีปากแน่น  เขินอายบิดซ้ายขวาเหมือนตอนปิ้งรักกับพระเอกครั้งแรก  ก็คงไม่ใช่เรื่องเหมาะสม  เธอจึงแสดงออกแค่จ้องมองในดวงตาผู้ชายตรงหน้าอย่างค้นหา  คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาลุกริกไปมา  อมยิ้มมุมปาก แขนทั้งสองข้างแนบลำตัว  แต่อาการแค่นี้ก็พอจะสร้างความมั่นใจให้อีกสองสาว ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ได้ว่าเพื่อนรักและน้องสาวคนสนิทของพวกเธอก็ ‘สนใจ’ ภวินท์เช่นกัน  เพียงแต่จะเก็บซ่อนความรู้สึกและปฏิกิริยาได้ดีกว่าชายหนุ่มเท่านั้น 

“สวัสดีค่ะ บอส” เสียงพิมพ์ภัทรเอ่ยทักทายทำลายความเงียบเป็นคนแรก  เมื่อสังเกตเห็นเจ้านายและเพื่อนรักยังคงตกอยู่ในภวังค์หลายนาที เสียงทักทายของนักบัญชีสาว  ทำให้ภวินท์มีสติกลับมาสู่ปัจจุบันอีกครั้ง  ซึ่งตอนนี้เองที่เขาได้มีโอกาสสังเกตการแต่งตัวผู้หญิงในความคิดถึงอย่างจริงจัง 

วันนี้ณธิดาใส่ชุดเดรสสีเหลืองรัดรูปคอวีแขนกุด ดีไซน์เรียบเก๋ ยาวแค่เข่า  ส่วนด้านหลังผ่าเพื่อสะดวกต่อการเดิน  หญิงสาวแต่งหน้าอ่อนๆ  ริมฝีปากอวบอิ่มยังคงเคลือบลิปกลอสชมพูใส  ส่งผลให้ใบหน้าเธอดูสดใส่มากยิ่งขึ้น  ในสายตาชายหนุ่มแล้ว  ไม่ว่าเธอจะใส่อะไรก็ดูดีไปซะหมด 

เมื่อรันดากับเขาเดินมาถึงโต๊ะ  จึงได้เห็นว่าเจ้าของร้านได้เตรียมอาหารหลากเมนู  และของหวานอย่างช็อกโกแลตลาวา ซึ่งเป็นของหวานเมนูขึ้นชื่อของร้าน  ไว้ล้างปากตบท้ายมืออาหารด้วย

“ครับ  สวัสดีครับคุณภัทรแล้วก็คุณ….เกรซ  ด้วยครับ” ภวินท์ กล่าวทักทายโดยตั้งใจเว้นวรรคและเน้นชื่อหญิงสาวให้ฟังดูจงใจ ว่าเขาจำชื่อเธอได้แม่นทุกลมหายใจเข้าออก

   “สวัสดีค่ะ คุณ….”  ณธิดาส่งรอยยิ้มกว้างสว่างไสวมาให้  พร้อมกับเอ่ยทักแค่สรรพนามนำหน้าชื่อ  เพราะเธอยังไม่รู้จักชื่อเขา  แม้ว่าครั้งนี้จะเป็นการเจอกันครั้งที่สามแล้วก็ตาม ซึ่งเจ้าตัวไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มนั้นมีผลกระทบต่ออัตราการเต้นของหัวใจชายหนุ่ม ให้ถี่แรงมากขึ้น  ทั้งๆที่เพิ่งจะสงบลงได้ไม่กี่นาทีแท้ๆ ‘ผู้หญิงอะไร ร้ายกาจ’  ภวินท์ได้แต่สบถอยู่ในใจ ขยันทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจเขาขึ้นๆลงๆทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าซะจริงนะ

   “คุณวินท์จ้ะ เกรซ”  รันดารีบเฉยชื่อชายหนุ่มให้หญิงสาวได้รู้ทันที

   “ค่ะ” 

   “คุณวินท์คะ  นี่เกรซเจ้าเขาร้านที่เอาขนมไปส่งให้บอสเมื่ออาทิตย์ก่อนไงค่ะ” เลขาสาวเอ่ยแนะนำทั้งสองให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ  หลังจากที่ทั้งคู่เคยเจอกันมาแล้ว

   “แล้ว….อย่างนี้ผมไม่ต้องเป็นเจ้ามือแล้วเหรอครับ  คุณดา” ภวินท์หันมาถามรันดาด้วยความสงสัย  เพราะก่อนมาเลขาสาวบอกให้เขามาเป็นเจ้ามือเลี้ยงสละโสดให้ณธิดา  และที่เขายอมมาเพราะอยากเจอหน้า  ‘เกรซ’  ของเขาต่างหาก  หรือว่า....

   “อ๋อ  ก็เอาไว้คราวหน้าดีไหมค่ะบอส  วันนี้เกรซเขาเตรียมอาหารไว้ให้พวกเราตั้งหลายอย่างแล้ว” รันดายิ้มหวานกลบเกลื่อน นั่นสิ  เธอเองก็ลืมไปเสียสนิทว่าเรื่องชวนเจ้านายมาเป็นเจ้ามือนั้น  เป็นแค่กลอุบายเท่านั้นแหล  แต่ไม่เป็นไรหรอก  เพราะเธอเชื่อว่าหลังจากวันนี้ไป  ทั้งสองคนจะต้องได้เจอกันอีกหลายครั้งอย่างแน่นอน

   “ที่สำคัญนะคะ  นอกจากอาหารจะน่ากินแล้ว  บรรยากาศที่นี่ยังดี๊ดี  จริงไหมคะบอส” พิมพ์ภัทรเอ่ยถามเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น  และเน้นเสียงลงท้ายประโยคมีนัยล้อเลียนเจ้านายหนุ่ม  เมื่อสังเกตเห็นว่า ภวินท์กำลังจ้องมองเพื่อนรักอย่างไม่วางตา

   “ครับ  ดีมาก…”  ชายหนุ่มคนเดียวของโต๊ะตอบกลับพิมพ์ภัทร  แต่ดวงตาเขากลับจ้องที่ณธิดาแทน

ส่วนหญิงสาวที่กำลังถูกจ้องก็กำลังตักอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย  โดยไม่ได้สนใจชายหนุ่มที่กำลังจ้องมา  แต่ความจริงณธิดารู้ตัวว่าถูกเขาจ้องมานานแล้ว  ที่เธอแสร้งทำเป็นเมินต่อสายตาแพรวพราวนั้น  เพราะอยากรู้ว่าเขาจะแสดงออกอะไรต่อไปอีก  แต่เมื่อทนต่อไปไม่ไหว  ณธิดาจึงเลือกที่จะเอ่ยปากถามบ้าง

   “มองหน้าฉันทำไมเหรอค่ะ  เห็นคุณจ้องอยู่นาน” ณธิดาละมือจากอาหารแล้วถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ  มองหน้าหล่อเหลาคมเข้มตรงๆ  จ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลหม่นนั่น

   “เอ่อ.....ก็.....” คำถามแบบตรงไปตรงมาเรียกสติสตางค์ของชายหนุ่มให้กลับมา  เขาไม่คิดว่าผู้หญิงหน้าสวยจิ้มลิ้มพริ้มเพราอย่างณธิดา  จะกล้ายิงคำถามซะตรงจนเขาไปไม่เป็นเลยทีเดียว

“สวย....เกรซเขาสวยถูกใจบอสใช่ไหมล่ะคะ”  เป็นรันดาที่โพล่งออกมาช่วยอาการติดอ่างชายหนุ่ม  พร้อมกับล้อเลียนเขาให้เขินขึ้นไปอีก ส่วนคนที่ถูกชมก็เงียบกริบไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มเลยสักคำ  แต่ใบหน้าหวานกลับมีริ้วแดงๆระเรื่อขึ้นที่บริเวณแก้ม ทำให้ดูเด็กลงไปหลายปีเชียวล่ะ การพูดแซวเล็กๆน้อยจากรันดาและพิมพ์ภัทรช่วยทำให้บรรยากาศอาหารมื้อนั้นรื่นรมย์มากขึ้นทีเดียว

   หลังจากทานอาหารกันเสร็จแล้ว  สองสาวเลขาและนักบัญชีก็ขอกลับไปก่อน  เพราะอ้างว่าพิมพ์ภัทรจะขับรถไปส่งรันดาที่บ้านแล้วกลัวว่าจะถึงดึก  โดยก่อนกลับได้ขอให้เจ้านายเดินไปส่งณธิดาที่คอนโดฯ  ซึ่งอยู่ถัดจากหัวมุมถนนไปไม่กี่ซอย  เพราะเห็นว่ามืดค่ำแล้ว หากเดินกลับคนเดียวอาจเป็นอันตรายได้

   “ขอบคุณนะคะ  ที่เดินมาส่ง”  หญิงสาวกล่าวขอบคุณเขาเสียงใสละมุนเมื่อเดินมาหยุดหน้าประตูทางเข้าตึก

   “ฝันดีนะครับ” คำอวยพรของภวินท์ทำให้ขาวเรียวยาวของณธิดาที่กำลังจะก้าวเข้าประตู  เป็นอันต้องหยุดชะงักทันที  แล้วหันกลับมามองหน้าชายหนุ่มอีกครั้ง คิ้วโก่งเลิกขึ้นเป็นเชิงถาม

   “ฝันดีนะครับ” ชายหนุ่มกล่าวย้ำอีกครั้ง  ริมฝีปากหนาเผยอยิ้มกว้างขวางให้หญิงสาววัยเลยเลขสามตาพล่าบ้าง  แล้วภวินท์จึงหันหลังจะก้าวเดินกลับออฟฟิศตัวเอง

   “เดินกลับดีๆนะคะ” ขาแข็งแรงของชายหนุ่มที่กำลังจะเดินกลับหยุดชะงักทันที  ภวินท์อมยิ้มทั่วใบหน้า  แล้วก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างมีความสุข

ปล.ติดตามพูดคุยกันได้ที่ Dashathone

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา