My Dessert !! รักนะนายขนมหวาน (Yaoi)

8.8

เขียนโดย sodazaaa

วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 03.00 น.

  15 ตอน
  15 วิจารณ์
  19.18K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558 09.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) My Dessert 9

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
My  Dessert  9
 
                หลัง จากวันที่ไปห้างด้วยกัน พี่มันก็ยังคงคอนเส็ปเดิมกับผมนั่นก็คือไม่ค่อยเข้ามาคุยแต่จะคอยมอง ส่งเข้าคลาสบางทีก็ทำเป็นเนียนเดินผ่านหน้าห้อง กลางวันก็มานั่งโต๊ะเยื้องๆกัน ซื้อขนมให้แต่ก็ไม่ได้เอามาให้เองหรอกฮะ ฝากเพื่อนเอามาให้ซะมากกว่า พวกเพื่อนๆที่เห็นอย่างนั้นก็แซวผมกันใหญ่ผมก็ได้แต่เถียงกลับไปว่าพี่มัน ดูแลผมในฐานะพี่รัหสน้องรหัสกันเท่านั้น
 
                การ ได้ใช้เวลาด้วยกันในวันนั้นทำให้ผมรู้ว่าพี่มันเป็นคนที่ชอบกินขนมหวานมากๆ ทั้งเค้ก มาการอง ของเบเกอรี่ทั้งหลายน่ะแหละครับพี่มันกินได้หมด ผมเองก็ชอบกินขนมหวานนะแต่ของผมจะเป็นเค้กซะมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นอะไรผมกินได้หมดยิ่งเป็นเค้กช็อกโกแลตผมยิ่งชอบเลยครับฮะได้ไม่ มีเบื่อ ด้วยความที่ชอบกินเค้กนี่แหละฮะผมก็เลยให้คุณแม่สอนทำเค้กเผื่อเวลาอยากกิน ขึ้นมาผมจะได้ทำกินเองได้ไม่ต้องไปซื้อ แต่ก็เป็นของหวานอย่างเดียวที่ผมทำเป็นนะฮะอย่างอื่นผมจะให้คุณแม่ทำให้ซะ มากกว่า
 
 
                ผม นอนเล่นดูหนังอยู่บนห้องหลังจากกินข้าวอาบน้ำเสร็จแล้ว ในที่สุดวันพักผ่อนก็มาถึงสักทีหลังจากต้องใช้เวลามุกๆวันไปกับการรบรากับ พวกไอ้มิว ไอ้ต้าร์ ไอ้เนียร์ที่มันชอบมาแกล้งผมเรื่องพี่รหัส พรุ่งนี้ผมก็จะได้นอนตื่นสายๆ ไปเที่ยวเล่นพักผ่อนสบายๆแล้ว
 
… I knew I loved you before I met you. I think I dreamed you into life. I knew I loved you before I met you. I have been waiting all my life ...
 
                เสียง โทรศัพท์ดังขึ้นในขณะที่ผมยังนอนกลิ้งไปมาบนเตียงหนังก็เปิดไว้ ผมกดรับโดยไม่ได้สนใจว่าใครโทรมา ก็จะใครซะอีกล่ะถ้าไม่ใช่พวกมันสักคนนึงน่ะ มันก็โทรมาอย่างนี้ประจำแหละฮะ
 
                “ ฮัลโหลววววว ” ผมรับสายด้วยการลากเสียงยาวๆเพื่อกวนตีนมันเต็มที่
 
                [ ..... ]
 
                “ ฮัลโหล ได้ยินมั้ยฮะ ” ปลายสายเงียบมาผมเลยต้องยกโทรศัพท์ออกมาดูว่าเป็นใครกันแน่ที่โทรมา แต่ก็เห็นเป็นเบอร์แปลกผมจึงเปลี่ยนมาใช้คำพูดที่คิดว่าน่าจะดูสุภาพขึ้น หน่อย
 
                [ ทำอะไร ] ปลายสายถามเสียงเรียบ ผมว่าเสียงนี้มันคุ้นๆนะเหมือนเคยได้ยินมาก่อน แต่นึกไม่ออกอ่ะ
 
                “ นั่นใครฮะ ”
 
                “ กูเอง ” ผมถามปลายสายแต่คำตอบที่ได้แม่งก็ไม่ได้ทำให้กระจ่างขึ้นมาเลย ตอบแบบนี้กวนตีนกูป่าววะ แบบนี้กูก็จัดสิครับ
 
                “ เท่าที่จำได้ผมไม่มีเพื่อนหรือคนรู้จักที่ชื่อกูนะ ”
 
                [ พี่มึง ]
 
                “ โอ๊ยย !! พี่ ผมเค้าเข้าห้องไปแล้ว คุณเป็นพี่ผมคนไหนล่ะคนโตหรือคนกลาง ถ้าคนโตก็ค่าโทรแพงหน่อยนะอยู่กันคะละประเทศเลยนี่ ถ้าคนกลางก็เปลืองค่าโทรอีกแหละห้องก็แค่นี้มีตีนก็เดินมาได้ ” ผมได้ยินเสียงหายใจหนักๆเหมือนอีกฝั่งพยายามจะระงับอารมณ์ของตัวเอง อารมณ์โมโหน่ะนะ
 
                [ กูเดลต้า พี่รหัสมึง ]
 
                “ ห๊ะ !! พี่เดลต้า แล้วพี่เอาเบอร์ผมมาจากไหน ผมจำได้ว่าไม่เคยให้พี่นะ ”
 
                [ ไม่จำเป็นต้องตอบ ]
 
                “ อ้าว ผมถามดีๆ ทำไมพี่ต้องกวนตีนผมด้วยวะ ” ไม่ต้องพูดสุภาพแม่งละ
 
                [ กูก็ตอบดีๆไง ]
 
                “ ชั่งแม่งเหอะ แล้วพี่มีไร ”
 
                [ ..... ]
 
                “ ถ้าไม่มีก็แค่นี้นะ ” พูดจบผมก็วางสายทันที นี่มึงโทรมากวนตีนกูสินะเสียเวลากูจริงๆ
 
 
                … I knew I loved you before I met you. I think I dreamed you into life. I knew I loved you before I met you. I have been waiting all my life ...
 
                “ อะไรอีกวะ ” กูเริ่มโมโหแล้วนะถามมีไรก็ไม่ตอบ
 
                [ เตรียมเสื้อผ้า 2-3 ชุด ]
 
                “ อะไรของพี่ ”
 
                [ แล้วพรุ่งนี้ตื่นแต่เช้า ]
 
                “ นี่มึงไม่ได้ฟังกูเลยใช่มั้ยไอ้พี่เดล กูถามว่าอะไรของมึง ”
 
                [ หึ กูบอกมึงว่าไง ]
 
                “ บอกอะไรล่ะ ไม่รู้เว้ย ”
 
                [ เดี๋ยวมึงจะโดน ]
 
                “ โทรมานี่สาระอยู่ไหน ถ้าไม่เงียบก็สั่งนู่นสั่งนี่ ไม่สั่งก็ขู่ เหอะ คิดว่าผมจะกลัวหรอ ผมไม่กลัวพี่แล้วคำขู่พี่ใช้ไม่ได้ผลกับผมหรอกบอกเลย ” ไม่รู้อารมณ์ไหนทำให้ผมพูดออกไปแบบนั้น แต่ผมก็ตั้งใจไว้แล้วว่าต่อไปนี้จะเลิกกลัวเลิกสนใจเลิกยุ่งกับแม่งละ ถ้าจะคุยก็แค่จำเป็นพอถึงจะเป็นพี่รหัสก็เถอะ
 
                [ คิดว่าขู่งั้นสิ ]
 
                “ ก็บอกแล้วว่าคำขู่พี่ใช้ไม่ได้ผลหรอก ต่อให้ขู่เป็นหมาก็ไม่กลัว ”
 
                [ จำที่พูดไว้แล้วกัน หึ ]
 
                “ ไม่จำมีอะไรมะ แค่นี้ใช่มั้ยสาระของพี่ งั้นโชคดีลาทีลาขาดบายยย ” ผมกดตัดสายทันที ในใจก็คิดถ้ามันโทรมาอีกผมจะบล็อกเบอร์แม่งเลยน่ารำคาญจริงๆ ไอ้บ้านี่ทำผมหมดอารมณ์ดูหนังเลย ผมเลยลุกไปปิดหนังแล้วมานอนดีกว่า พรุ่งนี้จะตื่นให้สายนอนให้เต็มอิ่มไปเลย
 
 
 
                เวลา 07.00 น.
 
                … I knew I loved you before I met you. I think I dreamed you into life. I knew I loved you before I met you. I have been waiting all my life ...
 
                เสียง โทรศัพท์ที่ดังทำให้ผมต้องควานมือหาเจ้าตัวต้นเหตุที่นอนแอ้งแม้งอยู่บน เตียงอีกฝั่ง เมื่อควานได้ผมก็กดรับทันทีด้วยเสียงที่งัวเงียและอารมณ์ที่กำลังจะปะทุ เนื่องจากถูกขัดจังหวะเวลานอน
 
                “ โหล ”
 
                [ ยังไม่ตื่นอีกรึไง ] ใครอีกวะ? ผมลืมตาขึ้นมามองนาฬิกาที่หัวเตียง  7 โมง นี่มันวันหยุดนะเว้ยแม่งเอ้ย
 
                “ นี่มันเพิ่งจะ 7 โมงเองนะเว้ย จะให้รีบตื่นทำไมแล้วนี่มึงเป็นใครวะ โทรมากวนคนอื่นแต่เช้า ไม่รู้รึไงว่าคนจะหลับจะนอนมารยาทน่ะมีบ้างป่ะ รู้จักมั้ยสมบัติผู้ดีอ่ะ คือถ้ากูตื่นกูก็ตื่นเองป่ะมึงไม่ต้องมาเสือกหรอกสัสเอ้ยย ” เต็มที่ครับ ผมใส่เต็มที่ไม่ได้หยุดพักหายใจ ผมจะหงุดหงิดที่สุดที่ถูกรบกวนเวลานอน
 
                [ มากไปแล้วนะ ]
 
                “ มากเหี้ยไร แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับที่มึงมารบกวนเวลานอนของกู ”
 
                [ ลุก ]
 
                “ ไม่ลุก ทำไมกูต้องฟังมึง ”
 
                [ ลุก ]
 
                “ กูบอกว่าไม่ ”
 
                [ จะไม่ลุกใช่มั้ย ]
 
                “ เออออออ ”
 
                [ มึงเลือกเองนะ ]
 
                “ กูไม่เลือกเหี้ยไรทั้งนั้นแหละ ”
 
                [ เอาอย่างนี้สินะ ได้ ] แล้วสายก็ตัดไป ผมจึงพลิกตัวนอนต่อ
 
               
แกร๊ก
 
                ผมนอนต่อได้สักพักก็รับรู้ได้ถึงแสงที่แยงตาเข้ามาทำให้ผมต้องหลับตาแน่นแล้วพลิกตัวหนีไปอีกทาง
 
                “ พี่ฟอง วันนี้วันหยุดนะฮะไม่ต้องมาปลุกฟินหรอก ” ผมบอกพี่ฟองไปเพราะคิดว่าต้องเป็นพี่ฟองแน่นอนที่เข้ามาเปิดม่านเพื่อจะปลุก ผม
 
                พรึ่บบ
 
                “ เฮ้ยยย ” ผมร้องออกมาดังลั่นหลังจากที่ผ้าห่มถูกกระชากออกพร้อมกับตัวผมที่ถูกดึงขึ้น จากเตียงแล้วลากไปยังห้องน้ำ ทันทีที่ผมเห็นว่าใครเป็นคนทำสองตาของผมก็เบิกโพลงขึ้นทันทีพร้อมทั้งแขนที่ สะบัดออกเพื่อหลุดจากการถูกลาก
 
                “ กูให้เวลา 10 นาที ถ้านานกว่านั้นกูจะเข้าไปอาบให้ ”
 
                ปึงง
 
                หลัง จากพี่เดลมันลากผมมาห้องน้ำได้มันก็สั่งๆแล้วปิดประตูใส่หน้าผมทันที ผมที่ยังไม่ตื่นดีได้แต่ยืนเอ๋ออยู่ตรงประตูห้องน้ำก่อนจะได้ยินเสียงตะโกน มาจากข้องนอกและคำขู่ที่ทำให้ผมต้องรีบจัดการตัวเอง ผมไม่ได้กลัวนะจริงจริ๊ง
 
                “ 10 นาที ไม่งั้นกูจะเข้าไป ”
 
 
 
                10 นาทีต่อมา
 
                ไม่ น่าเชื่อว่าผมจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จภายในเวลาแค่ 10 นาที โดยมีสายตากดดันจากไอ้เหี้ยนี่อยู่ตลอดเวลา ตอนอาบน้ำเสร็จผมต้องตะโกนบอกให้มันเอาชุดให้ก็เพราะมันมาลากผมไปที่ห้องน้ำ ผมเลยไม่ได้หยิบชุดเข้าไปด้วยน่ะสิ ถ้าจะให้ผมเดินพันผ้าขนหนูออกมาแต่งตัวข้างนอกขอบอกเลยว่าไม่มีทางแน่นอนถึง ปกติผมจะทำแบบนั้นอยู่แล้วก็เถอะ ผมบอกแล้วนะว่าผมไม่ได้กลัวมันแต่ผมแค่เกรงใจเฉยๆ
 
                “ ไหนเสื้อผ้าที่ให้เตรียม ”
 
                “ ไม่มี ”
 
                “ งั้นก็ไม่ต้อง ไปได้แล้ว ”
 
                “ ไม่ไป ”
 
                “ หยุดดื้อสักนาทีจะตายมั้ย ”
 
                “ ตาย ”
 
                “ อย่ากวน ”
 
                “ ถามมาก็ตอบกวนตรงไหน ”
 
                พี่มันไม่ได้พูดอะไรกลับเดินมาลากผมลงไปที่รถมันแทน ก่อนจะขับออกไปอย่างรวดเร็วอย่างกับจะมีใครตาย
 
                “ จะไปไหน ” ผมถามหลังจากพี่มันขับรถมาได้สักพัก แถมยังมาเส้นทางออกต่างจังหวัดอีกต่างหาก แต่ถามไปพี่มันก็ไม่ตอบอะไรนอกจากปรายตามองผมนิดหน่อย
 
                “ ..... ”
 
                “ ดีเนอะ ลากกูออกจากเตียง พากูมาแต่ถามไปไหนไม่ยอมตอบ ” ผมทำเป็นพูดลอยๆให้พี่มันได้ยิน
 
                เมื่อ เห็นมันไม่ตอบอะไรผมจึงเอื้อมมือไปเปิดวิทยุแทนซึ่งเพลงที่กำลังเปิดเป็นเพ ลงแว้นฟ้อพอดีผมเลยฟังอย่างสบายอารมณ์แต่ฟังได้ไม่เท่าไหร่ก็มีมือยาวๆ เอื้อมมาปิดวิทยุ ผมขมวดคิ้วหันไปมองมันทันทีพี่มันก็ไม่ได้สนใจเอาแต่มองไปขับหน้าแล้วขับรถ ไปเรื่อยๆ ผมจึงเปิดวิทยุอีกรอบแล้วมือใหญ่ก็เอื้อมมาปิดอีกรอบ ผมยกยิ้มมุมปากก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดวิทยุอีกครั้งแต่ครั้งนี้ผมเพิ่มความ ดังจนขี้หูแทบเต้นระบำก่อนจะมองหน้าพี่มันแล้วยักคิ้วส่งไปให้ พี่มันขบกรามแน่นท่าทางจะโมโหมาก ก่อนที่พี่มันจะจอดรถข้างทางแล้วทำบางอย่างกับผม
 
                เอี๊ยดดดดด
 
                “ เฮ้ยยย ไม่เอานะ ”
___________________________________
TBC
มาแว้ววววว    
ตอนนี้รู้สึกพี่เดลจะพูดเยอะจัง 55555
อย่าลืมเม้นเพื่อเป็นกำลังใจให้โซด้วยนะคะ <3
 พูดคุย ติดตาม ทวงนิยายในเพจ sodazaa ได้เลยจ้า
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา