Love in water falls น้ำตกนี้จะเป็นของเธอ ^o^
เขียนโดย Rasberry
วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.28 น.
แก้ไขเมื่อ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 13.14 น. โดย เจ้าของนิยาย
21) บทที่ 20
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความด้านชูการ์
“หืม จดหมายถึงท่านผอ.เหรอ เอาไปวางไว้บนโต๊ะล่ะกันนะ” ชูการ์พูดพร้อมกับเดินเอาจดหมายไปวางไว้บนโต๊ะของท่านผอ. โดยไม่ได้มองว่าใครเป็นคนเขียนจดหมายฉบับนั้น เมื่อวางจดหมายบนโต๊ะเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เดินออกจากห้องไปทันที
“อ้าว คุณประธานมีอะไรรึเปล่า”
“อ๋อ ผมเอาจดหมายมาวางไว้บนโต๊ะของ ผอ. นะครับ”
“งั้นก็ขอบคุณนะ”
“ครับ” ชูการ์พูดจบก็โค้งให้ท่านผอ.แล้วจึงหันหลังแล้วออกเดินไปในทันที
“ยังเหมือนเดิมเลยนะ นิสัยแบบนี้แก้ไม่หายแล้วสินะ” ผอ.พูดจบก็เดินเข้าไปในห้องทำงานทันที เนื่องจากอยากรู้ว่าใครเป็นคนส่งมา แต่เมื่อเห็นก็ต้องตกใจที่เรย์เป็นคนเขียนส่งมา “ท่านจะไปไหนกันนะ”
‘ถึงท่านผอ. ผมชิบุยะ เรย์
ผมอาจจะไม่อยู่สัก 2 สัปดาห์นะครับ เนื่องจากผมต้องไปที่บริษัท SJ.Co,. ที่มัสสึทาคิ คงจะไม่ว่ากันนะครับ แล้วก็ขอโทษด้วยที่วันนี้เป็นวันรายงานตัวเด็กโควตาที่เข้ามาสมัคร ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้อยู่ร่วม
ชิบุยะ เรย์’
“ไม่โกรธหรอกนะ แต่กลับมา งานอาจจะเยอะก็ได้นะ”
ด้านเรย์
“เฮ้อ~~~~ เมื่อไหร่เอกสารนี้จะเสร็จสักทีนะ อยากเจอนายะแล้วอ่ะ” เรย์บ่นกับตัวเอง
ก๊อกๆๆ
“เชิญครับ อ้าว คุณพ่อมีอะไรรึเปล่าครับ”
“เรื่องเรานั้นแหละ”
“เรื่องผม?”
“ใช่”
“ผมทำไม ผมทำอะไรผิดพลาดเหรอ”
“ไม่ผิดพลาดหรอก แต่ลูกทำถูกหมดเลย จนพ่อไม่อยากเชื่อว่าลูกเป็นคนทำ”
“แหะๆ แต่ก็มีบางส่วนที่ผมถามเลขาบ้างล่ะนะ”
“อ๋อ ลูกอยู่ที่นี่กี่สัปดาห์”
“2 สัปดาห์ครับ”
“แล้วลูกจะเอางานไปด้วยรึเปล่าล่ะ”
“พ่อส่งไปรษณีย์มาให้ดีกว่าครับ”
“อา ได้ๆ”
2 สัปดาห์ผ่านไป
สนามบิน
“มีอะไรก็ไลน์มานะ”
“มันก็ต้องอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ”
“เดินทางดีล่ะ”
“ครับ เคย์ไลไปกันเถอะครับ”
“ครับ” เคย์ไลพูดจบก็ถือกระเป๋าของเรย์เดินขึ้นเครื่องบินไปทันที
สนามบินที่Blue Rose Ice University (BRIU)
‘เฮ้อ~~~ ถึงสักที แต่เอ๊ะท่านผอ.มาทำอะไรที่นี่กันนะ หรือว่าจะไปข้างนอกกันนะ’ ผมมาถึงในช่วงเย็นๆ ฟ้ายังไม่มืดสักเท่าไหร่ เมื่อเห็นคนรอจึงเอ่ยทักทันที
“หวัดดีคร๊าบ~”
“อืม ผมมารับนะ เจ้าชาย”
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับท่านเรย์” เคย์ไลกระซิบกับผม เมื่อได้คำตอบจากผมแล้วก็หันหลังเดินขึ้นเครื่องไปทันที(เรย์ให้คำตอบโดยการพยักหน้า) เรย์รอให้เครื่องบินขึ้นไปลับขอบฟ้าแล้วถึงจะเดินเข้าไปในโรงเรียนกับท่านผอ.
“มารับแบบนี้มีงานให้ทำอีกล่ะสิ”
“ประมาณนั้นแหละ ตอนนี้พวกนั้นทำกันไม่ทันกันแล้วล่ะ” พวกเราสองคนเดินคุยกันมาเรื่อยๆจนมาถึงห้องผู้อำนวยการ ไม่ต้องสงสัยหรอกนะว่าทำไมเรย์ไม่เอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บที่ห้อง นั้นก็เพราะว่าเรย์เอามาแต่กระเป๋าโน๊ตบุ๊คส์(เสื้อผ้าแม่บ้านเอาไปซักน่ะ)
“อะ...อะ....ไอกองนั้นน่ะเหรอ”
“ใช่หมดนั้นเลย เจ้าพวกนั้นยังเอาไปไม่ถึงครึ่งเลยนะ เพราะงั้นนายช่วยเอาไปทำหน่อยนะ”
“เหรอ อยากตายนักใช่มั้ย!!!!!” ผมว่าพร้อมกับหันไปมองท่านผอ.อย่างโมโหสุดๆ
“มะ ไม่จ๊ะ” น่ากลัวอ่ะ
“เดี๋ยวผมทำเองก็ได้ ให้คนขนไปที่ห้องทำงานผมด้วยล่ะ โอเคนะ” ว่าพลางยกไป 2-3 ปึกไป
“โอเคครับ T^T”
RRRR~~~~
“ว่าไง”
(มีไรให้ช่วยมั้ย)
“มีๆ”
“แล้วนายอยู่ไหนอ่ะไรท์”
(ห้องทำงานของนายอ่ะ)
“เดี๋ยวไป”
(อยู่โรงเรียนแล้วหรอ)
“ใช่ แค่นี้นะ ที่เหลือค่อยไปคุยกันที่ห้อง”
(เข้าใจล่ะ)
ว่าจบก็ตัดสายไปทันที ไม่ใช่อะไรหรอกผมเดินคุยโทรศัพท์มาจนจะถึงห้องประธานแล้วล่ะนะ พวกนั้นจะบ่นอะไรใส่ผมไหมเนี้ย บ่นก็บ่นไปเหอะ ยังไงผมก็กลับมาอยู่ดีนั้นแหละ
แก๊ก!!!
ผมเปิดประตูเข้าไปตามปกติ ทำให้ไม่มีใครเงยหน้าขึ้นมามากนัก ผมก็เดินเข้าไปในห้องทำงานของตัวเองตามปกติ แล้วก็เจอไรท์ที่นั่งทำงานอยู่บนโซฟา โดยใช้โน๊ตบุ๊คส์ของผมทำงาน
“ไปทำอะไรมาน่ะ หายไป 2 สัปดาห์”
“โดนเรียกกลับไปน่ะ”
“เรื่องบริษัท SJ ใช่ม่ะ”
“ใช่ แต่นายต้องเป็นรองประธานนะ”
“รู้อยู่แล้วล่ะ” ไรท์ว่าจบก็นั่งพิมพ์เอกสารต่อ ส่วนผมก็เดินไปไปที่โต๊ะทำงาน ซึ่งมีเอกสารมากมายวางเป็นฉบับๆ “อ้อเรย์ รายงานอาชีพในอนาคต นั้นส่งให้แล้วน่ะ ส่วนงานใหม่ก็ทำให้เสร็จแล้วด้วย”
“นายรู้งานใหม่ได้ไง”
“นี่น่ะ” ว่าพร้อมกับยื่นกระดาษแผ่นนึงมาให้ผม
“อะไรเหรอ” ‘ให้นักเรียนเขียนสถานที่นักเรียนชอบมาส่งในวันอังคารหน้า จำนวน 1หน้า’ ผมถึงกับช็อกทีเดียว “ไรท์ อังคารหน้านี้มันใช่วันอังคารที่ผ่านมาหรือพรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้น่ะเรย์”
“อ๊ากกกกก!!! ตายแน่ตรูจะเขียนอะไรดีฟระไรท์นายเขียนเกี่ยวกับอะไรให้ผม”
“น้ำตกแก้วนั้นแหละ แต่ยังไม่เสร็จหรอก นายจะเขียนต่อหรือเขียนใหม่”
“เอามาดูก่อน อืม~~~~~” ผมนั่งอ่านมาเรื่อยๆจนจบไรท์เขียนมา
“สรุปเอาไง ถ้านายจะเขียนใหม่ก็ทำการบ้านก่อนแล้วงานพวกนี้ก็ค่อยทำส่วนใหญ่นายจะเซ็นเอกสาร อนุมัติทั้งนั้นแหละ”
“ทำการบ้านดีกว่า ที่นายเขียนมาพอเอาเป็นแนวทางได้บ้างล่ะ แต่ก็ขอบใจนะ นายไปนอนพักได้แล้วล่ะ นี่ก็เย็นมากแล้ว”
“อืม อย่าฝืนให้มันมากล่ะ”
“รู้แล้วน่า นายเป็นพ่อผมรึไง”
“เหอะๆ ไปล่ะ โชคดีกับการบ้านแล้วก็งานนะ” ว่าจบไรท์ก็เดินออกไปทันที
“อืม” ผมตอบหลังจากที่ไรท์เดินออกจากห้องไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Ray Say
เวลา 02.30 น.
‘เฮ้อ~~~ ป่านนี้แล้วเหรอเนี้ย’ ผมพูดขึ้นหลังจากดูนาฬิกาที่สวมใส่อยู่ แต่ผมก็ไม่ละความพยายามที่จะทำการบ้านให้เสร็จ
‘สถานที่ผมชื่นชอบคือ : น้ำตกแก้ว
น้ำตกแก้วเป็นน้ำตกที่ได้รับความนิยมจากคนในเมือง มัสสึทาคิ แต่มีความเชื่อต่อๆกันมาว่า ถ้าพาลูก หรือ แฟนมาจะทำให้มีความสุขไปตลอด ส่วนคนที่ไม่สบายมาเล่นน้ำที่นี่ก็จะหายป่วยทันที ในเวลาเดียวกันน้ำตกแห่งนี้จึงกลายเป็นน้ำตกศักดิ์สิทธิ์ไป จนกระทั่งวันหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้กลายเป็นสถานที่น่ากลัวไปซะอย่างนั้น น้ำตกแห่งนี้จึงปิดตัวลงเนื่องจากหาสาเหตุที่หลายๆคนบอกกล่าวกันว่าได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงร้องขอให้ช่วยหรือเสียงร้องไห้ของเด็กผู้หญิง แต่ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่เจ้าหน้าที่คนอื่นๆก็หาไม่พบต้นเสียงนั้น เมื่อเป็นอย่างนั้นน้ำตกนี้จึงถูกปิดร้างไป แต่มันไม่ใช่สำหรับผม เพราะว่าผมชอบที่นี่มากจึงได้มาที่น้ำตกแก้วบ่อยๆถึงจะถูกปิดร้างไปแล้วก็ตาม แล้วที่นั้นเป็นสถานที่ทำให้ผมได้พบกับเพื่อนคนแรกของผม และรักแรกของผมที่นั้น เนื่องจากผมคนเดียวที่รู้ที่มาของเสียงของเด็กผู้หญิงคนนั้น และผมกับเธอได้พบกันข้างในน้ำตกแห่งนั้น เมื่อเดินลึกเข้าไปผมสัมผัสกับหินก้อนใหญ่ที่ขวางทางเดิน ก็พบกับสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งผมไม่คุ้นเลย และเป็นสถานที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้ และสิ่งต่างๆนาๆ ไร้เสียงเครื่องยนต์และไร้ผู้คนเป็นสถานที่สงบสุขมากทีเดียว ซึ่งผมก็ชอบที่นั้นมากจริงๆ ถ้ามีโอกาสผมก็อยากจะไปที่นั้นอีก ผมลืมบอกไปว่าตอนนี้น้ำตกแก้วเปิดให้บริการตามปกติ และถูกเปิดในนามของผม ชิบุยะ เรย์ สวัสดีครับ’ เสร็จสักทีเหนื่อยอ่ะ แต่ผมเขียนไม่ถึง 1 หน้าหรอนะ แต่ก็เกือบเต็มอ่ะ วาดรูปตกแต่งไปด้วยดีกว่า
End Ray Say
เวลา 06.30น.
Sugar Say
ผมตื่นแล้วทำกิจวัตรประจำวันเสร็จก็มาเคาะประตูห้องเรย์ทันที(ผมรู้ว่าแรย์กลับมาแล้ว) แต่เมื่อไม่มีสียงตอบรับผมก็ถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป แต่ก็ไม่พบเรย์อยู่ในห้อง
แอ๊ด
“เรย์ไปไหนมา แล้วชุดนั้น”
“ชุดที่ใส่กลับมาเมื่อวานนั้นแหละ มีอะไรรึเปล่า”
“ไม่อ่ะ รีบอาบน้ำแต่งตัวเถอะ”
“อืม” เรย์ตอบแค่นั้นแล้วก็เดินไปหยิบชุดแล้วก็ไปอาบน้ำแต่งตัว เพื่อที่จะรีบไปเรียน ตามจริงก็ไม่ไปเรียนหรอก ไปนั่งหลับมากกว่า(ส่วนครูก็สอนไปอย่างนั้นแหละ)
ผมนั่งเล่นเกมฆ่าเวลา แต่คราวนี้เรย์อาบน้ำนานเหมือนกันนะเนี้ย ทำอะไรของเขาเนี้ย แต่เอาเถอะกว่าเวลาเรียนยังมีเวลาเหลืออยู่คงไม่เป็นอะไรมั้ง
แอ๊ด~
“คราวนี้นานนะ”
“โทษที แต่ขอไปห้องประธานก่อนได้มั้ย”
“เอาสิ กะจะไปเอาการบ้านเหมือนกัน”
“อืม” เรย์ว่าแค่นั้นก็เดินออกไปเลย ส่วนผมน่ะเหรอมีแต่เดินตามอยู่ห่างๆอย่างเดียว(แต่ไม่ต้องจับผมจิ้นกับเรย์นะ)
“เน้ จะยืนบื้ออยู่ตรงนั้นอีกนานไหมชูการ์”
“อ๊ะ โทษทีพอดีคิดอะไรเพลินไปหน่อย”
“คิดอะไร”
“ช่างมันเถอะ”
“คิดว่าพวกเราสถานะค่อนข้างต่างกัน แต่ทำไมเป็นเพื่อนกันได้ใช่รึเปล่าล่ะ” ว่าจบก็เดินเข้าห้องประธานนักเรียนแล้วก็เดินเข้าห้องของตัวเองไปทันที
“เรย์ เป็นอะไรของเขากันนะ” ผมว่าจบก็เดินไปเอาการบ้านที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ไปเรียนแล้วนะ” เรย์ว่าจบก็เดินออกจากห้องไปเลย
“ระ รอด้วยสิ นี่” ผมว่าพลางวิ่งตามเรย์ เมื่อทันผมก็ดึงแขนเรย์มาทันที “เป็นอะไร”
“เปล่า”
“ถ้างั้นทำไมต้องเย็นชาใส่ด้วย เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ มีอะไรก็พูดกันตรงๆสิ”
“เฮ้อ~~” แหนะ มีการมาถอนหายใจใส่อีก “ถ้าสมมุติว่าพวกเราไม่ใช่เพื่อนกันจริงๆ นายจะทำยังไงเหรอ”
“ก็ไม่ทำยังไงนี่ เดินผ่านไปแบบไม่หันกลับมามองน่ะ ทำไมเหรอ”
“งั้นก็ช่วยทำแบบนี้สักพักได้ป่ะ พอดีรู้สึกเหมือนมีคนแอบสะกดรอยตามพวกเรามาน่ะ รู้สึกว่าเป้าหมายจะเป็นพวกเราสองคนนะ ช่วยทำเป็นว่าพวกเราไม่ใช่เพื่อนกันจนกว่าเรื่องจะจบได้ไหม”
“ได้สิ แล้วจะรู้ได้ไงอ่ะ ว่าจบเรื่องแล้ว”
“เดี๋ยวจัดการเอง เริ่มตอนนี้นะ”
“อืม เข้าใจแล้ว” ผมว่าจบผมก็เดินขึ้นอาคารเรียนไปเลย ส่วนเรย์ก็ยืนอยู่กับที่สักแปปนึงแล้วจึงเดินตามขึ้นมา พวกผมสร้างความประหลาดในให้กับเพื่อนในห้องคนอื่นๆเป็นอย่างมาก แต่พวกผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
“นี่ๆ พวกเธอทะเลาะกันมาเหรอ” เพื่อนๆเริ่มถามทันทีเมื่อเรย์เดินมานั่งที่
“เปล่านิ ก็ปกติไม่ใช่เหรอ” เรย์ตอบไปแบบไม่ใส่ใจอะไรมากนัก
“แต่ปกติพวกเธอเดินมาพร้อมกันนินา แล้วทำไม....”
“ชั้นตื่นสาย จบมั้ย แล้วไม่ต้องถามอะไรอีก!!!!”
“จะ จ๊ะ” ผู้หญิงคนนั้นถึงกับหน้าซีดไปทันทีเมื่อเรย์พูดจบ แต่ก็ตอบแบบกล้าๆกลัวๆ
เวลาเลิกเรียน
ผมก็กลับมาที่ห้องของประธานนักเรียนตามปกติ ส่วนเรย์ก็เอาแต่นั่งเงียบอยู่ในห้องเรียนตั่งแต่วิชาแรกที่เรียนไปจนถึงวิชาสุดท้ายที่เรียน จนคนอื่นๆออกไปจากห้องหมดแล้วเรย์ก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม ผมก็กะว่าจะถามไป ‘เป็นอะไร เงียบทำไมเหรอ’ อยู่หรอกนะ แต่กลัวโดนด่า ผมเลยตัดสินใจเรย์นั่งอยู่ในห้องเรียนคนเดียว เพราะคิดว่าเรย์น่าจะต้องใช้ความคิด แต่เรย์จะจัดการยังไงหว่า แต่เอาเถอะคนเก่งๆอย่างเรย์น่าจะจัดการเองได้แหละ
End Sugar Say
ด้านเรย์
“พวกนายต้องการอะไร ถึงได้สะกดรอยตามพวกชั้นไปที่ห้องเรียน” ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเรย์ถึงมาคุยกับเจ้าพวกนี้ได้ มันขึ้นมาบนห้องแล้วเห็นเรย์นั่งอยู่คนเดียวเลยลากเรย์มาที่หลังอาหารเรียน
“ก็ไม่ได้ต้องการอะไรนิ แค่เห็นหมอนั้นเป็นประธานนักเรียนแล้วมันหงุดหงิดน่ะ” มันว่า
“มันมีอะไรน่าหงุดหงิดไม่ทราบ หมอนั้นก็ทำงานได้ดีนิ นายชื่อ?”
“แล้วทำไมต้องบอกชื่อแกด้วย”
“อ้อรู้ล่ะ นายคือ ครอสเซ่ เดเนียส ใช่ม่ะ”
“นายรู้ได้ยังไง”
“รู้ได้ยังไงไม่สำคัญ ที่สำคัญคือนายเป็นหัวหน้าแก๊งดราก้อน ที่ตั่งตนต่อกรกับพวกสภานักเรียนนี่นะ”
“โว้ย ชั้นทนไม่ไหวแล้วนะ” เดเนียสทนไม่ไหวจึงใช้ไม้ทุบตีเรย์จนเลือดออก แต่เรย์ก็ไม่ได้สวนกลับเลยแม้แต่น้อย ไม่ใช่ว่ากลัวหรืออะไรหรอกนะ แต่นี่มันเป็นที่สาธารณะ ซึ่งมีคนผ่านไปมาเยอะเหมือนกัน “เฮ้ย อ่อนนี่หว่า ไปตายซะ!!” เดเนียสเตรียมตวัดไม้ลงมาอีกรอบ แต่ก็มีเสียงๆนึงขัดขึ้นมาซะก่อน
“นี่พวกนายทำอะไรกันน่ะ!!!”
“อาจารย์” เรย์พูดพลางเอามือกุมแขนตัวเองที่เลือดออกไม่ใช่น้อย
“ชะ ชิบุยะ ไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ครับ แค่นี้ไม่เป็นไร”
“ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ ไปห้องพยาบาลกับครูก่อน” พูดจบก็พยุงเรย์ไปห้องพยาบาล
“ครับ” ไปตามแรง ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าหมอนั้นไปไหน มันเผ่นไปเรียบร้อยแล้ว
ห้องพยาบาล
“อาจารย์เป็นเจ้าหน้าที่ห้องพยาบาลเหรอครับ”
“ใช่จ๊ะ พอจะทราบไหมว่าใครเป็นคนทำร้ายนายน่ะ ชิบุยะ”
“ครอสเซ่ เดเนียส ครับ”
“เจ้านั้นอีกแล้วเหรอ”
“อีกแล้ว? ทำไมเหรอครับ”
“เสร็จแล้ว เดเนียสนะตั่งแก๊งสำหรับต่อกรกับสภานักเรียนขึ้นเพราะทนรับการทำงานของสภานักเรียนไม่ได้ จึงเริ่มทำร้ายคนสภานักเรียนหรือคนที่เกี่ยวข้องกับสภานักเรียนเรื่อยมา”
“อ๋อ มิน่าล่ะถึงได้มาสะกดรอยตามผมกับชูการ์”
“จริงเหรอ”
“ไม่จริงมั้งครับ ผมโดนซะขนาดนี้เนี้ย”
“ฮะๆ แล้วนี่จะไปไหนต่อนะ”
“ห้องประธานนะครับ”
“ไปทำอะไร”
“งานน่ะครับ ครูลืมไปแล้วเหรอว่า ผอ.เกิดอาการบ้า ทำให้มีห้องทำงานของผมอยู่ในห้องสภานักเรียนเนี้ย”
[ด้านผอ.
“ฮัดชิ้ว ใครนินทาเนี้ย”]
“ฮะๆ จะไปสภาพนี้เหรอ” อาจารย์ถามอย่างอึ้งๆ เนื่องจากว่าชุดนักเรียนของผมเปื้อนเลือดซะ อย่างกับว่าผมไปกินเลือดคนมาอย่างนั้นแหละ
“อื้อ ผมมีชุดเปลี่ยนน่ะ ในห้องของผมมีห้องนอนอยู่ด้วยล่ะ งั้นผมขอตัวนะครับ”
“จ้า”
“ครับ ครูก็อย่าลืมพักผ่อนด้วยล่ะครับ” ผมพูดจบก็ปิดประตูห้องพยาบาลแล้วเดินไปห้องสภานักเรียนทันทีเพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องขึ้นอีก
ห้องสภานักเรียน
ก๊อกๆๆ
“เชิญ” ตอบแบบไม่สบอารมณ์แบบนี้ไม่ต้องถามหรอกว่าใครมีคาร์ (คาร์ ซี เฟอร์รี่) อยู่คนเดียวนั้นแหละ เป็นคนอื่นไปไม่ได้ล่ะ
“เฮ้ย เรย์ทำไมมาสภาพอย่างนั้นล่ะจ๊ะ” มาริ พูดแล้วนั่งมอง
“นั้นดิไปฟัดกับหมาแถวไหนมา” เฟรม พูดเสร็จก้มหน้าทำงาน
“ไปโดนอะไรมา” เชสเตอร์ พูดเสร็จเก็บเอกสาร
“เจ้าชายทำแผลหรือยังครับ” ชาร์สเตอร์ พูดเสร็จเดินมาหา
“ใครทำอะไรนายเหรอ เรย์” วี พูดเสร็จเดินมาหาพร้อมกับสำรวจบาดแผล
“เฮ้อ~~ ให้ตายดิ จะโดนใครเล่นงานได้เจ็บขนาดนี้น่ะ มันก็มีอยู่คนเดียวนั้นแหละ”
“หรือว่า.....” ชูการ์
“ตามนั้นชู ครอสเซ่ เดเนียส”
“อันตรายนะนั้นน่ะ” คาร์
“อืม แต่ตอนนี้ขอไปทำธุระก่อนได้ไหม ผมเหม็นกลิ่นเลือดจะตายอยู่แล้ว” ผมบ่นใส่คาร์ แล้วเดินเข้าห้องทำงานของตัวเองทันที เพื่อจะไปล้างตัวในห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอน
“เฮ้ย เสร็จยัง” คาร์เปิดประตูเข้ามาแล้วมองหารอบห้อง “เฮ้ย อยู่ไหนเนี้ย”
“บ่นอะไรอีก” เรย์พูดหลังเดินจากห้องนอน
“ไปไหนมา”
“นอน อยู่ในห้อง” พูดแล้วชี้ไปที่ประตูห้องนอน
“มีด้วยเรอะ” คาร์พูดอย่างเหลือเชื่อที่ห้องทำงานผมมีห้องนอนด้วย
“มี พึ่งรู้ว่ามีเมื่อวานนี้แหละ ถ้าอยากรู้ว่ามีได้ไงก็ไปถาม ผอ. เอาเองล่ะกันนะ”
“อาๆ แล้วจะเอาไงต่อกับคนที่ทำร้ายนายอ่ะ”
“ก็ไม่ทำไงอ่ะ ปล่อยไปเถอะเพราะยังไงก็เจอกันอยู่ดี พวกนั้นโดนแบล็คลิสไว้อยู่นะ”
“ทำความผิดเหรอ”
“อืม ก่อความวุ่นวายนะ”
“เหอะๆ ตายแน่เจ้าพวกนั้นอ่ะ”
“ก็ไม่แน่นะ บางที่พวกที่ตายอาจจะเป็นพวกเราก็ได้นินาคาร์”
“หึ ให้มันจริงเหอะ ว่าแต่ทำไมนายไม่สวนกลับล่ะ”
“อาจารย์ห้องพยาบาลผ่านมา อยากจะสวนกลับหรอกนะแต่ที่นี่เป็นสถานศึกษามันคงไม่เหมาะสักเท่าไหร่ และอีกอย่างผมยังไม่อยากทำให้การเรียนมีปัญหาด้วย”
“มันก็จริง นายเรียนเก่ง การเรียนดี ง่ายๆคือเก่งไปซะทุกอย่างทุกด้านอ่ะ”
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ ผมก็ไม่ได้เก่งไปหมดซะทุกด้านซะหน่อย”
“ไม่ต้องถ่อมตัวนักหรอกนะ ตอนแรกที่เจอนายตอนมาเรียนแรกเปลี่ยนอ่ะ คิดว่านายกาก ไม่ได้เรื่อง ทำไม่เป็นสักอย่าง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อะไรประมาณนี้อ่ะ”
“เอิ่ม ผมดูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“อืม เหมือนลูกคุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็นน่ะ”
“แล้วไงต่อล่ะ”
“ก็ไม่ไงอ่ะ พอดูไปดูมานายก็ดูจะเก่งทุกด้านทำทุกอย่างได้ดี ไม่มีผิดถึงจะผิดบ้างบางครั้งแต่ก็แก้ไขได้ดี เมื่อเห็นนายทำได้ดีทุกอย่าง คำที่คิดก่อนหน้านั้นก็หายไปหมด และเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีเหตุผล มีความมานะอดทน ไม่เอาแต่ใจจนเกินไป”
“เอาง่ายๆนะ คือดีไปหมด จนหาความผิดไม่ได้ใช่ไหม”
“ใช่ แถมเก่งการต่อสู้ด้วย จนไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นลูกคุณหนูหรือเจ้าชายจริงๆ”
“ฮะ เรื่องอะไรต้องถ่อมตนแบบชูการ์ล่ะ ถ่อมตนแบบนั้นไปนานๆ เดี๋ยวคนอื่นหาว่าอ่อนไร้ความสามารถ กันพอดีสิ ยอมที่จะลุกขึ้นสู้ เผชิญกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจะดีกว่า แต่ถ้าจะทำแบบนั้นจริงๆก็ควรมีความอดทน เข้าใจสถานการณ์ ที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อรับรู้แล้วต้องแก้สถานการณ์ทันท้วงที และปรับคำที่จะพูดให้ออกมาจากใจจริง แล้วที่เรียบเรียงคำพูดให้ออกมาไพเราะ น่าฟัง จับใจความได้ว่าเราต้องการสื่ออะไรให้คนอื่นฟัง”
“ไม่ต้องมาสอนนะ”
“ไม่ได้สอนสักหน่อย แค่พูดให้ฟังเฉยๆ(เทศนาอ่ะนะ)”
“เหอะๆ มันก็จริง แต่ทำไมตอนแรกถึงทำตัวหงิมล่ะ”
“มาเรียนในที่แปลกตา คนเราก็ต้องปรับตัวไม่ถูกเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วล่ะ”
“อ้อ”
“ว่าแต่งานของนายเสร็จแล้วเหรอ คาร์”
“เฮ้ย ลืมไปเลย ขอบคุณที่เตือนนะ” พูดจบก็วิ่งออกไปทันที
“นายทำให้ผมแปลกใจได้ทุกเมื่อเลยสินะ” ผมพูดจบก็ถอนหายใจออกมาแล้วจึงเดินตามคาร์ออกไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ