แรดชิบหาย เมียอย่างมึง!
5.5
เขียนโดย LemonNest
วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.06 น.
42 chapter
66 วิจารณ์
54.36K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 21.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) ตอนที่ 11
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 11
เต้ย
ผมเดินเตร็ดเตร่ไปตามท้องถนนสภาพสะบักสะบอมปากแตกคิ้วแตก เศษเสี้ยนที่ตำอยู่ตามตัวมันทิ่มเข้าไปในร่างกายแสบระบม รถที่จอดอยู่ห่างออกไปเขาเคยคิดว่ามันใกล้แต่ตอนนี้แสนจะไกล ครั้นต้องลากสังขารตัวเองไปให้ถึงอีก
ถึงจะพยายามตัดใจ แต่มันก็ทำไม่ได้ทุกที
"เฮ้ยพี่ ไปโรงพยาบาลไหมครับ" เสียงเด็กวัยรุ่นที่เดินผ่านหยุดมองผม มาช่วยพยุงร่างที่กำลังจะล้ม
"ขอบคุณครับ ช่วยพาผมไปส่งที่รถก็พอ"
ผมมาถึงรถยนต์ที่โชคดีวันนี้เอาเจ้านี่มาแทนเวสป้า เอ่ยขอบคุณคนที่ช่วยก่อนจะสอดตัวเข้าไปนั่งที่คนขับ ล้วงโทรศัพท์ออกมาสำรวจ หน้าจอแตกเป็นเสี่ยงดีที่ยังอยู่ครบทั้งแบตทั้งเครื่อง
"เมาเป็นหมา ไปฟัดกับใครมาวะ" เสียงคู่อริที่ถัดออกไปสองห้องเอ่ยขึ้น ผมไขกุญแจค้างเอาไว้มองหน้ามันไม่มีกลัว
"เสือก" เหยียดปากเยาะผลักประตูเข้าห้องทิ้งตัวลงนอนปิดเปลือกตาลง เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น
ก๊อกๆๆ
มันคงไม่ได้มาหาเรื่องถึงห้องนะ
มือทุบหัวตัวเองที่ปวดหนึบเดินเซไปส่องตาแมวดู มันจะมาทำไม! ไม่ใช่คู่อริที่ทะเลาะกันประจำแต่เป็นอีกคนที่เพิ่งเจอกันไม่กี่นาทีนี้
แกร๊ก
"แม่ให้พี่เอา...เต้ย! ไปทำอะไรมาครับ" แซมมันถือวิสาสะผลักผมเข้าไปด้านในมือกดล็อคประตูให้ทำไมมีแต่คนชอบยุ่งเรื่องคนอื่นวะ
"โอ๊ยยย แตะทำไม กูเจ็บ" ปากโวยวายหันหน้าหนีมือร้อน จิ้มมาได้แผลใหม่ๆมันแสบไม่รู้หรือไง ไม่น่าเรียนหมอให้เสียเงินเล่น
"เมื่อกี้ยังไม่มีแผล แล้วไปตีกับใครมาอีก" เสียงเข้มเอ่ยดุ
"เรื่องของกู ป้าซินฝากอะไรมาให้กู" ปากว่ามือก็หยิบสิ่งของในถุงออกมาดู เสื้อยืดสกินลายหมีพูห์แบบที่อยากได้เลย แซมคว้าเสื้อยัดใส่ถุงวางให้ห่างออกไป
"บอกพี่มาก่อนว่าทำไมถึงได้แผล" คำถามเซ้าซี้ทำหนุ่มในร้อนแสดงสีหน้าหงุดหงิดออกมา จะรู้ตัวไหมว่ากำลังทำตัวเหมือนผู้ใหญ่ดุเด็ก
"ไปฟัดกับผัวต้นข้าวมา หิวว่ะไปทำอะไรให้กินหน่อย" ผมตอบยกมือลูบท้องที่ส่งเสียงร้องได้สักพักผู้ใหญ่ที่ว่าตีหน้าหน่ายยีผมที่ฟูฟ่องให้เสียทรงยิ่งกว่าเดิม
"อืม ไปรอที่โต๊ะ"
"ไม่ จะกินที่นี่ขี้เกียจเดิน"
"งั้นให้พี่อุ้ม?" แซมลุกขึ้นยืนถลกแขนเสื้อขึ้นท่าจะเอาจริง ผมหน้าเหวอยกมือปัดปฎิเสธเสียงเขียว
ร่างกายไม่พร้อมใช้งานเดินกระเผลกจากโซฟาห้องนั่งเล่นไปห้องครัวที่ติดกับประตูทางเข้า แซมช่วยจับแขนแต่โดนสะบัดออก ผมแยกเขี้ยวใส่คนหวังดีชี้นิ้วไปที่เคาน์เตอร์เตือนกลายๆว่าให้รีบทำก่อนจะหิวไปมากกว่านี้
พ่อครัวจำเป็นหยิบผ้ากันเปื้อนลายหมีพูห์มาสวมคอเอื้อมมือไปผูกเชือกด้านหลัง ผมหน้าม้าปรกลงมาได้แต่เสยผมลวกๆเตรียมวัตถุดิบทำอาหาร ผมนั่งมองรู้สึกรำคาญผมที่หล่นลงมาเสียนี่กระไร รกหูรกตาเดินไปที่ตู้เย็นหยิบหนังยางหลากสีที่วางเกลื่อนข้างบนมาถือไว้
"หยุดทำแล้วหันหน้ามานี่ดิ้" เสียงทุ้มสั่ง แซมวางมือจากการทำหันมามองขมวดคิ้วไม่เข้าใจ
ผมแบมือหยิบหนังยางในมือมาคล้องนิ้วโบกมือให้ก้มหัวหัวลง ไม่ใช่ว่าเขาตัวเล็กแต่อีกคนกลับสูงเกินชาวบ้านเขามากกว่า ผมหน้าม้าถูกรวบขึ้นเป็นจุก ผมคล้องหนังยางลงไปมัดสองสามทบให้มั่นใจว่าแน่นพอไม่ได้พูดจาต่อหันตัวกลับไปนั่งรอที่โต๊ะ
แซมยื่นนิ่งอมยิ้มจับกลุ่มผมที่ถูกมัดเป็นปมเล็ก ไอ้เด็กนี่มันมีมุมน่ารักกับเขาด้วยหรือ ด้วยความเป็นลูกพี่ลูกน้องกันมานานก็อดจะคิดไม่ได้ นึกว่าปากดีเป็นอย่างเดียว
"เสร็จรึยังวะ!" เสียงเร่งดังขึ้นทนความแสบท้องไม่ไหว
"อีกห้านาทีครับ ใครใช้ให้ไม่กินอะไรรองท้องล่ะ" แค่พูดก็พอไม่ต้องบ่น ผมหยิบผักต้มที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมาเคี้ยวเล่น มันต้องจงใจแกล้งกูแน่เลย ผมรู้ว่าแซมชอบกินน้ำพริกกับผักมาแต่ไหนแต่ไร ไปบ้านมันทีไรก็ต้องมีเมนูนี้ตั้งโต๊ะ ป้าซินแม่ของแซมก็เอ่ยปากชมบ่อยๆว่าลูกชายน่าจะไปเรียนทำอาหารมากกว่าหมอ
ทั้งเรียนเก่งและทำอาหารเป็นอะไรมันดีขนาดนี้ ได้ทั้งอาหารไทยและนอกอีกนะพ่อคุณ
ที่ว่าจีบ มันคิดจริงหรือเล่นวะ
"ไหนไข่เจียวหมูสับกู" ผมมองอาหารบนโต๊ะ แซมหยิบช้อนส้อมขึ้นมาเตรียมพร้อม
"ก็เต้ยไม่ได้สั่งพี่" แซมตอบตามตรง ผมมองค้อนหยิบช้อนมาตักแกงจืดใส่จาน มันก็น่าจะรู้ว่าเขาชอบเรื่องแค่นี้ลืม เหอะ
อย่างว่า กูไม่ใช่คนสำคัญมึงจะมาจำทำไม
"งั้นพี่ไปทำให้" แซมรู้สึกผิดเลื่อนเก้าอี้ออกลุกขึ้นยืน ผมส่ายหัวลงมือทานไม่หยุดปาก
"ไม่ต้อง อย่าเรื่องมาก แค่นี้กูไม่ใส่ใจ"
"แต่เต้ยจะกิน" มึงจะเถียงให้ได้อะไร แซมนั่งลงมองหน้าผม
"กูไม่อยากกินแล้ว มึงทำมาก็แดกๆให้หมดด้วย จานกองเอาไว้กูลุกขึ้นมาล้างเอง" ทั้งคู่ลงมือจัดการอาหารตรงหน้า ผมเดินเข้าห้องไปหายามากิน แซมรวมจานยกมาไว้ในซิงค์ก่อนจะล้างจนสะอาด
"กูบอกว่ากูล้างเอง" ผมยืนท้าวประตูมองแซมสายตาดุ จานใบสุดท้ายถูกวางลงกับที่ แซมเช็ดมือให้แห้งเดินออกมาหาผมที่ยืนอยู่
"หลบครับ อย่าขวางทางคนจะเดิน"
"มึงแม่ง!" ผมหลบทางให้ แซมเปิดโทรทัศน์ทิ้งตัวลงพาดแขนไปกับพนักโซฟา
"เมื่อไหร่จะกลับ" ผมทรุดตัวลงนั่งข้างๆ เห็นหมอนอิงลายมินนี่ที่ต้นข้าวซื้อให้ถูกพิงทับอยู่ มือนิ่มดึงมันออกมา แซมมองหมอนข้างหลังเอนตัวมาข้างหน้าให้ผมดึงสะดวก
"แบนเลยนะมึง" ตบหมอนเบาๆให้เป็นทรงเดิม แซมยิ้มมุมปากเอนตัวลงนอนทับหมอนที่อยู่บนตักผม สบตากับคนที่หนุนนอน
"พี่จีบเต้ยอยู่นะ ถ้าไม่ยอมจะให้แม่มาขอ"
"ส้นตีน! เอาหัวออกไปด้วยกูหนัก"
"ต้นข้าวพี่ก็ชอบ แต่เต้ยพี่ว่าน่า...รักดี" คำพูดหวานๆกับสายตาสื่อชัดเจนว่ากำลังจีบทำผมผลักหัวแซมออกไปแรงๆ แซมเกือบหล่นมือคว้าเอวผมเอาไว้ยึดติดแน่น
"จั๊กจี้ไอ้สัส เอามือออกจากเอวกู!"
"กำลังสบายขอนอนอีกหน่อยนะครับ" ผมเสยผมใบหน้าหงุดหงิด น่ารักตายห่าผู้ชายตัวโตสองคนมานอนหนุนตักกัน เสียงโทรทัศน์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ
ผมจับแขนแข็งแรงเขย่าปลุกให้ตื่น แค่สิบนาทีตะคริวจะแดกขากูแล้วไอ้ห่า ใบหน้าแซมผละออกจากหน้าท้องผมหงายลงนอนหนุนหมอนดีๆ ผมมองใบหน้าที่ทั้งดุทั้งหล่อน่ารักในคราวเดียวกัน หน้าอย่างงี้จะมาจีบกู มือผมไล้จมูกโด่งเบาๆบีบดึงเล่นจนคนโดนกระทำต้องปัดออกอย่างรำคาญ
มันหลับจริงเเฮะ
……………………………………………………
ต้นข้าว
เพทายนั่งกุมแก้มที่ช้ำนั่งประคบน้ำแข็งมองหน้าคนทำที่นั่งดูโทรทัศน์ไม่คิดจะสนใจกัน ต้นข้าวหัวเราะเสียงดังเมื่อรายการที่ดูอยู่มันตลกสิ้นดี
Rrrrrr
"ครับพี่เต...วันนี้มีเรื่องนิดหน่อย...ครับ...พรุ่งนี้เจอกันพี่ ฝากจุ๊บพี่พิมด้วย ฮ่าๆๆ...ครับ ฝันดีครับ"
"ใคร?!"
"ยังไม่เข็ด? อยากเจออีกไหม" ผมชี้หน้าขู่ฝ่อยกเท้ากระดิก ไอ้หล่อหงอลง
"เออ ก็บอกมาดิว่าใคร"
"พี่เตชินเจ้าของร้านที่กูทำงานไง พี่พิมก็แฟนเขาคนสวยๆที่เป็นแคชเชียร์นั่นแหละ" ถ้าผมไม่ตอบมันก็จะเซ้าซี้ถามไม่เลิก
"อืม"
ผมเหลือบไปมองไอ้หล่อที่ก้มหน้ามองพื้นมือก็ประคบไปตามร่างกายที่ช้ำ มันเป็นอะไรวะ ผมยันตัวขึ้นกำลังลุกแต่นึกถึงคำพูดพี่ต้นน้ำจึงนั่งลงตามเดิม
"ต้นข้าว...กูขอโทษ" เสียวแผ่วเอ่ยขึ้น ผมนิ่งกระพริบตาปริบๆยากที่ไม่ใจอ่อน แต่ถ้ายอมเดี๋ยวมันก็เคยตัว
"อืม" มีแค่เสียงอืออึงที่ตอบกลับ
"เพื่อนมึงคนนั้น มันคิดกับมึงแค่เพื่อนจริงใช่ไหมวะ" เพทายถามออกไป แววตาที่ปกป้องต้นข้าวเขาเห็นมันเต็มสองตา ถ้าแค่เพื่อนทำไมสายตามันเหมือนที่เขามองต้นข้าวไม่มีผิด
"เต้ยอะนะ เพื่อนก็เพื่อนมึงจะคิดอะไรเยอะแยะ"
"ก็ดีแล้ว กูจะได้ไม่ต้องห่วง" เสียงไอ้หล่อเงียบไป ผมหันไปมองเห็นมันเอนหลังนอนหลับบนเตียงผมปิดโทรทัศน์เดินออกไปนอกระเบียงมองทิวทัศน์ตอนกลางคืนที่ต่างกับที่บ้าน
ต้นทานตะวันกับเยอบีร่าถูกวางไว้ข้างกัน ผมยิ้มจับดอกเยอบีร่าลูบมันเบาๆ แรงกอดจากด้านหลังมาพร้อมกลิ่นตัวที่คุ้นเคย ผมไม่ได้ดิ้นจับมือมันมากุมไว้ข้างหน้า
"เรื่องพี่มึงกูจะพยายามทำให้เขายอมรับให้ได้ ส่วนเรื่องป๋ากูก็จะพยายามทำทุกอย่างให้ป๋ายอมรับมึงแต่กูขออย่างเดียว ไม่ว่ากูจะเลวยังไงอย่าทิ้งกูไป" แรงกอดแน่นขึ้น ไอ้หล่อซบหน้าลงกับท้ายทอยขาว
"กูไม่เคยทิ้งมึงไปไหนเพทาย"
"ขอบคุณ" สัมผัสแผ่วเบาจากปากมันที่ท้ายทอยทำผมขนลุกซู่ เพราะทุกครั้งที่มันพูดจามีสาระมันมักจะมาพร้อมความหื่นที่เพิ่มขึ้น
แม่งคงไม่คิดจะเอาผมที่ระเบียงใช่ไหม!
……………………………………………………………..
เหมือนผมจะคิดมากไป เมื่อคืนเรานอนกอดกันปกติ ตื่นเช้ามาไอ้เต้ยมันรับผมหน้าบ้านเพทาย หน้าตามันบวมช้ำหมดหล่อพอๆกับไอ้คนข้างๆที่จ้องไอ้เต้ยเขม็ง ไอ้หล่อแต่งชุดนักศึกษาเรียบร้อย วันนี้คุณชายว่าจะตั้งใจเรียนให้ได้เกรดดีๆป๋าจะได้ยอมรับ ผมจะคอยดู
"ถึงห้องแล้วโทรบอกกูด้วยนะเมีย" มันกำชับ ไอ้เต้ยส่งหมวดกันน็อคให้ผม
"เออ ถึงห้องกูแล้วจะโทรบอกเอง" เต้ยพูดยิ้มกวนๆ
"ไอ้สัสนี่!"
"หยุดเลย มึงมีเรียนเช้านะหล่อ เลิกเรียนเจอกัน ไปเต้ย" ผมแตะบ่าเต้ย มันชูนิ้วกลางให้ไอ้หล่อบิดรถออกจากรั้วบ้านไป เพทายยืนเท้าสะเอวมองจนสุดตา กลับเข้ามาเจอเฮียเพลงยืนมองอยู่ข้างหลัง
"คนนี้เหรอเพื่อนต้นข้าว คนที่เพไปต่อยเขาซะเละ"
"คนนี้แหละเฮีย เจอหน้ามันฝากกระทืบด้วย วันนี้เฮียไม่มีงานหรือไง"
"มี แต่จะแวะเข้าคอนโดไปส่องเด็กก่อน" เพทายใช้สายตานิ่งๆจับผิดพี่ชาย
"ชักอยากจะเห็นหน้าอิหนูเฮียซะแล้วสิ" เพลงมองกลับยียวนเดินเข้าบ้าน น้องชายมองแผ่นหลังกว้างพี่ชายที่เลี่ยงจะตอบคำถาม ยิ่งหนียิ่งเชิญชวนให้อยากรู้
………………………………………………………
@มหา'ลัย
ฟางเดินหน้ายุ่งทึ้งผมตัวเองยู่ปากเตะกระป๋องสีระบายความอึดอัดในใจ อย่าให้เจอหน้าอีกนะมึง! แตงที่นั่งทาสีอยู่โวยวายปาไม้บรรทัดใส่
"เป็นอะไรของมึงอิฟาง" ฟางนั่งโบกพัดลมเข้าหาตัว มองเห็นแก้วน้ำวางอยู่ยกขึ้นดูดไม่ถามหาเจ้าของ
"กูเกลียดพวกสิ่งแวดล้อม นอกจากต้นข้าวกูว่าไม่มีใครดีแล้ว"
"ท่าทางจะไปแซ่บสาขานั้นมา เป็นไงมึง" แตงกระเถิบตัวยื่นหน้าเข้ามาถาม
"เหี้ย! ยิ่งไอ้พวกปีสามยิ่งเหี้ย มึงรู้ไหมแม่นางว่ากูยืนของกูอยู่เฉยๆเเม่งก็มากวนตีนใส่" ฟางก้มหน้าวางศอกตั้งฉากกับขาแกร่งระบายความในใจให้เพื่อนฟัง
"แล้วไงต่อ"
"ฮึย หมาเห่าหมาหอนแซวว่ากูเดินขาถ่างคงโดนจัดหนัก มึงล่ะสิโดน"
"มึงไม่บอกมันไปล่ะว่าล้มก้นกระแทกพื้น"
"เสียเวลาว่ะ จบๆ แล้วไอ้สองตัวไปไหน เพแม่งก็ชอบหาย ติ้วแม่งก็ม่อสาว กูคบเพื่อนแต่ละตัวพากลุ้มไม่ๆ อีกคนล่ะวะ ออมอ่า" ฟางบ่นๆๆๆไม่พักหายใจ แตงจุ่มสีทาจนเสร็จวางอุปกรณ์ลุกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้
"อิสองตัวมันไปขนไม้ที่ห้องเก่าหลังคณะ ออมไปซื้อน้ำมาให้กูแดก มึงอ่ะหายไปไหน?"
"แฮ่ๆ กูไปหาต้นข้าวมา กลางวันกูชวนมากินกับเราด้วย ฟินชิบหาย" ฟางยกมือกุมแก้มดีใจที่ต้นข้าวตอบตกลง
"หน้าเคะๆอย่างมึงน่าจะเป็นเมียเขามากกว่าว่ะ โอ๊ย อิฟางมึงถีบกู" แตงร้องหลบเท้าเพื่อนที่จะซ้ำอีกรอบ
"กูเป็นว่าที่สามีไม่ใช่เมีย" ฟางเห็นออมเดินมา "มาพอดีเลย หิวน้ำว่ะขอแก้วดิ" ยื่นมือจะไปหยิบเจอมือแตงฉวยไปทั้งสองแก้ว
"กูไม่ให้ มึงก็ไปซื้อเองอิฟาง ไม่ทำงานแล้วยังมาเรื่องมาก แบร่~"
"กูคบมึงไปได้ไงวะ เออ! อย่ามาขอขนมกูแดกนะแม่นาง" นิสัยเด็กกำเริบ ฟางเดินกุมก้นที่ช้ำไม่หายไปที่รถมอ'ไซค์ของออม ออมยืนงงว่าเผลอไปให้กุญแจรถฟางตอนไหน
"ออมไม่ต้องงง อิฟางหยิบไปจากมือเมื่อกี้ อินี่มันร้ายขอให้ได้ผัวสิ่งแวดล้อม เพี้ยง!"
"ไปแกล้งฟาง มาๆทำงานกันต่อ เลิกเรียนแล้วเราไปไหนดีแตง"
"ไม่รู้ว่ะ อ้ะ ไปส่องพี่แซมที่ห้องพยาบาลดีกว่า อย่ามายิ้มแหลอินาง กูรู้ว่ามึงชอบ" แตงแซว ออมยิ้มยักคิ้วให้ สองสาวโดนใช้แรงงานอีกตามเคย ผู้ชายกลุ่มนี้มันเอาดีไม่ได้สักคน
"ป้า เอาชานมปั่นแก้วนึง" ฟางยืนสั่งน้ำที่โรงอาหาร ตามองขนมที่อยู่ที่ตู้โชว์ชี้นิ้วสั่งอีกหลายอย่างคนที่รอต่อคิวบ่นเปรยให้ได้ยิน
"กินอย่างกับอดอยาก ไม่แปลกใจที่ลงพุง" ฟางกันมามองข้างหลังเบิกตากว้าง
"มึงอีกแล้วเหรอวะ!"
"มึงอีกแล้วเหรอวะ คำพูดที่เคะชอบใช้เวลาเจอตัวผู้" เสียงหมาๆเห่ายั่วอารมณ์คนขึ้นง่าย
"อะไรแคะๆ มึงกวนตีนกูใช่ไหม" หนุ่มหล่อตี๋ขาวทำหน้าหน่าย แทรกตัวมายืนข้างยืนสั่งน้ำต่อ
"ของมึงได้แล้วก็จ่ายตัง คนที่รอมันเมื่อยขาเป็น" ฟางหัวเสียรวบของกอดแนบอกยื่นจ่ายเงิน
"ฝากไว้ก่อนไอ้สัส ไม่ใช่รุ่นพี่กู กูไม่นับญาติ"
"แล้วแต่" ฟางชี้หน้าหงุดหงิดรอบสอง เดินกระฟัดกระเฟียดวางของลงในถุงที่แขวนไว้ที่วางขา อยากจะกระทืบคนเว้ยยย เจอข้างนอกมึงไม่รอดแน่
เพทายกับติ้วกำลังยืนคิดคำนวณไม้ที่ต้องใช้ มือหนาของติ้วจับไม้พาดบ่ายกขึ้นใส่รถกระบะ เพทายรวบไม้แผ่นเล็กเดินไปไว้ต่อจากติ้ว ครั้นจะแบกไม้ใหญ่ก็คงไม่ไหว เจอกระทืบยับมาเรียนได้ก็ยุญแล้ว
"เห้อ เหนื่อยว่ะ มึงไหวนะเพ" ติ้วปาดเหงื่อถาม เพทายนั่งหอบกับพื้น
"ไหวๆ รีบกลับเหอะเดี๋ยวแตงมันก็บ่นอีก"
"เออ แล้วมึงไปโดนใครยำมาจะไม่บอกกูจริงอะ" เมื่อเข้ามานั่งในรถติ้วก็ถามต่อ เพทายยิ้มแหยหันมองทางอื่น
ใครมันจะกล้าพูดว่าโดนตีนเมีย
…………………………………………………………
ต้นข้าวนั่งเรียนสับปะหงกหัวตาจะหลับ เต้ยหาววอดๆตบหัวเพื่อนชายที่ถือปากกาตั้งจะทิ่มหน้าอยู่แล้วเมื่อเช้าก็เคลียร์ๆกันจนเข้าใจ เต้ยเลือกจะเก็บความลับที่แอบชอบเพื่อนคนนี้ไว้ ไม่อยากให้มันห่างเหิน อยากให้มันยิ้มและหัวเราะเล่นแบบเพื่อนอย่างนี้ตลอดไป
กูขอแค่ได้อยู่ข้างๆมึง กูก็มีความสุขแล้วว่ะ
"หิวววว ไปกินไหน" เต้ยแหกปากร้องเมื่อเพื่อนทยอยกันออกจากห้อง ต้นข้าวเก็บของใส่กระเป๋าพาดขึ้นไหล่
"โรงอาหารตึก A วันนี้มีเพื่อนใหม่มานั่งกินด้วย รู้จักกันไว้ก็ดี เพื่อนเพทายมัน" เต้ยเบ้หน้า
"ไม่อยากจะรู้จักเพื่อนมันเลยว่ะ"
"มึงอย่าอคติ ยังไงกูก็หนีเพทายไม่พ้น กูชอบมันโอเคนะ" ต้นข้าวพูดชัดเจน เต้ยสะอึกกับคำว่าชอบเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น
"อืม แล้วยังไง เพื่อนมันรู้แล้วว่ามึงคบมัน"
"ไม่ว่ะ กูไม่อยากให้ใครรู้ตอนนี้ เพราะเพทายมันก็ยังไม่ชัดเจนกูยังไม่อยากแสดงตัว แล้วข่าวรักๆเลิกๆแม่งแพร่ไว กูอยากมั่นใจว่ะ ไม่อยากเป็นประเด็นให้ใครนินทา" ต้นข้าวบอกกับเต้ยเหมือนบอกกับไอ้หล่อ
เมื่อเช้าผมตกลงกับไอ้หล่อไว้หลายๆเรื่อง ทั้งไปมหา'ลัยและเรื่องเป็นแฟน ผมยังคงใช้สถานะแฟนกับกับมันเมื่อเราอยู่กับคนที่รู้เรื่องนี้ และคงสถานะเพื่อนไว้อยู่ต่อหน้าสาธารณะชน แรกๆมันก็ไม่ยอมแต่เจอผมงอนใส่มันก็ค้านไม่ได้
เพทายยืนล้างมือที่มีเศษไม้ติดจนสะอาด เดินไปรวมกับเพื่อนที่รออยู่ แตงไปกับอ้อม ส่วนสามหนุ่มก็ต่างคนต่างไปรถของตัวเอง จุดหมายปลายทางคือโรงอาหาร A
เต้ยโทรชวนพี่อีกสองคนมาร่วมทานข้าวเที่ยงด้วยกัน ไม่ใช่อะไรมันจะหาเจ้ามือเลี้ยงต่างหาก ผมเดินไปสั่งอาหารสี่จานรวมทั้งพี่อีกสองคน วันนี้คนเยอะมากจึงรอคิวยาวกว่าปกติ
"เออ ลืมถาม พวกเรียนหมอมันไปไปกินข้าวที่ไหนกันวะ" เต้ยถามเพื่อน ผมส่ายหน้ามองมันสงสัย
"มึงจะอยากรู้ไปทำไม?" เต้ยหลบตาปฎิเสธ
"กูก็ถามๆไปงั้นแหละ มองทำไมถึงคิวแล้ว" ผมหันหน้าไปรับจานข้าวมาสองและไอ้เต้ยถืออีกสองมาวางที่โต๊ะ เสียงโทรศัพท์เข้า ผมกดรับเห็นว่าเป็นเบอร์ฟาง
"อืม...ข้าวนั่งอยู่ตรงแถวร้านป้าพินอ่ะ ร้านที่มีหมายเลขสี่...อ่าๆ ถ้าเห็นฟางแล้วจะโบกมือเรียกนะ...ครับ...โอเค"
"มากันแล้วเหรอ"
"อืม แล้วพี่ตี๋พี่ดินอะ"
"กำลังเลิกเรียน" ผมอือออนั่งรอทั้งกลุ่มไอ้หล่อและรุ่นพี่สองคน เต้ยมันกดโทรศัพท์เล่นเกมส์ระหว่างรอ
TBC.
เต้ย
ผมเดินเตร็ดเตร่ไปตามท้องถนนสภาพสะบักสะบอมปากแตกคิ้วแตก เศษเสี้ยนที่ตำอยู่ตามตัวมันทิ่มเข้าไปในร่างกายแสบระบม รถที่จอดอยู่ห่างออกไปเขาเคยคิดว่ามันใกล้แต่ตอนนี้แสนจะไกล ครั้นต้องลากสังขารตัวเองไปให้ถึงอีก
ถึงจะพยายามตัดใจ แต่มันก็ทำไม่ได้ทุกที
"เฮ้ยพี่ ไปโรงพยาบาลไหมครับ" เสียงเด็กวัยรุ่นที่เดินผ่านหยุดมองผม มาช่วยพยุงร่างที่กำลังจะล้ม
"ขอบคุณครับ ช่วยพาผมไปส่งที่รถก็พอ"
ผมมาถึงรถยนต์ที่โชคดีวันนี้เอาเจ้านี่มาแทนเวสป้า เอ่ยขอบคุณคนที่ช่วยก่อนจะสอดตัวเข้าไปนั่งที่คนขับ ล้วงโทรศัพท์ออกมาสำรวจ หน้าจอแตกเป็นเสี่ยงดีที่ยังอยู่ครบทั้งแบตทั้งเครื่อง
"เมาเป็นหมา ไปฟัดกับใครมาวะ" เสียงคู่อริที่ถัดออกไปสองห้องเอ่ยขึ้น ผมไขกุญแจค้างเอาไว้มองหน้ามันไม่มีกลัว
"เสือก" เหยียดปากเยาะผลักประตูเข้าห้องทิ้งตัวลงนอนปิดเปลือกตาลง เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น
ก๊อกๆๆ
มันคงไม่ได้มาหาเรื่องถึงห้องนะ
มือทุบหัวตัวเองที่ปวดหนึบเดินเซไปส่องตาแมวดู มันจะมาทำไม! ไม่ใช่คู่อริที่ทะเลาะกันประจำแต่เป็นอีกคนที่เพิ่งเจอกันไม่กี่นาทีนี้
แกร๊ก
"แม่ให้พี่เอา...เต้ย! ไปทำอะไรมาครับ" แซมมันถือวิสาสะผลักผมเข้าไปด้านในมือกดล็อคประตูให้ทำไมมีแต่คนชอบยุ่งเรื่องคนอื่นวะ
"โอ๊ยยย แตะทำไม กูเจ็บ" ปากโวยวายหันหน้าหนีมือร้อน จิ้มมาได้แผลใหม่ๆมันแสบไม่รู้หรือไง ไม่น่าเรียนหมอให้เสียเงินเล่น
"เมื่อกี้ยังไม่มีแผล แล้วไปตีกับใครมาอีก" เสียงเข้มเอ่ยดุ
"เรื่องของกู ป้าซินฝากอะไรมาให้กู" ปากว่ามือก็หยิบสิ่งของในถุงออกมาดู เสื้อยืดสกินลายหมีพูห์แบบที่อยากได้เลย แซมคว้าเสื้อยัดใส่ถุงวางให้ห่างออกไป
"บอกพี่มาก่อนว่าทำไมถึงได้แผล" คำถามเซ้าซี้ทำหนุ่มในร้อนแสดงสีหน้าหงุดหงิดออกมา จะรู้ตัวไหมว่ากำลังทำตัวเหมือนผู้ใหญ่ดุเด็ก
"ไปฟัดกับผัวต้นข้าวมา หิวว่ะไปทำอะไรให้กินหน่อย" ผมตอบยกมือลูบท้องที่ส่งเสียงร้องได้สักพักผู้ใหญ่ที่ว่าตีหน้าหน่ายยีผมที่ฟูฟ่องให้เสียทรงยิ่งกว่าเดิม
"อืม ไปรอที่โต๊ะ"
"ไม่ จะกินที่นี่ขี้เกียจเดิน"
"งั้นให้พี่อุ้ม?" แซมลุกขึ้นยืนถลกแขนเสื้อขึ้นท่าจะเอาจริง ผมหน้าเหวอยกมือปัดปฎิเสธเสียงเขียว
ร่างกายไม่พร้อมใช้งานเดินกระเผลกจากโซฟาห้องนั่งเล่นไปห้องครัวที่ติดกับประตูทางเข้า แซมช่วยจับแขนแต่โดนสะบัดออก ผมแยกเขี้ยวใส่คนหวังดีชี้นิ้วไปที่เคาน์เตอร์เตือนกลายๆว่าให้รีบทำก่อนจะหิวไปมากกว่านี้
พ่อครัวจำเป็นหยิบผ้ากันเปื้อนลายหมีพูห์มาสวมคอเอื้อมมือไปผูกเชือกด้านหลัง ผมหน้าม้าปรกลงมาได้แต่เสยผมลวกๆเตรียมวัตถุดิบทำอาหาร ผมนั่งมองรู้สึกรำคาญผมที่หล่นลงมาเสียนี่กระไร รกหูรกตาเดินไปที่ตู้เย็นหยิบหนังยางหลากสีที่วางเกลื่อนข้างบนมาถือไว้
"หยุดทำแล้วหันหน้ามานี่ดิ้" เสียงทุ้มสั่ง แซมวางมือจากการทำหันมามองขมวดคิ้วไม่เข้าใจ
ผมแบมือหยิบหนังยางในมือมาคล้องนิ้วโบกมือให้ก้มหัวหัวลง ไม่ใช่ว่าเขาตัวเล็กแต่อีกคนกลับสูงเกินชาวบ้านเขามากกว่า ผมหน้าม้าถูกรวบขึ้นเป็นจุก ผมคล้องหนังยางลงไปมัดสองสามทบให้มั่นใจว่าแน่นพอไม่ได้พูดจาต่อหันตัวกลับไปนั่งรอที่โต๊ะ
แซมยื่นนิ่งอมยิ้มจับกลุ่มผมที่ถูกมัดเป็นปมเล็ก ไอ้เด็กนี่มันมีมุมน่ารักกับเขาด้วยหรือ ด้วยความเป็นลูกพี่ลูกน้องกันมานานก็อดจะคิดไม่ได้ นึกว่าปากดีเป็นอย่างเดียว
"เสร็จรึยังวะ!" เสียงเร่งดังขึ้นทนความแสบท้องไม่ไหว
"อีกห้านาทีครับ ใครใช้ให้ไม่กินอะไรรองท้องล่ะ" แค่พูดก็พอไม่ต้องบ่น ผมหยิบผักต้มที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมาเคี้ยวเล่น มันต้องจงใจแกล้งกูแน่เลย ผมรู้ว่าแซมชอบกินน้ำพริกกับผักมาแต่ไหนแต่ไร ไปบ้านมันทีไรก็ต้องมีเมนูนี้ตั้งโต๊ะ ป้าซินแม่ของแซมก็เอ่ยปากชมบ่อยๆว่าลูกชายน่าจะไปเรียนทำอาหารมากกว่าหมอ
ทั้งเรียนเก่งและทำอาหารเป็นอะไรมันดีขนาดนี้ ได้ทั้งอาหารไทยและนอกอีกนะพ่อคุณ
ที่ว่าจีบ มันคิดจริงหรือเล่นวะ
"ไหนไข่เจียวหมูสับกู" ผมมองอาหารบนโต๊ะ แซมหยิบช้อนส้อมขึ้นมาเตรียมพร้อม
"ก็เต้ยไม่ได้สั่งพี่" แซมตอบตามตรง ผมมองค้อนหยิบช้อนมาตักแกงจืดใส่จาน มันก็น่าจะรู้ว่าเขาชอบเรื่องแค่นี้ลืม เหอะ
อย่างว่า กูไม่ใช่คนสำคัญมึงจะมาจำทำไม
"งั้นพี่ไปทำให้" แซมรู้สึกผิดเลื่อนเก้าอี้ออกลุกขึ้นยืน ผมส่ายหัวลงมือทานไม่หยุดปาก
"ไม่ต้อง อย่าเรื่องมาก แค่นี้กูไม่ใส่ใจ"
"แต่เต้ยจะกิน" มึงจะเถียงให้ได้อะไร แซมนั่งลงมองหน้าผม
"กูไม่อยากกินแล้ว มึงทำมาก็แดกๆให้หมดด้วย จานกองเอาไว้กูลุกขึ้นมาล้างเอง" ทั้งคู่ลงมือจัดการอาหารตรงหน้า ผมเดินเข้าห้องไปหายามากิน แซมรวมจานยกมาไว้ในซิงค์ก่อนจะล้างจนสะอาด
"กูบอกว่ากูล้างเอง" ผมยืนท้าวประตูมองแซมสายตาดุ จานใบสุดท้ายถูกวางลงกับที่ แซมเช็ดมือให้แห้งเดินออกมาหาผมที่ยืนอยู่
"หลบครับ อย่าขวางทางคนจะเดิน"
"มึงแม่ง!" ผมหลบทางให้ แซมเปิดโทรทัศน์ทิ้งตัวลงพาดแขนไปกับพนักโซฟา
"เมื่อไหร่จะกลับ" ผมทรุดตัวลงนั่งข้างๆ เห็นหมอนอิงลายมินนี่ที่ต้นข้าวซื้อให้ถูกพิงทับอยู่ มือนิ่มดึงมันออกมา แซมมองหมอนข้างหลังเอนตัวมาข้างหน้าให้ผมดึงสะดวก
"แบนเลยนะมึง" ตบหมอนเบาๆให้เป็นทรงเดิม แซมยิ้มมุมปากเอนตัวลงนอนทับหมอนที่อยู่บนตักผม สบตากับคนที่หนุนนอน
"พี่จีบเต้ยอยู่นะ ถ้าไม่ยอมจะให้แม่มาขอ"
"ส้นตีน! เอาหัวออกไปด้วยกูหนัก"
"ต้นข้าวพี่ก็ชอบ แต่เต้ยพี่ว่าน่า...รักดี" คำพูดหวานๆกับสายตาสื่อชัดเจนว่ากำลังจีบทำผมผลักหัวแซมออกไปแรงๆ แซมเกือบหล่นมือคว้าเอวผมเอาไว้ยึดติดแน่น
"จั๊กจี้ไอ้สัส เอามือออกจากเอวกู!"
"กำลังสบายขอนอนอีกหน่อยนะครับ" ผมเสยผมใบหน้าหงุดหงิด น่ารักตายห่าผู้ชายตัวโตสองคนมานอนหนุนตักกัน เสียงโทรทัศน์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ
ผมจับแขนแข็งแรงเขย่าปลุกให้ตื่น แค่สิบนาทีตะคริวจะแดกขากูแล้วไอ้ห่า ใบหน้าแซมผละออกจากหน้าท้องผมหงายลงนอนหนุนหมอนดีๆ ผมมองใบหน้าที่ทั้งดุทั้งหล่อน่ารักในคราวเดียวกัน หน้าอย่างงี้จะมาจีบกู มือผมไล้จมูกโด่งเบาๆบีบดึงเล่นจนคนโดนกระทำต้องปัดออกอย่างรำคาญ
มันหลับจริงเเฮะ
……………………………………………………
ต้นข้าว
เพทายนั่งกุมแก้มที่ช้ำนั่งประคบน้ำแข็งมองหน้าคนทำที่นั่งดูโทรทัศน์ไม่คิดจะสนใจกัน ต้นข้าวหัวเราะเสียงดังเมื่อรายการที่ดูอยู่มันตลกสิ้นดี
Rrrrrr
"ครับพี่เต...วันนี้มีเรื่องนิดหน่อย...ครับ...พรุ่งนี้เจอกันพี่ ฝากจุ๊บพี่พิมด้วย ฮ่าๆๆ...ครับ ฝันดีครับ"
"ใคร?!"
"ยังไม่เข็ด? อยากเจออีกไหม" ผมชี้หน้าขู่ฝ่อยกเท้ากระดิก ไอ้หล่อหงอลง
"เออ ก็บอกมาดิว่าใคร"
"พี่เตชินเจ้าของร้านที่กูทำงานไง พี่พิมก็แฟนเขาคนสวยๆที่เป็นแคชเชียร์นั่นแหละ" ถ้าผมไม่ตอบมันก็จะเซ้าซี้ถามไม่เลิก
"อืม"
ผมเหลือบไปมองไอ้หล่อที่ก้มหน้ามองพื้นมือก็ประคบไปตามร่างกายที่ช้ำ มันเป็นอะไรวะ ผมยันตัวขึ้นกำลังลุกแต่นึกถึงคำพูดพี่ต้นน้ำจึงนั่งลงตามเดิม
"ต้นข้าว...กูขอโทษ" เสียวแผ่วเอ่ยขึ้น ผมนิ่งกระพริบตาปริบๆยากที่ไม่ใจอ่อน แต่ถ้ายอมเดี๋ยวมันก็เคยตัว
"อืม" มีแค่เสียงอืออึงที่ตอบกลับ
"เพื่อนมึงคนนั้น มันคิดกับมึงแค่เพื่อนจริงใช่ไหมวะ" เพทายถามออกไป แววตาที่ปกป้องต้นข้าวเขาเห็นมันเต็มสองตา ถ้าแค่เพื่อนทำไมสายตามันเหมือนที่เขามองต้นข้าวไม่มีผิด
"เต้ยอะนะ เพื่อนก็เพื่อนมึงจะคิดอะไรเยอะแยะ"
"ก็ดีแล้ว กูจะได้ไม่ต้องห่วง" เสียงไอ้หล่อเงียบไป ผมหันไปมองเห็นมันเอนหลังนอนหลับบนเตียงผมปิดโทรทัศน์เดินออกไปนอกระเบียงมองทิวทัศน์ตอนกลางคืนที่ต่างกับที่บ้าน
ต้นทานตะวันกับเยอบีร่าถูกวางไว้ข้างกัน ผมยิ้มจับดอกเยอบีร่าลูบมันเบาๆ แรงกอดจากด้านหลังมาพร้อมกลิ่นตัวที่คุ้นเคย ผมไม่ได้ดิ้นจับมือมันมากุมไว้ข้างหน้า
"เรื่องพี่มึงกูจะพยายามทำให้เขายอมรับให้ได้ ส่วนเรื่องป๋ากูก็จะพยายามทำทุกอย่างให้ป๋ายอมรับมึงแต่กูขออย่างเดียว ไม่ว่ากูจะเลวยังไงอย่าทิ้งกูไป" แรงกอดแน่นขึ้น ไอ้หล่อซบหน้าลงกับท้ายทอยขาว
"กูไม่เคยทิ้งมึงไปไหนเพทาย"
"ขอบคุณ" สัมผัสแผ่วเบาจากปากมันที่ท้ายทอยทำผมขนลุกซู่ เพราะทุกครั้งที่มันพูดจามีสาระมันมักจะมาพร้อมความหื่นที่เพิ่มขึ้น
แม่งคงไม่คิดจะเอาผมที่ระเบียงใช่ไหม!
……………………………………………………………..
เหมือนผมจะคิดมากไป เมื่อคืนเรานอนกอดกันปกติ ตื่นเช้ามาไอ้เต้ยมันรับผมหน้าบ้านเพทาย หน้าตามันบวมช้ำหมดหล่อพอๆกับไอ้คนข้างๆที่จ้องไอ้เต้ยเขม็ง ไอ้หล่อแต่งชุดนักศึกษาเรียบร้อย วันนี้คุณชายว่าจะตั้งใจเรียนให้ได้เกรดดีๆป๋าจะได้ยอมรับ ผมจะคอยดู
"ถึงห้องแล้วโทรบอกกูด้วยนะเมีย" มันกำชับ ไอ้เต้ยส่งหมวดกันน็อคให้ผม
"เออ ถึงห้องกูแล้วจะโทรบอกเอง" เต้ยพูดยิ้มกวนๆ
"ไอ้สัสนี่!"
"หยุดเลย มึงมีเรียนเช้านะหล่อ เลิกเรียนเจอกัน ไปเต้ย" ผมแตะบ่าเต้ย มันชูนิ้วกลางให้ไอ้หล่อบิดรถออกจากรั้วบ้านไป เพทายยืนเท้าสะเอวมองจนสุดตา กลับเข้ามาเจอเฮียเพลงยืนมองอยู่ข้างหลัง
"คนนี้เหรอเพื่อนต้นข้าว คนที่เพไปต่อยเขาซะเละ"
"คนนี้แหละเฮีย เจอหน้ามันฝากกระทืบด้วย วันนี้เฮียไม่มีงานหรือไง"
"มี แต่จะแวะเข้าคอนโดไปส่องเด็กก่อน" เพทายใช้สายตานิ่งๆจับผิดพี่ชาย
"ชักอยากจะเห็นหน้าอิหนูเฮียซะแล้วสิ" เพลงมองกลับยียวนเดินเข้าบ้าน น้องชายมองแผ่นหลังกว้างพี่ชายที่เลี่ยงจะตอบคำถาม ยิ่งหนียิ่งเชิญชวนให้อยากรู้
………………………………………………………
@มหา'ลัย
ฟางเดินหน้ายุ่งทึ้งผมตัวเองยู่ปากเตะกระป๋องสีระบายความอึดอัดในใจ อย่าให้เจอหน้าอีกนะมึง! แตงที่นั่งทาสีอยู่โวยวายปาไม้บรรทัดใส่
"เป็นอะไรของมึงอิฟาง" ฟางนั่งโบกพัดลมเข้าหาตัว มองเห็นแก้วน้ำวางอยู่ยกขึ้นดูดไม่ถามหาเจ้าของ
"กูเกลียดพวกสิ่งแวดล้อม นอกจากต้นข้าวกูว่าไม่มีใครดีแล้ว"
"ท่าทางจะไปแซ่บสาขานั้นมา เป็นไงมึง" แตงกระเถิบตัวยื่นหน้าเข้ามาถาม
"เหี้ย! ยิ่งไอ้พวกปีสามยิ่งเหี้ย มึงรู้ไหมแม่นางว่ากูยืนของกูอยู่เฉยๆเเม่งก็มากวนตีนใส่" ฟางก้มหน้าวางศอกตั้งฉากกับขาแกร่งระบายความในใจให้เพื่อนฟัง
"แล้วไงต่อ"
"ฮึย หมาเห่าหมาหอนแซวว่ากูเดินขาถ่างคงโดนจัดหนัก มึงล่ะสิโดน"
"มึงไม่บอกมันไปล่ะว่าล้มก้นกระแทกพื้น"
"เสียเวลาว่ะ จบๆ แล้วไอ้สองตัวไปไหน เพแม่งก็ชอบหาย ติ้วแม่งก็ม่อสาว กูคบเพื่อนแต่ละตัวพากลุ้มไม่ๆ อีกคนล่ะวะ ออมอ่า" ฟางบ่นๆๆๆไม่พักหายใจ แตงจุ่มสีทาจนเสร็จวางอุปกรณ์ลุกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้
"อิสองตัวมันไปขนไม้ที่ห้องเก่าหลังคณะ ออมไปซื้อน้ำมาให้กูแดก มึงอ่ะหายไปไหน?"
"แฮ่ๆ กูไปหาต้นข้าวมา กลางวันกูชวนมากินกับเราด้วย ฟินชิบหาย" ฟางยกมือกุมแก้มดีใจที่ต้นข้าวตอบตกลง
"หน้าเคะๆอย่างมึงน่าจะเป็นเมียเขามากกว่าว่ะ โอ๊ย อิฟางมึงถีบกู" แตงร้องหลบเท้าเพื่อนที่จะซ้ำอีกรอบ
"กูเป็นว่าที่สามีไม่ใช่เมีย" ฟางเห็นออมเดินมา "มาพอดีเลย หิวน้ำว่ะขอแก้วดิ" ยื่นมือจะไปหยิบเจอมือแตงฉวยไปทั้งสองแก้ว
"กูไม่ให้ มึงก็ไปซื้อเองอิฟาง ไม่ทำงานแล้วยังมาเรื่องมาก แบร่~"
"กูคบมึงไปได้ไงวะ เออ! อย่ามาขอขนมกูแดกนะแม่นาง" นิสัยเด็กกำเริบ ฟางเดินกุมก้นที่ช้ำไม่หายไปที่รถมอ'ไซค์ของออม ออมยืนงงว่าเผลอไปให้กุญแจรถฟางตอนไหน
"ออมไม่ต้องงง อิฟางหยิบไปจากมือเมื่อกี้ อินี่มันร้ายขอให้ได้ผัวสิ่งแวดล้อม เพี้ยง!"
"ไปแกล้งฟาง มาๆทำงานกันต่อ เลิกเรียนแล้วเราไปไหนดีแตง"
"ไม่รู้ว่ะ อ้ะ ไปส่องพี่แซมที่ห้องพยาบาลดีกว่า อย่ามายิ้มแหลอินาง กูรู้ว่ามึงชอบ" แตงแซว ออมยิ้มยักคิ้วให้ สองสาวโดนใช้แรงงานอีกตามเคย ผู้ชายกลุ่มนี้มันเอาดีไม่ได้สักคน
"ป้า เอาชานมปั่นแก้วนึง" ฟางยืนสั่งน้ำที่โรงอาหาร ตามองขนมที่อยู่ที่ตู้โชว์ชี้นิ้วสั่งอีกหลายอย่างคนที่รอต่อคิวบ่นเปรยให้ได้ยิน
"กินอย่างกับอดอยาก ไม่แปลกใจที่ลงพุง" ฟางกันมามองข้างหลังเบิกตากว้าง
"มึงอีกแล้วเหรอวะ!"
"มึงอีกแล้วเหรอวะ คำพูดที่เคะชอบใช้เวลาเจอตัวผู้" เสียงหมาๆเห่ายั่วอารมณ์คนขึ้นง่าย
"อะไรแคะๆ มึงกวนตีนกูใช่ไหม" หนุ่มหล่อตี๋ขาวทำหน้าหน่าย แทรกตัวมายืนข้างยืนสั่งน้ำต่อ
"ของมึงได้แล้วก็จ่ายตัง คนที่รอมันเมื่อยขาเป็น" ฟางหัวเสียรวบของกอดแนบอกยื่นจ่ายเงิน
"ฝากไว้ก่อนไอ้สัส ไม่ใช่รุ่นพี่กู กูไม่นับญาติ"
"แล้วแต่" ฟางชี้หน้าหงุดหงิดรอบสอง เดินกระฟัดกระเฟียดวางของลงในถุงที่แขวนไว้ที่วางขา อยากจะกระทืบคนเว้ยยย เจอข้างนอกมึงไม่รอดแน่
เพทายกับติ้วกำลังยืนคิดคำนวณไม้ที่ต้องใช้ มือหนาของติ้วจับไม้พาดบ่ายกขึ้นใส่รถกระบะ เพทายรวบไม้แผ่นเล็กเดินไปไว้ต่อจากติ้ว ครั้นจะแบกไม้ใหญ่ก็คงไม่ไหว เจอกระทืบยับมาเรียนได้ก็ยุญแล้ว
"เห้อ เหนื่อยว่ะ มึงไหวนะเพ" ติ้วปาดเหงื่อถาม เพทายนั่งหอบกับพื้น
"ไหวๆ รีบกลับเหอะเดี๋ยวแตงมันก็บ่นอีก"
"เออ แล้วมึงไปโดนใครยำมาจะไม่บอกกูจริงอะ" เมื่อเข้ามานั่งในรถติ้วก็ถามต่อ เพทายยิ้มแหยหันมองทางอื่น
ใครมันจะกล้าพูดว่าโดนตีนเมีย
…………………………………………………………
ต้นข้าวนั่งเรียนสับปะหงกหัวตาจะหลับ เต้ยหาววอดๆตบหัวเพื่อนชายที่ถือปากกาตั้งจะทิ่มหน้าอยู่แล้วเมื่อเช้าก็เคลียร์ๆกันจนเข้าใจ เต้ยเลือกจะเก็บความลับที่แอบชอบเพื่อนคนนี้ไว้ ไม่อยากให้มันห่างเหิน อยากให้มันยิ้มและหัวเราะเล่นแบบเพื่อนอย่างนี้ตลอดไป
กูขอแค่ได้อยู่ข้างๆมึง กูก็มีความสุขแล้วว่ะ
"หิวววว ไปกินไหน" เต้ยแหกปากร้องเมื่อเพื่อนทยอยกันออกจากห้อง ต้นข้าวเก็บของใส่กระเป๋าพาดขึ้นไหล่
"โรงอาหารตึก A วันนี้มีเพื่อนใหม่มานั่งกินด้วย รู้จักกันไว้ก็ดี เพื่อนเพทายมัน" เต้ยเบ้หน้า
"ไม่อยากจะรู้จักเพื่อนมันเลยว่ะ"
"มึงอย่าอคติ ยังไงกูก็หนีเพทายไม่พ้น กูชอบมันโอเคนะ" ต้นข้าวพูดชัดเจน เต้ยสะอึกกับคำว่าชอบเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น
"อืม แล้วยังไง เพื่อนมันรู้แล้วว่ามึงคบมัน"
"ไม่ว่ะ กูไม่อยากให้ใครรู้ตอนนี้ เพราะเพทายมันก็ยังไม่ชัดเจนกูยังไม่อยากแสดงตัว แล้วข่าวรักๆเลิกๆแม่งแพร่ไว กูอยากมั่นใจว่ะ ไม่อยากเป็นประเด็นให้ใครนินทา" ต้นข้าวบอกกับเต้ยเหมือนบอกกับไอ้หล่อ
เมื่อเช้าผมตกลงกับไอ้หล่อไว้หลายๆเรื่อง ทั้งไปมหา'ลัยและเรื่องเป็นแฟน ผมยังคงใช้สถานะแฟนกับกับมันเมื่อเราอยู่กับคนที่รู้เรื่องนี้ และคงสถานะเพื่อนไว้อยู่ต่อหน้าสาธารณะชน แรกๆมันก็ไม่ยอมแต่เจอผมงอนใส่มันก็ค้านไม่ได้
เพทายยืนล้างมือที่มีเศษไม้ติดจนสะอาด เดินไปรวมกับเพื่อนที่รออยู่ แตงไปกับอ้อม ส่วนสามหนุ่มก็ต่างคนต่างไปรถของตัวเอง จุดหมายปลายทางคือโรงอาหาร A
เต้ยโทรชวนพี่อีกสองคนมาร่วมทานข้าวเที่ยงด้วยกัน ไม่ใช่อะไรมันจะหาเจ้ามือเลี้ยงต่างหาก ผมเดินไปสั่งอาหารสี่จานรวมทั้งพี่อีกสองคน วันนี้คนเยอะมากจึงรอคิวยาวกว่าปกติ
"เออ ลืมถาม พวกเรียนหมอมันไปไปกินข้าวที่ไหนกันวะ" เต้ยถามเพื่อน ผมส่ายหน้ามองมันสงสัย
"มึงจะอยากรู้ไปทำไม?" เต้ยหลบตาปฎิเสธ
"กูก็ถามๆไปงั้นแหละ มองทำไมถึงคิวแล้ว" ผมหันหน้าไปรับจานข้าวมาสองและไอ้เต้ยถืออีกสองมาวางที่โต๊ะ เสียงโทรศัพท์เข้า ผมกดรับเห็นว่าเป็นเบอร์ฟาง
"อืม...ข้าวนั่งอยู่ตรงแถวร้านป้าพินอ่ะ ร้านที่มีหมายเลขสี่...อ่าๆ ถ้าเห็นฟางแล้วจะโบกมือเรียกนะ...ครับ...โอเค"
"มากันแล้วเหรอ"
"อืม แล้วพี่ตี๋พี่ดินอะ"
"กำลังเลิกเรียน" ผมอือออนั่งรอทั้งกลุ่มไอ้หล่อและรุ่นพี่สองคน เต้ยมันกดโทรศัพท์เล่นเกมส์ระหว่างรอ
TBC.
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ