แรดชิบหาย เมียอย่างมึง!
5.5
เขียนโดย LemonNest
วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.06 น.
42 chapter
66 วิจารณ์
54.36K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 21.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) ตอนที่ 12
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 12
ต้นข้าว
หนาวววว
อากาศมันเย็นยะเยือกเหมือนอยู่กลางกองหิมะในทะเลทราย(?) คือแม่งหนาวๆร้อนๆ ยิ่งหน้าฟางตอนนี้เหมือนพร้อมจะรบกับพี่ตี๋ทุกเมื่อ ผมไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกันก่อนหน้านี้ ถ้ารู้จะไม่พามาเจอกันเล้ยยย
"หน้ากูเหมือนผัวมึงเหรอ" ฟางเปิดประเด็น ตี๋ยักคิ้วตอบกลับท่าทางสบาย
"หน้าอย่างมึงไม่ผ่านว่ะเตี้ย ถ้าเป็นเมีย กูจะสมยอมนอนรอนิ่งๆให้มึงออนท๊อปเลย"
พรูดดดด
หน้าไอ้เต้ยเต็มไปด้วยเศษข้าวที่บดเคี้ยวปนกับผักและปลาที่ฟางเพิ่งเอาเข้าปาก มันหน้ายี๋กวักมือหากระดาษทิชชู่หยอยๆ
"ขอโทษๆๆ กูขอโทษว่ะ" ฟางดึงทิชชู่ส่งให้ เต้ยเช็ดหน้ามองฟางเคืองๆ
"รู้จักวันแรกก็เล่นกูแล้วนะ แล้วพี่เป็นอะไรไปแกล้งมันจังวะ"
"กูเปล่า" ตี๋ลอยหน้าลอยตานั่งละเมียดละไมตักขนมหวานเข้าปาก ฟางทั้งอายและโมโห ผมกับไอ้หล่อมองหน้ากัน
"รีบกินๆอิฟาง ผัวขากูรออยู่ข้างบนแล้ว อย่าช้าค่ะเพื่อน" แตงยุติสงครามประสาทเร่งเพื่อนยิกๆ พี่ตี๋ปีสามหล่อขาวตี๋สมชื่อ เป็นบุญแม่นางแท้มานั่งฟินกับหนุ่มๆระยะประชิด ดูจากสายตาอีกไม่นานอิฟางโดนฟันแน่ สาธุ! ปากกูดีจริง อิฟางได้ผัวสิ่งแวดล้อมแน่มึง
"อย่าให้เจอข้างนอกนะมึง" ฟางพึมพำจ้องหน้าคู่อริเขม็ง บรรยากาศบนโต๊ะกลับมาเป็นปกติ พี่ดินน่ารักเป็นเจ้ามือเลี้ยงเราทุกคน พี่ผมครับพี่ผม ไอ้ข้าวคนนี้ก็ยิ้มแก้มปริมีพี่รหัสดี
"พี่ดินที่จัดค่ายอาสาปลูกป่าใช่ไหมคะ ครั้งที่แล้วแตงลงทะเบียนไม่ทัน แย่จัง" ดินยิ้มอ่อนตอบ
"งั้นจดชื่อกับสาขาไว้นะ ครั้งหน้าพี่จะได้ลงชื่อไว้ให้ก่อน" ผมมองหน้าไอ้เต้ยเมื่อคิดอะไรออก
"ลงชื่อแล้วต้องไปด้วยนะครับ อย่าเหมือนไอ้สองตัวที่ลงไว้แต่เสือกไม่ไป" กูว่าแล้ว
"พี่ตี๋อ่า เต้ยผิดไปแล้วครับ" เต้ยมันจับแขนพี่ตี๋หน้าถูไถอ้อน ผมยิ้มแหยให้ แม่ง ต่อหน้าไอ้หล่อเลย
"ปลูกป่ากูไปเองก็ได้" ฟางเหยียดปากมองหน้าตี๋ ผมเหนื่อยใจไม่คิดจะห้ามแล้วแม่ง
"ไปป่าไหนล่ะ ถ้าป่าส่วนตัว กูก็พร้อมให้มึงเข้ามาอม เอ๊ย สำรวจนะ" ตี๋พูดขำๆ
เชี้ยยยยยยยย
แม่งฮากันทั้งโต๊ะ พี่ตี๋แม่งเด็ดพูดแต่ละคำทำฟางหน้าแดงหัวฟัดหัวเหวี่ยงกระแทกจานข้าวก่อนเดินไปเก็บ ไอ้หล่อมันขำส่งนิ้วให้ผม แม่งคงคิดว่าพี่ตี๋เจ๋งดี
"ถ้าพวกมึงจะอยู่ต่อก็เชิญ แต่กูจะกลับ! รำคาญหมาเห่าหอน" ฟางยืนเท้าสะเอวพูด
"อ้าวอินี่ ทีกูจะกลับเสือกอยู่ต่อ พอกูกำลังฟินจะกลับเสียได้" แตงบ่น
"ออมกลับด้วย แล้วเพ ติ้ว แตงว่าไง" ผมชะงักเมื่อได้ยินเสียงออม คือมัวแต่เฮฮาไม่ได้มองอีกคนที่นั่งติดกับไอ้หล่อ ตกลงมึงเป็นอะไรกัน กูเคืองมาก!!
"กลับพร้อมกันหมดนี่แหละ มีเรียนต่อนะครับอย่าลืม แยกย้ายๆ" ติ้วสรุปเดินนำไปขึ้นรถคนแรก ตามมาด้วยแตงกับออม ฟางไม่ต้องพูดถึง แม่งขับรถไปนานแล้วครับ ไอ้หล่อมองผมก่อนจะยักคิ้วกวนตีนเดินไป
"เต้ย มึงกลับเลยป่ะ" ผมถามเต้ยเมื่อพวกไอ้หล่อกลับไปหมดแล้ว พี่ตี๋พี่ดินก็กลับไปนอนต่อ เห็นว่าคืนนี้จัดหนักกะเมาทั้งคืน
"ยังว่ะ ว่าจะแวะไปหาเพื่อนหน่อย"
"มึงมีเพื่อนคนไหนอีกนอกจากพวกกู หืมมม" ผมหรี่ตายื่นหน้าเข้าไปใกล้เต้ย เดี๋ยวนี้มันมีพิรุธครับ
"เออ! กูเพิ่งนึกออก วันนี้เรานัดกันทำรายงานกันที่ห้องสมุดนี่หว่า ไอ้ลมกับไอ้บาสรอนานแล้วมั้ง" เต้ยโพลงขึ้น ผมเบิกตากว้างเพิ่งนึกออก เรารีบแจ้นไปห้องสมุดเจอบ่นมายกใหญ่
………………………………………………..
ตุบ
เต้ยก้มลงเก็บหนังสือที่ตกจากชั้นหมายจะเก็บที่เดิม แต่ชั้นที่หล่นลงมาอยู่สูงกว่าตัวเพียงแค่อีกเอื้อมมือนึง เขย่งแล้วเขย่งอีกก็ยังไม่ถึง
“ความพยายามสูงนะครับ” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นเหนือหัว แซมหยิบหนังสือจากมือเต้ยมาถือไว้ก่อนสอดกลับที่เดิม เต้ยหันหน้ามาเจออกแกร่งที่อยู่ระดับสายตา กลิ่นตัวหอมฉุยลอยเข้ามาให้สูดดมเต็มปอด แซมดุนลิ้นก้มลงมองเต้ย
“มะ มึงมาได้ไง”
“พี่อยู่ในนี้นานแล้วครับ เต้ยนั่นแหละเข้ามาทำอะไร”
“ถามบ้าๆ กูก็เข้ามาหาหนังสืออ่านสิวะ หลบๆ” เต้ยดันอกแกร่งออก แซมหลีกทางให้เดินตามเต้ยเงียบๆจนถึงโต๊ะ
“อ้าว พี่แซม” ผมทักพี่แซมมองหน้าไอ้เต้ยที่เหวอและมองไปด้านหลังตัวเอง มันพูดอะไรกับพี่แซมเสียงเบามาก ขนาดผมอยู่ใกล้ยังไม่ได้ยิน
/มึงตามกูมาทำไมวะ/
/พี่ไม่ได้ตามครับ ขามันเดินมาเอง/
/อย่ากวนตีนกู มึงกลับไปเลยนะ/
/พี่พอใจจะอยู่ตรงนี้นี่ครับ/
/แต่กูไม่พอใจ มึงรีบไปไกลๆเลย ต้นข้าวมันยิ่งสงสัยอยู่/
/เป็นอะไรล่ะครับ ก็บอกไปว่าเราเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เอ๊ะ หรือจะบอกว่าพี่จีบเราอยู่ก็ได้นะ/
/มึงกวนตีนกู เออแม่ง อย่าวุ่นวายกับกูแล้วกัน/
เต้ยหัวเสียเดินไปนั่งใกล้บาส ลมส่ายหัวเมื่องานยังไม่คืบหน้าเท่าไหร่ยังมามีเรื่องให้ปวดหัวอีก ผมเขยิบให้พี่แซมนั่งข้างๆ พี่แซมช่วยเราหาข้อมูลจนเสร็จ แต่ผมสงสัยอย่าง ทำไมไอ้เต้ยมันต้องจ้องผมเขม็งด้วยวะ
“เป็นอะไรไอ้เต้ย” บาสถามขึ้น
“กูเปล่า”
“กูเห็นมึงยุกยิกๆ แล้วนั่น มึงอ่านหนังสือยังไงกลับหัว ฮ่าๆๆ”
“กูกำลังฝึกอ่านแบบใหม่ไง หัวเราะอะไรมะ...พี่แซม” แซมหึในลำคออมยิ้มให้ ผมว่าคู่นี้มันแปลกๆ
“พี่แซมไปทานข้าวกับพวกเราไหมครับ” ผมชวน พี่แซมมองหน้าเต้ย ผมก็มองตาม เต้ยมันหันหน้าหนี
“ครับ พี่ยังไงก็ได้”
“งั้นมื้อนี้ข้าวเลี้ยงเอง ไปกันเถอะ ป่ะเต้ย” ผมลุกขึ้น เต้ยมันเดินมาคล้องแขนผมลากไปที่รถ ลมกับบาสไปรถพี่แซม
เมื่อถึงร้านอาหารผมก็เดินไปจองโต๊ะ หยิบปากกากระดาษมาถือไว้ ผมจดอาหารที่จะสั่งลงไปพลางถามคนอื่นๆว่าจะเอาอะไร เต้ยเดินไปหยิบแก้วน้ำมาวาง พี่แซมหอบขวดน้ำมาสามขวดใหญ่ มื้อนี้ผมก็อดเลี้ยงตามเคย พี่แซมเหมาจ่ายทั้งหมด ไอ้เต้ยก็เหมือนจะแกล้ง มันเล่นสั่งไปแจกเด็กๆข้างห้องด้วย
“ขอบคุณครับ ขับรถกลับดีๆนะพี่” พวกผมยกมือขอบคุณยกเว้นไอ้เต้ย ผมสะกิดมัน มันก็ไหว้ส่งๆ
“ถามจริง มึงไม่ชอบพี่แซมเหรอวะ” ผมถามขึ้นสวมหมวกกันน็อคที่มันยื่นให้
“มันชอบกวนตีน”
“หืมมม มึงรู้จักพี่แซมมาก่อน?” เต้ยมันยกมือแตะปาก ผมหรี่ตามึงหลุดปากแล้วเต้ย
“ก็เออ ลูกพี่ลูกน้องกูเอง จบๆ ถามมากกูปล่อยเกาะไม่ไปส่งนะต้นข้าว”
“โมโหกลบเกลื่อนอะไรวะเต้ย หน้าแดงนะมึง” ผมแซว ไอ้เต้ยยกมือกุมแก้ม ผมหยิกแก้มมันเล่น
“กูล้อเล่น ฮ่าๆๆๆๆ โอ๊ย ขอโทษครับเพื่อนเต้ย” เอะอะตบหัวกูตลอด สงสัยเรื่องนี้เพื่อนเต้ยมีแววจะได้พี่แซมว่ะ สนับสนุนครับเพื่อน
…………………………………………………………….
@บ้านสวรรยา
กลับมาถึงบ้านไอ้หล่อก็ตีหน้าบึ้งเข้ามาหา วันนี้ผมกลับเย็นเพราะมีเรื่องงานกลุ่มเข้ามาเกี่ยวอยู่เรื่อยหน้ามันมู่ทู่ปากยื่นงอนมาแต่ไกล ขนาดป๋ามันนั่งหัวโด่อยู่ยังจะอ้อนผมต่อหน้าป๋ามันอีก
"ป๋าบอกเมียจะย้ายไปอยู่ติดกับห้องเฮียเพลง กูไม่ยอมนะเมีย" มือหนามาดึงผมให้ไปนั่งทับตักมันที่โซฟา ผมโคตรอายสายตาป๋ากับแม่บ้านที่มองมาเลย จับมือที่ล็อคเอวอยู่ออกแต่แม่งก็ไม่ยอมท่าเดียว
"หล่อ กูอายเขา"
"คนกันเองไม่ต้องอาย เมียอ่า ไม่เอาไม่แยกห้องนอนนะ นะครับ" สองมือกอดผมแน่นซบหน้าหล่อกับแผ่นหลังบางที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ
"อะแฮ่ม เจ้าเพ แค่แยกห้องนอนกับเมียคงไม่ถึงกับตายหรอกมั้ง" ป๋าแซวมองผมกับไอ้หล่อผ่านแว่น
"ตายดิป๋า ไม่เอาเพไม่ยอม ไม่ได้กอดต้นข้าวเพนอนไม่หลับ"
"ลูกแหง่ติดเมีย"
"ยอมรับ แล้วยังไง ป๋าอย่าแยกผัวแยกเมียเขาดิ" ผมว่ามันเริ่มง้องแง้งอีกแล้วนะ พอเริ่มเป็นแบบนี้คนลำบากก็ต้องอยู่ที่ไอ้ต้นข้าวไง
เวลาไอ้หล่อมันอ้อน ใครล่ะจะไม่ใจอ่อน
"ถ้าอยากได้เมียคืนก็ทำให้ป๋าดูสิ เกรดเทอมนี้ต้องเพิ่มขึ้นจนถึงสาม ถ้าเพทำไม่ได้ป๋าจะให้ต้นข้าวไปอยู่บ้าน...และความสัมพันธ์ของแกกับเขาก็จะหยุดลง” ข้อต่อรองที่ถูกยื่นให้มันไม่ได้ยาก แต่คนเรียนเล่นๆอย่างเพทายมันถือว่ายากมาก
ไอ้หล่อกำลังเครียด คิ้วมันผูกกันเป็นโบว์และจังหวะการหายใจของมันแผ่วลง ผมไม่อายที่จะกอดมันไว้แน่นพร้อมตบหลังกระซิบให้กำลังใจ
"กูเชื่อว่ามึงทำได้นะหล่อ คนเก่งของต้นข้าวต้องสู้ดิวะ"
"กูกลัว" เสียงมันสั่นเครือ ผมผละออกลุกขึ้นยืน จับมือมันกุมไว้ขอตัวพากันขึ้นไปคุยบนห้อง
เราเข้ามาในห้องกดล็อคและโผเข้าหากันอย่างที่ใจต้องการ มันดูเป็นเรื่องไม่น่ากังวลแต่ถ้ามันพลาดนั่นหมายถึงความรักของเราต้องจบลง ป๋าพูดจริงและทำจริง เพทายรู้เรื่องนี้ดี
"เทอมที่แล้วมึงได้เกรดเท่าไหร่" ผมถามออกไป
"สองจุดหนึ่ง มันอีกตั้งเยอะกว่าจะถึงสาม อีกแค่...สองเดือน" คำตอบที่ได้กลับมาแผ่วเบา
"อืม งั้นนับตั้งแต่ตอนนี้มึงจะเล่นไม่ได้แล้ว ไหนเอาตารางสอนมึงมา"
"อย่าเพิ่ง...กูขอกอดมึงก่อนได้ไหมวะ" ไอ้หล่อจ้องตาผมแบบมีความหวัง เราสบตากันเนิ่นนาน ผมเป็นฝ่ายทนใจแข็งไม่ไหวดึงมันเข้ามากอดแนบไว้ทั้งตัว
หลายนาทีที่ลมหายใจของผมและมันรินรดกัน เสียงจังหวะการเต้นของหัวใจกระทบอีกฝ่ายจนรู้สึกได้ไอ้หล่อกำลังอ่อนแอ และผมต้องอยู่เคียงข้างมัน
"กูไม่สัญญาว่าต้องทำได้ แต่ผู้ชายคนนี้จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อ ความรักของเรา" น้ำเสียงอ่อนนุ่มกับสัมผัสจากมือใหญ่ที่กำลังลูบหัวผม มันช่างอบอุ่นและปลอดภัย
"เพ...กูรออยู่นะ...กูจะรอวันที่เราจะได้รักกันแบบไม่มีข้อแม้ใดๆ"
"ถ้าหัวใจกูยังเต้นอยู่ กูสัญญาว่าต่อให้มึงจะรักกูหรือไม่ แต่กู...รักมึงนะต้นข้าว นอกจากป๋าและเฮียก็มีมึงที่กูพูดได้เต็มปากว่ารัก ไม่...รวมทั้ง...แม่...อืม ช่างมันเถอะ" ผมได้ยินเสียงหัวใจมันกำลังเศร้าเมื่อเอ่ยถึงแม่ ตั้งแต่คบกันมาผมไม่เคยเห็นแม่มันเลยแฮะ
"ไอ้หล่อ..."
"หืม ว่าไงครับ"
"กูเมื่อย ไอ้สัส! ไอ้โรแมนติกมันก็มีนะ แต่มายืนกอดกันนานๆมันไม่ใช่ว่ะหล่อ" ผมยิ้มโวยวายใส่ไอ้หล่อตบหัวผมที่ขัดอารมณ์รักใคร่ของมัน
"มึงแม่ง เชี้ย กูหลงชอบมึงไปได้ไงวะ" บ่นกูแล้วเสือกยิ้มทำไม แต่มึงหล่อกูให้อภัย
"เหตุผลง่ายๆเลยนะ กูหล่อและน่ารักมาก กูทำขนมเป็นนะมึงไม่กระจอกเลย บ้านกูไม่ได้รวยมากแต่กูและพี่กูหน้าตาดีมาก ที่สำคัญกูฉลาดและมีเสน่ห์ ไม่อยากจะโม้นะตอน..." ผมกำลังจะเล่าเรื่องในวัยเด็ก มือหนาๆแสนเค็มก็มาอุดปากผมลากไปที่ห้องนั่งเล่น
ผมนั่งเอาหมอนอิงวางบนตักตบเบาๆให้มันมานอน ไอ้หล่อมันส่ายหน้าผมหน้างอขึ้นทันที แต่สิ่งที่ทำให้ผมยิ้มต่อจากนี้คือมันไปเอากีต้าร์มาจากห้องนอนและตั้งท่าดีดมันเบาๆลองเสียง
"กูไม่ได้จับกีต้าร์มานานแล้วนะเนี่ย" เพทายสูดลมหายใจเข้าลึกๆ มันตื่นเต้นมากลองเสียงซ้ำไปซ้ำมาจนเริ่มคล่องมือ
"เริ่มได้รึยังวะ กูรอจนจะหลับแล้วนะหล่อ" ผมก็พูดเว่อร์ไปนั่น เพิ่งจะทุ่มกว่าๆเท่านั้นเองครับ
"ใจเย็นครับคุณแฟน มาๆรีเควสเพลงมาได้เลยครับ" เพทายพูดขึ้นมือเปิดหนังสือเพลงที่มีตัวโน๊ตจับจังหวะ ผมเอาหมอนอิงมาแนบอกกดโทรศัพท์หาเพลงที่ชอบ
"มึงนาน...กูเลือกให้เอง...อืม...เอาเพลงนี้นะ" เสียงดีดกีต้าร์คลอเบาๆเริ่มต้น ผมเท้าแขนดูไอ้หล่อเวลานั่งทำตัวเท่ๆให้รู้สึกใจเต้น
(ในโทรศัพท์ให้กดเปิดสองทีนะจ๊ะ)
~ ฉันเคยเกือบพลาดสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต
หากในวันที่ฉันล้มอยู่ ไม่มีหนึ่งใจของเธอ
ฝันคงจบ หลายสิ่งที่ดีคงหมดทางได้เจอ
หนึ่งกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ ไม่ลืมได้เลย...
ขอบคุณที่รักกัน...
ขอบคุณทุกครั้งที่คอยกอดฉัน
ในวันที่ปัญหา ถาโถมเข้ามาใส่
จะตอบแทนความรัก ที่ฉันได้จากเธออย่างไร
ก็รู้ดีว่าไม่พอ แต่ขอทำให้ดีที่สุด
สักวันหนึ่งฉันอาจต้องล้มลงอีก ใครจะรู้
แต่ถ้าเธอไปด้วยกันอยู่ ก็ไม่หวั่นกลัวเท่าไร
เรื่องบางอย่าง ฉันอาจได้เคยพูดบอกเธอออกไป
แต่อีกมุมนึงของหัวใจ ไม่เคยพูดเลย
ขอบคุณที่รักกัน...
ขอบคุณทุกครั้งที่คอยกอดฉัน
ในวันที่ปัญหา ถาโถมเข้ามาใส่
จะตอบแทนความรัก ที่ฉันได้จากเธออย่างไร
ก็รู้ดีว่าไม่พอ แต่ขอทำให้ดีที่สุด
ขอบคุณที่รักกัน...
ขอบคุณทุกครั้งที่คอยกอดฉัน
ในวันที่ปัญหา ถาโถมเข้ามาใส่
จะตอบแทนความรัก ที่ฉันได้จากเธออย่างไร
ก็รู้ดีว่าไม่พอ แต่ขอทำให้ดีที่สุด
ขอบคุณในความรัก ที่หาไม่ได้จากที่ไหน
จะรักเธอให้มากพอ และขอทำให้ดีที่สุด ~
เพลง ขอบคุณที่รักกัน – Potato
เนิ่นนานที่เราสองคนสบตากันท่ามกลางความเงียบ เสียงคลอกีต้าร์ของมันยังบรรเลงต่อไป แต่ใจของผมมันหยุดเต้นตั้งแต่โน๊ตตัวแรกเริ่มขึ้น ไม่คิดว่ามันจะเอาเพลงนี้มามอบแทนความรู้สึกต่างๆเพื่อให้ผมรับรู้ ไม่คิดว่าคนเถื่อนๆอย่างมันจะโรแมนติกเป็นเหมือนคู่รักคนอื่น และวันนี้...
ไอ้หล่อบอกรักผมครั้งแรก ทั้งที่ผมไม่เคยบอกมันจริงๆสักครั้ง
ขอบคุณความบังเอิญที่ทำให้เราได้พบกัน...
ขอบคุณที่มันเลือกผมในคืนนั้น...
ขอบคุณที่เสียสละตัวเองเพื่อ....ความรักของเรา
ขอบคุณมึงว่ะไอ้หล่อ...ที่วันนี้มันทำให้ผมซึ้งจนน้ำตาไหล
ขอบคุณครับ....
ที่รักของต้นข้าว
"รักว่ะ...ไอ้คุณแฟนต้นข้าว ขอบคุณกูซะที่ยอมจับกีต้าร์อีกครั้ง" เพทายโยกหัวเล็กเล่นกดหน้ามันลงกับอก ต้นข้าวสะอื้นหนักพึมพำว่ารักผม ผมพร้อมที่จะเปิดใจกับมันในทุกเรื่อง รวมถึงเรื่อง...แม่
"...ฮึก...ฮือ..."
"เมื่อหลายปีก่อนแม่เข้ามาหากูในห้อง แม่เอากล่องของขวัญห่อใหญ่มาให้กู นาทีที่กูเปิดเจอกีต้าร์น้ำตากูแทบไหลกระโดดกอดแม่พร้อมวิ่งโร่ไปหยิบหนังสือเพลงมากางออก กูเล่นเพลงนี้ให้แม่กูฟัง แม่กูร้องไห้เอากูไปกอด"
"...ฮึก..."
"แม่บอกกูเป็นเด็กดีตั้งใจเรียน ตอนนั้นกูเป็นที่หนึ่งของชั้นเรียนเลยนะ กูเลยได้กีต้าร์ตัวนี้มาอย่างง่ายดาย แต่หลังจากนั้นสองวัน แม่กูก็หอบของออกจากบ้านพร้อมเงินมหาศาล ทิ้งให้พวกกูกับป๋าต้องใช้เงินที่มีอยู่สร้างบริษัทขึ้นมาเอง กูแทบบ้าและโยนของทุกอย่างที่แม่ให้ทิ้ง...ฮึก...แต่กูทิ้งไม่ลงและยังเก็บมาไว้ที่เดิม"
"...ฮึก...พอแล้ว.." ต้นข้าวกระตุกชายเสื้อห้ามเมื่อเห็นไอ้หล่อสะอื้น
"...แม่โทรมาถามว่ากูสบายดีไหม กูจะตอบเขาไปยังไงนอกจากผมสบายดี มึงว่าไหม แม่กูโคตรใจร้ายเลย...ฮึก...กูเลยไม่อยากเก่ง ไม่อยากจะรักใครสักคน กูกลัวเจ็บซ้ำสอง...มึงจะรักกูใช่ไหมต้นข้าว จะไม่ทิ้งกูไปไหนใช่ไหม...เพราะถ้ามึงยังทิ้งกูไปอีก กูคงไม่มีแรงจะหายใจต่ออีกแล้วว่ะ"
"ฮึก กูสัญญา ว่ากูจะรักมึงและอยู่ข้างเคียงข้างมึงไปตลอด"
ห้องที่เคยว่างเปล่ามันดูมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ชายสองคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน ไม่เคยเจอกัน กลับมา
โคจรพบกันได้เพราะความบังเอิญ คนในโลกอาจจะมีเป็นล้าน แต่ยากจะหาคนใจตรงกันได้สักครั้ง
ในเมื่อผมมีรักอยู่ในมือ ผมก็จะรักษารักนี้ไว้ให้นานเท่าลมหายใจที่มี
TBC.
TBC. (ในโทรศัพท์ให้กดเปิดสองทีนะจ๊ะ)
~ ฉันเคยเกือบพลาดสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต
หากในวันที่ฉันล้มอยู่ ไม่มีหนึ่งใจของเธอ
ฝันคงจบ หลายสิ่งที่ดีคงหมดทางได้เจอ
หนึ่งกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ ไม่ลืมได้เลย...
ขอบคุณที่รักกัน...
ขอบคุณทุกครั้งที่คอยกอดฉัน
ในวันที่ปัญหา ถาโถมเข้ามาใส่
จะตอบแทนความรัก ที่ฉันได้จากเธออย่างไร
ก็รู้ดีว่าไม่พอ แต่ขอทำให้ดีที่สุด
สักวันหนึ่งฉันอาจต้องล้มลงอีก ใครจะรู้
แต่ถ้าเธอไปด้วยกันอยู่ ก็ไม่หวั่นกลัวเท่าไร
เรื่องบางอย่าง ฉันอาจได้เคยพูดบอกเธอออกไป
แต่อีกมุมนึงของหัวใจ ไม่เคยพูดเลย
ขอบคุณที่รักกัน...
ขอบคุณทุกครั้งที่คอยกอดฉัน
ในวันที่ปัญหา ถาโถมเข้ามาใส่
จะตอบแทนความรัก ที่ฉันได้จากเธออย่างไร
ก็รู้ดีว่าไม่พอ แต่ขอทำให้ดีที่สุด
ขอบคุณที่รักกัน...
ขอบคุณทุกครั้งที่คอยกอดฉัน
ในวันที่ปัญหา ถาโถมเข้ามาใส่
จะตอบแทนความรัก ที่ฉันได้จากเธออย่างไร
ก็รู้ดีว่าไม่พอ แต่ขอทำให้ดีที่สุด
ขอบคุณในความรัก ที่หาไม่ได้จากที่ไหน
จะรักเธอให้มากพอ และขอทำให้ดีที่สุด ~
เพลง ขอบคุณที่รักกัน – Potato
เนิ่นนานที่เราสองคนสบตากันท่ามกลางความเงียบ เสียงคลอกีต้าร์ของมันยังบรรเลงต่อไป แต่ใจของผมมันหยุดเต้นตั้งแต่โน๊ตตัวแรกเริ่มขึ้น ไม่คิดว่ามันจะเอาเพลงนี้มามอบแทนความรู้สึกต่างๆเพื่อให้ผมรับรู้ ไม่คิดว่าคนเถื่อนๆอย่างมันจะโรแมนติกเป็นเหมือนคู่รักคนอื่น และวันนี้...
ไอ้หล่อบอกรักผมครั้งแรก ทั้งที่ผมไม่เคยบอกมันจริงๆสักครั้ง
ขอบคุณความบังเอิญที่ทำให้เราได้พบกัน...
ขอบคุณที่มันเลือกผมในคืนนั้น...
ขอบคุณที่เสียสละตัวเองเพื่อ....ความรักของเรา
ขอบคุณมึงว่ะไอ้หล่อ...ที่วันนี้มันทำให้ผมซึ้งจนน้ำตาไหล
ขอบคุณครับ....
ที่รักของต้นข้าว
"รักว่ะ...ไอ้คุณแฟนต้นข้าว ขอบคุณกูซะที่ยอมจับกีต้าร์อีกครั้ง" เพทายโยกหัวเล็กเล่นกดหน้ามันลงกับอก ต้นข้าวสะอื้นหนักพึมพำว่ารักผม ผมพร้อมที่จะเปิดใจกับมันในทุกเรื่อง รวมถึงเรื่อง...แม่
"...ฮึก...ฮือ..."
"เมื่อหลายปีก่อนแม่เข้ามาหากูในห้อง แม่เอากล่องของขวัญห่อใหญ่มาให้กู นาทีที่กูเปิดเจอกีต้าร์น้ำตากูแทบไหลกระโดดกอดแม่พร้อมวิ่งโร่ไปหยิบหนังสือเพลงมากางออก กูเล่นเพลงนี้ให้แม่กูฟัง แม่กูร้องไห้เอากูไปกอด"
"...ฮึก..."
"แม่บอกกูเป็นเด็กดีตั้งใจเรียน ตอนนั้นกูเป็นที่หนึ่งของชั้นเรียนเลยนะ กูเลยได้กีต้าร์ตัวนี้มาอย่างง่ายดาย แต่หลังจากนั้นสองวัน แม่กูก็หอบของออกจากบ้านพร้อมเงินมหาศาล ทิ้งให้พวกกูกับป๋าต้องใช้เงินที่มีอยู่สร้างบริษัทขึ้นมาเอง กูแทบบ้าและโยนของทุกอย่างที่แม่ให้ทิ้ง...ฮึก...แต่กูทิ้งไม่ลงและยังเก็บมาไว้ที่เดิม"
"...ฮึก...พอแล้ว.." ต้นข้าวกระตุกชายเสื้อห้ามเมื่อเห็นไอ้หล่อสะอื้น
"...แม่โทรมาถามว่ากูสบายดีไหม กูจะตอบเขาไปยังไงนอกจากผมสบายดี มึงว่าไหม แม่กูโคตรใจร้ายเลย...ฮึก...กูเลยไม่อยากเก่ง ไม่อยากจะรักใครสักคน กูกลัวเจ็บซ้ำสอง...มึงจะรักกูใช่ไหมต้นข้าว จะไม่ทิ้งกูไปไหนใช่ไหม...เพราะถ้ามึงยังทิ้งกูไปอีก กูคงไม่มีแรงจะหายใจต่ออีกแล้วว่ะ"
"ฮึก กูสัญญา ว่ากูจะรักมึงและอยู่ข้างเคียงข้างมึงไปตลอด"
ห้องที่เคยว่างเปล่ามันดูมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ชายสองคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน ไม่เคยเจอกัน กลับมา
โคจรพบกันได้เพราะความบังเอิญ คนในโลกอาจจะมีเป็นล้าน แต่ยากจะหาคนใจตรงกันได้สักครั้ง
ในเมื่อผมมีรักอยู่ในมือ ผมก็จะรักษารักนี้ไว้ให้นานเท่าลมหายใจที่มี
TBC.
ต้นข้าว
หนาวววว
อากาศมันเย็นยะเยือกเหมือนอยู่กลางกองหิมะในทะเลทราย(?) คือแม่งหนาวๆร้อนๆ ยิ่งหน้าฟางตอนนี้เหมือนพร้อมจะรบกับพี่ตี๋ทุกเมื่อ ผมไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกันก่อนหน้านี้ ถ้ารู้จะไม่พามาเจอกันเล้ยยย
"หน้ากูเหมือนผัวมึงเหรอ" ฟางเปิดประเด็น ตี๋ยักคิ้วตอบกลับท่าทางสบาย
"หน้าอย่างมึงไม่ผ่านว่ะเตี้ย ถ้าเป็นเมีย กูจะสมยอมนอนรอนิ่งๆให้มึงออนท๊อปเลย"
พรูดดดด
หน้าไอ้เต้ยเต็มไปด้วยเศษข้าวที่บดเคี้ยวปนกับผักและปลาที่ฟางเพิ่งเอาเข้าปาก มันหน้ายี๋กวักมือหากระดาษทิชชู่หยอยๆ
"ขอโทษๆๆ กูขอโทษว่ะ" ฟางดึงทิชชู่ส่งให้ เต้ยเช็ดหน้ามองฟางเคืองๆ
"รู้จักวันแรกก็เล่นกูแล้วนะ แล้วพี่เป็นอะไรไปแกล้งมันจังวะ"
"กูเปล่า" ตี๋ลอยหน้าลอยตานั่งละเมียดละไมตักขนมหวานเข้าปาก ฟางทั้งอายและโมโห ผมกับไอ้หล่อมองหน้ากัน
"รีบกินๆอิฟาง ผัวขากูรออยู่ข้างบนแล้ว อย่าช้าค่ะเพื่อน" แตงยุติสงครามประสาทเร่งเพื่อนยิกๆ พี่ตี๋ปีสามหล่อขาวตี๋สมชื่อ เป็นบุญแม่นางแท้มานั่งฟินกับหนุ่มๆระยะประชิด ดูจากสายตาอีกไม่นานอิฟางโดนฟันแน่ สาธุ! ปากกูดีจริง อิฟางได้ผัวสิ่งแวดล้อมแน่มึง
"อย่าให้เจอข้างนอกนะมึง" ฟางพึมพำจ้องหน้าคู่อริเขม็ง บรรยากาศบนโต๊ะกลับมาเป็นปกติ พี่ดินน่ารักเป็นเจ้ามือเลี้ยงเราทุกคน พี่ผมครับพี่ผม ไอ้ข้าวคนนี้ก็ยิ้มแก้มปริมีพี่รหัสดี
"พี่ดินที่จัดค่ายอาสาปลูกป่าใช่ไหมคะ ครั้งที่แล้วแตงลงทะเบียนไม่ทัน แย่จัง" ดินยิ้มอ่อนตอบ
"งั้นจดชื่อกับสาขาไว้นะ ครั้งหน้าพี่จะได้ลงชื่อไว้ให้ก่อน" ผมมองหน้าไอ้เต้ยเมื่อคิดอะไรออก
"ลงชื่อแล้วต้องไปด้วยนะครับ อย่าเหมือนไอ้สองตัวที่ลงไว้แต่เสือกไม่ไป" กูว่าแล้ว
"พี่ตี๋อ่า เต้ยผิดไปแล้วครับ" เต้ยมันจับแขนพี่ตี๋หน้าถูไถอ้อน ผมยิ้มแหยให้ แม่ง ต่อหน้าไอ้หล่อเลย
"ปลูกป่ากูไปเองก็ได้" ฟางเหยียดปากมองหน้าตี๋ ผมเหนื่อยใจไม่คิดจะห้ามแล้วแม่ง
"ไปป่าไหนล่ะ ถ้าป่าส่วนตัว กูก็พร้อมให้มึงเข้ามาอม เอ๊ย สำรวจนะ" ตี๋พูดขำๆ
เชี้ยยยยยยยย
แม่งฮากันทั้งโต๊ะ พี่ตี๋แม่งเด็ดพูดแต่ละคำทำฟางหน้าแดงหัวฟัดหัวเหวี่ยงกระแทกจานข้าวก่อนเดินไปเก็บ ไอ้หล่อมันขำส่งนิ้วให้ผม แม่งคงคิดว่าพี่ตี๋เจ๋งดี
"ถ้าพวกมึงจะอยู่ต่อก็เชิญ แต่กูจะกลับ! รำคาญหมาเห่าหอน" ฟางยืนเท้าสะเอวพูด
"อ้าวอินี่ ทีกูจะกลับเสือกอยู่ต่อ พอกูกำลังฟินจะกลับเสียได้" แตงบ่น
"ออมกลับด้วย แล้วเพ ติ้ว แตงว่าไง" ผมชะงักเมื่อได้ยินเสียงออม คือมัวแต่เฮฮาไม่ได้มองอีกคนที่นั่งติดกับไอ้หล่อ ตกลงมึงเป็นอะไรกัน กูเคืองมาก!!
"กลับพร้อมกันหมดนี่แหละ มีเรียนต่อนะครับอย่าลืม แยกย้ายๆ" ติ้วสรุปเดินนำไปขึ้นรถคนแรก ตามมาด้วยแตงกับออม ฟางไม่ต้องพูดถึง แม่งขับรถไปนานแล้วครับ ไอ้หล่อมองผมก่อนจะยักคิ้วกวนตีนเดินไป
"เต้ย มึงกลับเลยป่ะ" ผมถามเต้ยเมื่อพวกไอ้หล่อกลับไปหมดแล้ว พี่ตี๋พี่ดินก็กลับไปนอนต่อ เห็นว่าคืนนี้จัดหนักกะเมาทั้งคืน
"ยังว่ะ ว่าจะแวะไปหาเพื่อนหน่อย"
"มึงมีเพื่อนคนไหนอีกนอกจากพวกกู หืมมม" ผมหรี่ตายื่นหน้าเข้าไปใกล้เต้ย เดี๋ยวนี้มันมีพิรุธครับ
"เออ! กูเพิ่งนึกออก วันนี้เรานัดกันทำรายงานกันที่ห้องสมุดนี่หว่า ไอ้ลมกับไอ้บาสรอนานแล้วมั้ง" เต้ยโพลงขึ้น ผมเบิกตากว้างเพิ่งนึกออก เรารีบแจ้นไปห้องสมุดเจอบ่นมายกใหญ่
………………………………………………..
ตุบ
เต้ยก้มลงเก็บหนังสือที่ตกจากชั้นหมายจะเก็บที่เดิม แต่ชั้นที่หล่นลงมาอยู่สูงกว่าตัวเพียงแค่อีกเอื้อมมือนึง เขย่งแล้วเขย่งอีกก็ยังไม่ถึง
“ความพยายามสูงนะครับ” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นเหนือหัว แซมหยิบหนังสือจากมือเต้ยมาถือไว้ก่อนสอดกลับที่เดิม เต้ยหันหน้ามาเจออกแกร่งที่อยู่ระดับสายตา กลิ่นตัวหอมฉุยลอยเข้ามาให้สูดดมเต็มปอด แซมดุนลิ้นก้มลงมองเต้ย
“มะ มึงมาได้ไง”
“พี่อยู่ในนี้นานแล้วครับ เต้ยนั่นแหละเข้ามาทำอะไร”
“ถามบ้าๆ กูก็เข้ามาหาหนังสืออ่านสิวะ หลบๆ” เต้ยดันอกแกร่งออก แซมหลีกทางให้เดินตามเต้ยเงียบๆจนถึงโต๊ะ
“อ้าว พี่แซม” ผมทักพี่แซมมองหน้าไอ้เต้ยที่เหวอและมองไปด้านหลังตัวเอง มันพูดอะไรกับพี่แซมเสียงเบามาก ขนาดผมอยู่ใกล้ยังไม่ได้ยิน
/มึงตามกูมาทำไมวะ/
/พี่ไม่ได้ตามครับ ขามันเดินมาเอง/
/อย่ากวนตีนกู มึงกลับไปเลยนะ/
/พี่พอใจจะอยู่ตรงนี้นี่ครับ/
/แต่กูไม่พอใจ มึงรีบไปไกลๆเลย ต้นข้าวมันยิ่งสงสัยอยู่/
/เป็นอะไรล่ะครับ ก็บอกไปว่าเราเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เอ๊ะ หรือจะบอกว่าพี่จีบเราอยู่ก็ได้นะ/
/มึงกวนตีนกู เออแม่ง อย่าวุ่นวายกับกูแล้วกัน/
เต้ยหัวเสียเดินไปนั่งใกล้บาส ลมส่ายหัวเมื่องานยังไม่คืบหน้าเท่าไหร่ยังมามีเรื่องให้ปวดหัวอีก ผมเขยิบให้พี่แซมนั่งข้างๆ พี่แซมช่วยเราหาข้อมูลจนเสร็จ แต่ผมสงสัยอย่าง ทำไมไอ้เต้ยมันต้องจ้องผมเขม็งด้วยวะ
“เป็นอะไรไอ้เต้ย” บาสถามขึ้น
“กูเปล่า”
“กูเห็นมึงยุกยิกๆ แล้วนั่น มึงอ่านหนังสือยังไงกลับหัว ฮ่าๆๆ”
“กูกำลังฝึกอ่านแบบใหม่ไง หัวเราะอะไรมะ...พี่แซม” แซมหึในลำคออมยิ้มให้ ผมว่าคู่นี้มันแปลกๆ
“พี่แซมไปทานข้าวกับพวกเราไหมครับ” ผมชวน พี่แซมมองหน้าเต้ย ผมก็มองตาม เต้ยมันหันหน้าหนี
“ครับ พี่ยังไงก็ได้”
“งั้นมื้อนี้ข้าวเลี้ยงเอง ไปกันเถอะ ป่ะเต้ย” ผมลุกขึ้น เต้ยมันเดินมาคล้องแขนผมลากไปที่รถ ลมกับบาสไปรถพี่แซม
เมื่อถึงร้านอาหารผมก็เดินไปจองโต๊ะ หยิบปากกากระดาษมาถือไว้ ผมจดอาหารที่จะสั่งลงไปพลางถามคนอื่นๆว่าจะเอาอะไร เต้ยเดินไปหยิบแก้วน้ำมาวาง พี่แซมหอบขวดน้ำมาสามขวดใหญ่ มื้อนี้ผมก็อดเลี้ยงตามเคย พี่แซมเหมาจ่ายทั้งหมด ไอ้เต้ยก็เหมือนจะแกล้ง มันเล่นสั่งไปแจกเด็กๆข้างห้องด้วย
“ขอบคุณครับ ขับรถกลับดีๆนะพี่” พวกผมยกมือขอบคุณยกเว้นไอ้เต้ย ผมสะกิดมัน มันก็ไหว้ส่งๆ
“ถามจริง มึงไม่ชอบพี่แซมเหรอวะ” ผมถามขึ้นสวมหมวกกันน็อคที่มันยื่นให้
“มันชอบกวนตีน”
“หืมมม มึงรู้จักพี่แซมมาก่อน?” เต้ยมันยกมือแตะปาก ผมหรี่ตามึงหลุดปากแล้วเต้ย
“ก็เออ ลูกพี่ลูกน้องกูเอง จบๆ ถามมากกูปล่อยเกาะไม่ไปส่งนะต้นข้าว”
“โมโหกลบเกลื่อนอะไรวะเต้ย หน้าแดงนะมึง” ผมแซว ไอ้เต้ยยกมือกุมแก้ม ผมหยิกแก้มมันเล่น
“กูล้อเล่น ฮ่าๆๆๆๆ โอ๊ย ขอโทษครับเพื่อนเต้ย” เอะอะตบหัวกูตลอด สงสัยเรื่องนี้เพื่อนเต้ยมีแววจะได้พี่แซมว่ะ สนับสนุนครับเพื่อน
…………………………………………………………….
@บ้านสวรรยา
กลับมาถึงบ้านไอ้หล่อก็ตีหน้าบึ้งเข้ามาหา วันนี้ผมกลับเย็นเพราะมีเรื่องงานกลุ่มเข้ามาเกี่ยวอยู่เรื่อยหน้ามันมู่ทู่ปากยื่นงอนมาแต่ไกล ขนาดป๋ามันนั่งหัวโด่อยู่ยังจะอ้อนผมต่อหน้าป๋ามันอีก
"ป๋าบอกเมียจะย้ายไปอยู่ติดกับห้องเฮียเพลง กูไม่ยอมนะเมีย" มือหนามาดึงผมให้ไปนั่งทับตักมันที่โซฟา ผมโคตรอายสายตาป๋ากับแม่บ้านที่มองมาเลย จับมือที่ล็อคเอวอยู่ออกแต่แม่งก็ไม่ยอมท่าเดียว
"หล่อ กูอายเขา"
"คนกันเองไม่ต้องอาย เมียอ่า ไม่เอาไม่แยกห้องนอนนะ นะครับ" สองมือกอดผมแน่นซบหน้าหล่อกับแผ่นหลังบางที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ
"อะแฮ่ม เจ้าเพ แค่แยกห้องนอนกับเมียคงไม่ถึงกับตายหรอกมั้ง" ป๋าแซวมองผมกับไอ้หล่อผ่านแว่น
"ตายดิป๋า ไม่เอาเพไม่ยอม ไม่ได้กอดต้นข้าวเพนอนไม่หลับ"
"ลูกแหง่ติดเมีย"
"ยอมรับ แล้วยังไง ป๋าอย่าแยกผัวแยกเมียเขาดิ" ผมว่ามันเริ่มง้องแง้งอีกแล้วนะ พอเริ่มเป็นแบบนี้คนลำบากก็ต้องอยู่ที่ไอ้ต้นข้าวไง
เวลาไอ้หล่อมันอ้อน ใครล่ะจะไม่ใจอ่อน
"ถ้าอยากได้เมียคืนก็ทำให้ป๋าดูสิ เกรดเทอมนี้ต้องเพิ่มขึ้นจนถึงสาม ถ้าเพทำไม่ได้ป๋าจะให้ต้นข้าวไปอยู่บ้าน...และความสัมพันธ์ของแกกับเขาก็จะหยุดลง” ข้อต่อรองที่ถูกยื่นให้มันไม่ได้ยาก แต่คนเรียนเล่นๆอย่างเพทายมันถือว่ายากมาก
ไอ้หล่อกำลังเครียด คิ้วมันผูกกันเป็นโบว์และจังหวะการหายใจของมันแผ่วลง ผมไม่อายที่จะกอดมันไว้แน่นพร้อมตบหลังกระซิบให้กำลังใจ
"กูเชื่อว่ามึงทำได้นะหล่อ คนเก่งของต้นข้าวต้องสู้ดิวะ"
"กูกลัว" เสียงมันสั่นเครือ ผมผละออกลุกขึ้นยืน จับมือมันกุมไว้ขอตัวพากันขึ้นไปคุยบนห้อง
เราเข้ามาในห้องกดล็อคและโผเข้าหากันอย่างที่ใจต้องการ มันดูเป็นเรื่องไม่น่ากังวลแต่ถ้ามันพลาดนั่นหมายถึงความรักของเราต้องจบลง ป๋าพูดจริงและทำจริง เพทายรู้เรื่องนี้ดี
"เทอมที่แล้วมึงได้เกรดเท่าไหร่" ผมถามออกไป
"สองจุดหนึ่ง มันอีกตั้งเยอะกว่าจะถึงสาม อีกแค่...สองเดือน" คำตอบที่ได้กลับมาแผ่วเบา
"อืม งั้นนับตั้งแต่ตอนนี้มึงจะเล่นไม่ได้แล้ว ไหนเอาตารางสอนมึงมา"
"อย่าเพิ่ง...กูขอกอดมึงก่อนได้ไหมวะ" ไอ้หล่อจ้องตาผมแบบมีความหวัง เราสบตากันเนิ่นนาน ผมเป็นฝ่ายทนใจแข็งไม่ไหวดึงมันเข้ามากอดแนบไว้ทั้งตัว
หลายนาทีที่ลมหายใจของผมและมันรินรดกัน เสียงจังหวะการเต้นของหัวใจกระทบอีกฝ่ายจนรู้สึกได้ไอ้หล่อกำลังอ่อนแอ และผมต้องอยู่เคียงข้างมัน
"กูไม่สัญญาว่าต้องทำได้ แต่ผู้ชายคนนี้จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อ ความรักของเรา" น้ำเสียงอ่อนนุ่มกับสัมผัสจากมือใหญ่ที่กำลังลูบหัวผม มันช่างอบอุ่นและปลอดภัย
"เพ...กูรออยู่นะ...กูจะรอวันที่เราจะได้รักกันแบบไม่มีข้อแม้ใดๆ"
"ถ้าหัวใจกูยังเต้นอยู่ กูสัญญาว่าต่อให้มึงจะรักกูหรือไม่ แต่กู...รักมึงนะต้นข้าว นอกจากป๋าและเฮียก็มีมึงที่กูพูดได้เต็มปากว่ารัก ไม่...รวมทั้ง...แม่...อืม ช่างมันเถอะ" ผมได้ยินเสียงหัวใจมันกำลังเศร้าเมื่อเอ่ยถึงแม่ ตั้งแต่คบกันมาผมไม่เคยเห็นแม่มันเลยแฮะ
"ไอ้หล่อ..."
"หืม ว่าไงครับ"
"กูเมื่อย ไอ้สัส! ไอ้โรแมนติกมันก็มีนะ แต่มายืนกอดกันนานๆมันไม่ใช่ว่ะหล่อ" ผมยิ้มโวยวายใส่ไอ้หล่อตบหัวผมที่ขัดอารมณ์รักใคร่ของมัน
"มึงแม่ง เชี้ย กูหลงชอบมึงไปได้ไงวะ" บ่นกูแล้วเสือกยิ้มทำไม แต่มึงหล่อกูให้อภัย
"เหตุผลง่ายๆเลยนะ กูหล่อและน่ารักมาก กูทำขนมเป็นนะมึงไม่กระจอกเลย บ้านกูไม่ได้รวยมากแต่กูและพี่กูหน้าตาดีมาก ที่สำคัญกูฉลาดและมีเสน่ห์ ไม่อยากจะโม้นะตอน..." ผมกำลังจะเล่าเรื่องในวัยเด็ก มือหนาๆแสนเค็มก็มาอุดปากผมลากไปที่ห้องนั่งเล่น
ผมนั่งเอาหมอนอิงวางบนตักตบเบาๆให้มันมานอน ไอ้หล่อมันส่ายหน้าผมหน้างอขึ้นทันที แต่สิ่งที่ทำให้ผมยิ้มต่อจากนี้คือมันไปเอากีต้าร์มาจากห้องนอนและตั้งท่าดีดมันเบาๆลองเสียง
"กูไม่ได้จับกีต้าร์มานานแล้วนะเนี่ย" เพทายสูดลมหายใจเข้าลึกๆ มันตื่นเต้นมากลองเสียงซ้ำไปซ้ำมาจนเริ่มคล่องมือ
"เริ่มได้รึยังวะ กูรอจนจะหลับแล้วนะหล่อ" ผมก็พูดเว่อร์ไปนั่น เพิ่งจะทุ่มกว่าๆเท่านั้นเองครับ
"ใจเย็นครับคุณแฟน มาๆรีเควสเพลงมาได้เลยครับ" เพทายพูดขึ้นมือเปิดหนังสือเพลงที่มีตัวโน๊ตจับจังหวะ ผมเอาหมอนอิงมาแนบอกกดโทรศัพท์หาเพลงที่ชอบ
"มึงนาน...กูเลือกให้เอง...อืม...เอาเพลงนี้นะ" เสียงดีดกีต้าร์คลอเบาๆเริ่มต้น ผมเท้าแขนดูไอ้หล่อเวลานั่งทำตัวเท่ๆให้รู้สึกใจเต้น
(ในโทรศัพท์ให้กดเปิดสองทีนะจ๊ะ)
~ ฉันเคยเกือบพลาดสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต
หากในวันที่ฉันล้มอยู่ ไม่มีหนึ่งใจของเธอ
ฝันคงจบ หลายสิ่งที่ดีคงหมดทางได้เจอ
หนึ่งกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ ไม่ลืมได้เลย...
ขอบคุณที่รักกัน...
ขอบคุณทุกครั้งที่คอยกอดฉัน
ในวันที่ปัญหา ถาโถมเข้ามาใส่
จะตอบแทนความรัก ที่ฉันได้จากเธออย่างไร
ก็รู้ดีว่าไม่พอ แต่ขอทำให้ดีที่สุด
สักวันหนึ่งฉันอาจต้องล้มลงอีก ใครจะรู้
แต่ถ้าเธอไปด้วยกันอยู่ ก็ไม่หวั่นกลัวเท่าไร
เรื่องบางอย่าง ฉันอาจได้เคยพูดบอกเธอออกไป
แต่อีกมุมนึงของหัวใจ ไม่เคยพูดเลย
ขอบคุณที่รักกัน...
ขอบคุณทุกครั้งที่คอยกอดฉัน
ในวันที่ปัญหา ถาโถมเข้ามาใส่
จะตอบแทนความรัก ที่ฉันได้จากเธออย่างไร
ก็รู้ดีว่าไม่พอ แต่ขอทำให้ดีที่สุด
ขอบคุณที่รักกัน...
ขอบคุณทุกครั้งที่คอยกอดฉัน
ในวันที่ปัญหา ถาโถมเข้ามาใส่
จะตอบแทนความรัก ที่ฉันได้จากเธออย่างไร
ก็รู้ดีว่าไม่พอ แต่ขอทำให้ดีที่สุด
ขอบคุณในความรัก ที่หาไม่ได้จากที่ไหน
จะรักเธอให้มากพอ และขอทำให้ดีที่สุด ~
เพลง ขอบคุณที่รักกัน – Potato
เนิ่นนานที่เราสองคนสบตากันท่ามกลางความเงียบ เสียงคลอกีต้าร์ของมันยังบรรเลงต่อไป แต่ใจของผมมันหยุดเต้นตั้งแต่โน๊ตตัวแรกเริ่มขึ้น ไม่คิดว่ามันจะเอาเพลงนี้มามอบแทนความรู้สึกต่างๆเพื่อให้ผมรับรู้ ไม่คิดว่าคนเถื่อนๆอย่างมันจะโรแมนติกเป็นเหมือนคู่รักคนอื่น และวันนี้...
ไอ้หล่อบอกรักผมครั้งแรก ทั้งที่ผมไม่เคยบอกมันจริงๆสักครั้ง
ขอบคุณความบังเอิญที่ทำให้เราได้พบกัน...
ขอบคุณที่มันเลือกผมในคืนนั้น...
ขอบคุณที่เสียสละตัวเองเพื่อ....ความรักของเรา
ขอบคุณมึงว่ะไอ้หล่อ...ที่วันนี้มันทำให้ผมซึ้งจนน้ำตาไหล
ขอบคุณครับ....
ที่รักของต้นข้าว
"รักว่ะ...ไอ้คุณแฟนต้นข้าว ขอบคุณกูซะที่ยอมจับกีต้าร์อีกครั้ง" เพทายโยกหัวเล็กเล่นกดหน้ามันลงกับอก ต้นข้าวสะอื้นหนักพึมพำว่ารักผม ผมพร้อมที่จะเปิดใจกับมันในทุกเรื่อง รวมถึงเรื่อง...แม่
"...ฮึก...ฮือ..."
"เมื่อหลายปีก่อนแม่เข้ามาหากูในห้อง แม่เอากล่องของขวัญห่อใหญ่มาให้กู นาทีที่กูเปิดเจอกีต้าร์น้ำตากูแทบไหลกระโดดกอดแม่พร้อมวิ่งโร่ไปหยิบหนังสือเพลงมากางออก กูเล่นเพลงนี้ให้แม่กูฟัง แม่กูร้องไห้เอากูไปกอด"
"...ฮึก..."
"แม่บอกกูเป็นเด็กดีตั้งใจเรียน ตอนนั้นกูเป็นที่หนึ่งของชั้นเรียนเลยนะ กูเลยได้กีต้าร์ตัวนี้มาอย่างง่ายดาย แต่หลังจากนั้นสองวัน แม่กูก็หอบของออกจากบ้านพร้อมเงินมหาศาล ทิ้งให้พวกกูกับป๋าต้องใช้เงินที่มีอยู่สร้างบริษัทขึ้นมาเอง กูแทบบ้าและโยนของทุกอย่างที่แม่ให้ทิ้ง...ฮึก...แต่กูทิ้งไม่ลงและยังเก็บมาไว้ที่เดิม"
"...ฮึก...พอแล้ว.." ต้นข้าวกระตุกชายเสื้อห้ามเมื่อเห็นไอ้หล่อสะอื้น
"...แม่โทรมาถามว่ากูสบายดีไหม กูจะตอบเขาไปยังไงนอกจากผมสบายดี มึงว่าไหม แม่กูโคตรใจร้ายเลย...ฮึก...กูเลยไม่อยากเก่ง ไม่อยากจะรักใครสักคน กูกลัวเจ็บซ้ำสอง...มึงจะรักกูใช่ไหมต้นข้าว จะไม่ทิ้งกูไปไหนใช่ไหม...เพราะถ้ามึงยังทิ้งกูไปอีก กูคงไม่มีแรงจะหายใจต่ออีกแล้วว่ะ"
"ฮึก กูสัญญา ว่ากูจะรักมึงและอยู่ข้างเคียงข้างมึงไปตลอด"
ห้องที่เคยว่างเปล่ามันดูมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ชายสองคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน ไม่เคยเจอกัน กลับมา
โคจรพบกันได้เพราะความบังเอิญ คนในโลกอาจจะมีเป็นล้าน แต่ยากจะหาคนใจตรงกันได้สักครั้ง
ในเมื่อผมมีรักอยู่ในมือ ผมก็จะรักษารักนี้ไว้ให้นานเท่าลมหายใจที่มี
TBC.
TBC. (ในโทรศัพท์ให้กดเปิดสองทีนะจ๊ะ)
~ ฉันเคยเกือบพลาดสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต
หากในวันที่ฉันล้มอยู่ ไม่มีหนึ่งใจของเธอ
ฝันคงจบ หลายสิ่งที่ดีคงหมดทางได้เจอ
หนึ่งกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ ไม่ลืมได้เลย...
ขอบคุณที่รักกัน...
ขอบคุณทุกครั้งที่คอยกอดฉัน
ในวันที่ปัญหา ถาโถมเข้ามาใส่
จะตอบแทนความรัก ที่ฉันได้จากเธออย่างไร
ก็รู้ดีว่าไม่พอ แต่ขอทำให้ดีที่สุด
สักวันหนึ่งฉันอาจต้องล้มลงอีก ใครจะรู้
แต่ถ้าเธอไปด้วยกันอยู่ ก็ไม่หวั่นกลัวเท่าไร
เรื่องบางอย่าง ฉันอาจได้เคยพูดบอกเธอออกไป
แต่อีกมุมนึงของหัวใจ ไม่เคยพูดเลย
ขอบคุณที่รักกัน...
ขอบคุณทุกครั้งที่คอยกอดฉัน
ในวันที่ปัญหา ถาโถมเข้ามาใส่
จะตอบแทนความรัก ที่ฉันได้จากเธออย่างไร
ก็รู้ดีว่าไม่พอ แต่ขอทำให้ดีที่สุด
ขอบคุณที่รักกัน...
ขอบคุณทุกครั้งที่คอยกอดฉัน
ในวันที่ปัญหา ถาโถมเข้ามาใส่
จะตอบแทนความรัก ที่ฉันได้จากเธออย่างไร
ก็รู้ดีว่าไม่พอ แต่ขอทำให้ดีที่สุด
ขอบคุณในความรัก ที่หาไม่ได้จากที่ไหน
จะรักเธอให้มากพอ และขอทำให้ดีที่สุด ~
เพลง ขอบคุณที่รักกัน – Potato
เนิ่นนานที่เราสองคนสบตากันท่ามกลางความเงียบ เสียงคลอกีต้าร์ของมันยังบรรเลงต่อไป แต่ใจของผมมันหยุดเต้นตั้งแต่โน๊ตตัวแรกเริ่มขึ้น ไม่คิดว่ามันจะเอาเพลงนี้มามอบแทนความรู้สึกต่างๆเพื่อให้ผมรับรู้ ไม่คิดว่าคนเถื่อนๆอย่างมันจะโรแมนติกเป็นเหมือนคู่รักคนอื่น และวันนี้...
ไอ้หล่อบอกรักผมครั้งแรก ทั้งที่ผมไม่เคยบอกมันจริงๆสักครั้ง
ขอบคุณความบังเอิญที่ทำให้เราได้พบกัน...
ขอบคุณที่มันเลือกผมในคืนนั้น...
ขอบคุณที่เสียสละตัวเองเพื่อ....ความรักของเรา
ขอบคุณมึงว่ะไอ้หล่อ...ที่วันนี้มันทำให้ผมซึ้งจนน้ำตาไหล
ขอบคุณครับ....
ที่รักของต้นข้าว
"รักว่ะ...ไอ้คุณแฟนต้นข้าว ขอบคุณกูซะที่ยอมจับกีต้าร์อีกครั้ง" เพทายโยกหัวเล็กเล่นกดหน้ามันลงกับอก ต้นข้าวสะอื้นหนักพึมพำว่ารักผม ผมพร้อมที่จะเปิดใจกับมันในทุกเรื่อง รวมถึงเรื่อง...แม่
"...ฮึก...ฮือ..."
"เมื่อหลายปีก่อนแม่เข้ามาหากูในห้อง แม่เอากล่องของขวัญห่อใหญ่มาให้กู นาทีที่กูเปิดเจอกีต้าร์น้ำตากูแทบไหลกระโดดกอดแม่พร้อมวิ่งโร่ไปหยิบหนังสือเพลงมากางออก กูเล่นเพลงนี้ให้แม่กูฟัง แม่กูร้องไห้เอากูไปกอด"
"...ฮึก..."
"แม่บอกกูเป็นเด็กดีตั้งใจเรียน ตอนนั้นกูเป็นที่หนึ่งของชั้นเรียนเลยนะ กูเลยได้กีต้าร์ตัวนี้มาอย่างง่ายดาย แต่หลังจากนั้นสองวัน แม่กูก็หอบของออกจากบ้านพร้อมเงินมหาศาล ทิ้งให้พวกกูกับป๋าต้องใช้เงินที่มีอยู่สร้างบริษัทขึ้นมาเอง กูแทบบ้าและโยนของทุกอย่างที่แม่ให้ทิ้ง...ฮึก...แต่กูทิ้งไม่ลงและยังเก็บมาไว้ที่เดิม"
"...ฮึก...พอแล้ว.." ต้นข้าวกระตุกชายเสื้อห้ามเมื่อเห็นไอ้หล่อสะอื้น
"...แม่โทรมาถามว่ากูสบายดีไหม กูจะตอบเขาไปยังไงนอกจากผมสบายดี มึงว่าไหม แม่กูโคตรใจร้ายเลย...ฮึก...กูเลยไม่อยากเก่ง ไม่อยากจะรักใครสักคน กูกลัวเจ็บซ้ำสอง...มึงจะรักกูใช่ไหมต้นข้าว จะไม่ทิ้งกูไปไหนใช่ไหม...เพราะถ้ามึงยังทิ้งกูไปอีก กูคงไม่มีแรงจะหายใจต่ออีกแล้วว่ะ"
"ฮึก กูสัญญา ว่ากูจะรักมึงและอยู่ข้างเคียงข้างมึงไปตลอด"
ห้องที่เคยว่างเปล่ามันดูมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ชายสองคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน ไม่เคยเจอกัน กลับมา
โคจรพบกันได้เพราะความบังเอิญ คนในโลกอาจจะมีเป็นล้าน แต่ยากจะหาคนใจตรงกันได้สักครั้ง
ในเมื่อผมมีรักอยู่ในมือ ผมก็จะรักษารักนี้ไว้ให้นานเท่าลมหายใจที่มี
TBC.
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ