World End Game [เกม...โลกสุดท้าย]
8.0
2) My New Pet (!?)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ[Chapter 2 : My New Pet (!?) ]
ผมออกจากเมือง แล้มเดินทางไปตามแผนที่เพื่อที่จะไปเรียนเวมน้ำแข็ง ไหนดูซิ......ไปทางตะวันออกเฉียงใต้แล้วจะเจอเมือง โตรันต้า(Toranta) จากนั้นไปทางใต้ของเมือง ผ่านป่าวสันต์และเหมันต์ แล้วขึ้นไปบนภูเขาแห่งความสิ้นหวัง จะมีสถานที่นั้นอยู่บนยอดเขา
....โหดสลัดผัก!!!
“กี่ปีล่ะนั่นกว่าจะไปถึง” ผมบ่น ก่อนเก็บแผนที่เข้ากระเป๋าสะพายแล้วดึงหนังสือหนาๆสีขาวออกมา อ่านชื่อหนังสือในมือ
คู่มือการเป็นนักเวทเหมันต์...
...มิน่าล่ะ ถึงมีคู่มือสอน ที่ๆจะเรียนอยู่ไกลซะขนาดนั้นนี่นะ ผมเปิดหน้าแรกของคู่มือ เพื่อที่จะเรียนไประหว่างทาง
บทเรียนที่ 1 : เรียกน้ำแข็ง
‘จงทำจิตใจให้สงบ แล้วนึกถึงลมหนาวหรือทุกสิ่งที่เกี่ยวกับน้ำแข็ง จากนั้นให้พูดว่า “ออกมา” ’
ผมทำตามที่คู่มือบอก โดยหลับตาแล้วนึกถึง เกล็ดหิมะ และพูดคำว่า ออกมาเป็นลำดับสุดท้าย จู่ๆลมหนาวก็หมุนวนบนมือผม ไล่ไปตามนิ้วจนทำให้รู้สึกเย็นวูบวาบ
“พายุหิมะจิ๋วเนี่ยนะ...” แล้วแบบนี้จะเรียกให้หายไปยังไงล่ะนี่ ตอนนั้นเองหมาป่าตัวใหญ่สีดำก็โผล่มาจากด้านหลัง ผมกางมือออกโดยสัญชาตญาณ ก่อนจะรู้สึกว่าหมาป่าตัวเมื่อกี๊ไม่ได้ไล่กัดขม้ำผมแต่ดันถูกแช่อยู่ในก้องน้ำแข็งยักษ์
- ปุ้ง!-
- ผู้เล่น คาเซ่ อัพเลเวลเป็น 15 เรียบร้อย
- ผู้เล่น คาเซ่ เพิ่มสกิล แช่แข็ง เลเวล 1 เรียบร้อย
“เพิ่มสกิลง่ายไปมั้งครับ... คุณระบบเกม!”
บทเรียนที่ 2 : เสกสรรค์
‘ตั้งสติให้มั่นคง นึกถึงสิ่งที่อยากสร้างแล้วปล่อยน้ำแข็งออกมา’
ให้นึกถึงสิ่งที่อยากสร้างงั้นเหรอ แต่...มันคิดไม่ออกอ่ะ อะไรดีหว่า....ม้า! ม้า เอ้อ ม้าบินละกัน!
ซู่~
พายุลูกเล็กๆก่อตัวขึ้นที่พื้นก่อนจะขยายใหญ่ขึ้น แล้วม้วนตัวกันแน่นจนกลายเป็นก้อนหิมะรูปประหลาดและระเบิดออกเป็น ม้าบินสีขาว ที่มีเขาสีเงิน
- ปุ้ง!-
- ผู้เล่น คาเซ่ เพิ่มสกิล เสกสรรค์ เลเวล 1 เรียบร้อย
“.....................ม้าบินที่ไหนมีเขาฟะ นั่นมันยูนิคอร์นเฟ้ย!!!” ผมตะโกนเจ้าม้าประหลาดนั่นเดินเข้ามาหาแล้วถูหัวของผมไปมา ผมลูบแผงคอสีขาวของมันก่อนจะเห็นป้ายชื่อที่ติดตรงรอบคอ
“ยูนิซัส” โอ้ว...ชื่อเท่เป็นบ้า ม้าอะไรกันเนี่ย!?
“นี่ ยูนิซัสรู้มั้ยว่าตอนนี้ชั้นอยากทำอะไร” ผมแกล้งถามแกมขำๆ แต่เจ้าม้านั่นก็ดันดึงผมขึ้นมานั่งอยู่บนหลังของมันก่อนจะออกตัววิ่งออกไป
.
.
.
......ความรู้สึกของการขี่ม้าบินมันเป็นแบบนี้นี่เอง ลมเย็นปะทะเข้ามาที่หน้า เจ้าม้าร้องบอกเมื่อมาถึงสถานที่หนึ่งซึ่ง ก็....อืม เป็นไปตามที่อยากไปเป๊ะเละแฮะ
“เมือง โตรันต้า(Toranta) นี่นา นี่แกรู้ความคิดของชั้นจริงๆเหรอเนี่ย” ผมพูดขึ้นมาลอยๆ ก่อนจะตั้งแคมป์ตรงแนวชายป่าใกล้ๆทางเข้าเมือง เฮ้อ...กลายเป็นว่าเราแพ้เจ้าม้าบ้าแสนรู้นี่เหรอเนี่ย...อนาถชะมัด
ทันใดนั้นผมก็ได้เสียงร้องของผู้หญิงดังมาจากในป่า
“กรี้ดดดดดดดดดดดด!!!”
“อะไรน่ะ!?” ผมวิ่งเข้าไปในป่าเพื่อตามหาต้นเสียง จนมาเจอกับเของเสียงหวีดกรีดร้องลั่นป่า ซึ่งกำลังล้มก้นจ้ำเป้าหันหลังให้ผมอยู่
“ค...ใครก็ได้ช่วยด้วย มันจะฆ่าฉันแล้ว!!!” เธอร้องขอความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวัง เอ่อ...ใครก็ได้ที่ว่าอยู่ข้างหลังคุณอ่ะครับ...
โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!
“...คราวนี้อะไรอีกล่ะ” ผมเห็นเจ้าปีศาจสี่ขาหน้าตาสุดสยองกำลังคำรามอย่างบ้าคลั่งอยู่หน้าเธอ ดูๆไปน่าจะประมาณเลเวล สามสิบ สี่สิบ....จะจัดการได้มั้ยนะ...( หมายเหตุ ; ไม่มั่นใจในตัวเอง [เฮ้!] )
ผมหยิบดาบปลายคู่ออกมา ก่อนจะกระโดดเข้าไปฟันใส่เจ้าปีศาจ คมดาบที่ผมฝากรอยไว้ ปรากฎตามร่างกายของมันทุกที่ โอ้วววว พลังโจมตีสุดยอดจริงๆแฮะ
- ปุ้ง!-
- ผู้เล่น คาเซ่ เพิ่มสกิล ฟันต่อเนื่อง เลเวล 1 เรียบร้อย
“เอ้อ...ไอ้ระบบเกมนี่ก็เกรียนเกิ๊นนน มาบอกอะไรกันตอนนี้ฮึ!?” ผมเรียกพายุหิมะออกมาก่อนจะบังคับให้มันโจมตีไปที่ตัวปีศาจ
“ พา โกค์ เมย์ นัส (pago̱ménos) !!!”
พายุหิมะที่ผมปล่อยออกไปเมื่อกี๊จับตัวกันแน่นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ ขังเจ้าปีศาจไว้ข้างใน
“เอ็ก ซาห์ เลป ซีย์ ( exáleipsi̱ ) !!!”
ก้อนน้ำแข็งแตกกระจายเป็นเกล็ดหิมะมากมายลอยเต็มอากาศ ผมถูมือไปมาอย่างไม่รู้ตัวจนสังเกตเห็นเกล็ดน้ำแข็งเริ่มจับตัวอยู่ตามปลายนิ้ว
“นี่มันอะไรกัน...เหวออออออ!?” ผมโดนโจมตีจากด้านหลัง มารู้ตัวอีกทีคือ ผู้หญิงคนเมื่อกี๊ ได้เข้ามากระโดดกอดอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ แถมยังมาร้องให้น้ำตานองอยู่บนตัวตูอีกแน่ะ!
“ฮึก! ข...ขอบพระคุณมากๆเลยค่ะที่มาช่วย ไม่อย่างนั้นฉันต้องตายแน่ๆ!” ครับ...คุณรอดตาย แต่ตรูน่ะสิที่จะตายแทน เล่นมาทับตัวกันแบบนี้ได้หายใจไม่ออกกันพอดี!
“เอ่อ ครับ ดีใจที่เธอปรอดภัย ผมว่าผมต้องไปแล้วล่ะ(ไม่อย่างนั้นได้หายใจไม่ออกจนดับอนาถเป็นแน่แท้) ”ผมลุกขึ้นก่อนเดินกลับไปทางที่ตั้งแคมป์ แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับดึงเสื้อผมไว้
“ไม่นะ! ขอร้องเถอะ ให้ฉันได้ตอบแทนเถอะค่ะ ได้โปรด....” อึก...ไม่...ไม่นะ อย่ามาไม้นี้นะ ไอ้เรายิ่งแพ้น้ำตาสาวๆอยู่ ม่ายยยยย...ปล่อยผ้มมมมป๊ายยยยย.....
“แต่ผม...พ...เพิ่ง...เพิ่ง เอ่อ เพิ่งเริ่มเล่นเอง ใช่ เพราะงั้น...”
- ปุ้ง!-
- ผู้เล่น คาเซ่ อัพเลเวลเป็น 16…18…23 เรียบร้อย
“.........”
“ดิฉัน เลเวล 14 ......ฝากตัวด้วยนะคะ”
ตรู-เกลียด-แก-ไอ้-ระบบ-เกม-!!!
.....................................................................................
“แล้วคุณเป็น อัศวินหรือคะ”
“เปล่า...ผม...ผมเป็นนักเวท”
“.........แล้วทำไม...อ๋อ คุณเสกพายุออกมาได้นี่นา นักเวทจริงๆด้วย แต่แปลกจังนะคะ ทั้งๆที่คุณเป็นนักเวทแท้ๆกลับใช้ดาบได้”
“อ่า...นั่นน่ะสิ ว่าแต่เธอน่ะ ชื่ออะไรเหรอ”
“อ๋า จริงด้วย ลืมแนะนำตัวไปเลย ขอโทษด้วยนะคะ ดิฉัน ชื่อ เมอร์เชียร่าค่ะ จะเรียกว่าเมอร์ชี่ก็ได้”
“อ่อ...เมอร์ชี่สินะ ผมชื่อ คาเซ่.......แล้วทำไมเธอถึงอยากร่วมทางกับผมล่ะ ไม่เอาคำตอบที่ว่าผมช่วยชีวิตเธอนะ”
“เอ๋.....เอ่อ คือว่า ตอนแรกที่คุณสู้กับมอนส์เตอร์ตัวนั้น เอ่อ มันทำให้ฉันรู้สึก...ชื่นชม น่ะค่ะ แบบว่า โอ้โห เก่งจัง อยากเป็นนั้นบ้าง อะไรทำนองนั้นน่ะค่ะ”
“......ชั้นว่าไม่เป็นแบบชั้นนั่นแหละดีแล้ว......”
“เอ๋ ว่าไงนะคะ ไม่ค่อยได้ยินเลย”
“เปล่า พึมพำน่ะ เอาล่ะถึงแล้ว” ผมหยุดเดินแล้วหันไปบอกกับ เมอร์ชี่ที่ตอนนี้กำลังวุ่นอยู่กับการหยิบเอาเศษใบไม้ออกจากตัว ผมช่วยปัดออกจนหมดก่อนจะเห็นเธอกระเถิบตัวออก
“...ผมน่ารังเกียจขนาดเลยนั้นเลยเหรอ”
“อ๊ะ เปล่านะคะ! แค่...ฉันแค่ไม่ชินกับผู้ชายน่ะค่ะ ก็เลย...”
“อายที่จะอยู่ใกล้ๆสินะ ฮะๆ เธอนี่ตลกจังแฮะ” ผมหัวเราะก่อนจะโดนสาวผู้ไม่ชินกับผู้ชายชกท้องเข้าให้
อ๊ะ เจ้ายูนิซัสกลับมาจากกินอาหารตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
(ตอนตั้งแคมป์ได้สั่งมันให้ไปหาอาหารกินรอก่อน)
“อุ้ย สวัสดีจ๊ะ ยูนิซัส...เธอ...เอ๋!? คุณคาเซ่เป็นเจ้านายของเธอเหรอ” เมอร์ชี่ทำสีหน้าตกใจ เอ่อ...นี่คุยกับม้ารู้เรื่องด้วยเรอะ
“ใช่ ผมเสก...เอ้ย! เจอมันเข้าน่ะ” เกือบกลับลำไม่ทันแล้วมั้ยล่ะ เกิดเมอร์ชี่รู้ว่าเราเสกม้าได้ล่ะก็ไม่ดีแน่
“โอ้...คุณโชคดีจังเลยนะคะ ม้าบินมีเขานี่เรียกว่าเป็นสัตว์เทพในตำนานเลยล่ะ ยากมากที่จะเจอและจะเป็นเจ้านายของเธอ” เมอร์ชี่บอกอย่างตื่นเต้นและหันลูบหัวยูนิซัสอย่างเอ็นดู
“อ่า ขอบคุณนะ จริงสิ... ผมว่าผมจะออฟไลน์แล้วคุณล่ะ” เธอลังเลเล็กน้อยก่อนบอกว่าจะอยู่ต่ออีกหน่อย ให้ผมออฟไลน์ไปก่อนได้เลย
“โอเค...ถ้าเธอจะออฟไลน์ก็ช่วยโปรยเจ้านี่รอบๆแคมป์หน่อยนะ ไว้ไล่ปีศาจ...เอ่อ หมายถึง พวกมอนส์เตอร์น่ะ” ผมหยิบถุงสมุนไพรโบราณที่เก็บมาได้ ยื่นให้เธอ
“ได้ค่ะ หืม หอมจังเลย มันคืออะไรคะ”
“ โค ล่าห์ ซีย์ โว ตา โนห์ (kólasi̱ vótano )”
“เอ๋ แปลว่าอะไรเหรอคะ” เมอร์ชี่ถาม เมื่อเธอได้ยินผมพูดภาษาที่ไม่คุ้นหู
“ภาษากรีกน่ะ ไปก่อนนะ” ผมตัดบทแล้วออฟไลน์ออกไป ไม่รู้ว่ายัยนั่นจะตื่นรึยังนะ เพราะถ้าตื่นแล้วคงต้องซวยแน่ๆ
.
.
.
.
.
กรุ้ง~ กริ้ง~ กรุ้ง~ กริ้ง~
ผมถอดเครื่องเล่นเกมออกก่อนไปปิดนาฬิกาปลุกตรงหัวเตียง เฮ้อ ต้องเริ่มทำงานแล้วสินะ ผมหยิบชุดเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ตั้งแค่เมื่อคืน แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
{ผ่านไป 20 นาที}
ผมเดินออกจากห้องน้ำก่อนมานั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง ภาพในกระจกคือหนุ่มหน้าหล่อ(เปล่าหลงตัวเองนะเออ เหอๆ)ที่เพิ่งซับผมหมาดๆ ใส่เสื้อเชิ้ดสีดำ กำลังจัดผมที่กระดกให้เข้าที่ ผมเปิดกล่องไม้สลักที่วางไว้ทางขวาของโต๊ะ ก่อนจะหยิบสร้อยคอที่อยู่ข้างในนั้นมาสวม มันเป็นสร้อยคอที่มีจี้เป็นลูกหินกลมๆห้อยอยู่หนึ่งลูก ผมหมุนมันหนึ่งรอบก่อนจะฌ๙้โผมให้แห้ง
---ก้อก--- ก้อก--- ก้อก---
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมเดินไปเปิดก่อนจะเห็นเด็กสาวอายุประมาณ 16 ปี ยืนก้มหน้าอยู่ ผมสีน้ำตาลเหลือบดำของเธอถูกมัดรวบเป็นหางม้า
“........วันนี้...ก็ฝากตัวด้วยนะคะ”
“อืม เช่นกันนะ” ผมยิ้มอ่อนโยน แล้วยีหัวเธอเบาๆ ก่อนจะบอกให้ไปเตรียมของซะ เธอรีบเดินลงบันไดไปทันที ส่วนผมก็หยิบชุดกาวน์จากราวแขวนเสื้อมาสวม พร้อมกับแว่นตาดำที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อ
“เริ่มงานกันเถอะ”
.....................................................................................
ฉันยืนลังเลอยู่นาน จนในที่สุดก็เคาะประตูไป 3 ครั้ง ไม่นานเขาก็เปิดประตู ดวงตาสีเลื่อมพรายที่แสนน่าหลงใหล มองมาที่ฉันนิ่ง ฉันก้มหน้าพูดเพื่อแอบความเขินอายเอาไว้
“........วันนี้...ก็ฝากตัวด้วยนะคะ”
“อืม เช่นกันนะ” เขายิ้มอ่อนโยน แล้วยีหัวฉันเบาๆ ก่อนจะบอกให้ฉันไปเตรียมของซะ ฉันรีบเดินลงบันไดไปทันที
เมื่อเขามาถึงชั้นล่างแล้ว ฉันก็ยกอาหารเช้าสไตล์ตะวันตกไปให้ที่โต๊ะประจำตัวของเขา แล้วเดินไปที่หน้าร้านก่อนจะพลิกป้ายสีเงินตรงที่ลูกปิดประตูกระจกใส
- คลินิค ‘Z’ OPEN –
เขาเป็นหมอฟันและเจ้าของคลินิคแห่งนี้ ลูกค้าทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาช่างรูปหล่อ และเป็นสุภาพบุรุษ พอประมาณเกือบเก้าโมงลูกค้าก็เริ่มเข้าร้าน ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำที่มักจะพาลูกๆ หลานๆ มารักษาฟันที่นี่
“ขอบพระคุณมากค่ะ โอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะ” ฉันยิ้มส่งลูกค้า ก่อนจะได้ยินพวกเขากระซิบกัน
- เขาหล่อมากเลยนะ ว่ามั้ย
- ช่าย...หล่อม๊ากมาก ช่างเป็นผู้ชายที่สมบูรญ์แบบจริงๆ
ใช่....เขาเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบจริงๆนั่นแหละ ทุกคนต่างรู้กันทั้งนั้น แต่...... มีเพียงสิ่งเดียวที่ใครๆก็ไม่รู้เกี่ยวกับเขา...........ยกเว้นฉัน
“วิชชี่ ขอกาแฟเพิ่มหน่อย”
“อ๊ะ! ได้ค่ะ” ฉันรีบไปเอากาแฟที่เติมเรียบร้อยแล้วให้เขาที่ห้องตรวจ เขาดื่มมันช้าๆ พลันรอยยิ้มที่มักจะกระชากใจสาวๆมาแล้วนักต่อนัก ก็ปรากฎตรงบนใบหน้า
“ค่อยยังชั่วหน่อย ขอบใจนะวิชชี่” เขาหันมาพูดกับฉัน ส่วนฉันก็ยิ้มกลับไปเล็กน้อย
สิ่งเดียวฉันเท่านั้นที่รู้และจะไม่มีวันบอกใคร
.....................................................................................
ผมดื่มกาแฟที่วิชชี่ยกมาให้อย่างอารมณ์ดี ก่อนหันไปมองนาฬิกาแขวน ก็พบว่าเย็นมากแล้ว ผมลุกขึ้นยืนเหยียดแขนขาให้หายเมื่อยแล้วเดินออกจากห้องตรวจมาข้างนอก
“อ้าว หิวแล้วเหรอคะ เดี๋ยวจะทำอาหารเย็นให้นะคะ” ผมกล่าวขอบคุณ ก่อนจะเหมือนนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องที่จะคุยกับเธอ
“จริงสิ เธอก็อยู่กับชั้นมาเกือบปี จะไปเยี่ยมพ่อแม่เธอหน่อยก็ได้นะ ชั้นไม่ว่า” เธอส่ายหัวช้าๆก่อนบอกว่ากลับไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาอยู่ดี ด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ผมพยักหน้าเงียบๆ เพราะรู้เหตุผลที่เธอเป็นแบบนั้น
วิชชี่เป็นญาติห่างๆของผม ซึ่งเจอกันในตรอกมืดตอนที่เธอแอบหนีออกจากบ้านมา แต่ก่อนพ่อแม่ของวิชชี่ทะเลาะกันหนักมาก(ตอนนี้ก็น่าจะยังเป็นอยู่) ผมจึงรับเธอมาดูแล โดยออกค่าเล่าเรียนให้ แลกกับที่เธอคอยช่วยงานที่คลินิค กับ ทำงานบ้านต่างๆแทน
ตอนนั้นเองที่ประตูกระจกถูกผลักออกอย่างแรง พร้อมกับร่างปริศนาที่ผมคุ้นเคย วิ่งเข้ามาเหมือนหมายจะกอดผม ซึ่งผมก็ตอบกลับไปด้วยการกระโดดถีบหนึ่งครั้ง จนเขากระเด็นไปพิงอยู่มุมห้อง
“โอ้ยๆๆๆ นี่เจ็บนะเว้ยเซ็ตต้า ทำไมถึงได้โหดแบบนี้นะ กะอีแค่ กอด......อั้ก!”
“ผมจะไม่โหดถ้าคุณทำตัวดีกว่านี้ ‘แฮร์ริส’ ”
“แหม...ถึงจะโหดก็ชอบอยู่ดีแหละนะ แอ้ก!”
“รีบกลับไปซะ ก่อนที่ผมจะเลาะฟันคุณออกหมด!”
“ว้ากกกก! ไปแล้วจ้าไปแล้ว อย่าถอนนะ” เขาเตรียมชิ่งหนี แต่ก่อนหน้านั้นเขาก็ยื่นช่อดอกไม้ช่อใหญ่ให้ผม
“ให้ทำไม...เดี๋ยวสิ!?” ผมกำลังจะถาม แต่เจ้าบ้านั่นกลับขับรถออกไปซะก่อน ผมสังเกตเห็นการ์ดที่ติดอยู่ตรงช่อดออกไม้จึงหยิบขึ้นมาอ่านก่อนจะหลุดขำ
"เริ่มแล้วสินะ"
[ END CH. 2]
ผมออกจากเมือง แล้มเดินทางไปตามแผนที่เพื่อที่จะไปเรียนเวมน้ำแข็ง ไหนดูซิ......ไปทางตะวันออกเฉียงใต้แล้วจะเจอเมือง โตรันต้า(Toranta) จากนั้นไปทางใต้ของเมือง ผ่านป่าวสันต์และเหมันต์ แล้วขึ้นไปบนภูเขาแห่งความสิ้นหวัง จะมีสถานที่นั้นอยู่บนยอดเขา
....โหดสลัดผัก!!!
“กี่ปีล่ะนั่นกว่าจะไปถึง” ผมบ่น ก่อนเก็บแผนที่เข้ากระเป๋าสะพายแล้วดึงหนังสือหนาๆสีขาวออกมา อ่านชื่อหนังสือในมือ
คู่มือการเป็นนักเวทเหมันต์...
...มิน่าล่ะ ถึงมีคู่มือสอน ที่ๆจะเรียนอยู่ไกลซะขนาดนั้นนี่นะ ผมเปิดหน้าแรกของคู่มือ เพื่อที่จะเรียนไประหว่างทาง
บทเรียนที่ 1 : เรียกน้ำแข็ง
‘จงทำจิตใจให้สงบ แล้วนึกถึงลมหนาวหรือทุกสิ่งที่เกี่ยวกับน้ำแข็ง จากนั้นให้พูดว่า “ออกมา” ’
ผมทำตามที่คู่มือบอก โดยหลับตาแล้วนึกถึง เกล็ดหิมะ และพูดคำว่า ออกมาเป็นลำดับสุดท้าย จู่ๆลมหนาวก็หมุนวนบนมือผม ไล่ไปตามนิ้วจนทำให้รู้สึกเย็นวูบวาบ
“พายุหิมะจิ๋วเนี่ยนะ...” แล้วแบบนี้จะเรียกให้หายไปยังไงล่ะนี่ ตอนนั้นเองหมาป่าตัวใหญ่สีดำก็โผล่มาจากด้านหลัง ผมกางมือออกโดยสัญชาตญาณ ก่อนจะรู้สึกว่าหมาป่าตัวเมื่อกี๊ไม่ได้ไล่กัดขม้ำผมแต่ดันถูกแช่อยู่ในก้องน้ำแข็งยักษ์
- ปุ้ง!-
- ผู้เล่น คาเซ่ อัพเลเวลเป็น 15 เรียบร้อย
- ผู้เล่น คาเซ่ เพิ่มสกิล แช่แข็ง เลเวล 1 เรียบร้อย
“เพิ่มสกิลง่ายไปมั้งครับ... คุณระบบเกม!”
บทเรียนที่ 2 : เสกสรรค์
‘ตั้งสติให้มั่นคง นึกถึงสิ่งที่อยากสร้างแล้วปล่อยน้ำแข็งออกมา’
ให้นึกถึงสิ่งที่อยากสร้างงั้นเหรอ แต่...มันคิดไม่ออกอ่ะ อะไรดีหว่า....ม้า! ม้า เอ้อ ม้าบินละกัน!
ซู่~
พายุลูกเล็กๆก่อตัวขึ้นที่พื้นก่อนจะขยายใหญ่ขึ้น แล้วม้วนตัวกันแน่นจนกลายเป็นก้อนหิมะรูปประหลาดและระเบิดออกเป็น ม้าบินสีขาว ที่มีเขาสีเงิน
- ปุ้ง!-
- ผู้เล่น คาเซ่ เพิ่มสกิล เสกสรรค์ เลเวล 1 เรียบร้อย
“.....................ม้าบินที่ไหนมีเขาฟะ นั่นมันยูนิคอร์นเฟ้ย!!!” ผมตะโกนเจ้าม้าประหลาดนั่นเดินเข้ามาหาแล้วถูหัวของผมไปมา ผมลูบแผงคอสีขาวของมันก่อนจะเห็นป้ายชื่อที่ติดตรงรอบคอ
“ยูนิซัส” โอ้ว...ชื่อเท่เป็นบ้า ม้าอะไรกันเนี่ย!?
“นี่ ยูนิซัสรู้มั้ยว่าตอนนี้ชั้นอยากทำอะไร” ผมแกล้งถามแกมขำๆ แต่เจ้าม้านั่นก็ดันดึงผมขึ้นมานั่งอยู่บนหลังของมันก่อนจะออกตัววิ่งออกไป
.
.
.
......ความรู้สึกของการขี่ม้าบินมันเป็นแบบนี้นี่เอง ลมเย็นปะทะเข้ามาที่หน้า เจ้าม้าร้องบอกเมื่อมาถึงสถานที่หนึ่งซึ่ง ก็....อืม เป็นไปตามที่อยากไปเป๊ะเละแฮะ
“เมือง โตรันต้า(Toranta) นี่นา นี่แกรู้ความคิดของชั้นจริงๆเหรอเนี่ย” ผมพูดขึ้นมาลอยๆ ก่อนจะตั้งแคมป์ตรงแนวชายป่าใกล้ๆทางเข้าเมือง เฮ้อ...กลายเป็นว่าเราแพ้เจ้าม้าบ้าแสนรู้นี่เหรอเนี่ย...อนาถชะมัด
ทันใดนั้นผมก็ได้เสียงร้องของผู้หญิงดังมาจากในป่า
“กรี้ดดดดดดดดดดดด!!!”
“อะไรน่ะ!?” ผมวิ่งเข้าไปในป่าเพื่อตามหาต้นเสียง จนมาเจอกับเของเสียงหวีดกรีดร้องลั่นป่า ซึ่งกำลังล้มก้นจ้ำเป้าหันหลังให้ผมอยู่
“ค...ใครก็ได้ช่วยด้วย มันจะฆ่าฉันแล้ว!!!” เธอร้องขอความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวัง เอ่อ...ใครก็ได้ที่ว่าอยู่ข้างหลังคุณอ่ะครับ...
โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!
“...คราวนี้อะไรอีกล่ะ” ผมเห็นเจ้าปีศาจสี่ขาหน้าตาสุดสยองกำลังคำรามอย่างบ้าคลั่งอยู่หน้าเธอ ดูๆไปน่าจะประมาณเลเวล สามสิบ สี่สิบ....จะจัดการได้มั้ยนะ...( หมายเหตุ ; ไม่มั่นใจในตัวเอง [เฮ้!] )
ผมหยิบดาบปลายคู่ออกมา ก่อนจะกระโดดเข้าไปฟันใส่เจ้าปีศาจ คมดาบที่ผมฝากรอยไว้ ปรากฎตามร่างกายของมันทุกที่ โอ้วววว พลังโจมตีสุดยอดจริงๆแฮะ
- ปุ้ง!-
- ผู้เล่น คาเซ่ เพิ่มสกิล ฟันต่อเนื่อง เลเวล 1 เรียบร้อย
“เอ้อ...ไอ้ระบบเกมนี่ก็เกรียนเกิ๊นนน มาบอกอะไรกันตอนนี้ฮึ!?” ผมเรียกพายุหิมะออกมาก่อนจะบังคับให้มันโจมตีไปที่ตัวปีศาจ
“ พา โกค์ เมย์ นัส (pago̱ménos) !!!”
พายุหิมะที่ผมปล่อยออกไปเมื่อกี๊จับตัวกันแน่นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ ขังเจ้าปีศาจไว้ข้างใน
“เอ็ก ซาห์ เลป ซีย์ ( exáleipsi̱ ) !!!”
ก้อนน้ำแข็งแตกกระจายเป็นเกล็ดหิมะมากมายลอยเต็มอากาศ ผมถูมือไปมาอย่างไม่รู้ตัวจนสังเกตเห็นเกล็ดน้ำแข็งเริ่มจับตัวอยู่ตามปลายนิ้ว
“นี่มันอะไรกัน...เหวออออออ!?” ผมโดนโจมตีจากด้านหลัง มารู้ตัวอีกทีคือ ผู้หญิงคนเมื่อกี๊ ได้เข้ามากระโดดกอดอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ แถมยังมาร้องให้น้ำตานองอยู่บนตัวตูอีกแน่ะ!
“ฮึก! ข...ขอบพระคุณมากๆเลยค่ะที่มาช่วย ไม่อย่างนั้นฉันต้องตายแน่ๆ!” ครับ...คุณรอดตาย แต่ตรูน่ะสิที่จะตายแทน เล่นมาทับตัวกันแบบนี้ได้หายใจไม่ออกกันพอดี!
“เอ่อ ครับ ดีใจที่เธอปรอดภัย ผมว่าผมต้องไปแล้วล่ะ(ไม่อย่างนั้นได้หายใจไม่ออกจนดับอนาถเป็นแน่แท้) ”ผมลุกขึ้นก่อนเดินกลับไปทางที่ตั้งแคมป์ แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับดึงเสื้อผมไว้
“ไม่นะ! ขอร้องเถอะ ให้ฉันได้ตอบแทนเถอะค่ะ ได้โปรด....” อึก...ไม่...ไม่นะ อย่ามาไม้นี้นะ ไอ้เรายิ่งแพ้น้ำตาสาวๆอยู่ ม่ายยยยย...ปล่อยผ้มมมมป๊ายยยยย.....
“แต่ผม...พ...เพิ่ง...เพิ่ง เอ่อ เพิ่งเริ่มเล่นเอง ใช่ เพราะงั้น...”
- ปุ้ง!-
- ผู้เล่น คาเซ่ อัพเลเวลเป็น 16…18…23 เรียบร้อย
“.........”
“ดิฉัน เลเวล 14 ......ฝากตัวด้วยนะคะ”
ตรู-เกลียด-แก-ไอ้-ระบบ-เกม-!!!
.....................................................................................
“แล้วคุณเป็น อัศวินหรือคะ”
“เปล่า...ผม...ผมเป็นนักเวท”
“.........แล้วทำไม...อ๋อ คุณเสกพายุออกมาได้นี่นา นักเวทจริงๆด้วย แต่แปลกจังนะคะ ทั้งๆที่คุณเป็นนักเวทแท้ๆกลับใช้ดาบได้”
“อ่า...นั่นน่ะสิ ว่าแต่เธอน่ะ ชื่ออะไรเหรอ”
“อ๋า จริงด้วย ลืมแนะนำตัวไปเลย ขอโทษด้วยนะคะ ดิฉัน ชื่อ เมอร์เชียร่าค่ะ จะเรียกว่าเมอร์ชี่ก็ได้”
“อ่อ...เมอร์ชี่สินะ ผมชื่อ คาเซ่.......แล้วทำไมเธอถึงอยากร่วมทางกับผมล่ะ ไม่เอาคำตอบที่ว่าผมช่วยชีวิตเธอนะ”
“เอ๋.....เอ่อ คือว่า ตอนแรกที่คุณสู้กับมอนส์เตอร์ตัวนั้น เอ่อ มันทำให้ฉันรู้สึก...ชื่นชม น่ะค่ะ แบบว่า โอ้โห เก่งจัง อยากเป็นนั้นบ้าง อะไรทำนองนั้นน่ะค่ะ”
“......ชั้นว่าไม่เป็นแบบชั้นนั่นแหละดีแล้ว......”
“เอ๋ ว่าไงนะคะ ไม่ค่อยได้ยินเลย”
“เปล่า พึมพำน่ะ เอาล่ะถึงแล้ว” ผมหยุดเดินแล้วหันไปบอกกับ เมอร์ชี่ที่ตอนนี้กำลังวุ่นอยู่กับการหยิบเอาเศษใบไม้ออกจากตัว ผมช่วยปัดออกจนหมดก่อนจะเห็นเธอกระเถิบตัวออก
“...ผมน่ารังเกียจขนาดเลยนั้นเลยเหรอ”
“อ๊ะ เปล่านะคะ! แค่...ฉันแค่ไม่ชินกับผู้ชายน่ะค่ะ ก็เลย...”
“อายที่จะอยู่ใกล้ๆสินะ ฮะๆ เธอนี่ตลกจังแฮะ” ผมหัวเราะก่อนจะโดนสาวผู้ไม่ชินกับผู้ชายชกท้องเข้าให้
อ๊ะ เจ้ายูนิซัสกลับมาจากกินอาหารตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
(ตอนตั้งแคมป์ได้สั่งมันให้ไปหาอาหารกินรอก่อน)
“อุ้ย สวัสดีจ๊ะ ยูนิซัส...เธอ...เอ๋!? คุณคาเซ่เป็นเจ้านายของเธอเหรอ” เมอร์ชี่ทำสีหน้าตกใจ เอ่อ...นี่คุยกับม้ารู้เรื่องด้วยเรอะ
“ใช่ ผมเสก...เอ้ย! เจอมันเข้าน่ะ” เกือบกลับลำไม่ทันแล้วมั้ยล่ะ เกิดเมอร์ชี่รู้ว่าเราเสกม้าได้ล่ะก็ไม่ดีแน่
“โอ้...คุณโชคดีจังเลยนะคะ ม้าบินมีเขานี่เรียกว่าเป็นสัตว์เทพในตำนานเลยล่ะ ยากมากที่จะเจอและจะเป็นเจ้านายของเธอ” เมอร์ชี่บอกอย่างตื่นเต้นและหันลูบหัวยูนิซัสอย่างเอ็นดู
“อ่า ขอบคุณนะ จริงสิ... ผมว่าผมจะออฟไลน์แล้วคุณล่ะ” เธอลังเลเล็กน้อยก่อนบอกว่าจะอยู่ต่ออีกหน่อย ให้ผมออฟไลน์ไปก่อนได้เลย
“โอเค...ถ้าเธอจะออฟไลน์ก็ช่วยโปรยเจ้านี่รอบๆแคมป์หน่อยนะ ไว้ไล่ปีศาจ...เอ่อ หมายถึง พวกมอนส์เตอร์น่ะ” ผมหยิบถุงสมุนไพรโบราณที่เก็บมาได้ ยื่นให้เธอ
“ได้ค่ะ หืม หอมจังเลย มันคืออะไรคะ”
“ โค ล่าห์ ซีย์ โว ตา โนห์ (kólasi̱ vótano )”
“เอ๋ แปลว่าอะไรเหรอคะ” เมอร์ชี่ถาม เมื่อเธอได้ยินผมพูดภาษาที่ไม่คุ้นหู
“ภาษากรีกน่ะ ไปก่อนนะ” ผมตัดบทแล้วออฟไลน์ออกไป ไม่รู้ว่ายัยนั่นจะตื่นรึยังนะ เพราะถ้าตื่นแล้วคงต้องซวยแน่ๆ
.
.
.
.
.
กรุ้ง~ กริ้ง~ กรุ้ง~ กริ้ง~
ผมถอดเครื่องเล่นเกมออกก่อนไปปิดนาฬิกาปลุกตรงหัวเตียง เฮ้อ ต้องเริ่มทำงานแล้วสินะ ผมหยิบชุดเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ตั้งแค่เมื่อคืน แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
{ผ่านไป 20 นาที}
ผมเดินออกจากห้องน้ำก่อนมานั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง ภาพในกระจกคือหนุ่มหน้าหล่อ(เปล่าหลงตัวเองนะเออ เหอๆ)ที่เพิ่งซับผมหมาดๆ ใส่เสื้อเชิ้ดสีดำ กำลังจัดผมที่กระดกให้เข้าที่ ผมเปิดกล่องไม้สลักที่วางไว้ทางขวาของโต๊ะ ก่อนจะหยิบสร้อยคอที่อยู่ข้างในนั้นมาสวม มันเป็นสร้อยคอที่มีจี้เป็นลูกหินกลมๆห้อยอยู่หนึ่งลูก ผมหมุนมันหนึ่งรอบก่อนจะฌ๙้โผมให้แห้ง
---ก้อก--- ก้อก--- ก้อก---
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมเดินไปเปิดก่อนจะเห็นเด็กสาวอายุประมาณ 16 ปี ยืนก้มหน้าอยู่ ผมสีน้ำตาลเหลือบดำของเธอถูกมัดรวบเป็นหางม้า
“........วันนี้...ก็ฝากตัวด้วยนะคะ”
“อืม เช่นกันนะ” ผมยิ้มอ่อนโยน แล้วยีหัวเธอเบาๆ ก่อนจะบอกให้ไปเตรียมของซะ เธอรีบเดินลงบันไดไปทันที ส่วนผมก็หยิบชุดกาวน์จากราวแขวนเสื้อมาสวม พร้อมกับแว่นตาดำที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อ
“เริ่มงานกันเถอะ”
.....................................................................................
ฉันยืนลังเลอยู่นาน จนในที่สุดก็เคาะประตูไป 3 ครั้ง ไม่นานเขาก็เปิดประตู ดวงตาสีเลื่อมพรายที่แสนน่าหลงใหล มองมาที่ฉันนิ่ง ฉันก้มหน้าพูดเพื่อแอบความเขินอายเอาไว้
“........วันนี้...ก็ฝากตัวด้วยนะคะ”
“อืม เช่นกันนะ” เขายิ้มอ่อนโยน แล้วยีหัวฉันเบาๆ ก่อนจะบอกให้ฉันไปเตรียมของซะ ฉันรีบเดินลงบันไดไปทันที
เมื่อเขามาถึงชั้นล่างแล้ว ฉันก็ยกอาหารเช้าสไตล์ตะวันตกไปให้ที่โต๊ะประจำตัวของเขา แล้วเดินไปที่หน้าร้านก่อนจะพลิกป้ายสีเงินตรงที่ลูกปิดประตูกระจกใส
- คลินิค ‘Z’ OPEN –
เขาเป็นหมอฟันและเจ้าของคลินิคแห่งนี้ ลูกค้าทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาช่างรูปหล่อ และเป็นสุภาพบุรุษ พอประมาณเกือบเก้าโมงลูกค้าก็เริ่มเข้าร้าน ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำที่มักจะพาลูกๆ หลานๆ มารักษาฟันที่นี่
“ขอบพระคุณมากค่ะ โอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะ” ฉันยิ้มส่งลูกค้า ก่อนจะได้ยินพวกเขากระซิบกัน
- เขาหล่อมากเลยนะ ว่ามั้ย
- ช่าย...หล่อม๊ากมาก ช่างเป็นผู้ชายที่สมบูรญ์แบบจริงๆ
ใช่....เขาเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบจริงๆนั่นแหละ ทุกคนต่างรู้กันทั้งนั้น แต่...... มีเพียงสิ่งเดียวที่ใครๆก็ไม่รู้เกี่ยวกับเขา...........ยกเว้นฉัน
“วิชชี่ ขอกาแฟเพิ่มหน่อย”
“อ๊ะ! ได้ค่ะ” ฉันรีบไปเอากาแฟที่เติมเรียบร้อยแล้วให้เขาที่ห้องตรวจ เขาดื่มมันช้าๆ พลันรอยยิ้มที่มักจะกระชากใจสาวๆมาแล้วนักต่อนัก ก็ปรากฎตรงบนใบหน้า
“ค่อยยังชั่วหน่อย ขอบใจนะวิชชี่” เขาหันมาพูดกับฉัน ส่วนฉันก็ยิ้มกลับไปเล็กน้อย
สิ่งเดียวฉันเท่านั้นที่รู้และจะไม่มีวันบอกใคร
.....................................................................................
ผมดื่มกาแฟที่วิชชี่ยกมาให้อย่างอารมณ์ดี ก่อนหันไปมองนาฬิกาแขวน ก็พบว่าเย็นมากแล้ว ผมลุกขึ้นยืนเหยียดแขนขาให้หายเมื่อยแล้วเดินออกจากห้องตรวจมาข้างนอก
“อ้าว หิวแล้วเหรอคะ เดี๋ยวจะทำอาหารเย็นให้นะคะ” ผมกล่าวขอบคุณ ก่อนจะเหมือนนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องที่จะคุยกับเธอ
“จริงสิ เธอก็อยู่กับชั้นมาเกือบปี จะไปเยี่ยมพ่อแม่เธอหน่อยก็ได้นะ ชั้นไม่ว่า” เธอส่ายหัวช้าๆก่อนบอกว่ากลับไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาอยู่ดี ด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ผมพยักหน้าเงียบๆ เพราะรู้เหตุผลที่เธอเป็นแบบนั้น
วิชชี่เป็นญาติห่างๆของผม ซึ่งเจอกันในตรอกมืดตอนที่เธอแอบหนีออกจากบ้านมา แต่ก่อนพ่อแม่ของวิชชี่ทะเลาะกันหนักมาก(ตอนนี้ก็น่าจะยังเป็นอยู่) ผมจึงรับเธอมาดูแล โดยออกค่าเล่าเรียนให้ แลกกับที่เธอคอยช่วยงานที่คลินิค กับ ทำงานบ้านต่างๆแทน
ตอนนั้นเองที่ประตูกระจกถูกผลักออกอย่างแรง พร้อมกับร่างปริศนาที่ผมคุ้นเคย วิ่งเข้ามาเหมือนหมายจะกอดผม ซึ่งผมก็ตอบกลับไปด้วยการกระโดดถีบหนึ่งครั้ง จนเขากระเด็นไปพิงอยู่มุมห้อง
“โอ้ยๆๆๆ นี่เจ็บนะเว้ยเซ็ตต้า ทำไมถึงได้โหดแบบนี้นะ กะอีแค่ กอด......อั้ก!”
“ผมจะไม่โหดถ้าคุณทำตัวดีกว่านี้ ‘แฮร์ริส’ ”
“แหม...ถึงจะโหดก็ชอบอยู่ดีแหละนะ แอ้ก!”
“รีบกลับไปซะ ก่อนที่ผมจะเลาะฟันคุณออกหมด!”
“ว้ากกกก! ไปแล้วจ้าไปแล้ว อย่าถอนนะ” เขาเตรียมชิ่งหนี แต่ก่อนหน้านั้นเขาก็ยื่นช่อดอกไม้ช่อใหญ่ให้ผม
“ให้ทำไม...เดี๋ยวสิ!?” ผมกำลังจะถาม แต่เจ้าบ้านั่นกลับขับรถออกไปซะก่อน ผมสังเกตเห็นการ์ดที่ติดอยู่ตรงช่อดออกไม้จึงหยิบขึ้นมาอ่านก่อนจะหลุดขำ
"เริ่มแล้วสินะ"
[ END CH. 2]
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ